Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-04-03 18:30:12

ซูเจินจูออกจากบ้านตระกูลซูมาพร้อมสี่เสวี่ยตรงเข้าไปที่ “ร้านผ้าซูเตี้ยน”

“คุณหนูสี่มาแล้ว” หลงจู๊ออกมาตอนรับซูเจินจูอย่างคุ้นเคย น้ำเสียงเจือความห่วงใย หลงจู๊ผู้นี้ทำงานอยู่ที่ร้านผ้าซูเตี้ยนมาตั้งแต่เริ่มเปิดร้านใหม่ๆ ได้รับความไว้ใจจากนายท่านผู้เฒ่าซูมาก ยิ่งเห็นซูเจินจูมาตั้งแต่เกิดจนโต ได้ยินข่าวเสียหายที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้วยิ่งเป็นห่วงคุณหนูผู้นี้จากใจจริง

“ทำให้ท่านลุงฝูเป็นห่วงแล้ว”

“คุณหนูรีบเข้าไปข้างในก่อนเถอะขอรับ” หลงจู๊พยายามพูดให้ซูเจินจูเข้าไปด้านในให้ได้ ด้วยเห็นสายตาจากหลายๆคนมองมาที่ซูเจินจูอย่างอยากรู้อยากเห็น เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนนายอำเภอได้ถูกเล่าลือออกไปอย่างกว้างขวาง แต่ซูเจินจูกลับเพียงยืนนิ่งๆอยู่ตรงนั้นสักพัก หลังทักทายกันอีกสองสามประโยค ซูเจินจูจึงขอตัวเข้าไปดูเอกสารที่ห้องทำงานบนชั้นสอง

ร้านผ้าซูเตี้ยนเป็นร้านผ้าที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของอำเภอเหอ ขายผ้าพับและเสื้อคลุมขนสัตว์

ผ้าพับหนึ่งพับยาวห้าฉื่อ เพียงพอสำหรับตัดชุดผู้ใหญ่ได้หนึ่งชุด  ผ้าฝ้ายหยาบหนึ่งพับราคาสามร้อยอีแปะ ผ้าฝ้ายละเอียดพับละห้าร้อยอีแปะ ผ้าต่วนพับละหนึ่งตำลึง ผ้าไหมพับล่ะสิบห้าตำลึง ผ้าไหมชั้นดีจากอำเภอกุ้ยพับละสามสิบตำลึง ผ้าไหมหยกที่ทอโดยโรงงานของคุณหนูจิวอิงพับละห้าสิบตำลึง ผ้าแต่ละพับร้านผ้าซูเตี้ยนจะได้กำไรสามส่วน

เสื้อคลุมขนสัตว์ของร้านผ้าซูเตี้ยนเป็นของขึ้นชื่อของอำเภอเหอ ในทุกๆวันร้านผ้าซูเตี้ยนจะรับซื้อขนกระต่าย หนังกวาง ขนหมาป่า ขนจิ้งจอก หนังหมีและหนังเสือ จากชาวบ้านและนายพราน มีบางครั้งที่เหลาอาหารนำหนังสัตว์มาขายให้บ้าง

ร้านผ้าซูเตี้ยนรับซื้อขนกระต่ายที่สมบูรณ์ตัวละสามร้อยอีแปะ ผ้าพันคอขนกระต่ายหนึ่งผืนใช้กระต่ายหกตัว ขายได้ผืนละสิบสองตำลึง เสื้อคลุมขนกระต่ายหนึ่งตัวใช้กระต่ายยี่สิบตัวขายได้ตัวละสามสิบตำลึง ในหนึ่งปีผลิตผ้าพันคอได้หนึ่งร้อยผืน ผลิตเสื้อคลุมได้หกสิบตัว ทำเงินได้ปีละ สามพันตำลึง

ขนหมาป่าหนึ่งตัวสิบแปดตำลึง ใช้หมาป่าสองถึงสามตัวเผื่อผลิตเสื้อคลุมหนึ่งตัว สามารถขายได้ถึงตัวละหนึ่งร้อยตำลึง เสียดายที่หมาป่าไม่ได้จับได้ง่ายเหมือนกระต่าย แต่ละปีสามารถทำเสื้อคลุมออกมาขายได้เพียง ห้าถึงหกตัวเท่านั้น

ขนจิ้งจอกหนึ่งตัวยี่สิบตำลึง หากเป็นจิ้งจอกแดงจะได้ราคาถึงยี่สิบห้าตำลึง ต้องใช้จิ้งจอกสี่ถึงห้าตัวกว่าจะได้เสื้อคลุมหนึ่งชุด แต่ละปีผลิตได้เพียงสองถึงสามตัว แต่ราคาก็ได้มากถึงตัวละสองร้อยตำลึง

หนังกวาง หนังหมีและหนังเสือ นิยมใช้ตกแต่งห้องและให้เป็นของกำนันแก่ขุนนาง รับซื้อหนังกวางห้าสิบตำลึง หนังหมีห้าร้อยตำลึงและหนังเสือแปดร้อยตำลึง เมื่อนำเข้าไปขายในเมืองหลวง หนังกวางจะมีราคาถึงหนึ่งร้อยตำลึง หนังหมีและหนังเสือจะมีราคาหนึ่งพันถึงสามพันตำลึง

ในแต่ละปีรายได้จากร้านผ้าซูเตี้ยนมากถึงสามหมื่นตำลึงแม้ต้องหักทุนออกหลายส่วนแต่ก็ถือว่าเป็นเศรษฐีเมื่อเทียบกับชาวบ้านที่มีรายได้เพียงเดือนละสองตำลึง

หลังจากทำความเข้าใจอย่างละเอียดแล้วความสนใจของซูเจินจูพุ่งไปที่ผ้าพับมีตำหนิ ในแต่ละปีจะมีผ้าพับที่มีตำหนิจากการขนส่งหรือสะเพร่าของคนงานทั้งเลอะและฉีกขาดหลายร้อยพับ ในช่วงแรกหลงจู๊เสียดายผ้ามีตำหนิจึงมาผ้าออกมาขายในราคาถูก แต่กลับกลายเป็นว่าเหล่าคนมีเงินหายหน้าหายตาไม่มาซื้อผ้าที่ร้านเพราะไม่พอใจที่ผ้าที่ตนเคยซื้อถูกนำมาขายในราคาถูกแม้จะเป็นผ้ามีตำหนิก็ตาม กว่าหกเดือนที่เหล่าคนรวยในอำเภอไม่ย่างกรายเข้ามาในร้านผ้าซูเตี้ยนจนนายท่านซูต้องไปติดต่อขอซื้อผ้าไหมหยกของคุณหนูจิวอิงมาขายที่ร้าน จึงทำให้ข้ามวิกฤตนั้นมาได้

ซูเจินจูคิดอยากจะพิมพ์ลายบนผ้าแต่ติดตรงอุปกรณ์ต่างๆของที่นี่ หากพิมพ์ลายลงบนรอยเปื้อนบนผ้าได้ ผ้าก็จะไม่ต้องทิ้งและยังขายได้ราคาแพงกว่าเดิมด้วย แต่วิธีการทำลายบนผ้าสมัยนี้มีเพียงการปักผ้าเท่านั้น

“สี่เสวี่ย ข้าอยากขึ้นไปบนเขา” อยู่ๆอยากขึ้นเขา นางคงไม่ว่าข้าบ้าหรอกใช่ไหม

“หากคุณหนูอยากขึ้นเขา คุณหนูต้องออกจากอำเภอ ผ่านตำบล ไปยังหมู่บ้านตามเชิงเขาเจ้าค่ะ บ่าวเคยได้ยินพี่อิงเถากับพี่อิงชุ่ยสาวใช้ของคุณหนูใหญ่เล่าให้ฟังว่าพวกนางติดตามคุณหนูใหญ่ไปสวนดอกเหมยหมู่บ้านจั๋วมู่เขตตำบลไป๋ซีด้วยนะเจ้าคะ คุณหนูให้บ่าวเตรียมของเลยไหมเจ้าคะ”

“ข้าไม่ได้อยากชมดอกไม้ ข้าอยากเข้าไปหารังผึ้ง แต่เดี๋ยวข้าต้องเตรียมยาไล่ผึ้งก่อนถึงจะเข้าไป” เพ้ย เจ้าเด็กนี่พูดง่ายดีจริงๆ

“รังผึ้งหรือเจ้าคะ ถึงเป็นรังผึ้งสีขาวๆ ตามร้านชำก็มีขายนะเจ้าคะ เมื่อปีก่อนมีหมอจากอำเภอฉงมารับซื้อรังผึ้งเจ้าค่ะ บอกให้ชาวบ้านรวบรวมไว้ท่านหมอจะเดินทางไปอำเภอฉวน ขากลับจะแวะมารับซื้อรังผึ้งที่อำเภอเหอของเรา ชาวบ้านเข้าไปเก็บรังผึ้งมาขาย ตามร้านชำก็รับซื้อจากชาวบ้านไว้มาก แต่รอแล้วรอเล่าท่านหมอก็ไม่กลับมา ร้านชำบ้านไฉก็รับซื้อไว้เยอะนะเจ้าคะ ก่อนหลับบ้านคุณหนูแวะซื้อก็ได้เจ้าค่ะ ตอนไปเขาจะได้ไปชมดอกเหมยได้” ในใจของสี่เสวี่ยอยากจะไปชมดอกเหมยซะตอนนี้ ใครใช้ให้คุณหนูใหญ่ออกไปเที่ยวเล่นแล้วให้คุณหนูสี่ของนางต้องทำงานทุกวันแบบนี้เล่า คุณหนูสี่ของนางควรได้ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง

“เอาตามที่เจ้าว่าแล้วกัน” อืม ออกไปดูหน่อยก็ดี เวรกรรมอะไรของข้านะ ต้องมาอยู่ที่แปลกๆแบบนี้ ไม่รู้ว่าย้อนเวลากลับมาหรือหลุดมาอยู่ที่โลกคู่ขนานกันแน่ ที่ที่อยู่ตอนนี้ยังเป็นเพียงแคว้น แต่ละแคว้นยังมีสงครามแย่งชิงดินแดน ระบอบการปกครองก็ยังไม่ซับซ้อน แต่การเรียนการสอบนั้นกลับยุ่งยาก นับถือความกตัญญูอย่างไม่ลืมหูลืมตา อาหารการกินก็ลำบาก หากตอนนี้เป็นช่วงเปลี่ยนระบอบการปกครองนับถือท่านผู้นำ ก็คงทำความเข้าใจกับสถานการณ์ได้ดีกว่านี้ อย่างน้อยช่วงเปลี่ยนระบอบการปกครองก็ให้ความสำคัญกับผู้หญิงมากกว่าตอนนี้มากนัก

.

..

“คุณหนูท่านนี้ ต้องการอะไรแจ้งข้าได้เลยขอรับ”

“ข้ารู้มาว่าที่ร้านเจ้ามีรังผึ้งขาย ยังมีอยู่หรือไม่”

“มีขอรับ คุณหนูเชิญตามข้ามาด้านนี้ขอรับ”

ร้านชำบ้านไฉเป็นร้านขายข้าวสาร แป้งสาลี น้ำตาล เกลือ เมล็ดพืชผัก เครื่องปรุง เครื่องเทศ ของทะเลแห้ง เนื้อแห้ง ผักดอง และของกินของใช้เล็กๆน้อยๆต่างๆ กิจการไม่ใหญ่โต แต่ไม่เคยเงียบเหงา ด้วยเพราะตระกูลไฉเป็นตระกูลเก่าแก่เปิดร้านชำบ้านไฉมาหลายชั่วอายุคน ทำการค้าไม่เคยเอาเปรียบอีกทั้งรับซื้อของก็ไม่เคยกดราคาจึงทำให้ชาวบ้านแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย

“นี่เป็นรังผึ้งของทางร้านขอรับ เป็นรังผึ้งสมบูรณ์ ขนาดเล็กเท่าสองฝ่ามือ ห้าสิบอีแปะ ขนาดกลาง ใหญ่ขึ้นมาเท่าตัวราคาหนึ่งร้อยห้าสิบอีแปะ ขนาดใหญ่ ใหญ่ขึ้นมาจากขนาดกลางหนึ่งเท่าตัวสี่ร้อยอีแปะขอรับ”

รังผึ้งของร้านชำบ้านไฉเป็นรังผึ้งสีขาว มีบางส่วนเป็นสีน้ำตาลแต่ไม่มากนัก เหมาะสำหรับนำไปทำไขผึ้ง หนึ่งในวัตถุดิบสำคัญของการทำลายผ้า เมื่อเห็นว่าเป็นของที่ตนเองต้องการซูเจินจูก็เก็บรอยยิ้มไว้ไม่อยู่

“ขนาดเล็ก หนึ่งอัน”

รอยยิ้มสดใสของซูเจินจู ท่าทีผ่อนคลายคุยเล่นกับสี่เสวี่ยระหว่างรอเด็กในร้านห่อรังผึ้งอยู่ในสายตาของนายน้อยไฉ ไฉตงซุนตลอดเวลา ช่างเป็นรอยยิ้มที่สดใสแต่ก็เต็มไปด้วยความเรียบง่ายชวนให้เข้าใกล้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกประหม่า เขินอาย จนไม่สามารถเข้าไปใกล้ไปกว่านี้ได้อีกแล้ว เมื่อซูเจินจูเดินออกจากร้านไป หัวใจของไฉตงซุนก็เหมือนหลุดลอยตามนางไปอย่างฝืนตัวเองไม่ได้

หลังออกจากร้านชำตระกูลไฉ ซูเจินจูก็ตรงไปยังโรงหลอมเหล็กอู่จินชาง

“ท่านอา ข้าต้องการสั่งทำของสักชิ้นหนึ่ง สั่งทำที่ไหนหรือเจ้าคะ” ซูเจินจูแจ้งความประสงค์ของตนกับชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งอยู่หน้าร้าน

“สั่งกับข้านี่แหละแม่หนู เจ้าอยากได้อะไรล่ะ”

“นี่เจ้าค่ะ” ซุเจินจูหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งใหม่ นี่เป็นสิ่งที่นางวาดไว้ตอนอยู่ที่ร้านผ้าซูเตี้ยน

“ของสิ่งนี้ข้าต้องการให้ทำจากเหล็กทั้งอันเจ้าค่ะ ยาวประมาณแปดชุ่น ปลายด้านหนึ่งเป็นหัวแหลมมีรูกลวง ตัวด้ามเหมือนปล้องไผ่ด้านในกลวง ปลายอีกด้านเป็นทรงคล้ายถ้วยชา ท่านลุงลองจินตนาการว่าข้าใส่น้ำแข็งตรงส่วนที่เหมือนถ้วยชานี้นะเจ้าคะ เมื่อน้ำแข็งละลาย น้ำจะสามารถไหลออกจากส่วนถ้วยชาผ่านแกนกลายจนถึงปลายอีกด้านและไหลออกตามรูตรงปลายนี้ รูกลวงตรงปลานี้ข้าอยากได้ขนาดเท่าจุดพู่กันเล็กนี้เจ้าค่ะ”

“รูปทรงดูแปลกไปหน่อย แต่ข้าคิดว่าข้าทำให้เจ้าได้ แม่หนูน้อย”

“อ่อ ที่สำคัญคือ ข้าต้องสามารถถือมันด้วยมือข้างเดียวได้ด้วยนะเจ้าคะ”

“ได้ ได้ ฝีมือการตีเหล็กของข้า ตีเหล็กบางทำสิ่งนี้ให้เจ้าได้แน่นอน”

“ข้ามารับของได้วันไหนหรือเจ้าคะ”

“สิบวัน ข้าคิดราคาเจ้าห้าตำลึง อีกสิบวันเจ้ามารับของได้”

.

..

“ห้าตำลึงเลยนะเจ้าคะคุณหนู เกือบเท่าเงินที่นายท่านให้คุณหนูทั้งเดียวเชียวนะเจ้าคะ แล้วยังกริชเล่มนี้อีก” เมื่อถึงบ้านสี่เสวี่ยก็อดที่จะบ่นคุณหูของนางไม่ได้ วันนี้คุณหนูใช้เงินไปเยอะมากจริงๆ กริชเงินจากโรงหลอมเหล็กอู่จินชางเล่มนั้นราคาตั้งสี่สิบตำลึง!!

“เจ้าอย่าเพิ่งพูดมาก มาช่วยข้านับเงินก่อน” เจ้าเด็กนี่ทำไมขี้บ่นนักนะ เพิ่งจะอายุสิบสามเท่าข้าไม่ใช่หรือไง ไฉนบ่นเป็นยายแก่แบบนี้ ซูเจินจูนำหีบเงินและกล่องเครื่องประดับออกมานับดูว่าตอนนี้นางมีสมบัติติดตัวอยู่เท่าไหร่

ตระกูลซูเริ่มให้เงินรายเดือนเหล่าทายาทเมื่ออายุครบแปดปี แต่ละเดือนคุณหนูและ นายน้อยบ้านใหญ่จะได้คนละยี่สิบตำลึง ฮูหยินรองมี่ซิ่นและซูเจินจูได้คนละสิบตำลึง ซูเจินจูคนเดิมใช้จ่ายอย่างประหยัดด้วยรู้ว่าเมื่อออกเรือน บ้านใหญ่ไม่มีทางให้สินเดิมแก่นาง จึงพยายามเก็บเงินสะสมไว้เป็นหน้าตาของตนเองอีกทั้งยังเป็นหน้าตาให้แก่บุรุษที่ตนแต่งให้ แต่บางครั้งมี่ซิ่น มารดาของนางก็แอบเข้ามาหยิบเงินของนางไป ยังดีที่ตั้งแต่ซื้อตัวสี่เสวี่ยมา นางก็เป็นหูเป็นตา คอยหลบคอยเลี่ยงมี่ซิ่นอยู่เสมอ หากไม่ได้สี่เสวี่ยเอาเงินหีบนี้ไปซ่อนตอนที่นางสลบไป ตื่นมาก็คงไม่มีหีบเงินตรงหน้านี้แล้ว..

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   51

    นายน้อยหงพาซูเจินจูเดินชมสินค้าภายในร้าน สินค้าหลากหลายแต่เต็มไปด้วยของชั้นดี สินค้ามากมายที่ได้มาจากต่างแคว้น สินค้าหลายอย่างเป็นของที่ได้มาจากชนเผ่าต่างๆ หนังสัตว์ที่ผ่านการฟอกหนังมาอย่างดี ขนสัตว์หายากอย่างพวกจิ้งจอกแดงหรือขนหมาป่าสีขาวก็สามารถหาซื้อได้ที่นี่ หนังเสือ หนังหมี หรือแม้แต่เขากวาง เขี้ยวเสื้อ ก็ถูกนำมาตั้งแสดงสินค้า ยิ่งเห็นว่าร้านฟู่หงเทียนมีสินค้าชั้นดีเท่าใดซูเจินจูก็ยิ่งตระหนักได้ถึงอิทธิพลของเจ้ากรมอาภรณ์ ร้านค้าขนาดสี่ห้องกว้างขวางเกินกว่าจะดูได้อย่างละเอียดทั้งหมด แม้ซูเจินจูจะพยายามเดินดูจนทั่ว แต่ด้วยประกอบกับนายน้อยหงที่คอยอธิบายสิ่งต่างๆภายในร้านอย่างใส่ใจทำให้กินเวลายาวนานเกือบสามชั่วยาม“อีกสองวันถึงจะเป็นงานเปิดรับศิษย์ของสำนักต่อสู้ พรุ่งนี้คุณหนูซูอยากไปที่ใดหรือไม่ ข้าจะพาท่านไปเอง”“ไม่รบกวนนายน้อยเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะพาคนของข้าไปเดินเล่นในเมือง เพียงเดินเล่นไปเรื่อยๆมีจุดหมายใด”“เช่นนั้นข้าจะให้คนคุ้มกันของข้ามาดูแล”“ข้าคงต้องเสียมารยาทปฏิเสธเสียแล้ว หลิวหยาง จางหมิ่นของข้าคงเพียงพอจะปกป้องข้าได้ อย่าให้ข้าทำให้นายน้อยหงต้องเป็นกังวลเลยเจ้าค่ะ”“เช

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   50

    วันถัดมาในยามเฉิน เฟยอวี่เข้ามาหาซูเจินจูเพื่อรายงาน“คุณหนู บ่าวสืบข่าวมาได้เล็กน้อยเจ้าค่ะ พ่อค้าต่างแคว้นหลายคนเร่งเดินทางเข้าเมืองหลวง ของมีค่าหลายอย่างถูกขนเข้าเมืองหลวงผ่านขบวนขนสินค้า จุดหมายคือตรอกถงยู่ ที่เป็นแหล่งจัดงานประมูลของตลาดมืด นี่เป็นของรายการของส่วนหนึ่งที่บ่าวได้มาจากบัญชีส่งสินค้าเจ้าค่ะ”“งานประมูลของตลาดมือหรือ น่าสนใจ เจ้ารู้เรื่องงานนี้ดีแค่ไหน”“บ่าวเคยได้ยินว่าเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อประมูลของหายาก มีทั้งโสมพันปี อาวุธต่างๆ หยกม่วง หินแร่ รวมถึงหัวของผู้ครองแคว้นก็เคยถูกนำมาประมูลเจ้าค่ะ การจะเข้าร่วมประมูลได้ต้องจ่ายเงินค่าเข้าคนละหนึ่งพันตำลึง และหากมีของที่ต้องการนำเข้าประมูลก็นำของไปประเมิณได้เช่นกันเจ้าค่ะ”“เจ้าทำงานได้ดีมาก พักสักหน่อยแล้วออกเดินทางไปรอข้าที่เมืองหลวง สืบข่าวเรื่องการประมูลให้ข้า และจองโรงเตี๊ยมที่ปลอดภัยที่สุดเอาไว้ให้เพียงพอกับคนของเรา ข้าจะพาสี่เสวี่ย เฟยหลัน เฟยหรง เฟยเมี่ยว หลิวหยาง จางหมิ่นไป”“บ่าวรับคำสั่งคุณหนูเจ้าค่ะ” เฟยอวี่รับตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงจากซูเจินจูก่อนจะออกจากห้องไป คล้อยหลังเฟยอวี่ออกไปไม่ถึงหนึ่งเค่อซูเจินจูก็ตรง

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   49

    “เฟยอวี่ การเข้าเมืองหลวงต้องใช้ป้ายผ่านเข้าเมืองด้วยหรือ”“จริงๆแล้วไม่ต้องใช้เจ้าค่ะคุณหนู แต่ชาวบ้านทั่วไปหากต้องการผ่านเข้าเมืองหลวงจะต้องเสียอีแปะเป็นค่าผ่านทางให้กับทหารเฝ้าประตู เสียเยอะหรือเสียน้อยแล้วแต่ว่าผู้เฝ้าประตูเป็นใคร ส่วนป้ายผ่านเข้าเมืองเป็นเพียงชื่อเรียกเท่านั้นเจ้าค่ะ ในความเป็นจริงแล้วป้ายพวกนี้มีขึ้นเพื่อให้คนมีเส้นสายสามารถผ่านเข้าออกเมืองโดยไม่ต้องเสียอีแปะ ไม่ต้องต่อแถว ไม่ต้องตรวจค้นสัมภาระอย่างละเอียดและได้รับความเคารพจากทหารเฝ้าประตู รวมถึงป้องกันไม่ให้พวกทหารสร้างปัญหากับพวกคนรวยและขุนนางด้วยเจ้าค่ะ”“อ่อ แค่ยื่นป้ายออกไปก็ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วยแล้วสินะ ช่างดีจริงๆ”“นายน้อยหงคงเหลือเส้นสายอยู่ไม่น้อยถึงขนาดใจกว้างทำป้ายให้คุณหนูได้ง่ายๆ”“เขาเห็นข้าเป็นโอกาสที่จะช่วยร้านผ้าฟู่หงเทียนกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งต่างหาก เจ้าไปเตรียมตัวเถอะ ออกไปสืบข่าวดูสักหน่อยก็ได้ ไปเมืองหลวงครั้งนี้ข้าจะพาเจ้า สี่เสวี่ย หลิวหยาง จางหมิ่น เฟยหรง เฟยเมี่ยว และเฟยหลันไปด้วย บอกเพ่ยเพ่ยกับเยว่ชิงเสียแต่เนิ่นๆให้นางได้เตรียมตัวจัดการงานและดูแลเรื่องต่างๆทั้งหมดที่นี่ตอนที่พวกเรา

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   48

    “พ่อหนุ่มเจิ้งผู้นี้ดูมีลับลมคมในเหลือเกินนะเจ้าคะ จะว่าไปพ่อหนุ่มเจิ้งเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องของตน แม่แต่แซ่ก็ไม่บอก ชื่อเจิ้งก็ไม่รู้ว่าใช่ชื่อจริงหรือไม่”“นั่นสิเจ้าคะคุณหนู คุณหนูเองก็แปลกนัก แค่พ่อหนุ่มเจิ้งบอกจะมาด้วยก็ปล่อยให้มา บอกจะไปก็ไม่ถามไถ่สิ่งใดสักคำ”“ช่างเขาเถอะ เพียงแค่ไม่มีพิษภัยกับพวกเราก็พอแล้ว เรื่องอื่นๆรู้มากไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี”“เจ้าค่ะคุณหนู”ซูเจินจูพาเจียงไป๋ไปยังห้องที่เจียงชิงนอนอยู่และให้ซินเซียงยกที่นอนอีกหนึ่งอันมาวางข้างเตียงเพื่อให้พี่น้องได้นอนห้องด้วยกัน“เจ้านอนห้องเดียวกันไปก่อน ช่วงนี้ก็คอยดูแลนาง ข้างๆห้องเจ้าคือห้องของชิงหยุน มีอะไรก็ไปหานางได้ สี่เสวี่ยเจ้าไปบอกให้ซินเซียงหาอะไรให้เด็กนี่กินเสียหน่อยเถอะ”“เจ้าค่ะคุณหนู”เจียงไป๋มองคนทั้งหมดทยอยออกจากห้องไปก่อนจะหันกลับมานั่งข้างเตียงของเจียงชิง“พี่สาว ท่านรีบตื่นขึ้นมานะ…”... เช้าวันต่อมาซูเจินจูเดินทางเข้าร้านหว่างลี่เซียงพร้อมเฟยหลันตั้งแต่ยามเฉิน กิจการของร้านหว่านลี่เซียงเป็นไปด้วยดี คนที่ดูเหมือนจะทะเลาะกับผู้อื่นได้ง่ายๆอย่างเพ่ยเพ่ยกลับทำงานได้อย่างสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นก

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   47

    “มองอะไร พวกเจ้ามองอะไร ไอ้พวกไม่รู้เรื่องรู้ราว เด็กมันมีวาสนาได้ช่วยเหลือสกุล เลี้ยงมันต่อไปก็ไม่ใช่ว่ามันจะหาเงินให้ข้าได้ถึงยี่สิบตำลึงเสียเมื่อไหร่ ต้องมากินข้าวบ้านข้านอนบ้านข้าไม่สู้ไปกินบ้านอื่นนอนบ้านอื่นแล้วยังได้เงินรึ แล้วเงินที่มันถืออยู่ไม่ใช่ว่าขโมยของข้าไม่หรือไงเด็กอย่างพวกมันจะเอาปัญญาหาเงินมากมายขนาดนี้ได้ที่ไหน เอาเงินข้าคืนมานะไอ้พวกเด็กตัวเหม็น”“ท่านย่านี่เป็นเงินที่พี่สาวหามาได้ ไม่ได้ขโมยเงินของท่าน”“นั่นมันเงินโชคดีที่แม่หนูเจินจูแจกไม่ใช่หรือ บ้านข้าก็ได้มาสองพวง ไหมถักแบบนั้นรูปทรงแบบนั้น ข้าจำไม่ผิดหรอก” ชาวบ้านที่มุงดูอยู่พูดขึ้น“ใช่ ข้าเองก็จำได้ นั่นมันพวงเงินที่แม่หนูเจินจูแจกเมื่อวันเกิด” หัวหน้าหมู่บ้านหวังสำทับขึ้น ชาวบ้านที่มุงดูอยู่ต่างเคยได้รับพวงเงินโชคนี้ทุกคนล้วนเป็นพยายานให้เด็กน้อยว่าเขาไม่ได้ขโมยเงินของแม่เฒ่าเจียง“เหอะ เอาเข้าบ้านข้าก็ต้องเป็นของข้านั่นแหละ อาไป๋ เข้าบ้าน เหม่ยเหมย เสี่ยวเจี๋ยลากนังเด็กชิงเข้าบ้าน”“แม่เฒ่าเจียง รอเดี๋ยวก่อนเถอะ ข้าขอเจรจาเรื่องเด็กสองคนนี้สักประโยคหนึ่งได้หรือไม่” ซูเจินจูพูดยังไม่ทันจบ เฟยหลันก็เอาตัว

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   46

    การค้าของร้านหว่านลี่เซียงเต็มไปด้วยความราบลื่น ที่ควรขายได้ขาย ที่ควรสงบก็สงบ กว่าลูกค้าคนสุดท้ายจะออกจากร้านก็เป็นยามโหย่ว หลังจากปิดร้าน เหล่าคนงานที่หมดแรงมานั่งรวมกันอยู่ที่กลางร้าน ซูเจินจูลากเก้าอี้มานั่งก่อนจะขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการเปิดร้านวันแรกจนทุกอย่างผ่านไปด้วยดี วันนี้ถุงหอมขายได้หกร้อยหกใบ เป็นเงินหนึ่งหมื่นสองพันหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึง การขายได้จำนวนมากตั้งแต่วันแรกนับเป็นเรื่องดีแต่ซูเจินจูกังวลว่าหากขายดีเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่สามารถผลิตมาขายได้ทันสี่เสวี่ยรับหน้าที่สอนเยว่ชิงวาดลายผ้าและผสมสีผ้าไหมหอมหมื่นลี้ เมื่อเชี่ยวชาญแล้วเยว่ชิงจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลผ้าไหมหอมหมื่นลี้พวกนี้แทนสี่เสวี่ย อีกทั้งสี่เสวี่ยยังต้องคุมคนงานเย็บปัก และติดป้ายรับสมัครหญิงสาวที่เชี่ยวชาญงานเย็บปักมาปักถุงหอมหมื่นลี้ที่ร้านหว่านลี่เซี่ยงด้วยเฟยหรงและเฟยเมี่ยวที่เพิ่งได้ข่าวพรรคพวกอีกหนึ่งคนด้วยเห็นว่าพรรคพวกที่เจอนั้นถูกซื้อตัวไปด้วยชายชราที่อยู่กับหลานชายหนึ่งคนบนกระท่อมบนเขา นางไม่ได้ลำบากหรือโดนทำร้ายจึงพักการติดต่อแล้วหันมาช่วยซูเจินจูดูแลร้านหว่านลี่เซียงไปก่อน“เอาล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status