และแล้ววันที่ต้องมาเอาสมุดคืนจากมาคินจริงๆ ก็มาถึง เขาเองต้องมาคุยเรื่องผลงานเพลง เพลงแรกของตนเอง ส่วนร้อยดาวต้องมาทำงานเขียนและแก้บทเพลงที่พี่โปเต้มี เพราะพี่โปเต้บอกว่างานบางอันเหมือนเนื้อเพลงไม่สมบูรณ์ วันนี้ทั้งสองคนมาเจอกันอีกครั้งในห้องทำงานของพี่โปเต้
"พี่โปเต้ครับ ผมมีบทเพลงจะนำเสนอครับ ผมได้เนื้อเพลงมาโดยบังเอิญเหมือนมีใครเสกลงมาจากฟ้าเลยพี่" มาคินที่พูดไปอมยิ้มไป แต่อีกคนใบหน้าบอกบุญไม่รับเอาเสียเลย
"เพลงก็เพลงของเราแท้ๆ กลับโดนคนอื่นเอาไปต่อหน้าต่อตา" ร้อยดาวบ่นอุบอิบตามมา แต่อีกคนกลับได้ยินเสียงของเธอ
"เราทำเพลงเป็นด้วยหรอ แบบนี้พี่ว่าดีเลยทีเดียว เก่งรอบด้าน แบบนี้พี่ว่าอนาคตไปได้ไกล" โปเต้ชมมาคิน จนร้อยดาว ทำหน้าเหล่ตามองบน
"ร้อยดาว ถ้าต่อไปนี้มีงานต่างๆ ของมาคิน เธอไปกับเขาด้วยนะ พี่ว่าเธอมากีตาร์มาพร้อมๆ กัน จะได้เริ่มต้นทำเพลง เดินสาย ออกคอนเสิร์ตไปด้วยกัน" โปเต้ที่อยากให้ร้อยดาว กับ มาคินร่วมงานกัน
"แต่หนูเป็นนักแต่งเพลง ทำไมหนูต้องไปดูแลศิลปินที่ยังไม่มีผลงานด้วยหละคะพี่โปเต้"
"ไม่นานหรอกเขาจะมีผลงาน ว่าแต่ไหนหละเพลง ลองเข้าห้องอัดแล้วเล่นสด ๆ ร้องเลยไหม" พี่โปเต้อยากชมผลงานเพลงที่มาคินกล่าวถึง หนึ่งในความฝันของเด็กชายมาคินคือการเข้าห้องอัดเพลง
"ผมสามารถทำได้หรือครับ" มาคินที่ยังไม่มั่นใจ
"ที่นี่โซนของฉัน พลาดอะไรฉันรับผิดชอบเอง" โปเต้บอกน้องๆ ทั้งสองคน
มาคินเดินเข้าไปในห้องซ้อมเพลง ที่มีอุปกรณ์ในการซ้อมครบทุกอย่าง เขาจึงเลือกหยิบกีตาร์โปร่ง เสียบสายอะไรเข้าที่ดี สายไมค์ที่ถูกเสียบตาม ๆ กันไป เสียงกีตาร์โปร่งที่ดังขึ้นมาเบา ๆ เพื่อไล่เสียงโน๊ตดนตรี จนมาช่วงอินโทร
"แค่สายลมพัดกลับมา ความรักที่เคยมี รอเธออยู่ที่นี่ ให้เรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันนั้นที่เราเคยรักกัน ความทรงจำยังสดใสในหัวใจ ทุกวันฉันนั่งรอ ที่จะเห็นหน้าเธอ ถ้าเธอได้ยินเสียง ความรักที่เรียกหา อยากให้สายลม พัดรักกลับคืนมา" เสียงร้องที่ละมุนหูของมาคิน ทำเอาโปเต้ที่ฟังรู้สึกชอบขึ้นมา แต่คงต้องปรับดนตรี
" แค่สายลมพัดกลับมา ความรักที่เคยมี รอเธออยู่ที่นี่ ให้เรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันนั้นที่เราเคยรักกัน ถ้าบนฟ้ายังมีดาว ที่ส่องแสงสวยงาม ให้มันเป็นสัญญาณ บอกเธอให้รับรู้ ในใจของฉัน ยังมีเพียงเธอคนเดียว รักเราจะกลับคืนมา เหมือนที่เคย "
"แค่สายลมพัดกลับมา ความรักที่เคยมี รอเธออยู่ที่นี่ ให้เรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันนั้นที่เราเคยรักกัน ให้รักกลับคืน เหมือนเดิม
ให้สายลมพัดพา ความรักกลับมาให้เราได้รักกัน เหมือนเมื่อวันก่อนสายลมจะพาใจเรากลับคืนมา"
เสียงร้องของมาวินที่ดัง แต่มีอีกคนที่จำเนื้อร้องได้ ร้องขึ้นคลอตามมาวิน เสียงร้องที่ดังพร้อมๆ กันทำเอาโปเต้อยากจับให้น้องทั้งสองคนมาลองทำเพลงด้วยกัน ร้อยดาวที่เสียงร้องดูเป็นธรรมชาติ เสียงใสๆ ตามฉบับของร้อยดาว น้ำเสียงแหบ ๆ นิดของมาวิน แต่โปเต้คงต้องนำเสนอเฮียครามก่อน
"ต้องเอามาทำดนตรี ให้มันละเอียดกว่านี้อีกนิดนึง พี่ชอบร้องสไตล์น้ำเสียงเรา
"หึ" น้ำเสียงประชดของร้อยดาว และเธอก็ขอตัวมาเข้าห้องน้ำ
ร้อยดาวที่ขอตัวมาเข้าห้องน้ำ เธอที่เดินเข้าห้องน้ำไป และทำธุระส่วนตัวเสร็จ เธอออกมาล้างมือของตนเอง พอดีกับที่มีอีกคนเขาล้างหน้าตรงก๊อกน้ำหน้ากระจกพอดี เธอเลยใช้อันที่ว่างล้างมือ และก็มีผ้าสีขาวผืนหนึ่งเธอเลยหยิบมาเช็ดมือตนเองจนแห้ง หญิงสาวที่ล้างหน้าเสร็จพอดี เธอแค่รู้สึกว่ามีคนล้างมือข้าง ๆ
"ฉันขอผ้าเช็ดหน้าหน่อย" ยิปซีที่ยื่นมือมาขอผ้าเช็ดหน้าตอนนั้นโฟมล้างหน้าเข้าไปในตาของเธอ เพราะเธอคิดว่าร้อยดาวคือผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ร้อยดาวที่มองซ้ายมองขวาตามมือที่เธอชี้ และเห็นผ้าผืนที่เธอนำไปใช้เช็ดมือ แค่ผืนเดียวเธอเลยหยิบส่งไปให้เธอ ยิปซีที่นำผ้าผืนนั้นมาเช็ดหน้าทันที โดยที่ตนเองไม่ทันได้มองว่าเป็นผ้าผืนไหนกันแน่ ยิปซีเองที่รู้สึกหายเคืองตาแล้ว เธอลืมตาขึ้นมา ในมือทั้งสองข้างกำลังกางผ้าในมือออก เพื่อจะเช็ดหยอดน้ำบนหน้าที่เหลือ อีกครั้งแต่เพราะผ้าผืนดังกล่าวมันไม่ใช่ของเธอ
"นี่พี่หยิบผ้าอะไรมาให้ยิปเช็ดหน้าค่ะ" ยิปซีกำลังหันไปต่อว่า ร้อยดาวเองก็ตกใจที่เห็นดาราสาวในระยะประชิด
" ฉันคิดว่าผ้าที่วางตรงนี้เป็นผ้าของคุณนะคะ" ร้อยดาวที่เกรงว่าดาราสาวจะเข้าใจเธอผิด และเป็นไปแล้วเธอกำลังเหวี่ยงใส่
"นี่เธอเอาผ้าขี้ริ้วมาให้ฉันหรอ " ยิปซีเขวี้ยงผ้าผืนนั้นลงตรงหน้าของร้อยดาว
"อ้าว คุณก็ฉันไม่ทราบนี่ค่ะว่าผ้าผืนไหนของคุณ ที่เห็นตรงนี้มีแค่ผืนนี้ผืนเดียว ฉันก็คิดว่ามันเป็นของคุณนะสิ " ร้อยดาวที่โต้กลับโดยไม่ได้สนใจว่าเธอจะเป็นดาราดัง หรือว่าเป็นนักแสดงแนวหน้าเลย
"นี่เธอกล้าเถียงฉันเลยหรอ เธอไม่รู้จักฉันหรือยังไง" ยิปซีโวยวายใส่เธอ
" ถ้าถามว่ารู้จักไหม ก็พอรู้จักค่ะ แค่ไม่ได้ติดตามและก็ไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่ " ร้อยดาวเองที่ไม่ได้ติดตามจริง ๆ เธอเลยตอบไปตรง ๆ
"นี่เธอหลุดมาจากยุคไหน ถึงไม่ติดตาม ว่าฉันเป็นใคร" ยิปซีเย้ยหยันมองเธอหัวจรดปลายเท้า
"ฉันแค่สนใจ ในสิ่งที่มันมีประโยชน์ มีสาระเท่านั้นนะคะ อะไรที่ดูปลอม ๆ ฉันมักจะมองข้าม ขอตัวก่อนนะคะ " ร้อยดาวพูดจบหันหลังกลับจะเดินออกไป แต่โดนยิปซีแซะอีกครั้ง
"ใครปล่อยให้เด็กกะโปโลแบบนี้เข้ามาได้กัน พวกหลังเขาหรือเปล่า ที่บ้านเธอมีทีวีไหม" ยิปซีแซะไม่เลิกแต่ร้อยดาวที่ไม่อยากฟังคำพูดไม่ดีก็รีบเดินออกมา ชนเข้ากับผู้จัดการส่วนตัวของยิปซี ที่เข้ามาดูเพราะได้ยินเสียงของยิปซีเหมือนจะอาละวาดใครสักคน
"มีอะไรคะ คุณน้อง โวยวายอะไรคะ" พี่เอเอเข้ามาในห้องน้ำ แล้วล็อกประตูห้องน้ำด้านหน้า
"ก็คนเมื่อกี้เอาผ้าขี้ริ้วมาให้ยิปซีเช็ดหน้า ดูหน้าหนูสิพี่เอเอ มันจะเป็นสิวไหมคะ" ยิปซีล้างหน้าแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าของเธอเองมาเช็ด หน้าอีก
"แล้วเธอมาโวยวายในที่สาธารณะแบบนี้ได้ยังไงคะคุณน้อง" ว่าแล้วเอเอตีเข้าที่แขนของยิปซี
"ก็มันน่าโวยนี่ค่ะ ดูสิคะเนี่ย ผ้าเช็ดอ่างเช็ดอะไรสารพัด หน้ายิปพังขึ้นมา"
"แต่คุณน้องจะมาวีน ฉ่ำ ๆ แบบนี้ไม่ได้ เราต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนเองนะคะคุณน้อง" เอเอที่คอยปรามน้อง ยิปซีเองยังกระฟัดกระเฟียตใส่
ร้อยดาวเดินกลับมาที่ห้องทำเพลงของพี่โปเต้อีกครั้ง ซึ่งในห้องเหลือแค่มาคินเท่านั้น เธอเลยเดินเข้ามาหาเขา ยืนจ้องมองสมุดไดอารี่ของตนเอง มาคินที่กำลังร้องเพลง เพราะอีกวันเขาต้องมาเข้าห้องอัดเพื่อทำเพลง ต้องมีเพลงเขาเก็บข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋า ร้อยดาวที่เห็นเขาจะเอาสมุดของเธอเก็บเข้าไปด้วยเลยท้วง
"อันนี้ของฉัน คุณควรจะคืนฉันนะ มาคิน" เธอเอ่ยพร้อมกับชี้มือไปทางไดอารี่ของเธอ
"อ๋อ เออ ผมลืม คุณะจะกลับหรือยัง ผมจะได้ไปส่ง"
"ฉันจะมาเอาของจากคุณ คุณบอกว่าจะคืนไงหละ แล้วทำไมถึงไม่ยอมคืน จะผิดคำพูดหรอไง"
"ไม่ได้จะผิดคำพูด เราน่าจะไปทางเดียวกันไงครับ ผมค่อยคืนให้ตอนถึงบ้านคุณ" มาคินที่แอบสนใจในตัวร้อยดาว เขาเลยอยากจะทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น เริ่มด้วยจากการที่เขาต้องชวนเธอพูดคุย ทำดีกับเธอเอาไว้มาก ๆ เขาเดินออกมาเลยโดยที่เธอเองก็ลืม เพราะต้องการอยากได้ไดอารี่คืน เขาชวนเธอพูดคุยจนมาถึงรถของเขา
"กลับด้วยกันนะคุณ เราต้องรู้จักกันเอาไว้มาก ๆ เพราะเราต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน คู่บัดดี้กันนะ" มาคินที่เอาพี่โปเต้มาแอบอ้าง ในมือก็ชูไดอารี่โบกไปมา จนร้อยดาวเองต้องยอมที่จะขึ้นรถมากับเขาด้วย พอเธอขึ้นมาบนรถของมาคิน เขารอให้เธอคาดเข็มขัดด้วยแต่เธอไม่มีท่าทีจะทำ
"ขอโทษนะครับ" มาคินเอ่ยคำขอโทษ เอี้ยวตัวมายังสายเข็มขัดนิรภัยของเธอ กลิ่นหอมบนตัวของมาคิน กับกลิ่นแป้งเด็กอ่อน ๆ บนตัวร้อยดาวที่เขาและเธอใกล้กัน ทำเอาร้อยดาวแทบจะหยุดหายใจ นั่งนิ่ง มาคินเองแอบอมยิ้มเล็ก ๆ และเอาสายนิรภัยดึงมาเข้ายังที่ล็อก
"บอกกันดี ๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องยื่นหน้ามาใกล้แบบนี้เลย " หลังจากที่เขาทำเธอตกอยู่ในความกระชั้นชิด เขากลับมานั่งที่เดิม
"อย่าไปทำร่วงหายไปไหนอีกนะคุณ" เขาจับเธอแบมือออก วางไดอารี่ลงบนมือน้อย ๆ ของเธอเบา ๆ
"อืม"
"คนอุตส่าห์เก็บให้ขอบคุณสักคำก็ยังไม่มีเลย" มาคินเอ่ยตัดพ้อ นั่งพิงเบาะฝั่งตนเอง
"คุณขโมยของฉันต่างหากมาคิน ยังแอบเอาเพลงของฉันไปร้องอีก ฉันต่างหากที่ต้องทวงค่าเพลงนะ"
"หืม ไป ๆ บ้านคุณไปทางไหนผมไปส่งบ้านเอง ถือเป็นค่าเพลงแล้วกัน เพลงยังไม่ดังเลย"
"บ้านฉัน แถวอ่อนนุช คุณผ่านทางนั้นหรอ"
"ไม่อะ แต่ไปส่งคุณได้อยู่แล้ว"
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ
วันซ้อมใหญ่เปิดเวที 1 ปีคู่จิ้นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดกลาง ถูกจัดไฟรันระบบเต็มสูบเป็นรอบ ซ้อมใหญ่ โปสเตอร์ข้างเวทีติดป้ายชัดเจน “1st Year Anniversary คู่จิ้นรักร้อยดาว x มาคิน”ร้อยดาวสวมเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนส์ขาสั้นง่าย ๆแต่บนเวที เธอเหมือนคนละคน จับไมค์ด้วยมือที่เคยสั่นแต่วันนี้กลับมั่นคงเสียงหัวเราะของทีมซาวด์ ทีมแดนซ์ ทีมไฟดังระหว่างพักเบรก โปเต้ยืนกอดอกดูงานเงียบ ๆ ส่วนสงครามนั่งหลังบอร์ดควบคุมไฟด้วยแววตาเหมือนพ่อที่ภาคภูมิใจในลูกศิษย์มาคินยืนอยู่ข้างเธอในชุดสบาย ๆ เหมือนกัน เขาหันมาดึงสายกีตาร์ปรับจูนให้แฟนสาวเอง มือเขากับมือเธอสอดกันแว็บหนึ่ง“พร้อมมั้ยดาว” เสียงมาคินทุ้มนุ่ม ไม่ได้ถามแบบโปรดิวเซอร์ แต่ถามในฐานะคนที่อยู่ข้างเธอทุกครั้งร้อยดาวพยักหน้า เหงื่อผุดเต็มหน้าผากแต่รอยยิ้มกลับสดใส เธอยกไมค์ขึ้น ร้องท่อนฮุคเพลงเก่าที่เธอเคยเขียนไว้ ครั้งนี้ เธอร้องในชื่อของเธอจริง ๆเสียงกลองซ้อมรัวตามจังหวะเบา ๆ พวกเด็กฝึกงานที่ยืนดูกันอยู่ตรงขอบเวทีโห่เชียร์กันเบา ๆ อ๊อฟกับก๊อปเปอร์ที่มาซ้อมแดนซ์เซ็ตใหญ่ทีหลังยังส่งเสียงแซว“พี่ดาวแม่งอย่างเท่! ฮู้วววว”“พี่มาคินอย่าเขินดิ๊! หยิกแก
นามแฝงในเพลงมือของสงครามที่ยื่นให้ร้อยดาวเดินเข้ามาในห้องโปรดิวเซอร์ของค่ายที่เธอคุ้นเคยดี แต่วันนี้บรรยากาศกลับอึดอัดจนลมหายใจแทบขาดห้วงโปเต้นั่งข้างเฮียสงครามเหมือนมือขวาที่เฝ้ารอดูว่าบทสนทนานี้จะไปจบตรงไหนบนโต๊ะไม้สีเข้ม เอกสารหลายแผ่นถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไฟสปอตไลท์ในห้องประชุมสว่างพอจะเห็นเงาหน้าร้อยดาวที่ซีดเผือดและมือเล็กที่กำชายเสื้อแน่น สงครามวางปากกาลงบนแฟ้มเสียงเบา ดวงตาคมใต้แสงไฟสบตาเธอโดยไม่กระพริบ“ฉันได้ยินมาว่ามีคนกำลังจะเอาเพลงเก่ามาขายซ้ำ ใช่เพลงเดียวกับที่เธอเคยเขียนไว้หรือเปล่า เพลงที่เธอใช้นามแฝงตอนนั้น” เสียงเขาราบเรียบ เหมือนครูใหญ่เรียกเด็กนักเรียนมาคุย แต่ในความนิ่งนั้นกลับกดดันเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอกร้อยดาว ร้อยดาวหลบตา ปลายนิ้วเธอขยำชายกางเกงจนยับยู่ยี่ เธอพยายามจะตอบ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับแหบแห้ง“ค่ะ” เพียงคำเดียวก็พอให้โปเต้ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เห็นร่องรอยเจ็บเก่าที่เธอเก็บไว้มานานสงครามพยักหน้าช้า ๆ เขาเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสาร เผยให้เห็นสำเนาสัญญาเก่าที่มีตราประทับชื่อกันจ์ชัดเจน“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่ากันจ์มันทำอะไรไว้”“มันไม่ใช่แค่เพล
อดีตของร้อยดาวเบื้องหลังเพลงที่ไม่มีชื่อเธอเสียงลมจากแอร์ตัวเก่าดังหึ่ง ๆ ในห้องซ้อมส่วนตัวที่ร้อยดาวใช้ฝึกทุกวัน คืนนี้เธอนั่งอยู่ตรงมุมเดิมที่ใกล้เปียโนไฟฟ้ามากที่สุด มือบางยังคงถือโน้ตเพลงเก่าแผ่นเดิมไว้แน่น ปลายนิ้วที่เคยแต่งทำนองนั้นสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังรื้อความทรงจำที่เธอพยายามลืมมาตลอดร้อยดาวถอนหายใจ ลมหายใจร้อนวาบเพราะเพิ่งร้องเพลงใหม่กับมาคินจนคอแห้ง แต่สิ่งที่ติดอยู่ในหัวเธอกลับไม่ใช่เพลงใหม่ ไม่ใช่ท่อนฮุคหวาน ๆ ที่เขาเพิ่งชมว่าเพราะที่สุดตั้งแต่แต่งมา กลับเป็นประโยคท่อนหนึ่งในสมุดโน้ตแผ่นนี้ที่เธอแต่งมันด้วยลายมือสั่น ๆ ในวันที่ยังอายุไม่ถึงยี่สิบ“ฉันยังจำเนื้อเพลงได้ทุกคำเลยมาคิน แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ร้องมัน" เสียงเธอเบาราวกับกลัวว่าลมแอร์จะพัดมันหายไปมาคินหันมามองแฟนสาวตรงหน้า เขานั่งพิงขอบเปียโน ปล่อยให้เสียงกีตาร์โปร่งที่เพิ่งวางไว้เงียบสนิทแสงไฟสีส้มอ่อนสะท้อนในดวงตาเขาอย่างระมัดระวังเขารู้ดีว่าร้อยดาวรักทุกคำ ทุกท่อน ทุกเมโลดี้ในสมุดโน้ตนั้นมากแค่ไหน เขาเคยเห็นเธอลงแรง แก้คำ แก้คอร์ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยเห็นเธอพูดถึงมันด้วยแววตาเจ็บเท่านี้มาก่อน“ทำไมล่ะดาว นั
ถูกมือกาวย้อนกลับ1645 คำทางเข้าคอนโดของยิปซี ค่อนข้างมืด ไม่มีผู้คนมากนัก“เฮ้ แม่นางเอก เงินฉันอยู่ไหน”เสียงแห้ง ๆ ของเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่โผล่มาจากเงามืดหลังรถตู้จอดส่งของ ผมมันเยิ้มกลิ่นกาวและบุหรี่คลุ้งลอยปะทะ จับคอเสื้อยิปซีทันทีที่เธอเดินเลี่ยงออกมาจากฝูงแฟนคลับ ไฟลานจอดรถสว่างเป็นจุด ๆ แต่กลับไม่มีใครสังเกตว่ามีคนกำลังลงไม้ลงมือ“อย่ามาโวย แกยังไม่ได้ทำงานให้ฉันด้วยซ้ำ จะเอาเงินส่วนที่เหลือไปทำเหี้ยอะไร”ยิปซีแหวเสียงสูง ใบหน้าแต่งจัดแต่เหงื่อซึม เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปคลุมด้วยโค้ทยาว พยายามแกะมือมันออกแต่โดนบีบแน่นกว่าเดิม“ฉันติดคุกเพราะแกนะเว้ย แกเป็นคนจ้าง ถ้าฉันไม่ได้ตังค์ แกก็อย่าหวังจะได้อยู่ดี ๆ”เสียงเด็กกาวกระแทกพร้อมฟันเหลือง มันหัวเราะหยันเธอเบี่ยงหน้าเลี่ยงกลิ่นกาวที่พ่นรดอยู่ใกล้“อย่ามาขู่ฉันนะ ไอ้ขี้ยา”ยิปซีฟาดเล็บเข้าหน้ามันเต็มแรง เสียงเพี้ยะสะท้อนในลานจอด รถขนเครื่องเสียงสั่นเบา ๆ เหมือนร่วมเป็นพยาน“อีดอก” เด็กกาวสบถลั่น ผลักเธอไปกระแทกผนังคอนกรีตด้านหลังเวที เศษกระดาษโปสเตอร์คอนร่วงปลิวลงเท้าเธอ“สภาพแกตอนนี้ก็เหมือนหมาข้างถนนแล้วล่ะ ยัยนางเอกตกกระป๋อง”เด็