Home / รักโบราณ / พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน / บทที่ 3 พี่น้องตระกูลหลี่

Share

บทที่ 3 พี่น้องตระกูลหลี่

last update Last Updated: 2025-09-19 16:01:04

บทที่ 3

พี่น้องตระกูลหลี่

หลังจากยกน้ำชาเสร็จสิ้นตามพิธีการแล้ว มู่เสี่ยวชิงก็ได้ให้ทั้งสองไปพักผ่อนได้ ส่วนตัวนางกับสามีก็จะพักผ่อนกันที่ห้องหนังสือ ไม่รู้เป็นเพราะงานแต่งงานของบุตรชายคนโตหรือไม่ ถึงทำให้สามีของนางเริ่มรู้สึกตื่นตัวเช่นนี้ ตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็เอาแต่คลอเคลียนางมิยอมห่าง เช้าวันนี้ยังอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นห้องหนังสือเสียนี่ ตัวนางเองก็ไม่กล้าขัดใจสามีเสียด้วยสิ

เขาต้องการสิ่งใด นางล้วนเต็มใจช่วยเขาปรนเปรอได้ทั้งสิ้น ความรักของนางกับเขายังคงเร่าร้อนมิเปลี่ยนแปลง!

หลี่เหวินซานเดินนำหวงไป๋เฟิ่งไปยังศาลาไม้ในสวน ขณะเดียวกันเขาก็เอ่ยอธิบายสถานที่ต่าง ๆ ในจวนตระกูลหลี่ไปด้วย ทว่าทั้งสองไม่ได้เดินเล่นกันเพียงลำพังแต่ยังมีน้องสาวและน้องชายของเขาติดตามมาด้วย ทั้งสองอยากจะทำความรู้จักกับพี่สะใภ้คนใหม่ผู้นี้นัก

"เดินมาไกลมากแล้ว นั่งพักกันที่นี่ก่อนเถิด เดี๋ยวจะมีคนนำขนมหวานกับน้ำชามาให้" 

"เจ้าค่ะ" ทั้งสี่เดินไปนั่งยังศาลาไม้ในสวน 

"พี่สะใภ้ ท่านงดงามมากเลยเจ้าค่ะ ข้าจำท่านแทบไม่ได้เลย"

'หลี่ฉิงเซียว' คุณหนูเล็กของตระกูลหลี่ ปีนี้นางอายุย่างเข้า 15 หนาวแล้ว นางมีใบหน้างดงามจิ้มลิ้มน่ารักเอ็นดู ดวงตาคู่สวยสุกสกาวเป็นประกายดั่งนัยน์ตากวาง 

"แต่ข้าจำเจ้าได้นะ เจ้าชอบวิ่งไล่ตามพวกเราไปทุกที่เลย ไม่คิดว่าไม่ได้เจอกันไม่กี่ปี เจ้าจะกลายเป็นสตรีที่น่ารักสดใสเช่นนี้ งดงามมิแพ้ท่านป้า... เอ่อ ท่านแม่เลย"

เมื่อมีคนเอ่ยชื่นชมเช่นนี้ หลี่ฉิงเซียวก็ยิ้มกว้างด้วยความยินดียิ่ง นางรู้สึกถูกชะตากับพี่สะใภ้ผู้นี้นัก! รู้สึกราวกับได้เพื่อนเล่นคนใหม่เลย หลังจากพี่หญิงใหญ่จากบ้านไปอยู่แดนใต้ นางก็เหงาเหลือเกิน จะพูดคุยกับพี่ ๆ เรื่องของสตรีก็ไม่ได้ความนัก

"พี่สะใภ้ปากหวานยิ่ง คิกคิก"

"เจ้าน่ะ! ใครชมก็เขินอายขนาดนี้เชียว เจ้าควรจะสงวนท่าทีบ้างนะเซียวเอ๋อร์" หลี่เหวินซานโยกศีรษะน้องสาวด้วยความเอ็นดู

"พี่ใหญ่ ผมข้ายุ่งไปหมดแล้ว พี่รอง...ท่านช่วยข้าด้วย"

หลี่ฉิงเซียวหันไปหาพี่รองของตน นางรู้ดีว่ามีเพียงพี่รองที่ไม่กลั่นแกล้งนาง

"พี่สะใภ้เพิ่งจะมาถึงเมืองหลวง คงมีสถานที่ที่อยากจะไปเยี่ยมชมใช่หรือไม่ ข้าสามารถพาพี่สะใภ้ไปได้นะขอรับ พี่ใหญ่นั้นงานยุ่งนัก"

'หลี่เฟิง' คุณชายรองผู้อ่อนโยนในวัย เอ่ยขึ้นอย่างใจดี เพราะเขามีนิสัยที่อ่อนโยนและมักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เขาจึงตระหนักได้ว่าพี่สะใภ้คงจะรู้สึกเหงาเป็นแน่ ถ้าต้องอยู่คนเดียวในตอนที่พี่ใหญ่ต้องออกไปทำงานที่ค่ายทหาร

"มีหลายที่ที่ข้าอยากจะไปชมด้วยตัวเองเลยล่ะ หากไม่รบกวนเจ้าเกินไปนัก พี่สะใภ้ผู้นี้..."

"ข้าพาไปเอง" หลี่เหวินซานเอ่ยแทรกขึ้นมา 

"ท่านพี่จะว่างหรือเจ้าคะ มิใช่ว่างานราชการรัดตัวหรือ" 

"แค่พาเจ้าไปเที่ยวเล่นชั่วครู่ไม่นับว่ายุ่งอันใดหรอก อาเฟิงชอบไปนั่งจิบชาอ่านตำราเรียนมากกว่า เจ้าอย่าไปรบกวนเขาเลย"

"ไม่รบกวนเลยขอรับ ข้ายินดี" หลี่เฟิงรีบตอบด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ 

"ข้าเองก็จะพาพี่สะใภ้ไปเที่ยวเล่นเช่นกันเจ้าค่ะ พี่ใหญ่สามารถไปทำงานได้อย่างสบายใจได้เลย จะกลับจวนหนึ่งเดือนครั้งอย่างที่เคยเป็นก็ได้ ข้ากับพี่รองจะช่วยดูแลพี่สะใภ้ให้เองเจ้าค่ะ" 

หลี่ฉิงเซียวเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น ทุกคนในจวนต่างรู้ดีว่าพี่ใหญ่แทบจะกินนอนที่ค่ายทหารอยู่แล้ว 

"ข้าบอกจะพานางไปเอง หากวันใดข้าไม่ว่างพวกเจ้าก็ค่อยพาพี่สะใภ้ไปเที่ยวเล่นก็แล้วกัน" หลี่เหวินซานเอ่ยตอบเสียงเข้ม

"ขอรับ/เจ้าค่ะ"

สองพี่น้องขานรับ ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่เป็นอะไรถึงได้ทำหน้าตาน่ากลัวเช่นนั้น 

"ขนมมาแล้ว รีบทานเถิด" 

หลี่เหวินซานยื่นจานขนมให้หวงไป๋เฟิ่ง นางรีบหยิบขนมดอกท้อขึ้นมาทานด้วยความสนใจ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกท้อทำให้ยิ่งรู้สึกอยากอาหาร เมื่อลองชิมเข้าไปก็ยิ่งรู้สึกชอบยิ่งนัก

"ขนมนี่รสชาติดีมากเลยเจ้าค่ะ ทั้งหอมและหวานละมุนมาก" ดวงตาของหวงไป๋เฟิ่งเป็นประกายระยิบระยับ

"ถ้าชอบก็ทานเยอะ ๆ ไว้วันหลังจะให้คนไปซื้อมาให้อีก"

"นี่ไม่ใช่ขนมที่จวนหรือเจ้าคะ"

"ไม่ใช่"

ด้วยความสงสัยหลี่ฉิงเซียวจึงหยิบขนมขึ้นมาทานบ้าง นางกัดเพียงแค่คำเดียวก็รู้เลยว่าเป็นขนมขึ้นชื่อของร้านดอกท้อลอยลม 

"นี่มัน... ขนมจากร้านดอกท้อลอยลมนี่เจ้าคะ" 

"ใช่! เจ้าน่ะทานให้มันน้อย ๆ หน่อยเถิด ทานมากไปจะไม่ดีต่อเจ้าเอาได้นะ" 

ในตอนที่หลี่ฉิงเซียวจะหยิบขนมขึ้นมาอีกชิ้นกลับถูกหลี่เหวินซานสกัดเอาไว้ เขามองนางด้วยสีหน้าตำหนิเล็กน้อย ด้วยขนมดอกท้อจากร้านดอกท้อลอยลมนี้หาซื้อได้ยากมาก เขาต้องให้คนไปต่อแถวตั้งแต่เช้าตรู่ หากน้องสาวของเขาทานจนหมดหวงไป๋เฟิ่งก็จะไม่ได้ทานขนมขึ้นชื่อนี้

"พี่ใหญ่รังแกข้าอีกแล้ว ข้าแค่จะทานอีกชิ้นเดียวเอง" หลี่ฉิงเซียวมองค้อนพี่ชายด้วยความไม่พอใจ 

"เจ้าชอบก็ช่วยพี่ทาน พี่ท่านคนเดียวคงไม่หมดหรอก"

หวงไป๋เฟิ่งอมยิ้มพลางหยิบขนมอีกชิ้นให้หลี่ฉิงเซียวอย่างใจดี นางเหลือบสายตาไปมองสามีเล็กน้อย อดจะนึกขำกับการกระทำของพวกเขาสองพี่น้องไม่ได้ สามีของนางชอบดุแต่ก็ใจดีไม่น้อยทั้งยังใส่ใจนางด้วย ส่วนหลี่ฉิงเซียวอายุยังน้อยจึงมีนิสัยซุกซนและเอาแต่ใจไปบ้าง แต่นางไม่เป็นพิษเป็นภัยกับผู้ใดเลย 

ทว่าหลี่เฟิงนั้นแม้จะดูอ่อนโยนสุภาพเรียบร้อย แต่ดวงตาของเขาที่จ้องมองนางนั้นให้ความรู้สึกราวกับถูกจับจ้องจนทะลุไปถึงหัวใจ สายตาของเขาราวกับคอยสอดส่องตลอดเวลาอย่างนั้นแหละ 

"พี่สะใภ้ของเจ้าใจดี ต่อไปก็เชื่อฟังนางให้มาก ๆ เล่า" หลี่เหวินซานหันมากำชับน้องสาว

"เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ พี่รองท่านลองทานดีหรือไม่เจ้าคะ" นางยื่นขนมไปให้พี่ชายคนรอง

"ไม่ดีกว่า ข้ากลัวจะถูกพี่ใหญ่ไล่ตีเพราะไปแย่งขนมพี่สะใภ้ทาน" 

หลี่เฟิงเอ่ยเย้าพี่ชายของตัวเอง ก่อนจะเสหยิบชาขึ้นมาดื่มพลางสังเกตพี่สะใภ้ไปด้วย ตัวเขาเป็นคนที่ชอบมองทุกสิ่งอย่างพิจารณาจึงอดไม่ได้จริง ๆ 

"คุณหนูรองเจ้าคะ คุณหนูรองชุนมาขอพบเจ้าค่ะ ตอนนี้นั่งรออยู่ที่เรือนรับรองของเรือนใหญ่แล้วเจ้าค่ะ" 

สาวใช้นางหนึ่งเข้ามารายงาน นางมีสีหน้ากังวลใจเล็กน้อยเมื่อมองเลยไปทางหวงไป๋เฟิ่ง ซึ่งการกระทำของนางล้วนตกอยู่ในสายตาของชุนหลัน

"ฮุ่ยผิงหรือ เหตุใดนางถึงมาวันนี้เล่า" 

หลี่ฉิงเซียวรู้สึกไม่ดีนัก คนภายนอกควรรู้ดีว่าวันนี้ตระกูลหลี่ไม่ต้อนรับแขก เนื่องจากเป็นวันต้อนรับสะใภ้คนใหม่ของจวน และสถานะของฮุ่ยผิงก็ไม่ค่อยเหมาะสมนักที่จะมาที่จวนเวลานี้

"คุณหนูรองชุนบอกว่าจะมาชวนคุณหนูไปช่วยเลือกซื้ออาภรณ์เจ้าค่ะ แต่บ่าวบอกไปแล้วว่าคุณหนูไม่สะดวกนัก"

"ช่างเถอะ ๆ ในเมื่อนางมาแล้วข้าก็จะออกไปพบนางเอง"

"เจ้าค่ะ"

สาวใช้เดินปลีกตัวออกไปแล้ว หลี่ฉิงเซียวก็หันมายิ้มให้กับทุกคนก่อนจะขอตัวไปพบสหาย คล้อยหลังที่นางจากไปหลี่เฟิงก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก

"ตระกูลชุนช่างไม่รู้จักกาลเทศะ ควรหรือที่จะส่งคุณหนูรองชุนมาที่นี่เวลานี้"

"อาเฟิง... พอเถอะ"

"พี่ใหญ่ใจอ่อนเกินไปนะขอรับ ยิ่งท่านทำเช่นนั้นพวกเขายิ่งได้ใจ คนก็ตายไปนานแล้วยังไม่ล้มเลิกที่จะคิดเรื่องนั้นอีก ทั้งที่ตอนนี้พี่ใหญ่ก็มีพี่สะใภ้แล้วทั้งคน"

"พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าวางใจเถิด" 

สองพี่น้องถกเถียงกันไปมาโดยที่หวงไป๋เฟิ่งเอาแต่ทานขนม ทว่าหูของนางกลับลอบฟังสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันแล้วประมวลผลในใจ ดูท่าคุณหนูรองชุนผู้นี้จะไม่ธรรมดาเลย และอะไรคือสิ่งที่ตระกูลชุนมุ่งหวังเอาไว้ เห็นทีนางคงต้องสืบเรื่องของตระกูลชุนเอาไว้บ้างเสียแล้ว!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 9 หัวใจว้าวุ่น

    บทที่ 9หัวใจว้าวุ่นเย็นนั้นทั้งสองกลับจวนตระกูลหลี่ไปด้วยกัน โดยที่หลี่เหวินซานนั่งรถม้ากลับมาพร้อมกับหวงไป๋เฟิ่งด้วย ตลอดเส้นทางกลับจวนนั้นทั้งสองเอาแต่นั่งเงียบไม่มีใครเอ่ยปากเลย ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง หลี่เหวินซานกำลังคิดว่าหรือว่าเขาจะยกเลิกการเดิมพันครั้งนี้ แต่เขาเป็นถึงแม่ทัพเอ่ยคำไหนก็ควรเป็นคำนั้น อีกอย่างจะได้ทำให้หวงไป๋เฟิ่งรู้ตัวว่าไม่ควรท้าประลองกับผู้ใด ถึงแม้ว่าครั้งนี้นางจะต้องใจยอมแพ้ก็เถิด มิรู้ว่าใจจริงของนางนั้นคิดเช่นไร 'เจ้าตั้งใจยอมแพ้เพื่อให้เจียงเฉียงได้หน้า หรือว่าต้องการอาบน้ำให้ข้ากันแน่?!'ส่วนหวงไป๋เฟิ่งก็กำลังนึกเสียใจที่ตัวเองยอมให้เจียงเฉียงชนะ ในตอนนั้นนางแค่คิดว่าควรจะให้เขาที่เป็นถึงรองแม่ทัพชนะนางเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับเหล่าทหาร แต่ว่านางกลับลืมไปเสียสนิทว่าหากนางแพ้นั้นจะต้องอาบน้ำให้กับเขา 'เฮ้อ... ทำไม่ข้าถึงได้โง่เง่าเช่นนี้นะ เกิดมายังไม่เคยอาบน้ำให้ผู้ใดเลย!'คู่สามีภรรยาลอบมองอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ โดยที่ความคิดของพวกเขาจมอยู่กับการเรื่องการอาบน้ำ!"ถึงจวนแล้วขอรับ" หย่งคังเป็นผู้เอ่ยบอกคนที่อยู่ในรถม้า หลังจากรถม้าจอดห

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 8 ชนะเดิมพัน

    บทที่ 8ชนะเดิมพันด่านแรกทั้งสองสามารถทำได้ดีถือว่าเสมอกัน ต่อไปจึงเป็นด่านที่สองที่จะต้องยิงผลผิงกั่วให้ได้อย่างน้อย 3 ลูก จาก 5 ลูก ครั้งนี้หวงไป๋เฟิ่งเป็นคนเริ่มก่อน นางยืดหลังตรงอย่างสง่างาม แล้วเล็งลูกธนูใส่ผลผิงกั่วที่ส่ายไปส่ายมาบนกิ่งไม้สูงที่ห่างออกไป 30 ผิง อย่างเยือกเย็นก่อนจะปล่อยลูกธนูให้พุ่งเข้าใส่ลูกผิงกั่วอย่างแม่นยำฟิ้ว ฉึก!หวงไป๋เฟิ่งสามารถยิงลูกผิงกั่วให้ตกลงพื้นได้ทั้งหมด สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนที่เฝ้ามองการยิงธนูของนาง เสียงตบมือพลันดังกึกก้องจากเหล่าทหารด้วยความชื่นชม"ฮูหยินน้อยช่างเก่งกาจนัก! สมแล้วที่เป็นบุตรีของชินอ๋อง" เจียงเฉียงเอ่ยชื่นชมจากใจจริง ตัวเขาเคารพผู้ที่มีฝีมือ แม้จะเป็นสตรีแต่เขาก็นับถือยิ่งนัก"รองแม่ทัพเจียงกล่าวชมเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ฝีมือของข้ายังอ่อนด้อยนักเมื่อเทียบกับเสด็จพ่อและเสด็จแม่" "ถ่อมตัวเกินไปแล้ว" เป็นหลี่เหวินซานที่เอ่ยขึ้น เขามองดูนางด้วยความชื่นชมเล็กน้อย แต่คิ้วกลับกระตุกเมื่อเห็นนางส่งยิ้มให้กับรองแม่ทัพของเขาอยู่บ่อยครั้ง 'ไม่รู้จะยิ้มให้กันทำไมมากมาย ขัดหูขัดตานัก!'"ต่อไปก็ถึงคราวของข้าแล้วขอรับ" เจียงเฉียงก้าวไ

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 7 การประลองยิงธนู

    บทที่ 7การประลองยิงธนูหลี่เหวินซานควบเจ้าต้าเฮยไปตามแนวป่าของค่ายทหาร โดยเขาใช้ความเร็วเจ็ดส่วนของเจ้าต้าเฮย เขาเองก็อยากจะพิสูจน์ว่าหวงไป๋เฟิ่งจะรู้สึกกลัวหรือไม่ ทว่านางกลับยิ้มร่าด้วยความชอบใจ ทั้งยังหันมาบอกให้เขาเพิ่มความเร็วเสียอีก หลี่เหวินซานมองสตรีที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดนางไม่เหมือนใครจริง ๆ ด้วย!"เจ้าต้าเฮยวิ่งได้เร็วแค่นี้หรือเจ้าคะ" นางเอี้ยวตัวหันมาถามคนด้านหลังขณะที่ม้าวิ่งด้วยความเร็วหลี่เหวินซานรีบจับเอวเล็กคอดของนางเอาไว้แน่นไม่ให้ขยับตัว พร้อมกับเอ่ยตำหนิเสียงเข้ม "อย่าขยับ ม้ากำลังวิ่งเดี๋ยวก็พลัดตกลงไปหรอก และใช่! เจ้าต้าเฮยวิ่งได้เร็วแค่นี้" เขาโกหกนาง"ม้าของเสด็จพ่อยังวิ่งเร็วกว่าเจ้าต้าเฮยอีกเจ้าค่ะ หรือเป็นเพราะท่านพี่ไม่ค่อยพามันออกไปวิ่งเล่นบ่อย ๆ กันแน่เจ้าคะ ทำให้ฝีเท้าของมันตกลงเช่นนี้""อาจจะเป็นเช่นนั้น"หลี่เหวินซานตอบเพียงแค่นั้น เขาหันกลับไปสนใจบังคับเจ้าต้าเฮยให้วิ่งกลับไปยังคอกม้าของตน เวลานี้หัวใจของเขาเริ่มจะไม่ปกติเสียแล้ว เพียงแค่ใกล้ชิดกับนางชั่วครู่กลับเริ่มทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ร่างกายอันนุ่มนิ่มและกล

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 6 เจ้าต้าเฮยแสนพยศ

    บทที่ 6เจ้าต้าเฮยแสนพยศทั้งสองต่างจ้องมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร หลี่เหวินซานก็เป็นห่วงนางไม่อยากให้ถูกมองไม่ดีและกลัวจะเกิดอันตรายกับนางได้ ทว่าหวงไป๋เฟิ่งกลับมองว่าเขาต้องการกีดกันนางและเอ่ยวาจาจาบจ้วงไปถึงเสด็จพ่อ นางซึ่งเป็นบุตรสาวย่อมไม่ยอมให้ผู้ใดมาดูหมิ่นตัวเองและลามไปถึงเสด็จพ่อได้ การประลองครั้งนี้จึงได้บังเกิดขึ้น!"แต่ข้าคิดว่าแค่ประลองเฉย ๆ คงจะไม่สนุกเท่าไหร่นะเจ้าคะ""เจ้าต้องการอะไร""หากข้าสามารถเอาชนะทหารของท่านพี่ได้ ม้าเหงื่อโลหิตสีดำที่ผูกไว้ด้านข้างของเรือนข้าขอนะเจ้าคะ"ตอนที่นางเดินผ่านมาสะดุดตากับม้าเหงื่อโลหิตตัวนี้มาก ลำตัวแข็งแรงใหญ่โตสมบูรณ์น่าเป็นเจ้าของยิ่งนัก เสียดายที่มันมีเจ้าของอยู่แล้วซึ่งนางก็คิดว่าจะต้องเป็นสามีของนางอย่างแน่นอน เมื่อมีโอกาสจะได้ม้าตัวนี้มาครอบครองนางย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป"ไม่ได้! ม้าตัวนั้นมันพยศมาก มีแค่ข้าที่ขี่ได้เท่านั้น" หลี่เหวินซานส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย"แล้วถ้าข้าสามารถขี่มันได้ ท่านพี่จะยอมให้ม้าตัวนั้นมาเป็นของเดิมพันครั้งนี้หรือไม่เจ้าคะ""เจ้าเอาแต่พูดว่าตัวเองจะชนะ แล้วถ้าเจ้าแพ้ข้าจะได้อะไรเล่า" เขาย้อนถา

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 5 เยือนค่ายทหารเขี้ยวพยัคฆ์

    บทที่ 5เยือนค่ายทหารเขี้ยวพยัคฆ์นับจากวันที่ได้แต่งงานเข้าจวนตระกูลหลี่ นี่ก็ล่วงเข้าสู่วันที่ 10 แล้ว หวงไป๋เฟิ่งได้รับการสั่งสอนจากมู่เสี่ยวชิงไม่น้อย ทั้งทำบัญชีของจวนโดยนางทำเฉพาะเรือนของตน ควบคุมดูแลกิจการร้านค้าต่าง ๆ ในเมืองหลวงที่อยู่ภายใต้ชื่อของหลี่เหวินซานทุกอย่างนางล้วนเคยฝึกปรือกับเสด็จแม่มาไม่น้อย ทำให้นางทำเรื่องทุกอย่างได้อย่างเรียบร้อยจนได้รับคำชื่นชมจากมู่เสี่ยวชิง"วันนี้ไม่มีใครอยู่ที่จวนเลย เฟิ่งเอ๋อร์คงจะเหงามากใช่หรือไม่""ไม่เหงาเลยเจ้าค่ะ ได้พูดคุยกับท่านแม่ข้าสนุกมากเจ้าคะ" หวงไป๋เฟิ่งเอ่ยด้วยความจริงใจ การได้อยู่กับมู่เสี่ยวชิงทำให้นางได้ข้อคิดและได้เรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายเลยด้วยซ้ำ ทั้งนางยังชอบฟังเรื่องเล่าของท่านแม่กับเสด็จแม่เมื่อครั้งยังไม่ได้แต่งงานด้วย สนุกยิ่งนัก!"เด็กดี วันนี้ก็ออกไปเปิดหูเปิดตาหน่อยดีกว่า" มู่เสี่ยวชิงพยักหน้าให้กับชงเหยา นางเดินเข้ามาโดยถือกล่องอาหารที่อยู่ในตะกร้ายื่นส่งให้กับชุนหลังผู้เป็นสาวใช้ "นี่อะไรหรือเจ้าคะ""เป็นอาหารกลางวันของอาซาน เจ้าเอานี่ไปให้เขาที่ค่ายทหารเขี้ยวพยัคฆ์เสีย ส่วนนี่เป็นป้ายผ

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 4 คำเตือนของมู่เสี่ยวชิง

    บทที่ 4คำเตือนของมู่เสี่ยวชิงหลี่ฉิงเซียวมาที่ห้องรับรองแขกด้วยสีหน้าไม่ดีนัก แม้นางจะสนิทกับสหายผู้นี้แต่ใช่ว่านางจะยอมให้เสียทุกอย่าง ตัวนางถูกสั่งสอนจากท่านพ่อและท่านแม่เป็นอย่างดีย่อมพอคาดเดาได้ในใจถึงการมาของสหาย"ฮุ่ยผิง เหตุใดเจ้าถึงมาหาข้าที่จวนวันนี้ เจ้าไม่รู้หรือว่านี่เป็นเรื่องไม่สมควรนัก""ขะ ข้าแค่คิดถึงเจ้าเท่านั้นเอง นี่ข้าก็เพิ่งกลับมาจากอารามนอกเมืองจึงเพิ่งทราบข่าวตอนที่มาถึงจวนของเจ้าแล้ว"'ชุนฮุ่ยผิง' บุตรีคนรองของเสนาบดีชุนกรมคลัง นางมีใบหน้างดงามหยาดเยิ้ม อายุเพียง 15 หนาวทว่าส่อเค้าความงามมิต่างจากผู้เป็นพี่สาวที่ล่วงลับไปแล้วเลย เพียงแต่นิสัยของนางค่อนข้างเอาแต่ใจมากไปเสียหน่อย ด้วยเป็นบุตรสาวคนเล็กที่มีแต่คนตามใจ คิดอ่านสิ่งใดก็ไม่รอบคอบนัก "ชุนฮูหยินไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าจวนของข้าเวลานี้ไม่สะดวกรับแขก""เหตุใดเจ้าถึงได้มาตำหนิข้าเช่นนี้เล่า ท่านแม่ข้าก็เอาแต่สวดมนต์ไม่รู้เรื่องภายนอกนักหรอก ส่วนข้าก็เพิ่งกลับมาแล้วรีบตรงมาหาเจ้าที่นี่เลย ทำไมหรือ... แค่เจ้ามีพี่สะใภ้คนใหม่ก็ลืมเลือนสหายเช่นข้าไปใช่หรือไม่ ฮึก ๆ น่าเสียใจแทนพี่สาวผู้โชคร้ายของข้ายิ่งนัก นางต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status