Share

บทที่ 29

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-23 20:52:21

สำนักศึกษาในวันนี้คึกคักยิ่งนัก...

จากที่เคยฟังมาจากท่านอาจารย์และเคยเห็นจากภาพวาด แต่เดิมสวนชิงหลิงก็เป็นสวนขนาดใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว ยามนี้เนื่องจากไม่เพียงมีเทศกาลชมบุปผา ยังมีการประชันขันแข่งที่กระทั่งเชื้อพระวงศ์ยังเข้าชม ทั่วทั้งสวนย่อมได้รับการจัดแต่งอย่างพิถีพิถัน สวนที่งดงามมากอยู่แล้ว คงยิ่งกว่างดงามเลิศล้ำกระมัง

เซียงหรงตื่นตาตื่นใจยิ่งนักเมื่อก้าวเข้าสู่เขตสวนแล้วพบว่าด้านหน้าคือซุ้มโค้งหินอ่อนแกะสลักลวดลายเมฆมงคลและเถาไม้เลื้อย ดูโอ่อ่าและอ่อนโยนยิ่งกว่าในภาพวาดที่เคยเห็นเสียอีก ก้าวพ้นซุ้มเข้าไปเป็นลานทางเดินหินกรวดทอดยาว แวดล้อมด้วยหมู่เหมยที่กำลังผลิดอกสีชมพูอ่อนและขาวสะอาดตาราวกับม่านบุปผาที่เบ่งบานท่ามกลางลมวสันต์ ตรงกลางสวนคือศาลากลางน้ำขนาดใหญ่ ปูหลังคาสีเขียวเข้ม ปิดยอดด้วยกระเบื้องเคลือบเงา รอบศาลามีสะพานไม้ที่เชื่อมต่อกับลานกว้างซึ่งถูกจัดไว้เป็นลานแสดง เดาว่าคงเป็นพื้นที่ส่วนที่ใช้ในการประชันความสามารถดังที่เคยได้ฟังมา บนลานปูด้วยแผ่นศิลาขัดมัน รอบลานตั้งเก้าอี้และม้านั่งสำหรับผู้ชมบนพื้นซึ่งสร้างไว้เป็นพื้นที่ต่างระดับไล่จากต่ำไปสูง ด้านหนึ่งของลานมีโต๊ะไม้สีดำตั้งเรียงไว้สำหรับผู้เข้าแข่งขัน ทุกโต๊ะมีสี่รัตนะแห่งห้องอักษร อันได้แก่ พู่กัน จานหมึก หมึกสำหรับวาดภาพเขียนอักษร และกระดาษ วางเอาไว้อย่างพรักพร้อม เบื้องหลังลานประลองคือแนวต้นหลิวที่ลู่ไหวไปตามสายลม สระน้ำใสรอบศาลามีฝูงปลาหลากสีสันสดใสแหวกว่าย เงาสะท้อนของต้นไม้และนภาใสบนผิวน้ำดูราวกับภาพวาดพู่กันที่มีชีวิต 

อากาศวันนี้สดใส มีแสงแดดอ่อน ๆ ส่องลงมาต้องผิวน้ำและต้นไม้ สายลมเย็นพัดพาความหอมอวลจางของบุปผามาแตะจมูก เสียงพูดคุยของแขกผู้มีเกียรติในงานดังแผ่วเบาบ่งบอกถึงความตื่นเต้นถึงการแข่งขันที่กำลังจะมีขึ้น ฝูงชนหลากหลาย ทั้งคุณหนูในอาภรณ์งาม สตรีสูงศักดิ์ในชุดปักลายวิจิตร และบรรดาบัณฑิตทรงภูมิ ต่างจับกลุ่มพูดคุยและจับตามองผู้เข้าแข่งขันด้วยความคาดหวัง บรรยากาศในสวนกว้างนั้นเต็มไปด้วยแรงกดดันที่แฝงด้วยความกระตือรือร้น ทุกคนล้วนเฝ้ารอชมความสามารถของบรรดาโฉมสะคราญที่จะถูกเผยออกมาในวันนี้ 

ณ ที่นั่น พวกนางทั้งหมดล้วนมีที่ทางของตนที่ถูกจัดเอาไว้ให้แล้ว ที่เซียงหรงและพี่หญิงทั้งสองของตนต้องทำ มีเพียงการแจ้งชื่อแซ่ของตนเองเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นเหล่านางกำนัลที่หวงโฮ่วเมตตาส่งมาช่วยเหลืองานสำคัญของสำนักศึกษาซึ่งรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว ก็จะทำหน้าที่นำทาง พานางและพี่หญิงทั้งสองไปนั่งรอยังที่ทางที่ถูกจัดเตรียมไว้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างอนุหาน...

หานชิงเยว่กวาดตามองอยู่ครู่หนึ่งก็เห็นพี่สะใภ้ทั้งสองจากตระกูลหานซึ่งเป็นตระกูลเดิมของตน จึงเดินเข้าไปทักทายแล้วนั่งลงเคียงข้างพี่สะใภ้ในที่นั่งของเหล่าแขกผู้มีเกียรติจากตระกูลต่างๆ

ที่จริงแล้ว หากว่ากันตามศักดิ์ฐานะ ผู้ที่มาจากจวนเฉินกั๋วกงอย่างนางก็สมควรจะได้นั่งในตำแหน่งแห่งที่ที่ดีกว่านี้ ทว่าจนถึงป่านนี้ เฉินกั๋วกง สามีนาง ก็ยังไม่ได้ยกย่องนางขึ้นเป็นภรรยาเอก อีกทั้งเฉินกั๋วกงเองก็ไม่ได้มาร่วมชมงานประชันขันแข่งครั้งนี้ นางจึงไม่อาจไปนั่งเชิดหน้าชูคอท่ามกลางเหล่าสตรีบรรดาศักดิ์ที่เป็นภรรยาเอกเหล่านั้น ใบหน้าของนางใบหน้านี้ยังไม่หนาพอจะต้านทานสายตาทิ่มแทงของสตรีบรรดาศักดิ์เหล่านั้นไหว

หึ...ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะนางสารเลวหลี่เซียงเหลียนนั่นผู้เดียว! หากไม่มีสตรีที่กระทั่งตายไปแล้วก็ยังผูกมัดหัวใจกั๋วกงเอาไว้ได้อย่างแน่นหนาผู้นั้นตั้งแต่แรก ป่านนี้ตำแหน่งภรรยาเอกและบรรดาศักดิ์ที่สตรีน่าโมโหนั่นได้รับ ก็คงตกเป็นของนางนานแล้ว!

คิดขึ้นมาแล้ว หานชิงเยว่ก็อดชายตามองไปยังบุตรสาวที่หญิงแพศยา หลี่เซียงเหลียน เหลือทิ้งเอาไว้ไม่ได้ เห็นใบหน้าที่ดูบริสุทธิ์งดงามคล้ายคลึงมารดาถึงเจ็ดส่วนนั่นแล้ว อนุหานก็ยิ่งแค้นใจนัก

ในอดีต นางเคยพ่ายแพ้ให้กับสตรีน่าโมโหนั่นในงานเทศกาลชมบุปผา หรือที่ทุกคนต่างรู้กันดีว่าเป็นงานประชันขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธี เพราะประมาท ขาดสมาธิ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน

นางอดทนอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูบุตรสาวคนโตและคนรองมา ทั้งหมดก็เพื่อ ให้บุตรสาวทั้งสองของตน สามารถชิงชัยในงานเทศกาลชมบุปผาเช่นวันนี้! นางไม่เชื่อหรอกว่าบุตรสาวที่นางเลี้ยงดูมาอย่างดี ซ้ำยังได้รับการศึกษาจากสำนักศึกษากลาง ได้รับการยกย่องจากผู้คนว่าทั้งงดงามและมีความสามารถเกินใคร จะไม่สามารถเอาชนะเด็กสาวกำพร้ามารดา บิดาไม่ไยดี ที่ในแต่ละวันได้แต่เก็บตัวปักผ้าบรรเลงพิณในเรือนหลัง กระทั่งจะร่ำเรียนเขียนอ่าน ขัดเกลามารยาทจรรยา ก็ยังต้องเชิญอาจารย์ชายอาจารย์หญิงที่แก่ชรามาอบรมสอนสั่งกันในเรือน ใช้ชีวิตดุจสตรีเมื่อร้อยกว่าปีก่อน จนท้ายที่สุดก็เติบโตขึ้นมาเป็นสตรีหูตาคับแคบ โง่เขลา ไม่ทันคน! หลักฐานที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คือเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างไรเล่า

หึ...สตรีโง่เขลาเบาปัญญาที่มีดีก็แค่ฝีมือบรรเลงดนตรีและฝีมือปักผ้าเช่นนั้น นางไม่เชื่อว่าบุตรสาวที่นางอบรมสอนสั่งมาเป็นอย่างดีจะเอาชนะไม่ได้!

อนุหาน หานชิงเยว่ ลอบมองไปยังที่นั่งซึ่งอยู่สูงขึ้นไปในตำแหน่งประธาน เมื่อเห็นว่าหวงโฮ่วและเหล่าองค์ชาย รวมถึงพระสนมคนสำคัญ และเหล่าพระญาติสกุลหลี่หลายคนก็นั่งเรียงรายอยู่ ณ บริเวณนั้น ในใจนางก็พลันบังเกิดความฮึกเหิมแทนบุตรสาว ได้แต่หวังว่าบุตรสาวที่ตนรักถนอมจะสามารถเอาชนะใจเหล่าผู้สูงศักดิ์ โดยเฉพาะหวงโฮ่วผู้งดงามปราดเปรื่องจากสกุลสวีพระองค์นั้น...

แม้สกุลสวีในปัจจุบันจะไร้สิ้นอำนาจ แต่ทั้งไท่โฮ่ว หวงโฮ่ว กระทั้งจวิ้นหวังเฟย ก็ล้วนแล้วแต่มาจากสกุลสวี เมื่อพิจารณาจากอำนาจราชศักดิ์ของสตรีจากสกุลสวีทั้งสาม เดาว่าเพื่อหลีกเลี่ยงหลายๆ ปัญหา สกุลสวีที่เก่าแก่และโด่งดังในยามนี้คงไม่ใช่ขลาดเขลาไร้ความสามารถ ตรงกันข้าม พวกเขาล้วนเป็นพยัฆค์ซุ่มมังกรซ่อน แสร้งประพฤติตัวเรียบง่ายและไม่กระทำตัวโดดเด่นเพราะเกรงว่าจะมีภัยต่างหาก...

หานชิงเยว่นัยน์ตาเปล่งประกายวาบวับ

หากได้เกี่ยวดองกับองค์ชายที่เกิดจากสวีหวงโฮ่ว หรืออย่างน้อยๆ ขอเพียงได้เกี่ยวดองกับตระกูลที่แม้ผิวเผินดูไร้อำนาจ และคนใตระกูลล้วนเป็นผู้ใช้ชีวิตเรียบง่ายทว่ามีชื่อเสียงดีงามดังเช่นสกุลสวี อนาคตในภายภาคหน้าของบุตรสาวและบุตรธิดาของลูกสาวย่อมต้องโรยด้วยกลีบบุปผา ไม่มีทางตกต่ำประสบชะตากรรมที่เลวร้ายเป็นแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 53

    ถัดจากคุณหนูจากหมู่ตึกสกุลมู่หรง ภาพของผู้เข้าขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีรายถัดๆ มาก็ไม่มีสิ่งใดน่าสนใจมากนัก เป็นเพียงภาพวาดดอกโบตั๋นที่เบ่งบานอยู่ท่ามกลางดอกไม้นานาพันธุ์ แม้จะถูกวาดขึ้นด้วยสีสันที่แตกต่างกัน กลับดูซ้ำๆ จำเจ ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิดสวีไท่โฮ่วและสวีหวงโฮ่ว ถูกกิริยาท่าทางตื่นเต้นชอบใจและชื่นชมยกย่องในตัวคู่แข่งแต่ละราย อันบริสุทธิ์ซื่อใส ของคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง ตรึงความสนใจเอาไว้อย่างแน่นหนา จึงไม่ได้ออกปากพูดจากันเรื่องภาพวาดภาพไหนสักภาพกระทั่งมาถึงภาพวาดที่เหล่าผู้เข้าชมการแข่งขันรอบๆ ลานประชันขันแข่ง พากันส่งเสียงฮือฮาดังระงม ของคุณหนูสี่จากจวนสกุลอู๋ อู๋ชิงชิง สวีไท่โฮ่วและสวีหวงโฮ่วจึงสามารถละสายตาจากใบหน้าพริ้มเพราของคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง เบนสายตามองภาพวาดใจกลางลานประชันขันแข่งดังเช่นที่สมควรกระทำภาพวาดของอู๋ชิงชิง ก็ไม่ต่างจากก่อนหน้า เป็นภาพวาดโบตั๋นสีม่วงครามท่ามกลางอุทยานกว้างที่เต็มไปด้วยบุปผชาตินานาพันธุ์ ทว่า...ไม่ว่าจะเป็นการให้น้ำหนักการลงสี ไม่ว่าจะเป็นฝีพู่กัน ไม่ว่าจะเป็นการวาดดอกไม้และใบไม้อย่างละเอียดลออ หรือแม้แต่การ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 52

    ภาพแรกสุดที่ถูกนำออกมาตั้ง ณ ใจกลางลานประชันขันแข่งก็คือภาพของคุณหนูจากหมู่ตึกสกุลมู่หรง มู่หรงรั่วหลาน“ฝีพู่กันหนักแน่น บ่งบอกว่าตัวผู้วาดเป็นผู้จิตใจมั่นคง เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตนเอง ขับให้ภาพสาวงามท่ามกลางบุปผชาติยิ่งดูเป็นสาวงามผู้เด็ดเดี่ยว สมแล้วที่เป็นภาพวาดฝีมือคนสกุลมู่หรงที่ล้วนเด็ดเดี่ยว ห้าวหาญ ยึดถือความซื่อตรงเป็นที่ตั้ง หากเป็นเรื่องศีลธรรมจรรยา ข้อบังคับ และกฎหมายที่ตราเอาไว้แล้ว พวกเขาเหล่าคนสกุลมู่หรงล้วนยอมหักไม่ยอมงอ ตัวข้านั้นเลื่อมใสคนสกุลมู่หรงในข้อนี้ยิ่งนัก”ได้ยินไท่โฮ่วตรัสชื่นชมฝีพู่กันของตนรวมไปถึงผู้คนในสกุลมู่หรง มู่หรงรั่วหลานพลันแย้มรอยยิ้มงดงามเจิดจ้า ยอบกายถวายพระพรสวีไท่โฮ่วคราหนึ่ง แม้กิริยาท่าทีจะดูสุภาพสำรวมตามธรรมเนียม กลับให้ความรู้สึกว่านางช่างห้าวหาญเด็ดเดี่ยว ดูราวกับขุนศึกหญิงอย่างไรอย่างนั้นเซียงหรงไม่เคยเห็นสตรีคนใดดูห้าวหาญองอาจเช่นนี้มาก่อน จึงถึงกับเผลอแย้มรอยยิ้มออกมา สายตาจ้องมองมู่หรงรั่วหลานด้วยแววตายกย่องชื่นชมอย่างเห็นได้ชัดยามเมื่อนั่งอยู่บนที่สูง ย่อมจะมองเห็นทุกการกระทำของผู้อยู่

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 51

    “ไท่โฮ่วเสด็จจจ!!!”เสียงประกาศการมาถึงของสวีไท่โฮ่ว ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดชะงักคนทั้งหมดต่างกล่าวถวายพระพรสวีไท่โฮ่ว รอจนพระนางประคองหวงโฮ่วให้ลุกขึ้น พร้อมกับมีพระเสาวนีย์ให้คนทั้งหมดลุกขึ้น และเหล่าองค์ชาย พระญาติ ตลอดจนเหล่าผู้สูงศักดิ์ลุกขึ้นตามลำดับแล้ว เหล่าสามัญชนคนธรรมดาจึงกล้าลุกกลับขึ้นมานั่งยังที่ทางของตนเองด้วยกิริยาอาการสำรวมยิ่งว่ากันว่าไท่โฮ่วจากสกุลสวีพระองค์นี้ แม้ผิวเผินดูเป็นผู้ชราที่เรียบง่าย สมถะ ไม่ชอบพิธีรีตอง แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นผู้ถือสาในมารยาทธรรมเนียมเป็นอย่างยิ่ง ผู้คนทั่วทั้งเทียนจินต่างรู้ดีว่าสวีไท่โฮ่วทรงเป็นสตรีที่เข้มงวดและยึดมั่นในมารยาทธรรมเนียมเพียงใด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเรื่องขององค์ชายสี่ที่เกิดจากหวงกุ้ยเฟยและองค์ชายห้าที่เกิดจากเสียนเฟยซึ่งล้วนได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ครั้งนั้นองค์ชายสี่และองค์ชายห้า “กระทำกิริยาหยาบช้า ไม่รักษาจรรยามารยาทที่องค์ชายพึงมี” เบื้องหน้าพระพักตร์ ต่อหน้าคนมากมาย สวีไท่โฮ่วถึงกับสั่งให้องค์ชายทั้งสองคุกเข่าสำนึกผิดอยู่ในอุทยานกลาง สร้างความอัปยศให้

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 50

    ประเดี๋ยวก่อน! เรื่องเรียนมาจากที่ใดนั้น เอาไว้ก่อนเถอะ บันไดที่นางวาดออกมานั่นมีเก้าขั้นใช่หรือไม่นี่...นี่หรือว่า...เพียงนึกขึ้นได้ว่าสตรีชุดแดงที่เบื้องหลังมีดอกโบตั๋นงามสะพรั่งเป็นฉากหลังนั้นคือผู้ใด ผู้ที่พอคาดเดาได้แล้วว่าคุณหนูสามวาดภาพอะไรออกมาก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ผู้ที่หัวช้าสักหน่อย แม้ทีแรกยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อคิดใคร่ครวญให้ดีแล้ว ก็ตกใจจนถึงกับหัวสมองด้านชา ไม่รู้แล้วว่าสมควรเชื่อสายตากับสามัญสำนึกของตนดีหรือไม่ไม่...อาจไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้...ผู้คนทั้งหัวช้าทั้งหัวเร็วต่างถกเถียงกับตนเองในใจหลายปีมานี้ ไม่มีใครขวัญกล้า ไม่กลัวตาย ริอ่านวาดภาพเหล่าสมาชิกในราชวงศ์โดยไม่ได้รับอนุญาตเลยสักคน คุณหนูสามท่านนี้ต่อให้หลายปีมานี้จะถูกกักตัวไว้ในเรือนหลังก็คงไม่ถึงกับไม่รู้ความถึงเพียงนั้น วัดจากการที่นางสามารถตอบคำถามของเหล่าราชบัณฑิตในรอบแรก และวัดจากการที่นางสามารถประลองหมากกับคุณหนูสี่สกุลอู๋ได้อย่างสูสี ซ้ำยังสามารถใช้กลวิธีขั้นสูงวาดภาพที่ดูงดงามสมจริงเช่นนี้ออกมาได้ คุณหนูสามจวนเฉิ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 49

    “พี่ชาย...ท่านประเมินคุณหนูสามของข้าต่ำเกินไปแล้ว” ชายต่างถิ่นดูมั่นอกมั่นใจ เชื่อมั่นในตัวคุณหนูสามที่รูปโฉมงดงามเจิดจรัสยิ่งนักเหล่าพ่อค้าและชาวเมือง ณ บริเวณนั้นต่างเหลียวสบตา...ไม่ได้การแล้ว ไม่ได้การแล้ว! คนผู้นี้...คนผู้นี้ถูกความงามของคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงทำให้สูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้วจริงๆ นั่นหละ…เฮ้อ! อีกไม่นานชายต่างถิ่นคนนี้ก็จะสิ้นเนื้อประดาตัว ทั้งยังอาจตกเป็นหนี้สินที่ไม่อาจชดใช้...ครั้งนี้นับว่าความงามของคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงสร้างบาปกรรมโดยแท้!ยิ่งคิด เหล่าพ่อค้าและชาวเมืองก็ยิ่งสังเวชใจ สมเพชเวทนาชายต่างถิ่นที่ไม่รู้ความ แยกไม่ออกว่าอะไรคือความงาม แยกไม่ออกว่าอะไรคือความสามารถ ผู้นี้ยิ่งนักข้างหน้ามีทั้งสาวงาม มีทั้งภาพที่ค่อยๆ ถูกแต่งแต้มจนเป็นรูปภาพหลากสีสัน เจริญตา ผู้เข้าชมการประชันขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีต่างเพลิดเพลินจำเริญใจเป็นอย่างยิ่งกว่าที่พวกเขาทั้งหมดจะทันรู้สึกตัว เสียงระฆังจากหอเหยียบเมฆาก็ดังขึ้นอีกครั้ง บอกให้รู้ว่าสาวงามทุกคนที่อยู่ข้างในล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 48

    พ่อค้าและชาวเมือง ณ บริเวณนั้นต่างพากันส่ายหน้า เอือมระอา ผินหน้ากลับจ้องมองเหล่าสาวงามสบัดพู่กันตวัดวาดภาพอันงดงามเลิศล้ำ ไม่คิดต่อปากต่อคำกับคนถูกศรรักปักลึกจนหน้ามืดตามัว ให้เสียเวลาดูชมเหล่าสาวงามเลื่องชื่อของแผ่นดินเทียนจิน อวดความสามารถที่ฝึกฝนกันมาตั้งแต่ยังเยาว์ผู้ที่ตวัดพู่กันวาดภาพได้รวดเร็ว ดูชมแล้วพาให้ตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด คือคุณหนูรองจากจวนเฉินกั๋วกง เฉินเหม่ยลี่ รองลงมาคือท่านหญิงเทียนจูที่ถูกจัดให้ยืนวาดภาพอยู่ข้างเคียงกันหญิงงามคู่นี้ยิ่งวาดภาพก็ยิ่งตวัดพู่กันรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังประชันความเร็วกันอย่างไรอย่างนั้น ทำเอาคุณหนูใหญ่จากจวนเฉินกั๋วกง เฉินชิวเยว่ และคุณหนูสี่จากจวนสกุลอู๋ อู๋ชิงชิง ที่ถูกจัดให้ยืนวาดภาพอยู่ถัดจากคุณหนูรองจวนเฉินกั๋วกงและท่านหญิงเทียนจูตามลำดับ กลายเป็นว่าตวัดพู่กันวาดภาพได้อย่างเอื่อยเฉื่อย เชื่องช้า ทั้งอย่างนั้นก็ยังให้ความรู้สึกว่าคุณหนูทั้งสองต่างเป็นผู้สุขุมและใจเย็นเป็นอย่างยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด ภาพวาดของยอดหญิงงามทั้งสี่ ล้วนงดงามยิ่งนอกจากคุณหนูทั้งสามและท่านหญิงเทียนจูแล้ว สี่สหายผู้รู้ใจจาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status