Share

7. คู่อริ

last update Last Updated: 2025-08-24 12:00:30

“เสียดายไหมที่ยังไม่ตาย”

“น่าจะเสียดายอยู่หรอกรี อับอายขายขี้หน้าคนเปล่า ๆ”

 เสียงแหลมปรี๊ดของหญิงสาวสองคนลอยมาเข้าหูพิริยาระหว่างกำลังเดินออกมาจากบ้านของลุงคำปัน เธอเหลียวหลังมองที่มาของเสียงก็พบกับหญิงสาววัยรุ่นอายุใกล้เคียงกับเธอสองคนที่กำลังพูดลอยหน้าลอยตาและส่งสายตาหยันมาให้

อ๋อ..คู่อริของเจ้าของเดิม พิริยาทบทวนความทรงจำอยู่ครู่ก็นึกออก ผู้หญิงทั้งสองคนนี้จะชื่อชบาและนารี อายุสิบหกปีเท่ากับปิ่นแก้ว

นารีเป็นน้องสาวของมานะ เมื่อทราบว่าพี่ชายคบหากับปิ่นแก้วที่มีฐานะยากจน นารีจึงรู้สึกไม่พอใจเช่นเดียวกับพ่อและแม่ของเธอ หากได้เจอปิ่นแก้วยามใดไม่พ้นจะพ่นคำดูถูกเย้ยหยันอยู่ตลอดเวลา เจ้าของร่างเดิมเป็นคนหัวอ่อนและนิสัยขี้อาย จึงได้แต่ยอมก้มหัวให้นารีอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้มีปัญหากระทบกระทั่งกัน

ส่วนชบานั้นเป็นลูกไล่ของนารีมาตั้งแต่เด็ก เพราะครอบครัวของนารีมีฐานะดี ชบาจึงมีนิสัยชอบประจบเอาใจ เมื่อเห็นนารีไม่ชอบปิ่นแก้ว ชบาก็พร้อมที่จะไม่ชอบด้วย

“หรืออาจจะไม่เสียดายก็ได้นะ ถ้าตายไวก็อดอ้อนพี่ดินเลยน่ะสิ” น้ำเสียงของนารีมีความกรุ่นโกรธและหึงหวงผสมกันอยู่

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ดินออกจะฉลาด รับรองไม่ตกหลุมนังตัวซวยนี่หรอก”

พิริยามองตรงไปทั้งคู่อย่างเบื่อหน่าย ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงด้วยเพราะมีเรื่องให้ต้องคิดอยู่เต็มหัว เธอจึงเพียงแค่ส่งสายตาหยันมองกลับไปให้ทั้งคู่ ก่อนที่จะหมุนตัวเดินตรงไปที่บ้านของตัวเอง

“ทำไม รับความจริงในความเป็นตัวซวยไม่ได้เหรอ”

พิริยาไม่สนใจฟัง

“นี่ รู้รึเปล่า วันนี้พี่มานะพาพี่โสภา พี่สะใภ้ในอนาคตของฉันมาเที่ยวบ้านด้วยนะ หล่อนสนใจไปดูไหมว่าพี่โสภาของฉันสวยแค่ไหน”

พิริยายังคงเดินเฉยแบบไม่สะดุ้งสะเทือน

เมื่อเห็นอาการเมินเฉยของปิ่นแก้ว นารีก็ยิ่งหงุดหงิด เธอคือลูกสาวคนเล็กของบ้านที่พ่อและแม่ต่างเฝ้าคอยเอาอกเอาใจเสมอมา เธอไม่คุ้นชินกับการถูกละเลยเหมือนไม่ได้รับความสำคัญแบบนี้

“นี่! หยุดนะนังแก้ว” นารีเดินเข้ามากระชากแขนเพื่อหวังให้นางสาวปิ่นแก้วให้หันมาสนใจ

พิริยาใช้สายตาเหยียดมองพร้อมกับเบะปากเบา ๆ “มานี่” ก่อนจับมือนารีและลากให้ไปที่บ่อน้ำซึ่งตั้งอยู่ในบ้านด้วยกัน

“ก..แกจะทำอะไรฉัน” นารีมองบ่อน้ำที่มีความลึกหลายเมตรด้วยความหวาดกลัว “ห..หากแกทำร้ายฉัน พ่อกับแม่ไม่เอาแกไว้แน่”

“คิดไปถึงไหนเนี่ย” พิริยาหัวเราะเสียงดัง ก่อนหยิบน้ำถุ้ง อุปกรณ์ตักน้ำที่ผูกเชือกยาวหลายเมตรโยนลงไปในบ่อ รอจนน้ำเข้ามาเต็มเธอก็รีบสาวเชือกขึ้นมา หลังจากนั้นก็ยื่นน้ำถุ้งที่มีน้ำบ่อใส ๆ จุอยู่เต็มให้นารี

“อะ...ดื่มน้ำก่อน พูดมากเกินไปคอจะอักเสบได้ ขนาดสุนัขที่คนชอบคิดว่าสมองน้อย เวลามันเห่ามาก ๆ มันยังรีบวิ่งไปหาน้ำดื่มเลย” เมื่อเห็นนารียื่นมารับอย่างงุนงง พิริยาอมยิ้มและหมุนตัวเตรียมเดินขึ้นบ้านไป

“กรี๊ดดด...นังแก้ว น..นี่แกด่าว่าฉันโง่ยิ่งกว่าหมาเหรอ” เมื่อหายจากอาการมึนงง นารีก็กรี๊ดออกมาเสียงดังด้วยท่าทางไม่พอใจ

“มีอะไรกัน” แดนดินเอ่ยถามเสียงห้วนมาจากด้านหลัง ทั้งพิริยาและนารีต่างหันมามองไปที่เขา โดยเฉพาะนารี เมื่อเห็นชายที่หมายปอง เธอก็รีบปรับสีหน้าและท่าทางให้สงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ไม่มีอะไรค่ะพี่ดิน แค่มีเรื่องมาถามแก้วนิดหน่อย”

พิริยากอดอกยิ้มขันแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ด้วยไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดให้เสียเวลาชีวิตของตัวเองมากไปกว่านี้

“แก้ว นี่ปลาดุกนา รับเอาไว้สิเผื่อเป็นอาหารเที่ยงนี้” แดนดินไม่ให้ความสนใจชบาและนารีเช่นเดียวกัน เขาหันไปพูดธุระที่ได้รับมอบหมายจากแม่กับปิ่นแก้วแทน

“ดีเลยค่ะ พี่ดิน แก้วกำลังอยากกินปลาดุกปิ้งพอดี แต่พี่ดินช่วยแก้วจุดเตาถ่านได้ไหมคะ แก้วจุดไม่เก่ง” พิริยาเอ่ยเสียงอ้อนนิด ๆ พร้อมกับแสดงท่าทีสนิทสนมกับแดนดินมากกว่าปกติ ในขณะเดียวกันก็แอบส่งสายตาเยาะเย้ยไปให้นารีเบา ๆ  เพราะเธอจับสังเกตได้ว่านารีให้ความสนใจในตัวของแดนดินอยู่ไม่น้อย

“ไปเถอะค่ะ กว่าจะสุกก็ทันมื้อเที่ยงพอดี เดี๋ยวแก้วจะแบ่งไปให้ที่บ้านพี่กินด้วย”

“อ้อ..เสร็จธุระของพวกเธอแล้วใช่ไหม ฉันมีเรื่องต้องทำกับพี่ดินอีกเยอะ” พิริยาหันไปถามพร้อมกับยิ้มเยาะสองสาวอยู่ในที

นารียืนตัวสั่นพร้อมกับเขม้นตามองปิ่นแก้วด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด แต่ก็ไม่กล้ากรีดร้องออกมาเสียงดังเพราะมีแดนดินอยู่ด้วย หญิงสาวสะพัดหน้าพรืดพร้อมกับลากชบาเดินออกไปจากบริเวณบ้านของปิ่นแก้วอย่างรวดเร็ว

พิริยาที่เห็นอาการโมโหจนตัวสั่น บวกกับใบหน้าที่คล้ายกำลังอมมะระของนารีจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง โดยมีแดนดินขมวดคิ้วมองอยู่ด้านข้าง

“สองคนนั้นมาหาเรื่องอะไร”

“อ้าว..พี่ก็รู้เหรอ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตามที่คาดไว้นั่นแหละ ทั้งเรื่องแขวนคอตายกับเรื่องนายมานะอะไรนั่น”

เมื่อเห็นท่าทีการพูดอย่างสบายอกสบายสบายใจของเธอ แดนดินถึงกับเหลือบมองด้วยความฉงน

ปิ่นแก้วดูแตกต่างไปจากเมื่อหลายวันก่อนอย่างเห็นได้ชัด จากคนที่อ่อนแอ อ่อนไหวไปหมดทุกเรื่องโดยเฉพาะเมื่อเจอกับคำพูดติฉินนินทาของคน ปิ่นแก้วก็พร้อมจะนั่งน้ำตาซึมอยู่เป็นวัน ๆ ได้เลยเหมือนกัน

แต่ดูตอนนี้สิ เธอกลับกลายเป็นคนที่ไม่ยี่หระคำพูดว่าร้ายของคนอื่น

แล้วเรื่องของมานะคนรักเก่าของปิ่นแก้วนั่นอีก สาเหตุสำคัญที่ทำให้ปิ่นแก้วแขวนคอตายก็คือเรื่องเขาไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้ทำเหมือนกับกำลังพูดถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลย

“พี่ดินมองแบบนี้หมายความว่ายังไง”

“แค่แปลกใจน่ะ เพราะแก้วดูไม่เหมือนคนเดิมที่พี่เคยรู้จัก” แดนดินบอกตามตรง

“แล้วมันดีหรือไม่ดีล่ะ”

“ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี แต่พี่ชอบแก้วที่เป็นแบบนี้นะ ดูเข้มแข็ง สู้คน และปล่อยวาง ทำให้พี่รู้สึกสบายใจว่าแก้วจะสามารถใช้ชีวิตที่ดี ๆ ได้ต่อไป”

“ขอบคุณค่ะ อ้อ..พี่ดินไม่ต้องไปช่วยแก้วจุดเตาหรอก เดี๋ยวแก้วทำเอง”

“อ้าว ไหนบอกทำไม่เป็น”

“ฮ่าฮ่า..แก้วแกล้งนารีเล่นน่ะ พี่ไม่รู้เหรอว่าเธอปลื้มพี่อยู่”

แดนดินอดหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“เอ..หรือว่าจริง ๆ แล้วพี่ก็ชอบนารีด้วย” พิริยาเห็นท่าทีแบบนั้นก็เอ่ยปากล้อเลียนต่อ

“เฮ้ย..บ้า พี่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว”

“เพื่อนที่เรียนด้วยกันเหรอคะ” เธอเลิกคิ้วสูงด้วยความอยากรู้

“อืม..” แดนดินยกมือเกาท้ายทอยอย่างขัดเขิน

หญิงสาวอดหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางอายเหมือนเด็กของแดนดิน ผู้ชายที่ตามปกติดูเงียบขรึมเป็นผู้ใหญ่เกินอายุแบบเขา เวลาทำท่าทีแบบนี้มันดูทั้งตลกผสมกับความน่ารักอย่างบอกไม่ถูก

“แก้วยินดีกับพี่ด้วยนะคะ” ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากอย่างจริงใจ

“ขอบใจนะ พี่กลับบ้านก่อนล่ะ อ้อ..พี่จะอยู่บ้านอีกแค่อาทิตย์เดียวนะ อยากให้พี่ช่วยงานอะไร โดยเฉพาะงานใช้แรงหนัก ๆ ให้ไปบอกก่อนพี่กลับไปเรียนล่ะ พี่จะได้รีบมาทำให้”

พิริยากล่าวขอบคุณชายหนุ่มและหันมามองปลาดุกเจ้าปัญหาในมือ เธอยังไม่คิดจะทำอะไรกับมันในตอนนี้ คงต้องเอาไปเก็บไว้ในพื้นที่เพื่อไม่ให้เหม็นเน่าก่อนจะนำมาทำอาหารครั้งต่อไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   104. เข้าไปยุ่งอีกจนได้

    ยุพินและมานพกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างชอบใจเมื่อเห็นเงินห้าหมื่นบาทในมือ ไม่นึกเลยว่าแค่รอบแรกก็ได้มากถึงเพียงนี้ แล้วรอบต่อไปนั้นเป็นกาแฟซึ่งร่ำลือกันว่ารายได้ดีกว่าดอกไม้แห้ง คงได้จับเงินแสนกันก็คราวนี้“แม่ยุพินที่หลักแหลมจริง ๆ” มานพเอ่ยชมภรรยาไม่หยุด“เอาเชียว ที่แรกทำท่าเหมือนไม่เต็มใจ”“ฉันขอโทษ ต่อไปไม่ค้านแล้ว ไม่คิดเลยว่ารายได้จะมากขนาดนี้ แล้วรวมทั้งปีที่เจ้าดินได้มันไม่เหยียบล้านไปแล้วเหรอ”“ก็คงประมาณนั้นแหละพี่ คราวหน้าฉันว่าจะไม่ขายอย่างเดียวแล้ว ฉันจะเอาเมล็ดพันธุ์มาปลูกเองด้วย นี่ก็ไปมอง ๆ ที่เปล่าในหมู่บ้านของพ่อฉันเอาไว้แล้ว ฉันตั้งใจจะเอาไปปลูกตรงโน้น จะได้ไกลหูไกลตาไอ้ดินมันหน่อย”“ดี อีกหน่อยบ้านเราก็จะมีเงินมากมายเหมือนกับมันแล้ว”“ว่าแต่เราเอาเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้ที่ยืมมาก่อนเถอะ ที่เหลือก็พอส่งให้นารีได้อีกสามสี่เดือน รอขายงวดหน้าเราก็สบายกันแล้ว”“เจ้านะตั้งแต่ย้ายไปทำงานในเมืองนี่หายเงียบไม่ยอมกลับมาบ้านเลย” มานพเอ่ยด้วยสุ้มเสียงไม่พอใจ“ลูกสอนพิเศษหลายที่ กำลังช่วยกันเก็บเงินซื้อที่ดินเพื่

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   103. คนโกง

    “นี่บ้านเก่า ๆ โทรม ๆ ที่เธอเคยเล่าจริง ๆ เหรอ” นิสารัตน์หันมาถาม“เมื่อก่อนเคยเก่าและโทรมมาก” ปิ่นแก้วยืนยัน “เพิ่งได้ปรับปรุงใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง”“ไม่พ้นพี่ดินอีกแล้วแน่เลย” อรรณพหรี่ตามองอย่างรู้ทัน ขณะที่แดนดินยืนยิ้มกว้างอยู่ข้าง ๆ“เฮ้อ..พี่ดินไม่ควรมีคนเดียวในโลก” อรรณพยังคงรำพึงรำพันต่อไปคราวนี้พาเอาทุกคนหัวเราะครืนด้วยความชอบใจเพื่อไม่ให้เสียเวลา หลังจากจัดเก็บข้าวของกันแล้วปิ่นแก้วจึงพาทุกคนไปที่สวนผลไม้ของแดนดินที่ตอนนี้ทุเรียนและมังคุดออกลูกแก่จัดรอเก็บเกี่ยวในอีกสองสามวันข้างหน้านี้แล้ว“พวกเรากินได้จริง ๆ หรือคะพี่ดิน” มาลินีหันมาถามชายหนุ่มอีกทีเพื่อความแน่ใจ“กินได้เลย ไม่ใช่แค่ทุเรียนและมังคุดนะ สตรอว์เบอร์รีและเชอร์รีที่ปลูกในสวนข้าง ๆ ก็เข้าไปเด็ดกินได้เหมือนกัน ห้ามเกรงใจพี่เด็ดขาด คิดเสียว่าเป็นสวนบ้านตัวเอง” แดนดินอนุญาตอย่างใจดี“หน้าร้อนแบบนี้สตรอว์เบอร์รีและเชอร์รียังออกผลได้อีกเหรอคะ” นิสารัตน์อดทึ่งไม่ได้“เมล็ดพันธุ์ของเราค่อนข้างพิเศษน่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหันมา

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   102. เป็นที่รู้จัก

    แดนดินขมวดคิ้วเมื่อเห็นปริมาณดอกไม้แห้งที่เก็บเกี่ยวได้จากไร่ของผาด หนึ่งในคนที่เซ็นสัญญาปลูกดอกไม้และกาแฟเมื่อคราวก่อน“ที่ดินตั้งสิบไร่ ทำไมได้ดอกไม้แห้งพอ ๆ กับไร่น้าทาที่มีเพียงห้าไร่”“ม..แหม ความชำนาญมันต่างกันนะดิน น้าทานั่นชาวไร่ดีเด่นประจำหมู่บ้าน แกมีฝีมือในการดูแลต้นไม้อยู่แล้ว ปลูกดอกไม้ได้เยอะก็ไม่แปลก ไอ้ฉันมันมือใหม่ ถึงพื้นที่จะเยอะกว่าแต่ดันไม่มีฝีมืออย่างใครเขา เลยได้มาเท่านี้” ผาดละล่ำละลักอธิบายแดนดินกวาดตามองไปทั่วไร่อย่างสงสัย ในใจไม่คิดเชื่อคำพูดของผาดแม้แต่น้อย เขารู้ดีถึงคุณภาพของเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ ขนาดคนที่ปลูกอะไรไม่เป็นเลยอย่างปิ่นแก้วยังสามารถปลูกจนออกดอกออกผลได้งดงาม แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ทำไร่ทำนาอยู่ทุกวันแบบนี้ล่ะถึงจะไม่เชื่อแต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกมาเรื่องนี้ผิดปกติเกินกว่าจะละเลยได้ เมื่อกลับถึงบ้านเขาเล่าความผิดปกตินี้ให้กับทั้งคำปันและวงเดือนได้รับทราบ ผู้สูงอายุทั้งสองคนต่างมีสีหน้าเครียดลงถนัดตา“ดินคิดว่ามีเรื่องคดโกงเกิดขึ้นแน่ใช่ไหม” คำปันถามเสียงเครียด

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   101. ห้ามดูถูกตัวเอง

    “จินตนานั่งรถประจำทางไปหาน้าที่ต่างอำเภอ แล้วรถเกิดคว่ำทับจินตนาจนแขนขาด”ปิ่นแก้วใจหายวาบเมื่อได้ยิน นึกถึงใบหน้าที่ยิ้มแย้มและบุคลิกที่ไม่คิดอะไรมากของจินตนา ปิ่นแก้วก็ยิ่งใจหาย ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทสนมกันนักแต่ก็มีโอกาสได้ทำงานด้วยกันหลายครั้ง จินตนานับว่าเป็นคนที่ทำงานด้วยง่ายคนหนึ่งแล้วคนที่เคยมีครบทั้งสามสิบสอง จู่ ๆ กลายเป็นคนพิการแบบนี้ ที่สำคัญยังอายุน้อยแค่นี้ จินตนาจะทำใจได้อย่างไรปิ่นแก้วเหลียวมองไปรอบห้อง “แล้วนิสารัตน์?”“เฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน คอยอยู่เป็นเพื่อนรอพ่อกับแม่จินตนาที่กำลังนั่งรถมาหา”“แก้วใจไม่ดีเลย สงสารจินตนา แล้วนี่เราจะไปเยี่ยมกันดีไหม”คราวนี้มาลินีเป็นฝ่ายเล่า “ฉันกับอันนาไปเมื่อเย็นวานแต่ไม่ได้เจอ นิสารัตน์ให้กลับมาก่อนเพราะสภาพจิตใจของจินตนายังไม่สู้ดีนัก ให้รอพ่อกับแม่เค้ามาก่อนสักสองสามวัน ให้สงบลงอีกนิดแล้วค่อยไปเยี่ยมกันตอนนั้น”-----“อย่าตัดอนาคตตัวเองแบบนี้สิจิน”“นั่นสิลูก แค่เสียแขนซ้ายไปเอง แขนขวาก็ยัง

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   100. สัมภาษณ์

    ถ้าพวกเขาได้มีโอกาสมาเห็นปิ่นแก้วในตอนนี้รับรองเลยว่าคงพูดไม่ออกเลยสักคนเดียว ปิ่นแก้วที่นวดแป้ง ปั่นส่วนผสมของขนมอย่างคล่องแคล่ว ปิ่นแก้วที่สามารถสั่งการได้อย่างเฉียบขาดและทุกคนที่อยู่รายรอบพร้อมจะทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่มีข้อแม้ เพราะปิ่นแก้วคนนี้คือเจ้าของร้านขนมรสชาติอร่อยที่สร้างความประทับใจให้กับประธานหอการค้าของจังหวัด m จนได้มาทำขนมจัดเลี้ยงผู้เข้าร่วมสัมมนากว่าสามร้อยคนในครั้งนี้“พวกเธอรู้ไหม รายได้ต่อวันของร้านแก้วสามารถจ่ายค่าเทอมทั้งปีได้อย่างสบาย” อรรณพเล่าด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มคล้ายกับว่าทั้งสองร้านนี้เป็นของเขาก็ไม่ปาน“ทำไมปิ่นแก้วถึงไม่คิดพูดแก้ต่างเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ ในคณะล่ะ ปล่อยให้พวกเรามองเขาเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ตั้งนาน” จินตนาบ่นงึมงำ“เค้ามองว่าเสียเวลาไง ถ้าเค้าพูดแก้ต่างพวกเธอคิดว่าจะมีใครยอมเชื่อไหม คนเราลองมีอคติต่อกันแล้ว ถึงจะแก้ตัวหรือทำดีให้ตายยังไงก็ไม่มีใครเปลี่ยนมุมมองหรอก พวกเขาเลือกที่จะเชื่อมุมที่พวกเขาคิดเสมอ สู้เอาเวลาที่เสียไปตรงนี้มาหาความสุขให้ตัวเองและมาใส่ใจคนที่รักและเข้าใจตัวเองดีกว่

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   99. ปิดกิจการ

    “ก็ไปพูดไม่ไว้หน้าเขาแบบนั้น ใครเขาจะไปทนไหว มานี่ฉันช่วยเอง” นิสารัตน์นั่งลงยอง ๆ อยู่ด้านข้างและคว้ากรรไกรมาช่วยตัด ขณะที่จินตนาลูกคู่ของเธอก็มานั่งช่วยพับกระดาษเป็นรูปดอกไม้ให้ด้วย“ขอบใจนะ” ปิ่นแก้วหันไปยิ้มให้“ไม่เป็นไร งานจะได้เสร็จไว ๆ”นิสารัตน์เงยหน้ามองปิ่นแก้วก่อนพูดออกมา “อันที่จริงการุณเขาก็พูดถูกนะ คนที่มีแววอนาคตจะสดใสแบบเธอน่าจะหันกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแบบเพื่อน ๆ ได้แล้ว”หลังจากเหตุการณ์เย็นวันนั้น บรรดานักศึกษาและผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างเอาเรื่องนี้ไปพูดคุยกันอย่างสนุกปาก การุณรู้สึกอับอายอย่างที่สุด และมักจะทำหน้าบูดบึ้ง ส่งตาขวางให้ทุกครั้งที่เห็นปิ่นแก้ว ซึ่งปิ่นแก้วทำเพียงแค่ยักไหล่และใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองไปวัน ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและใบหน้าการุณยิ่งบูดบึ้งมากขึ้นเมื่อได้ยินข่าวว่าปิ่นแก้วย้ายออกจากหอในไปอยู่กับผู้ชาย และยิ่งใบหน้าการุณบูดบึ้งเท่าไหร่ ใบหน้าของสกุณาก็ยิ่งสดชื่นมากขึ้นเท่านั้น-----“แก้ว ร้าน Best Bake ปิดกิจการไปแล้วนะ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status