Home / รักโบราณ / พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน / บทที่ 3 พี่น้องตระกูลหลี่

Share

บทที่ 3 พี่น้องตระกูลหลี่

last update Last Updated: 2025-09-19 16:01:04

บทที่ 3

พี่น้องตระกูลหลี่

หลังจากยกน้ำชาเสร็จสิ้นตามพิธีการแล้ว มู่เสี่ยวชิงก็ได้ให้ทั้งสองไปพักผ่อนได้ ส่วนตัวนางกับสามีก็จะพักผ่อนกันที่ห้องหนังสือ ไม่รู้เป็นเพราะงานแต่งงานของบุตรชายคนโตหรือไม่ ถึงทำให้สามีของนางเริ่มรู้สึกตื่นตัวเช่นนี้ ตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็เอาแต่คลอเคลียนางมิยอมห่าง เช้าวันนี้ยังอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นห้องหนังสือเสียนี่ ตัวนางเองก็ไม่กล้าขัดใจสามีเสียด้วยสิ

เขาต้องการสิ่งใด นางล้วนเต็มใจช่วยเขาปรนเปรอได้ทั้งสิ้น ความรักของนางกับเขายังคงเร่าร้อนมิเปลี่ยนแปลง!

หลี่เหวินซานเดินนำหวงไป๋เฟิ่งไปยังศาลาไม้ในสวน ขณะเดียวกันเขาก็เอ่ยอธิบายสถานที่ต่าง ๆ ในจวนตระกูลหลี่ไปด้วย ทว่าทั้งสองไม่ได้เดินเล่นกันเพียงลำพังแต่ยังมีน้องสาวและน้องชายของเขาติดตามมาด้วย ทั้งสองอยากจะทำความรู้จักกับพี่สะใภ้คนใหม่ผู้นี้นัก

"เดินมาไกลมากแล้ว นั่งพักกันที่นี่ก่อนเถิด เดี๋ยวจะมีคนนำขนมหวานกับน้ำชามาให้" 

"เจ้าค่ะ" ทั้งสี่เดินไปนั่งยังศาลาไม้ในสวน 

"พี่สะใภ้ ท่านงดงามมากเลยเจ้าค่ะ ข้าจำท่านแทบไม่ได้เลย"

'หลี่ฉิงเซียว' คุณหนูเล็กของตระกูลหลี่ ปีนี้นางอายุย่างเข้า 15 หนาวแล้ว นางมีใบหน้างดงามจิ้มลิ้มน่ารักเอ็นดู ดวงตาคู่สวยสุกสกาวเป็นประกายดั่งนัยน์ตากวาง 

"แต่ข้าจำเจ้าได้นะ เจ้าชอบวิ่งไล่ตามพวกเราไปทุกที่เลย ไม่คิดว่าไม่ได้เจอกันไม่กี่ปี เจ้าจะกลายเป็นสตรีที่น่ารักสดใสเช่นนี้ งดงามมิแพ้ท่านป้า... เอ่อ ท่านแม่เลย"

เมื่อมีคนเอ่ยชื่นชมเช่นนี้ หลี่ฉิงเซียวก็ยิ้มกว้างด้วยความยินดียิ่ง นางรู้สึกถูกชะตากับพี่สะใภ้ผู้นี้นัก! รู้สึกราวกับได้เพื่อนเล่นคนใหม่เลย หลังจากพี่หญิงใหญ่จากบ้านไปอยู่แดนใต้ นางก็เหงาเหลือเกิน จะพูดคุยกับพี่ ๆ เรื่องของสตรีก็ไม่ได้ความนัก

"พี่สะใภ้ปากหวานยิ่ง คิกคิก"

"เจ้าน่ะ! ใครชมก็เขินอายขนาดนี้เชียว เจ้าควรจะสงวนท่าทีบ้างนะเซียวเอ๋อร์" หลี่เหวินซานโยกศีรษะน้องสาวด้วยความเอ็นดู

"พี่ใหญ่ ผมข้ายุ่งไปหมดแล้ว พี่รอง...ท่านช่วยข้าด้วย"

หลี่ฉิงเซียวหันไปหาพี่รองของตน นางรู้ดีว่ามีเพียงพี่รองที่ไม่กลั่นแกล้งนาง

"พี่สะใภ้เพิ่งจะมาถึงเมืองหลวง คงมีสถานที่ที่อยากจะไปเยี่ยมชมใช่หรือไม่ ข้าสามารถพาพี่สะใภ้ไปได้นะขอรับ พี่ใหญ่นั้นงานยุ่งนัก"

'หลี่เฟิง' คุณชายรองผู้อ่อนโยนในวัย เอ่ยขึ้นอย่างใจดี เพราะเขามีนิสัยที่อ่อนโยนและมักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เขาจึงตระหนักได้ว่าพี่สะใภ้คงจะรู้สึกเหงาเป็นแน่ ถ้าต้องอยู่คนเดียวในตอนที่พี่ใหญ่ต้องออกไปทำงานที่ค่ายทหาร

"มีหลายที่ที่ข้าอยากจะไปชมด้วยตัวเองเลยล่ะ หากไม่รบกวนเจ้าเกินไปนัก พี่สะใภ้ผู้นี้..."

"ข้าพาไปเอง" หลี่เหวินซานเอ่ยแทรกขึ้นมา 

"ท่านพี่จะว่างหรือเจ้าคะ มิใช่ว่างานราชการรัดตัวหรือ" 

"แค่พาเจ้าไปเที่ยวเล่นชั่วครู่ไม่นับว่ายุ่งอันใดหรอก อาเฟิงชอบไปนั่งจิบชาอ่านตำราเรียนมากกว่า เจ้าอย่าไปรบกวนเขาเลย"

"ไม่รบกวนเลยขอรับ ข้ายินดี" หลี่เฟิงรีบตอบด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ 

"ข้าเองก็จะพาพี่สะใภ้ไปเที่ยวเล่นเช่นกันเจ้าค่ะ พี่ใหญ่สามารถไปทำงานได้อย่างสบายใจได้เลย จะกลับจวนหนึ่งเดือนครั้งอย่างที่เคยเป็นก็ได้ ข้ากับพี่รองจะช่วยดูแลพี่สะใภ้ให้เองเจ้าค่ะ" 

หลี่ฉิงเซียวเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น ทุกคนในจวนต่างรู้ดีว่าพี่ใหญ่แทบจะกินนอนที่ค่ายทหารอยู่แล้ว 

"ข้าบอกจะพานางไปเอง หากวันใดข้าไม่ว่างพวกเจ้าก็ค่อยพาพี่สะใภ้ไปเที่ยวเล่นก็แล้วกัน" หลี่เหวินซานเอ่ยตอบเสียงเข้ม

"ขอรับ/เจ้าค่ะ"

สองพี่น้องขานรับ ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่เป็นอะไรถึงได้ทำหน้าตาน่ากลัวเช่นนั้น 

"ขนมมาแล้ว รีบทานเถิด" 

หลี่เหวินซานยื่นจานขนมให้หวงไป๋เฟิ่ง นางรีบหยิบขนมดอกท้อขึ้นมาทานด้วยความสนใจ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกท้อทำให้ยิ่งรู้สึกอยากอาหาร เมื่อลองชิมเข้าไปก็ยิ่งรู้สึกชอบยิ่งนัก

"ขนมนี่รสชาติดีมากเลยเจ้าค่ะ ทั้งหอมและหวานละมุนมาก" ดวงตาของหวงไป๋เฟิ่งเป็นประกายระยิบระยับ

"ถ้าชอบก็ทานเยอะ ๆ ไว้วันหลังจะให้คนไปซื้อมาให้อีก"

"นี่ไม่ใช่ขนมที่จวนหรือเจ้าคะ"

"ไม่ใช่"

ด้วยความสงสัยหลี่ฉิงเซียวจึงหยิบขนมขึ้นมาทานบ้าง นางกัดเพียงแค่คำเดียวก็รู้เลยว่าเป็นขนมขึ้นชื่อของร้านดอกท้อลอยลม 

"นี่มัน... ขนมจากร้านดอกท้อลอยลมนี่เจ้าคะ" 

"ใช่! เจ้าน่ะทานให้มันน้อย ๆ หน่อยเถิด ทานมากไปจะไม่ดีต่อเจ้าเอาได้นะ" 

ในตอนที่หลี่ฉิงเซียวจะหยิบขนมขึ้นมาอีกชิ้นกลับถูกหลี่เหวินซานสกัดเอาไว้ เขามองนางด้วยสีหน้าตำหนิเล็กน้อย ด้วยขนมดอกท้อจากร้านดอกท้อลอยลมนี้หาซื้อได้ยากมาก เขาต้องให้คนไปต่อแถวตั้งแต่เช้าตรู่ หากน้องสาวของเขาทานจนหมดหวงไป๋เฟิ่งก็จะไม่ได้ทานขนมขึ้นชื่อนี้

"พี่ใหญ่รังแกข้าอีกแล้ว ข้าแค่จะทานอีกชิ้นเดียวเอง" หลี่ฉิงเซียวมองค้อนพี่ชายด้วยความไม่พอใจ 

"เจ้าชอบก็ช่วยพี่ทาน พี่ท่านคนเดียวคงไม่หมดหรอก"

หวงไป๋เฟิ่งอมยิ้มพลางหยิบขนมอีกชิ้นให้หลี่ฉิงเซียวอย่างใจดี นางเหลือบสายตาไปมองสามีเล็กน้อย อดจะนึกขำกับการกระทำของพวกเขาสองพี่น้องไม่ได้ สามีของนางชอบดุแต่ก็ใจดีไม่น้อยทั้งยังใส่ใจนางด้วย ส่วนหลี่ฉิงเซียวอายุยังน้อยจึงมีนิสัยซุกซนและเอาแต่ใจไปบ้าง แต่นางไม่เป็นพิษเป็นภัยกับผู้ใดเลย 

ทว่าหลี่เฟิงนั้นแม้จะดูอ่อนโยนสุภาพเรียบร้อย แต่ดวงตาของเขาที่จ้องมองนางนั้นให้ความรู้สึกราวกับถูกจับจ้องจนทะลุไปถึงหัวใจ สายตาของเขาราวกับคอยสอดส่องตลอดเวลาอย่างนั้นแหละ 

"พี่สะใภ้ของเจ้าใจดี ต่อไปก็เชื่อฟังนางให้มาก ๆ เล่า" หลี่เหวินซานหันมากำชับน้องสาว

"เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ พี่รองท่านลองทานดีหรือไม่เจ้าคะ" นางยื่นขนมไปให้พี่ชายคนรอง

"ไม่ดีกว่า ข้ากลัวจะถูกพี่ใหญ่ไล่ตีเพราะไปแย่งขนมพี่สะใภ้ทาน" 

หลี่เฟิงเอ่ยเย้าพี่ชายของตัวเอง ก่อนจะเสหยิบชาขึ้นมาดื่มพลางสังเกตพี่สะใภ้ไปด้วย ตัวเขาเป็นคนที่ชอบมองทุกสิ่งอย่างพิจารณาจึงอดไม่ได้จริง ๆ 

"คุณหนูรองเจ้าคะ คุณหนูรองชุนมาขอพบเจ้าค่ะ ตอนนี้นั่งรออยู่ที่เรือนรับรองของเรือนใหญ่แล้วเจ้าค่ะ" 

สาวใช้นางหนึ่งเข้ามารายงาน นางมีสีหน้ากังวลใจเล็กน้อยเมื่อมองเลยไปทางหวงไป๋เฟิ่ง ซึ่งการกระทำของนางล้วนตกอยู่ในสายตาของชุนหลัน

"ฮุ่ยผิงหรือ เหตุใดนางถึงมาวันนี้เล่า" 

หลี่ฉิงเซียวรู้สึกไม่ดีนัก คนภายนอกควรรู้ดีว่าวันนี้ตระกูลหลี่ไม่ต้อนรับแขก เนื่องจากเป็นวันต้อนรับสะใภ้คนใหม่ของจวน และสถานะของฮุ่ยผิงก็ไม่ค่อยเหมาะสมนักที่จะมาที่จวนเวลานี้

"คุณหนูรองชุนบอกว่าจะมาชวนคุณหนูไปช่วยเลือกซื้ออาภรณ์เจ้าค่ะ แต่บ่าวบอกไปแล้วว่าคุณหนูไม่สะดวกนัก"

"ช่างเถอะ ๆ ในเมื่อนางมาแล้วข้าก็จะออกไปพบนางเอง"

"เจ้าค่ะ"

สาวใช้เดินปลีกตัวออกไปแล้ว หลี่ฉิงเซียวก็หันมายิ้มให้กับทุกคนก่อนจะขอตัวไปพบสหาย คล้อยหลังที่นางจากไปหลี่เฟิงก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก

"ตระกูลชุนช่างไม่รู้จักกาลเทศะ ควรหรือที่จะส่งคุณหนูรองชุนมาที่นี่เวลานี้"

"อาเฟิง... พอเถอะ"

"พี่ใหญ่ใจอ่อนเกินไปนะขอรับ ยิ่งท่านทำเช่นนั้นพวกเขายิ่งได้ใจ คนก็ตายไปนานแล้วยังไม่ล้มเลิกที่จะคิดเรื่องนั้นอีก ทั้งที่ตอนนี้พี่ใหญ่ก็มีพี่สะใภ้แล้วทั้งคน"

"พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าวางใจเถิด" 

สองพี่น้องถกเถียงกันไปมาโดยที่หวงไป๋เฟิ่งเอาแต่ทานขนม ทว่าหูของนางกลับลอบฟังสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันแล้วประมวลผลในใจ ดูท่าคุณหนูรองชุนผู้นี้จะไม่ธรรมดาเลย และอะไรคือสิ่งที่ตระกูลชุนมุ่งหวังเอาไว้ เห็นทีนางคงต้องสืบเรื่องของตระกูลชุนเอาไว้บ้างเสียแล้ว!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   ตอนพิเศษ 2 ท่านพ่อข้าอยากได้น้อง

    ตอนพิเศษ 2ท่านพ่อข้าอยากได้น้องครอบครัวของหลี่เพ่ยจูได้เดินทางกลับสู่แดนใต้หลังจากมาอยู่ที่เมืองหลวงหลายเดือนแล้ว โม่ลี่อินที่ชอบหลี่เฟยหนี่ว์มากร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร เด็กน้อยไม่อยากกลับบ้านเสียแล้ว อยากจะอยู่เล่นกับน้องน้อยที่นี่"ฮือ ๆ ข้าไม่ยั่กกับ ข้ายั่กเล่นกับน้อล ฮือ ๆ" โม่ลี่อินร้องไห้จ้าไม่ยอมขึ้นรถม้าไปกับบิดาและมารดา นางยืนกอดป้าสะใภ้ที่อุ้มหลี่เฟยหนี่ว์อย่างน่าสงสาร เด็กน้อยไม่อยากจากไปไหนเลย"โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะอินเอ๋อร์ อีกไม่นานเราก็จะกลับมาที่นี่อีก ทว่าตอนนี้เราต้องกลับบ้านเสียก่อนนะ" หลี่เพ่ยจูพยายามหลอกล่อบุตรสาว "ไม่ ๆ อินเอ๋อร์ไม่ยั่กรอ อีกนานกว่าจะมาที่นี่ ฮือ ๆ""แต่ว่าอินเอ๋อร์จะต้องรีบกลับไปเตรียมห้องนอนให้น้องแล้วนะ ถ้าหากเรายังอยู่ที่นี่น้องของอินเอ๋อร์ก็จะไม่มีห้องนอนของตัวเองนะ" โม่ลู่หลิ่งก้มหน้าลงไปหาบุตรสาว เมื่อได้ยินเช่นนั้นโม่ลี่อินพลันตาโตแล้วหันไปมองมารดาทันทีด้วยความคาดหวัง"น้อลของอินเอ๋อร์หรือ ทั่นแม่มีน้อลแล้วหรือ""ใช่แล้ว ในท้องของแม่มีน้องของอินเอ๋อร์แล้วนะ" หลี่เพ่ยจูคลี่ยิ้มหวาน นางก้มตัวลงไปหาบุตรสาวด้วยรอยยิ้มกว้างเช่นเดียวกับสามีท

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   ตอนพิเศษ 1 หลี่เฟยหนี่ว์

    ตอนพิเศษ 1หลี่เฟยหนี่ว์หวงไป๋เฟิ่งที่เพิ่งคลอดบุตรสาวจำต้องอยู่ไฟเพื่อให้ร่างกายของนางปรับสมดุล ดังนั้นแล้วหลี่เหวินซานที่เป็นห่วงบุตรสาวมากจึงได้ทูลลาราชการกับฮ่องเต้เป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยเขาจะใช้ช่วงเวลานี้ดูแลบุตรสาวที่ยังเล็กและภรรยาที่ยังคงอ่อนแอ ฮ่องเต้หวงลู่หลงเห็นแก่ความดีความชอบของเขาจึงได้ทรงอนุญาตนามของบุตรสาวผู้นี้เป็นหลี่เหวินซานกับหวงไป๋เฟิ่งที่ช่วยกันตั้ง โดยพวกเขาให้ชื่อบุตรสาวคนแรกว่า 'เฟยหนี่ว์' อันหมายถึงหญิงสาวแห่งการโบยบิน เพราะหวงไป๋เฟิ่งนั้นต้องการให้บุตรสาวของนางมีอิสระในการใช้ชีวิต โบยบินไปสู่โลกกว้างด้วยใจของนางเอง"พี่ใหญ่ได้เวลาป้อนนมหนี่ว์เอ๋อร์แล้วเจ้าค่ะ" หลี่ฉิงเซียวเดินเข้ามาในห้องด้านข้างที่อยู่ติดกับห้องของหวงไป๋เฟิ่ง ในตอนนี้นางได้ทำหน้าที่คอยดูแลพี่สะใภ้และเป็นดั่งพี่เลี้ยงให้กับหลานสาวด้วย"พี่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้หนี่ว์เอ๋อร์ก่อน" หลี่เหวินซานตอบกลับมาโดยที่มือคู่นี้ที่เอาแต่จับดาบฆ่าฟันศัตรูกำลังสาละวนกับการผูกผ้าอ้อมให้กับบุตรสาว ตั้งแต่ลางานมาเขาก็คอยดูแลบุตรสาวมิได้ห่าง ทั้งอาบน้ำ เช็ดอึ เช็ดฉี่ เปลี่ยนผ้าอ้อม แล้วยังกล่อมนางนอนบนอกของเขาด้ว

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย แดนเหนือหลี่เหวินซานใช้เวลาเดินทัพเพียงหนึ่งเดือนกว่าก็มาถึงยังแดนเหนือ ทันทีที่เขามาถึงก็เข้าพบชินอ๋องเพื่อปรึกษาเรื่องการรบ การพบหน้าของพวกเขาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในฐานะพ่อตาและบุตรเขย ก่อนหน้านี้ทั้งสองเคยพบหน้ากันมาแล้ว ทว่านั่นก็ผ่านมาหลายปีแล้วเช่นกัน"ข้าจะลอบไปทางภูเขาด้านนี้เพื่อตีชายแดนของพวกมันให้แตกราบคาบ ส่วนเจ้าก็อ้อมไปอีกทางตลบหลังพวกมันเสีย" หวงซือเหวินชี้มือไปตามแผนที่ที่กางอยู่บนโต๊ะ"แต่กระหม่อมคิดว่านี่จะเสี่ยงเกินไป ทั้งยังทำให้เสียไพร่พลไปเป็นจำนวนมากด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ""เช่นนั้นเจ้าคิดว่าจะทำเช่นไรเล่า" หวงจินหมิงเอ่ยถาม"กระหม่อมคิดว่าจะแบ่งกำลังทหารออกเป็นสี่ส่วน โดยจะต้องมีพลธนูไปด้วย เราจะใช้ธนูไฟเป็นโล่ในการบุกโจมตี แล้วจึงค่อยตีขนาบข้างเพื่อเลี่ยงความสูญเสียของฝั่งเราให้มากที่สุด อีกทั้งแคว้นอู๋นั้นชำนาญเรื่องการสู้รบบนที่ราบมากกว่าเรา กระหม่อมคิดว่าจะใช้ทหารเขี้ยวพยัคฆ์ที่ชำนาญด้านนี้เป็นทัพหน้าเพื่อประจัญบานกับพวกมัน ส่วนทหารของแดนเหนือที่เก่งเรื่องสู้รบบนที่สูงและชำนาญเส้นทางมากกว่าให้เป็นทัพหลัง คอยสนับสนุนจากบนที่สูงจะดีว่าพ่ะย่ะค่ะ" "อืม.

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 34 ชดใช้

    บทที่ 34ชดใช้"คุณหนูเอ่ยแค่นั้นก็เอามีดสั้นกรีดข้อมือเพื่อจบชีวิตลง ข้าตกใจมากจนทำสิ่งใดไม่ถูก คนที่คอยเฝ้าพวกเรารีบเข้ามาช่วยแล้วแต่ก็ไร้ผล คุณหนูได้จากไปด้วยความแค้นใจ...""มิใช่... นางจากไปเพราะยอมรับในชะตาของตนเอง นั่นมิใช่ความแค้นแต่เป็นการยอมรับและปลงในโชคชะตาของตัวเองต่างหากเล่า!" หวงไป๋เฟิ่งแก้ต่าง การกระทำของชุนอวิ๋นทั้งกล้าหาญและโง่เขลาในคราวเดียวกัน ถ้านางบอกความจริงกับท่านพี่เหวินซาน นางอาจจะไม่ต้องมาแบกรับเรื่องนี้เพียงผู้เดียว แต่ว่าตัวนางเองก็ไม่ได้ยืนอยู่ในจุดของชุนอวิ๋น บางทีชุนอวิ๋นอาจมีเรื่องราวมากมายที่ไม่มีผู้ใดรู้ก็เป็นได้ "ฮือ ๆ คุณหนูของข้ามิควรมาตายเช่นนี้เลย ถ้าท่านมาตามสัญญาจะต้องช่วยนางได้อย่างแน่นอน" ฟางหรูเอ่ยโทษหลี่เหวินซาน"วันนั้นข้าถูกดึงตัวไปปราบโจรจึงมิได้ไปพบนางตามที่สัญญาไว้ ด้วยข้าคิดว่าอีกไม่นานนางก็จะกลับมา..." หลี่เหวินซานที่รู้สาเหตุการตายของชุนอวิ๋นรู้สึกปวดใจยิ่งนัก ตัวเขาไม่เคยรับรู้ถึงความหนักใจของนางเลย"ฮือ ๆ เพราะท่านคนเดียวที่ทำให้คุณหนูของข้าต้องจบชีวิตของตัวเองลง"ฟางหรูร่ำไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร นางคิดถึงคุณหนูเหลือเกิน... แม้

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 33 สาเหตุที่แท้จริง

    บทที่ 33สาเหตุที่แท้จริงหลี่เหวินซานมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยอาการสงบ คราแรกเขาก็เตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเป็นแน่ แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องในจวนตระกูลชุนจะร้ายแรงถึงเพียงนี้ "กุมตัวไปขังคุกหลวงทั้งหมด ยกเว้นนาง" เขาเอ่ยสั่งการเสียงเข้มก่อนจะชี้มือไปยังฟางหรู จินเกอที่ติดตามมาด้วยได้เข้ามาควบคุมตัวฟางหรูเพื่อพาไปสืบสวนต่อไป เรื่องของนางนั้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดาเลยค่ายทหารเขี้ยวพยัคฆ์ฟางหรูถูกนำตัวมาขังยังคุกของค่ายทหารเขี้ยวพยัคฆ์ มือเท้าของนางถูกตรึงด้วยโซ่ตรวนที่ยากจะหลบหนีออกไปได้ ห้องขังนี้เป็นห้องขังเดี่ยวที่มีไว้สำหรับนักโทษสำคัญ หลังจากหลี่เหวินซานเข้าไปรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้แล้ว เขาก็ได้มาหาฟางหรูเพื่อไต่สวนนางต่อไป ยังคงมีเรื่องของชุนอวิ๋นที่เขายังไม่รู้ รวมถึงการตายที่แท้จริงของนาง ด้วยตอนนี้ชุนฮูหยินได้เสียสติจนมิอาจให้การอะไรได้อีกแล้ว"เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วยสินะฟางหรูที่สวมรอยอวิ๋นเอ๋อร์" ใบหน้าคมเข้มตวัดสายตามองอดีตสาวใช้ข้างกายของชุนอวิ๋น มิน่าเล่านางถึงได้เลียนแบบชุนอวิ๋นอย่างไร้ที่ติ ทั้งยังรับรู้เรื่องราวข

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน    บทที่ 32 ปิดจบเรื่องนี้

    บทที่ 32ปิดจบเรื่องนี้หลี่เหวินซานมองทุกคนไปมา ก่อนจะรู้สึกตัวว่าเป็นเขาที่ไม่รู้อะไรเลย ทุกคนต่างร่วมกันแสดงงิ้วฉากใหญ่นี้ขึ้นมา โดยที่ไม่คิดว่าตัวเขานั้นจะรู้สึกเจ็บปวดใจเช่นไร ทั้งที่สามารถบอกเขาก่อนได้"ท่านพี่คงกำลังคิดว่าเหตุใดพวกเราถึงไม่บอกท่านใช่หรือไม่ ดังเช่นที่ท่านพี่ไม่บอกข้าว่ากำลังทำอะไรอยู่ ปล่อยให้ข้านอนร้องไห้หลังจากกลับจากโรงเตี๊ยม ถ้าไม่ใช่เพราะอาเฟิงแอบมาบอกว่าทุกอย่างที่ท่านพี่ทำลงไปเพื่อสืบหาตัวจริงของชุนอวิ๋น ข้าคงได้เป็นบ้าตายและทำเรื่องไม่ยั้งคิดไปเสียแล้ว" หวงไป๋เฟิ่งยังคงรู้สึกน้อยใจสามีในเรื่องนี้ นางยังเสียใจที่เขาเข้าข้างชุนอวิ๋นและดูเป็นห่วงอีกฝ่ายมากเรื่องเกิน"เรื่องนั้น... พี่ทำไปเพราะต้องการกันเจ้าให้ออกห่างจากเรื่องนี้ มันอันตรายมากนะเฟิ่งเอ๋อร์ ชุนอวิ๋นผู้นั้นเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่านางมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ และเหตุใดนางถึงได้สวมรอยได้เหมือนกับชุนอวิ๋นตัวจริงยิ่งนัก เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวพันแค่เพียงพวกเราแต่ยังเกี่ยวข้องกับบ้านเมืองด้วย""ข้ารู้ว่าท่านพี่เป็นห่วงข้า แต่เราเป็นสามีภรรยากันก็มิควรมีเรื่องปิดบังกันมิใช่หรือเจ้าคะ วันนั้นท่านพี่ก็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status