หลังจากกลับมายังซีซย่า ฉู่หวางก็ส่งจดหมายไปยังเมืองหลวง ขอพระบรมราชานุญาตจากหวงตี้ขออยู่ที่ซีหนิงต่ออีกหนึ่งปี จนกว่าหยวนเพ่ยจะคลอดและแข็งแรงพอที่จะกลับไปยังฉางอัน ถ้ามีเอกสารอันใดเร่งด่วน ขอให้ใช้ม้าเร็วส่งเอกสารมาหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ราชโองการอนุญาตก็ส่งมาถึง พร้อมทั้งทองคำและแพรพรรณวิจิ
ราตรีนี้เป็นวันแรกที่ฟู่หยวนเพ่ยถวายตัว...นางเป็นน้องสาวของลี่เฟย ฟู่หยวนฉุน พระสนมที่พระองค์โปรดปราน บัดนี้สามปีผ่านพ้น อีกทั้งลี่เฟยที่กำลังตั้งครรภ์ประสงค์ให้คนในครอบครัวอยู่ดูแล ตระกูลฟู่จึงได้ส่งนางเข้าวังฟู่หยวนเพ่ยภายนอกดูเหมือนคุณหนูในห้องหอทั่วไป คราแรกที่ได้พบ ใบหน้าเรียวขาวดังไข่ปอก ร่า
ฟู่หยวนเพ่ยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจถวายตัวแล้ว จึงกลับตำหนักชุนชิวที่พี่สาวของนางพักอยู่ เนื่องจากเป็นพระประสงค์ของลี่เฟยที่ต้องการให้น้องสาวอยู่ใกล้ๆ หวงตี้ จึงมีรับสั่งให้ยกเรือนฝั่งปีกซ้ายของตำหนักชุนชิวให้เป็นที่อยู่ของนาง เด็กสาวเดินเข้าไปยังภายในโดยไม่ลืมไปยังตึกฝั่งปีกขวาของตำหนักเพื่อคารวะลี่เ
ฟู่หยวนเพ่ยใช้เวลาอึดใจหนึ่งทำความเข้าใจกับที่บุรุษตรงหน้าเอ่ยขึ้นมา "ให้หม่อมฉันใช้เท้าเหยียบพระองค์หรือเพคะ?"อีกฝ่ายพยักหน้า "เหยียบเรา แบบที่เจ้าทำเมื่อสองวันก่อน"ทีแรกพระองค์นอนปวดกายอยู่บนเตียง ขยับไม่ได้แม้เพียงปลายนิ้ว แม้พยายามขยับก็ปวดร้าวแทบขาดใจ ไม่นึกเลยว่าตนเองต้องมีสภาพน่าสมเพชอยู่ถ
การที่หยวนเพ่ยเอ่ยออกมาเช่นนั้นเพราะไม่อยากให้เรื่องราวของนางไปบิดเบือนประวัติศาสตร์โดยไม่จำเป็น เคยมีคนกล่าวว่า แม้ผีเสื้อขยับปีกย่อมเกิดผลกระทบใหญ่หลวง ถ้าเกิดว่าวิชาของนางทำให้ประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยนไป ตัวนางเองหรือแม้แต่คนอื่นๆ บนภพภูมิที่จากมา อาจได้รับผลกระทบที่น่าหวาดหวั่นตามมา นางคิดเพียงว่าแ
ว่าจบนางก็ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดคลึง สลับกับกด-ปล่อย ทำเช่นนี้สลับกันไปอีกห้าหกครั้ง จากทีแรกที่หวงตี้หนุ่มรู้สึกตื้อๆ หน่วงๆ พลันรู้สึกง่วงงุนโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้พระองค์จะสะบัดหน้าหลายครั้งก็มิอาจบรรเทา“หยวนเพ่ย...เจ้าทำอะไร...”“หม่อมฉันลืมบอกว่าจุดเสินเหมินนั้นนอกจากบำรุงหัวใจแล้ว ยังช่วยทำให้เกิดอ
เผือกร้อน! สิ่งของเหล่านี้คือเผือกร้อนชัดๆฟู่หยวนเพ่ยครุ่นคิดขณะที่เดินนำขันทีคนสนิทของหวงตี้นำถาดเครื่องประดับมูลค่ามหาศาลตรงไปยังห้องทรงพระอักษรนางอยู่อย่างสงบแล้วแท้ๆ พอใจกับความเป็นอยู่ในตอนนี้แล้ว พระองค์โปรดอย่าได้โยนอาจมมาให้นางเลยใช้เวลาเดินไม่นานนักก็มาถึงตำหนักใหญ่ รอให้ลี่กงกงเป็นผู้ปร
“คงเป็นของที่ฝ่าบาทพระราชทาน” หยวนฉุนยกจอกที่มีน้ำชาเย็นขึ้นดื่ม น้ำชาลอยดอกโม่ลี่ (มะลิ) ทั้งหอมทั้งเย็นชื่นใจรั่วเยียนได้ยินเช่นนั้นกลับหัวเราะเบาๆ“คุณหนูรองคงกลัวพระสนมมาก”หญิงสาวแค่นเสียงเฮอะ “กลัวข้าหรือ ก็คงมีส่วน”“แล้วอีกอย่าง นางเป็นคนในตระกูลสาขา สมควรเรียกนางว่าคุณหนูรองหรือ นางมิสิทธิ
หลังจากกลับมายังซีซย่า ฉู่หวางก็ส่งจดหมายไปยังเมืองหลวง ขอพระบรมราชานุญาตจากหวงตี้ขออยู่ที่ซีหนิงต่ออีกหนึ่งปี จนกว่าหยวนเพ่ยจะคลอดและแข็งแรงพอที่จะกลับไปยังฉางอัน ถ้ามีเอกสารอันใดเร่งด่วน ขอให้ใช้ม้าเร็วส่งเอกสารมาหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ราชโองการอนุญาตก็ส่งมาถึง พร้อมทั้งทองคำและแพรพรรณวิจิ
“จื่อหาน ท่านเชื่อหรือไม่ ว่าไม่ต้องถึงมือท่านหมอ ข้าก็ตรวจได้ว่าลูกของเราเป็นชายหรือหญิง” หยวนเพ่ยเอ่ยพลางส่งยิ้มน้อยๆ มองเขาที่ตรวจนับห่อยาว่าได้มาครบถ้วนดีหรือไม่“ทำได้จริงหรือ” ฉู่หวางเริ่มสนใจทันที แต่สิ่งที่ทำให้เขาปลาบปลื้มยิ่งกว่าคือการที่นางเรียกเขาด้วยชื่อจริงนางพยักหน้า “ท่านแม่สอนว่าวิ
ถึงแม้ว่าหยวนเพ่ยจะร่ำเรียนวิชาการแพทย์มาจากมารดาที่เป็นหมอ จึงพอนึกทบทวนถึงอาการของตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ซีหนิงจนถึงซีซย่า และการม่าย[1] ชีพจรตรงตำแหน่งฉื่อ[2] ของนางเต้นไหลลื่นทว่าถี่เร็ว ล้วนเป็นสัญญาณที่ทำให้พอมั่นใจว่าตนเองตั้งครรภ์ไปถึงเจ็ดส่วน ทว่าเพื่อความแน่ใจ ฉู่หวางจึงให้นางกลับเข้าเม
หลังจากพักผ่อนถึงช่วงสาย จินซาก็นำเสื้อของซีซย่ามาให้ทั้งสองผลัดเปลี่ยน เป็นเสื้อตัวยาวสีสันสดใสแบบชุดฉีผาว (กี่เพ้า) ของเผ่าแมนจู แขนเสื้อกว้างกุ๊นด้วยลวดลายแปลกตา แต่งดงาม ส่วนทรงผมจากเดิมที่เกล้ามวยก็เปลี่ยนมาเป็นถักเปียคู่แทน ซึ่งเสื้อของฝ่ายชายก็ไม่แตกต่างกัน ส่วนทรงผมนั้นฉู่หวางไม่ยอมทำตามแบบช
ฉู่หวางและเค่อตัวยังคงดื่มเหล้านมม้าถ้วยแล้วถ้วยเหล้า เมื่อเห็นชายาของพวกตนออกไปกันหมด เค่อตัวจึงเอ่ย “ชายาของท่านเป็นสตรีที่มากความสามารถ เสียดายที่เป็นแค่หรูเหริน”“เป็นหรูเหรินก็ดี หวางเฟยก็ช่าง อย่างไรเสียนางก็เป็นภรรยาข้า”“หวงตี้ก็ช่างกระไร ท่านทำความชอบมากมายขนาดนี้ ยกสตรีที่น้องชายหลงรักให้เ
ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งหมดก็มาถึงเผ่าซีซย่าโดยสวัสดิภาพ ผู้ที่มาต้อนรับคือจินซา ชายาแห่งข่านซีซย่า และท่านหญิงเค่อหมิ่นที่เป็นธิดาเพียงคนเดียว ที่เมื่อเห็นหยวนเพ่ยก็รีบวิ่งเข้าไปหา“เจี่ยเจีย ท่านมาที่ซีซย่าจริงๆ ด้วย ท่านพ่อกับท่านอาไม่ได้หลอกข้า!”หยวนเพ่ยย่อกายคารวะทั้งสองด้วยไมตรีจิต ซึ่งทางจินซาก
"เขาก็คือหลินเค่อตัว ข่านแห่งซีซย่า พี่ชายของซูเฟย"หยวนเพ่ยเห็นเช่นนั้นก็ให้รู้สึกผิดไม่น้อย นางเตรียมที่จะลงจากหลังม้าไปดูอาการ ทว่าฉู่หวางกลับรั้งนางไว้แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ"รองเท้าของเจ้าอยู่ที่ไหน""แต่...หวางเย่เพคะ ท่านข่าน...""ช่างเขาก่อนเถอะ บอกข้าก่อนว่ารองเท้าเจ้าอยู่ที่ใด พื้นดินแถวนี้
อาชาสีดำที่มีหยวนเพ่ยถูกพาดกับอานม้าออกวิ่ง หลังจากวิ่งไปได้ไม่กี่สิบลี้ บุรุษต่างเผ่านั้นพลันหยุดม้าที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง มีลำธารสายเล็กที่เกิดจากหิมะบนเขาละลายพาดผ่าน แล้วหาเชือกมัดมือและขาทั้งสองข้างของนางไว้ จากนั้นจึงอุ้มนางลงจากหลังม้า มองหยวนเพ่ยที่มีท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อยอยู่ครู่หนึ่ง คล้า
หยวนเพ่ยเนื่องจากเมามายนัก กว่าจะตื่นก็เป็นเวลาตะวันตรงหัว ฉู่หวางที่คอแข็งกว่านางมากจึงสั่งให้สาวใช้ต้มโจ๊กและน้ำแกงมาให้นางดื่มเพื่อคลายอาการเมาค้าง“เมื่อคืนหม่อมฉันดื่มหนักไปมาก คงทำอะไรให้หวางเย่ขายหน้าแล้ว” หยวนเพ่ยหัวเราะแห้งๆ สมัยอยู่โลกกาลก่อน เธอก็ไม่ค่อยดื่มสุราเพราะเพื่อนๆ ลงความเห็นว่าเ