"เทพแท้จริงขั้นกลางและคนจากตระกูลสาขาจะเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหลักได้ไหมครับ?" แลนเซล็อตตื่นเต้นอย่างมากเมื่อได้ยินข่าวนี้ เขาก็มีความสามารถที่สูงกว่าหลาย ๆ คนในตระกูลสาขา จนถึงขั้นกลางของเทพแท้จริงเห็นได้ชัดเลยว่าเขาผ่านข้อกำหนดทั้งหมดเขาจะได้ค่าแรงดีมากถ้าได้เป็นผู้อาวุโสในตระกูลหลัก ไม่ใช่แค่เขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องของตระกูลสาขาอีกต่อไป แต่เขายังได้ทรัพยากรเสริมทักษะยุทธมาฝึกด้วยตัวเองอีก เขาจะได้เพิ่มระดับความสามารถและสนุกกับการใช้ทรัพยากรการฝึกที่สำคัญที่สุดคือไม่เคยมีคนจากตระกูลสาขาที่ได้มาในตระกูลหลักและกลายเป็นผู้อาวุโสได้การตัดสินใจนี้ของแนชเป็นการทำลายกฏเก่า ๆ ทิ้งไปนี่ไม่ใช่เรื่องดีของตระกูลหลัก แต่เป็นเรื่องดีของสมาชิกในตระกูลสาขาสุดท้ายแล้ว ถ้าใครในพวกเขาได้มาเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหลัก ก็จะมีโอกาสแนะนำหรือมีสิทธิโหวตในตอนที่มีการประชุมที่สำคัญ เสียงของเขาอาจจะสำคัญในปัญหาบางเรื่องพวกเขาช่วยปรับปรุงสวัสดิการของตระกูลสาขาได้ด้วยซ้ำ"แน่นอน ฉันต้อนรับทุกคนที่อยู่ในขั้นกลางของเทพแท้จริง และยินดีให้เป็นผู้อาวุโสของเราได้!" แนชพยักหน้าอย่างพอใจและพูดด้วยรอยยิ้ม "ฉัน
เมสันพูดอย่างตื่นเต้น "นายท่าน งั้นผมตัดสินใจแล้ว!""เยี่ยม ที่ตัดสินใจได้เลย!" แนชยิ้มและพูด"ผมคิดว่าถ้าทุกคนค้างคืนและค่อยกลับพรุ่งนี้จะดีที่สุด ผมจะกลับไปกับทุกคนเพื่อเกณฑ์อัจฉริยะบางคนมา ผมต้องเลือกแค่สองหรือสามจากตระกูลสาขามา จากจำนวนคนในตระกูล ผมจะเลือกสามคนในตระกูลใหญ่ และเลือกสองคนในตระกูลเล็ก!" เฟนด์คิดและพูดกับแลนเซล็อตและคนอื่น ๆ "ฮ่า ๆ เยี่ยมเลย! นี่คือข่าวดีมาก!" ทุกคนมีความสุข แม้ว่าตระกูลวู๊ดจะสูญเสียไปครั้งใหญ่ แต่การตัดสินใจนี้ของแนชก็ทำให้ทุกคนจากตระกูลสาขามีความหวังขึ้นมา นอกจากนี้ พวกเขายังมีคำดี ๆ กลับไปบอกตระกูลของตัวเองอีกด้วยทุกคนกลับมาที่พักของตัวเองหลังจากเก็บกวาดศพ"ที่รัก ฉันคิดถึงไคลี่กับคนอื่น ๆ !" ในตอนเย็น เซเลน่าพูดขณะที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเฟนด์เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นและพูด "ใช่ ผมก็คิดถึงลูกและอยากพาพวกเขามาด้วย แต่น่าเสียดายที่ผมไม่อยากพามาเพราะตระกูลวู๊ดยังแก้ไขปัญหาไม่ได้!"เฟนด์หยุดก่อนจะพูดต่อ "แล้วถ้า พรุ่งนี้ล่ะ? ผมจะขอให้ลาน่ากับอีธานกลับไปพร้อมกับคุณ คุณจะพาพวกเขามาหมดเลยก็ได้ คุณถามแอ็บเนอร์กับแซมว่าอยากมาฝึกหรือไม่ก็ได้ ถ้าพวกเขาเต็ม
"อะไรนะ? เป็นทายาทของตระกูลวู๊ด? เฟนด์ที่นายพูดถึงน่ะเหรอ คนที่เพิ่งมาจากโลกภายนอกน่ะเหรอ?" ดวงตาของชายหนุ่มมีแต่ความประหลาดใจทันทีที่ได้ยิน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้หวังว่าเฟนด์จะอยู่ที่นั่นด้วยจริง ๆ "ทุกคน มาทักทายนายน้อยเฟนด์เร็ว!" สีหน้าของแลนเซล็อตนิ่งลงและให้ทุกคนรีบมา"สวัสดีนายน้อยเฟนด์!" ทุกคนยืนตรงทักทายเฟนด์อย่างเคารพ พวกเขาสงสัยว่าคนที่กลับมาพร้อมกับหัวหน้าของพวกเขาคือใคร และไม่มีใครรู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นนายน้อยของตระกูลหลัก"ไม่ต้องสุภาพมากขนาดนั้นหรอก พวกคุณให้ตระกูลวู๊ดมามากเลย มันคงจะเป็นเรื่อยากสำหรับพวกคุณจริง ๆ !"เฟนด์โค้งคำนับหลังจากที่เดินไปสองก้าว "ผมต้องขอโทษในนามของตระกูลวู๊ดด้วย เพราะผมรู้ว่าพวกคุณต้องเพิ่มเปอร์เซ็นต์ทรัพยากรขึ้นมา ดังนั้น คุณจะต้องหาทรัพยากรเพิ่มถ้าอยากฝึกฝน ทุกคนคงจะเหนื่อยน่าดู และคงมีคนไม่น้อยที่เสียชีวิตด้วยฝีมือของสัตว์อสูร เพราะเหตุนี้ผมก็เลยต้องขอโทษ!"ดวงตาของชายชราเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อนึกถึงหลานชายที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายเดือนก่อนอย่างไรก็ตาม เขาเดินไปข้างหน้าและพูดว่า "นายน้อยเฟนด์ ไม่ต้องสุภาพหรอกครับ ในฐานะผู้ฝึกยุทธ เราไม่
"จู่ ๆ เวดก็ทะลวงถึงขั้นสุดยอดของเทพแท้จริง ถ้านายน้อยเฟนด์ไม่ค่อยเก่งเรื่องการแพทย์และช่วยพ่อของเขาได้ไม่ทันเวลา เวดก็คงประสบความสำเร็จไปแล้ว แต่นายท่านฆ่าพวกเขาไปแล้ว และนายหญิงคนแรกก็ไม่มีพลังอีกต่อไป เธอโดนไล่ออกจากตระกูลวู๊ด! เราไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว!"แลนเซล็อตหัวเราะขณะอธิบายให้ฟังก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยรู้วิธีโต้ตอบตระกูลสาขา เขารู้ว่าทุกคนเก็บความแค้นเอาไว้ตอนนี้พวกเขาก็ผ่านความยากลำบากมาได้แล้ว"มหัศจรรย์มาก เวดน่าจะตายไปได้ตั้งนานแล้ว!""ใช่ น่าเสียดายที่เราไม่เห็นนายท่านฆ่าเขาด้วยตาตัวเอง!""วิเศษมากจริง ๆ หมายความว่าร่างกายของนายท่านฟื้นตัวได้ดีแล้วสิ ตอนนี้ตระกูลวู๊ดก็จะรุ่งเรืองเพราะนายท่านแล้ว!""งั้นนายท่านก็โดนวางยาพิษน่ะสิ ขอบคุณพระเจ้าที่นายน้อยมีฝีมือรักษาเขาได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้องทุกข์ทรมานถ้าไอ้เลวเวดนั่นเป็นผู้นำ!"สมาชิกของตระกูลสาขาตื่นเต้นมากและเริ่มคุยกันอย่างกระตือรือร้นเฟนด์มองดูพวกเขาคุยกันด้วยอารมณ์ยุ่งเหยิง การใช้ทรัพยากร 50 เปอร์เซ็นต์อาจจะเป็นเรื่องปกติของตระกูลอื่น สำหรับตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ด การกลับไปใช้จำนวนเดิมนั่นเป็นข่าวใหญ่ม
"ฮึ่ม ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นนายน้อยของตระกูลวู๊ดหรือเปล่า นี่มันไม่ยุติธรรมกับพ่อฉันมาก ๆ มันบีบหัวใจมากเลยนะ!"เด็กสาวร้องอย่างเย็นชาและกอดอก เธอเม้มริมฝีปาก หอบ ๆ แต่ก็ดูน่ารักในตอนที่มอง"ถูกต้อง เราจะทำอย่างนั้นได้ยังไง?"หลายคนไม่พอใจแทนแลนเซล็อตสุดท้ายแล้ว หัวหน้าของพวกเขาก็จะได้ทรัพยากรการฝึกเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย และในที่สุดเขาก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ แต่หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น สมาชิกในตระกูลสาขาต้องโกรธมากแน่ ๆ"พูดเรื่องอะไรน่ะแซลลี่? ขอโทษนายน้อยเฟนด์ซะ! ลืมที่พ่อสอนไปหมดแล้วเหรอ?"แลนเซล็อตขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึม และมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า“พ่อ!”แซลลี่รู้สึกหงุดหงิดและก้าวออกไป "หนูไม่ได้พูดอะไรผิด ทำไมต้องขอโทษด้วย?" เธอโต้ "นอกจากนี้ หนูก็ไม่ได้โทษเขาไปซะทุกอย่าง หนูแค่แสดงความไม่พอใจกับนายท่านวู๊ด พ่อจะมาห้ามให้หนูพูดไม่ได้!"เด็กอีกคนก็พูดขึ้นมาว่า "ถูกต้อง เขาก็ไม่ได้ต่างอะไรกับผู้อาวุโสลำดับสามหรอกถ้าไม่ให้เราพูดได้อย่างอิสระ!"ชายกลางคนข้าง ๆ โดดเหยงด้วยความตกใจ "ลุค ขอโทษนายน้อยเฟนด์เลยนะ!" เขาเสียงดังใส่ลูกชาย "การตัดสินใจของตระกูลวู๊ดเป็นประโยชน์กั
ชายที่อยู่ในขั้นต้นของเทพแท้จริงร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้นหลังจากที่ได้ยิน"เฮ้ นายเป็นนักรบที่แข็งแกร่งมากเลยนะ วอลลี่ ถ้าไม่มีใครค้าน ฉันจะเสนอชื่อนายเป็นหัวหน้าคนต่อไป!"แลนเซล็อตหัวเราะคิกคักขณะพูดกับชายกลางคน"ฉันเป็นผู้อาวุโสของตระกูลสาขามานานมากแล้ว ไม่พร้อมที่จะได้เป็นหัวหน้าอย่างกะทันหันแบบนี้หรอกนะ!"ชายกลางคนยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน"ต้องเป็นนายสิ นายแข็งแกร่งรองจากหัวหน้าเรา!"ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขำ ๆ"ถูกต้อง งั้นก็ตัดสินใจแล้วนะ เขาจะได้เป็นหัวหน้า!"คนอื่นพยักหน้าอย่างพอใจ"ถ้าอย่างนั้นฉันเดาว่าทุกคนน่าจะเห็นด้วยแล้ว เราไม่มีปัญหาเรื่องเลือกกันแล้วนะ!"แลนเซล็อตยิ้มแซลลี่มองเฟนด์ "นายน้อยเฟนด์ ฉันขอโทษสำหรับความไร้มารยาทของฉันด้วยนะคะ" เธอพูดขอโทษ "ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเข้าใจผิดกับความตั้งใจของคุณในตอนที่ได้ยินว่าคุณจะเลือกหัวหน้าใหม่ ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย!"“เฮ้ ไม่ต้องห่วงนะ ผมไม่ถืออะไรหรอก ไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น นอกจากนี้ พวกคุณก็ไม่ได้รู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากที่คุณโกรธก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่าแลนเซล็อตคือหัวหน้าที่ดีจริง ๆ ดูแลกันมาอย่างดีเลย ใช่ไหม?
"จะเป็นของเขาเหรอ?"สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น วิธีการพูดของเธอทำให้เข้าใจผิดได้แซลลี่ตกใจเล็กน้อย แก้มของเธอแดงขึ้นขณะกลอกตาไปที่ผู้คน "พูดเรื่องอะไรน่ะ?" เธอพูดเสียงดัง "ฉันหมายความว่าจะรับใช้เขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าเขาไปไหนฉันก็จะตามไปด้วย!""ฮ่า เธอไม่รู้จักวิธีประจบคนอื่นเลยนะ แต่วันนี้เธอได้เรียนรู้วิธีแล้ว เหลือจะเชื่อ!"ชายชราคนหนึ่งหัวเราะออกมา"ใครประจบใครนะ? ฉันจะบอกความจริงอะไรให้นะ เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอที่นายน้อยเฟนด์ช่วยเรามามากขนาดนี้?"แซลลี่จ้องชายชราเขม็ง "ใครจะไปรู้ว่าเราจะได้มีโอกาสแบบนี้อีกเมื่อไหร่ล่ะ?" เธอพูด"เอาล่ะ ๆ นายน้อยเฟนด์เหนื่อยมามากแล้ว แล้วนี่มันก็สายมากแล้ว เราไปพักผ่อนกันก่อนมาทานอาหารเย็นเถอะ!"แลนเซล็อตพูดขณะหัวเราะ"เอาล่ะ เฮ้ วันนี้เป็นวันที่ดีจริง ๆ ฉันไม่ได้ยินข่าวแบบนี้มานานแล้ว เราต้องฉลองกันจนเช้าไปเลย!"แซลลี่พูดอย่างมีความสุข "อย่างนี้ นายน้อยเฟนด์ ฉันจะจัดที่พักให้คุณในบ้านของเรา""ได้เลย เราจะฉลองกัน พวกเด็ก ๆ ควรไปพักผ่อนกันให้เพียงพอ ผมจะเลือกคนที่มีความสามารถในนี้ ตระกูลสาขามีสมาชิกมาก ผมจะเลือ
เฟนด์ยืดตัวเมื่อได้กลิ่นบาร์บีคิว เขาเดินออกมาข้างนอกบ้าน"เฮ้ เราก็เกรงว่าคุณอาจจะฝึกหรือว่าหลับอยู่ เลยไม่กล้ากวน อาหารใกล้เสร็จแล้ว เรากำลังจะไปเรียกพอดีเลย!"แซลลี่เดินอย่างมีความสุขเมื่อเห็นเฟนด์ เธอยื่นจานมาให้เฟนด์พร้อมกับเนื้อแผ่นใหญ่บนนั้น "ฉันไม่ได้เก่งอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีทักษะในการทำบาร์บีคิว เลยทำอันนี้เองค่ะ ลองดูสิ!""ไม่เป็นไรหรอก มาดูกันว่าเธอจะเก่งขนาดไหน!"เฟนด์กัดเข้าไป ดวงตาของเขาเป็นประกายทันที "น่าทึ่งมากรสชาตินี้!""ฮ่า นายน้อยเฟนด์ ตรงนี้มีแอลกอฮอลล์ด้วยนะ!"ขณะนั้น แลนเซล็อตก็เดินเข้ามา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขายื่นแอลกอฮอลล์ขวดใหญ่ให้เฟนด์"ขอบคุณมาก!"เฟนด์ดมกลิ่นแฮลกอฮอลล์ก่อนกลืนน้ำลายอึกเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นคืนแห่งความสุข โดยเฉพาะกับตระกูลสาขา ทุกคนมีรอยยิ้มติดอยู่ที่ริมฝีปากเช้าวันต่อมา ตระกูลสาขามีอัจฉริยะห้าหรือหกคนเพื่อประลองกันก่อนจะเลือกทั้งหมดมาสามคนพวกเขาออกจากตระกูลสาขาพร้อมกับแลนเซล็อตและครอบครัวในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า ขณะเดียวกันเฟนด์ก็ไปเยือนตระกูลสาขาอื่น ๆ ไม่นานเขาก็มาถึงทางเข้าของตระกูลสาขาที่อื่น"ไอ้สารเลว! สักวัน