Masukร้อยดาวเองที่ยังไม่มีโอกาสได้ถามมาคินเรื่องสมุดของเธอเลย เธอเองคิดว่าคงไม่อยากที่่จะตามหาเขา เพราะวันนี้เขาเพิ่งเข้ามาเซ็นสัญญาที่ค่ายกับพี่โปเต้ในฐานะศิลปิน ส่วนเธอก็มาเซ็นสัญญาเช่นกันในฐานะพนักงานของค่าย ซึ่งสถานภาพของเธอและเขาตอนนี้ต่างกันมาก ๆ แต่พอมาเห็นทีมงานที่เป็นกันแบบอยู่ด้วยกันแบบครอบครัวของทีมพี่โปเต้ไม่ว่าศิลปินจะเก่าหรือใหม่ เพราะพี่โปเต่เป็นโปรดิวเซอร์ที่คอยสอนน้อง ๆ ในทีมตนเอง เมื่อร้อยดาวเข้ามาอยู่ในทีมรู้สึกสบายใจอบอุ่น
มาคินเองที่วันนี้เขาก็พกไดอารี่มาด้วยแต่ก็ต้องรีบคุยงานและอ่านสัญญาเพื่อต้องเซ็น ตั้งแต่วันที่ได้มาเขาก็ยังไม่เคย ได้เปิดมันออกมาอ่านสักครั้ง มาคินที่กลับมาบ้านก็โดนเสียงพ่อบ่น เอาเขามาเปรียบเทียบน้องชายเรื่องเรียนเพราะเขาเองเลือกที่จะเสียสละให้กับน้องได้เรียนที่ดี ๆ เขาเองก็ยอมหลีกทางโดยที่ไม่เรียนต่อ
"เกรดของเทอมที่แล้วของแกเป็นยังไงบ้างคิน" คุณมานัส พ่อของมาคินเอ่ยถามเขา
"เกรดของผมยังไม่ออกนะครับพ่อ "
"เกรดไม่ได้ออกหรือว่าแกไม่ได้ไปลงเรียนกันแน่คิน ฉันส่งให้แกเรียนแล้วทำไมแกถึงไปดรอปเรียน" พ่อที่ไปดูผลสอบลูกชายแต่ไม่พบรายชื่อลูกชายตนเอง มาคินที่สีหน้ารู้สึกผิด
"ผมขอโทษครับพ่อ ที่ผมไม่ได้บอก ผมแค่มีความฝันของผม"
"ความฝันของแก พวกเต้นกินรำกิน นักร้อง แทนที่จะไปเรียนหางานทำที่มั่นคง แล้วนี่เลือกอะไร" เสียงพ่อที่ดังขึ้นมา ปนตวาดทำเอาผู้เป็นแม่ที่อยู่ในครัวถึงกับเดินออกมา เพราะเกรงว่าพ่อจะพูดไม่ดีใส่มาคินอีก
"ผมให้สัญญาครับพ่อ ผมขอเดินตามความฝันของตัวเอง ผมจะให้พ่อแม่ปลดหนี้ให้หมด ให้น้องได้เรียนสูง ๆ
"ความฝันบ้า ๆ บอ ๆ ของเอาให้มันดูแลตัวแกได้ก็พอ " พ่อมองหน้ามาคินอีกครั้ง แววตารู้สึกผิดหวัง ก่อนจะเดินออกไป แม่และน้องชายที่รับรู้มาตลอด เข้ามานั่งข้าง ๆ พี่คนโตของบ้าน
"พี่ต้องทำให้พ่อเห็น แล้ววันนี้เป็นไงบ้างอะพี่" มาตินเอ่ยถามพี่ชาย ด้วยความอยากรู้ของเด็ก ๆ เขาเองเพิ่งจะอยู่ม.4
"พี่ไปเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่ายนั้นมาแล้ว สัญญาห้าปี พี่จะใช้เวลาช่วงนี้ทำงานเพลงออกมาเยอะ ๆ" มาคินที่คิดถึงความหมดหนี้ของครอบครัว
"ลูกก็ต้องทำให้คุณพ่อเห็นนะลูก แม่เอาใจช่วย"
"ผมด้วยพี่ผมเอาใจช่วย จะมีพี่ชายเป็นคนดังเสียที ผมจะได้เอาไปอวดเพื่อน ๆ ผมได้" มาตินกอดอกยืดตัวขึ้น จนโดนแม่เขกหัวเข้าให้หนึ่งที
"โห แม่ หรือแม่จะไม่อยากไปอวดพวกป้า ๆ บ้านเราจะมีซุปเปอร์สตาร์เลยนะแม่"
"นายนี่ก็เวอร์ตลอด ถ้าฉันมีเพลงมาแล้วมันไม่ดังหละ พี่จะพยายาม พี่อยากเห็นพ่อกับแม่สบายไม่ต้องเหนื่อย"
มาคินที่แยกตัวขึ้นมาที่ห้องนอนตนเอง ที่อีกฝั่งนึงของห้องจัดมุมสำหรับดีดกีตาร์เล่นดนตรี เขาจัดแจงวางเป้สะพายลงบนโต๊ะ พอดีกับที่สมุดไดอารี่เล่มเดิม เขาจึงหยิบออกมาจากเป้ ตอนแรกมาคินอยากจะไปอาบน้ำก่อน แต่พอเห็นสมุดเล่มนี้ หน้าปกของไดอารี่ช่างเหมือนกับเจ้าของเสียจริงเชียว เขานั่งมองปกสมุดคิดถึงหน้าน้องคนนั้นขึ้นมา แล้วอยากเปิดไดอารี่ของเธออ่าน หน้าแรก ประวัติคร่าว ๆ ของเธอ เขาอ่านไปยิ้มไปมันมีสิ่งที่เธอไม่ชอบ สิ่งที่ชอบ วันเกิด สี ดู ๆ แล้วเหมือนสมุดเฟรนชิป
พอเปิดไปอีกหน้า เป็นเหมือนบทเพลงที่ยังไม่มีดนตรี และเขายังไม่เคยได้ฟัง มาคินที่คิดขึ้นมาได้เขาจึงหันไปหยิบกีตาร์ตัวโปรดของตนเอง และทำการเปิดคอม เพื่อจะทำการไลฟ์สดเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ เมื่อหน้าคอมเข้ามาหน้าไลฟ์สดที่เขาชอบไลฟ์เป็นประจำ พอเข้ามาก็จัดการทักทายคนที่เข้ามาชมไลฟ์สดตนเอง ซึ่งคนฟังเป็นกลุ่มคนฟังเดิม ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่มาแซวหยอกมาคิน
"สวัสดีน้อง ๆ นะครับ มาฟังบทเพลงกันดีกว่า วันนี้พี่จะร้องไปเรื่อย ๆ อยากฟังเพลงอะไรก็พิมพ์ขอกันเข้ามา " มาคินหยิบเพลงของวงลาบานูนขึ้นมาร้อง พร้อมกับเสียงกีตาร์
" ดอกฟ้าแค่โน้มลงดิน สุดท้ายก็โบยบินคืนไปสู่แผ่นฟ้า อยากจะรั้งก็จนปัญญา หมดเวลาเสียที ที่ตรงนี้มีเพียงโคลนตม ถูกแล้วที่เธอไม่ควรจะอยู่ตรงนี้ ยอมเจ็บช้ำด้วยความยินดี โบกมือทั้งน้ำตา ขอบใจที่เสียเวลา ที่เคยโน้มลงมา ให้ฉันรักเธอ " คนดูที่เข้ามาชมในวันนี้ตอนแรกมีแค่เพียงหลักสิบ วันนี้ยอดคนมาเป็นพัน ร้อยดาวที่เห็นมาคินขึ้นไลฟ์สด เธอเองยังไม่ได้กดติดตามแต่แอบมองหน้าห้อง เธอกลับรู้สึกหลงน้ำเสียงของเขา เธอเองที่กดดูอยู่ด้านนอก สักพักเดียวก็ฟุ๊บ เธอเข้ามาอยู่ในไลฟ์ของเขา
"สวัสดีไอดีร้อยเคียงดาวด้วยนะครับ" มาคินที่อ่านชื่อตามที่เห็นเขาเองที่ยังไม่ได้เอะใจว่าเป็นใคร แต่คนที่สะดุ้งในเสียงเรียกกลับเป็นร้อยดาว
" จะเอ่ยชื่อเราขึ้นมาทำไมนะ" ร้อยดาวที่รู้ตัว เธอจึงไปตั้งค่าเพื่อเป็นการซ่อนยูสของตนเอง พอกดซ่อนยูส เธอเองวางนิ้วมือพลาดไปโดนปุ่มกดถูกใจขึ้นมาหลายที มันขึ้นชื่อ
"ร้อยเคียงดาว กดถูกใจ Live♥️"
"ขอบคุณนะครับที่เข้ามากดถูกใจ ร้อยเคียงดาว ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ" เสียงมาคินที่ขอให้เธอกดติดตาม
"ให้กดติดตามคุณก็จะติดตามฉันกลับนะสิ ไม่มีทาง" เธอเถียงกลับออกมาแต่เขาไม่ได้ยิน เธอเลยกดออกจากไลฟ์ทันที
บทเพลง เพลงหนึ่งที่ดังขึ้นมาโดยที่เชาเองนั่งร้องและเกลาทำนองดนตรีด้วยความรู้สึกของตนเองอีกครั้ง ร้อยดาวถึงกับชะงักฟังเพลงที่เขาร้อง
"บทเพลงของฉัน ทำไมนายคนนี้เอามาร้อง" ร้อยดาวที่สงสัย จึงกลับเข้ามาฟังอีกครั้ง มาคินที่กำลังไล่โน๊ตดนตรีให้มันเข้ากับเนื้อเพลงที่เขาได้มา
"ในคืนที่เหงา สายลมพัดผ่านมา
เสียงเพลงดังลอยไป ในใจยังมีเธอ ความรักที่จาก รู้ไหมยังรออยู่
เหมือนว่าวันนี้ หัวใจยังหวังคอยเธอ" มาคินที่ร้องเพลงในไดอารี่
"คุณร้องเพลงของฉัน" คอมเม้นท์หนึ่งคอมเม้นท์ที่เข้ามาแสดงความเป็นเจ้าของ มาคินที่อ่านเม้นท์แล้วชะงักไป อีกสักพักก็ถามกลับ
"แค่สายลมพัดกลับมา ความรักที่เคยมี รอเธออยู่ที่นี่ ให้เรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันนั้นที่เราเคยรักกัน" ร้อยดาวที่พิมพ์เนื้อร้องท่อนถัดไป ได้ตรงตามสมุดไดอารี่เป๊ะ ๆ มาคินเองที่รู้แล้วว่าเธอเป็นเจ้าของบทเพลงนี้จริง ๆ
"คุณกดคำขอขึ้นมาร้องเพลงนี้กับผมจนจบสิ เพลงคุณเพราะนะ ผมเห็นว่ามันไม่มีดนตรี" มาคินยื่นข้อเสนอกับเธอ แต่คำเชิญของเขาถูกปฏิเสธลง
"ไม่ค่ะฉันไม่ชอบร้องเพลง ฉัน..." เธอชอบแต่งเพลง แต่เธอไม่ชอบร้องเพราะเสียงของเธอทำให้เธอไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมา
"ถ้างั้นผมขออนุญาตกดติดตามคุณ แล้วผมจะนำเพลงของคุณ มาร้องทุก ๆ วัน พร้อมด้วยทำนองเพลงที่ผมจะใส่เพิ่มเข้าไป"
"คุณไม่มีสิทธิ์มาใส่อะไรในเพลงของฉันนะมาคิน มันคือเพลงของฉัน" การพิมพ์โต้ตอบกับคนพูด
"คุณจดลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือยัง ถึงว่าเพลงของคุณ แล้วผมห้ามดัดแปลง"
"เอ่อ...ฉันยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น เพราะฉันเป็นนักเขียนเพลง แต่งเพลงขายคนที่ซื้อเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ ในความเป็นเจ้าของ " ร้อยดาวที่ตอบตามความจริง
"งั้นเพลงนี้ผมสามารถนำมาร้องได้นะ ผมจะใส่ทำนองดนตรีให้จนจบ" มาคินที่ร้องท่อนแรกใหม่ และเกลาดนตรีไปเรื่อย ๆ อีกครั้ง
ร้อยดาวเองที่รู้สึกเหมือนโดนแย่งผลงานของตนเองไปต่อหน้าต่อตา เหมือนโดนฉกผลงานไปซึ่ง ๆ หน้า
"ฉันขอสมุดไดอารี่ของฉันคืน สมุดเล่มนี้มีชื่อ และประวัติของฉัน" ร้อยดาวที่พิมพ์ขอสมุดของเธอไปตรง ๆ
"อีก 3 วันผมนัดพี่โปเต้เข้าไปในค่ายเพลง ผมน่าจะแต่งทำนองเรียบเรียงให้จนจบ คุณไปรับได้ที่ค่ายนะครับ" มาคินเองที่ไม่คิดว่าจะโดนทวงของต่อหน้าต่อตา ท่ามกลางคนดูหลายร้อยคน เหมือนเขาดูเป็นคนไม่ดียังไงไม่รู้ เขาเลยต้องตอบที่จะคืนให้เธอ
" นายนี่แย่สุด ๆ เอาของคนอื่นไปแล้วยังจะมาต่อรองอีก " ร้อยดาวรู้สึกไม่ชอบนายมาคินขึ้นมาทันที
ร้อยดาวยังลูบหัวเจ้ามะยมกับเจ้าก้อนทองที่กระโดดไปกระโดดมาบนเบาะหลังอยู่ไม่หยุด มาคินยื่นมือมาเปิดประตูรถฝั่งเธอ ลมหนาวตีเข้ามาทันทีจนเธอต้องห่อตัว ดึงผ้าพันคอคลุมแน่น“หนาว” เสียงเธอสั่น ๆ พอให้มาคินขำในลำคอมือหนายื่นมาโอบไหล่เธอไว้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเล็ก ๆ ของเธอสะพายเองแล้วพาก้าวลงจากรถทันทีที่เท้าเหยียบพื้นดินบนลานจอดบ้านพัก เสียงกรวดกรอบ ๆ ใต้รองเท้าฟังดูสงบกว่าทุกวัน เจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมกระโดดลงมาก่อน วิ่งดมดิน ดมต้นหญ้า หมอกบาง ๆ ลอยผ่านขนหมาจนเปียกเป็นหย่อม ๆบ้านพักไม้สองชั้นทรงเรียบ แต่มีระเบียงกว้างทอดออกไปด้านหลัง มองเห็นเนินเขาลูกแล้วลูกเล่า ปลายไม้ระเบียงมีละอองน้ำเกาะพราวเป็นหยด ยามแสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าเริ่มส่องลอดกลุ่มหมอก ก็ดูเหมือนเกล็ดเพชรระยิบระยับ“สวยจนเหมือนฝันเลยนะ” ร้อยดาวพึมพำออกมาเบา ๆ เธอเกาะแขนเขาแน่น มาคินหันมามอง ยิ้มบางอย่างใจดี“ไม่ใช่ฝันหรอก วันนี้ของจริงแล้ว” เขาดันประตูบ้านพักออกไปเบา ๆ กลิ่นไม้สนหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาต้อนรับภายในบ้านมีเตาผิงเล็ก ๆ มุมหนึ่ง แต่สองคนไม่สนใจอะไรในบ้านเลย เพราะข้างนอกนั่นกำลังเรียกพวกเขาออกไปหามาคินวางกระเป๋า แล้วจับมือ
ไฟห้องนั่งเล่นเปิดสลัว ๆ มีเพียงเสียงหมาน้อยสองตัวที่วิ่งไล่กันอยู่บนพื้นไม้ เสียงกรงเล็บเล็กกระทบพื้นดังกิ๊ก ๆ สลับกับเสียงเห่าเถียงของเจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมมาคินนั่งพิงโซฟา ยื่นขาถอดรองเท้าออกวางบนพรม ร้อยดาวเพิ่งเดินออกจากครัวพร้อมถ้วยโกโก้อุ่นในมือสองใบ กลิ่นนมสดกับผงโกโก้แท้ลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน เธอวางแก้วใบหนึ่งลงตรงหน้ามาคิน แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มืออุ่นของเธอเลื่อนมาลูบหัวเจ้าก้อนทองที่กระโดดขึ้นมาตักคืนนี้ไม่มีแสงสปอร์ตไลท์ ไม่มีเสียงแฟนคลับกรี๊ด ไม่มีไฟเวทีพร่างตา มีเพียงลมหายใจของสองคน ที่กำลังจะออกเดินทางไปหาหมอกขาวบนดอยในวันรุ่งเช้า เสียงหรีดหริ่งเรไรข้างบ้านดังลอดหน้าต่าง ครู่หนึ่งร้อยดาวหันมามองคนข้างกาย“นี่ คิดดีแล้วใช่มั้ย จะพาฉันกับหมาสองตัวไปหนาวบนดอยด้วยเนี่ย" มาคินอมยิ้ม หันมาจับแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วเย็นนิดหน่อเพราะเพิ่งแตะแก้วโกโก้“คิดดีแล้วครับคุณแฟน เพราะไม่มีเธอ ฉันก็หนาวแย่สิ”ร้อยดาวตีแขนเขาเบา ๆ แต่ก็ยอมเอนหัวซบไหล่เหมือนเด็กขี้อ แสงไฟสีอุ่นในห้องนั่งเล่นตกกระทบเสี้ยวหน้าเธอ ดวงตาเป็นประกายระยิบเหมือนเด็กที่กำลังเฝ้ารออะไรสักอย่างด้วยใจเต้นแรงเจ้ามะยมกร
AFTER PARTY ก้าวต่อไปหลังไฟสปอร์ตไลท์ดับค่ำคืนนั้นหลังเวทีใหญ่ปิดฉาก เสียงปรบมือยังแว่วอยู่ในหัว ร้อยดาวกับมาคินเพิ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดสบาย ๆ เดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยใบหน้ายังแดงระเรื่อจากไฟบนเวทีในห้องพักหลังคอนเสิร์ต ทีมงานทุกคนรออยู่แล้ว โปเต้เดินถือขนมกล่องใหญ่กับเครื่องดื่มในมือ สงครามยืนพิงกำแพงรอ ส่วนอ๊อฟกับก็อปเปอร์นั่งกอดหมอนบนโซฟายาว สภาพทุกคนดูอ่อนล้าแต่ตากลับเปล่งประกายเหมือนเพิ่งได้รับพลังใหม่บนโต๊ะกลางมีเค้กเล็ก ๆ ปักเทียน “1 Year Anniversary” ที่โปเต้สั่งให้ บรรยากาศไม่มีเสียงกรี๊ด ไม่มีใครถือแท่งไฟ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่เป็นเหมือนครอบครัวจริง ๆ โปเต้วางกล่องขนมลงโต๊ะ“เอ้า นี่ของขวัญวันครบรอบหนึ่งปีของเด็กคู่นี้… พี่สั่งมากับมือ ไม่ได้ให้เอฟซีนะ พี่ให้เอง” โปเ้เองพอใจในน้อง ๆ สังกัดตนเองทุกคน“ขอบคุณพี่โปเต้มากครับ พี่นี่แหละคนดันเรามาตลอด”“เฮีย ถ้าไม่มีเฮีย หนูคงไม่มีวันนี้จริง ๆ ค่ะ” ร้อยดาวขอบคุณสงคราม“ถ้าเธอสองคนไม่อดทน ก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน จำเอาไว้ ทุกเทคที่ซ้อมกันยันเช้า ไม่เสียเปล่าเลย” สงครามพยักหน้านิ่งก็อปเปอร์ลุกมาดึงทั้งคู่มานั่งรวมวงบนพื
เสียงกรี๊ดต้อนรับดังลั่นจนเกือบกลบเสียงพิธีกรบนเวทีในฮอลล์คอนเสิร์ตใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟเวทีสีทองนวล พร็อพดอกไม้หลากสีและแบนเนอร์คู่จิ้น ร้อยดาว × มาคินทุกเก้าอี้ถูกจับจองแน่นขนัด แท่งไฟนับพันกวาดแสงไปมาเป็นคลื่นเหมือนท้องทะเลเรืองแสงเสียงเพลงอินโทรเปิดตัวเริ่มขึ้นพร้อมแสงไฟไล่ไปตามแนวเวที เมื่อเงาสองคนก้าวออกมาจากด้านหลัง ม่านไฟพุ่งขึ้นต้อนรับ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นราวกับฮอลล์จะสั่นสะเทือนร้อยดาวยืนข้างมาคิน มือเล็กกำไมค์ไว้แน่นเพราะหัวใจเต้นแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของเธอวาววับ มองแฟนเพลงกว่าพันชีวิตที่โบกแท่งไฟรออยู่"สวัสดีครับ โอ้โห ผมคิดว่าจะไม่มีคนมาดูพวกเราสองคนเสียอีกครับ" เสียงมาคินทักทายเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นฮอลล์“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่วันนี้ทุกคนมาชาร์จพลังให้พวกเราจริง ๆ ”เสียงเธอสั่นหน่อย ๆ ก่อนจะหัวเราะเบาเมื่อมาคินโอบไหล่ให้กำลังใจข้าง ไฟสปอร์ตไลท์สาดลงบนสองคนที่ยืนเคียงกันเหมือนคู่พระนางในนิทานช่วงกลางคอนเสิร์ต หลังจากเพลงซึ้งจบไปสามสี่เพลงพิธีกรเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ “แขกรับเชิญพิเศษ” ของสองคนขึ้นมาบนเวทีเสียงกรี๊ดรอบใหม่ดังขึ้นทันที เมื่อเห็นพ่อกับแม่
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ







