แชร์

บทที่ 22

ผู้เขียน: Karawek House
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 14:20:11

ท่านป้าสะใภ้อยู่สนทนากับนางครู่ใหญ่ เมื่อเห็นว่าแดดเริ่มแรงก็ขอตัวกลับ ด้วยไม่อยากอยู่รบกวนนางออกแบบลายปักผ้าที่ตนตั้งตารอจะได้เห็น

ส่งท่านป้าสะใภ้กลับไปแล้ว เซียงหรงก็กลับเรือนอี้หรงแล้วเริ่มออกแบบลายปักผ้าทันที

“ลายปักที่มองแล้วพาให้จิตใจสงบ ผ่องใส แฝงความหมายอันมงคล ทั้งยังต้องสามารถขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคลออกไปได้ด้วยอีกข้อ...”

เซียงหรงอดทอดถอนใจแล้วบ่นระบายความหนักใจออกมาไม่ได้

“พี่ซู่ซิน...จะทำเช่นไรดี ข้าใช่ผู้มีวิชาอาคมหรือนักพรตทรงภูมิที่บำเพ็ญตบะจนแก่กล้าที่ไหนกัน ผ้าปักธรรมดาๆ ของข้า ที่ไหนเลยจะขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคลได้”

ซู่ซินคิดตามแล้วก็หนักใจไม่แพ้กัน

“จวิ้นหวังเฟยท่านอาจจะอยากได้ที่พึ่งทางใจก็ได้นะเจ้าคะ”

“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น” เซียงหรงกางผ้าสีขาวผืนใหญ่ เริ่มวัด และตัดผ้าอย่างชำนิชำนาญ โดยมีซู่ซินคอยช่วยหยิบจับอย่างรู้หน้าที่ “ทว่าสีหน้าของท่านป้าสะใภ้ดูจริงจังและคาดหวังเป็นอย่างยิ่ง หากของที่มอบให้ไม่อาจช่วยปัดเป่าสิ่งอัปมงคลได้จริง จะไม่เท่ากับว่าทำให้ท่านป้าสะใภ้ต้องผิดหวัง หรือเป็นการหลอกลวงท่านป้าสะใภ้เช่นนั้นหรือ”

หลังขบคิดอยู่ชั่วครู่ เซียงหรงก็พลันนึกบางเรื่องขึ้นได้

“พี่ซู่ซิน! เช่นนี้ดีหรือไม่ ไม่สู้ครั้งนี้พวกเราส่งคนไปรวบรวมผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์มงคลจากวัดชื่อดังรอบๆ เมืองหลวง แล้วนำลายอักขระเหล่านั้นมาปักต่อๆ กันเป็นลวดลายทิวทัศน์อันงดงาม ยังมีอีก พระธรรมคำสอน บทสวดมนต์ก็สมควรปักแทรกลงไป ใช้ลวดลายและถ้อยคำอันเป็นมงคลเหล่านั้นมาถักทอต่อกันเป็นภาพผืนใหญ่หนึ่งภาพ!”

ซู่ซินนึกตามแล้วก็ยังไม่เห็นภาพ คิดไม่ออกเลยว่าหากเอาตัวอักษรและยันต์มาปักต่อๆ กันแล้วภาพปักจะออกมางดงามได้อย่างไร ทว่าหากสิ่งใดที่คุณหนูสามซึ่งเชี่ยวชาญด้านการปักผ้าเป็นที่สุดของนางกล่าวว่าดี สิ่งนั้นย่อมต้องดี สาวใช้อย่างนางจึงพยักหน้า แย้มยิ้ม สนับสนุนส่งเสริมคุณหนูสามของตนอย่างเต็มที่

ท่าทีนั้นของซู่ซินทำให้เซียงหรงมีกำลังใจมากขึ้น

“พี่ซู่ซิน แม้จะไม่สามารถออกจากจวนไปสักการะขอพร ขอยันต์อันศักดิ์สิทธิ์จากวัดต่างๆ มาด้วยตนเอง ข้าจะชดเชยด้วยการทุ่มเทแรงกายแรงใจวาดลายปักและปักผ้าผืนนี้ให้ท่านป้าสะใภ้ด้วยกายและใจอันบริสุทธิ์ นับแต่นี้ จนกว่าจะปักผ้าที่จะมอบให้ท่านป้าสะใภ้ผืนนี้เสร็จ ข้าจะสวดมนต์ภาวนาทั้งเช้าและเย็น ถือศีลกินเจ ยังมีอีก เพื่อไม่ให้ข้าพลาดพลั้งทำผิดศีลข้อใด นับจากนี้จนกว่าข้าจะปักผ้าผืนนี้เสร็จ เรือนอี้หรงเราปิดประตูเรือนไม่รับแขก หากมีเรื่องด่วนใด ให้พี่ซู่ซินและท่านป้าเหลียงช่วยกันดูแลตัดสินใจแทนข้า เข้าใจหรือไม่”

เห็นแววตาจริงจังในดวงตาคุณหนูสาม ซู่ซินก็พลันเกิดความฮึกเหิมจริงจังตาม “เจ้าค่ะ!” ซู่ซินรับคำ น้ำเสียงหนักแน่น

คุณหนูสามของสาวใช้อย่างนาง จิตใจใสสะอาด จริงใจต่อผู้คน เพียงเพื่อจะปักผ้าผืนหนึ่งให้ผู้เป็นป้าสะใภ้ ถึงกับทุ่มเทแรงกายแรงใจถึงเพียงนี้...คุณหนูสามที่เป็นเช่นนี้ บางครั้งก็ทำให้นางทั้งกังวลทั้งเป็นห่วงสุดใจ ทว่าบางคราวดังเช่นในยามนี้ ก็ทำให้นางที่เฝ้าดูอยู่ข้างๆ มองแล้วปลาบปลื้มใจ ทั้งยังภาคภูมิใจในตัวคุณหนูสามที่แม้จะไร้มารดาคอยเฝ้าทะนุถนอมปกป้องก็ยังเติบโตขึ้นมาเป็นสตรีที่ดีถึงเพียงนี้ ผิดกับพวกคุณหนูไม่รู้ความไร้ความจริงใจเหล่านั้น ที่อาศัยอยู่ร่วมจวน

จวิ้นหวังเฟยรักเอ็นดูคุณหนูของนางไม่น้อย ความจริงใจครั้งนี้ของคุณหนูสามของนาง นับว่าไม่เสียเปล่าดังเช่นที่มอบให้ผู้คนในจวนเฉินกั๋วกงแห่งนี้ เพราะฉะนั้น ครั้งนี้ สาวใช้อย่างนางจะขอช่วยเหลือและสนับสนุนส่งเสริมคุณหนูสามอย่างเต็มที่ ทั้งยังจะช่วยคุณหนูสามปกปิดเรื่องปักผ้าผืนนี้เอาไว้ จะไม่ยอมให้ผู้ใดมาฉกชิงของชิ้นนี้ไปจากคุณหนูของนางก่อนจะส่งถึงมือผู้ที่สมควรได้รับได้ทั้งนั้น!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status