Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-04-03 19:00:36

เดือนละสิบตำลึง ปีนึงจะได้หนึ่งร้อยยี่สิบตำลึง หกปีก็จะมีเจ็ดร้อยยี่สิบตำลึง ในหีบนี้เหลือเงินห้าร้อยตำลึง หักจากที่นางสั่งทำอุปกรณ์ทำผ้าห้าตำลึง ซื้อกริชเงินสี่สิบตำลึง เจินจูคนเก่านับได้ว่าประหยัดจริงๆ

อืม... ปิ่นเงินแปดอัน ปิ่นทองหกอัน ปิ่นหยกสี่อัน ชุดเครื่องประดับเงินสองชุด ชุดเครื่องประดับทองสองชุด ต่างหูหยกหนึ่งคู่ ต่างหูปะการังแดงหนึ่งคู่

เอ๊ะ!! เสื้อคลุมขนจิ้งจอกแดง 

“ปิ่นเงินหนึ่งอัน ปิ่นหยกหนึ่งอัน ต่างหูหยกหนึ่งคู่ เอาไว้เท่านี้พอ ที่เหลือเจ้าเอาไปขายซะ” ยิ่งคิดก็ยิ่งเข้าท่า ของพวกนี้มีไว้นางก็ไม่ได้ใช้ ไม่สู้เปลี่ยนเป็นเงินเตรียมไว้ดีกว่า

“ไม่ได้นะเจ้าคะคุณหนู!!!! ของพวกนี้ต้องเก็บไว้เป็นสินเดิม หากคุณหนูแต่งงานออกไปแล้วไม่มีสินเดิมจะถูกครอบครัวฝ่ายชายรังแกเอานะเจ้าคะ” สี่เสวี่ยตกใจกับท่าที่ของคุณหนูของนาง ตั้งแต่ชนเสาคราวนั้นคุณหนูของนางก็ดูเปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าจะยังใจดีกับนาง แต่ท่าทางเฉยเมยตลอดเวลานั้นก็ราวกับเป็นคนละคน หรือคุณหนูของนางจะเสียใจมากจนปิดกั้นตัวเอง ไม่อยากแต่งงานไปแล้วกันแน่

แต่สุดท้ายสี่เสวี่ยก็ทนทานการรบเร้าจากซูเจินจูไม่ไหว วันต่อมาขณะที่ซูเจินจูเข้าไปที่ร้านผ้านั้น สี่เสวี่ยก็นำเครื่องประดับไปขายยังร้านเครื่องประดับหวันจูเป่า

ปิ่นเงินเจ็ดอัน อันละสามตำลึง ปิ่นทองหกอันอันละสิบห้าตำลึง ปิ่นหยกสามอันอันละสามสิบตำลึง ชุดเครื่องประดับเงินชุดเล็กสองชุด ชุดละยี่สิบตำลึง ชุดเครื่องประดับทองชุดเล็กสองชุด ชุดละสามสิบตำลึง ต่างหูปะการังแดงหนึ่งคู่ สี่สิบตำลึง ทั้งหมด ทั้งหมดสามร้อยสี่สิบเอ็ดตำลึง

“รบกวนเถ้าแก่เนี้ยจ่ายเป็นตั๋วเงินได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ได้ๆ นี่ตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงสามใบ ตำลึงทองสี่ก้อน ตำลึงเงินหนึ่งก้อน เจ้านับดูก่อน”

“ขอบคุณเถ้าแก่เนี้ยเจ้าค่ะ” หลังนับเงินเสร็จสี่เสวี่ยก็เก็บเงินอย่างระมัดระวัง

หลังออกจากร้านหวันจู่เป่า สี่เสวี่ยก็ตรงไปที่ร้านเฉินอีเตี้ยน

เสื้อคลุมขนจิ้งจอกแดงที่ซูเจินจูให้ซี่เสวี่ยนำมาขายนั้น เป็นเสื้อคลุมของซูเจินจูยามเป็นเด็ก บัดดี้เมื่อโตขึ้นชุดคลุมนี้ก็ใส่ไม่ได้อีก ร้านเฉินอีเตี้ยนให้ราคาเสื้อคลุมขนจิ้งจอกแดงเจ็ดสิบตำลึง

“ตั๋วเงินห้าสิบตำลึงหนึ่งใบ ตำลึงทองสองก้อน แม่นางนับดูก่อน”

“ขอบคุณหลงจู๊เจ้าค่ะ”

สี่เสวี่ยเก็บเงินอย่างระมันระวังก่อนที่จะกลับไปหาซูเจินจูที่ร้านผ้าซูเตี้ยน วันนี้คุณหนูใหญ่ซูหนี่ย์ต้องการใช้รถม้า ซูเจินจูจึงต้องเดินกลับบ้าน สี่เสวี่ยกลัวว่าจะกลับถึงบ้านเย็นจนเกินไปจึงเร่งฝีเท้ามากขึ้น

เมื่อมาถึงร้านก็พบว่าคุณหนูของตนรออยู่แล้วเมื่อซูเจินจูเก็บเงินที่ได้จากสี่เสวี่ยเรียบร้อยทั้งสองก็เดินกลับบ้าน ระหว่างทางกลับสี่เสวี่ยก็บอกเรื่องราคาของต่างๆ ขณะที่ทั้งสองเดินออกจากเขตร้านค้าเข้าสู่เขตที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบก็สังเกตุเห็นอันธพาลสองคนกำลังเดินเข้ามาหาพวกนาง ทางสายนี้มีเพียงถนนเส้นเดียวไม่สามารถอ้อมไปทางอื่นได้ ขณะที่ซูเจินจูกำลังจะจูงสี่เสวี่ยหันกลับ ก็มีอันธพาลสามคนเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังพวกนาง

 “พวกเจ้าต้องการอะไร” สี่เสวี่ยที่อยู่ในอาการตกใจจนขาสั่น ถามอันธพาลตรงหน้า ในขณะเดียวกันก็ดึงซูเจินจูไปไว้ข้างหลังนาง ตอนนี้ในหัวนางคิดว่าตอนที่นางเอาเครื่องประดับของคุณหนูไปขาย คนพวกนี้ต้องตามนางมาแน่ๆ

 “แม่นางน้อย ดูท่าว่าเราจะมีวาสนาต่อกัน แค่เห็นเจ้าครั้งแรกข้าก็อยากจะอุ้มเจ้ากลับบ้านเสียแล้ว”

เสียงโห่ร้อง สนับสนุนจากอันธพาลทั้งสี่คนดังขึ้นคล้ายกับว่าประโยคแทะโลมเพียงประโยคเดียวนั้นทำให้พวกมันเพลิดเพลินได้อย่างง่ายดาย

ซูเจินจูขมวดคิ้วเล็กน้อย บังเอิญเหรอ คนพวกนี้มาดักอยู่ตามทางที่นางต้องกลับบ้าน คนผ่านไปผ่านมามากมาย กลับมั่นหมายเจาะจงที่จะเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังนางไว้เช่นนี้ พวกมันตามสี่เสวี่ยมาตอนนำของไปขายหรือจะมีใครส่งคนพวกนี้มาเพื่อทำลายชื่อเสียงของนางกัน

“ถอยไปนะ พะ พะ พวกเจ้า กล้าดียังไงมาทำตัวต่ำช้าในเมือง ไม่เห็นกฏหมายอยู่ในสายตาหรือยังไง” สี่เสวี่ยหันมากระชิบให้ซูเจินจูรีบวิ่งหนีไป นางจะขัดขวางไอ้พวกชั่วนี่ไว้เอง

หนึ่งในอันธพาลที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าถุยก้านดอกหญ้าที่คาบไว้ในปากก่อนจะเดินเข้ากระชากสี่เสวี่ย แต่เมื่อจับลงบนข้อมือของสี่เสวี่ย ข้อมือของมันกลับถูกซูเจินจูคว้าเอาไว้ เพียงซูเจินจูกระชากเบาๆมือของชายคนนั้นก็ห้อยลงมาและไม่สามารถบังคับข้อมือของตนเองได้อีกต่อไป ยังไม่ทันได้ตั้งสติก็มีเท้าข้างหนึ่งลอยมาถีบที่อกจนทำให้หงายหลังไถลไปจนถึงที่ที่ชายอีกสี่คนยืนอยู่ ร่างที่ถูกถีบอย่างไม่ทันรู้ตัวลงไปนอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น พอได้สติกลับมาก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ถลึงตามองเด็กสาวสองคนที่ยืนอยู่ที่เดิม

“บัดซบ!! นังสารเลว เจ้ากล้าถีบบิดา บิดาจะฆ่าเจ้า” ชายคนนั้นวิ่งเข้าไปหาซูเจินจูอย่างลืมความเจ็บปวดที่มือ ซูเจินจูกระตุกยิ้มเบาๆก่อนจะกระโดดออกมาขวางหน้าสี่เสวี่ยเอาไว้  หมัดที่ดูรุนแรงและรวดเร็วถูกชกออกมาตั้งใจให้ถูกหน้าของเด็กสาวที่บังอาจถีบตนกลับต้องผิดหวัง แขนเล็กๆที่ดูไร้เรี่ยวแรงของซูเจินจูคว้าหมัดที่ชกออกมา ก่อนจะบิดแขนข้างนั้นอ้อมไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว ได้ยินเพียงเสียงกระดูกหักดังกร๊อบ ชายคนนั้นเจ็บจนหน้าซีดเผือดแข้งขาอ่อนแรงจนล้มลงถลาไปอีกฝั่งไม่มีแรงแม้กระทั่งจะลุกขึ้นมา

“หึ รนหาที่ตาย” ซูเจินจูสบทขึ้นเบาๆ

ซูเจินจูเอื้อมมือไปบีบคอใช้แรงเพียงเล็กน้อยบังคับให้มันเงยหน้าขึ้น

“ใครใช้ให้พวกเจ้ามา” ซูเจินจูถาม

“ไม่มี ไม่มีใครจ้างพวกข้า” เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการซูเจินจูจึงออกแรงบีบคอแรงขึ้นเล็กน้อย

“หากเจ้ากล้าหลอกข้า ข้าจะถลกหนังเจ้า” เสียงของซูเจินจูเย็นชาจนทำให้คนฟังหนาวเหน็บ สัมผัสจากมือเล็กๆที่ดูไม่น่าจะมีแรงนั่นกดลงมาที่คอเขาแรงขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้เขาแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว หันกลับไปมองคนที่เขาพามาด้วยพบว่าทั้งสี่คนไม่ได้อยู่ตรงนั้น ความกลัวตายล้นทะลักเข้ามาพร้อมอากาศที่เหมือนจะเบาบางจนเขาเริ่มหายใจไม่ได้

“ขะ ขะ ข้า บอกแล้ว”

“พูดมา”

“แม่นางอิงเถา แม่นางอิงเถาจ้างข้าสิบตำลึงให้ฉุดเจ้าไปขายที่หอนางโลม”

“อ่อ งั้นหรือ” ซูเจินจูเลิกคิ้วขึ้นจองมองคนที่ตกอยู่ในเงื้อมมือตน ก่อนจะปล่อยมือออกและลุกขึ้นช้าๆ มุมปากยกขึ้นดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มนั้นทำให้เดาไม่ออกว่านางเชื่อหรือไม่เชื่อคำพูดของเขา สายยาเย็นชานั้นทำให้เขายิ่งไม่มั่นใจว่าจะเปลี่ยนจากเชื่อหรือไม่ชื่อ เป็นฆ่าหรือไม่ฆ่าหรือไม่

“แม่นาง แม่นางโปรดเชื่อข้า ข้าพูดความจริง แม่นางยกโทษให้ข้าด้วย” ความกลัวตายทำให้เขาไม่สนว่าการคุกเข่าร้องขอชีวิตจะทำให้ดูอับอายหรือไม่ หน้าผากที่เริ่มปรากฏเลือดหลังจากโขกศรีษะไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว ปากร้องขอชีวิตไม่หยุด

“ไปซะ”

“พี่อิงเถา สาวใช้ของคุณหนูใหญ่หรือเจ้าคะ” สี่เสวี่ยที่เห็นเห็นการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านแผ่นหลังซูเจินจู ทำให้ไม่ได้เห็นสายยาเย็นชาสุดลึกล้ำของคุณหนูของนาง แม้สี่เสวี่ยจะแปลกใจที่คุณหนูของตนทุบตีจนอันธพาล แต่การทีคุณหนูทุบตีผู้อื่นก็ดีกว่าถูกผู้อื่นทุบตีมากนัก เมื่อเป็นเรื่องดี รู้ว่าดีก็พอ ไม่จำเป็นต้องสงสัยเรื่องดีๆที่เกิดขึ้น

“ไม่รู้สิ รอดูไปก่อนเถอะ”

“ทำไมคุณหนูไม่จับคนพวกนั้นไปให้ทางการล่ะเจ้าคะ”

“อืม ข้าลืม” นางลืมไปจริงๆว่านางจับคนพวนั้นไปแจ้งทางการได้ แต่หากไปแจ้งจริงๆเรื่องราวนี้ก็คงถูกชาวบ้านเล่าต่อกันไป นางที่กำลังมีข่าวเสียหายก็คงถูกน้ำลายของชาวบ้านถ่มรดจนจมน้ำลายตายเป็นแน่

“….”

“ช่างเถอะ หากวันใดข้ามั่นใจว่าอิงเถาคือผู้ที่ต้องการขายข้าให้หอนางโลมจริงๆ ข้าจะเป็นคนจับนางไปขายที่หอนางโลมเอง” ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าไหร่แต่ซูเจินจูก็ยังคงชอบที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างเงียบๆ เพื่อที่นางจะได้ใช้ชีวิตที่สงบสุข ไม่ต้องวุ่นวายกับใคร และไม่ต้องมีใครมาวุ่นวายกับนางมากนัก

“ไม่สำเร็จ ไม่สำเร็จได้ยังไง เจ้าว่าพวกอันธพาลนั่นเก่งนักไม่ใช่เหรอ” ซูหนี่ย์ที่กำลังรอฟังข่าวแผดเสียงขึ้นอย่างกระทันหันจนทำให้อิงเถา อิงชุ่ย ตัวสั่นอยู่กับพื้น

“บ่าวก็ไม่รู้เจ้าค่ะ เมื่อบ่าวไปถึงที่นัดก็ไม่เจอใคร ถามคนแถวนั้นได้ความว่า เจ้านั่นมือหัก แขนหัก หัวแตก นอนรักษาตัวอยู่โรงหมอเจ้าค่ะ”

“เหอะ ก็คงไปมีเรื่องกับใครมา จนมาฉุดนังเจินจูไม่ได้ เจ้าไปเอาเงินมัดจำห้าตำลึงคืนมา”

“บ่าวไปขอเงินคืนแล้วเจ้าค่ะคุณหนู แต่ว่า ..แต่พวกมันบอกว่าใช้จ่ายค่ารักษาไปหมดแล้ว” อิงเถาเสียงอ่อน นางไม่ได้รู้จักพวกอันธพาลนี้มากนัก นางเองก็กลัวคนพวกนี้ หากให้นางไปสร้างปัญหาจนปัญหามาถึงตัวนาง นางยอมให้คุณหนูใหญ่ทุบตีเสียดีกว่า

“งั้นก็หักเอาจากเงินเดือนพวกเจ้าแล้วกัน” อิงเถาได้เงินเดือนจากคุณหนูเดือนละหนึ่งตำลึง หากต้องหักจากเงินเดือนของนางก็เท่ากับว่าครึ่งปีที่เหลือนางจะไม่ได้รับเงินอีกแล้ว

“...”

สองวันต่อมา ที่เรือนของซูเจินจู

“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูใหญ่ส่งพี่อิงชุ่ยมาเป็นสาวใช้ให้คุณหนูเจ้าคะ”

“ส่งกลับไป”

.

..

“คุณหนูเจ้าค่ะ พี่อิงชุ่ยมาอีกแล้วค่ะ บอกว่าถ้านางไม่ได้อยู่รับใช้คุณหนู กลับไปจะถูกคุณหนูใหญ่ตีจนตายเจ้าค่ะ”

“ให้นางกลับไป นางจะเป็นหรือตายไม่เกี่ยวกับข้า” เห้อ แค่อยู่อย่างสงบๆไม่ได้หรือไงนะ นางเองก็ไม่ใช่ผู้พิทักษ์ความยุติธรรม ไม่ใช่คนดีที่ยื่นมือช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองต้องลำบากใจ ยิ่งคนที่ถูกส่งมาเพื่อสร้างความลำบากให้นาง นางไม่มีความจำเป็นต้องรับเอาไว้

“เหอะ ในเมื่อนางไม่รับน้ำชา ต่อไปข้าก็จะส่งยาพิษ” ซูหนี่ย์เกลียดซูเจินจูจนแทบอยากจะกระชากนางออกมาสับเป็นชิ้นๆ ให้นางลิ้มรสความทรมานจนตาย นังแพศยา อย่าได้หวังจะอยู่รวมแผ่นดินกับข้าเลย ข้าจะต้องทำลายเจ้า หากนังตัวอัปลักษณ์นี่ยังอยู่ความหวังที่นางกับคุณชายหลินจะได้ครองคู่กันก็ริบหรี่นัก!!

ซูหนี่ย์เรียกสาวใช้ทั้งสองมาช่วยนางวางแผนเล่นงานเจินจู หลังจากนายบ่าวปรึกษากันอยู่สักพักก็ตกลงกันได้ว่า นางจะชวนนังแพศยานั่นไปชมดอกไม้แล้วให้อันธพาลกลุ่มหนึ่งมาฉุดเจินจูไปรังแก กว่าคนของนางจะเข้ามาแจ้งคนของทางการในเมือง เจินจูก็คงจะเสียหายหมดสิ้นแล้ว เมื่อเรื่องถึงทางการ ก็ไม่มีทางที่จะเป็นความลับ เมื่อคิดถึงแผนการที่ไร้ช่องโหว่ ซูหนี่ย์ก็ลืมความอับอายก่อนหน้านี้ เข้านอนด้วยหัวใจที่เป็นสุข

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 6

    เช้าวันต่อมา ขณะที่ซูเจินจูกำลังจะออกไปร้านผ้า อิงชุ่ยก็ได้มาขวางหน้านางไว้“คุณหนูใหญ่ให้บ่าวมาเชิญคุณหนูสี่ไปชมดอกเหมยที่หมู่บ้านจั๋วมู่ด้วยกันเจ้าค่ะ” อิงชุ่ยพูดจาอ่อนหวานมีความเคารพต่อซูเจินจู เมื่อเช้าอิงเถาได้ออกไปจ้างอันธพาลไว้แล้ว นางต้องพาคุณหนูสี่ไปด้วยกันให้สำเร็จ“ข้าไม่ไป” ซูเจินจูไม่ได้สนใจอิงชุ่ย นางเดินออกไปทันที อิงชุ่ยที่ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอ้าปากพะงาบๆเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาทุกๆสองวันซูหนี่ย์จะต้องให้อิงชุ่ยมาชวนนางออกไปข้างนอก ทุกครั้งซูเจินจูจะปฏิเสธกลับไป แต่ครั้งนี้ เป็นฮูหยินรองที่มาชวนนางออกไปเดินตลาด ซูเจินจูเพียงให้เงินนางไปสิบตำลึง และด้วยเห็นแก่เงินสิบตำลึง ฮูหยินรองมี่ซิ่นจึงไม่ได้รบเร้าเจินจูต่อและออกไปอย่างสบายใจ“ท่านน้า เจินจูเออร์ละเจ้าคะ ข้าสั่งบ่าวไพร่ให้ไปจองเหลาอาหารตือฟ่างกว่างไว้แล้ว จะได้ให้เจิ

    Last Updated : 2025-04-04
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 7

    “เอ่อ.. เป็นตระกูลไฉ มาขอหมั้นคุณหนูสี่ให้นายน้อยไฉตงชุนเจ้าค่ะ” อิงชุ่ยพูดเสียงเบาด้วยรู้ว่าคุณหนูใหญ่เกลียดคุณหนูสี่ และยังไม่สามารถวางอุบายรังแกนางได้สำเร็จสักครั้ง“เจ้าว่าอะไรนะ ขอหมั้นนังจิ้งจอกนั่น!! นังแพศยา เตียงคุณชายหลินรออยู่ข้างหน้ายังกล้าให้ท่าบุรุษอื่นเชียวรึ” เหอๆ นังตัวดี คราวนี้เจ้าไม่รอดแน่ หากคุณชายหลินรู้ เจ้าไม่มีทางชูคออยู่บนเตียงได้แน่ และถ้าหากนายน้อยไฉรู้ว่าเจ้ามีค่าเพียงสาวใช้อุ่นเตียงก็อย่าหวังเลยว่าเจ้าจะเป็นแต่งเข้าไปเป็นฮูหยินฮูหยินซูก็ไม่ทำให้ลูกสาวสุดที่รักอย่างซูหนี่ย์ต้องผิดหวัง คนเราหากหวังดีปฏิเสธแม่สื่ออ้อมๆก็ยังพอรักษาหน้า แต่คนอย่างฮูหยินซู มีช่องให้ทำลายซูเจินจูมีหรือจะไม่ทำ เล่าวีรกรรมซูเจินจูที่เข้าไปให้ท่าคุณชายหลินถึงในจวนนายอำเภอ ออกอุบายให้คุณชายหลินทำลายชื่อเสียงตน ร้องขอขึ้นเป็นฮูหยินตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อนทั้งที่พิ่งจะอายุสิบสามปี เพราะความอิจฉาที่คุณชายหลินมีใจให้ซูหนี่ย์ คุณชายหลินทั้งสงสารทั้งรู้สึกผิดจึงเขียนสัญญาจะรับนางเข้าจวนไ

    Last Updated : 2025-04-04
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 8

    เมื่อถึงวันนัด อิงเถากลับมารายงานซูหนี่ย์ว่าซูเจินจูออกจากบ้านไปตั้งแต่ยามเฉิน ไม่มีใครรู้ว่าไปที่ใด ซูหนี่ย์ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ออกไปพบคุณชายหลินเพียงลำพังด้านซูเจินจูที่ออกจากบ้านมานั้น นางออกจากอำเภอเหอ ผ่านตำบลจี๋หลง และตำบลจ้างหนาน จนถึงหมู่บ้านซานหมู่บ้านซานเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีคนอาศัยอยู่เพียงห้าสิบหลังคาเรือน พื้นดินแห้งแล้งทำให้ปลูกพืชผักได้น้อยกว่าหมู่บ้านอื่น จึงไม่ค่อยมีคนนอกหมู่บ้านเข้ามาวุ่นวาย เป็นตัวเลือกที่ดีของนางซูเจินจูเข้าไปพูดคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน แจ้งความต้องการว่าต้องการซื้อที่ดิน หลังการสอบถามจนแน่ใจว่าพวกนางจะไม่เป็นอันตรายต่อคนในหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านก็พาพวกนางมาวัดที่ดินที่ว่างอยู่ท้ายหมู่บ้าน ที่ดินตรงนี้ด้านหน้าติดถนน รถม้าเข้าออกสะดวกด้านหลังลากยาวไปจนติดภูเขา ถัดไปอีกสิบจั้งก็เป็นลำธาร ติดตรงที่พื้นที่ตรงนี้กว้างถึงห้าสิบหมู่ ในตอนแรกซูเจินจูค่อนข้างลำบากใจถ้าหากต้องซื้อที่กว้างขนาดนี้ นางกลัวว่าเงินที่นางมีอยู่จะไม่พอ แต่

    Last Updated : 2025-04-05
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 9

    “คุณชายหลินกลับไปแล้วหรือเจ้าคะ” สี่เสวี่ยที่เห็นซูเจินจูเดินเข้าเรือนมาก็รีบออกมาหาทันที“กลับไปแล้ว สี่เสวี่ยเจ้าไปเอาเงินข้าออกมานับเร็ว ดูสิว่าข้าเหลือเงินเท่าไหร่”“นับเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ วันนี้คุณหนูซื้อที่ดินสองร้อยตำลึง ให้ลุงหวังสิบตำลึง มัดจำค่าปลูกบ้านสามร้อยตำลึง ค่ารถม้าสามร้อยอีแปะ ซาลาเปายี่สิบลูกแปดสิบอีแปะ ขนมร้านเสี่ยวซือกวงสองตำลึง บะหมี่ของคุณหนูสองชามของบ่าวหนึ่งชาม สิบห้าอีแปะ คุณหนูจะเหลือเงิน สามร้อยเก้าสิบห้าตำลึงกับหกร้อยสิบห้าอีแปะเจ้าค่ะ บ่าวแบ่งเงินที่ต้องจ่ายช่างเฉินออกมาอีก สองร้อยเจ็ดสิบห้าตำลึง คุณหนูจะเหลือเงินหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึงกับหกร้อยสิบห้าอีแปะเจ้าค่ะ”“สี่เสวี่ย ต่อไปข้าคงต้องพึ่งพาฝีมือวาดรูปของเจ้า ให้เลี้ยงดูข้าเสียแล้ว” นางฟังที่สี่เสวี่ยเจื้อยแจ้วจัดการบัญชีให้นางดูเหมือนผู้จัดการตัวน้อย ทุกครั้งที่เงินในหีบนี้ลดลง สีหน้าของสี่เสวี่ยดูเจ็บปวดมากกว่านางที่เป็นเจ้าของเงินเสียอีก“หากคุณห

    Last Updated : 2025-04-05
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 10

    เมื่อไปถึงหมู่บ้านจั๋วมู่ ซูเจินจูพาหัวหน้าหมู่บ้านจั๋วมู่กับชาวบ้านอีกสามคนขึ้นไปดูต้นไม้ที่นางต้องการ“กลิ่นดอกไม้ที่เราได้กลิ่นกันมาจากต้นไม้พวกนี้หรือ” หลังจากที่มาถึงที่ กลิ่นหอมอบอวนทำให้ชาวบ้านแปลกใจ ใจนึงก็คิดว่าหากเป็นกลิ่นดอกไม้พวกนี้แล้วนางขุดไป ต่อไปจะไม่มีคนมาชมดอกไม้ที่หมู่บ้านอีกเป็นแน่“ไม่ใช่หรอกเจ้าค่ะท่านลุง กลิ่นพวกนี้เป็นกลิ่นจากดอกเหมยด้านล่างรวมกับกลิ่นความชื้นของป่าที่สมบูรณ์แห่งนี้เจ้าค่ะ แต่หากว่ามีคนขึ้นมาบนนี้บ่อยๆ ต้นไม้และเถาวัลย์ถูกเหยียบย่ำก็จะทำให้กลิ่นของดอกเหมยลอยออกไป ไม่ติดค้างอยู่ที่ที่เจ้าค่ะ ท่านลุงลองดมกลิ่นหญ้าพวกนี้สิเจ้าคะ หญ้าพวกนี้ก็มีกลิ่นเช่นเดียวกัน” ซุเจินจูไม่สามารถพูดความจริง หากนางบอกความจริงคนพวกนี้ไม่มีทางให้นางขุดต้นไม้พวกนี้แน่ นางทำได้พียงหาข้ออ้างที่แม้แต่นางก็ยังรู้สึกไม่น่าเชื่อ ก็ได้แต่ภาวนาในใจว่า หวังว่าท่านลุงทั้งหลายจะเชื่อข้านะเจ้าคะ“เป็นอย่างที่เจ้าว่า เห็นทีว่าไม่ว่าอะไรที่อยู่ตรงนี้

    Last Updated : 2025-04-06
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 11

    ซูเจินจูที่คุยกับฮูหยินรองจนหมดแรงเดินกลับมาที่เรือนก็เห็นว่าสี่เสวี่ยเตรียมข้าวของไว้เรียบร้อยแล้ว และยังไม่ลืมที่จะเตรียมเบาะรองนั่งอย่างดีไว้ให้นางถึงสี่ใบ“คุณหนูของที่ต้องเตรียมจากที่เรือนนี้ บ่าวเตรียมครบแล้วเจ้าค่ะ แต่ที่บ้านของคุณหนูไม่มีทั้งเครื่องเรือนแล้วครื่องครัว คุณหนูจะอยู่ลำบากเกินไปหรือไม่เจ้าคะ”“พรุ่งนี้ระหว่างทางก็แวะร้านค้าในตำบลเสียหน่อย ซื้อเครื่องนอนสองชุด ตะเกียงสี่ชุด เครื่องครัวก็ตามที่เจ้าเห็นสมควร ข้าวสาร ธัญพืชอีกเล็กน้อย แล้วก็แวะ

    Last Updated : 2025-04-06
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 12

    “พวกท่านให้บ่าวไปตามข้า มีอะไรหรือเจ้าคะ” ซูเจินจูเบื่อที่จะต้องเสแสร้งพูดจาสามส่วนเช่นนี้ นางอยากจะถามตั้งแต่ประโยคแรกที่มาถึงแล้วว่าเรียกนางมาทำไม นางไม่เข้าใจเหตุใดวาจาสามส่วนพูดอ้อมเจ็ดส่วนพวกนี้ถึงได้เป็นที่นิยมนัก“ข้าเพียงมาบอกเจ้าว่า พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปสอบก่งเซิ่น” เรื่องพวกนี้ต้องให้เขาเตือนด้วยหรือ นางที่จะเป็นเป็นสตรีของเขา เหตุใดจึงไม่ปักรองเท้าให้เขาเล่า ไม่ใช่ว่าเป็นที่รู้กันอยู่แล้วหรือว่ายามบุรุษไปสอบเคอจวี่ ต้องให้รองเท้าเป็นความหมายว่าให้เดินทางปลอดภัย หากการเย็บปักของนางไม่ดี อย่างน้อยเพียงผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนเพื่อเป็นความหมายว่านางรอเขากลับมาก็ควรต้องมีใช่หรือไม่ หรือนางต้องการใช้โอกาสนี้สนิทสนมกับไฉตงชุน จึงได้ทำเช่นนี้“อ่อ เช่นนั้นข้าขออวยพรให้ท่านเดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ” เอ้า ก็แค่ไปสอบ จะต้องมาบอกด้วยหรือ“เจินจูเอ๋อร์ เจ้าเสียมารยามใส่คุณชายหลินอีกแล้ว ดูน้องสาวคนนี้ของหนี่ย์เอ๋อร์สิเจ้าคะ จะเข้าไปเป็นสตรีของคุณชายอยู่แล้วยังขาดการ

    Last Updated : 2025-04-07
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 13

    หลังจากขึ้นรถม้ามา สี่เสวี่ยก็อดที่จะพูดพึมพำใส่ซูเจินจูได้ไม่“เข็มเงินร้านข้างนอกชุดละหกตำลึงเท่านั้นนะเจ้าคะคุณหนู”“ข้ารู้ แต่คุณภาพต่างกันมากนัก เข็มเงินของท่านอาฮุ่ยซิ่วทั้งตรง กลม และแหลมในขนาดที่สมส่วน ขนาดเข็มแต่ละเล่มก็มีความสั้นยาวสูงต่ำตามที่ข้าต้องการ หากไปซื้อร้านด้านนอก วันนึงก็ต้องกลับมาสั่งทำอยู่ดี เมื่อถึงวันนั้นต้นแบบก็ไม่มี ไม่รู้จะได้เข็มเงินที่ถูกใจเช่นนี้หรือไม่”“แต่ว่า คุณหนูใช้เงินจนจะหมดอีกแล้วนะเจ้าคะ เหลือเพียงหนึ่งร้อยสิบเอ็ดตำลึงเท่านั้น อีกทั้งกลับไปคราวนี้ยังต้องจ้างช่างเฉินมาทำสร้างห้องบ่าวไพร่ จะให้บ่าวไพร่มาอยู่ร่วมเรือนไม่ได้นะเจ้าคะ”“ข้ารู้แล้ว อย่างไรเสียช่วงนี้พวกเราก็ไม่ได้อยู่ สร้างก่อนสองห้อง สามวันก็คงเสร็จ”รถม้าพุ่งออกจากอำเภอเหอ แวะซื้อข้าวของจำเป็นที่ตำบลจางหนาน จ้างเกวียนเทียมวัวอีกหนึ่งคันเพื่อบรรทุกข้าวของ ก่อนมุ่งหน้าเข

    Last Updated : 2025-04-07

Latest chapter

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   50

    วันถัดมาในยามเฉิน เฟยอวี่เข้ามาหาซูเจินจูเพื่อรายงาน“คุณหนู บ่าวสืบข่าวมาได้เล็กน้อยเจ้าค่ะ พ่อค้าต่างแคว้นหลายคนเร่งเดินทางเข้าเมืองหลวง ของมีค่าหลายอย่างถูกขนเข้าเมืองหลวงผ่านขบวนขนสินค้า จุดหมายคือตรอกถงยู่ ที่เป็นแหล่งจัดงานประมูลของตลาดมืด นี่เป็นของรายการของส่วนหนึ่งที่บ่าวได้มาจากบัญชีส่งสินค้าเจ้าค่ะ”“งานประมูลของตลาดมือหรือ น่าสนใจ เจ้ารู้เรื่องงานนี้ดีแค่ไหน”“บ่าวเคยได้ยินว่าเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อประมูลของหายาก มีทั้งโสมพันปี อาวุธต่างๆ หยกม่วง หินแร่ รวมถึงหัวของผู้ครองแคว้นก็เคยถูกนำมาประมูลเจ้าค่ะ การจะเข้าร่วมประมูลได้ต้องจ่ายเงินค่าเข้าคนละหนึ่งพันตำลึง และหากมีของที่ต้องการนำเข้าประมูลก็นำของไปประเมิณได้เช่นกันเจ้าค่ะ”“เจ้าทำงานได้ดีมาก พักสักหน่อยแล้วออกเดินทางไปรอข้าที่เมืองหลวง สืบข่าวเรื่องการประมูลให้ข้า และจองโรงเตี๊ยมที่ปลอดภัยที่สุดเอาไว้ให้เพียงพอกับคนของเรา ข้าจะพาสี่เสวี่ย เฟยหลัน เฟยหรง เฟยเมี่ยว หลิวหยาง จางหมิ่นไป”“บ่าวรับคำสั่งคุณหนูเจ้าค่ะ” เฟยอวี่รับตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงจากซูเจินจูก่อนจะออกจากห้องไป คล้อยหลังเฟยอวี่ออกไปไม่ถึงหนึ่งเค่อซูเจินจูก็ตรง

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   49

    “เฟยอวี่ การเข้าเมืองหลวงต้องใช้ป้ายผ่านเข้าเมืองด้วยหรือ”“จริงๆแล้วไม่ต้องใช้เจ้าค่ะคุณหนู แต่ชาวบ้านทั่วไปหากต้องการผ่านเข้าเมืองหลวงจะต้องเสียอีแปะเป็นค่าผ่านทางให้กับทหารเฝ้าประตู เสียเยอะหรือเสียน้อยแล้วแต่ว่าผู้เฝ้าประตูเป็นใคร ส่วนป้ายผ่านเข้าเมืองเป็นเพียงชื่อเรียกเท่านั้นเจ้าค่ะ ในความเป็นจริงแล้วป้ายพวกนี้มีขึ้นเพื่อให้คนมีเส้นสายสามารถผ่านเข้าออกเมืองโดยไม่ต้องเสียอีแปะ ไม่ต้องต่อแถว ไม่ต้องตรวจค้นสัมภาระอย่างละเอียดและได้รับความเคารพจากทหารเฝ้าประตู รวมถึงป้องกันไม่ให้พวกทหารสร้างปัญหากับพวกคนรวยและขุนนางด้วยเจ้าค่ะ”“อ่อ แค่ยื่นป้ายออกไปก็ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วยแล้วสินะ ช่างดีจริงๆ”“นายน้อยหงคงเหลือเส้นสายอยู่ไม่น้อยถึงขนาดใจกว้างทำป้ายให้คุณหนูได้ง่ายๆ”“เขาเห็นข้าเป็นโอกาสที่จะช่วยร้านผ้าฟู่หงเทียนกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งต่างหาก เจ้าไปเตรียมตัวเถอะ ออกไปสืบข่าวดูสักหน่อยก็ได้ ไปเมืองหลวงครั้งนี้ข้าจะพาเจ้า สี่เสวี่ย หลิวหยาง จางหมิ่น เฟยหรง เฟยเมี่ยว และเฟยหลันไปด้วย บอกเพ่ยเพ่ยกับเยว่ชิงเสียแต่เนิ่นๆให้นางได้เตรียมตัวจัดการงานและดูแลเรื่องต่างๆทั้งหมดที่นี่ตอนที่พวกเรา

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   48

    “พ่อหนุ่มเจิ้งผู้นี้ดูมีลับลมคมในเหลือเกินนะเจ้าคะ จะว่าไปพ่อหนุ่มเจิ้งเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องของตน แม่แต่แซ่ก็ไม่บอก ชื่อเจิ้งก็ไม่รู้ว่าใช่ชื่อจริงหรือไม่”“นั่นสิเจ้าคะคุณหนู คุณหนูเองก็แปลกนัก แค่พ่อหนุ่มเจิ้งบอกจะมาด้วยก็ปล่อยให้มา บอกจะไปก็ไม่ถามไถ่สิ่งใดสักคำ”“ช่างเขาเถอะ เพียงแค่ไม่มีพิษภัยกับพวกเราก็พอแล้ว เรื่องอื่นๆรู้มากไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี”“เจ้าค่ะคุณหนู”ซูเจินจูพาเจียงไป๋ไปยังห้องที่เจียงชิงนอนอยู่และให้ซินเซียงยกที่นอนอีกหนึ่งอันมาวางข้างเตียงเพื่อให้พี่น้องได้นอนห้องด้วยกัน“เจ้านอนห้องเดียวกันไปก่อน ช่วงนี้ก็คอยดูแลนาง ข้างๆห้องเจ้าคือห้องของชิงหยุน มีอะไรก็ไปหานางได้ สี่เสวี่ยเจ้าไปบอกให้ซินเซียงหาอะไรให้เด็กนี่กินเสียหน่อยเถอะ”“เจ้าค่ะคุณหนู”เจียงไป๋มองคนทั้งหมดทยอยออกจากห้องไปก่อนจะหันกลับมานั่งข้างเตียงของเจียงชิง“พี่สาว ท่านรีบตื่นขึ้นมานะ…”... เช้าวันต่อมาซูเจินจูเดินทางเข้าร้านหว่างลี่เซียงพร้อมเฟยหลันตั้งแต่ยามเฉิน กิจการของร้านหว่านลี่เซียงเป็นไปด้วยดี คนที่ดูเหมือนจะทะเลาะกับผู้อื่นได้ง่ายๆอย่างเพ่ยเพ่ยกลับทำงานได้อย่างสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นก

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   47

    “มองอะไร พวกเจ้ามองอะไร ไอ้พวกไม่รู้เรื่องรู้ราว เด็กมันมีวาสนาได้ช่วยเหลือสกุล เลี้ยงมันต่อไปก็ไม่ใช่ว่ามันจะหาเงินให้ข้าได้ถึงยี่สิบตำลึงเสียเมื่อไหร่ ต้องมากินข้าวบ้านข้านอนบ้านข้าไม่สู้ไปกินบ้านอื่นนอนบ้านอื่นแล้วยังได้เงินรึ แล้วเงินที่มันถืออยู่ไม่ใช่ว่าขโมยของข้าไม่หรือไงเด็กอย่างพวกมันจะเอาปัญญาหาเงินมากมายขนาดนี้ได้ที่ไหน เอาเงินข้าคืนมานะไอ้พวกเด็กตัวเหม็น”“ท่านย่านี่เป็นเงินที่พี่สาวหามาได้ ไม่ได้ขโมยเงินของท่าน”“นั่นมันเงินโชคดีที่แม่หนูเจินจูแจกไม่ใช่หรือ บ้านข้าก็ได้มาสองพวง ไหมถักแบบนั้นรูปทรงแบบนั้น ข้าจำไม่ผิดหรอก” ชาวบ้านที่มุงดูอยู่พูดขึ้น“ใช่ ข้าเองก็จำได้ นั่นมันพวงเงินที่แม่หนูเจินจูแจกเมื่อวันเกิด” หัวหน้าหมู่บ้านหวังสำทับขึ้น ชาวบ้านที่มุงดูอยู่ต่างเคยได้รับพวงเงินโชคนี้ทุกคนล้วนเป็นพยายานให้เด็กน้อยว่าเขาไม่ได้ขโมยเงินของแม่เฒ่าเจียง“เหอะ เอาเข้าบ้านข้าก็ต้องเป็นของข้านั่นแหละ อาไป๋ เข้าบ้าน เหม่ยเหมย เสี่ยวเจี๋ยลากนังเด็กชิงเข้าบ้าน”“แม่เฒ่าเจียง รอเดี๋ยวก่อนเถอะ ข้าขอเจรจาเรื่องเด็กสองคนนี้สักประโยคหนึ่งได้หรือไม่” ซูเจินจูพูดยังไม่ทันจบ เฟยหลันก็เอาตัว

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   46

    การค้าของร้านหว่านลี่เซียงเต็มไปด้วยความราบลื่น ที่ควรขายได้ขาย ที่ควรสงบก็สงบ กว่าลูกค้าคนสุดท้ายจะออกจากร้านก็เป็นยามโหย่ว หลังจากปิดร้าน เหล่าคนงานที่หมดแรงมานั่งรวมกันอยู่ที่กลางร้าน ซูเจินจูลากเก้าอี้มานั่งก่อนจะขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการเปิดร้านวันแรกจนทุกอย่างผ่านไปด้วยดี วันนี้ถุงหอมขายได้หกร้อยหกใบ เป็นเงินหนึ่งหมื่นสองพันหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึง การขายได้จำนวนมากตั้งแต่วันแรกนับเป็นเรื่องดีแต่ซูเจินจูกังวลว่าหากขายดีเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่สามารถผลิตมาขายได้ทันสี่เสวี่ยรับหน้าที่สอนเยว่ชิงวาดลายผ้าและผสมสีผ้าไหมหอมหมื่นลี้ เมื่อเชี่ยวชาญแล้วเยว่ชิงจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลผ้าไหมหอมหมื่นลี้พวกนี้แทนสี่เสวี่ย อีกทั้งสี่เสวี่ยยังต้องคุมคนงานเย็บปัก และติดป้ายรับสมัครหญิงสาวที่เชี่ยวชาญงานเย็บปักมาปักถุงหอมหมื่นลี้ที่ร้านหว่านลี่เซี่ยงด้วยเฟยหรงและเฟยเมี่ยวที่เพิ่งได้ข่าวพรรคพวกอีกหนึ่งคนด้วยเห็นว่าพรรคพวกที่เจอนั้นถูกซื้อตัวไปด้วยชายชราที่อยู่กับหลานชายหนึ่งคนบนกระท่อมบนเขา นางไม่ได้ลำบากหรือโดนทำร้ายจึงพักการติดต่อแล้วหันมาช่วยซูเจินจูดูแลร้านหว่านลี่เซียงไปก่อน“เอาล

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   45

    “องค์ชายหก ท่านช่างเป็นดาวนำโชคของพวกข้านัก” ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณชายเซียวพูดขึ้นขณะที่ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ยาวที่ปูทับด้วยเบาะรองนั่งขนกระต่าย เบาะรองนี้ซูเจินจูสั่งให้ซินเซียงทำขึ้นจากขนกระต่ายสีอื่นๆเย็บติดสวมทับเบาะด้านในที่ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายยัดใส่ด้วยนุ่นที่ซื้อไปจากตำบลอีกที ที่สี่มุมผูกด้วยพู่หลากสีที่ทำขึ้นด้วยพู่ไหมจากเผ่าเจี๋ยที่ซูเจินจูได้รับมาจากนายท่านซูเมื่อครั้งออกไปทำการค้าต่างแคว้น“นั่นสิเพคะ หากไม่มีพระองค์พวกหม่อมชั้นคงต้องต่อแถวยาวหลายลี้ ตากแดดตากลมอยู่ด้านนอกเสียแล้ว” ผิงเหม่ยเหรินพูดขึ้นขณะพยักเพยิดไปท่างลี่รุ่ยเซียงสหายรักแต่ยังไม่ทันที่ลี่รุ่ยเซียงจะได้พูดอะไร องค์ชายหกก็หันกลับไปพูดคุยกับหญิงสาวอีกคนที่นิ่งเงียบมาตลอด“จิวอิง เหตุใดเจ้าจึงเงียบนัก คนงานนั่นก็บอกแล้วว่าเป็นถุงหอมหมื่นลี้ ไม่ใช่ผ้าไหมหอมหมื่นลี้เสียหน่อย หรือเจ้ากลัวว่าพวกข้าติดใจผ้าไหมหอมหมื่นลี้จนลืมผ้าไหมหยกของเจ้า”“หามิได้เพคะ ขอเพียงองค์ชายหกทรงพอพระทัย หม่อมฉันจะกล้าไม่พอใจได้เช่นไร”“คุณหนูเจ้าคะ มีกลุ่มคุณหนูคุณชายดูว่าจะมาจากเมืองหลวง อ้างตัวว่าเป็นองค์ชายหก ตอนนี้บ่

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   44

    เช้าวันต่อมา หลิวหยางรับหน้าที่ขับรถม้าคันใหม่พาซูเจินจู สี่เสวี่ย เฟยหลัน และเฟยอวี่เข้าพบฮูหยินนายตำบลที่จวนนายตำบลเป่ย เมื่อมาถึงหน้าจวนนายตำบลหลิวหยางลงไปแจ้งกับคนเฝ้าประตูว่าคุณหนูของตนแซ่ซูชื่อเจินจูนำผ้าไหมหอมหมื่นลี้มาขอเข้าพบฮูหยิน พร้อมให้เงินหนึ่งตำลึงแก่คนเฝ้าประตู เงินหนึ่งตำลึงเร่งฝีเท้าคนให้ไวได้ดังม้า ไม่ถึงสองเค่อคนเฝ้าประตูก็ออกมาเปิดประตูให้ให้รถม้าเข้าไปซูเจินจูสวมชุดผ้าไหมหยกสีขาวปักลายนกกระยาง ลายปักละเอียดเพียงดูผ่านๆก็ยังสามารถรู้ได้ว่าเป็นงานปักชั้นสูง ผมรวบขึ้นอย่างประณีตปักด้วยปิ่นหยกขาวเนื้อดีหนึ่งคู่ที่ดูเข้ากันได้ดีกับกำไลหยกขาวที่ข้อมือ ผิวขาวราวหยก ขนตาเป็นแพหนาสีดำ ปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อยิ่งทำให้ซูเจินจูงดงามจนคนที่ได้เห็นไม่สามารถละสายตาไปได้สี่เสวี่ย เฟยหลัน เฟยอวี่ ผู้ติดตามทั้งสามคนสวมชุดผ้าไหมเฉกเช่นคุณหนูจากจวนใดจวนหนึ่ง เฟยหลันที่รอยแผลเป็นบนใบหน้าหายดีแล้วยิ่งดูงดงามและลึกลับเมื่อสวมชุดผ้าไหมสีน้ำเงิน ปักด้วยปิ่นเงินลายดอกหลันฮวาเดินคู่มากับเฟยอวี่ในชุดผ้าไหมสีเดียวกันรวมผมขึ้นอย่างเป็นระเบียบปักด้วยปิ่นเงินลายเมฆา สี่เสวี่ยที่ตามรับใช้ใกล้ชิ

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   43

    ซูเจินจูฝั่งร้านผ้าซูเตี้ยนได้สั่งให้คนงานไปซื้อผ้าไหมหอมหมื่นลี้ของร้านผ้าเฉินอี้เตี้ยนมาหนึ่งพับ เมื่อสำรวจดูแล้วพบว่ากลิ่นของผ้าไม่ใช่กลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้แต่เป็นกลิ่นของดอกเหมย อีกทั้งลายผ้าไม่คมชัดคงเป็นการวาดลายลงไปโดยตรง การใช้สีอ่อนเช่นนี้จะทำให้ลายผ้ามีสีซีดได้ง่าย อีกทั้งกลิ่นดอกเหมยไม่สามารถเกาะติดผ้าได้ดีเท่ากลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้ เวลาผ่านไปสักพักกลิ่นก็คงจางหายไปเอง ดังนั้นผ้าไหมพวกนี้ไม่สามารถนับเป็นคู่แข่งอย่างแท้จริงได้หลงจู๊ฝูที่ออกไปสืบข่าวด้วยตนเองกลับมาพบนายท่านซูละซูเจินจูด้วยสีหน้าสบายใจ“เห็นทีว่าคุณหนูจะพูดถูกทุกอย่างเลยขอรับ ผู้ที่ซื้อผ้าไหมหอมหมื่นลี้จากร้านเฉินอี้เตี้ยนไปกลับมาโวยวายที่ร้านเหตุเพราะเพียงนำผ้าไปซักเท่านั้น กลิ่นที่ควรมีก็ไม่มีอีกต่อไป เห็นทีว่าร้านผ้าเฉินอี้เตี้ยนจะเสียชื่อเสียครั้งใหญ่เป็นแน่”“เช่นนั้นข้าค่อยสบายใจหน่อย เอาล่ะ เมื่อหมดเรื่องแล้วเห็นทีว่าถึงเวลาไปเอาผ้าเสียที เจ้าล่ะ อาจู จะไปเอาผ้าหอมไหมหมื่นลี้อีกเมื่อใด”“ข้าให้เฟยหลันไปเอาผ้าแล้วเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ก็คงนำผ้ากลับมาแล้ว เห็นทีว่างานปักงานแรกคงเป็นการตีตราร้านลงบนผ้าเสียแล้วน

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   42

    “คุณหนู บ่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” เฟยหลันมองเฟยหมิงที่อยู่บนเตียงแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก ลมหายใจของนางดีขึ้นมากแล้ว คุณหนูรักษานางได้จริงๆซูเจินจูรับเข็มเงินและโถบดยาไปก่อนจะสั่งให้เสี่ยวเหลียนนำเข็มเงินไปต้มในน้ำร้อนและให้เฟยหลันกรีดผ้าที่ขาของเฟยหมิงออก“กระดูกขาของนางแตก หากนางทนอยู่เฉยๆ ไม่ขยับขาสักสามเดือนขาของนางก็จะกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม”“นางยังจะกลับมาเดินได้อีกหรือเจ้าคะ”“ต้องนอนนิ่งๆอยู่แบบนี้ไปก่อนสามเดือน หากขยับเขยื้อนก่อนหน้านั้นก็อาจจะเดินไม่ได้”“คุณหนูเหมือนหมอเทวดาเลยเจ้าค่ะ”“เจ้าจะร้องไห้ทำไม ไอหย๋า ข้าแพ้น้ำตาของพวกเจ้านัก หยุดร้องเถอะข้าจะให้เสี่ยวเหลียนไปซื้อขนมให้เจ้ากิน”“คุณหนู บ่าวแค่ดีใจมากไปเจ้าค่ะ แต่เดิมบ่าวแค่ต้องการฝังศพนางให้ดีเสียหน่อย ใครจะรู้ว่าคุณหนูดึงวิญญาณนางกลับมาจากนรกได้”“เพ้ย เจ้านี่ ตายแล้วไม่ให้นางขึ้นสวรรค์แต่กลับให้นางไปลงนรก เอาล่ะๆ เจ้าไปบดยากองนั้นเถอะ เดี๋ยวข้าฝังเข็มเสร็จแล้วต้องพอกยาให้นาง”“ทั้งหมดเลยหรือเจ้าคะ มัน เยอะมากเลยนะเจ้าคะ”“ทั้งหมดนั่นแหละพอกทั้งขาแล้วเอาผ้ามาพันเข้ากับไม้แผ่นเสียหน่อย กระดูกจะได้ไม่เคลื่อนที่มากนัก”

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status