หน้าหลัก / โรแมนติก / ภูริชหวงรัก / บทที่ 1 หมูกระทะเอยหมูกระทะใจ

แชร์

บทที่ 1 หมูกระทะเอยหมูกระทะใจ

ผู้เขียน: Fortune_289
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-16 21:29:44

หลังจากการประชุมที่แสนยาวนานเสร็จสิ้นลง พนักงานทั้งหมดเริ่มทยอยออกจากห้องประชุมไป เหลือเพียงสองคนที่ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ นั่นคือพ่อเลี้ยงภูริชและแบมบี๋

ภูริชหนุ่มหล่อมาดเข้มเจ้าของไร่ชา มองไปที่หญิงสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู และปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เขาคิดหนักอีกครั้ง เมื่อหญิงสาวอ้อนขอออกไปข้างนอก

“แดดดี้คะ หนูขออนุญาตออกไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ๆ ในตัวอำเภอหน่อยได้ไหมคะ”

แบมบี๋พูดออกมาพร้อมกับยิ้มให้พ่อเลี้ยงภูริชอย่างออดอ้อน ทำให้รู้สึกใจอ่อนไม่อาจปฏิเสธได้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่รู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้ามักจะทำตัวน่ารักและขี้อ้อนเสมอเมื่ออยากได้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง

“พี่ไม่ให้ไป”

“ทำไมคะ”

เธอเอ่ยถามเสียงใส ก็แค่ออกไปกินหมูกระทะในตัวอำเภอเอง ทำไมจะต้องมาห้ามกันด้วย

“ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน ต้องมีเวลาพักผ่อนบ้างสิคะ น้า ๆ หนูขอออกไปกินกับเพื่อนนะ”

“ไม่ให้ไป”

"แดดดี้!"

"เดี๋ยวนี้ดื้อกับพี่หรือไง หืม"

เขาหันไปคุยกับหญิงสาวด้วยใบหน้าซีเรียส ถึงแม้ว่าจะไปกับเพื่อนก็เถอะ แต่เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น แบมบี๋เป็นเด็กในความดูแล เขามีสิทธิ์ที่จะรับรู้ทุกความเคลื่อนไหว และอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เธอออกไปก็ได้

“ถ้าไปจะไปต้องมีคนไปด้วย"

“เฮ้อ”

แบมบี๋ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ พูดแบบนี้เธอคงไม่ได้ไปอย่างสบายใจแน่

“อย่าบอกนะคะว่าจะไปด้วย จริง ๆ แบมแค่จะไปกินหมูกระทะกับเพื่อนเท่านั้นเอง”

พ่อเลี้ยงภูริชมองดูหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขาเห็นความพยายามในการดื้อดึงที่จะขอไปให้ได้ ทั้งที่การกินหมูกระทะจะกินตอนไหนก็ได้ แถมกินที่ไร่นี้บรรยากาศดีกว่าอีก ก็คงอยากออกไปเจอเพื่อนแหละมั้ง ถึงได้รบเร้าขนาดนี้

"พี่รู้ แต่ไม่อยากให้บี๋ไปตอนนี้ ก็แค่ห่วง”

แบมบี๋ยิ้มหวานก่อนจะยกมือไปจับมือพ่อเลี้ยงภูริชเบา ๆ

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวแบมจะรีบไปรีบกลับ”

พ่อเลี้ยงภูริชมองตามมือของหญิงสาวแล้วพูดออกมาอย่างแน่วแน่

“ถ้าอย่างนั้นพี่จะไปกับบี๋ด้วย”

“อะไรนะคะ”

เธอทำหน้ามึนงงเป็นอย่างมาก ก็นึกว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก สรุปก็ยังจะไปให้ได้

“ใช่ พี่จะไปกับบี๋”

เขายังยืนยันคำเดิม

“ถ้าไม่อยากไปก็ต้องให้พี่ไปด้วย เลือกเอาเลยว่าจะไปหรือไม่ไป”

หญิงสาวถอนหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย สรุปว่าเป็นคนดูแลหรือว่าเป็นผัว ตามหวงตามเฝ้าทุกที่จริง ๆ

“ตามใจแล้วกันค่ะ หนูพูดอะไรไม่ได้อยู่แล้วนี่ ไม่เคยไปไหนคนเดียวได้อยู่แล้ว”

เธอทำหน้าน้อยอกน้อยใจเป็นอย่างมาก เขาตามไปเฝ้าจนเพื่อนล้อกันหมดแล้ว เหมือนลูกแหง่ที่ต้องมีผู้ปกครองตามไปเฝ้าในทุกที่

"ก็แค่นี้แหละ คนเรามันต้องพูดให้รู้เรื่องหน่อย อย่าดื้อให้มาก เดี๋ยวจะโดนลงโทษ"

ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์ มันเป็นเรื่องปกติที่พ่อเลี้ยงภูริชตามติดแทบจะสิงเธออยู่แล้ว แม้กระทั่งการสร้างธุรกิจให้เธอแถมยังยกให้เป็นชื่อของเด็กในความดูแลทั้งหมด ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าเขาไม่ปล่อยเธอไปไหน

"รู้แล้วค่ะ"

ใบหน้าเล็กงอง้ำอย่างทำอะไรไม่ได้ เขายิ้มออกมาก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวได้เลย พี่จะไปด้วย”

"ได้ค่ะ"

ขณะที่ทั้งสองเดินออกจากห้องประชุมพร้อมกัน แบมบี๋ก็ทันได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อเลี้ยงภูริช มันดูอารมณ์ดีอย่างประหลาด และเมื่อเธอเห็นแบบนั้นก็อดยิ้มตามไม่ได้

'เขานี่มันสุดยอดจริง ๆ เลย เฮ้อ'

เมื่อพ่อเลี้ยงภูริชและเด็กในความดูแลมาถึงร้านหมูกระทะในตัวอำเภอ พวกเขาก็เจอกลุ่มเพื่อนของแบมบี๋กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางร้าน ร้านหมูกระทะมีบรรยากาศที่คึกคัก เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม

“สวัสดีจ้าทุกคน!”

แบมบี๋พูดทักทายด้วยความสดใส นานทีเธอจะได้เจอเพื่อนก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา

“โอ้! แบม!”

เพื่อนคนหนึ่งลุกขึ้นส่งยิ้มมาให้ ก่อนจะกวักมือเพื่อให้เธอเข้ามานั่งตรงที่ว่าง

“พ่อเลี้ยงมาด้วยเหรอคะ”

"สวัสดีค่ะ"

"สวัสดีครับทุกคน วันนี้ขอมากินด้วยนะ"

ทุกคนยิ้มออกมาไม่พูดอะไรอีก แต่ทว่ากิริยาท่าทางก็คือสะกิดกันในกลุ่มเพื่อน เพราะรู้ดีว่าผู้ชายตรงหน้ามีความสัมพันธ์บางอย่างกับเพื่อนรักของพวกเขา มีแต่แบมบี๋เท่านั้นแหละมั้งที่ไม่รู้ตัว หรืออาจจะรู้แล้วแต่ทำเป็นโง่ไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่การแสดงออกชัดเจนเหลือเกิน

"แบมกินกุ้งไหมเดี๋ยวเราแกะให้"

พ่อเลี้ยงภูริชสังเกตเห็นท่าทางของชายหนุ่มคนนั้น จึงรู้สึกไม่สบายใจ และเริ่มแสดงอาการหึงหวงอย่างเปิดเผย เขามองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ

"แบมกินกุ้งไม่ได้"

"อ้าว จริงเหรอทำไมพวกเราไม่รู้มาก่อน"

เพื่อนทุกคนทำหน้ามึนงงเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนกินหมูกระทะด้วยกันบ่อย พวกหล่อนก็หยิบกุ้งมาไม่เห็นหญิงสาวจะพูดอะไรเลย

"แฮะ! ความจริงก็แพ้แหละ แต่ว่ามันไม่ได้หนักมากขนาดนั้นก็เลยไม่ได้บอก พวกแกกินเถอะ เดี๋ยวกลับไปกินยาแก้แพ้ก็ได้"

พ่อเลี้ยงภูริชหันไปหาพนักงานขอสั่งเตาเพิ่มมาอีกหนึ่ง เขาขี้เกียจนั่งมองหญิงสาวเกาตามแขนขา เวลาเห็นทีไรแล้วมันหงุดหงิด

"แยกเตาก็ได้ไม่เห็นต้องทรมานตัวเองเลย"

เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นแล้วไปตักของตรงโซนที่ทางร้านจัดไว้ให้ และเมื่อพ่อเลี้ยงภูริชออกจากวงสนทนา เพื่อนสาวทั้งหลายก็รีบสะกิดเพื่อนรักทันที

"เอาดี ๆ ตกลงปลงใจกันแล้วหรือไง"

"นั่นสิทำไมถึงตามหึงหวงแกขนาดนั้นล่ะ"

"ก็นึกว่าเป็นผู้ปกครองซะอีก สรุปแล้วแบมเอาผู้ปกครองมาเป็นแฟนเหรอ"

ทุกคนรีบเอ่ยออกมาพร้อมกับสะกิดกดดันให้เธอตอบคำถาม แบมบี๋ถึงกับกุมขมับ ไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง เพราะสถานะเราสองคนยังไม่ได้เป็นอะไรเลย

"ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย พวกแกอย่าพูดแบบนั้นสิ"

"แต่การแสดงออกมันไม่ใช่นะสิ ไอ้โก้แค่ถามว่าแกอยากกินกุ้งหรือเปล่าจะแกะให้ ดูพ่อเลี้ยงทำหน้าสิอย่างกับจะเอามีดมาแทงอย่างนั้นแหละ"

คนอื่นทำท่าทางขนลุกเมื่อเห็นใบหน้าของเขาเมื่อครู่ ไม่มีผู้ปกครองที่ไหนตามมาเฝ้าเด็กในความดูแลที่ร้านหมูกระทะหรอก ตามติดชีวิตอย่างกับคนเป็นผัว

"เอ่อ ก็ไม่รู้เหมือนกัน"

เธอเหลือบสายตาหันไปมองชายหนุ่มซึ่งตอนนี้กำลังเลือกของสดใส่จานอยู่ ปกติพ่อเลี้ยงก็เป็นคนน่ารักแบบนี้แหละ แถมยังรู้ใจเธอทุกอย่างอีก เธอเองก็มองว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณมาโดยตลอด และสาบานกับตัวเองว่าจะอยู่กับเขา อยู่เคียงข้างกันไปจนกว่าชายหนุ่มจะรำคาญ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้คิดเหมือนกัน เพราะคุยกันเรื่องนี้ทีไรจะต้องจบลงด้วยประโยคคำพูดที่ว่า...

'ถ้าอยากตอบแทนบุญคุณคนอย่างพ่อเลี้ยงภูริชต้องการอย่างเดียวเท่านั้น คือการได้เด็กในความดูแลมาทำเมีย'

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 42 ต้าวแฝดสาม จบบริบูรณ์

    ทั้งสามคนถึงกับร้องกรี๊ดออกมาเสียงดังลั่นห้องอัลตราซาวนด์ ได้รับข่าวดีแรกก็คือหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์ แต่ก็ต้องมาช็อกอีกครั้งเมื่อได้รับรู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด 3 มาทีเดียวพร้อมปิดอู่ได้เลย ใครจะไม่ดีใจบ้างก็ให้มันรู้ไปสิ"หนูเราจะได้ลูกแฝด 3""ดีใจจังเลยค่ะมาทีเดียวพร้อมกัน 3 คนเลย ถ้าเป็นแบบนี้ก็ท้องแค่ครั้งเดียวพอ หนูจะได้ไม่เหนื่อยคลอดหลายรอบดีไหมคะ""แบบนี้แหละดีค่ะหนูจะได้ไม่ทรมานหลายครั้ง คุณหมอแล้วแบบนี้เราจะต้องดูแลยังไงบ้างครับ ผมต้องมาพบคุณหมอทุกอาทิตย์หรือเปล่า"เขาหันไปคุยกับคุณหมอทันที เพราะอยากจะทราบวิธีการดูแลคุณแม่ที่ท้องลูกแฝดสาม เขาเคยอ่านมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณแม่จะอุ้มเด็กน้อยอยู่ในท้องด้วยกันถึง 3 คน การดูแลจะต้องมากกว่าคนท้องปกติ และก็มีความเสี่ยงเช่นกัน"ไม่ต้องห่วงนะครับทางเราจะดูแลคุณแม่แล้วก็เจ้าตัวเล็กอย่างดีที่สุด แต่ว่าอาจจะต้องนัดบ่อยอยู่นะครับ เพราะว่าเป็นครรภ์แฝดมีความเสี่ยงมากกว่าครรภ์ปกติ""ไม่เป็นอะไรเลยครับ ขอแค่ลูกของผมกับภรรยาปลอดภัย คุณหมอแนะนำมาได้เลยครับว่าต้องดูแลยังไง คงยินดีที่จะทำตามที่คุณหมอแนะนำทุกอย่าง""ได้เลยครับถ้าอย่างนั้นเชิญท

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 41 เบบี๋มาแล้ว

    หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จสองแม่ลูกก็พากันเดินทางมาที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เล่นเอาตื่นเต้นกันไม่น้อยเลยเพราะถ้าเกิดว่าลูกสาวเกิดท้องขึ้นมา คงจะเป็นข่าวดีที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว พ่อเลี้ยงภูริชเองก็ลุ้นอยู่ทุกวันว่าภรรยาจะท้องในที่สุด เธอภาวนาตั้งแต่ออกจากร้านอาหารจนมาถึงที่โรงพยาบาล ขอให้เด็กมาเกิดในท้องของเธอด้วยเถิด"ขอให้ท้องเถอะค่ะ หนูอยากให้พ่อเลี้ยงดีใจ""แม่ก็ขอให้หนูท้องนะ รีบไปกันเถอะแม่ตื่นเต้นจะแย่แล้วเนี่ย"ทั้งสองคนเดินเข้าไปด้วยความตื่นเต้น และเมื่อมาถึงก็ยื่นเอกสารให้เรียบร้อย จากนั้นพยาบาลก็พามายังห้องตรวจสูตินรีเวช คุณหมอให้ตรวจปัสสาวะเข้ามาก่อน ซึ่งมีพยาบาลคอยจัดการให้ทุกอย่าง จะได้เข้าไปฟังผลทีเดียวไม่ต้องเสียเวลา"เดี๋ยวคุณแบมเก็บปัสสาวะให้พยาบาลหน่อยนะคะ จะได้ส่งห้องแล็บตรวจ ผลจะได้ออกเร็วค่ะ""ขอบคุณค่ะคุณพยาบาล"เธอรับแก้วมาถือไว้ในมือ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการเก็บปัสสาวะของตัวเองส่งให้พยาบาล ใบหน้านั้นดูตื่นเต้นไม่น้อยเลย ตอนแรกว่าจะโทรศัพท์ให้พ่อเลี้ยงมาหาที่โรงพยาบาล แต่พอคิดดูอีกทีให้ผลมันออกไปที่แน่ชัดก่อน เพราะถ้าเกิดว่าไม่ท้องขึ้นมา เขาอาจจะร

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 40 อาการแปลกๆ ๆ

    หนึ่งเดือนต่อมา...แบมบี๋ในชุดทำงานมาดนักธุรกิจ ในมือถือแฟ้มเอกสารเดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับคุณแม่ ส่วนสามีของเธอวันนี้เดินทางไปคุยกับลูกค้า พอเวลาผ่านไปก็เริ่มปรับตัวกันได้ คุณแม่ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯเป็นหลัก โดยมีคุณแม่ของพ่อเลี้ยงภูริชคอยอยู่เป็นเพื่อน จึงทำให้สองสามีภรรยาหมดห่วง มีแม่นมคอยดูแลคุณแม่ของเธออีกแรงหนึ่ง ทำให้เธอค่อนข้างจะรู้สึกสบายใจในการเดินทางแต่ละครั้ง ไม่ต้องห่วงคนนั้นคนนี้ไปทั่วเหมือนเมื่อก่อน"เที่ยงแล้วหนูจะกินข้าวหรือยังลูก หรือว่าจะรอสามี""กินข้าวกับแม่ก็ได้ค่ะ แดดดี้น่าจะคุยงานกับลูกค้านานค่ะ หนูคิดว่าตอนนี้น่าจะกินข้าวกับลูกค้าไปแล้วด้วย"เธอตอบกลับคุณแม่พร้อมกับกุมมือท่านพาเดินไปด้วยกัน ตั้งแต่ที่เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ชีวิตของเราสองแม่ลูกก็กลับมาสู่ความสงบ คุณหญิงกิ่งแก้วและลูกสาวก็ได้รับกรรมที่ก่อไว้ โทษที่ได้รับก็สาสมกับสิ่งที่เธอคิดร้ายกับคนอื่น หวังว่าออกมาจากคุกจะเลิกวุ่นวายกับครอบครัวของเรา ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง"ถ้าอย่างนั้นเราไปกินข้างนอกกันไหม""ก็ดีนะคะแม่ ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะคะ"สองแม่ลูกควงแขนพากันเดินออกไปขึ้นรถที่จ

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 39 ปั๊มลูกกันเถอะ NC+

    หลังจากที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี แบมบี๋และพ่อเลี้ยงภูริชก็เดินทางกลับมาที่ไร่ ส่วนคุณแม่ของเธอได้รับอำนาจจากลูกสาวในการขึ้นไปบริหารบริษัทอีกคน เห็นแบบนั้นแต่ว่าเธออยู่กับบริษัทมาตั้งแต่แรกเริ่มยังไม่มีอะไรด้วยซ้ำ เรียนรู้งานพร้อมกับสามีจนมีได้อย่างทุกวันนี้ ก็ไม่แปลกใจทำไมเธอถึงบริหารงานแทนลูกสาวได้ โชคดีที่มีทนายรักษ์และผู้ช่วยคนสนิทคนเก่าของคุณพ่อ คอยอยู่เคียงข้างและแนะนำทุกอย่างจนทำให้แบมบี๋สามารถกลับมาอยู่ที่ไร่ภูริชได้ แต่ก็เดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯกับเชียงราย เนื่องจากว่าเธอไม่กล้าทิ้งคุณแม่อยู่คนเดียว แต่ยังไงก็ต้องกลับมาที่ไร่เพราะเธอมีธุรกิจอยู่ที่นี่อีกนั่นก็คือโฮมสเตย์และคาเฟ่ ไม่สามารถจะทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปได้ เธอกับพ่อเลี้ยงตกลงกันว่าเราจะเดินทางไปมาแบบนี้แหละ แล้วก็จะมีลูกหลายคนจะได้มาช่วยกันบริหารธุรกิจที่มีในอนาคต"บี๋เมื่อไหร่หนูจะมีลูกให้พี่สักที"เขาเอ่ยออกมาเสียงออดอ้อน ตั้งแต่ที่มีอะไรกันเขากับภรรยาไม่ได้ป้องกันเลยด้วยซ้ำ ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเด็กน้อยถึงไม่ยอมมาสักที หรือเพราะว่าเขาไร้น้ำยาเธอจึงไม่ท้องสักที"หนูก็ไม่ได้กินยาคุมหรือว่าป้องกันเลยนี่คะ ใจเย็นก

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 38 ทุกอย่างกลับมาอยู่ในความสงบ

    เจ้าหน้าที่ตำรวจลากสองแม่ลูกให้ไปขึ้นรถ จากนั้นก็พาเดินทางไปยังสถานีตำรวจต่อ ดูท่าทางจะรอดยาก เพราะหลักฐานที่แดนเก็บไว้หลายอย่าง น่าจะทำให้ทั้งสองคนสำนึกผิดอยู่ในคุกนานพอสมควร"แม่จ๋า"แบมบี๋วิ่งเข้าไปสวมกอดคุณแม่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เรื่องนี้ตัวเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน วางแผนกันมาอยู่สักพักใหญ่ เล่นละครหลอกคุณหญิงกิ่งแก้วแล้วก็ลูกสาวเพื่อให้ตายใจ เพื่อที่จะได้จัดการรวบรัดทีเดียว"หนูเจ็บตรงไหนไหม แม่นึกว่าเราจะไม่รอดซะแล้ว"คุณหญิงกวาเอ่ยออกมาพร้อมกับลูบแก้มลูกสาวทั้งสองข้าง รู้สึกเป็นห่วงลูกเสียเหลือเกิน ถ้าครั้งนี้เราสองคนไม่มีชีวิตรอดกลับไป เธอคงรู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถทำให้แบมบี๋ได้ใช้ชีวิตเหมือนอย่างคนอื่น"หนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแม่"เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก ในที่สุดเราสองคนก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข คนที่เคยคิดร้ายก็แพ้ภัยตัวเองไป หลังจากนี้ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีเถอะ อย่ามีเรื่องราวเลวร้ายเข้ามาในชีวิตอีกเลย"เดี๋ยวผมจะพาคุณหญิงกิ่งแก้วกับลูกสาวไปก่อนนะครับ ถ้าเกิดว่าทางนี้พร้อมเมื่อไหร่ก็ไปให้ปากคำได้เลย""ขอบคุณมากเลยนะครับคุณตำรวจ"พ่อเลี้ยง

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 37 ความจริงทุกอย่าง

    คุณหญิงและลูกสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาก่อนจะใส่กุญแจมือของทั้งคู่รวมถึงพวกชายฉกรรจ์อีก 5 คน โดยที่เอามือไขว้ไว้ข้างหลังทั้งสองข้าง และคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คือพ่อเลี้ยงภูริช"แดดดี้!"เธอตะโกนเรียกชายคนรักด้วยน้ำเสียงดีใจ เขารีบวิ่งเข้ามาก่อนจะรีบแก้มัดให้กับหญิงสาวและคุณแม่ของเธอ เมื่อเป็นอิสระแบมบี๋ก็สวมกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น"หนูเป็นอะไรได้เปล่า เจ็บตรงไหนไหม""ไม่ค่ะ หนูไม่เป็นอะไร"เธอสวมกอดคนรักเอาไว้แน่น ใบหน้ายิ้มออกมาอย่างดีใจที่เขามาได้ทันเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าถ้ามาช้ากว่านี้เธอกับแม่อาจจะถูกพาไปชายแดนแล้ว"คุณแม่เป็นหรือเปล่าครับ""ไม่เป็นอะไรค่ะ ว่าแต่นี่มันอะไรกัน"ทุกคนดูมีความสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะดูพ่อเลี้ยงภูริชจะเป็นห่วงแบมบี๋อย่างออกนอกหน้าทั้งที่เป็นอันรู้กันว่าทั้งสองคนหย่าร้างกันไปแล้ว ที่สำคัญมาช่วยได้ทันเวลาอีก ตอนแรกเห็นทะเลาะกันไม่เจอกันเลย คิดว่าเขาจะมาที่นี่ได้ด้วยซ้ำ"ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า กล้าดียังไงมาจับฉัน รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร ถ้าพวกแกยังไม่ปล่อยเดี๋ยวฉันจะฟ้องเจ้านายพวกแกให้หมดเลย"คุณหญิงสะบัดตัวเองให้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status