ที่บ้านร้อยดาว
ร้อยดาวที่อยู่ภายในงานประกาศรางวัล Music Internationals ร้อยดาวที่นั่งอยู่ด้านล่างพร้อมแม่ ของเธอ จนเสียงพิธีกรประกาศรางวัล บทเพลงที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ บทเพลงที่คนนำมาขับร้อง cover มากที่สุดในตอนนี้ เป็นการแต่งเนื้อร้อง ในเพลง ลมหวนรัก จากนักแต่งเพลงที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ ร้อยดาวเองนั่งข้าง ๆ ผู้เป็นแม่ด้วย
" รางวัลนักประพันธ์เพลงที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ คุณร้อยดาว ร้อยนาวา ขอเสียงปรบมือให้เธอด้วยนะครับ" เสียงประกาศของพิธีกรเรียกชื่อร้อยดาว เธอเองที่นั่งข้าง ๆ จับมือแม่ด้วยความดีใจแล้วลุกขึ้นเดินไปรับรางวัลบนเวที
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณสำหรับรางวัลดี ๆ แบบนี้นะคะ ทำให้นักเขียนตัวเล็ก ๆ แบบร้อยดาว รู้สึกใจฟูมาก ๆ เลยค่ะ "
"แล้วหลังจากนี้ จะมีผลงานเขียนเพลงใหม่ ๆ ออกมาให้ได้ติดหูคนฟังอีกเมื่อไหร่ครับ " เสียงพิธีกรถามร้อยดาวขึ้นมา
"อีกไม่นานค่ะ ใกล้จะมีผลงานเพลงใหม่ออกมาแล้วค่ะ กำลังรอพี่โปรดิวเซอร์เขาพิจารณาแก้ไขก่อนนะคะ" ร้อยดาวตอบคำถามของพิธีกร
"ตื่นได้หรือยัง" ร้อยดาวกำลังอยู่บนเวทีหันไปทางเสียงเรียกที่มองไปด้านล่าง แม่ยังนั่งนิ่ง
"ถ้าอย่างนั้นฝากผลงานของน้องร้อยดาวด้วยนะครับ รับรองได้มีผลงานให้เราได้รับฟังกันต่อ ๆ ไป" เสียงพิธีกรกล่าวชื่นชมผลงานของเธอ
"ขอบคุณค่ะ" ร้อยดาวยกมือไหว้ขอบคุณ และมีเสียงของแม่ที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง
"จะตื่นได้หรือยังร้อยดาว นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ เมื่อคืนมัวทำอะไรอยู่ทำไมไม่รู้จักหลับจักนอน" แม่ที่ดึงผ้าห้ามบนตัวเธอออก และขยบผ้าม่านเปิดออกจนแสงแดด ร้อยดาวที่ดึงผ้าห่มขึ้นมาอีกครั้ง
"เมื่อคืนหนูเขียนเพลงใหม่ค่ะแม่ วันนี้ต้องเอาไปเสนอพี่เขาแล้ว" ร้อยดาวบอกแม่แต่ยังไม่ยอมลืมตาตื่น
"เขียนเพลงอีกแล้ว เขียนแล้วมันได้อะไรไหม วัน ๆ พร่ำเพ้อแต่ความฝันของตัวเอง" แม่ของร้อยดาวบ่นงานของเธอ
"มันคือสิ่งที่หนูอยากทำนะแม่ มันเป็นอาชีพที่หนูรักนะคะ"
"แล้วนี่จะไปกี่โมง นี่จะบ่ายโมงแล้วจนป่านนี้แกยังไม่ทันลุกเลยยัยดาว" แม่ของร้อยดาว
"พี่โปเต้เขาจะเข้าไปในค่ายเพลงตอนหกโมงเย็นค่ะแม่ นัดยัยมิลล์ไปเป็นเพื่อนแล้วค่ะ" ร้อยดาว ขยับจะนอนต่ออีกสักพัก แต่ผู้เป็นแม่ก็ดึงผ้าห่มออกมา
"ยังจะนอนอยู่อีก ยัยลูกคนนี้ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ " คุณแม่ของร้อยดาวเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง จนเธอเองจำต้องลุกขึ้นจากเตียงนอน
.......+++++.....
ช่วงเย็น
ร้อยดาวที่เดินเข้ามาในค่ายเพลงพร้อมกับเพื่อนสาวที่ชื่อ มิลล์ เธอชวนเพื่อนมาด้วยเพราะมันเย็นเกินไปเธอเองกังวลตอนกลับบ้าน เธอโทรหาพี่โปเต้ก่อนออกจากบ้านแล้วว่าจะมาหา เธอเลยมาขอแลกบัตรกับประชาสัมพันธ์ก่อนแล้วจะไปนั่งรอพี่โปเต้ที่กำลังจะเข้ามาในค่ายเพลง เธอกับมิลล์เดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
"มาติดต่อเรื่องอะไรค่ะ" หญิงสาวหน้าเคาน์เตอร์ทักถามเธอและเพื่อน
"มาเสนอเพลงให้พี่โปเต้ค่ะ"
"ห๊ะ น้องหนีเรียนมาตามติดศิลปินหรือเปล่าคะ" หญิงสาวหน้าเคาน์เตอร์เอ่ยถาม เพราะวันนี้จะมีวงศิลปินชื่อดังที่กำลังมาแรงเข้ามาที่ค่ายช่วงเย็น
"ไม่ใช่ค่ะ หนูเป็นนักศึกษาก็จริงนะคะ แต่หนูเป็นนักแต่งเพลงจริง ๆ ค่ะ วันนี้หนูนัดเอางานมานำเสนอพี่โปเต้ค่ะ" ร้อยดาวแก้ต่างให้ตนเอง
"ใช่ค่ะพี่ เพื่อนหนูเป็นนักแต่งเพลงจริง ๆ ค่ะ เธอเป็นเจ้าของบทเพลงลมหวนรัก" มิลค์ช่วยเพื่อนตนเองอีกครั้ง
" บทเพลงอะไร ยังไม่เคยได้ยินชื่อเพลง เพลงนี้เลย" เจ้าหน้าที่ ที่ไม่เคยได้ยินเพลงของเธอจริง ๆ และคิดว่าเธอจะสร้างเรื่องโกหกมาหลอกเพื่อที่จะเข้าไปด้านในค่ายเพลง
"ถ้างั้นพี่รอหนูแปบหนึ่งนะคะ" ร้อยดาวที่กำลังล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายที่เธอสะพายมา แต่เจ้าหน้าที่คิดว่าเธอจะพกอาวุธมาด้วย
"ร.ป.ภ. ร.ป.ภ." เจ้าหน้าที่ร้องเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยที่หน้าประตูทางเข้า เขาก็วิ่งมา
"เอาสองคนนี้ออกไป อย่าให้เข้าไปก่อกวนในค่ายนะ เดี๋ยวเฮียครามจะเอาเรื่องนายที่ปล่อยให้เด็ก ๆ ไปวิ่งทั่วค่าย"
"ถ้าไม่เชื่อนะว่าฉันเป็นนักแต่งเพลงจริง ๆ ให้ฉ้ันโทรหาพี่โปเต้สิ จะได้รู้" ร้อยดาวโวยวายโดนร.ป.ภ. ลากออกมาทันที
"โอ๊ย ๆ นี่ฉันเจ็บนะ ปล่อยสิ" เธอพยายามดึงมือของยามออกจากข้อมือตนเอง แต่สองคนสู้แรงเขาไม่ได้
"พวกคุณก็เดินออกมาดี ๆ ผมจะได้ไม่ต้องลากจะได้ไม่เจ็บ" พนักงานรักษาความปลอดภัยเลยลดแรงดึงลงเพราะกลัวเธอไปร้องเรียน
โปเต่ที่เดินเข้ามาพอดีเก็นน้องที่เขานัดมาคุยเรื่องเพลงกำลังโดนลาก เขาเลยรีบเข้ามาห้ามพนักงานที่กำลังดึงเธอทันที
"ปล่อยเธอก่อน ปล่อยเธอมาหาผม" พนักงานรักษาความปลอดภัย ที่เห็นโปรดิวเซอร์ของค่าย เขาเลยยอมปล่อยร้อยดาวกับเพื่อน ร้อยดาวเดินตามพี่โปเต้ไปตามหลัง พี่โปเต้เข้ามาคุยกับหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์
"เดี๋ยวให้น้องสองคนนี้เข้ามาได้ ไม่ต้องแลกบัตร เขามากับผม" พี่โปเต้ที่ยืนกรานจนเจ้าหน้าที่หลบตาพี่โปเต้ ร้อยดาวที่เหลือบสายตามองเธอแบบเชิด ๆ
พี่โปเต้แวะมานั่งคุยกับทั้งสองคนที่หน้าล็อบบี้ก่อน วันนี้เขามีอัดเพลง เขาจะพาเธอเข้าไปเสนองานเพลง และอยากให้เธอมาร่วมงานกับตนเองในฐานะนักเขียนเพลงของทีมตนเอง ให้เฮียครามพิจารณาด้วยตนเอง แต่ต้องให้มิลล์นั่งรอที่ด้านนอกก่อน ซึ่งร้อยดาวกับเพื่อนไม่มีปัญหา
"ฉันนั่งรอเธอตรงนี้แหละ" มิลล์นั่งรอเธอ พร้อมหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเช็กภาพต่าง ๆ เธอเอามาเพื่อเพราะคิดว่าวันนี้ต้องเจอศิลปิน ดาราในค่ายบ้าง
เพียงไม่นาน ก็มีนางเอกเอ็มวีที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ เดินเข้ามาพร้อมผู้จัดการส่วนตัวของเธอ มิลล์เห็นเลยเข้าไปขอถ่ายรูปกับเธอ ซึ่งตอนแรกผู้จัดการส่วนตัวห้ามไม่ให้เธอถ่าย
"พี่ยิปซี พี่ยิปซีจริง ๆ ด้วย ขอถ่ายภาพด้วยได้ไหมคะ" มิลล์ออกอาการดีใจจนออกหน้าออกตาที่เจอดารา แต่ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ เข้ามาขวาง
"ไม่เป็นไรค่ะพี่เอเอ น้องเขาแค่มาขอถ่ายภาพกับยิปซี " ยิปซีร้องห้าม เธอเดินเข้ามาสวมกอดมิลล์เอาไว้ ผู้จัดการเลยยืนขนาบข้างจะถ่ายด้วย แต่ยิปซีจึงเอ่ยขึ้นมา
" พี่เอเอ รบกวนถ่ายรูปคู่ให้น้องเขาหน่อยนะคะ " ยิปซีหยิบกล้องจากมือของมิลล์ส่งให้ผู้จัดการของตนเอง
" อะ อะ ได้ค่ะ 1 2 3 " เอเอนับแล้วก็กดถ่ายให้ ภาพที่ถ่ายดาราสาวกำลังโอบกอดแฟนคลับด้วยรอยยิ้ม เธอเองก็ต้องรักษาภาพพจน์ของตนเอง
" ขอบคุณนะคะ คุณยิปซี น่ารักจังเลย" มิลล์เองเอ่ยชมดาราสาวอีกครั้ง ยิปซีเองที่ต้องรีบเข้าไปคุยเรื่องเอ็มวี กับพวกพี่ๆ ทีมงาน เลยขอตัวออกมากับผู้จัดการก่อน มิลล์เองก็มานั่งรอเพื่อนตนเอง ที่เดิม เธอนั่งดูภาพที่ถ่ายด้วยรอยยิ้ม
ยิปซีที่เดินเข้ามาในลิฟต์พร้อมผู้จัดการ เธอยื่นมือไปขอผ้าเช็ดมือจากเอเอ ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยขัดใจดาราสาวคนนี้ แม้แต่น้อยรู้ดีว่าเธอสร้างภาพให้พี่ ๆ น้อง ๆ เอฟซีรักและเอ็นดูเธอ แต่เบื้องหลังนักร้องในค่ายรู้ชื่อเสียของเธออย่างดี
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ
วันซ้อมใหญ่เปิดเวที 1 ปีคู่จิ้นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดกลาง ถูกจัดไฟรันระบบเต็มสูบเป็นรอบ ซ้อมใหญ่ โปสเตอร์ข้างเวทีติดป้ายชัดเจน “1st Year Anniversary คู่จิ้นรักร้อยดาว x มาคิน”ร้อยดาวสวมเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนส์ขาสั้นง่าย ๆแต่บนเวที เธอเหมือนคนละคน จับไมค์ด้วยมือที่เคยสั่นแต่วันนี้กลับมั่นคงเสียงหัวเราะของทีมซาวด์ ทีมแดนซ์ ทีมไฟดังระหว่างพักเบรก โปเต้ยืนกอดอกดูงานเงียบ ๆ ส่วนสงครามนั่งหลังบอร์ดควบคุมไฟด้วยแววตาเหมือนพ่อที่ภาคภูมิใจในลูกศิษย์มาคินยืนอยู่ข้างเธอในชุดสบาย ๆ เหมือนกัน เขาหันมาดึงสายกีตาร์ปรับจูนให้แฟนสาวเอง มือเขากับมือเธอสอดกันแว็บหนึ่ง“พร้อมมั้ยดาว” เสียงมาคินทุ้มนุ่ม ไม่ได้ถามแบบโปรดิวเซอร์ แต่ถามในฐานะคนที่อยู่ข้างเธอทุกครั้งร้อยดาวพยักหน้า เหงื่อผุดเต็มหน้าผากแต่รอยยิ้มกลับสดใส เธอยกไมค์ขึ้น ร้องท่อนฮุคเพลงเก่าที่เธอเคยเขียนไว้ ครั้งนี้ เธอร้องในชื่อของเธอจริง ๆเสียงกลองซ้อมรัวตามจังหวะเบา ๆ พวกเด็กฝึกงานที่ยืนดูกันอยู่ตรงขอบเวทีโห่เชียร์กันเบา ๆ อ๊อฟกับก๊อปเปอร์ที่มาซ้อมแดนซ์เซ็ตใหญ่ทีหลังยังส่งเสียงแซว“พี่ดาวแม่งอย่างเท่! ฮู้วววว”“พี่มาคินอย่าเขินดิ๊! หยิกแก
นามแฝงในเพลงมือของสงครามที่ยื่นให้ร้อยดาวเดินเข้ามาในห้องโปรดิวเซอร์ของค่ายที่เธอคุ้นเคยดี แต่วันนี้บรรยากาศกลับอึดอัดจนลมหายใจแทบขาดห้วงโปเต้นั่งข้างเฮียสงครามเหมือนมือขวาที่เฝ้ารอดูว่าบทสนทนานี้จะไปจบตรงไหนบนโต๊ะไม้สีเข้ม เอกสารหลายแผ่นถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไฟสปอตไลท์ในห้องประชุมสว่างพอจะเห็นเงาหน้าร้อยดาวที่ซีดเผือดและมือเล็กที่กำชายเสื้อแน่น สงครามวางปากกาลงบนแฟ้มเสียงเบา ดวงตาคมใต้แสงไฟสบตาเธอโดยไม่กระพริบ“ฉันได้ยินมาว่ามีคนกำลังจะเอาเพลงเก่ามาขายซ้ำ ใช่เพลงเดียวกับที่เธอเคยเขียนไว้หรือเปล่า เพลงที่เธอใช้นามแฝงตอนนั้น” เสียงเขาราบเรียบ เหมือนครูใหญ่เรียกเด็กนักเรียนมาคุย แต่ในความนิ่งนั้นกลับกดดันเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอกร้อยดาว ร้อยดาวหลบตา ปลายนิ้วเธอขยำชายกางเกงจนยับยู่ยี่ เธอพยายามจะตอบ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับแหบแห้ง“ค่ะ” เพียงคำเดียวก็พอให้โปเต้ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เห็นร่องรอยเจ็บเก่าที่เธอเก็บไว้มานานสงครามพยักหน้าช้า ๆ เขาเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสาร เผยให้เห็นสำเนาสัญญาเก่าที่มีตราประทับชื่อกันจ์ชัดเจน“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่ากันจ์มันทำอะไรไว้”“มันไม่ใช่แค่เพล
อดีตของร้อยดาวเบื้องหลังเพลงที่ไม่มีชื่อเธอเสียงลมจากแอร์ตัวเก่าดังหึ่ง ๆ ในห้องซ้อมส่วนตัวที่ร้อยดาวใช้ฝึกทุกวัน คืนนี้เธอนั่งอยู่ตรงมุมเดิมที่ใกล้เปียโนไฟฟ้ามากที่สุด มือบางยังคงถือโน้ตเพลงเก่าแผ่นเดิมไว้แน่น ปลายนิ้วที่เคยแต่งทำนองนั้นสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังรื้อความทรงจำที่เธอพยายามลืมมาตลอดร้อยดาวถอนหายใจ ลมหายใจร้อนวาบเพราะเพิ่งร้องเพลงใหม่กับมาคินจนคอแห้ง แต่สิ่งที่ติดอยู่ในหัวเธอกลับไม่ใช่เพลงใหม่ ไม่ใช่ท่อนฮุคหวาน ๆ ที่เขาเพิ่งชมว่าเพราะที่สุดตั้งแต่แต่งมา กลับเป็นประโยคท่อนหนึ่งในสมุดโน้ตแผ่นนี้ที่เธอแต่งมันด้วยลายมือสั่น ๆ ในวันที่ยังอายุไม่ถึงยี่สิบ“ฉันยังจำเนื้อเพลงได้ทุกคำเลยมาคิน แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ร้องมัน" เสียงเธอเบาราวกับกลัวว่าลมแอร์จะพัดมันหายไปมาคินหันมามองแฟนสาวตรงหน้า เขานั่งพิงขอบเปียโน ปล่อยให้เสียงกีตาร์โปร่งที่เพิ่งวางไว้เงียบสนิทแสงไฟสีส้มอ่อนสะท้อนในดวงตาเขาอย่างระมัดระวังเขารู้ดีว่าร้อยดาวรักทุกคำ ทุกท่อน ทุกเมโลดี้ในสมุดโน้ตนั้นมากแค่ไหน เขาเคยเห็นเธอลงแรง แก้คำ แก้คอร์ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยเห็นเธอพูดถึงมันด้วยแววตาเจ็บเท่านี้มาก่อน“ทำไมล่ะดาว นั
ถูกมือกาวย้อนกลับ1645 คำทางเข้าคอนโดของยิปซี ค่อนข้างมืด ไม่มีผู้คนมากนัก“เฮ้ แม่นางเอก เงินฉันอยู่ไหน”เสียงแห้ง ๆ ของเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่โผล่มาจากเงามืดหลังรถตู้จอดส่งของ ผมมันเยิ้มกลิ่นกาวและบุหรี่คลุ้งลอยปะทะ จับคอเสื้อยิปซีทันทีที่เธอเดินเลี่ยงออกมาจากฝูงแฟนคลับ ไฟลานจอดรถสว่างเป็นจุด ๆ แต่กลับไม่มีใครสังเกตว่ามีคนกำลังลงไม้ลงมือ“อย่ามาโวย แกยังไม่ได้ทำงานให้ฉันด้วยซ้ำ จะเอาเงินส่วนที่เหลือไปทำเหี้ยอะไร”ยิปซีแหวเสียงสูง ใบหน้าแต่งจัดแต่เหงื่อซึม เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปคลุมด้วยโค้ทยาว พยายามแกะมือมันออกแต่โดนบีบแน่นกว่าเดิม“ฉันติดคุกเพราะแกนะเว้ย แกเป็นคนจ้าง ถ้าฉันไม่ได้ตังค์ แกก็อย่าหวังจะได้อยู่ดี ๆ”เสียงเด็กกาวกระแทกพร้อมฟันเหลือง มันหัวเราะหยันเธอเบี่ยงหน้าเลี่ยงกลิ่นกาวที่พ่นรดอยู่ใกล้“อย่ามาขู่ฉันนะ ไอ้ขี้ยา”ยิปซีฟาดเล็บเข้าหน้ามันเต็มแรง เสียงเพี้ยะสะท้อนในลานจอด รถขนเครื่องเสียงสั่นเบา ๆ เหมือนร่วมเป็นพยาน“อีดอก” เด็กกาวสบถลั่น ผลักเธอไปกระแทกผนังคอนกรีตด้านหลังเวที เศษกระดาษโปสเตอร์คอนร่วงปลิวลงเท้าเธอ“สภาพแกตอนนี้ก็เหมือนหมาข้างถนนแล้วล่ะ ยัยนางเอกตกกระป๋อง”เด็