LOGINและแล้ววันที่ต้องมาเอาสมุดคืนจากมาคินจริงๆ ก็มาถึง เขาเองต้องมาคุยเรื่องผลงานเพลง เพลงแรกของตนเอง ส่วนร้อยดาวต้องมาทำงานเขียนและแก้บทเพลงที่พี่โปเต้มี เพราะพี่โปเต้บอกว่างานบางอันเหมือนเนื้อเพลงไม่สมบูรณ์ วันนี้ทั้งสองคนมาเจอกันอีกครั้งในห้องทำงานของพี่โปเต้
"พี่โปเต้ครับ ผมมีบทเพลงจะนำเสนอครับ ผมได้เนื้อเพลงมาโดยบังเอิญเหมือนมีใครเสกลงมาจากฟ้าเลยพี่" มาคินที่พูดไปอมยิ้มไป แต่อีกคนใบหน้าบอกบุญไม่รับเอาเสียเลย
"เพลงก็เพลงของเราแท้ๆ กลับโดนคนอื่นเอาไปต่อหน้าต่อตา" ร้อยดาวบ่นอุบอิบตามมา แต่อีกคนกลับได้ยินเสียงของเธอ
"เราทำเพลงเป็นด้วยหรอ แบบนี้พี่ว่าดีเลยทีเดียว เก่งรอบด้าน แบบนี้พี่ว่าอนาคตไปได้ไกล" โปเต้ชมมาคิน จนร้อยดาว ทำหน้าเหล่ตามองบน
"ร้อยดาว ถ้าต่อไปนี้มีงานต่างๆ ของมาคิน เธอไปกับเขาด้วยนะ พี่ว่าเธอมากีตาร์มาพร้อมๆ กัน จะได้เริ่มต้นทำเพลง เดินสาย ออกคอนเสิร์ตไปด้วยกัน" โปเต้ที่อยากให้ร้อยดาว กับ มาคินร่วมงานกัน
"แต่หนูเป็นนักแต่งเพลง ทำไมหนูต้องไปดูแลศิลปินที่ยังไม่มีผลงานด้วยหละคะพี่โปเต้"
"ไม่นานหรอกเขาจะมีผลงาน ว่าแต่ไหนหละเพลง ลองเข้าห้องอัดแล้วเล่นสด ๆ ร้องเลยไหม" พี่โปเต้อยากชมผลงานเพลงที่มาคินกล่าวถึง หนึ่งในความฝันของเด็กชายมาคินคือการเข้าห้องอัดเพลง
"ผมสามารถทำได้หรือครับ" มาคินที่ยังไม่มั่นใจ
"ที่นี่โซนของฉัน พลาดอะไรฉันรับผิดชอบเอง" โปเต้บอกน้องๆ ทั้งสองคน
มาคินเดินเข้าไปในห้องซ้อมเพลง ที่มีอุปกรณ์ในการซ้อมครบทุกอย่าง เขาจึงเลือกหยิบกีตาร์โปร่ง เสียบสายอะไรเข้าที่ดี สายไมค์ที่ถูกเสียบตาม ๆ กันไป เสียงกีตาร์โปร่งที่ดังขึ้นมาเบา ๆ เพื่อไล่เสียงโน๊ตดนตรี จนมาช่วงอินโทร
"แค่สายลมพัดกลับมา ความรักที่เคยมี รอเธออยู่ที่นี่ ให้เรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันนั้นที่เราเคยรักกัน ความทรงจำยังสดใสในหัวใจ ทุกวันฉันนั่งรอ ที่จะเห็นหน้าเธอ ถ้าเธอได้ยินเสียง ความรักที่เรียกหา อยากให้สายลม พัดรักกลับคืนมา" เสียงร้องที่ละมุนหูของมาคิน ทำเอาโปเต้ที่ฟังรู้สึกชอบขึ้นมา แต่คงต้องปรับดนตรี
" แค่สายลมพัดกลับมา ความรักที่เคยมี รอเธออยู่ที่นี่ ให้เรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันนั้นที่เราเคยรักกัน ถ้าบนฟ้ายังมีดาว ที่ส่องแสงสวยงาม ให้มันเป็นสัญญาณ บอกเธอให้รับรู้ ในใจของฉัน ยังมีเพียงเธอคนเดียว รักเราจะกลับคืนมา เหมือนที่เคย "
"แค่สายลมพัดกลับมา ความรักที่เคยมี รอเธออยู่ที่นี่ ให้เรากลับมาเหมือนเดิม เหมือนวันนั้นที่เราเคยรักกัน ให้รักกลับคืน เหมือนเดิม
ให้สายลมพัดพา ความรักกลับมาให้เราได้รักกัน เหมือนเมื่อวันก่อนสายลมจะพาใจเรากลับคืนมา"
เสียงร้องของมาวินที่ดัง แต่มีอีกคนที่จำเนื้อร้องได้ ร้องขึ้นคลอตามมาวิน เสียงร้องที่ดังพร้อมๆ กันทำเอาโปเต้อยากจับให้น้องทั้งสองคนมาลองทำเพลงด้วยกัน ร้อยดาวที่เสียงร้องดูเป็นธรรมชาติ เสียงใสๆ ตามฉบับของร้อยดาว น้ำเสียงแหบ ๆ นิดของมาวิน แต่โปเต้คงต้องนำเสนอเฮียครามก่อน
"ต้องเอามาทำดนตรี ให้มันละเอียดกว่านี้อีกนิดนึง พี่ชอบร้องสไตล์น้ำเสียงเรา
"หึ" น้ำเสียงประชดของร้อยดาว และเธอก็ขอตัวมาเข้าห้องน้ำ
ร้อยดาวที่ขอตัวมาเข้าห้องน้ำ เธอที่เดินเข้าห้องน้ำไป และทำธุระส่วนตัวเสร็จ เธอออกมาล้างมือของตนเอง พอดีกับที่มีอีกคนเขาล้างหน้าตรงก๊อกน้ำหน้ากระจกพอดี เธอเลยใช้อันที่ว่างล้างมือ และก็มีผ้าสีขาวผืนหนึ่งเธอเลยหยิบมาเช็ดมือตนเองจนแห้ง หญิงสาวที่ล้างหน้าเสร็จพอดี เธอแค่รู้สึกว่ามีคนล้างมือข้าง ๆ
"ฉันขอผ้าเช็ดหน้าหน่อย" ยิปซีที่ยื่นมือมาขอผ้าเช็ดหน้าตอนนั้นโฟมล้างหน้าเข้าไปในตาของเธอ เพราะเธอคิดว่าร้อยดาวคือผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ร้อยดาวที่มองซ้ายมองขวาตามมือที่เธอชี้ และเห็นผ้าผืนที่เธอนำไปใช้เช็ดมือ แค่ผืนเดียวเธอเลยหยิบส่งไปให้เธอ ยิปซีที่นำผ้าผืนนั้นมาเช็ดหน้าทันที โดยที่ตนเองไม่ทันได้มองว่าเป็นผ้าผืนไหนกันแน่ ยิปซีเองที่รู้สึกหายเคืองตาแล้ว เธอลืมตาขึ้นมา ในมือทั้งสองข้างกำลังกางผ้าในมือออก เพื่อจะเช็ดหยอดน้ำบนหน้าที่เหลือ อีกครั้งแต่เพราะผ้าผืนดังกล่าวมันไม่ใช่ของเธอ
"นี่พี่หยิบผ้าอะไรมาให้ยิปเช็ดหน้าค่ะ" ยิปซีกำลังหันไปต่อว่า ร้อยดาวเองก็ตกใจที่เห็นดาราสาวในระยะประชิด
" ฉันคิดว่าผ้าที่วางตรงนี้เป็นผ้าของคุณนะคะ" ร้อยดาวที่เกรงว่าดาราสาวจะเข้าใจเธอผิด และเป็นไปแล้วเธอกำลังเหวี่ยงใส่
"นี่เธอเอาผ้าขี้ริ้วมาให้ฉันหรอ " ยิปซีเขวี้ยงผ้าผืนนั้นลงตรงหน้าของร้อยดาว
"อ้าว คุณก็ฉันไม่ทราบนี่ค่ะว่าผ้าผืนไหนของคุณ ที่เห็นตรงนี้มีแค่ผืนนี้ผืนเดียว ฉันก็คิดว่ามันเป็นของคุณนะสิ " ร้อยดาวที่โต้กลับโดยไม่ได้สนใจว่าเธอจะเป็นดาราดัง หรือว่าเป็นนักแสดงแนวหน้าเลย
"นี่เธอกล้าเถียงฉันเลยหรอ เธอไม่รู้จักฉันหรือยังไง" ยิปซีโวยวายใส่เธอ
" ถ้าถามว่ารู้จักไหม ก็พอรู้จักค่ะ แค่ไม่ได้ติดตามและก็ไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่ " ร้อยดาวเองที่ไม่ได้ติดตามจริง ๆ เธอเลยตอบไปตรง ๆ
"นี่เธอหลุดมาจากยุคไหน ถึงไม่ติดตาม ว่าฉันเป็นใคร" ยิปซีเย้ยหยันมองเธอหัวจรดปลายเท้า
"ฉันแค่สนใจ ในสิ่งที่มันมีประโยชน์ มีสาระเท่านั้นนะคะ อะไรที่ดูปลอม ๆ ฉันมักจะมองข้าม ขอตัวก่อนนะคะ " ร้อยดาวพูดจบหันหลังกลับจะเดินออกไป แต่โดนยิปซีแซะอีกครั้ง
"ใครปล่อยให้เด็กกะโปโลแบบนี้เข้ามาได้กัน พวกหลังเขาหรือเปล่า ที่บ้านเธอมีทีวีไหม" ยิปซีแซะไม่เลิกแต่ร้อยดาวที่ไม่อยากฟังคำพูดไม่ดีก็รีบเดินออกมา ชนเข้ากับผู้จัดการส่วนตัวของยิปซี ที่เข้ามาดูเพราะได้ยินเสียงของยิปซีเหมือนจะอาละวาดใครสักคน
"มีอะไรคะ คุณน้อง โวยวายอะไรคะ" พี่เอเอเข้ามาในห้องน้ำ แล้วล็อกประตูห้องน้ำด้านหน้า
"ก็คนเมื่อกี้เอาผ้าขี้ริ้วมาให้ยิปซีเช็ดหน้า ดูหน้าหนูสิพี่เอเอ มันจะเป็นสิวไหมคะ" ยิปซีล้างหน้าแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าของเธอเองมาเช็ด หน้าอีก
"แล้วเธอมาโวยวายในที่สาธารณะแบบนี้ได้ยังไงคะคุณน้อง" ว่าแล้วเอเอตีเข้าที่แขนของยิปซี
"ก็มันน่าโวยนี่ค่ะ ดูสิคะเนี่ย ผ้าเช็ดอ่างเช็ดอะไรสารพัด หน้ายิปพังขึ้นมา"
"แต่คุณน้องจะมาวีน ฉ่ำ ๆ แบบนี้ไม่ได้ เราต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนเองนะคะคุณน้อง" เอเอที่คอยปรามน้อง ยิปซีเองยังกระฟัดกระเฟียตใส่
ร้อยดาวเดินกลับมาที่ห้องทำเพลงของพี่โปเต้อีกครั้ง ซึ่งในห้องเหลือแค่มาคินเท่านั้น เธอเลยเดินเข้ามาหาเขา ยืนจ้องมองสมุดไดอารี่ของตนเอง มาคินที่กำลังร้องเพลง เพราะอีกวันเขาต้องมาเข้าห้องอัดเพื่อทำเพลง ต้องมีเพลงเขาเก็บข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋า ร้อยดาวที่เห็นเขาจะเอาสมุดของเธอเก็บเข้าไปด้วยเลยท้วง
"อันนี้ของฉัน คุณควรจะคืนฉันนะ มาคิน" เธอเอ่ยพร้อมกับชี้มือไปทางไดอารี่ของเธอ
"อ๋อ เออ ผมลืม คุณะจะกลับหรือยัง ผมจะได้ไปส่ง"
"ฉันจะมาเอาของจากคุณ คุณบอกว่าจะคืนไงหละ แล้วทำไมถึงไม่ยอมคืน จะผิดคำพูดหรอไง"
"ไม่ได้จะผิดคำพูด เราน่าจะไปทางเดียวกันไงครับ ผมค่อยคืนให้ตอนถึงบ้านคุณ" มาคินที่แอบสนใจในตัวร้อยดาว เขาเลยอยากจะทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น เริ่มด้วยจากการที่เขาต้องชวนเธอพูดคุย ทำดีกับเธอเอาไว้มาก ๆ เขาเดินออกมาเลยโดยที่เธอเองก็ลืม เพราะต้องการอยากได้ไดอารี่คืน เขาชวนเธอพูดคุยจนมาถึงรถของเขา
"กลับด้วยกันนะคุณ เราต้องรู้จักกันเอาไว้มาก ๆ เพราะเราต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน คู่บัดดี้กันนะ" มาคินที่เอาพี่โปเต้มาแอบอ้าง ในมือก็ชูไดอารี่โบกไปมา จนร้อยดาวเองต้องยอมที่จะขึ้นรถมากับเขาด้วย พอเธอขึ้นมาบนรถของมาคิน เขารอให้เธอคาดเข็มขัดด้วยแต่เธอไม่มีท่าทีจะทำ
"ขอโทษนะครับ" มาคินเอ่ยคำขอโทษ เอี้ยวตัวมายังสายเข็มขัดนิรภัยของเธอ กลิ่นหอมบนตัวของมาคิน กับกลิ่นแป้งเด็กอ่อน ๆ บนตัวร้อยดาวที่เขาและเธอใกล้กัน ทำเอาร้อยดาวแทบจะหยุดหายใจ นั่งนิ่ง มาคินเองแอบอมยิ้มเล็ก ๆ และเอาสายนิรภัยดึงมาเข้ายังที่ล็อก
"บอกกันดี ๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องยื่นหน้ามาใกล้แบบนี้เลย " หลังจากที่เขาทำเธอตกอยู่ในความกระชั้นชิด เขากลับมานั่งที่เดิม
"อย่าไปทำร่วงหายไปไหนอีกนะคุณ" เขาจับเธอแบมือออก วางไดอารี่ลงบนมือน้อย ๆ ของเธอเบา ๆ
"อืม"
"คนอุตส่าห์เก็บให้ขอบคุณสักคำก็ยังไม่มีเลย" มาคินเอ่ยตัดพ้อ นั่งพิงเบาะฝั่งตนเอง
"คุณขโมยของฉันต่างหากมาคิน ยังแอบเอาเพลงของฉันไปร้องอีก ฉันต่างหากที่ต้องทวงค่าเพลงนะ"
"หืม ไป ๆ บ้านคุณไปทางไหนผมไปส่งบ้านเอง ถือเป็นค่าเพลงแล้วกัน เพลงยังไม่ดังเลย"
"บ้านฉัน แถวอ่อนนุช คุณผ่านทางนั้นหรอ"
"ไม่อะ แต่ไปส่งคุณได้อยู่แล้ว"
ร้อยดาวยังลูบหัวเจ้ามะยมกับเจ้าก้อนทองที่กระโดดไปกระโดดมาบนเบาะหลังอยู่ไม่หยุด มาคินยื่นมือมาเปิดประตูรถฝั่งเธอ ลมหนาวตีเข้ามาทันทีจนเธอต้องห่อตัว ดึงผ้าพันคอคลุมแน่น“หนาว” เสียงเธอสั่น ๆ พอให้มาคินขำในลำคอมือหนายื่นมาโอบไหล่เธอไว้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเล็ก ๆ ของเธอสะพายเองแล้วพาก้าวลงจากรถทันทีที่เท้าเหยียบพื้นดินบนลานจอดบ้านพัก เสียงกรวดกรอบ ๆ ใต้รองเท้าฟังดูสงบกว่าทุกวัน เจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมกระโดดลงมาก่อน วิ่งดมดิน ดมต้นหญ้า หมอกบาง ๆ ลอยผ่านขนหมาจนเปียกเป็นหย่อม ๆบ้านพักไม้สองชั้นทรงเรียบ แต่มีระเบียงกว้างทอดออกไปด้านหลัง มองเห็นเนินเขาลูกแล้วลูกเล่า ปลายไม้ระเบียงมีละอองน้ำเกาะพราวเป็นหยด ยามแสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าเริ่มส่องลอดกลุ่มหมอก ก็ดูเหมือนเกล็ดเพชรระยิบระยับ“สวยจนเหมือนฝันเลยนะ” ร้อยดาวพึมพำออกมาเบา ๆ เธอเกาะแขนเขาแน่น มาคินหันมามอง ยิ้มบางอย่างใจดี“ไม่ใช่ฝันหรอก วันนี้ของจริงแล้ว” เขาดันประตูบ้านพักออกไปเบา ๆ กลิ่นไม้สนหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาต้อนรับภายในบ้านมีเตาผิงเล็ก ๆ มุมหนึ่ง แต่สองคนไม่สนใจอะไรในบ้านเลย เพราะข้างนอกนั่นกำลังเรียกพวกเขาออกไปหามาคินวางกระเป๋า แล้วจับมือ
ไฟห้องนั่งเล่นเปิดสลัว ๆ มีเพียงเสียงหมาน้อยสองตัวที่วิ่งไล่กันอยู่บนพื้นไม้ เสียงกรงเล็บเล็กกระทบพื้นดังกิ๊ก ๆ สลับกับเสียงเห่าเถียงของเจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมมาคินนั่งพิงโซฟา ยื่นขาถอดรองเท้าออกวางบนพรม ร้อยดาวเพิ่งเดินออกจากครัวพร้อมถ้วยโกโก้อุ่นในมือสองใบ กลิ่นนมสดกับผงโกโก้แท้ลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน เธอวางแก้วใบหนึ่งลงตรงหน้ามาคิน แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มืออุ่นของเธอเลื่อนมาลูบหัวเจ้าก้อนทองที่กระโดดขึ้นมาตักคืนนี้ไม่มีแสงสปอร์ตไลท์ ไม่มีเสียงแฟนคลับกรี๊ด ไม่มีไฟเวทีพร่างตา มีเพียงลมหายใจของสองคน ที่กำลังจะออกเดินทางไปหาหมอกขาวบนดอยในวันรุ่งเช้า เสียงหรีดหริ่งเรไรข้างบ้านดังลอดหน้าต่าง ครู่หนึ่งร้อยดาวหันมามองคนข้างกาย“นี่ คิดดีแล้วใช่มั้ย จะพาฉันกับหมาสองตัวไปหนาวบนดอยด้วยเนี่ย" มาคินอมยิ้ม หันมาจับแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วเย็นนิดหน่อเพราะเพิ่งแตะแก้วโกโก้“คิดดีแล้วครับคุณแฟน เพราะไม่มีเธอ ฉันก็หนาวแย่สิ”ร้อยดาวตีแขนเขาเบา ๆ แต่ก็ยอมเอนหัวซบไหล่เหมือนเด็กขี้อ แสงไฟสีอุ่นในห้องนั่งเล่นตกกระทบเสี้ยวหน้าเธอ ดวงตาเป็นประกายระยิบเหมือนเด็กที่กำลังเฝ้ารออะไรสักอย่างด้วยใจเต้นแรงเจ้ามะยมกร
AFTER PARTY ก้าวต่อไปหลังไฟสปอร์ตไลท์ดับค่ำคืนนั้นหลังเวทีใหญ่ปิดฉาก เสียงปรบมือยังแว่วอยู่ในหัว ร้อยดาวกับมาคินเพิ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดสบาย ๆ เดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยใบหน้ายังแดงระเรื่อจากไฟบนเวทีในห้องพักหลังคอนเสิร์ต ทีมงานทุกคนรออยู่แล้ว โปเต้เดินถือขนมกล่องใหญ่กับเครื่องดื่มในมือ สงครามยืนพิงกำแพงรอ ส่วนอ๊อฟกับก็อปเปอร์นั่งกอดหมอนบนโซฟายาว สภาพทุกคนดูอ่อนล้าแต่ตากลับเปล่งประกายเหมือนเพิ่งได้รับพลังใหม่บนโต๊ะกลางมีเค้กเล็ก ๆ ปักเทียน “1 Year Anniversary” ที่โปเต้สั่งให้ บรรยากาศไม่มีเสียงกรี๊ด ไม่มีใครถือแท่งไฟ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่เป็นเหมือนครอบครัวจริง ๆ โปเต้วางกล่องขนมลงโต๊ะ“เอ้า นี่ของขวัญวันครบรอบหนึ่งปีของเด็กคู่นี้… พี่สั่งมากับมือ ไม่ได้ให้เอฟซีนะ พี่ให้เอง” โปเ้เองพอใจในน้อง ๆ สังกัดตนเองทุกคน“ขอบคุณพี่โปเต้มากครับ พี่นี่แหละคนดันเรามาตลอด”“เฮีย ถ้าไม่มีเฮีย หนูคงไม่มีวันนี้จริง ๆ ค่ะ” ร้อยดาวขอบคุณสงคราม“ถ้าเธอสองคนไม่อดทน ก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน จำเอาไว้ ทุกเทคที่ซ้อมกันยันเช้า ไม่เสียเปล่าเลย” สงครามพยักหน้านิ่งก็อปเปอร์ลุกมาดึงทั้งคู่มานั่งรวมวงบนพื
เสียงกรี๊ดต้อนรับดังลั่นจนเกือบกลบเสียงพิธีกรบนเวทีในฮอลล์คอนเสิร์ตใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟเวทีสีทองนวล พร็อพดอกไม้หลากสีและแบนเนอร์คู่จิ้น ร้อยดาว × มาคินทุกเก้าอี้ถูกจับจองแน่นขนัด แท่งไฟนับพันกวาดแสงไปมาเป็นคลื่นเหมือนท้องทะเลเรืองแสงเสียงเพลงอินโทรเปิดตัวเริ่มขึ้นพร้อมแสงไฟไล่ไปตามแนวเวที เมื่อเงาสองคนก้าวออกมาจากด้านหลัง ม่านไฟพุ่งขึ้นต้อนรับ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นราวกับฮอลล์จะสั่นสะเทือนร้อยดาวยืนข้างมาคิน มือเล็กกำไมค์ไว้แน่นเพราะหัวใจเต้นแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของเธอวาววับ มองแฟนเพลงกว่าพันชีวิตที่โบกแท่งไฟรออยู่"สวัสดีครับ โอ้โห ผมคิดว่าจะไม่มีคนมาดูพวกเราสองคนเสียอีกครับ" เสียงมาคินทักทายเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นฮอลล์“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่วันนี้ทุกคนมาชาร์จพลังให้พวกเราจริง ๆ ”เสียงเธอสั่นหน่อย ๆ ก่อนจะหัวเราะเบาเมื่อมาคินโอบไหล่ให้กำลังใจข้าง ไฟสปอร์ตไลท์สาดลงบนสองคนที่ยืนเคียงกันเหมือนคู่พระนางในนิทานช่วงกลางคอนเสิร์ต หลังจากเพลงซึ้งจบไปสามสี่เพลงพิธีกรเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ “แขกรับเชิญพิเศษ” ของสองคนขึ้นมาบนเวทีเสียงกรี๊ดรอบใหม่ดังขึ้นทันที เมื่อเห็นพ่อกับแม่
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ







