Share

3

last update Last Updated: 2024-11-28 14:21:12

“... เสกหนังควายเข้าท้องรึ... ฟังดูน่ากลัว กระผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่ให้ใครเขาพูดตะพัด[1]ไปในทางเสีย ๆ หาย ๆ หาความชั่วร้ายมาป้ายได้”

“ขอบคุณขอรับคุณหลวง กระผมซาบซึ้งใจนัก”

“แต่ถ้าลูกทำได้จริงเล่าคะเตี่ย คุณหลวงจะว่ากระไร จะยังรับลูกเปนเมียหรือไม่?”

ในที่สุดพิกุลก็ร่วงจากปากคู่งามให้คุณหลวงลอบยิ้มกริ่ม ด้วยความพึงพอใจ คุณหลวงจันหลงใหลแม้กระทั่งเสียงหวาน ๆ ของหล่อนราวจะโดนมนตร์อาคมเข้าให้ ถึงปากว่าเสียงดัง “เอ้า...! ขนเงินขนทองมากองเท่าภูเขา ก็ต้องรับน่ะซีแม่ แต่หลังจากเป็นผัวเป็นเมียกันแล้วหน้ะ จะพาไปพบหมอฝรั่ง ชะรอยจะมีกระไรในสมองสักอย่างหนึ่งให้เขาตรวจเสียหน่อยว่ามีปัญหาหรือไม่อย่างไร ถึงยังฝักใฝ่งมงายเรื่องพรรค์นี้อยู่”

-------------------------------

คำเก่าเขียนแบบเก่า = คำปัจจุบัน

- สื่อสิ่งพิมพ์ นวนิยายเก่า ฯลฯ ก่อนปีพ.ศ. ๒๕๐๐

โทโษ = โทโส , ธุร = ธุระ , ขะโมย = ขโมย , หน้ะ = น่ะ (เสียงสูง) , เปน = เป็น (ตามบริบทการออกเสียง)

-------------------------------

          งามดั่งนางฟ้านางสวรรค์ แขกเหรื่อผู้มาร่วมแสดงความยินดีมีความเห็นตรงกัน ต่างคนเอ่ยอวยพรมอบคำชมเชยว่า ‘สมคู่สมคีมกัน’ บ้างว่า ‘กิ่งทองใบหยก’ คุณหลวงนายช่างทหารเรือช่างเหมาะสมกับลูกสาวพ่อค้าโรงฝิ่น ‘เจ๊กอี้’ ถึงหล่อนจะเป็นแค่ลูกสาวเศรษฐีแต่ความงามนั้นหาหญิงใดเทียบเทียม แลก็เป็นบุญของหล่อนที่จะได้เป็นเมียคนแรกของคุณหลวงจัน

เรือนร่างอรชรในเสื้อแขนยาวสีขาวต้นแขนพองลายลูกไม้ โจงกระเบนสีแดงตามแบบนิยม เข้ากับผิวละเอียดลออของหล่อน โดยทั่วไปแล้วผู้คนในพระนครมักดำคล้ำบ้างตามสภาพอากาศเมืองร้อน ไม่เหมือนฝรั่งที่เข้ามาทำการค้าในช่วงแรก ๆ นั้นต่างมีผิวขาวเผือก ขนาดว่าคุณหลวงจันเอง ด้วยความที่ต้องตรากตรำทำงานกลางแจ้งอยู่กรมช่างโยธาทหารเรือก็ยังมีฝ้ากระถึงไม่มากนัก แต่แก้วตาอยู่เพียงในโรงฝิ่นคุมงานเจ๊ก ไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหน ไม่แปลกที่หล่อนจะมีผิวขาวนวลเนียนทั่วทั้งตัว ทั้งบริเวณหลังมือ ต่ำกว่าชายโจงกระเบนไปนั้น ยามยืนหลังตรงอย่างงามสง่า ยกมือไหว้ประนมต้อนรับแขกด้วยกิริยาอ่อนช้อย สามารถทำให้ว่าที่สามีตาขวางได้

“ชอบกลจริงนะขอรับ จีนอี้ว่าลูกสาววัน ๆ อยู่แต่ในโรงฝิ่น เหตุใดจึงรู้จักคุณหญิงคุณนาย นายทหารชั้นผู้ใหญ่มากมาย...”

คุณพระสวมสูทฝรั่งเป็นทางการ ยืนเอามือไพล่หลังข้างคุณหลวงในชุดเจ้าบ่าวหล่อเหลาด้วยโจงกระเบนผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม ช่วงบนเป็นเสื้อแพรไหมสีขาวราคาแพงสมฐานะ หลังเลี่ยงมาคุยธุระกันสักเล็กน้อยตรงมุมบ้านหลังใหญ่ สถานที่จัดงานก็เป็นบ้านคุณหลวงที่อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบัน ทั้งคุณพระคุณหลวงปรึกษาหารือ เฝ้าฟังผู้คนพูดคุยกันในงาน พบความแปลกประหลาดของคุณหญิงคุณนาย ยังมีนายทหารระดับนายพลก้มหน้าลงกระซิบบางอย่างกับเจ้าสาวให้ได้ยินกันแค่สองคนก่อนเดินเลี่ยงไป

ไม่มีใครรู้ว่าสองหูของกุมภิลในร่างมนุษย์ได้ยินแว่ว ๆ ว่า

ยาสั่ง...

ยาเสน่ห์...

ชะรอยว่าหล่อนจะเป็นพวกฝักใฝ่คุณไสยอาคมอย่างที่เขาลือกัน...

“ท่านแน่ใจหน้ะ?”

“แน่ซีวะ แกจะทำไมกันนักหนา อ้ายคล้าว”

คุณพระกลอกตาวนไปมารอบหนึ่ง ก่อนจะว่า “เอ้อ... รึคุณหลวงจะโดนเสน่ห์ยาแฝด น้ำมันพรายผีจากสาวผู้ใดดีดใส่น้ะ?”

“หล่อนจำเป็นต้องใช้ด้วยฤา งามปานฉะนี้ หรือแกมีความเห็นไม่เท่ากัน ว่าหล่อนไม่งาม”

“กระผมไม่เห็นเป็นเช่นนั้นเลย คุณหลวงขอรับ แม่แก้วตาหล่อนงามนัก... งามราวกับว่าไม่ใช่ ‘มนุษ’ เดินดิน” คุณพระประสิทธิ์ไม่พูดเปล่า ผายมือไปทางเจ้าสาวคนสวย ก็ว่า “ดูซี... ไม่ว่าหล่อนยิ้มกระไร หล่อนจะทำหน้าถมึงทึงหรือนิ่งเฉยเป็นตุ๊กตา หนุ่ม ๆ ก็แลมองกันเป็นตาเดียว ขอรับประทานโทษเถิด ที่ตรงนู้น... ดูเศร้าโศกอาลัยเพราะมีผู้มาสู่ขอแม่คนงาม อยู่บนพื้นดินมาสักหกสิบปีแล้ว เพิ่งจะได้แลเห็นน้ำตาลูกผู้ชายนี่แหละ...”

แม่แก้ว... โปรดอย่าลืมมิตรสหายอย่างตัวพี่เทียวหล่อน แม่แก้วจ๋า...

“ดูอย่างไร ๆ ก็ไม่ใช่เพื่อนพ้อง ในเมืองบางกอกมีผู้มาตอมหล่อนเท่านี้ กระผมขอให้ท่านโชคดี...”

“โชคดีกระไร มันเป็นหน้าที่ของแก คุณพระประสิทธิ์”

คุณพระเบิกตากว้างตะลึงงัน “นะ... หน้าที่... กระผม?”

“คุณพระนั่นแล เป็นเลขานุการของฉัน รับเงินเดือนจากฉัน ก็ต้องดูแลความสะดวกสบายให้เมียฉัน ยังจะต้องเป็นธุรจัดการเรื่องเสี้ยนหนามรังควานจิตใจให้ฉันด้วย”

ก็เพราะอย่างนี้! คุณพระถึงไม่อยากจะให้คุณหลวงตบแต่งกับแม่แก้วตา ต่อให้หล่อนจะงามสักเพียงไหน

“เดือดร้อนแล้วอ้ายคล้าวเอ๋ย... คุณพระก็เพิ่งจะได้เป็นแท้ ๆ”

ในรูปลักษณ์บุรุษอายุสักยี่สิบหกปี ผิดจากอายุขัยที่ยืนนานกว่ามนุษย์เช่นเดียวกันกับคุณหลวงจัน คุณพระบ่นอยู่ข้างกายคุณหลวง ยกมือปาดหยาดเหงื่อ ไม่ต่างจากว่าน้ำตาลูกผู้ชายคงรินไหลอยู่ภายใน แต่คุณหลวงรูปงามกำลังลอบยิ้มกรุ้มกริ่มดูลาดเลาของหญิงสาวว่าหล่อนจะทำกระไรอีก ฝั่งนายพลพวกหลงใหลในอำนาจ คุณหญิงคุณนายเศรษฐีมาร่วมแสดงความยินดีจะให้เกียรติงานมงคลนี้หรือไม่ หรือจะถือโอกาสนี้มาเอาของที่สั่งไว้!

ในชุดไทยหล่อเหลาในมือมีไม้ตะพดฝังเพชรเม็ดงาม คุณหลวงจันเดินกลับไปยืนเคียงข้างเจ้าสาว โดยไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรคปัญหา เมื่อเบื้องหน้าสายตาปรากฏสาวงาม ที่เขากำลังจะได้เป็นเจ้าของ

“แม่แก้ว... อีกสักประเดี๋ยว เสร็จงานนี้แล้ว ฉันจะพาไปลาพ่อลาแม่”

“ค่ะ คุณหลวง”

“อีกเรื่องหนึ่ง...” เงียบไปครู่ แล้วจึงเอ่ยน้ำเสียงเข้มเครียดขึ้นกว่าเดิม “เคยทำการใดให้ละทิ้งเสียให้หมด อยู่บ้านฉันมีงานให้หล่อนทำมากมาย ฉันจะให้เงินเดือนหล่อนไม่น้อยไปกว่าคุณพระ แต่อย่าให้ฉันรู้ว่าหล่อนทำเรื่องไม่ดีไม่งาม และอย่าได้ปดฉัน เพราะฉันจะรู้ทุกอย่าง”

“ค่ะ คุณหลวง ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” สองมือประนมแนบอกไหว้อย่างงดงาม หญิงสาวใบหน้าสวยหวานใต้รอยยิ้มไร้พิษภัยทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าหล่อนจะเชื่อฟังเขาหรือไม่ คุณหลวงจันคงทำได้เพียงเข้าข้างตัวเองว่าหล่อนจะเป็นเมียที่ดีในเร็ววัน

-----------

[1] ตะพัด = ว. ตะบึง , ร่ำไป , ไม่หยุดหย่อน (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓)

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   27

    ก็เป็นธรรมดาของเด็กวัยซน คุณพ่อหย่อนก้นนั่งลง ลูบศีรษะน้อยของคนลูกอย่างเอ็นดู“ไปได้ครับ แต่อย่าซนมากนะ ไปแล้วรีบกลับมาถ้ำก่อนเราจะขึ้นไปด้วยกันอีกพรุ่งนี้เช้าครับ“หนูไม่ซนครับพ่อ”“เด็กผู้ชายเขาเรียกตัวเองว่าผมครับลูก ภาษาไทยนะ ไม่เหมือนภาษาอื่น ไอก็ไอคำเดียว ไว้พ่อจะสอนลูกอีกเยอะ ๆ อีกหลายภาษาเลยนะ” คุณพ่อผ่านอะไรมามากกว่า ลูกน้อยพยักหน้าเชื่อฟังคุณพ่อ ปากยิ้มไม่หุบ“ครับพ่อ ผมไม่ซนครับพ่อ”“เอ้า... พ่อมีธุระต้องคุยกับแม่เขาหน่อย เรื่องวันหยุดยาวของบ้านเรา เรื่องเข้าโรงเรียนของหนูด้วย”ข้อหลังแค่คิดก็สะพรึง! กัญญาวีร์ทำหน้าตกใจพอลูกชายเข้าไปกอดอ้อนพ่ออย่างดีใจ เพราะจะได้มีเพื่อนในอนาคตคุณแม่คงไม่เห็นด้วยนัก เธออยู่แต่ในต่างจังหวัดมาหลายปี ลงแต่ถ้ำ เลี้ยงแต่ลูก เธอและครอบครัวค่อนข้างเก็บตัว ไม่ไปสนิทสนมกับใครมากนัก เหมือนที่นายจันและบ่าวทำมาก่อนนายคล้าวมีอายุยืนยาวมากกว่าเดิม แก่ช้าลงแต่ก็ไม่รู้ว่าจะลาจากโลกไปในอนาคตหรือไม่“เราจะเข้ากรุงเทพกันหรือคะ? จะให้ลูกไปโรงเรียนจริงหรือคะ...”“ไปครับ ผมยังไปเรียนได้เลย ผมจบโทมาไม่รู้กี่ใบทำไมลูกจะไปเรียนไม่ได้ล่ะ” นายจันผุดยิ้มกว้างหวานให้

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   26

    “ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น” ตัดบทเสียดื้อ ๆ คุณหลวงจันแสนเหนื่อยหน่ายกับชีวิต ไม่อยากสู้รบตบมือกับใครไม่อยากตามหาเมียหรืออะไรทั้งนั้น จึงรีบเก็บของ สนทนากับบ่าวไปเกี่ยวกับเรื่องราวหลังจากที่เขาออกมาจากเมืองพิจิตรแล้วเร่ร่อนไปด้วยกันกับจระเข้รุ่นปู่ รุ่นบิดาของนายคล้าวสองนายบ่าวช่วยกันคนละไม้ละมือก็จัดบ้านโบราณก็สะอาดเอี่ยมเรียบร้อย แม้ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง ขณะนายคล้าวฉุกใจนึกขึ้นได้ว่าตนเพิ่งอายุสิบกว่าขวบแต่พอก้มหน้าลงมองมือทั้งสองแล้วดูไม่น่าจะใช่ เขาไม่ใช่เด็กสิบขวบหรือเป็นจระเข้บ่าวที่เพิ่งเกิดมาเช่นตอนนั้น เหมือนกับว่าจะลืมเลือนอะไรไปอย่าว่าแต่จะให้นึกเลย... มาอยู่บ้านหลังนี้ได้ยังไงก็ยังไม่รู้คุณหลวงจันได้คำตอบนั้นอีกไม่นาน เมื่อเดินขึ้นไปบนชั้นสองหน้าตู้กระจกสีขาว ข้างกันกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนกว้างขวาง มีกระดาษเขียนด้วยลายมืออ่านได้อย่างชัดเจนว่าเป็นชื่อ... แก้วตา...“ดิฉันแก้วตา... ขอยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดและบ้านหลังนี้ให้คุณหลวงจัน หลังจากที่ดิฉันเสียชีวิตแล้วขอให้ท่านอาศัยอยู่กับคุณพระประสิทธิ์ พะยาน... นายมิ่ง ท่านขุนประไพ...”“ใครหรือครับท่าน...”“มาถามฉันจะไ

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   25

    เฮือกสุดท้ายของหญิงสาวที่จับขาของเขา นายมิ่งปิดตาลงกัดกรามกรอด ๆ ปากไม่เลิกร่ายคาถา นั่งคุกเข่าลงข้าง ๆ กลุ่มควันสีดำที่ลอยวนอยู่เหนือหม้อติดยันต์ เหลือบตามองเรือนร่างงามใต้ลมหายใจรวยริน พลันหันไปบอกกับผู้ใหญ่อย่างแน่วแน่“อย่างไรก็ฆ่าไม่ตายพ่อปู่ คงจะทำได้เพียงสะกด หลานว่าเราไม่ควรสร้างกรรมต่อพวกเขาให้แก้แค้นกันไปไม่จบสิ้นเลย ขอให้จบกันที่ภพชาตินี้เถิด” “ข้าแค่มาช่วยเหลือ ให้แล้วแต่เอ็งตัดสินใจละกัน ข้าก็หน่ายจะสู้กับอ้ายตาละวันเต็มทน”พ่อเฒ่าผู้เก่งฉกาจในวิชาอาคมจึงยอมตาม ช่วยออกแรงปิดหม้อดินเผาติดยันต์ที่โชกชุ่มด้วยเลือด ก่อนที่ร่างหนากำยำสีนิลสนิทจะหายไปกับตาราวถูกสูบลงหม้อนั้นไปคุณหลวงจันถึงโกรธแค้นสักเท่าไร เจ็บปวดชิงชังกับการถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจที่สุด ทั้งเมียรักและบ่าวที่เลี้ยงดูมาด้วยหยาดเหงื่อ ตรากตรำทำงานกับมนุษย์ ยอมเป็นเบี้ยล่างเพื่อแลกกับเงินและอำนาจบนโลกนี้ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับเขาเลย แต่เขากลับยอมจำนนมาต่อหลายปีเขาเพิ่งจะสูญเสียทุกสิ่งเพราะทำร้ายมนุษย์อย่างโหดเหี้ยม ชีวิตเหล่านั้นที่ถูกพรากชิงไปเป็นเวรกรรมที่เขาต้องชดใช้ วิญญาณทั้งหลายยังปรากฏเป็นเงาเลือนรา

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   24

    เจ้าของบ้านคงไม่ได้เอะใจจนวางแก้วลงแล้วกะพริบตาถี่ ๆ เสียงเนือย ๆ ว่า “แปลกจริง... ชาหอมของเตี่ยหล่อน ดื่มแล้วฉันรู้สึกง่วงพิกล”“ง่วงก็นอนเสียนะคะคุณหลวงของแก้ว...”ประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน เช่นเดียวกับรอยยิ้มกว้างหวานของหญิงสาว ชายร่างสูงใหญ่ในเชิ้ตฝรั่งล้มฟุบลงบนโต๊ะข้างจานข้าว โดยมีอีกสองคนถอนหายใจอย่างโล่งอกคุณพระประสิทธิ์ยอมทำตามแผนการของหญิงสาวเพราะไม่อยากให้เจ้านายก่อกรรมไปมากกว่านี้ ตัวเขานั้นเห็นด้วยทุกอย่างถึงเสียใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ หล่อนใส่ยานอนหลับลงทั้งในอาหารและในแก้วชา เผื่ออย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ทานเข้าไปก็จะต้องหยิบสักอย่าง“ดูแลคุณหลวงจันด้วยนะคะ คุณคล้าว คุณพระประสิทธิ์ ไม่ว่าคนไหนชื่อใด ท่านเป็นทั้งบ่าว เป็นทั้งมิตรสหายที่คุณหลวงไว้วางใจเป็นที่สุด ฝากผัวฉันด้วย”“รีบไปเถอะขอรับ ยานอนหลับคงจะทำให้ท่านหลับได้ไม่นาน จิตท่านเวลานี้เพิ่งหลุดไปยืนอยู่หน้าบ้าน เหลียวซ้ายแลขวามองหาเมียอยู่นั่น”ต่างคนลุกขึ้นช่วยกันกับคุณพระแบกชายร่างกำยำไป ขณะที่คุณหลวงจันตัวใหญ่ที่สุดในบ้านแล้วจึงค่อนข้างทุลักทุเล กว่าจะมาถึงห้องนอน มีหม้อดินเผาของอ้ายมิ่งวางอยู่บนเต

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   23

    “ใช่ ฉันต้องการจะรู้วิธีเดียวกับที่หมอจระเข้เคยปราบวิญญาณร้ายตนนี้ พ่อเฒ่าแกต้องเล่าให้ฟังแน่”“เอ๊ะ... ฉันก็จำไม่ได้เหมือนกัน” พูดพลางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แม่อ่วมบ่นปาว ๆ ว่าเขาน่ะหวงวิชาแต่แก้วตาล้วงหยิบถุงกำมะหยี่สีแดงออกมา“เอ้า... ฉันเทหมดหน้าตักให้แกหลายบาททีเดียว รับรองว่าแกสบายไปทั้งชาติ ฉันเพิ่งไปถอนธนาคารมา พรุ่งนี้ฉันก็จะไปแล้ว... นี่แน่ะอ้ายหมอมิ่ง แกบอกฉันหน่อยเถอะนะ นะ...”หลังส่งเงินในถุงใส่เงินให้ทั้งใบ นายมิ่งทำตาโต มือคว้าถุงสีแดงมาเปิดออกเห็นเงินเป็นฟ่อนก็ก้มหน้านับ ก่อนจะร่ายอาคมตั้งจิตอธิษฐานไม่ให้วิญญาณตนไหนเข้ามาในอาณาเขตของเขาได้ระหว่างคุยธุระสำคัญ ซึ่งแก้วตาตัดสินใจเล่าทั้งหมดให้ฟังเป็นหนทางเดียวแล้วหล่อนจึงยอมบอกนายมิ่งไปทั้งหมด ทว่าดูท่าทางไม่ใช่เรื่องง่าย คิ้วเข้มหนาขมวดมุ่นมองเงินในมืออย่างไม่แน่ใจว่าควรคืนเจ้าตัวดีหรือไม่ จนเงยขึ้นสบมองใบหน้าสวยหวาน“พญาชาละวันเวลานี้ หากเป็นจริงอย่างที่แกว่ามีอายุห้าร้อยกว่าปี ฉันมีความเห็นว่าฆ่าไม่ตาย แหละหมอปราบจระเข้ต่อให้เก่งฉกาจสักเท่าไร คงไม่สู้ไปตายฟรี ปราบไม่ได้ดอกกระมัง...”“มันต้องมีสักวิธีซี มิฉะนั้นพ่อเฒ่าแก

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   22

    “เช่นนั้นหล่อนควรลงไปอยู่ถ้ำบาดาลกับฉัน รอจนกว่าบ้านเมืองจะสงบ ผู้คนรุ่นนี้ตายไปเสีย”“ฉันคงคิดถึงเตี่ย คิดถึงเพื่อน ๆ ฉันมาก ฉันไม่อยากไปไหนจากบ้านนี้เลยค่ะ”“มีทางเลือกเสียเมื่อไร ยังไงหล่อนต้องตกลงว่าจะไปกับฉัน” ปลายเสียงเด็ดขาดทำให้คนในอ้อมแขนเงยขึ้นมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ“ท่านพูดเช่นนี้... หมายว่าจะบังคับฉันหรือคะ?”“ก็ไม่เชิงว่าบังคับ แต่ฉันเบื่อหน่ายโลกมนุษย์เต็มทน ฉันจะลงไปเลี้ยงดูลูกในถ้ำบาดาล พาหล่อนกับลูกไปเที่ยวในเมืองที่มีแต่น้ำ ธรรมชาติสวยงาม ฉันเกรงว่าบนบกนี้ไม่สะดวกสบายด้วย อาจจะเกิดสงคราม ผู้คนล้มตาย ลำบากยากแค้นเอามาก ๆ เกินหล่อนจะจินตนาการ อีกไม่นานดอกแม่แก้ว”แก้วตานึกตามคุณหลวงจันพูดอย่างไรก็นึกไม่ออก หล่อนไม่เข้าใจอยู่ดี ยังดื้อดึงพอ ๆ กับเขา“และถ้าฉันไม่ไปเล่าคะ คุณหลวงจะทำอย่างไรกับดิฉัน”“วันพรุ่งนี้สักย่ำค่ำ ท่านเยื้องจะเข้ามาพร้อมบุตรสาว มาคุยกับฉัน ฉันให้เวลาหล่อนคิดถึงตอนนั้น คำตอบของฉันมีเพียงคำตอบเดียว”“บุตรสาวท่านเยื้องเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้?”“ฉันจะรับเมียเพิ่ม...”“คุณหลวง... สาบานว่าจะมีเมียเดียว!” ตะคอกดัง แก้วตาผลักตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรง ลุกพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status