แชร์

บทที่ 21

ผู้เขียน: Karawek House
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 14:19:38

“ไม่พบกันไม่กี่วัน เหตุใดป้าสะใภ้จึงรู้สึกว่าหลานรักของป้าสะใภ้ยิ่งงดงามขึ้นอีกแล้ว” ท่านป้าสะใภ้ของนางกล่าวชม ชมแล้วก็กวาดตามองนางตั้งแต่หัวจดเท้าคำรบหนึ่ง ยิ้มกว้างจนตาหยี “งามจริงๆ นั่นล่ะ...ต้องงดงามถึงเพียงนี้สิ จึงสมควรเรียกว่า ‘โฉมงาม’ ความงามของหรงเอ๋อร์ถอดแบบท่านแม่ของเจ้ามาแทบทุกกระเบียดนิ้ว ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่างาม เป็นความงามระดับที่กล่าวได้ว่า ‘เป็นหนึ่งไม่มีสอง ยากจะห้าผู้เทียบเทียมในใต้หล้า’ ”

ถูกผู้อื่นกล่าวพาดพิงถึงมารดาอย่างชื่นชม เซียงหรงดีใจนัก สาเหตุหนึ่งที่ทำให้นางชอบสนทนากับท่านป้าสะใภ้เป็นที่สุดก็เพราะท่านป้าสะใภ้มักจะกล่าวถึงท่านแม้ผู้ล่วงลับของนาง เล่าเรื่องดีๆ เรื่องนี้เรื่องนั้นให้นางฟังบ่อยๆ เช่นนี้นี่แหละ

เมื่อครั้งที่ท่านแม่จากไป นางยังเล็กนัก นางจึง...จดจำท่านแม่ไม่ใคร่จะได้ ผู้ที่ช่วยถักทอต่อเติมความทรงจำเกี่ยวกับมารดาที่ขาดหายให้นาง ก็คือท่านป้าสะใภ้ที่แสนดีผู้นี้

“ท่านป้าสะใภ้สบายดีนะเจ้าคะ”

ราวกับจะนึกบางเรื่องขึ้นได้ ท่านป้าสะใภ้ของนางจับสองมือของนางขึ้นมากุมไว้ กล่าวด้วยใบหน้าอาบรอยยิ้มลำบากใจ “ก็ไม่ใคร่จะดีนัก...”

คำตอบนี้ทำเอาเฉินเซียงหรงตกใจไม่น้อย ทว่าไม่ทันจะเอ่ยปากถาม ท่านป้าสะใภ้ของนางก็ชิงกล่าวต่อไป

“หรงเอ๋อร์...ระยะนี้ป้าสะใภ้รู้สึกไม่ค่อยจะดีนัก กลางวันมักรู้สึกวิตกกังวล จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กลางคืนก็ฝันร้ายมิได้หยุด ซ้ำยังล้มป่วยชนิดสามวันดีสี่วันไข้ ฝีมือปักผ้าของหรงเอ๋อร์งดงามสมจริงซ้ำยังมองแล้วพาให้จิตใจสงบยิ่งนัก ไม่สู้...หรงเอ๋อร์คนดีช่วยปักผ้าผืนใหญ่ๆ ให้ป้าสะใภ้สักผืน ป้าสะใภ้จะได้เอาไปแขวนไว้มองยามจิตใจฟุ้งซ่านหวาดวิตก เชื่อว่า...หากได้มองผ้าปักอันงดงามของหรงเอ๋อร์ อาการที่ป้าสะใภ้เป็นอยู่นี้จะต้องหายขาดเป็นแน่...”

“ผ้าปักลายหรือเจ้าคะ” นึกถึงผ้าผืนที่ต้องปักให้พี่หญิงใหญ่แล้ว เซียงหรงก็กังวลขึ้นมาทันที

พี่หญิงใหญ่ต้องรีบใช้ผ้าปักภายในสองเดือน ทว่าอาการของท่านป้าสะใภ้ ฟังๆ ดูแล้วก็เหมือนจะเป็นไข้ใจ หากไม่รีบช่วยรักษาเยียวยาจิตใจ เกรงว่าอีกหน่อยท่านป้าสะใภ้ของนางคงไม่แคล้วต้องเป็นเช่นท่านย่าของนางในอดีตแล้ว...

เอาเถิด...เช่นนั้นก็ปักให้ท่านป้าสะใภ้ก่อน จากนั้นค่อยปักให้พี่หญิงใหญ่

ได้ยินมาว่าพี่หญิงรองที่ถึงวัยเข้าประชันขันแข่งเช่นเดียวกับพี่หญิงใหญ่เลือกใช้ภาพวาดและบทกวี อีกทั้ง...หากสตรีจากตระกูลเดียวกัน ส่งผ้าปักลายเข้าคัดเลือกเพื่อเข้าแข่งขันช่วงชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีปีเดียวกัน ก็คงดูไม่ใคร่จะดีนัก เชื่อว่าพี่หญิงรองที่เชี่ยวชาญการวาดภาพและโคลงกลอนเช่นเดียวกับอนุจางคงไม่มาขอให้นางช่วยปักผ้าให้อีกผู้หนึ่งเป็นแน่ เช่นนี้แล้ว...เหตุใดนางจะรับปากท่านป้าสะใภ้มิได้?

            เมื่อสมัยเจ็ดแปดขวบ ปักผ้าสามผืนในสามเดือนนางยังทำมาแล้ว ยามนี้อายุสิบห้าย่างเข้าสิบหก ฝีมือปักผ้าของนางรุดหน้าไม่น้อย นางไม่เชื่อว่าเวลาสองเดือนจะไม่พอให้นางปักผ้าให้ท่านป้าสะใภ้และพี่หญิงใหญ่ของตนเอง

“ได้สิเจ้าคะ” เซียงหรงแย้มยิ้ม “ประเดี๋ยวหรงเอ๋อร์จะปักภาพทิวทัศน์อันงดงามที่มองแล้วสบายตาให้ท่านป้าสะใภ้ดีหรือไม่”

“ดีทีเดียว” จวิ้นหวังเฟยตอบ “ป้าสะใภ้ยังอยากให้มีความหมายอันมงคลแฝงไว้ด้วยอีกอย่าง จะได้ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคลทั้งมวลออกไปได้ในคราวเดียวกัน”

ภาพที่มองแล้วรู้สึกได้ถึงความสงบ เย็นตา ทั้งยังมีความหมายอันมงคล สามารถปัดเป่าสิ่งอัปมงคล?

นางนึกภาพลายปักเช่นนั้นไม่ออกเลยจริงๆ

ทว่า...ดูจากสายตาคาดหวังของท่านป้าสะใภ้ หากไม่ได้ผ้าปักดังที่ว่า ท่านป้าสะใภ้คงต้องผิดหวังแน่แล้ว...

“เช่นนั้นหรงเอ๋อร์คงต้องขอเวลาใคร่ครวญสักสองสามวัน เมื่อออกแบบลายปักที่ดีพอได้แล้ว ค่อยให้คนส่งไปให้ท่านป้าดูว่าถูกใจหรือไม่ ดีไหมเจ้าคะ”

“ไม่ต้องส่งไปหรอก” จวิ้นหวังเฟยจากสกุลสวี สวีเซียงเซียง ตบหลังมือเซียงหรงเบาๆ สองสามครั้ง กล่าวเสียงนุ่ม “ป้าสะใภ้ที่ไหนจะไม่เชื่อใจหรงเอ๋อร์ของพวกเรา ไม่ว่าหรงเอ๋อร์คิดอ่านปักผ้าออกมาเป็นลวดลายใด ป้าสะใภ้ก็เชื่อว่าผ้าปักฝีมือหรงเอ๋อร์ผืนนั้นจะต้องงดงามหมดจดซ้ำยังแฝงไว้ด้วยความหมายอันเป็นมงคล มองแล้วรู้สึกสบายตา สบายใจ เป็นผ้าปักที่เพียงเห็นก็รู้สึกได้ว่าจะสามารถช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคลออกไปจากรอบกายผู้เป็นเจ้าของครอบครองผ้าปักผืนนั้น”

เซียงหรงฟังแล้วยิ่งกว่าเก้อกระดาก ได้แต่ตอบเสียงอ้อมแอ้ม

“ท่านป้าสะใภ้ชมหรงเอ๋อร์เกินไปแล้ว หรงเอ๋อร์ที่ไหนจะเก่งกาจถึงเพียงนั้น...”

“อา...ดูเจ้าสิ หรงเอ๋อร์ของข้าเหตุใดจึงน่ารักน่าเอ็นดูถึงเพียงนี้!” ท่านป้าสะใภ้จากสกุลสวีของนางหัวเราะเบาๆ ยิ้มไม่หุบ ดูชอบอกชอบใจเป็นอย่างยิ่ง

“จริงสิ” ราวกับจะนึกอีกเรื่องขึ้นได้ ท่านป้าสะใภ้ของนางลดเสียงลง ถามอย่างระมัดระวัง “พี่ชายรองของเจ้า...ได้ข่าวว่าไปเมามายก่อเรื่องอยู่ข้างนอก คนผู้นั้นเพียงพลาดหวังจากการสอบจิ้นซื่อก็ถึงกับขาดสติ เที่ยวดื่มเหล้าจนเมามายแล้วโวยวาย ด่ากราด อาละวาดไปทั่ว ยามอยู่ในจวนเขาเป็นเช่นนี้หรือไม่?”

ความหมายของป้าสะใภ้ เซียงหรงเข้าใจดี ที่ท่านป้าสะใภ้ต้องการจะถามก็คือ พี่ชายรอง เฉินจื้อเฉิง ได้สร้างความลำบากใดใดให้น้องสาวต่างมารดาอย่างนางหรือไม่

“พี่ชายรอง แม้ระยะนี้ถูกสั่งห้ามออกนอกจวน จึงมักขลุกตัวดื่มสุราจนเมามาย ก็เพียงเมามายอยู่ในเรือน ไม่เคยก้าวขาออกจากเรือนของตนเองเลยสักก้าวเจ้าค่ะ เชื่อว่า...ไม่นานพี่ชายรองคงจะค่อยๆ คลายทุกข์ กลับมาเป็นพี่รองที่สุภาพสำรวมดังเดิม...”

ผู้เป็นป้าสะใภ้ระบายลมหายใจยาว ดูโล่งอก “เป็นเช่นนั้นได้ก็ดี...หรงเอ๋อร์ก็อย่าได้เข้าใกล้เรือนของคุณชายรองเป็นอันขาด คนกำลังเมาสุรา สิ่งไม่ดีใดก็สามารถกระทำได้ทั้งนั้น เข้าใจหรือไม่”

“ท่านป้าสะใภ้โปรดวางใจ พี่จื้อเฉิงไม่เคยทำร้ายหรงเอ๋อร์เลยสักครั้ง แม้แต่ดุด่าว่ากล่าวสักครึ่งคำก็ยังไม่เคยทำ อันที่จริง พี่จื้อเฉิงดีต่อหรงเอ๋อร์เป็นอย่างยิ่ง ยามมีขนมรสเลิศ ยามพบเจอเครื่องประดับอันงดงามสะดุดตา ยามพบเจอข้าวของแปลกๆ จากที่ใด ก็มักจะนำมาให้หรงเอ๋อร์อยู่เสมอ ทั้งยังใส่ใจคอยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ เรื่องที่จะอาละวาดด่าทอทุบตีนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนเจ้าค่ะ”

“หรงเอ๋อร์...” จวิ้นหวังเฟยจากสกุลสวีคล้ายอยากพูดบางอย่าง ทว่าไม่รู้จะกล่าวอย่างไรดี สุดท้ายก็ได้แต่ทอดถอนใจอีกครา “เอาเถิด เป็นเช่นนั้นได้ก็ดี...จะอย่างไรก็เชื่อฟังป้าสะใภ้ อย่าเข้าใกล้คนเมาก็แล้วกัน” มองดวงตาซื่อใสไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับผู้ใดทั้งนั้นของเด็กสาวตรงหน้าแล้ว ดวงตาผู้เป็นป้าสะใภ้ก็ยิ่งฉายแววอัดอั้นตันใจ ทั้งยังวิตกกังวลใจยิ่งนัก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status