Share

บทที่ 10

Author: Karawek House
last update Huling Na-update: 2025-08-15 11:48:09

ถูกแล้ว น้องสาวตัวน้อยคนนี้ไม่ใช่คนเขลา แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องปักผ้า ทำขนม พิณ ภาพ หมาก อักษร โคลงกลอน กับหลักคุณธรรมจริยามารยาทเท่านั้น... กับเรื่องการใช้ชีวิต กับเรื่องสันดานร้ายเร้นในจิตใจปุถุชน ตลอดจนเล่ห์เหลี่ยมของพวกใจบาปหยาบช้า นางกลับไม่เคยรู้จัก ไม่รู้เท่าทันสักนิด

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด เซียงหรงก็คอยแต่จะคิดไปในทางที่ดี จิตใจนางสะอาดบริสุทธิ์ราวกับหยาดน้ำค้าง นางที่ไหนจะคิดได้ว่าตนเองกำลังถูกกลั่นแกล้งรังแก ถูกเหล่าสตรีเจ้ามารยาจอมเสแสร้งเหล่านั้นเจตนาทำให้ต้องลำบาก ทั้งยังโดนเบียดบัง แย่งชิงเอาของของนางไปแทบทั้งหมด!

นึกถึงเสื้อผ้าของหรงเอ๋อร์ แม้เสื้อผ้าอาภรณ์ที่นางสวมจะดูดีอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับเสื้อผ้าของพี่สาวน้องสาวจากเรือนอื่นแล้วกลับแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ราวกับคุณหนูที่มาจากตระกูลอันร่ำรวยกับคุณหนูที่เกิดในตระกูลยาจก เฉินจิ้งอี้ก็ยิ่งขุ่นเคืองยิ่งขึ้น

หากโตขึ้น มีกำลังและความสามารถมากพอ พี่ชายอย่างเขาจะไม่มีวันปล่อยให้ใครมารังแกหรงเอ๋อร์ มาเบียดบัง มาแย่งชิงเอาข้าวของของนางไปง่ายๆ เช่นนี้แน่

ต่อไปหากมีเงินทองในมือมากกว่านี้ เขาจะซื้อของให้หรงเอ๋อร์ให้มากๆ และหากมีอำนาจในมือมากพอเมื่อใด พี่ชายอย่างเขาก็จะจัดการคนเหล่านั้นที่มารังแกหรงเอ๋อร์ให้หมดทุกคน เขาจะสั่งสอนบทเรียนอันเจ็บแสบ จนคนเหล่านั้นไม่กล้ามากลั่นแกล้งรังแกน้องสาวของเขาอีกเลย ไม่เชื่อก็คอยดู!

“พี่ใหญ่” จู่ๆ น้องเล็กก็พูดขึ้นมา น้องเล็กเฉินจิ้งเสียนตัวน้อยย่นหัวคิ้วเข้าหากัน  กล่าวอย่างหนักใจ “ข้ามาคิดๆ ดูแล้ว ก็รู้สึกว่าพี่หญิงสามอ่อนต่อโลกเกินไปสักเล็กน้อย วันหนึ่งหากพี่หญิงสามที่เป็นเช่นนี้แต่งออกจากตระกูลไปอย่างที่ท่านอาจารย์ของพวกเรากล่าว อาจมีผู้กลั่นแกล้งรังแกนาง ไม่สู้...พวกเราช่วยกันพูดกับท่านพ่อ ขอให้พี่หญิงสามไปร่วมศึกษาเล่าเรียนกับพวกเราเหล่าบุรุษ ดีหรือไม่?”

เฉินจิ้งอี้เข้าใจความคิดน้องเล็กของตนเองทันที...

กระทั่งน้องเล็กก็ยังดูออกว่าพี่สาวของตนเองโดนผู้อื่นกลั่นแกล้งรังแก

ทุกเรื่องล้วนโจ่งแจ้งชัดเจนถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้าตัวกลับทำเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวกับใครเขาเสียบ้าง?

นี่ต้องเรียกว่าอ่อนต่อโลกเกินไป หรือเป็นคนเรียบง่ายทั้งยังจิตใจดีเสียจนน่าใจหาย จึงไม่รู้จักถือสาผู้ใดเลยสักนิด?

สมควรออกปากขอเรื่องนี้กับท่านพ่อและท่านย่าจริงๆ นั่นละ...

ถ้าหากหรงเอ๋อร์ของเขาได้ร่ำเรียนความรู้นอกตำราจากท่านอาจารย์เหลียงคงเช่นพี่ใหญ่อย่างตนและน้องเล็ก ไม่แน่ว่าอะไรๆ อาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็เป็นได้...

สำคัญที่ว่าบุรุษหัวโบราณคร่ำครึผู้มองโลก มองผู้คน มองอะไรต่อมิอะไรในแง่ดีแต่ถ่ายเดียวอย่างท่านพ่อของเขาจะยอมหรือไม่...

นึกถึงตรงนี้แล้ว เฉินจิ้งอี้ก็ทั้งเหนื่อยหน่ายและสะท้อนใจยิ่งนัก

งานเทศกาลหยวนเซียวของเมืองหลวงเทียนจินยิ่งกว่ายิ่งใหญ่งามตระการ ทั่วทุกตรอก ทั่วทุกสะพาน ล้วนประดับประดาเอาไว้ด้วยโคมไฟ ทั้งยังมีการปล่อยโคมลอยเป็นระยะ สองข้างทางในย่านร้านค้าใจกลางเมืองมีร้านรวงต่างๆ เปิดร้านทำการค้าผิดไปจากทุกวัน ทั้งยังมีผู้มาตั้งแผงออกร้านให้เสี่ยงโชค ทายปริศนา และต่อบทกวีชิงรางวัล ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือร้านขายโคม ร้านขายขนม เป็นต้นว่าถังหูลู่[1] ซานจา[2] น้ำตาลปั้น[3] เซาปิ่ง[4] ทั้งยังมีหมั่นโถว[5]อุ่นร้อนและขนมซึ่งมีเฉพาะในเทศกาลหยวนเซียวอย่าง ‘หยวนจึ[6]’ ที่สมัยก่อนมีทำขึ้นเฉพาะในวังหลวงขายอยู่หลายร้าน ครึกครื้นยิ่ง

ในเทศกาลหยวนเซียว คล้ายกับว่าช่องว่างระหว่างชายหญิงจะลดลงอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่นับอีกว่าเซียงหรงและเฉินจิ้งอี้เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา วันนี้ผู้ที่คอยจูงมือน้อยๆ ของนางจึงมิใช่สาวใช้ข้างกาย แต่เป็นพี่ใหญ่อย่างเขา

นับตั้งแต่นั่งรถม้าออกจากจวนมา เฉินจิ้งอี้ก็จูงมือน้องชายน้องสาวร่วมมารดาเอาไว้ไม่ปล่อย ทำหน้าที่พี่ชายใหญ่ได้ทั้งสมบูรณ์แบบและลำเอียงต่อพี่น้องต่างมารดาเป็นอย่างยิ่ง

ทว่าเฉินจิ้งอี้ก็คือเฉินจิ้งอี้ เขามีความคิดเป็นของเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซ้ำนับตั้งแต่มารดาตายจาก ท่านย่ายังพร่ำสอนให้เขารู้จักปกป้องน้องชายและน้องสาว ยังกล่าวอีกว่าเขาซึ่งเป็นพี่ชายใหญ่จะรักน้องชายน้องสาวร่วมมารดาลำเอียงสักเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงพะวงเรื่องพี่น้องในเรือนอื่นที่มีมารดาปกป้องให้มากนัก

สิ่งที่ท่านย่ากล่าว เหตุใดเขาจะไม่เข้าใจ

เป็นธรรมดาที่ปุถุชนย่อมรักปกป้องสายเลือดของตนเอง สนับสนุนส่งเสริมสายเลือดของตนเองเป็นอันดับแรก อนุหาน อนุซู และอนุจาง ที่ไหนเลยจะเห็นเขาและน้องชายน้องสาวที่เกิดจากฟูเหรินผู้ล่วงลับดีกว่าบุตรชายบุตรสาวของตน

บิดาเป็นกั๋วกง มักงานยุ่งอยู่เสมอ ในเมื่ออยู่ในจวนไร้มารดาคอยปกป้อง ตัวเขาที่เป็นพี่ใหญ่ก็ต้องกระทำหน้าที่แทนมารดา คอยปกป้องน้องๆ ของตนเอาไว้ให้ดี

เซียงหรงก้มลงมองมือที่พี่ใหญ่กุมเอาไว้แล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้

ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน...มือของพี่ใหญ่ช่างอบอุ่นยิ่งนัก...

เซียงหรงไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มนั้นละลายหัวใจใครหลายคนในบริเวณนั้น ต่างอดคิดกันไม่ได้ว่าคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงที่บิดาหวงแหนจะต้องเติบใหญ่ขึ้นเป็นโฉมงามอันดับหนึ่ง ไม่ผิดแน่

แม้จะยังเยาว์นัก ทว่ารูปลักษณ์เช่นนี้...ราวกับจะล่มบ้านล่มเมืองได้เลยทีเดียว... มิน่าเล่า เฉินกั๋วกงจึงได้รักและหวงแหนบุตรสาวคนนี้ ไม่ยอมรับการหมั้นหมายจากตระกูลพี่ภรรยาอย่างจวิ้นหวังเถี่ยเม่าจื่อ[7]เพียงหนึ่งเดียวของเทียนจินเราเสียที อืม...

ระยะนี้นั่งปักผ้าหลังขดหลังแข็งอยู่ทุกวัน มาวันนี้ได้ออกมาเที่ยวเล่นถึงนอกจวน เซียงหรงทั้งตื่นเต้น ทั้งมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง เสียดายเพียงอย่างเดียวที่ถุงเงินที่ท่านย่าและท่านพ่อมอบให้ ล้วนถูกน้องหญิงสี่และน้องหญิงห้าขอไปแล้ว ยามนี้นางจึงไม่มีเงินติดตัวเลยสักนิด ต่อให้อยากกินขนมเลิศรสใดก็ต้องอดทน ไม่กล้ารบกวนพี่ชายใหญ่ที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับงานเทศกาล

เห็นน้องเล็กของตนคล้ายครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ดูเหม่อลอย เฉินจิ้งอี้ก็เข้าใจไปว่านางเกิดเบื่อหน่ายขึ้นมาจนอยากกลับไปนั่งปักผ้าในเรือนแล้ว

ขณะกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดีนั้น หางตาเฉินจิ้งอี้ก็สังเกตเห็นร้านทายปริศนาชิงโคมไฟ ความคิดดีๆ จึงพลันบังเกิดขึ้นมาทันที

“น้องเล็ก ทางโน้นมีผู้ออกร้านให้ทายปริศนาชิงโคมไฟ คืนนี้พี่ใหญ่จะใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาจากท่านอาจารย์เหลียงคง ชิงโคมไฟที่งดงามแปลกตาให้เจ้ากับน้องเล็กเยอะๆ ดีหรือไม่!”

โคมไฟหรือ?

เซียงหรงมองตามสายตาของพี่ชายใหญ่ ก็เห็นโคมกระต่ายน่ารักน่าเอ็นดูแขวนอยู่อย่างโดดเด่น

“เจ้าอยากได้โคมกระต่ายนั่นหรือ” เฉินจิ้งอี้คาดเดาได้ไม่ยาก

[1] คือขนมที่ทำขึ้นโดยการเอาผลไม้ เช่นพุทธรา หรือแอปเปิ้ล มาเคลือบน้ำตาล

[2] ผลไม้ที่ฝานเป็นแผ่นๆ แล้วเอาไปตากให้แห้ง

[3] ขนมที่ทำขึ้นโดยการเอาน้ำตาลมาผสมสี น้ำ และแบะแซ เคี่ยวให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอามาปั้นเป็นรูปต่างๆ เช่น รูปมังกร รูปนกกระเรียน รูปหงส์ รูปคนนั่งตกปลา เป็นต้น

[4] ขนมแป้งทอด ภายในแป้งมักใส่ไส้ต่างๆ เช่น ไส้มัน ไส้เผือก ไส้ถั่วเหลือง ที่นำมาต้มและบด  บางคนอาจคลุกเคล้ากับน้ำตาลลงไปด้วย เป็นต้น

[5] ขนมแป้งนึ่งชนิดหนึ่งที่มีสีขาวและมีสัมผัสอ่อนนุ่ม มักไม่มีไส้

[6] ก็คือขนมหยวนเซียว หรือขนมบัวลอยนั่นเอง

[7] อ๋องหมวกเหล็ก(แปลตามคำ) หมายถึงท่านอ๋องที่สามารถส่งต่อบรรดาศักดิ์ของตนให้ทายาทได้ ทั้งๆ ที่ปกติแล้ว เมื่อมาถึงรุ่นทายาท บรรดาศักดิ์จะถูกลดลงหนึ่งขั้น ไม่ได้เป็นจวิ้นหวังเหมือนบิดา

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status