แชร์

2

ผู้เขียน: พันพราย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 14:20:56

บิดาถอนหายใจ “คนเดียวที่ไหนกระไร ทั้งเจ๊กทั้งบ่าวเต็มโรงเต็มบ้าน อาม้าก็อยู่นี่ ไปจ่ายตลาดประเดี๋ยวเดียวก็มา...”

“เจ๊กขี้ขะโมยทั้งนั้น” ไม่พูดเปล่า หล่อนชายตามองลูกสมุนชาวจีนเดินย่องเข้ามาในห้องรับประทานอาหารทางด้านหลัง จิกเสียงว่า “คอยดูเถอะ เวลาใดที่ฉันไม่อยู่ ใครมันกล้าหยิบอัฐเตี่ยไปสักเฟื้องหนึ่ง ฉันจะเสกหนังควายเข้าท้องมัน”

“ชะ ๆ! ดูพูดเข้านังนี่ มิน่า ผู้คนเขาถึงได้ลือกันทั้งพระโขนง พลตระเวน คุณพระกรมยาฝิ่น ท่านยุทธนาก็มาเช้าเย็น เดินเข้าเดินออกเป็นว่าเล่น”

“ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด ที่พวกท่านมา ก็มาแลดูลูกสาวคนงามให้เห็นกับตาไม่ใช่หรือ?”

สาวคนงามท่าทางมั่นใจว่าพวกท่านทั้งหลายไม่ได้มาเพราะเคลือบแคลงใจว่าหล่อนเป็นแม่มดหมอผี เล่นคุณไสยอาคมใด หรือแม้แต่โรงฝิ่นแห่งนี้จะคิดหลีกเลี่ยงภาษีอากร ประพฤติผิดกฎหมายข้อไหน แค่แวะเวียนมากระชับมิตรไมตรีในแบบชายหญิงและเพื่อนฝูงกับบิดา

ได้ก็ดี... แต่ถ้าไม่ได้ ขอมาเหล่มองเป็นอาหารตาก็ยังดี

จีนอี้เห็นเป็นเช่นนี้มานานนับปี มีหนุ่มมาตอมลูกสาวเป็นพัก ๆ ให้พอเป็นขี้ปากชาวบ้าน แลอีกสักพักก็ยอมแพ้ไป จึงอยากให้บุตรสาวมีสามีดี ๆ สักคนในวัยยี่สิบปี เหมาะสมแก่การมีคู่ครอง

“รีบมีเหย้ามีเรือนไปเสีย อยู่นานไป ประเดี๋ยวจะเป็นอย่างบ้านนั้น มีลูกเสียเร็วอายุแค่ ๑๓ แลได้ผัวอะไรมาก็ไม่รู้ ขี้เมาขี้ยา ไม่มีเสียยังจะดีกว่า บ้านโน้นคุณนายหลี่ เจอเศรษฐีปลอมปอกลอกเสียหมดตัว ผีพนันเข้าสิงวัน ๆ เฝ้าอยู่แต่โรงม้า”

“ขอโอกาสสักหน่อยเถอะ ให้ลูกได้ลองเลือกสักคนก่อนไม่ได้หรือเตี่ย”

“ลองรึ! ไม่ล่าย ๆ ของแบบนี้มันลองได้เสียที่ไหน มีผัวผิดคิดจนตัวตายเชียวหน้ะ” คนเป็นบิดาเริ่มขึ้นเสียงคราวนี้ บุตรสาวจึงก้มหน้าลงมองข้าวเย็นชืด หล่อนยังอยากอยู่บ้านเที่ยวเล่นกับบิดามารดา ไม่อยากออกเรือนไปไหน

“ถือเสียว่าอยู่ในโอวาทเตี่ยเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน เตี่ยขอสักครั้งหนึ่ง ไปอยู่กับคุณหลวงเสียนะ ดีเสียอีก คุณหลวงเธอเป็นผู้ดี ลูกจะได้มีการศึกษา ชอบอ่านหนังสือไม่ใช่หรือ?”

“ลูกเขียนหนังสือเป็น เหตุใดต้องให้เขามาสอน เตี่ยว่าเขาดีนักดีหนา ลูกยังแลไม่เห็นว่าคุณหลวงผู้นี้มีดีที่ตรงไหน ดีแต่เอาอำนาจทางราชการมาข่มเพื่อให้ได้ผู้หญิง...”

“ที่หมายปอง... ก็ใช่อยู่” เสียงทุ้มแทรกขึ้นขัด เจ้าของร่างสูงในชุดหล่อเหลาขับใบหน้าคมคายให้ดูสง่าสมยศบนบ่า เสื้อขาวราชการกระดุมทอง ๑ แถว ๕ เม็ด พร้อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้กลมไม้สักจีน โดยมีเจ้าของบ้านให้การต้อนรับเป็นอย่างดี สั่งให้บ่าวไปยกน้ำชามาให้

“เตรียมการเรียบร้อยแล้วหรือท่าน ลูกสาว...” ปลายเสียงนุ่มนวลลง เพียงหลุบตามองใบหน้างามหมดจดแม้บึ้งตึงโกรธขึ้งบิดา ริมฝีปากบางกระจับเคลือบสีแดงดังเจ้าสาวที่หลุดออกมาจากภาพวาดจีนโบราณ

ปากนิดจมูกหน่อยทว่าโด่งเป็นสัน ดวงตาเรียวรีอย่างสาวครึ่งไทย-จีน หากแต่กลมโตสว่างใสราวกับว่ามีเพชรเม็ดงามสะท้อนแสงได้ในตัวของมันเอง หากบุรุษจะพึงพอใจแทบทุกผู้ที่ได้พบหล่อนคงไม่แปลก

แม่แก้วตาของเขาเป็นเพชรที่ซุกซ่อนอยู่ในโรงฝิ่น! ปล่อยนานไปท่าจะไม่ดี

“งามเหลือเกิน ยังกับนางฟ้านางสวรรค์ งามยังกับนางห้าม...” ในคำชื่นชมนั้นลามไปถึงแววตายามลอบมองใบหน้างดงามหมดจดที่เบือนหนีไปอีกทางหนึ่ง ผู้เป็นบิดาแลเห็นว่าลูกสาวถูกเพ่งพิศทุกส่วนบนใบหน้าเสียขนาดนั้น ยกมือป้องปากกระแอมไอ

“อะแฮ่ม... เพิ่งเลิกงานก็ตรงมาเลยหรือขอรับคุณหลวง”

“ขอรับจีนอี้ เห็นว่าเรื่องแต่งเมียจะสำคัญกว่าอาบน้ำ เสียแต่... มาโรงฝิ่นทั้งในเครื่องแบบ ดูไม่ค่อยจะดี เช่นนั้นก็คงต้องรีบตบแต่ง...”

“รับประทานโทษเถิดท่าน ตัวกระผมนี้หนักใจนัก อยากให้ลูกสาวมีเหย้ามีเรือน แต่ถ้าจะประสงค์อีกสักข้อได้หรือไม่?”

คุณหลวงหนุ่มหันไปทางคนถามอย่างใจเย็น

“ว่ามาเถิดท่าน”

“หากวันใดท่านรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจต่อลูกสาวกระผม จะมีเมียน้อยอื่น ๆ อย่างไร ขอให้นางสมัครใจยินดี หรือจะส่งตัวนางกลับมาบ้านหาพ่อหาแม่ก็ได้”

“ได้ กระผมให้สัญญา แต่คะเนว่าคงไม่มี มากเมียมากความ” พูดแล้วจึงหันกลับไปทางเดิมโดยไม่ละวางตาไปจากใบหน้างาม “เตี่ยหล่อนเคยเลี้ยงดูลูกสาวอย่างไร กระผมจะปฏิบัติต่อแม่แก้วให้เท่ากัน ไม่ให้ใครเขามาว่าได้ว่าเป็นผัวเลว ส่วนเรื่องเรียนหนังสือ กระผมเป็นนายช่างหัวสมัยใหม่ จะพาหล่อนไปเรียนหนังสือ ไปเที่ยวเตร็ดเตร่ถึงเมืองนอกเมืองนาเทียว”

คุณหลวงนั้นรู้ทันเพราะแอบฟังสองพ่อลูกสนทนากันเมื่อสักครู่ หญิงสาวทำตาโตตื่นเต้น จากที่นั่งอมพะนำทำนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้าน แต่พอถูกจ้องมองอีกครั้งก็พยายามเก็บอาการ

“ปีหน้านี้ก็จะต้องไปลอนดอน ปารีสอีกที่หนึ่ง แลหากว่ามีธุรของนายทหารท่านผู้ใหญ่ กระผมไปที่ใดจะพาเมียไปด้วยทุกแห่งหน ไม่ปล่อยให้เมียเหงาอยู่บ้านคนเดียวเป็นแน่ หล่อนประสงค์สิ่งใด เงินทองสิ่งของ เสื้อผ้าสวย ๆ งาม ๆ หากว่าพอมีปัญญา กระผมคงจะดิ้นรนหามาให้เมียทุกสิ่ง”

“ขอให้เป็นตามที่ท่านรับปากขอรับคุณหลวง กระผมมีลูกสาวคนเดียว ออกเหย้าออกเรือนไป ดีเสียกว่าอยู่โรงฝิ่นไปวัน ๆ”

แก้วตาทำได้เพียงรวบมือของตนไว้บนหน้าตัก กำชุดสวยแน่นจนยับ ไม่กล้าสบตาคมที่ทำเอาเสียวสันหลังวูบวาบ หล่อนไม่มีทางเลือกใด เมื่อความเป็นหญิงคือไร้สิทธิ์ไร้เสียง ต้องทำตามความต้องการของทางผู้ใหญ่

“อย่างไรเสียก็เป็นสตรี ตัวเล็กเท่ามด ตีไปก็เจ็บตัวเปล่า กระผมไม่ใช่คนมีวิสัยโหดร้ายทารุณ บ่าวบ้านกระผมยังไม่เคยตีจริงจังสักคน ร้ายแรงที่สุด... ก็เคาะด้วยไม้ตะพด กระผมไม่มีวันทำร้ายเมียเป็นแน่ ขอให้ท่านวางใจในข้อนี้”

อีกข้อสุดท้ายให้หายข้องใจ คุณหลวงกวักมือเรียกบ่าวประจำตัวให้เข้ามานั่งด้วยกัน

“เอ้านี่ คุณพระประสิทธิ์ นายเสมียนบาญชีของกระผมเอง มีกระไรช่วยเหลือกัน เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว อย่าได้เกรงใจ”

“เชิญ ๆ นั่งเลยขอรับคุณพระ ชาจีนนำเข้ามากับเรือสำเภา หอม ๆ เทียว”

จีนอี้หัวเราะอารมณ์ดี มีความสุขกับการผูกมิตรไมตรีครานี้ ยังเล่าถึงคุณนายศรีสมร สาวไทยแท้ อาม้าของบ้านที่ยังไม่กลับสักทีว่างามไม่แพ้ลูกสาว ก่อนวกกลับเข้ามาเรื่องเมื่อสักครู่นี้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   27

    ก็เป็นธรรมดาของเด็กวัยซน คุณพ่อหย่อนก้นนั่งลง ลูบศีรษะน้อยของคนลูกอย่างเอ็นดู“ไปได้ครับ แต่อย่าซนมากนะ ไปแล้วรีบกลับมาถ้ำก่อนเราจะขึ้นไปด้วยกันอีกพรุ่งนี้เช้าครับ“หนูไม่ซนครับพ่อ”“เด็กผู้ชายเขาเรียกตัวเองว่าผมครับลูก ภาษาไทยนะ ไม่เหมือนภาษาอื่น ไอก็ไอคำเดียว ไว้พ่อจะสอนลูกอีกเยอะ ๆ อีกหลายภาษาเลยนะ” คุณพ่อผ่านอะไรมามากกว่า ลูกน้อยพยักหน้าเชื่อฟังคุณพ่อ ปากยิ้มไม่หุบ“ครับพ่อ ผมไม่ซนครับพ่อ”“เอ้า... พ่อมีธุระต้องคุยกับแม่เขาหน่อย เรื่องวันหยุดยาวของบ้านเรา เรื่องเข้าโรงเรียนของหนูด้วย”ข้อหลังแค่คิดก็สะพรึง! กัญญาวีร์ทำหน้าตกใจพอลูกชายเข้าไปกอดอ้อนพ่ออย่างดีใจ เพราะจะได้มีเพื่อนในอนาคตคุณแม่คงไม่เห็นด้วยนัก เธออยู่แต่ในต่างจังหวัดมาหลายปี ลงแต่ถ้ำ เลี้ยงแต่ลูก เธอและครอบครัวค่อนข้างเก็บตัว ไม่ไปสนิทสนมกับใครมากนัก เหมือนที่นายจันและบ่าวทำมาก่อนนายคล้าวมีอายุยืนยาวมากกว่าเดิม แก่ช้าลงแต่ก็ไม่รู้ว่าจะลาจากโลกไปในอนาคตหรือไม่“เราจะเข้ากรุงเทพกันหรือคะ? จะให้ลูกไปโรงเรียนจริงหรือคะ...”“ไปครับ ผมยังไปเรียนได้เลย ผมจบโทมาไม่รู้กี่ใบทำไมลูกจะไปเรียนไม่ได้ล่ะ” นายจันผุดยิ้มกว้างหวานให้

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   26

    “ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น” ตัดบทเสียดื้อ ๆ คุณหลวงจันแสนเหนื่อยหน่ายกับชีวิต ไม่อยากสู้รบตบมือกับใครไม่อยากตามหาเมียหรืออะไรทั้งนั้น จึงรีบเก็บของ สนทนากับบ่าวไปเกี่ยวกับเรื่องราวหลังจากที่เขาออกมาจากเมืองพิจิตรแล้วเร่ร่อนไปด้วยกันกับจระเข้รุ่นปู่ รุ่นบิดาของนายคล้าวสองนายบ่าวช่วยกันคนละไม้ละมือก็จัดบ้านโบราณก็สะอาดเอี่ยมเรียบร้อย แม้ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง ขณะนายคล้าวฉุกใจนึกขึ้นได้ว่าตนเพิ่งอายุสิบกว่าขวบแต่พอก้มหน้าลงมองมือทั้งสองแล้วดูไม่น่าจะใช่ เขาไม่ใช่เด็กสิบขวบหรือเป็นจระเข้บ่าวที่เพิ่งเกิดมาเช่นตอนนั้น เหมือนกับว่าจะลืมเลือนอะไรไปอย่าว่าแต่จะให้นึกเลย... มาอยู่บ้านหลังนี้ได้ยังไงก็ยังไม่รู้คุณหลวงจันได้คำตอบนั้นอีกไม่นาน เมื่อเดินขึ้นไปบนชั้นสองหน้าตู้กระจกสีขาว ข้างกันกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนกว้างขวาง มีกระดาษเขียนด้วยลายมืออ่านได้อย่างชัดเจนว่าเป็นชื่อ... แก้วตา...“ดิฉันแก้วตา... ขอยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดและบ้านหลังนี้ให้คุณหลวงจัน หลังจากที่ดิฉันเสียชีวิตแล้วขอให้ท่านอาศัยอยู่กับคุณพระประสิทธิ์ พะยาน... นายมิ่ง ท่านขุนประไพ...”“ใครหรือครับท่าน...”“มาถามฉันจะไ

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   25

    เฮือกสุดท้ายของหญิงสาวที่จับขาของเขา นายมิ่งปิดตาลงกัดกรามกรอด ๆ ปากไม่เลิกร่ายคาถา นั่งคุกเข่าลงข้าง ๆ กลุ่มควันสีดำที่ลอยวนอยู่เหนือหม้อติดยันต์ เหลือบตามองเรือนร่างงามใต้ลมหายใจรวยริน พลันหันไปบอกกับผู้ใหญ่อย่างแน่วแน่“อย่างไรก็ฆ่าไม่ตายพ่อปู่ คงจะทำได้เพียงสะกด หลานว่าเราไม่ควรสร้างกรรมต่อพวกเขาให้แก้แค้นกันไปไม่จบสิ้นเลย ขอให้จบกันที่ภพชาตินี้เถิด” “ข้าแค่มาช่วยเหลือ ให้แล้วแต่เอ็งตัดสินใจละกัน ข้าก็หน่ายจะสู้กับอ้ายตาละวันเต็มทน”พ่อเฒ่าผู้เก่งฉกาจในวิชาอาคมจึงยอมตาม ช่วยออกแรงปิดหม้อดินเผาติดยันต์ที่โชกชุ่มด้วยเลือด ก่อนที่ร่างหนากำยำสีนิลสนิทจะหายไปกับตาราวถูกสูบลงหม้อนั้นไปคุณหลวงจันถึงโกรธแค้นสักเท่าไร เจ็บปวดชิงชังกับการถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจที่สุด ทั้งเมียรักและบ่าวที่เลี้ยงดูมาด้วยหยาดเหงื่อ ตรากตรำทำงานกับมนุษย์ ยอมเป็นเบี้ยล่างเพื่อแลกกับเงินและอำนาจบนโลกนี้ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับเขาเลย แต่เขากลับยอมจำนนมาต่อหลายปีเขาเพิ่งจะสูญเสียทุกสิ่งเพราะทำร้ายมนุษย์อย่างโหดเหี้ยม ชีวิตเหล่านั้นที่ถูกพรากชิงไปเป็นเวรกรรมที่เขาต้องชดใช้ วิญญาณทั้งหลายยังปรากฏเป็นเงาเลือนรา

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   24

    เจ้าของบ้านคงไม่ได้เอะใจจนวางแก้วลงแล้วกะพริบตาถี่ ๆ เสียงเนือย ๆ ว่า “แปลกจริง... ชาหอมของเตี่ยหล่อน ดื่มแล้วฉันรู้สึกง่วงพิกล”“ง่วงก็นอนเสียนะคะคุณหลวงของแก้ว...”ประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน เช่นเดียวกับรอยยิ้มกว้างหวานของหญิงสาว ชายร่างสูงใหญ่ในเชิ้ตฝรั่งล้มฟุบลงบนโต๊ะข้างจานข้าว โดยมีอีกสองคนถอนหายใจอย่างโล่งอกคุณพระประสิทธิ์ยอมทำตามแผนการของหญิงสาวเพราะไม่อยากให้เจ้านายก่อกรรมไปมากกว่านี้ ตัวเขานั้นเห็นด้วยทุกอย่างถึงเสียใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ หล่อนใส่ยานอนหลับลงทั้งในอาหารและในแก้วชา เผื่ออย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ทานเข้าไปก็จะต้องหยิบสักอย่าง“ดูแลคุณหลวงจันด้วยนะคะ คุณคล้าว คุณพระประสิทธิ์ ไม่ว่าคนไหนชื่อใด ท่านเป็นทั้งบ่าว เป็นทั้งมิตรสหายที่คุณหลวงไว้วางใจเป็นที่สุด ฝากผัวฉันด้วย”“รีบไปเถอะขอรับ ยานอนหลับคงจะทำให้ท่านหลับได้ไม่นาน จิตท่านเวลานี้เพิ่งหลุดไปยืนอยู่หน้าบ้าน เหลียวซ้ายแลขวามองหาเมียอยู่นั่น”ต่างคนลุกขึ้นช่วยกันกับคุณพระแบกชายร่างกำยำไป ขณะที่คุณหลวงจันตัวใหญ่ที่สุดในบ้านแล้วจึงค่อนข้างทุลักทุเล กว่าจะมาถึงห้องนอน มีหม้อดินเผาของอ้ายมิ่งวางอยู่บนเต

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   23

    “ใช่ ฉันต้องการจะรู้วิธีเดียวกับที่หมอจระเข้เคยปราบวิญญาณร้ายตนนี้ พ่อเฒ่าแกต้องเล่าให้ฟังแน่”“เอ๊ะ... ฉันก็จำไม่ได้เหมือนกัน” พูดพลางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แม่อ่วมบ่นปาว ๆ ว่าเขาน่ะหวงวิชาแต่แก้วตาล้วงหยิบถุงกำมะหยี่สีแดงออกมา“เอ้า... ฉันเทหมดหน้าตักให้แกหลายบาททีเดียว รับรองว่าแกสบายไปทั้งชาติ ฉันเพิ่งไปถอนธนาคารมา พรุ่งนี้ฉันก็จะไปแล้ว... นี่แน่ะอ้ายหมอมิ่ง แกบอกฉันหน่อยเถอะนะ นะ...”หลังส่งเงินในถุงใส่เงินให้ทั้งใบ นายมิ่งทำตาโต มือคว้าถุงสีแดงมาเปิดออกเห็นเงินเป็นฟ่อนก็ก้มหน้านับ ก่อนจะร่ายอาคมตั้งจิตอธิษฐานไม่ให้วิญญาณตนไหนเข้ามาในอาณาเขตของเขาได้ระหว่างคุยธุระสำคัญ ซึ่งแก้วตาตัดสินใจเล่าทั้งหมดให้ฟังเป็นหนทางเดียวแล้วหล่อนจึงยอมบอกนายมิ่งไปทั้งหมด ทว่าดูท่าทางไม่ใช่เรื่องง่าย คิ้วเข้มหนาขมวดมุ่นมองเงินในมืออย่างไม่แน่ใจว่าควรคืนเจ้าตัวดีหรือไม่ จนเงยขึ้นสบมองใบหน้าสวยหวาน“พญาชาละวันเวลานี้ หากเป็นจริงอย่างที่แกว่ามีอายุห้าร้อยกว่าปี ฉันมีความเห็นว่าฆ่าไม่ตาย แหละหมอปราบจระเข้ต่อให้เก่งฉกาจสักเท่าไร คงไม่สู้ไปตายฟรี ปราบไม่ได้ดอกกระมัง...”“มันต้องมีสักวิธีซี มิฉะนั้นพ่อเฒ่าแก

  • มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง [ภาคพิเศษ]   22

    “เช่นนั้นหล่อนควรลงไปอยู่ถ้ำบาดาลกับฉัน รอจนกว่าบ้านเมืองจะสงบ ผู้คนรุ่นนี้ตายไปเสีย”“ฉันคงคิดถึงเตี่ย คิดถึงเพื่อน ๆ ฉันมาก ฉันไม่อยากไปไหนจากบ้านนี้เลยค่ะ”“มีทางเลือกเสียเมื่อไร ยังไงหล่อนต้องตกลงว่าจะไปกับฉัน” ปลายเสียงเด็ดขาดทำให้คนในอ้อมแขนเงยขึ้นมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ“ท่านพูดเช่นนี้... หมายว่าจะบังคับฉันหรือคะ?”“ก็ไม่เชิงว่าบังคับ แต่ฉันเบื่อหน่ายโลกมนุษย์เต็มทน ฉันจะลงไปเลี้ยงดูลูกในถ้ำบาดาล พาหล่อนกับลูกไปเที่ยวในเมืองที่มีแต่น้ำ ธรรมชาติสวยงาม ฉันเกรงว่าบนบกนี้ไม่สะดวกสบายด้วย อาจจะเกิดสงคราม ผู้คนล้มตาย ลำบากยากแค้นเอามาก ๆ เกินหล่อนจะจินตนาการ อีกไม่นานดอกแม่แก้ว”แก้วตานึกตามคุณหลวงจันพูดอย่างไรก็นึกไม่ออก หล่อนไม่เข้าใจอยู่ดี ยังดื้อดึงพอ ๆ กับเขา“และถ้าฉันไม่ไปเล่าคะ คุณหลวงจะทำอย่างไรกับดิฉัน”“วันพรุ่งนี้สักย่ำค่ำ ท่านเยื้องจะเข้ามาพร้อมบุตรสาว มาคุยกับฉัน ฉันให้เวลาหล่อนคิดถึงตอนนั้น คำตอบของฉันมีเพียงคำตอบเดียว”“บุตรสาวท่านเยื้องเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้?”“ฉันจะรับเมียเพิ่ม...”“คุณหลวง... สาบานว่าจะมีเมียเดียว!” ตะคอกดัง แก้วตาผลักตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรง ลุกพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status