LOGINหลายชั่วโมงต่อมา
ร่างบางในชุดกางเกงยีนส์ขาสั้น และเสื้อยืดสีขาวเอวลอยที่แสนจะธรรมดา แต่พอไปอยู่บนร่างบางผิวขาวเอวเล็กของข้าวตังแล้วนั้น หนุ่มๆ ที่มาเที่ยวงานวัดที่เดินผ่านไปมาถึงกับต้องมองเหลียวหลัง เพราะร่างบางที่ยืนถือปืนพร้อมยิงเจ้าตุ๊กตาดุ้กดิ้กนั้น ใบหน้าสวยหวานจับใจ ด้านข้าวตังตอนนี้ฉันและยัยน้อยหน่าก็หนีออกมาเที่ยวเล่นที่งานวัด ซึ่งงานที่ถูกจัดขึ้นนั้นห่างจากบ้านคุณย่าประมาณ 5 กิโล ถึงจะห่างแต่นั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคของคนหนีเที่ยวอย่างฉันหรอกนะ
มือเรียวของข้าวตังจับกระบอกปืนสายตาเล็งไปที่ตุ๊กตาสีชมพู และนี้เล่นหมดตังจะห้าร้อยบาทแล้วก็ไม่มีท่าทีว่าเธอและน้อยหน่านั่นจะได้สักตัว
!! ปัง ปัง !! ก็ไม่โดนเป้าอีกตามเคย น้อยหน่าล่วงเข้าที่กระเป๋ากางเกง
"พี่ข้าว เหลือหนึ่งร้อยบาทสุดท้ายแล้วนะ นี้พี่ข้าวไม่เหลือตังกินลูกชิ้นบ้างเหรอ" น้อยหน่าเอ่ยด้วยสีหน้าเศร้า ที่ตอนนี้เธอและข้าวตังหมดตังกับการยิงตุ๊กตาไปหลายร้อยแต่ก็ไม่ได้ตุ๊กตามาถือโชว์สาวๆ แถวนี้สักตัว
"เออ น่าสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ได้ลูกนี้ ฉันจะกลับแล้วจริงๆ" ข้าวตังเอ่ยกับรุ่นน้อง
!! ปัง !!
"ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหนแน่เลย" ข้าวตังได้แต่มองตุ๊กตาคิตตี้สีชมพูตัวโปรดที่ตนอยากได้ตาละห้อย เพราะสุดท้ายเธอก็ยิงไม่โดนเป้า
10 นาทีก่อนหน้า
ร่างสูงในชุดกางเกงสีเข้มและเสื้อยืดตัวโปรด ด้านธีร์ณัฐวันนี้ผมได้มาปฏิบัติหน้าที่ดูแลงานพร้อมกับจ่าเข้ม แต่ขณะที่ร่างสูงเดินสำรวจภายในงานและซุ้มขายของ เครื่องเล่น นานาชนิดนั้น สายตากับสะดุดเข้ากับร่างบางเสื้อยืดเอวลอยสีขาว ที่ยืนมือถือปืนพร้อมยิงตุ๊กตาต่อหน้าของตน เท้าที่จะก้าวเดินกับต้องหยุดชะงักสายตาคมจับจ้องไปยังร่างบางของคนตัวเล็กที่ยืนยิงปืนกับเพื่อนของเธอด้วยท่าทีตั้งอกตั้งใจ แต่นั้นก็ไม่มีท่าทีจะโดนตุ๊กตาสักตัว
"ไม่โดนอีกแล้ว นี่ตัวจะหมดแล้วนะ สาธุ ลูกนี้ขอให้โดนทีเถอะ เพี้ยง" เสียงของข้าวตังที่ดังแว่วมา
ด้านธีร์ณัฐที่เห็นท่าทีของข้าวตังที่ต้องพึ่งไสยศาสตร์เช่นนั้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของผู้กองหน้านิ่งถึงกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปากหยักราวกับไม่รู้ตัว
!! ปัง !!
"ไม่โดนอีกแล้วอะพี่ข้าว"
"หมดกันตังฉัน" เสียงสองสาวที่คุยกัน
ด้านจ่าเข้มที่สังเกตเห็นสีหน้าและแววตาของเจ้านายหนุ่มจับจ้องไปที่ร่างบางเอวเล็กอย่างข้าวตังนั้น ถึงกับมองตามใบหน้าขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทีสงสัย แต่ก่อนที่จ่าเข้มจะเอ่ยอะไรออกไปนั้นก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อจู่ๆ ผู้กองธีร์ณัฐกับเดินมาหยุดที่ร้านยิงตุ๊กตา
ด้านข้าวตังที่เห็นผู้กองหน้าหล่อเดินมาหยุดต่อหน้าของฉันนั้น ร่างบางถึงกับชะงัก นี้เป็นแต้มบุญของฉันหรืออะไร ที่เราบังเอิญเจอกันอีกแล้ว ข้าวตังที่เห็นผู้กองหน้าหล่อเดินเข้าหาเช่นนั้นร่างบางถึงกับเสียอาการไปชั่วขณะ ผู้คนที่เดินผ่านไปมา แต่สายตาของฉันกับมองไม่เห็นใครเลย นอกจากหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้า ร่างบางสบตาเข้ากับคนตรงหน้าอย่างไม่ยอมละสายตา
ด้านธีร์ณัฐที่ถูกเด็กสาวจ้องหน้าตนเช่นนั้น
" ฮืม..." เสียงเข้มเอ่ยออกมา ขณะที่ฝ่ามือหนาจับเข้าที่กระบอกปืนพร้อมยิง
"จะเอาตัวไหน บอกได้เลย" เสียงเข้มเอ่ยกับคนตรงหน้า ข้าวตังที่ได้ฟังเช่นนั้น ใบหน้าสวยถึงกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาด้วยท่าทีตื่นเต้น
"นี้ผู้กองจะยิงให้ฉันเหรอ" ข้าวตังเอียงคอถามเขา ธีร์ณัฐถึงกับพยักหน้าให้เธอเป็นคำตอบ
"ตัวสีชมพูตัวนั้นเลยค่ะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับชี้มือไป ด้านธีร์ณัฐเมื่อข้าวตังเอ่ยเช่นนั่น
!! ปัง !!
"เย้..."
ฝ่ามือหนาหยิบตุ๊กตาขึ้นมาและยื่นมันให้กับเธอ
"รับไปสิ อยากได้ไม่ใช่เหรอ" เสียงเข้มเอ่ยกับคนตัวเล็ก ทั้งสองสบตากัน
"ให้ฉันเหรอคะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันสดใสให้กับเขาที่ยื่นตุ๊กตาคิตตี้ให้กับเธอ
"อืม...ฉันให้เธอ"
"ขอบคุณค่ะ" เสียงหวานเอ่ยตอบ ด้านข้าวตังที่ในชีวิตนี้ฉันไม่เคยรับพวกดอกไม้ ตุ๊กตาจากผู้ชายคนไหนนอกจากพ่อและพี่ชาย เมื่อมีผู้กองหน้าหล่อๆ เบ้าหน้าฟ้าประทาน หล่อตะโกนให้อะไรแบบนี้ ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คืองานวัดฉันคงเก็บอาการไว้ไม่อยู่แน่เลย ผู้ชายบ้าอะไร หล่อใจดี ตัวหอมกอดอุ่นอีก หน้าอกแกร่งหนาๆ อยากจะซุกวันละหลายๆ รอบ ข้าวตังถึงกับจ้องหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ทุกอย่างของฉันราวกับว่าโลกหยุดหมุน แบบนี้หรือเปล่าที่เรียกว่า จังหวะตกหลุมรัก
"ได้ตุ๊กตาแล้ว ก็รีบกลับบ้านเถอะนี้มันดึกแล้ว" จ่าเข้มที่เห็นทั้งสองนิ่งชะงักไปนั้นถึงกับเอ่ยขึ้นมา ทำให้ข้าวตังและธีร์ณัฐนั้นได้สติ
"ฉันพึ่งจะมาเองนะจ่าเข้ม ขอเดินเที่ยวแถวๆ นี้ก่อนละกัน แต่จะว่าไปแล้ว ฉันอยากได้ตุ๊กตากบตัวสีเขียวๆ อีกตัวนะคะ" ข้าวตังหันไปเอ่ยกับธีร์ณัฐด้วยรอยยิ้มอันสดใส
ด้านธีร์ณัฐสายลมที่พัดผ่านเข้ามาเผยให้เห็นใบหน้าเรียวสวยที่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันหน้าหลงไหล ทำเอาธีร์ณัฐถึงกับละสายตาออกจากคนตรงหน้าไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ร่างสูงถึงกับเสียอาการไปชั่วขณะ แต่ก่อนที่ในหัวของธีร์ณัฐจะคิดอะไรไปมากกว่านี้นั้น เสียงของเธอก็ดังขึ้นมาทำให้เขานั้นได้สติ
"อีกตัวนะคะ นะนะ" ข้าวตังเอ่ยด้วยเสียงอ้อน ด้านธีร์ณัฐที่ไม่เคยถูกสาวเอ่ยเสียงหวานอ้อนมานานนับหลายปีนั้นถึงกับชะงัก
"ฉันยิงให้เธอไปตัวหนึ่งแล้ว นี้ยังไม่พออีกเหรอ"
"ยังหรอกค่ะ ผู้กองยิงแม่นแบบนี้ ฉันจะเอาให้หมดร้านเลย" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเอียงคอหันมายิ้มให้กับเขา เมื่อเป็นเช่นนั่นธีร์ณัฐจึงแบมือให้เธอ
"เอาตังมาสิ" ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่มุมปากหยัก แต่นั้นกับทำให้เขาดูดีมีเสน่ห์อย่างน่าหลงไหลทำเอาข้าวตังถึงกับหยุดมองใบหน้าอันหล่อเหลานี้ไม่ได้ ธนบัตรใบยี่สิบบาทถูงวางที่ฝ่ามือหนาของธีร์ณัฐ
"ฉันเหลือติดตัวแค่นี้ค่ะ" ด้านธีร์ณัฐที่เห็นเช่นนั้นถึงกับหลุดขำออกมา ใครจะเชื่อลูกสาวนักการเมืองชื่อดังอย่างเธอ จะเหลือตังติดตัวแค่นี้จริง แต่นั้นเขาก็รับมา
"แต่ฉันไม่ยิงให้เธอหรอกนะ ครั้งหน้าเธอจะได้ยิงได้เองโดยไม่มีฉัน" ร่างสูงเอ่ยจบฝ่ามือหนาถือวิสาสะจับเข้าที่แขนเรียว
!! พรึบ !! ร่างสูงยืนซ้อนโอบคนตัวเล็กจากด้านหลัง ในท่ายิงปืน สายตาคมจ้องมองไปยังตุ๊กตาตัวสีเขียว แต่สายตาของคนตัวเล็กกับมองที่หน้าหล่อๆ ของเขาแทนตุ๊กตาตัวนั้น
ด้านข้าวตังที่ถูกธีร์ณัฐผู้กองใบหน้าหล่อเหลาทำเช่นนั้น ตากลมเล็กถึงกับเบิกกว้างออกมาด้วยท่าทีตกใจ ไม่ใช่เพียงแค่เธอที่ตกใจ น้อยหน่า จ่าเข้มที่เห็นเช่นนั้นถึงกับชะงัก อึ้งไปตามๆ กัน
!! ตึก ตึก !! หัวใจดวงเล็กของฉันถึงกับเต้นแรงขึ้นมาไม่เป็นจังหวะ ที่ตอนนั้นเขาอยู่ในท่าโอบตัวฉัน ฉันอยากจะกรี๊ดออกมาเสียตรงนี้ไปเลย
"จะมองหน้าฉันอีกนานไหม..." เสียงทุ่มเอ่ยออกมา ทำให้คนเหลือบมองนั้นได้สติ
"ปะ...ป่าวค่ะ" เมื่อโดนเขาจับได้เช่นนั้น ข้าวตังถึงกับทำหน้าไม่ถูก มือเรียวที่จับกระบอกปืนด้วยท่าทีสั่นไหว ใบหน้าสวยถึงกับแดงซ่านขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอาย
"สายตาเล็กมองไปที่เป้า จิตใจไม่วอกแวก"
!! ปัง !!
ด้านสาวๆ ที่มาเที่ยวงานวัด เห็นผู้กองใบหน้าหล่อเหลาสอนยิงตุ๊กตาให้ข้าวตังเช่นนั้น ทำเอาสาวๆ ที่เห็นถึงกับอมยิ้ม และรู้สึกอิจฉาข้าวตังไปตามๆ กัน เพราะดูยังไงข้าวตังและผู้กองธีร์ก็ดูเหมาะสมกันมาก เล่นเอาซะไม่มีสาวๆ คนไหนกล้าแข่งเลย
“ไอศครีมด้วยงับ ปะป๊า” ด้านคนน้องที่คุณพ่อสัญญาไว้กับตนเมื่อก่อนหน้านั้นกับไม่ยอมเช่นกัน“เอาสิยอมกันได้ที่ไหน” ข้าวตังหันมองทั้งสามหนุ่ม เมื่อเจอเจ้าสองแสบทวงสัญญาแบบนี้ดูสิว่าปะป๊าธีร์ณัฐของพวกเขาจะทำยังไง คนพี่จะกินเคเอฟซี คนน้องจะกินไอศครีม หม่ามี้คนสวยถึงกับส่ายหัวให้กับเจ้าตัวแสบ และก็เป็นเช่นนี้แทบจะทุกวันที่หลังเลิกเรียนลูกๆ ของเธอจะงอแงทานของอร่อย“หม่ามี้ว่าไงคับ” ธีร์ณัฐหันมาถามความเห็นภรรยา เพราะเย็นนี้ที่คฤหาสน์มีงานเลี้ยงเล็กๆ ปาร์ตี้วันเกิดครบ 63 ปีของคุณปู่ ธีร์ณัฐเกรงว่าตนจะพาลูกๆ และภรรยานั้นถึงบ้านช้า“ข้าวได้หมดแล้วแต่พี่ธีร์เลยค่ะ” ด้านธีร์ณัฐเมื่อภรรยาเอ่ยมาเช่นนั่น คนกลัวผิดสัญญาต่อลูกๆ ถึงกับยอมใจอ่อนแวะร้านโปรดของลูกๆ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงสองหนุ่มน้อยก็ทานพร้อมกับยื่นพุงป่องๆ ให้กับหม่ามี้ดู“พี่คีตะ พี่เควิน ทานเยอะแบบนี้หม่ามี้จะอุ้มไม่ไหวแล้วนะคะ” ข้าวตังเอ่ยขณะที่ลูกๆ นั้นจะให้เธออุ้มโดยเฉพาะแฝดคนเล็ก ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่เห็นหน้าอ้อนๆของลูกก็ยอมใจอ่อนอุ้มอยู่ดี ส่วนอีก คนพอเห็นหม่ามี้อุ้มน้องก็ไม่น้อยหน้ายกแขนให้ปะป๊าอุ้มเช่นกัน แต่ขณะที่ข้าวตังและธีร์ณัฐอุ้
~ 1 เดือนต่อมา ~ ด้านข้าวตังและวันนี้ก็มาถึงวันที่เจ้าสองแสบของฉันไปเนอร์สเซอรี่วันแรกเจ้าสองแสบพออยู่ในชุดนักเรียนยูนิฟอร์มตัวน้อยแล้วคือน่ารักสุดๆ เล่นเอาซะก่อนออกจากบ้านสองหนุ่มน้อยของฉันโดนคุณปู่คุณย่าฟัดแก้มป่องๆ ไปกันหลายที ถึงสองหนุ่มฉันจะรับปากคุณปู่คุณย่าว่าจะไม่งอแงร้องไห้เป็นเด็กดีแต่นั้นฉันก็ยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่หรอกให้ถึงเนอร์สเซอรี่ก่อนเป็นอันรู้เรื่อง ส่วนค่าเทอมค่าใช้จ่ายของเด็กๆ ก็เป็นคุณปู่คุณย่าดูแลให้กับหลานๆ ทุกคนร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสวมกางเกงขาสามส่วนสบายๆ วันนี้พี่ธีร์และฉันเราลางานเพื่อมาส่งเด็กๆ เมื่อพี่ธีร์พาพวกเรามาถึงที่หมายแล้วนั้น ข้าวตังได้แต่มองสองหนุ่มน้อยของเธอด้วยสีหน้าลุ้นสุดๆ“พี่คีตะ พี่เควิน สัญญากับปะป๊าหม่ามี้ก่อนนะครับว่าจะไม่งอแงและไม่ร้องโยเย โอเคไหมคะลูก” เสียงหวานเอ่ยกับเด็กๆ ขณะที่สำรวจเจ้าสองแสบที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของเนอร์สเซอรี่นานาชาติ ที่ยิ่งมองสองหนุ่มน้อยของฉัน ยิ่งหล่อเหลาเอาการเหมือน อปป้าเกาหลี“มะร้องงับหม่ามี้ คีจะมะร้อง น้องก็จะมะร้อง” เด็กน้อยคนพี่เอ่ยกับมารดาเป็นคำสัญญาว่าตนจะไม่ร้องไห้“ถ้าน้องร้องคีจะปลอบน้อง
1 ชั่วโมงต่อมาด้านข้างตังเป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดก่อนที่จะออกจากบ้านพาเจ้าสองแสบไปดูโรงเรียนก็ถูกสามีคนหื่นจัดจับกินไปหนึ่งรอบ ทำเอาเช้านี้คุณแม่ลูกสองถึงกับงอนสามี ขณะที่ธีร์ณัฐขับรถพาภรรยาและเด็กๆ ไปยังเนอร์สเซอรี่ที่คุณย่าปาสิตาดูไว้นั่น“พี่ธีร์รู้ตัวไหมคะ ว่าตัวเองนะสาย ข้าวนัดกับคุณครูไว้เก้าโมงครึ่ง นี้เราเรทมาหลายนาทีแล้วนะคะ” ข้าวตังที่นั่งหน้าข้างคนขับถึงกับต่อว่าสามี แต่นั้นคนถูกบ่นกับมีสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนๆ ขับรถผิวปากฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดี และมีเสียงหัวเราะของสองหนุ่มน้อยที่ชอบให้ปะป๊านั่นฮัมเพลงให้ฟัง“คริ คริ” เสียงของเจ้าสองแสบ“ไม่สายหรอกครับ คุณแม่ท่านโทรเลื่อนนัดให้แล้วอีกอย่างเด็กๆ ไม่ได้เข้าเรียนวันนี้ซะหน่อย หม่ามี้อย่าดุปะป๊าเลยนะครับ เจ้าดีเทลก็คงจะยังไม่ถึง” ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับหันมายกยิ้มให้กับภรรยา จากนั้นก็หันไปหาคนร่วม“ใช่ไหมครับ คีตะ เควิน วันนี้เด็กๆ กำลังจะไปไหนกันครับ”“ไปสวนสัตว์ครับ ปะป๊า”“สวนสัตว์” เด็กๆ ตอบคุณพ่อคุณแม่แบบนั้นทำเอา ข้าวตังและธีร์ณัฐถึงกับมองหน้ากัน“ยุนย่า บอกว่ามีสวนสัตว์ และสนามเด็กเล่นด้วยค
~ 3 ปี ต่อมา ~@คฤหาสน์หลังใหญ่ครอบครัวของธีร์ณัฐ ด้านข้าวตังหลังจากที่ฉันแต่งงานกับธีร์ณัฐจากนั้นเพียงหนึ่งเดือนฉันก็เข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ครอบครัวของธีร์ณัฐ เนื่องจากผู้ใหญ่อยากให้ทั้งสองมาใช้ชีวิตกันอยู่ที่นี่ส่วนพี่ดีเทลและพี่สายธารตอนนี้ออกไปมีครอบครัว จะกลับมารวมตัวหรือพาเด็กๆ มาทานข้าวที่บ้านในทุกๆ เดือน นั้นคือความต้องการของคนในครอบครัวที่สามพี่น้องตกลงกัน ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ครอบครัวพี่ธีร์รักและเอ็นดูฉัน หลังจากที่แต่งงานไปไม่กี่เดือนฉันก็ได้ให้กำเนิดลูกชายสองแฝดของฉัน สมใจปะป๊า ปู่ย่าตายาย คุณป้า คุณอา พวกเขานัก เจ้าแฝดของฉันที่ตอนนี้อายุได้ 2 ขวบกว่า แสบและซนสุดๆ คนแรกชื่อพี่ คีตะ คนที่สอง พี่เควิน ชื่อนี้พี่ธีร์ตั้งให้ ตั้งแต่เราช่วยกันทำเขาแล้วแหละ ส่วนใบหน้าก็ยับยู่ยี่ถอดแบบจากพี่ธีร์และฉันไปคนละครึ่งแต่ถ้ามองผิวเผินจะเอนมาฝั่งของฉันมากกว่าคุณพ่อของพวกเขาด้านข้าวตังหลังจากที่ฉันลงไปคุณกับคุณแม่ของพี่ธีร์เรื่อง โรงเรียนของลูกชาย และนี่จะเก้าโมงแล้วที่ก่อนลงไปหาคุณแม่ฉันสั่งพี่ธีร์นักหนาให้อาบน้ำให้สองแสบ แต่นี้ดูสิกลับมาถึงบนห้องทั้งสามหนุ่มของฉันก็ยังอยู่ในสภาพเ
~ 3 เดือนต่อมา ~ @CcT Hotel ร่างบางในชุดราตรีเจ้าสาวทรงยาวมินิมอลสีขาวผมยาวสีน้ำตาลเข้มถูกม้วนเป็นทรงเรียบหรู วันนี้เป็นวันสำคัญที่ฉันและผู้กองธีร์ณัฐเราแต่งงานกัน งานแต่งของเราถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูระดับ 6 ดาวแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดบ้านเกิดของฉัน ขณะที่ข้าวตังอยู่ในห้องแต่งตัวที่พร้อมจะออกไปต้อนรับแขกที่มาในงานแล้วนั้น ดวงตากลมเล็กเหลือบมองใบหน้าอันหล่อเหลาเจ้าบ่าวของเธอ ธีร์ณัฐอยู่ในชุดสีขาวที่มีดาวดวงประทับที่บ่าไหล่ในมือถือกระบี่ฉันมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข เมื่อถึงเวลาไปต้อนรับแขกที่มาในงานแล้วมือหนาจับเข้าที่มือของแฟนสาว"วันนี้ข้าวตังสวยมากเลยนะครับ สวยมากซะพี่ไม่อยากให้เราเดินออกไปเลย" ธีร์ณัฐเอ่ยกับภรรยา ความรักของฉันกับพี่ผู้กองธีร์เป็นไงละหลังจากที่เรากลับมาจากปารีสไม่ถึงสองวัน ผู้กองธีร์เขาก็พาฉันไปจดทะเบียนสมรสเหตุผลเขากลัวฉันจะหนีไปอีกดูเอาเถอะอะไรจะใจร้อนขนาดนั้นสามีของฉัน"ถ้าไม่เดินออกไป แล้วจะเสร็จสิ้นพิธีเหรอคะ พี่ธีร์ก็พูดไปได้" ฉันว่าให้กับเจ้าบ่าวของฉัน นอกจากเป็นงานมงคลสมรสเราแล้วปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของเราซะด้วยสิ คุณพ่อสุดหล่ออย่างพี่
"พี่ธีร์จะดุ จะด่าว่าข้าวเหรอ ใครกันละที่เป็นต้นเหตุให้ฉันมาที่นี่ละ" ข้าวตังเอ่ยเสียงดุขึ้นมาบ้าง ทำเอาผู้กองหนุ่มถึงกับชะงัก จากที่จะดุเมียกับโดนเมียดุมาซะงั้น จากสีหน้าเข้มขรึมถึงกับยอมอ่อนลง"ถ้าข้าวโกรธพี่เรื่องงาน พี่ผิดพี่ขอโทษ ต่อจากนี้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องงานเรื่องส่วนตัวพี่จะไม่ปิดบังเราอีก ให้อภัยด้วยนะครับ" เขาเอ่ยเสียงเรียบ"อย่าหนีพี่ไปไหนอีกเลย เมียหนีมาไกลขนาดนี้พี่ใจจะขาดตาย""สม..." ข้าวตังธีร์ณัฐเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิดต่อเธอร่างบางเอ่ยด้วยสีหน้าสะใจ ไอ้โกรธเธอก็โกรธอยู่หรอกแต่เห็นหน้าหล่อๆ ของว่าที่คุณพ่อแล้วถึงกับโกรธไม่ลง"นะครับ ข้าวหายโกรธพี่นะครับเมีย ดูสิพี่สั่งแต่ของโปรดเรามาทั้งนั้นเลย" ธีร์ณัฐที่เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเมียถึงกับทำหน้าไม่ถูก เขาเอ่ยอย่างเอาใจ ของโปรดฉันงั้นเหรอแต่ทำไมตอนนี้ฉันกับไม่อยากจะทานอะไรเลย สเต็กเนื้อที่แค่ได้กลิ่นน้ำครีมสลัดฉันก็ทนไม่ไหวเหมือนมีอะไรวิ่งมาจุกที่ลำคอ ไม่ไหวแล้วมันไม่ไหวจริงๆ ผุดๆ ลอยขึ้นมาเตะจมูกข้าวตังถึงกับหน้าซีดพะอืดพะอมในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว ร่างบางลุกวิ่งออกไปอ้วกที่ห้องน้ำด้านธีร์ณัฐที่เห็นท่าทีของข้าวตังเช่นน







