เฟนด์มีความหวังขึ้นมาแวบหนึ่งเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าของร้านขายยาบอกกับพวกเขา ทั้งหมดจึงนั่งแท็กซี่ไปที่คฤหาสน์ตระกูลซิมเมอร์ทันทีแต่เฟนด์กับคนอื่น ๆ กลับถูกหยุดไว้ตอนที่พวกเขามาถึงทางเข้า“พวกคุณคือ...?” บอดี้การ์ดคนหนึ่งถามออกมา“อ๋อ ฉันคือคุณหนูของตระกูลแลงคาสเตอร์ เชอร์ลี่ย์ แลงคาสเตอร์ ฉันอยากขอพบนายท่านของตระกูลซิมเมอร์” เชอร์ลี่ย์ทักทายอีกฝ่ายอย่างสุภาพเธอเตือนเฟนด์ให้ทำตัวดี ๆ ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ตระกูลซิมเมอร์เป็นตระกูลชนชั้นหนึ่งในเมืองวิญญาณ แม้แต่ตระกูลนอร์ตันก็ยังไม่กล้าทำให้พวกเขาโกรธเคือง ไม่ต้องพูดถึงตระกูลแลงคาสเตอร์เลยอย่างไรก็ตาม เธอคิดว่ามันคงจะไม่มีปัญหา ถ้าเธอขอพบนายท่านของตระกูลพวกเขาด้วยเกียรติของเธอ“โอ้ คุณหนูเชอร์ลี่ย์!” บอดี้การ์ดชำเลืองมองเชอร์ลี่ย์พลางยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นไงบ้างคุณหนูเชอร์ลี่ย์ คุณไม่ได้กลับมาพรุ่งนี้หรอกเหรอ? ผมจะแจ้งนายท่านให้คืนนี้แล้วพรุ่งนี้คุณค่อยมาใหม่นะ ผมต้องขอโทษด้วย แต่วันนี้คงไม่ได้พบนายท่านหรอก”“วันนี้เราพบเขาไม่ได้เหรอ? ทำไมพบไม่ได้ล่ะ?” เชอร์ลี่ย์สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้ว่าเฟนด์กับคนอื่น ๆ ต้องการบัวหิมะมาก ถ้าหา
ทั้งวิลโลว์และเชอร์ลี่ย์ต่างก็เป็นห่วงเฟนด์มากเพราะยังไงซะ บอดี้การ์ดพวกนี้ก็เอาไปเทียบกับบอดี้การ์ดของตระกูลนอร์ตันไม่ได้ พวกนี้เป็นบอดี้การ์ดของตระกูลซิมเมอร์และมีผู้ช่วยผู้บัญชาการรวมอยู่ด้วย“อยากตายนักรึไง?” พวกบอดี้การ์ดยังไม่หยุดเมื่อเห็นเฟนด์กับคนอื่น ๆ บุกเข้ามา พวกเขาจึงกำหมัดพุ่งเข้าใส่คนทั้งสามปัง! เพียะ! ผัวะ!พวกบอดี้การ์ดล้มลงกับพื้น พ่ายแพ้พร้อมใบหน้าซีด“โอ้พระเจ้า พวกเขาเริ่มสู้กันจริง ๆ แล้ว!” สีหน้าของเชอร์ลี่ย์กับวิลโลว์เปลี่ยนไปหวาดกลัวเมื่อพวกเธอเห็นทั้งสามคนชนะมันคงจะดีกว่าถ้าพวกเขาแพ้ แต่เพราะพวกเขาเอาชนะบอดี้การ์ดของตระกูลซิมเมอร์ได้ จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเฟนด์กับคนของเขาได้ล้ำเส้นไปแล้วแต่ถึงอย่างนั้นเฟนด์กับคนของเขาก็ไม่ได้หยุด พวกเขาก้าวออกมาข้างหน้าแล้วล้มพวกบอดี้การ์ดที่ขวางทางพวกเขาไว้วิลโลว์กับเชอร์ลี่ย์วิตกกังวลมากพลางพูดขึ้นมาว่า “พี่สาว เราควรทำยังไงต่อดี? เราควรตามพวกเขาไปไหม?”“ไปกันเถอะ!” เชอร์ลี่ย์กัดฟันและเดินไปข้างหน้า รีบเดินตามเฟนด์กับคนของเขาไปอย่างรวดเร็วเมื่อเหลือบมองไปที่บอดี้การ์ดที่นอนอยู่บนพื้น วิลโลว์ก็รีบเดินตามไปทันที
น่าเสียดายตอนที่ความวุ่นวายสงบลง บอดี้การ์ดของตระกูลซิมเมอร์ทั้งหมดก็ล้มลงบนพื้น พวกเขาร้องคร่ำครวญออกมา“อะไรกัน? พวกเขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” เชอร์ลี่ย์กับวิลโลว์ตกตะลึง บอกไม่ได้เลยว่าเฟนด์กับคนของเขาแข็งแกร่งแค่ไหน พวกปรมาจารย์ตระกูลซิมเมอร์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย...“นายท่าน แย่แล้ว! แย่แล้ว! ข้างนอกมีการสู้กัน!” บอดี้การ์ดวิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่นของตระกูลซิมเมอร์ “มีคนหลายคนพยายามบุกเข้ามาในบ้านเพื่อขอพบนายท่าน พวกเขาไม่ยอมฟังเราที่บอกว่าให้พวกเขากลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ พวกเขาก็เลยสู้กับคนของเรา!”บอดี้การ์ดก้มหัวลงด้วยความอับอายและพูดต่อว่า “พวกเขาแข็งแกร่งมากจนเราแทบจะสู้กับพวกเขาไม่ได้ แม้แต่ระดับหัวหน้าผู้บัญชาการก็ถูกพวกเขาอัดจนกระเด็น”“เป็นไปได้ยังไง! พวกมันเป็นใคร? พวกมันกล้าดียังไงบุกมาที่บ้านของเรา!” สีหน้าของนายท่านตระกูลซิมเมอร์มืดลงขณะที่เขาลุกขึ้นยืนราชาสงครามผู้ที่มารักษานายหญิงเฒ่าก็ยืนขึ้นเช่นกัน “ดูเหมือนเราคงต้องออกไปดูข้างนอกกันสักหน่อย!”“นั่นสิ!” นายท่านตระกูลซิมเมอร์พยักหน้า เขาเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับผู้พิทักษ์ของตระกูลซิมเมอร์หลายคนและราช
“ใช่ ๆ ใช่แล้ว...ทุกคน เชิญ...เชิญทุกคนเข้าไปด้านใน!” ผู้อาวุโสของตระกูลซิมเมอร์หลายคนส่งยิ้มอบอุ่นให้เฟนด์กับคนของเขา ไม่เย่อหยิ่งและดูถูกเหยียดหยามเหมือนก่อนหน้านี้พวกเขามองไปที่เฟนด์อย่างหวาดกลัวปรมาจารย์คนนี้สามารถฆ่าทุกคนที่คฤหาสน์นี้ได้ถ้าเขาต้องการ“ก็ได้” เฟนด์พยักหน้าและเดินตามพวกเขาเข้าไปข้างในไม่นานทุกคนก็นั่งลงในห้องนั่งเล่นโดยไม่อ้อมค้อม เฟนด์ก็เริ่มพูดทันทีว่า “นายท่านซิมเมอร์ ผมชื่อ เฟนด์ วู๊ด ที่ผมมาที่นี่เพราะได้ยินมาว่าคุณเพิ่งซื้อบัวหิมะมา เรื่องมีอยู่ว่า พ่อของผมป่วยหนักและเขาต้องการสมุนไพรตัวนี้ ดังนั้นที่ผมมาที่นี่วันนี้ด้วยหวังว่านายท่านซิมเมอร์จะมอบสมุนไพรนี้ให้ผมได้”“เอ่อ…” นายท่านซิมเมอร์ดูอึดอัด เขาเหลือบไปมองนายหญิงเฒ่าที่นอนอยู่บนโซฟาและพูดว่า “เฟนด์ แม่ของฉันก็ป่วยมาหลายปีแล้ว และในที่สุดหมอปาฏิหาริย์ก็มาที่นี่ช่วยรักษาเธอ ฉันก็ต้องการบัวหิมะนี้มาก หมอถึงกับบอกว่าถ้ายังรักษาแม่ของฉันไม่หาย เธอจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินปีนี้”ในขณะเดียวกัน ราชาสงครามก็ยังคงจ้องมองลาน่ากับอีธานอยู่ ทั้งคู่ดูคุ้น ๆ มาก แต่เขาก็นึกไม่ออกเฟนด์เดินไปที่โต๊ะและหยิบบัวห
ราชาสงครามขมวดคิ้วอย่างสงสัยไม่กี่วินาทีต่อมา ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปหวาดกลัว “พระเจ้า เป็นพวกเขาจริง ๆ ด้วย เป็นสองคนนั้นจริง ๆ ! ฉันไม่คิดเลยว่าในชีวิตนี้จะได้เจอพวกเขา!”“คุณหมอ คุณกำลังพูดถึงใคร? คุณรู้จักคนพวกนั้นเหรอ?” นายท่านซิมเมอร์รู้สึกงุนงง จากที่เขาเห็นสีหน้าของราชาสงครามที่บ่งบอกว่าคนพวกนั้นเป็นคนสำคัญ“ใช่แล้ว และมันคงจะดีกว่านี้ถ้าฉันจำพวกเขาได้ทันทีที่เจอ โธ่เอ๊ย ฉันเพิ่งมาจำได้ตอนที่พวกเขาจากไปแล้ว” ราชาสงครามพูดด้วยความตื่นเต้นสุด ๆ “ผู้หญิงคนนั้นคือเทพีสงคราม ลาน่า เซคส์ และผู้ชายคนนั้นคือเทพสงคราม อีธาน ฮายส์! ท่านอีธาน ฮายส์เป็นหมอปาฏิหาร์ตัวจริง เป็นไอดอลของฉัน!”“ว่าไงนะ?! เทพสงครามสองคน?! ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาแข็งแกร่งมาก!” นายท่านซิมเมอร์รู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “แปลก...เพราะพวกเขาทั้งคู่ก็คือเทพสงคราม งั้นเฟนด์ วู๊ดล่ะเป็นใคร? พวกเทพสงครามดูเหมือนจะพูดกับเขาด้วยความเคารพ!”“มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เทพสงครามทั้งสองคนพูดด้วยความเคารพได้!” ราชาสงครามเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างช้า ๆ “คนคนนั้น...คือท่านนักรบสูง
“เอาล่ะ คุณเชอร์ลี่ย์ ขอบคุณสำหรับวันนี้นะ ไม่ต้องกังวล ผมจะไปหาคุณวันมะรืนนี้ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับตระกูลนอร์ตัน ผมจะจัดการพวกเขาถ้าพวกเขากล้าบังคับให้คุณแต่งงานด้วย” เฟนด์พูดด้วยรอยยิ้มไม่ใส่ใจหลังจากที่พวกเขาออกจากคฤหาสน์ของตระกูลซิมเมอร์“รักษาสัญญาด้วยนะ ยังไงก็ตาม ฉันจะเชื่อคำพูดของนาย และถ้านายไม่มาฉันจะเกลียดนายไปตลอดชีวิต” เชอร์ลี่ย์กลอกตามองเฟนด์และมองเวลาก่อนจะพูดว่า “งั้นให้ฉันเลี้ยงอาหารเย็นพวกนายดีไหม? ตอนนี้ก็ค่อนข้างเย็นแล้ว ยังไงซะ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกนายมาที่เมืองวิญญาณ ฉันคิดว่าพวกนายไม่รู้หรอกว่าร้านไหนอร่อยมากกว่ากัน งั้นฉันจะใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นเจ้าภาพที่ดีแล้วกัน”“ฮ่าฮ่า...ได้สิ! เพราะคุณเชอร์ลี่ย์ใจดีมาก งั้นเราไปกับคุณก็ได้!” เฟนด์หัวเราะและตกลงตามนั้นไม่นานทั้งหมดก็ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เชอร์ลี่ย์กับวิลโลว์ก็กลับไปหลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จเช้าวันรุ่งขึ้น เฟนด์ก็มาถึงที่ทางเข้าของร้านประมูลสกายซิตี้พร้อมกับลาน่าและอีธานนี่เป็นร้านประมูลขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองวิญญาณเฟนด์กับคนอื่น ๆ ถูกหยุดไว้ตอนที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไป “คุณครับ เ
เฟนด์อยากได้ซีโนมีเนียมเพื่อเอาไปรักษาพ่อของเขาจากยาพิษที่ทรมานเขาขณะที่การประมูลกำลังจะจบลง ชายชราที่อยู่บนเวทีก็ยิ้ม “ต่อไป เราจะประมูลสมุนไพรที่มีค่าที่สุดในการประมูลครั้งนี้ ถือได้ว่ามันเป็นของล้ำค่ามาก นั่นก็คือ ซีโนมีเนียมอายุร้อยปี! นี่…”เฟนด์กับอีธานสบตากันทันที และดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายอย่างตื่นเต้น เพราะมันเป็นสมุนไพรที่พวกเขาต้องการที่สุด!เพราะอย่างนั้น พวกเขาจะต้องเอาซีโนมีเนียมอายุร้อยปีนี้มาให้ได้หลังจากที่ชายชราแนะนำการใช้สมุนไพรและความหาได้ยากของสมุนไพรนี้ เขาก็ยื่นมือออกมาข้างหน้าและพูดว่า “ราคาเริ่มต้นของซีโนมีเนียมอายุร้อยปีนี้อยู่ที่หนึ่งร้อยล้านเหรียญ และการเสนอราคาครั้งต่อไปจะต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านเหรียญ เอาล่ะ เชิญทุกท่านเริ่มประมูลได้!”“นี่เป็นของล้ำค่าอย่างแท้จริง! ฮ่าฮ่า! เพื่อมันฉันยอมจ่ายหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรียญ!” ชายวัยกลางคนสนใจของชิ้นนี้มากและเสนอราคาเพิ่มขึ้นอีกห้าสิบล้านเหรียญ“สองร้อยล้าน!” ผู้หญิงที่ดูร่ำรวยยืนขึ้นและเสนอราคาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของราคาประมูลเริ่มต้น“ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด!” อีธานยิ้มอย่างขมข
“อะไรกัน? ตอนนี้ราคาอยู่ที่หนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญแล้วเหรอ? ชายคนนั้นบ้ามากและก็รวยมากด้วย! นี่มันมากกว่าราคาจริง ๆ ของของสิ่งนี้อีก!” มีบางคนอุทานออกมา ไม่เข้าใจว่าชายวัยกลางคนคนนั้นคิดอะไรอยู่ถึงเสนอราคาแบบนั้น“ใช่ ราคาที่เสนอมานั้นสูงเกินไป ฉันรู้ว่ามันเป็นของล้ำค่า แต่เขาต้องยอมเสียเงินมากขนาดนั้นเหรอ?” คนอีกคนก็ตกใจมากเหมือนกันชายชราคนหนึ่งคิดเกี่ยวกับมันและพูดว่า “พวกคุณไม่เข้าใจ ราคาที่เสนอมาของเขาอาจจะดูมากเกินไป แต่ถ้าพวกเขาจำเป็นต้องใช้สมุนไพรนี้อย่างเร่งด่วน พวกเขาจะต้องซื้อมันให้ได้ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน พวกเขาต้องการมัน!”“หนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญ! ตอนนี้ราคาอยู่ที่หนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญแล้ว! มีใครอยากประมูลอีกไหม” ชายชราผู้รับผิดชอบการประมูลตะโกนขึ้นจากบนเวทีด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง ราคาที่สูงมากขนาดนี้ทำให้เขาไม่อาจสงบใจต่อได้อีกฝ่ายคงคิดว่าเฟนด์จะไม่เสนอราคาที่สูงกว่านี้ เฟนด์ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและตะโกนออกมาว่า “สองพันล้านเหรียญ!”“อะไรกัน?! สองพันล้านเหรียญ! เด็กคนนั้นเป็นใครกัน? เขาถึงได้เสนอราคาตั้งสองพันล้านเหรียญ!”“ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อน! เขาคงมาจา