LOGINอำเภอบ้านเกิดของกองพลเป็นอำเภอที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะอยู่ติดกันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ประชาชนจากทั้งสองฝั่งจะลักลอบข้ามแดนและไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ เพื่อบรรเทาปัญหานี้ จึงได้มีการผ่อนปรนให้ติดต่อค้าขายและข้ามแดนไปมาได้เฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์
เป้าหมายที่แดนดินมาก็เพื่อการนี้
ตอนนี้เขาและกองพลกำลังเดินอยู่ในตลาดการค้าริมชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ตลาดแห่งนี้มีความพิเศษกว่าที่อื่น เพราะนอกจากจะมีจำหน่ายอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ประจำวันแล้ว ที่นี่ยังเป็นตลาดค้าส่งหยกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง
แดนดินมองสำรวจไปรอบ ๆ ตลาดค้าหยกอย่างพินิจพิเคราะห์ หลังจากเดินมาได้สักระยะเขาก็เจอร้านที่ตั้งใจเอาไว้
แดนดินลากแขนเพื่อนให้เดินเข้าไปในร้านค้าหยกแห่งนี้ ตัวร้านค่อนข้างกว้าง มีตู้กระจกที่ใช้โชว์ก้อนหยกหลากสีและเครื่องประดับหยกหลากสไตล์ หลายราคาตั้งแต่หลักไม่ถึงสิบบาทไปจนถึงหลักหมื่นหลักแสนบาท แต่แดนดินไม่ได้สนใจหยกที่วางเรียงโชว์อยู่ในตู้ เขาเดินเข้าไปยังส่วนหลังของร้านซึ่งเป็นลานกว้างไม่มีหลังคา
กลางลานกว้างที่ตอนนี้มีก้อนหินสีน้ำตาล
“แล้วชอบให้พี่เพี้ยนแบบนี้ไหม” ชายหนุ่มถามกลับยิ้ม ๆ “อึดอัดใจสิไม่ว่า” เธอนำคำพูดของเขามาใช้ได้แบบไม่ผิดเพี้ยน“หรือเพราะแก้วไม่ได้รักพี่แล้ว” แม้จะมั่นใจในตัวเองมากพอสมควร แต่ก็อดใจแป้วไม่ได้“คราวก่อนแก้วคิดว่ามันเป็นแค่ความปลื้มและความชอบนะ ชอบแบบลูกหมาไง”ถ้าเขาไม่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้ามาก่อน คาดว่าจะใจเสียอยู่ไม่น้อยกับคำตอบของเธอ“นี่ก็ผ่านมานานแล้วนะนับจากวันนั้น ลูกหมานี่ยังไม่โตอีกเหรอ”หญิงสาวตวัดค้อน “แล้วไม่คิดว่าลูกหมาตัวนั้นมันจะตายไปแล้วบ้างเหรอคะ”“แล้วลูกหมาตัวนั้นตายไปแล้วจริงหรือเปล่า” ชายหนุ่มยังคงจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งปิ่นแก้วรีบหลบตาเพราะจนในคำตอบ“งั้นพี่ขอเดาแบบเข้าข้างตัวเองว่าลูกหมาตัวนั้นยังคงอยู่แต่อาจจะโตช้ากว่าปกติสักหน่อย” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ“แต่ไม่เป็นไร พี่รอให้ลูกหมาตัวนี้โตได้เสมอ นานเท่าชีวิตของพี่”“แล้วถ้าต่อไปลูกหมาตัวนั้นเกิดป่วยตายกะทันหันล่ะคะ”“เมื่อถึงตอนนั้นแก้วก็แค่บอกพี่มาตามตรง” ปากก็พูดไปอย่างนั้น แต่ในความเป็นจริงเขารู้ว่าเป็นไปไม่
ฟากปิ่นแก้วนั้น เมื่อเห็นแดนดินเดินจากไปไกลแล้ว เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนก่อนจะตรงดิ่งเข้าไปในพื้นที่ว่างเพื่อดูไข่ไก่ทั้งหมดที่มีจากจำนวนไข่ห้าหมื่นฟองตอนนี้เหลือประมาณแค่หมื่นนิด ๆ เพราะเธอได้นำไปใช้เพื่อทดลองสูตรขนมอยู่หลายรอบแล้ว แม้ไม่เต็มใจจะนำออกไปใช้ข้างนอกแต่ในยามจำเป็นแบบนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ เธอค่อย ๆ ลำเลียงนำไข่จำนวนห้าร้อยฟองซึ่งเพียงพอใช้ได้สองวันออกจากพื้นที่อย่างระมัดระวัง“แก้วได้ไข่มาไวจัง” แดนดินที่กลับมาในหนึ่งชั่วโมงให้หลังเอ่ยปากพูดยิ้ม ๆ“อาชาตรีค่อนข้างกว้างขวางน่ะค่ะ” หญิงสาวยิ้มแหยชายหนุ่มไม่ต่อปากต่อคำอีก เขารีบช่วยเธอลำเลียงไข่ใส่หลังรถกระบะเพื่อไปส่งที่ร้านหวานใจ ในยามนี้เรื่องนี้สำคัญที่สุด“พี่ดินแน่ใจเหรอคะ” และเมื่อกลับมาจากร้านขนม แดนดินก็ได้เล่าเรื่องที่รับรู้มาทั้งหมดให้ฟัง“พี่แน่ใจ คนที่พี่จ้างไว้เขาบอกอย่างละเอียด เพียงแต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวข้องกับที่พี่ให้สืบ เขาเลยไม่ได้รายงาน”“ทำไมเขาคิดกลั่นแกล้งกันแบบนี้ ถึงกับบังคับไม่ให้ร้านส่งไข่ให้ นี่เท่ากับต้องการตัดทางทำมา
“ดอกไม้ที่ปลูกทั้งหมดคือเอาไปทำชาได้หมดเลยใช่ไหม”“ครับ จะมีเก๊กฮวย คาโมไมล์ ลาเวนเดอร์ มะลิ คำฝอย ชบา อนาคตเห็นว่าจะปลูกกุหลาบเพิ่มด้วย”“แล้วที่ออกลูกเขียว ๆ แดง ๆ นั่น” ดำรงชี้ไปที่ต้นไม้อีกฝั่งหนึ่งของไร่“นั่นกาแฟครับ”ดำรงสูดหายใจเข้าลึก “ดินรู้ไหมว่าภายในเวลาไม่ถึงสามชั่วโมง ดินและปิ่นแก้วทำให้น้าทึ่งไปกี่เรื่อง”“แก้วเขาเก่งมากครับ” น้ำเสียงของชายหนุ่มมีแววหวาน “ผมนี่เทียบไม่ติด อย่างไม้ผลที่ปลูก แก้วเขาก็เป็นคนแนะนำเมล็ดพันธุ์ให้ทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ผลไม้ที่มีคุณภาพดีขนาดนี้”“ทำยังไงดี น้าสนใจอยากดูการเก็บและตากแห้งดอกไม้ในวันพรุ่งนี้ด้วย สงสัยต้องเช่ารถของโรงแรมให้ช่วยขับมาส่ง แต่ไม่รู้ปิ่นแก้วจะรังเกียจไหมที่น้าจะขอดูแบบนี้”“แก้วไม่ว่าหรอกครับ หรือว่าน้าจะนอนที่หมู่บ้านนี้เลย บ้านผมมีห้องว่างแต่ไม่สะดวกนักนะครับเพราะหมู่บ้านเรายังไม่มีไฟฟ้ากับน้ำประปาใช้”“ดินดูถูกน้าเกินไป ตอนเด็กน้าอยู่ในหมู่บ้านที่สภาพแย่กว่านี้อีกนะ น้าต่อสู้ล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่สิบขวบจนโชคดีมาสุขสบายสร้างหลักสร้างฐาน
“น้องชาย ผมขอถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่า”แดนดินหันไปมองชายวัยกลางคนที่แต่งกายภูมิฐานคนนี้อย่างแปลกใจ ในขณะที่มือยังคงสาวะวนหยิบผลไม้ใส่ถุงให้ลูกค้าไม่หยุดวันนี้แม้จะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันปราบเซียนสำหรับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแถวตลาดเนื่องจากมีคนออกมาจับจ่ายซื้อของกันน้อย แต่สถานการณ์แผงขายผลไม้ของชายหนุ่มกลับแตกต่างออกไปทันทีที่ขับรถมาเลียบจอดข้างทางเท้า ฝูงชนที่กำลังยืนรออยู่ต่างเข้ามารุมล้อมและปากก็สั่งจำนวนผลไม้ที่ต้องการราวกับว่าเป็นผลไม้แจกฟรีเสียอย่างนั้นและเสียงเซ็งแซ่เหล่านี้ได้สร้างความสนใจใคร่รู้ให้กับชายที่กำลังนั่งกินโจ๊กอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ดำรงนั่งมองเหตุการณ์อยู่ครู่ใหญ่และอดไม่ได้ที่จะเดินข้ามถนนเพื่อมาดูใกล้ ๆ เมื่อได้เห็นเขาถึงกับอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงเปล่าหรอก เขาไม่ได้ตกตะลึงกับจำนวนคนที่รุมล้อมพ่อค้าแม่ค้าหนุ่มสาวทั้งสองคนนั้น เขาตะลึงเพราะเห็นผลไม้หลากชนิดที่ทั้งคู่กำลังหยิบใส่ถุงต่างหากเขาสาบานได้เลยว่าไม่เคยเห็นผลไม้ที่ทั้งดูสดและน่ากินแบบนี้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่เขามาจากเมืองหลวง เม
การดูโทรทัศน์แบบไม่ใช้ไฟฟ้านี้มีวิธีง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนอะไร เพียงแค่เชื่อมต่อปลั๊กของโทรทัศน์กับสายพ่วงแบตเตอรี่ที่ปลายสายอีกด้านเป็นคีมใหญ่ ๆ เข้าไว้ด้วยกัน หากต้องการดูโทรทัศน์เมื่อใดก็เพียงแค่นำคีมไปหนีบไว้ที่ขั้วทั้งสองของแบตเตอรี่ เท่านี้ก็สามารถเปิดโทรทัศน์ดูได้แล้ว“แล้วจะรู้ได้ยังไงคะว่าแบตฯ ใกล้จะหมด” ปิ่นแก้วกระซิบถาม“ถ้าแบตฯ อ่อนหรือใกล้หมด ภาพตรงหน้าจอโทรทัศน์จากที่เต็มจอก็จะค่อย ๆ ย่อเล็กลงเรื่อย ๆ บางทีภาพก็เลือนหายไม่คมชัดเหมือนเดิมอย่างนี้นี่เองเธอมองไปที่โทรทัศน์ขาวดำขนาดสิบสี่นิ้วรูปร่างเทอะทะที่ตั้งอยู่ไกล ๆ พร้อมกับเหลือบแลมองบรรดาชาวบ้านที่พากันจ้องเขม็งไปที่จออย่างสนอกสนใจ มีเสียงหัวเราะและเสียงเฮดังออกมาเป็นระยะระหว่างกำลังนั่งดูอยู่ ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาในโทรทัศน์ตอนนี้เป็นแค่เกมโชว์ธรรมดารายการหนึ่ง แต่ชาวบ้านกลับดูกันอย่างสนุกสนาน แม้แต่ช่วงพักโฆษณาก็ไม่มีใครยอมละสายตาไปจากจอคล้ายกำลังดูเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งอยู่เมื่อได้เห็นแบบนี้เธอก็ได้แต่ทอดถอนใจเมื่อนึกถึงผู้คนในยุคอนาคตที่มีโอกาสได้พบเจอเรื่องส
“ที่แท้ก็ชอบแบบนี้ งานสบายในห้องแอร์ไม่สนใจ ชอบที่จะมานั่งอาบเหงื่อและคลุกฝุ่นแบบนี้นี่เอง คนเขาถึงว่าสันดานมันขุดไม่ได้” แพรวพรรณเอ่ยเสียงหยันมาแต่ไกลแดนดินและปิ่นแก้วต่างหันหน้ามามองกันพร้อมกันถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย“ผู้ชายคนนี้เหรอยายพรรณที่หักอกแก” ผู้ชายที่มาด้วยพูดด้วยน้ำเสียงยียวนไม่แพ้กัน“เอ๊ะ! พี่พจน์ มันหักอกฉันที่ไหนกัน เป็นฉันต่างหากที่ไม่ยอมคบเพราะนิสัยไม่รักความก้าวหน้าของมันต่างหาก” แพรวพรรณตวาดแหวใส่พี่ชายอย่างหงุดหงิดในใจ“ผมยังขายของอยู่ หากคุณไม่คิดจะซื้อก็ไปซะ” แดนดินไล่อย่างไม่ไว้หน้า“โธ่เอ๊ย แค่ผลไม้ถูก ๆ กลับทำน้ำเสียงเหมือนขายของแพงเป็นหมื่นเป็นล้าน โอ๊ะ! แต่อย่างว่าแหละนะ ฐานะอย่างนายเงินแค่บาทเดียวมันก็มีค่าเหมือนเงินล้านอยู่แล้วนี่”“เรียนจบสูงเสียเปล่าแต่กลับไม่มีหัวคิด ชอบทำแต่งานต่ำ ๆ งานน่าละอายแบบนี้”ปิ่นแก้วเลือดขึ้นหน้าแล้วในตอนนี้ หญิงสาวเดินตรงไปยังที่แพรวพรรณยืนอยู่ก่อนยกนิ้วชี้หน้า “คนจิตใจสกปรก! ไม่รู้ที่บ้านสั่งสอนกันมายังไงถึงได้เป็นคนเที่ยวดูถูก เที่ยวเหยียดหยามอ







