ร้อยดาวเองที่ยังไม่มีโอกาสได้ถามมาคินเรื่องสมุดของเธอเลย เธอเองคิดว่าคงไม่อยากที่่จะตามหาเขา เพราะวันนี้เขาเพิ่งเข้ามาเซ็นสัญญาที่ค่ายกับพี่โปเต้ในฐานะศิลปิน ส่วนเธอก็มาเซ็นสัญญาเช่นกันในฐานะพนักงานของค่าย ซึ่งสถานภาพของเธอและเขาตอนนี้ต่างกันมาก ๆ แต่พอมาเห็นทีมงานที่เป็นกันแบบอยู่ด้วยกันแบบครอบครัวของทีมพี่โปเต้ไม่ว่าศิลปินจะเก่าหรือใหม่ เพราะพี่โปเต่เป็นโปรดิวเซอร์ที่คอยสอนน้อง ๆ ในทีมตนเอง เมื่อร้อยดาวเข้ามาอยู่ในทีมรู้สึกสบายใจอบอุ่น
มาคินเองที่วันนี้เขาก็พกไดอารี่มาด้วยแต่ก็ต้องรีบคุยงานและอ่านสัญญาเพื่อต้องเซ็น ตั้งแต่วันที่ได้มาเขาก็ยังไม่เคย ได้เปิดมันออกมาอ่านสักครั้ง มาคินที่กลับมาบ้านก็โดนเสียงพ่อบ่น เอาเขามาเปรียบเทียบน้องชายเรื่องเรียนเพราะเขาเองเลือกที่จะเสียสละให้กับน้องได้เรียนที่ดี ๆ เขาเองก็ยอมหลีกทางโดยที่ไม่เรียนต่อ
"เกรดของเทอมที่แล้วของแกเป็นยังไงบ้างคิน" คุณมานัส พ่อของมาคินเอ่ยถามเขา
"เกรดของผมยังไม่ออกนะครับพ่อ "
"เกรดไม่ได้ออกหรือว่าแกไม่ได้ไปลงเรียนกันแน่คิน ฉันส่งให้แกเรียนแล้วทำไมแกถึงไปดรอปเรียน" พ่อที่ไปดูผลสอบลูกชายแต่ไม่พบรายชื่อลูกชายตนเอง มาคินที่สีหน้ารู้สึกผิด
"ผมขอโทษครับพ่อ ที่ผมไม่ได้บอก ผมแค่มีความฝันของผม"
"ความฝันของแก พวกเต้นกินรำกิน นักร้อง แทนที่จะไปเรียนหางานทำที่มั่นคง แล้วนี่เลือกอะไร" เสียงพ่อที่ดังขึ้นมา ปนตวาดทำเอาผู้เป็นแม่ที่อยู่ในครัวถึงกับเดินออกมา เพราะเกรงว่าพ่อจะพูดไม่ดีใส่มาคินอีก
"ผมให้สัญญาครับพ่อ ผมขอเดินตามความฝันของตัวเอง ผมจะให้พ่อแม่ปลดหนี้ให้หมด ให้น้องได้เรียนสูง ๆ
"ความฝันบ้า ๆ บอ ๆ ของเอาให้มันดูแลตัวแกได้ก็พอ " พ่อมองหน้ามาคินอีกครั้ง แววตารู้สึกผิดหวัง ก่อนจะเดินออกไป แม่และน้องชายที่รับรู้มาตลอด เข้ามานั่งข้าง ๆ พี่คนโตของบ้าน
"พี่ต้องทำให้พ่อเห็น แล้ววันนี้เป็นไงบ้างอะพี่" มาตินเอ่ยถามพี่ชาย ด้วยความอยากรู้ของเด็ก ๆ เขาเองเพิ่งจะอยู่ม.4
"พี่ไปเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่ายนั้นมาแล้ว สัญญาห้าปี พี่จะใช้เวลาช่วงนี้ทำงานเพลงออกมาเยอะ ๆ" มาคินที่คิดถึงความหมดหนี้ของครอบครัว
"ลูกก็ต้องทำให้คุณพ่อเห็นนะลูก แม่เอาใจช่วย"
"ผมด้วยพี่ผมเอาใจช่วย จะมีพี่ชายเป็นคนดังเสียที ผมจะได้เอาไปอวดเพื่อน ๆ ผมได้" มาตินกอดอกยืดตัวขึ้น จนโดนแม่เขกหัวเข้าให้หนึ่งที
"โห แม่ หรือแม่จะไม่อยากไปอวดพวกป้า ๆ บ้านเราจะมีซุปเปอร์สตาร์เลยนะแม่"
"นายนี่ก็เวอร์ตลอด ถ้าฉันมีเพลงมาแล้วมันไม่ดังหละ พี่จะพยายาม พี่อยากเห็นพ่อกับแม่สบายไม่ต้องเหนื่อย"
มาคินที่แยกตัวขึ้นมาที่ห้องนอนตนเอง ที่อีกฝั่งนึงของห้องจัดมุมสำหรับดีดกีตาร์เล่นดนตรี เขาจัดแจงวางเป้สะพายลงบนโต๊ะ พอดีกับที่สมุดไดอารี่เล่มเดิม เขาจึงหยิบออกมาจากเป้ ตอนแรกมาคินอยากจะไปอาบน้ำก่อน แต่พอเห็นสมุดเล่มนี้ หน้าปกของไดอารี่ช่างเหมือนกับเจ้าของเสียจริงเชียว เขานั่งมองปกสมุดคิดถึงหน้าน้องคนนั้นขึ้นมา แล้วอยากเปิดไดอารี่ของเธออ่าน หน้าแรก ประวัติคร่าว ๆ ของเธอ เขาอ่านไปยิ้มไปมันมีสิ่งที่เธอไม่ชอบ สิ่งที่ชอบ วันเกิด สี ดู ๆ แล้วเหมือนสมุดเฟรนชิป
พอเปิดไปอีกหน้า เป็นเหมือนบทเพลงที่ยังไม่มีดนตรี และเขายังไม่เคยได้ฟัง มาคินที่คิดขึ้นมาได้เขาจึงหันไปหยิบกีตาร์ตัวโปรดของตนเอง และทำการเปิดคอม เพื่อจะทำการไลฟ์สดเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ เมื่อหน้าคอมเข้ามาหน้าไลฟ์สดที่เขาชอบไลฟ์เป็นประจำ พอเข้ามาก็จัดการทักทายคนที่เข้ามาชมไลฟ์สดตนเอง ซึ่งคนฟังเป็นกลุ่มคนฟังเดิม ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่มาแซวหยอกมาคิน
"สวัสดีน้อง ๆ นะครับ มาฟังบทเพลงกันดีกว่า วันนี้พี่จะร้องไปเรื่อย ๆ อยากฟังเพลงอะไรก็พิมพ์ขอกันเข้ามา " มาคินหยิบเพลงของวงลาบานูนขึ้นมาร้อง พร้อมกับเสียงกีตาร์
" ดอกฟ้าแค่โน้มลงดิน สุดท้ายก็โบยบินคืนไปสู่แผ่นฟ้า อยากจะรั้งก็จนปัญญา หมดเวลาเสียที ที่ตรงนี้มีเพียงโคลนตม ถูกแล้วที่เธอไม่ควรจะอยู่ตรงนี้ ยอมเจ็บช้ำด้วยความยินดี โบกมือทั้งน้ำตา ขอบใจที่เสียเวลา ที่เคยโน้มลงมา ให้ฉันรักเธอ " คนดูที่เข้ามาชมในวันนี้ตอนแรกมีแค่เพียงหลักสิบ วันนี้ยอดคนมาเป็นพัน ร้อยดาวที่เห็นมาคินขึ้นไลฟ์สด เธอเองยังไม่ได้กดติดตามแต่แอบมองหน้าห้อง เธอกลับรู้สึกหลงน้ำเสียงของเขา เธอเองที่กดดูอยู่ด้านนอก สักพักเดียวก็ฟุ๊บ เธอเข้ามาอยู่ในไลฟ์ของเขา
"สวัสดีไอดีร้อยเคียงดาวด้วยนะครับ" มาคินที่อ่านชื่อตามที่เห็นเขาเองที่ยังไม่ได้เอะใจว่าเป็นใคร แต่คนที่สะดุ้งในเสียงเรียกกลับเป็นร้อยดาว
" จะเอ่ยชื่อเราขึ้นมาทำไมนะ" ร้อยดาวที่รู้ตัว เธอจึงไปตั้งค่าเพื่อเป็นการซ่อนยูสของตนเอง พอกดซ่อนยูส เธอเองวางนิ้วมือพลาดไปโดนปุ่มกดถูกใจขึ้นมาหลายที มันขึ้นชื่อ
"ร้อยเคียงดาว กดถูกใจ Live♥️"
"ขอบคุณนะครับที่เข้ามากดถูกใจ ร้อยเคียงดาว ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ" เสียงมาคินที่ขอให้เธอกดติดตาม
"ให้กดติดตามคุณก็จะติดตามฉันกลับนะสิ ไม่มีทาง" เธอเถียงกลับออกมาแต่เขาไม่ได้ยิน เธอเลยกดออกจากไลฟ์ทันที
บทเพลง เพลงหนึ่งที่ดังขึ้นมาโดยที่เชาเองนั่งร้องและเกลาทำนองดนตรีด้วยความรู้สึกของตนเองอีกครั้ง ร้อยดาวถึงกับชะงักฟังเพลงที่เขาร้อง
"บทเพลงของฉัน ทำไมนายคนนี้เอามาร้อง" ร้อยดาวที่สงสัย จึงกลับเข้ามาฟังอีกครั้ง มาคินที่กำลังไล่โน๊ตดนตรีให้มันเข้ากับเนื้อเพลงที่เขาได้มา
"ในคืนที่เหงา สายลมพัดผ่านมา
เสียงเพลงดังลอยไป ในใจยังมีเธอ ความรักที่จาก รู้ไหมยังรออยู่
เหมือนว่าวันนี้ หัวใจยังหวังคอยเธอ" มาคินที่ร้องเพลงในไดอารี่
"คุณร้องเพลงของฉัน" คอมเม้นท์หนึ่งคอมเม้นท์ที่เข้ามาแสดงความเป็นเจ้าของ มาคินที่อ่านเม้นท์แล้วชะงักไป อีกสักพักก็ถามกลับ
"แค่สายลมพัดกลับมา ความรักที่เคยมี รอเธออยู่ที่นี่ ให้เรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันนั้นที่เราเคยรักกัน" ร้อยดาวที่พิมพ์เนื้อร้องท่อนถัดไป ได้ตรงตามสมุดไดอารี่เป๊ะ ๆ มาคินเองที่รู้แล้วว่าเธอเป็นเจ้าของบทเพลงนี้จริง ๆ
"คุณกดคำขอขึ้นมาร้องเพลงนี้กับผมจนจบสิ เพลงคุณเพราะนะ ผมเห็นว่ามันไม่มีดนตรี" มาคินยื่นข้อเสนอกับเธอ แต่คำเชิญของเขาถูกปฏิเสธลง
"ไม่ค่ะฉันไม่ชอบร้องเพลง ฉัน..." เธอชอบแต่งเพลง แต่เธอไม่ชอบร้องเพราะเสียงของเธอทำให้เธอไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมา
"ถ้างั้นผมขออนุญาตกดติดตามคุณ แล้วผมจะนำเพลงของคุณ มาร้องทุก ๆ วัน พร้อมด้วยทำนองเพลงที่ผมจะใส่เพิ่มเข้าไป"
"คุณไม่มีสิทธิ์มาใส่อะไรในเพลงของฉันนะมาคิน มันคือเพลงของฉัน" การพิมพ์โต้ตอบกับคนพูด
"คุณจดลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือยัง ถึงว่าเพลงของคุณ แล้วผมห้ามดัดแปลง"
"เอ่อ...ฉันยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น เพราะฉันเป็นนักเขียนเพลง แต่งเพลงขายคนที่ซื้อเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ ในความเป็นเจ้าของ " ร้อยดาวที่ตอบตามความจริง
"งั้นเพลงนี้ผมสามารถนำมาร้องได้นะ ผมจะใส่ทำนองดนตรีให้จนจบ" มาคินที่ร้องท่อนแรกใหม่ และเกลาดนตรีไปเรื่อย ๆ อีกครั้ง
ร้อยดาวเองที่รู้สึกเหมือนโดนแย่งผลงานของตนเองไปต่อหน้าต่อตา เหมือนโดนฉกผลงานไปซึ่ง ๆ หน้า
"ฉันขอสมุดไดอารี่ของฉันคืน สมุดเล่มนี้มีชื่อ และประวัติของฉัน" ร้อยดาวที่พิมพ์ขอสมุดของเธอไปตรง ๆ
"อีก 3 วันผมนัดพี่โปเต้เข้าไปในค่ายเพลง ผมน่าจะแต่งทำนองเรียบเรียงให้จนจบ คุณไปรับได้ที่ค่ายนะครับ" มาคินเองที่ไม่คิดว่าจะโดนทวงของต่อหน้าต่อตา ท่ามกลางคนดูหลายร้อยคน เหมือนเขาดูเป็นคนไม่ดียังไงไม่รู้ เขาเลยต้องตอบที่จะคืนให้เธอ
" นายนี่แย่สุด ๆ เอาของคนอื่นไปแล้วยังจะมาต่อรองอีก " ร้อยดาวรู้สึกไม่ชอบนายมาคินขึ้นมาทันที
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ
วันซ้อมใหญ่เปิดเวที 1 ปีคู่จิ้นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดกลาง ถูกจัดไฟรันระบบเต็มสูบเป็นรอบ ซ้อมใหญ่ โปสเตอร์ข้างเวทีติดป้ายชัดเจน “1st Year Anniversary คู่จิ้นรักร้อยดาว x มาคิน”ร้อยดาวสวมเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนส์ขาสั้นง่าย ๆแต่บนเวที เธอเหมือนคนละคน จับไมค์ด้วยมือที่เคยสั่นแต่วันนี้กลับมั่นคงเสียงหัวเราะของทีมซาวด์ ทีมแดนซ์ ทีมไฟดังระหว่างพักเบรก โปเต้ยืนกอดอกดูงานเงียบ ๆ ส่วนสงครามนั่งหลังบอร์ดควบคุมไฟด้วยแววตาเหมือนพ่อที่ภาคภูมิใจในลูกศิษย์มาคินยืนอยู่ข้างเธอในชุดสบาย ๆ เหมือนกัน เขาหันมาดึงสายกีตาร์ปรับจูนให้แฟนสาวเอง มือเขากับมือเธอสอดกันแว็บหนึ่ง“พร้อมมั้ยดาว” เสียงมาคินทุ้มนุ่ม ไม่ได้ถามแบบโปรดิวเซอร์ แต่ถามในฐานะคนที่อยู่ข้างเธอทุกครั้งร้อยดาวพยักหน้า เหงื่อผุดเต็มหน้าผากแต่รอยยิ้มกลับสดใส เธอยกไมค์ขึ้น ร้องท่อนฮุคเพลงเก่าที่เธอเคยเขียนไว้ ครั้งนี้ เธอร้องในชื่อของเธอจริง ๆเสียงกลองซ้อมรัวตามจังหวะเบา ๆ พวกเด็กฝึกงานที่ยืนดูกันอยู่ตรงขอบเวทีโห่เชียร์กันเบา ๆ อ๊อฟกับก๊อปเปอร์ที่มาซ้อมแดนซ์เซ็ตใหญ่ทีหลังยังส่งเสียงแซว“พี่ดาวแม่งอย่างเท่! ฮู้วววว”“พี่มาคินอย่าเขินดิ๊! หยิกแก
นามแฝงในเพลงมือของสงครามที่ยื่นให้ร้อยดาวเดินเข้ามาในห้องโปรดิวเซอร์ของค่ายที่เธอคุ้นเคยดี แต่วันนี้บรรยากาศกลับอึดอัดจนลมหายใจแทบขาดห้วงโปเต้นั่งข้างเฮียสงครามเหมือนมือขวาที่เฝ้ารอดูว่าบทสนทนานี้จะไปจบตรงไหนบนโต๊ะไม้สีเข้ม เอกสารหลายแผ่นถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไฟสปอตไลท์ในห้องประชุมสว่างพอจะเห็นเงาหน้าร้อยดาวที่ซีดเผือดและมือเล็กที่กำชายเสื้อแน่น สงครามวางปากกาลงบนแฟ้มเสียงเบา ดวงตาคมใต้แสงไฟสบตาเธอโดยไม่กระพริบ“ฉันได้ยินมาว่ามีคนกำลังจะเอาเพลงเก่ามาขายซ้ำ ใช่เพลงเดียวกับที่เธอเคยเขียนไว้หรือเปล่า เพลงที่เธอใช้นามแฝงตอนนั้น” เสียงเขาราบเรียบ เหมือนครูใหญ่เรียกเด็กนักเรียนมาคุย แต่ในความนิ่งนั้นกลับกดดันเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอกร้อยดาว ร้อยดาวหลบตา ปลายนิ้วเธอขยำชายกางเกงจนยับยู่ยี่ เธอพยายามจะตอบ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับแหบแห้ง“ค่ะ” เพียงคำเดียวก็พอให้โปเต้ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เห็นร่องรอยเจ็บเก่าที่เธอเก็บไว้มานานสงครามพยักหน้าช้า ๆ เขาเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสาร เผยให้เห็นสำเนาสัญญาเก่าที่มีตราประทับชื่อกันจ์ชัดเจน“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่ากันจ์มันทำอะไรไว้”“มันไม่ใช่แค่เพล
อดีตของร้อยดาวเบื้องหลังเพลงที่ไม่มีชื่อเธอเสียงลมจากแอร์ตัวเก่าดังหึ่ง ๆ ในห้องซ้อมส่วนตัวที่ร้อยดาวใช้ฝึกทุกวัน คืนนี้เธอนั่งอยู่ตรงมุมเดิมที่ใกล้เปียโนไฟฟ้ามากที่สุด มือบางยังคงถือโน้ตเพลงเก่าแผ่นเดิมไว้แน่น ปลายนิ้วที่เคยแต่งทำนองนั้นสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังรื้อความทรงจำที่เธอพยายามลืมมาตลอดร้อยดาวถอนหายใจ ลมหายใจร้อนวาบเพราะเพิ่งร้องเพลงใหม่กับมาคินจนคอแห้ง แต่สิ่งที่ติดอยู่ในหัวเธอกลับไม่ใช่เพลงใหม่ ไม่ใช่ท่อนฮุคหวาน ๆ ที่เขาเพิ่งชมว่าเพราะที่สุดตั้งแต่แต่งมา กลับเป็นประโยคท่อนหนึ่งในสมุดโน้ตแผ่นนี้ที่เธอแต่งมันด้วยลายมือสั่น ๆ ในวันที่ยังอายุไม่ถึงยี่สิบ“ฉันยังจำเนื้อเพลงได้ทุกคำเลยมาคิน แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ร้องมัน" เสียงเธอเบาราวกับกลัวว่าลมแอร์จะพัดมันหายไปมาคินหันมามองแฟนสาวตรงหน้า เขานั่งพิงขอบเปียโน ปล่อยให้เสียงกีตาร์โปร่งที่เพิ่งวางไว้เงียบสนิทแสงไฟสีส้มอ่อนสะท้อนในดวงตาเขาอย่างระมัดระวังเขารู้ดีว่าร้อยดาวรักทุกคำ ทุกท่อน ทุกเมโลดี้ในสมุดโน้ตนั้นมากแค่ไหน เขาเคยเห็นเธอลงแรง แก้คำ แก้คอร์ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยเห็นเธอพูดถึงมันด้วยแววตาเจ็บเท่านี้มาก่อน“ทำไมล่ะดาว นั
ถูกมือกาวย้อนกลับ1645 คำทางเข้าคอนโดของยิปซี ค่อนข้างมืด ไม่มีผู้คนมากนัก“เฮ้ แม่นางเอก เงินฉันอยู่ไหน”เสียงแห้ง ๆ ของเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่โผล่มาจากเงามืดหลังรถตู้จอดส่งของ ผมมันเยิ้มกลิ่นกาวและบุหรี่คลุ้งลอยปะทะ จับคอเสื้อยิปซีทันทีที่เธอเดินเลี่ยงออกมาจากฝูงแฟนคลับ ไฟลานจอดรถสว่างเป็นจุด ๆ แต่กลับไม่มีใครสังเกตว่ามีคนกำลังลงไม้ลงมือ“อย่ามาโวย แกยังไม่ได้ทำงานให้ฉันด้วยซ้ำ จะเอาเงินส่วนที่เหลือไปทำเหี้ยอะไร”ยิปซีแหวเสียงสูง ใบหน้าแต่งจัดแต่เหงื่อซึม เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปคลุมด้วยโค้ทยาว พยายามแกะมือมันออกแต่โดนบีบแน่นกว่าเดิม“ฉันติดคุกเพราะแกนะเว้ย แกเป็นคนจ้าง ถ้าฉันไม่ได้ตังค์ แกก็อย่าหวังจะได้อยู่ดี ๆ”เสียงเด็กกาวกระแทกพร้อมฟันเหลือง มันหัวเราะหยันเธอเบี่ยงหน้าเลี่ยงกลิ่นกาวที่พ่นรดอยู่ใกล้“อย่ามาขู่ฉันนะ ไอ้ขี้ยา”ยิปซีฟาดเล็บเข้าหน้ามันเต็มแรง เสียงเพี้ยะสะท้อนในลานจอด รถขนเครื่องเสียงสั่นเบา ๆ เหมือนร่วมเป็นพยาน“อีดอก” เด็กกาวสบถลั่น ผลักเธอไปกระแทกผนังคอนกรีตด้านหลังเวที เศษกระดาษโปสเตอร์คอนร่วงปลิวลงเท้าเธอ“สภาพแกตอนนี้ก็เหมือนหมาข้างถนนแล้วล่ะ ยัยนางเอกตกกระป๋อง”เด็