Share

บทที่ 10

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-04-26 09:19:25

หลังกลับจากตำหนักใหญ่ในช่วงบ่าย นอกจากเครื่องประดับและแพรพรรณเป็น ‘ค่าจ้าง’ ในการถวายงานเป็นที่พอพระทัยแล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าฟู่หยวนเพ่ยไม่มีนางกำนัลรับใช้เป็นของตนเอง มีแต่นางกำนัลของลี่เฟยที่นางแบ่งมาให้เรียกใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งจะให้เป็นแบบนี้ก็ไม่สมฐานะสตรีชั้นสูงที่ถวายงานฝ่าบาทอย่างเป็นทางการถึงสองครั้งสองครา

พระองค์จึงส่งนางกำนัลมาให้สองคนคือ หยุนรุ่ยกับเมิ่งหลาน ทั้งสองเป็นพี่น้องที่เข้าวังมาพร้อมกัน รูปร่างหน้าตางดงามเฉลียวฉลาดอ่อนโยน อีกทั้งยังทำงานได้หลายอย่างและทำได้ดี เดิมเคยเป็นนางกำนัลที่ถวายงานฝ่าบาทเป็นการส่วนพระองค์ ดังนั้นข่าวหวงตี้พระราชทานนางกำนัลให้จึงเป็นที่เลื่องลือไปทั่ววังหลวง

ครานี้จากสิ่งของเป็นคนเป็นๆ...ฟู่หยวนเพ่ยไม่อาจยกพวกนางกลับไปถวายคืนฝ่าบาทได้อย่างคราวเครื่องประดับอีก จึงจำใจรับสองอนงค์นางเป็นนางกำนัลรับใช้ส่วนตัวในที่สุด

ด้วยความที่ทั้งในชาติก่อนและชาติปัจจุบันนี้หยวนเพ่ยก็ไม่เคยมีสาวใช้ข้างกาย จึงถนัดการทำอะไรต่อมิอะไรด้วยตัวเองมาตั้งแต่อยู่ตระกูลสาขา แม้เข้ามาอยู่ในวังมีบางครั้งที่นางกำนัลของลี่เฟยไม่อาจมาอยู่รับใช้ได้ นางก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจ ด้วยถือว่าคนเราเกิดมาคนเดียวตายคนเดียว จะพึ่งพาใครให้มากมาย ดังนั้นเมื่อเห็นเด็กสาวสองคนที่อายุเท่าๆ กันกับนางมาทำท่านบนอบอีกทั้งย่อกายคารวะนางอีก ก็ทำเอาหยวนเพ่ยทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

"ลุกขึ้นเถอะ พวกเจ้าอายุเท่ากับข้า ไยต้องพิธีรีตองมากมาย" หยวนเพ่ยเอ่ยพลางประคองเด็กสาวทั้งสองคนให้ลุกขึ้น

"มิได้หรอกเจ้าค่ะ ท่านเป็นผู้ที่ฝ่าบาทโปรดปราน พวกข้ามิอาจละเลยได้" เด็กสาวใบหน้าจิ้มลิ้มมัดมวยสองข้างเอ่ย "ข้าน้อยชื่อหยุนรุ่ย ส่วนนางคือเมิ่งหลานเป็นน้องสาว"

หยวนเพ่ยมองเด็กสาวสองคน พวกนางหน้าตาคล้ายกัน แต่หยุนรุ่ยเวลายิ้มจะมีลักยิ้มด้านซ้าย ส่วนเมิ่งหลานมีไฝใต้ตาขวาหนึ่งเม็ด...อย่างน้อยนางก็แยกพวกนางได้สำเร็จ

"เช่นนั้นข้าขอฝากเนื้อฝากตัวกับพวกเจ้าด้วยนะ" ฟู่หยวนเพ่ยยิ้มบาง "แต่จากนี้เรียกข้าว่าพี่สาวเถอะ เรียกท่านหรืออะไรนี่ข้ารู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลย"

"แต่..."

"ไม่มีแต่" นางส่ายหน้า "มิเช่นนั้นข้าจะนำไปกราบทูลฝ่าบาท ว่าพวกเจ้าไม่เชื่อฟังข้า"

"นายหญิงได้โปรดเมตตา" ทั้งสองรีบคุกเข่าลงทันที ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วแก้คำที่เอ่ยไปข้างต้น "พ...พี่สาวโปรดเมตตา"

ได้ยินเช่นนั้น หยวนเพ่ยก็อมยิ้ม จากนั้นจึงเดินไปยังตู้คันฉ่องสำหรับแต่งหน้า ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งจึงได้ปิ่นดอกอวี้หลันกับต่างหูหยกเขียวมาอย่างละชิ้น

"อาจจะมีราคาค่างวดไม่มาก แต่ถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับพวกเจ้าก็แล้วกันนะ"

"ขอบคุณพี่สาว" ทั้งสองรับของประดับทั้งสองชิ้นมาด้วยความยินดี พวกนางห่อมันด้วยผ้าเช็ดหน้าอย่างประณีตแล้วเหน็บไว้ที่เข็มขัดอย่างดี "พี่สาวมีอะไรให้พวกข้ารับใช้ โปรดบอกมาเลยนะเจ้าคะ"

หยวนเพ่ยนั่งลงยังตั่งตัวยาว เอานิ้วแตะแก้มทำท่าพินิจพิเคราะห์ ไม่ถึงอึดใจรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นมา

"เรามาทำเล็บกันเถอะ"

สำหรับการทาเล็บนั้น ในจีนมีประวัติยาวนานมากว่าสามพันปีแล้วตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวยังเรืองอำนาจ วัสดุที่ใช้มักเป็นขี้ผึ้ง ไข่ขาว หรือน้ำคั้นดอกไม้ที่ให้สีสดและมีกลิ่นหอม และถ้าเป็นเชื้อพระวงศ์จะนิยมทาสีทองหรือสีดำเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

แต่สำหรับหยวนเพ่ยที่ไม่ชอบทั้งสีทองและดำ ตัดสินใจใช้ไข่ขาวผสมน้ำคั้นดอกไม้หลายชนิดเพื่อให้มีทั้งสีม่วง สีเหลือง สีชมพูอ่อน และกลบกลิ่นคาวไข่ แต่ที่พิเศษขึ้นมานิดหน่อยก็ตรงที่มีกระดาษตัดเป็นรูปดาว หัวใจ นก ดอกไม้ แต่ละอันสีสันสดใสแวววาวคล้ายฮวาเตี้ยนที่เป็นเครื่องประดับหน้าผากของสตรีชั้นสูงในสมัยนี้ เมื่อเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยวนเพ่ยก็ชวนหยุนรุ่ยกับเมิ่งหลานไปยังศาลาเล็กที่อยู่ด้านหลังอุทยานตำหนักชุนชิว ซึ่งอากาศเย็นมากกว่าภายในตำหนักที่ร้อนอบอ้าว

พวกนางล้างมืออย่างพิถีพิถันเพื่อเป็นหนูทดลองทาเล็บของเหลียงเจียคนโปรดของโอรสสวรรค์ เมื่อมองเด็กสาวที่ถูมือกันอย่างหมายมั่นปั้นมือแล้วก็ให้นึกประหม่า ด้วยได้ยินกิตติศัพท์ถึงนิสัยแปลกประหลาดไม่ถือตัวของฟู่เหลียงเจีย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเหลียงเจียนางนี้จะทำกับพวกนางราวกับเป็นน้องสาวตัวน้อยๆ ของนางก็มิปานเช่นนี้

สมแล้วที่หวงตี้เคยตรัสชมเชยเอาไว้ก่อนที่พวกนางจะถูกส่งมา...

"หยุนรุ่ย เจ้าก่อน" หยวนเพ่ยยิ้มหวานขณะประคองมือของเด็กสาวขึ้นมา จากนั้นเอาพู่กันที่ตัดส่วนปลายที่เรียวแหลมแผ่ให้แบนจุ่มที่ไข่ขาวผสมน้ำคั้นดอกไม้ ค่อยๆ ทาลงบนเล็บของหยุนรุ่ยทีละนิ้ว และรีบเอาเข็มจิ้มที่กระดาษลายดอกไม้ดอกเล็กมาแตะประดับบนเล็บก่อนที่ไข่ขาวจะแห้ง ค่อยๆ เกิดลวดลายสวยงามขึ้นบนเล็บสวยของหยุนรุ่ยทีละน้อยจนเจ้าของเล็บหัวใจเต้นระรัว

"งามเหลือเกินเจ้าค่ะพี่สาว เหมือนกับผีเสื้อกำลังโบยบินอยู่บนดอกไม้เลยเจ้าค่ะ" หยุนรุ่ยที่ยังเด็กนัก เมื่อเห็นเล็บของตนได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม ก็เผลอแสดงความดีใจจนลืมสำรวมกิริยา ในขณะที่เมิ่งหลานมองเล็บของพี่สาวอย่างนึกอิจฉา แอบช้อนตามองหยวนเพ่ยว่าเมื่อใดจะเป็นคราวของนางเสียที

"พี่สาวไปเรียนจากที่ใดเจ้าคะ" เมิ่งหลานเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ วิธีการทาเล็บให้เกิดสีและลวดลายต่างๆ รวมไปถึงการตกแต่งด้วยกระดาษสีบนเล็บเช่นนี้ นางไม่เคยเห็นมาก่อน

"สำนักอู่ฝอซื่อ" นางตอบขณะที่นำกระดาษลายผีเสื้อแปะลงที่เล็บของหยุนรุ่ย

"อู่ฝอซื่อ?"

"เป็นสำนักเล็กๆ ที่บ้านเกิดของข้า เจ้าไม่รู้จักก็ไม่แปลกหรอก" หยวนเพ่ยคลี่ยิ้มอ่อนโยน หลังจากทาเล็บของหยุนรุ่ยเสร็จเรียบร้อย ก็หันมาทางเมิ่งหลานที่นั่งเรียบร้อยรอท่า

ก็เหมือนในปัจจุบันที่คนส่วนมากไม่รู้ ว่าอู่ฝอซื่อนั้นนอกจากจะมีหลักสูตรการนวดแผนโบราณแล้ว ยังมีหลักสูตรการทำเล็บรวมไปถึงสปามือและเท้า พอเรียนจบหลักสูตรก็จะมีประกาศนียบัตรมอบให้ สามารถนำไปใช้ต่อยอดสมัครงานได้ หยวนเพ่ยเองตอนมีชีวิตอยู่ก็แอบไปลงเรียน หลังจากพอจัดสรรเวลาทำงานได้ แถมเอาวิชานี้ไปหาลำไพ่พิเศษ ได้ค่าขนมมาพอหอมปากหอมคออีก

ขอเพียงให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ใช้วิชาที่ติดตัวมาทำประโยชน์ให้คนรอบข้าง เพียงนั้นก็พอ

"...นั่นหรือ เหลียงเจียคนโปรดของเสด็จพี่?"

ชายหนุ่มผมยาว รวบผมครึ่งศีรษะปักปิ่นสวมกวาน ใบหน้าคมคายมีส่วนคล้ายกับหวงตี้อยู่ไม่น้อย สายตาคู่คมกับคิ้วกระบี่มองสตรีที่อยู่ในศาลาหลังน้อย มีสตรีสามนางกำลังหัวร่อต่อกระซิกสนิทสนม แต่เขากลับมองใบหน้าเจ้าของรอยยิ้มละมุนละไมที่เกล้ามวยปักปิ่นสวมชุดปักลวดลายงดงามโดดเด่น กำลังบรรจงทาเล็บให้หญิงสาวที่สวมชุดนางกำนัลอย่างตั้งใจ

"ทูลฉู่หวาง[1] เป็นฟู่เหลียงเจียจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ" ลี่กงกงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

"งั้นหรือ?" ชายหนุ่มยิ้มบาง ม่านไม้ไผ่ที่ศาลานั้นขยับขึ้นลงตามสายลม เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์งดงามของฟู่หยวนเพ่ยชัดเจน...

นับว่าเป็นสาวงามสมคำที่เสด็จพี่เคยเล่า...แต่สาวงามในวังหลวงแห่งนี้มีมากกว่าสามพันนาง แน่นอนว่าหยวนเพ่ยไม่ใช่สาวงามหนึ่งในใต้หล้าจนมวลผกาละอาย แบบเดียวกับหยางอวี้หวน [2]ในจักรพรรดิถังไท่จง

น่าสงสัยและน่าสนใจไม่น้อยที่สตรีท่าทางบอบบางเรียบร้อยเช่นนี้ สามารถผูกพระทัยเชษฐาของเขาด้วยวิธีใด

ถ้ามีเวลา เขาอยากจะลองสนทนากับนางสักครั้ง

[1] นามที่ได้รับพร้อมตำแหน่งอ๋อง เป็นชื่อรัฐในยุคชุนชิวและยุคจ้านกว๋อ (春秋戰國) สมัยโจวตะวันออก (東周) ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซึ่งได้แก่ รัฐฉิน (秦), รัฐจิ้น (晉), รัฐฉี (齊), รัฐฉู่ (楚) ทั้งหมด 4 รัฐ อ๋องที่ได้รับนามเป็นชื่อรัฐเหล่านี้ ถือว่ามีเกียรติสูงสุด

[2] นามเดิมของหยางกุ้ยเฟย
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 98

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ด้วยอายุครรภ์เพียงแปดเดือน ชายาของฉู่อ๋องคนปัจจุบัน ก็คลอดบุตรคนสุดท้องออกมาในอีกสองวันต่อจากนั้น หนึ่งเดือนให้หลังประมุขสี่สกุลต่างมาร่วมแสดงความยินดี แม้แต่ประมุขเผ่าซีเซี่ยอย่างเค่อตัว และ พระชายาจินซาก็มาด้วย เค่อตัวท่าทีผึ่งผาย ในอ้อมแขนมีหมิงจูตัวน้อยวัยสองเดือนนอนหลับฝันห

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 97

    หลายเดือนผ่านไป เผ่าซีเซี่ยก็มีข่าวดี ชายาของข่านซีเซี่ยได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนสุดท้อง เนื่องจากเกิดในช่วงอรุณรุ่ง ดวงอาทิตย์งดงามดั่งไข่มุกเหนือท่าสัตตบงกช เค่อตัวจึงตั้งชื่อเด็กหญิงตัวน้อยว่า หลัวหมิงจู หยวนเพ่ยได้ยินครั้งแรกก็อดชื่นชมไม่ได้ว่าเค่อตัวนั้นพอแก่ตัวลงพรสวรรค์ในการตั้งชื่อนั้นกลับแหลมคม

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 96

    หลังจากพักผ่อนอิริยาบถอยู่ที่ศาลาริมน้ำอยู่จนถึงบ่ายคล้อย สมาชิกทั้งหมดของฉู่หวางและข่านซีเซี่ยต่างยกโขยงไปที่เหลาที่ได้สัญญากับเจ้าของร้านไว้เพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างครึกครื้นสุขสันต์ แม้มีบางคราที่เด็กๆต้องรั้งไม่ให้เค่อตัวเอาแส้ไล่ฟาดหยวนเพ่ยเพราะโดนแดกดัน กับรั้งตั

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 95

    เมื่อมาถึงหน้าประตูสกุลเจียง ครอบครัวของฉู่หวังที่ประกอบด้วยสมาชิกสี่คนก็ต้องพบกับประมุขแห่งเผ่าซีเซี่ยยืนรอเขาอยู่แล้ว ท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่องใส่ฉู่หวางมาแต่ไกลจนนึกจะทำอย่างไรก็ได้ให้คนๆนี้ไปให้พ้นๆหน้า"ในที่สุดพวกเจ้าก็มาถึง ระหว่างทางมานี้พวกเจ้าได้กินข้าวต้มกับน้ำแกงรากบัวที่ข้าตั้งโรงทานเอาไว้ห

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 94

    เมื่อสองผู้สูงศักดิ์ได้ผลแน่ชัดแล้วว่า ฟู่หยวนเพ่ย ชายาของฉู่หวางที่เป็นพระอนุชาคู่พระทัยของฮ่องเต้ จินซา ชายาของข่านซีเซี่ยผู้ทรงอิทธิพลในเส้นทางสายไหมคนปัจจุบัน ทั้งสองต่างตั้งครรภ์ในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน บรรยากาศทั้งสองสำนักนับได้ว่าชื่นมื่นอย่างยิ่งหยวนเพ่ยตั้งครรภ์เข้าเดือนสี่ นับว่าครรภ์แข็ง

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 93

    ท่ามกลางความวุ่นวายจอแจในห้องเล็กๆนั้น เด็กสาวคนหนึ่งเพียงนั่งเท้าคางมอง ท่าทีสบายๆกึ่งเกียจคร้านอย่างยิ่ง แต่ก็มิทำให้ความงามของนางลดน้อยถอยลง ซินฉีที่เพิ่งว่างจากการจดบันทึกเดิมพัน(?) โดยทิ้งให้จื่อซินกับซูเฟยเดินทางไปยังที่พำนักของข่ายซีเซี่ยในเมืองหลวง จึงค่อยๆเบียดกระแซะเข้าไปหา "อาเหยา อาเหยาค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status