007 ไล่ฆ่าซอมบี้กับเพื่อนของเธออีกหลายคน นับวันฝุงซอมบี้กลายพันธ์ก็เริ่มเรียนรู้การฆ่าของหน่วยของ007และยิ่งเยอะขึ้นแบบรวดเร็วหลังจากต่อสู้กันมาแบบข้ามคืนข้ามวันจนหัวหน้าสั่งถอยก่อน
007 รีบเข้ามิติยานของเธอทันทีได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไหงเธอตื่นมาอีกครั้งในร่างของพระชายาของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีไปได้ที่ได้ตบแต่งเข้าตำหนักเมฆาพร้อมกันพระชายารองจางว่านอี้ เพราะพระราชทานสมรสของฮ้องเต้พี่ชายของท่านอ๋อง ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีที่ไม่พอใจกับการแต่งงานในครั้งนี้จึงรับไปตัวว่าที่พระชายารองเข้ามาหลังคืนเข้าหอหนึ่งวันทันที และมันช่างประจวบเหมาะที่ในเหล้ามงคลสมรสในห้องหอนั้นมียาปลุกกำหนัดจนทำให้ท่านอ๋องร่วมหอกับพระชายาเอกอย่างฟางอี้หลิงทั้งคืน แต่พอตื่นขึ้นมากลับให้หลี่กงกงเชิญพระชายาเอกออกจากตำหนักเมฆาไปที่ตำหนักร้างนอกเมืองหลวงเพื่อทำโทษที่พระชายาเอกวางยาท่านอ๋องในคืนแต่งงาน สร้างความเสียใจให้กับพระชายาฟางอี้หลิงที่พระสวามีไม่ให้เข้าพบทั้งยังขับไล่ไสส่งหลังจากที่ตื่นบรรทมจากการเข้าหออย่างหนักกับพระสวามี พอไปถึงที่ตำหนักร้างนอกเมืองหลวงในคืนนั้นพระชายาฟางอี้หลิงที่มีไข้สูงทั้งเสียใจน้อยใจกับการที่พระสวามีไม่รับฟังคำที่ตัวของพระชายาจะปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้วางยา แต่ท่านอ๋องนั้นหาได้ฟังเหยียบหัวใจนางอีกครั้งด้วยการเสด็จไปรับว่าทีพระยาชารองมาไว้ที่ตำหนักเมฆาให้ เมื่อท่านอ๋องไม่อยู่เสด็จไปที่ค่ายทหารที่ชายแดนเหนือตั้งแต่ที่ตื่นบรรทมพร้อมทั้งรับสั่งทำโทษพระชายาเอกฟางอี้หลิงแต่ให้ว่าที่พระชารองมานำพักที่ตำหนักเมฆาแทนเป็นการหักหน้าพระชายาเอก ในคืนนั้นไข้ขึ้นสูงแต่พระชายามีเพียงสาวใช้ที่ต้มยาเช็ดตัวและตามหมอจากโรงหมอมาดูพระอาการในตอนเย็น ตอนดึกสาวใช้คนสนิททั้งสองผลัดกันดูแลพระชายาของตัวเองแต่ตอนที่สาวใช้คนสนิทหลับนั้นพระชายาฟางอี้หลังนั้นได้สิ้นใจอย่างไม่มีใครรู้ แต่เป็นรหัส 007 นั้นตื่นขึ้นมานอนในร่างของพระชายาฟางอี้หลิงพร้อมทั้งความทรงจำของร่างเดิมจนรวมเป็นหนึ่ง ไปดีนะพระชายาฟางอี้หลิงเพราะเจ้าถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีทั้งจิตใจดีจึงแบกรับข้อครหาของพระสวามีไม่ได้ จึงเสียใจมากบวกกับไม่สบายจึงทำให้สิ้นใจ โรคไข้ใจนี้มันร้ายแรงยิ่งนักต่อจากนี้ข้าจะใช้ร่างกายของเจ้าให้ดีและจะช่วยให้บิดากับพี่ชายของเจ้ารบให้ชนะเพื่อจะขอให้ฮ่องเต้ประทานขอหย่าจากพระสวามีเฮงซวยนี้เอง 007 นอนคิดวางแผนที่จะลงมือในขั้นตอนต่อไปในเมื่อได้ออกมาอยู่นอกเมืองหลวงแล้ว แต่แค่สิบห้าลี้มันก็ไม่ไกลมาก ตำหนักร้างแห่งนี้ติดภูเขาหลายลูกเนื้อที่หลายพันหมู่ดีไม่น้อย ดีเสียอีกที่จะไม่ได้พบเจอพระสวามีหน้าโง่คนนั้น ทำอะไรจะได้สะดวกรอให้เช้าก่อนค่อยคิดว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับสาวใช้อย่างไรดี จะใช้ชีวิตให้คนอิจฉานางเล่นเลยคอยดู ตอนนี้ที่บ้านร้างมีคนดูแลรถม้าที่บิดาให้มาอีกสามคนเพื่อคอยรับใช้ส่วนตัวที่มีวรยุทธคอยปกป้องบุตรสาว ตเพราะท่านพ่อกับพี่ชายติดพันรบกับข้าศึกที่ชายแดนใต้ ท่านพ่อที่ไม่สามารถมาร่วมงานแต่งของบุตรสาวได้ แต่ได้ส่งพี่ชายมา พอส่งน้องสาวแต่งงานจนจบพิธีรองแม่ทัพฟางอี้ข่ายต้องรีบกลับไปช่วยบิดารบที่ชายแดนทันที นี้คือสิ่งที่ฮ่องเต้ใช้วิธีพระราชทานสมรสพระราชทานเพื่อให้ท่านแม่ทัพฟางอี้หลุนนั้นต้านข้าศึกให้ชนะเพื่อไม่ให้กังวลต้องห่วงบุตรสาวผู้เป็นที่รักคนเดียว พระองค์จึงรับปากให้แต่งกับท่านอ๋องผู้เป็นน้องชายร่วมสายเลือดเดียวกันกับพระองค์แล้วนั้นเอง ฟางอี้หลิงนอนคิดเรื่องของร่างเดิมจนสว่าง สาวใช้นั้นตื่นมาคอยดูว่าพระชายาของตัวเองนั้นหายจากอาการประชวรหรือยัง "พวกเจ้าทั้งสองคนอย่าได้กังวลใจไปเลยข้าหายดีแล้วพวกเจ้าพักผ่อนเสียเถิด พรุ่งนี้เช้าพวกเจ้าค่อยไปบอกคนของเรามาพบข้าหลังจบอาหารเช้า " ฟางอี้หลิงบอกสาวใช้ทั้งสองคนที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดนางตลอด "เพคะพระชายา" อีอีตอบนายของตนเมื่อคืนพวกเธอทั้งสองคนนั้นต่างก็กังวลอาการของพระชายามากเพราะไข้สูงจนเพ้อไปทั่ว ทั้งยังโดนลงโทษจากท่านอ๋องอีก ทั้งสองสาวนั้นท่านแม่ทัพช่วยชีวิตมาจากการถูกขายเข้าหอนางโลมแล้วให้มาเป็นสาวใช้ข้างกายให้บุตรสาว สองพี่น้องนั้นซื่อสัตย์ต่อเจ้านายที่ช่วยพวกตนออกจากขุมนรกมาอย่างหวุดวิด คุณหนูนั้นก็จิตใจดีไม่เคยด่าว่าสองพี่น้องเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่คุณหนูสิบสองขวบ พวกนางนั้นเกิดก่อนคุณหนูสองปี ตอนนี้คุณหนูได้สิบเจ็ดขวบปีจนออกเรือนแล้ว หลังจากที่ตื่นมาอาบน้ำกินข้าวเรียบร้อย ฟางอี้หลิงบอกกับสาวใช้และคนของนางพอมากันครบทั้งห้าคนแล้วกล่าวว่า "ต่อจากนี้พวกพี่ไม่ต้องเรียกข้าว่าพระชายาอีกต่อไปให้เรียกคุณหนูเหมือนเดิม!!!!" "พระชายาเพคะ/พะย่ะค่ะ?" ทุกคนตกใจจึงอุทานออกมาเสียงดัง "ก็เพราะว่าข้าจะไม่กลับไปเป็นพระชายาให้ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีอีกแล้วนะสิ แล้วพวกพี่จะตกใจกันทำไมข้าตกใจไปด้วยเลย" ฟางอี้หลิงแกล้งดุคนของตัวเองที่พากันตกใจที่นางบอกให้ทุกคนเรียกคุณหนูเหมือนที่เคยอยู่ในจวนของบิดา "เอ่อจะดีหรือเจ้าคะถ้าคนของท่านอ๋องมาได้ยินมีสิบหัวก็คงไม่พอให้ตัดนะเจ้าคะ" "ใช่ขอรับ" ทุกคนต่างพูดเสียงอ่อยๆ "จะมีใครมาได้ยินละไม่ใช้เขาหรือไล่ข้าออกจากตำหนักอย่างไม่มีเหตุผล พอรับชายารองสุดที่รักมาไว้แล้วก็อ้างว่าไปชายแดนให้หลี่กงกงกับพระชายารองจัดการแทนทุกอย่างแล้วรับสั่งลงโทษข้ามาที่แห่งนี้ช่างเป็นผู้ชายที่ห่วยแตกยิ่งนัก ข้ายังไม่ทันได้เห็นหน้าพระสวามีชัดเสียด้วยซ้ำเมื่อคืนไม่รู้ว่าเดินชนกันยังจะจำหน้าได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ พวกพี่ไม่ต้องตกใจกลัวกันข้าไม่ปล่อยให้ใครมารังแกคนของข้าได้หรอก แล้วนี้สินเดินของข้าได้มาครบไหมเจ้าคะเมื่อวานข้ารู้สึกไม่สบายทำพวกพี่เดือดร้อนแล้ว ต่อจากนี้พวกพี่จะไม่เห็นน้ำตาของข้าคุณหนูคนนี้อีกแล้วนะข้าคนเดิมได้ตายไปแล้วตั้งเมื่อวานนี้ เห้อข้าอยากไปหาท่านพ่อกับพี่ใหญ่จังเลย ช่างเถอะพวกเรามานับดูสินเดิมของข้าให้เหลือเพียงตำลึงทองเถอะนะ ที่เหลือข้าจะให้พวกพี่นำกลับไปไว้ที่จวนเหมือนเดิม ข้าไม่อยู่หรอกที่นี้ข้าจะเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อจะเดินทางไปหาท่านพ่อกับพี่ใหญ่ที่ชายแดน พวกพี่ไปเตรียมตัวเถอะข้ามีเรื่องให้ทำอีกเยอะ" ฟางอี้หลิงบอกกับคนของตัวเอง ตอนนี้ข่าวลือของพระชายาเอกของท่านอ๋องนั้นได้ดังไปทั่งเมืองหลวงแล้วจากคนของว่าที่พระชายารองจางว่านอี้ตอนนี้ในตำหนักเมฆาจึงมีเสียงหัวเราะอย่างพอใจของว่าที่พระชายารองที่ได้กำจัดพระชาเอกออกไปได้ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะได้เข้ามาในตำหนักแล้ว ท่านอ๋องได้เสด็จไปรับตนแล้วรีบเดินทางลงไปรบแบบเร่งด่วนทั้งที่ยังไม่ได้ตบแต่งตามพิธีการ แต่ไม่เป็นไรในเมื่อตอนนี้ตำหนักเมฆานางเป็นใหญ่ที่สุด รออีกไม่นานท่านอ๋องกลับมาก่อนค่อยแต่งก็ได้ จางว่านอี้คิดไปยิ้มไปด้วยความสุขกับความยิ่งใหญ่ของตัวเองจนลืมไปว่าท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีนั้นรับตนมาพร้อมกับข้อแลกเปลี่ยนวันเวลาหนุนเวียนไปผ่านไปตอนนี้สองแฝดอายุได้สองขวบกว่าๆแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วเช่นเดียวกันสร้างความดีใจให้กับแม่โจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากที่ทำลูกเพิ่มได้อีกในครรภ์ของฮูหยินสาวคนสวยของท่านแม่ทัพแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลย เพียงแค่ฮูหยินขยับตัวแม่ทัพหนุ่มก็จะลุกขึ้นประคองทันทีและคอยช่วยงานแทนฮูหยินทุกสิ่งอย่าง จนเซี่ยเสี่ยวหลานต้องบอกสามี"น้องไม่ได้เป็นง่อยเจ้าค่ะท่านพี่ให้น้องทำอะไรบ้างเถอะเจ้าค่ะ ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเกินแรงของตัวเองอย่างแน่นอนนะเจ้าค่ะท่านพี่""ได้พี่ตามใจน้องทุกอย่างแต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลตอนน้องตั้งท้องลูกของพี่บ้างนะเพราะสองแฝดพี่ก็ติดรบกับข้าศึกที่ชายแดน กว่าจะได้มาตอนที่น้องคลอดลูกในวันนั้นพอดี ท้องนี้พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลยท้องนี้พี่จะดูและไม่ให้คลาดสายตาเลย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดกับฮูหยินคนสวยอย่างเอาใจจนเซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหัวในความเห่อของสามีตอนนี้เจ้าสองแฝดพี่น้องแทบจะไปนอนกับบิดาของนางทุกคืนอยู่แล้วตื่นมาตอนเช้าถ้าจบมื้อเช้าก็จะไปเรียนกับอาจารย์ที่บิดาหามาให้สอนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนหยุดสองแฝดก็จะตามท่านตาไปที่ฟาร์ทุกวันเช่นเดียวกัน ละตอนน
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำโครงการจนครบหมดทุกอย่างในเวลาสามเดือนต่อมาจากนี้คือคนขององค์ชายสองทำต่อ ส่วนตัวนางกับสามีก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสองแฝดก็จะครบปีในเดือนนี้แล้วทั้งแฝด ตั้งแต่เดินได้นี้วิ่งตามบิดากับท่านตาในตอนเช้าทุกวันต้องออกไปดูฟาร์มของท่านตากับบิดาทุกวันส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็วาดแบบชุดเสื้อผ้าอาไว้เยอะๆและออกไปตรวจงานที่ร้านผ้าเดือนละสองสามครั้งบ้างส่วนมากเป็นพ่อบ้านจี้ที่ดูแลแทน แม่ทัพโจวขอกลับมาดูแลทหารในสังกัดของเมืองหลวงฝึกซ้อมทหารในค่ายขององค์ชายสองที่ดูแลรักษาวังหลวง ทุกวันต้องออกไปฝึกซ้อมและดูแลค่ายแทนองค์ชายสองทุกอย่างส่วนวันหยุดก็เลี้ยงบุตรช่วยฮูหยินพากันไปที่ฟาร์มของพ่อตาเป็นส่วนใหญ่เพราะได้เรียนรู้งานทุกสิ่งอย่างซึ้งทั้งสองแฝดจะชอบมากเวลาได้ออกข้างนอกกันส่งเสียงกรีดกร๊าดกันเลยทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะสองแฝดที่อยากรู้อยากเห็นส่งเสียงถามใหญ่เลยยังกับตัวเองพูดชัดเสียอีก นางมองลูกที่ช่างจ้อถามอย่างเอ็นดู"ว่ายังไงหือเจ้าตัวยุ่งทั้งสองของแม่อยากรู้อะไรอีกถามพ่อกับแม่ไม่หยุดเลยหือเจ้าหมูน้อยของแม่" ก่อนที่นางจะฟัดพุงของลูกน้อยท
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ช่วยงานองค์ชายสองจนครบเดือนแล้วตอนนี้สินค้าทุกย่างเริ่มส่งออกขายไปยังเมืองใกล้เคียงหลายเมืองแล้ว ตั้งแต่ที่ทางตัวเมืองที่องค์ชายสองลงมาให้ความรู้และสอนอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยในแทบชายทะเลให้รู้จักว่าสิ่งไหนสามารถกินได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ของที่นำเข้าร่วมงานของดีของตัวเมืองนี้ได้รับความสนใจจากเมืองข้างเคียงเป็นจำนวนมากเพราะสินค้าที่จะส่งขายทุกตัวอย่าง จะให้ชิมฟรีกันภายในงานสร้างความแปลกใหม่สำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมากและพอทุกคนได้ชิมสินค้าทุกตัวจึงขายดี จนกลับไปขนที่จวนมาขายสร้างตำลึงให้กับองค์ชายสองเป็นจำนวนมากหักค่าคนงานที่มารับจ้างออกแล้ว แม้แต่ทหารก็ยังได้รับเงินพิเศษต่างหากนอกจากเบี้ยหวัดรายเดือนที่ได้รับอีกด้วยสร้างความดีใจให้กับทหารในสังกัดขององค์ชายสองยิ่งนัก พวกเขาพากันส่งตำลึงให้ครอบครัวที่รออยู่ทางบ้านกันทุกคน ชาวบ้านก็มีงานทำใครมีที่ทางไม่ติดกับทะเลจนเกินไปองค์ชายสองก็แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักต่างให้จนครบทุกครัวเรือนและให้เข้าร่วมโครงการหลวงขององค์ชายสองที่ซื้อที่ไว้สำหรับสอนชาวบ้านเพาะปลูกและพาลงมือสอนทุกขั้นตอน ใครไม่มีที่องค์ชายสองก็จัดสรรให้ทุกครอบค
ตอนนี้สองร่างพัวพันกันบนเตียงหลังใหญ่ด้วยความเร่าร้อนฟางอี้หลิงที่ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อนตอนนี้ถูกพระสวามีปรนเปรอจนไม่เป็นตัวของตัวเอง มันทั้งเสียวทั้งเรียกร้องให้นางตอบสนองเขากลับแบบเงอะๆงะๆของคนที่ไม่ประสาเรื่องของสามีภรรยาที่มีสัมพันธ์ลึ้กซึ้งต่อกัน นางก็ทำไปตามสัญชาตณาญของนางเองสร้างความพอใจให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก ที่พระชายรักยอมตอบสนองตัวเองแบบไร้เดียงสายิ่งทำให้อารมณ์ของท่านอ๋องหนุ่มที่กักเก็บมานานแทบจะคลั่งต่อกริยาน่ารักของพระชายารักของตัวเองเขาจึงต้องให้นางพร้อมกัน ก่อนจะนำอ๋องน้อยเข้าไปในกุหลาบงามของนางการร่วมหอในครั้งนี้ชายหนุ่มจึงต้องใจเย็นและให้นางประทับใจในการร่วมรักกับพระสวามีมากที่สุดเนางร้องครวญครางใต้ร่างใหญ่ของพระสวามีมือก็ลูบสะเปะสะปะไปทั่วตัวของพระสวามี ชายหนุ่มกำลังดูดดึงหน้าอกอวบใหญ่เกินตัวของนางด้วยความหลงไหลส่วนมืออีกข้างก็ลูบลงไปแหวกร่องกลางกายของนางที่มีน้ำสีใสรื่นออกมาเพราะมีอารมณ์ร่วมกับพระสวามีก่อนจะใช้นิ้วเขี่ยจุดอ่อนไหวของนางจนฟางอี้หลิงต้องส่งเสียงครางหวานออกมา อ๋องหนุ่มเร่งชักนิ้วเร็วขึ้นให้ชายารักถึงฝั่งฝันไปก่อนตนเองพอท่านอ๋องชักนิ้วเร็วขึ้นตามเสียงกรี
ในที่สุดก็ถึงวันที่ไปดูเกลือกันที่ได้เวลาตามที่กำหนดหลังจากอิ่มมื่อเช้าทุกคนก็ออกไปที่ทำนาเกลือเลย เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่ม้าตัวเดียวกับสามีเพราะแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมให้นางขี่ม้าคนเดียวอีกนั้นเอง พอมาถึงที่ทำนาเกลือทั้งสามหนุ่มตกตะลึงกับผลงานของตัวเองจากที่มองไปจนสุดลูกหูลูกตามีแต่เกลือสีขาวจนเต็มไปหมด สามคนสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะหันหน้ามองกันและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในที่สุดก็สำเร็จ"ขอบใจน้องสะใภ้ยิ่งนัก" องค์ชายสองตรัสขึ้นหลังจากมองดูนาเกลือจนพอใจ"เอาละทุกคนเอาที่คาดแจกจ่ายให้กับคนงานกวาดเอาไว้เป็นกองๆ ให้คนลำเลียงเข้าไปเก็บที่โรงเรือนใหญ่เพื่อจะบรรจุใส่ชะรอมใหญ่รอส่งออกขายต่อไปทั่วทุกเมืองได้เลย" นางบอกหัวหนัาทหารที่คอยดูแลนาเกลือ"อย่าลืมเอาจัดส่งเข้าวังให้องค์ฮ้องเต้ได้เห็นว่าแคล้นของเราก็สามารถผลิตเกลือใช้เองแล้วนะเพคะองค์ชายจะได้ไม่ต้องนำเข้าให้เสียตำลึงทองมากมาย ตอนนี้ให้ราชสำนักจัดการขายให้ราษฎรของค์ฮ้องเต้ได้เลยเพคะองค์ชาย" เพราะองค์ชายสองเป็นคนผูกขาดและขายเกลือแต่เพียงผู้เดียวโดยคนในราชสำนักของฮ้องเต้ลงมาดูแลด้วยอีกทาง วันนั้นทั้งวันทั้งสี่คนก็อยู่ที่นาเกลือจนถึงมื้อเที่ยงเซี่ยเสี่
เรื่องราวของเมืองจี่เป่ยถูกจัดการเสร็จสิ้นภายในสองอาทิตย์นายอำเภอลู่ฟงถูกชาวบ้านข้วางปาผักเน่าไข่เน่าอยู่หนึ่งอาทิตย์เต็มทุกคนต่างพากันสาปแช่งเขาสารพัดที่อยากจะทำ แล้วผู้ตรวจการจากเมืองเหลียวเดินทางมาถึงพร้อมทั้งหลักฐานหลายอย่างตระกูลลู่สิ้นสลายไปเพราะหลานชายคนโปรดชาวเมืองเหลียวโกรธแค้นบุกเข้าทำร้ายปู่กับย่าของลู่ฟงจนตายคาจวนอย่างอนาถที่ส่งเสริมหลานชายในทางที่ผิด บิดาถูกตรวจสอบจากจดหมายที่ท่านอ๋องส่งไปถึงพี่ชาย จัดการบิดาของลู่ฟงถูกปลดจากตำแหน่งขุนนางใหญ่พบหลักฐานมัดตัวต้องโทษประหาร แต่ฝั่งฮูหยินเอกไม่ได้รู้เรื่องด้วยได้จึงลงโทษผู้เป็นบิดาโทษคือประหารและไม่ให้ลูกหลานตระกูลลู่รับราชการอีกชั่วเก้าโครต ฮูหยินเอกขายกิจการพาลูกๆทุกคนย้ายไปที่เมืองอื่นกับครอบครัวเก่า ตอนนี้ในเมืองจี่เป่ยติดป้ายรับสมัครสอบนายอำเภอคนใหม่ในอีกหนึ่งเดือน ให้ทุกคนที่อยากจะสอบเป็นนายอำเภอให้ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบที่จะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าส่วนท่านอ๋องนั้นตามเกี้ยวพระชายาทุกวันแต่ยังไม่สำเร็จแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยท้อถอยเพราะหลงรักพระชายาของตัวเองจนถอนตัวไม่ขึ้น โดนนางสั่งสอนด่าทอชายหนุ่มกับย