แชร์

บทที่ 28

ผู้เขียน: Karawek House
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-23 20:51:55

เซียงหรงได้ยินแล้วหน้าเสียทันที

นาง...นางไม่เคยมีความคิดเช่นนั้นนะ!

“พี่หญิงใหญ่ ข้ามิได้...”

ไม่ทันที่เซียงหรงจะได้อธิบาย เฉินเหม่ยลี่ พี่หญิงรอง ก็แย้มรอยยิ้มที่ไม่พาดผ่านไปถึงดวงตา กล่าวเสียงหวาน

“พี่หญิงใหญ่กล่าวหนักไปแล้วเจ้าค่ะ แต่ไหนแต่ไรมา น้องสามของพวกเราไม่เคยก้าวขาออกนอกจวน อันที่จริง ด้วยคำสั่งของท่านพ่อ หากไม่มีเหตุจำเป็น นางแทบไม่ได้ย่างเท้าออกนอกเรือนอี้หรงเลยด้วยซ้ำ ธรรมดาคนจากชนบทเข้าเมืองใหญ่ก็ย่อมตื่นตาตื่นใจอยากรู้อยากเห็น หรงเอ๋อร์ของพวกเราตั้งแต่เล็กจนโตก็เก็บตัวในเรือนหลัง ย่อมไม่ต่างอะไรไปจากคนชนบทเหล่านั้นมิใช่หรือ...นางก็เพียงอยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่างจนลืมมารยาทจรรยาที่พึงปฏิบัติของบุตรีผู้มีตระกูลไปเสียสิ้นก็เท่านั้น...” เฉินเหม่ยลี่ผินหน้ามาทางเซียงหรง แย้มรอยยิ้มกว้างขึ้น “ใช่หรือไม่...น้องสาม...”

เซียงหรงรีบพยักหน้ารับทันที

“เป็นเช่นนั้นจริงๆ นะเจ้าคะ พี่หญิงใหญ่ หรงเอ๋อร์...หรงเอ๋อร์เพียงไม่อาจระงับความอยากรู้อยากเห็น หรงเอ๋อร์หาได้...หาได้มีความคิดเช่นนั้นเคลือบแฝงไม่!” พี่หญิงใหญ่ของนางคล้ายจะคาดหวังในการประชันขันแข่งครั้งนี้มาก นางไม่อยากให้พี่หญิงใหญ่เข้าใจนางผิดไปเช่นนั้น!

เฉินชิวเยว่เห็นความโง่เง่าชนิดถูกเฉินเหม่ยลี่พูดจากระทบกระเทียบเสียดสีซึ่งๆ หน้า ก็ยังไม่รู้ตัวของน้องสามตรงหน้าแล้วก็ยิ่งหงุดหงิดในอก

นางกัดริมฝีปากแน่น กำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง กลับถูกมารดาของตนชิงบีบมือ ปรามเอาไว้

อนุหาน หานชิงเยว่ กล่าวเสียงนุ่ม “อีกไม่นานพวกเจ้าทั้งสามก็ต้องออกไปประชันขันแข่งกับสตรีมากมายนับไม่ถ้วน อย่ามัวหยอกล้อกันตามประสาพี่หญิงน้องหญิงเช่นนี้เลย หากประมาทขาดสมาธิจนทำให้จวนเฉินกั๋วกงต้องเสียชื่อ ครั้งนี้บิดาของพวกเจ้าคงไม่พ้นต้องขายหน้าคนทั้งแผ่นดินแล้ว”

เฉินชิวเยว่ฟังแล้วก็พลันได้สติ นางพยายามควบคุมอารมณ์ พยายามวางสมาธิให้จดจ่ออยู่กับการประชันขันแข่งที่จะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า…

คุณหนูใหญ่อย่างนางไม่ได้อดทนทุ่มเทฝึกฝนตนเองมานานปีเพื่อมาเสียสมาธิด้วยเรื่องโง่เง่าพรรค์นี้ นางมาที่นี่เพื่อคว้าชัยชนะ! ตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีจะต้องตกเป็นของคุณหนูใหญ่จวนเฉินกั๋วกงอย่างนาง ต้องเป็นของนางเท่านั้น!

ท่านแม่ของนางใช้เส้นสายของสกุลหานตรวจสอบมาแล้ว ที่จริงแล้ว น้องสามที่โง่เง่านี่ ถึงกับลอบส่งผ้าปักลายที่งดงามผืนหนึ่งเพื่อคัดเลือกเข้าประชันขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธี...คิดได้อย่างไร? น้องสาวสมควรตายนี่ยังมีสมองอยู่หรือไม่? หรือการถูกกักตัวไว้ในจวน ไม่ได้เข้าศึกษาในสำนักศึกษาดังเช่นพี่หญิงน้องหญิงของตน จะทำให้เด็กสาวอย่างนางสูญเสียสติปัญญาที่สมควรมีอยู่บ้างไปหมดแล้ว?

สตรีจากตระกูลเดียวกัน ส่งผ้าปักลายเข้าคัดเลือกเช่นเดียวกัน ซ้ำฝีปักยังย่อมต้องเหมือนกัน ด้วยผ้าทั้งสองผืนนั้นถูกปักขึ้นโดยน้องสามที่โง่เง่าตรงหน้านี่ทั้งคู่ หากมีผู้สังเกตเห็นข้อเท็จจริงเรื่องนี้เข้าจะทำอย่างไร?

ไม่น่าเลย...นางไม่น่าไว้วางใจน้องสาวที่โง่เง่าเช่นนี้เลย!

ยิ่งคิดเฉินชิวเยว่ก็ยิ่งหงุดหงิด โกรธเคือง ทั้งยังวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง

สติ...ตั้งสติให้ดี...

นางพยายามสงบใจ พยายามมองไปในทางที่ดี

เอาเถิด ในการคัดเลือกครั้งนี้ มารดาของนางกล่าวว่ามีงานศิลปะมากมายหลายประเภทถูกส่งเข้าสำนักศึกษา กระทั่งบทเพลงลำนำที่แต่งขึ้นใหม่ก็ยังมี อาจไม่มีผู้ใดทันสังเกตเห็นข้อเท็จจริงเรื่องนี้ก็ได้...ที่คุณหนูใหญ่อย่างนางสมควรใส่ใจ มีเพียงการแข่งขันตอบปัญหา การประชันพิณ ภาพ หมาก อักษร โคลงกลอน และการทำการแสดงอย่างอิสระในรอบสุดท้ายที่รออยู่เท่านั้น!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status