วันต่อมา...
"อ้อมส่งแม่หน้าประตูนะคะ แม่เข้าไปได้ไหมคะ แม่คะถ้ามันเหนื่อย มันหนักก็อย่าทำนะคะ "
อ้อมกล่าวทิ้งท้ายก่อนไปทำงานกับแม่จันทร์ของเธอ แม่ของเธอพยักหน้า เข้าใจว่าลูกสาวเป็นห่วงเพียงใด
"ไม่ต้องห่วงแม่หรอกลูก รีบไปทำงานเถอะ เดี๋ยวเข้างานสาย ลองดูสักตั้งนะลูก"
แม่จันทร์ชูสองนิ้วเดินลงรถ หายเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งเป็นที่ทำงานใหม่ของเธอ หรือบ้าน มหาประชานิเวศน์นั่นเอง
"อ้าวมาแล้วหรอแม่จันทร์ สวัสดีตอนเช้านะคะ"
แจ่มกล่าวทักทายกับสมาชิกคนใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามา
"มานี่มะ...แจ่มจะพาแม่จันทร์ไปแนะนำ อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง"
สักพักทั้งสองคนก็หายไปตามส่วนต่างๆของบ้าน อีกทั้งสวนหลังบ้านที่ร่มรื่นตามประสาบ้านคนรวยด้วย
เสียงฝีเท้าก้าวหนักๆเดินลงมาจากบันไดชั้นสองของบ้าน
"พี่แจ่มๆๆ แจ่ม ขอยาหน่อยสิปวดหัวจะแย่แล้ว เมื่อคืนหนักไปหน่อย หายไปไหนกันหมดนะ"
สิ้นเสียง เจ้าของเสียงก็นั่งกุมขมับอยู่ตรงบันไดนั่นเอง
"มันหายหัวไปไหนกันหมดวะ"
เคนตะโกนอีกทีเป็นครั้งที่สอง
"พี่แจ่ม..."
แจ่มตกใจได้ยินเสียงแว่วๆเรียกชื่อตัวเองดังมาแต่ไกล
"ขา...คุณเคน แจ่มอยู่นี่คะ ไปกันเถอะแม่จันทร์ คุณหนูของแม่จันทร์ร้องเรียกหาแล้ว คุณหญิงไม่อยู่หลายวันซะด้วย ส่วนคุณผู้ชายก็ไปนอนอีกบ้าน หวังว่าแม่คงเข้าใจนะว่าเขารับแม่มาทำไมมาดูลูกชายเขาคนนี้แหละ"
"มาแล้วคะยา คุณเคน เป็นไงไหวไหมคะ โดนตัวไหนมาละคะ สภาพถึงเยินแบบนี้ นี่แม่จันทร์คนดูแลคุณเคนคะ ต่อไปเรียกใช้แม่จันทร์ได้เลย ส่วนแจ่มจะไปทำอย่างอื่นคะ"
แจ่มยื่นยาแก้ปวดหัวพร้อมแนะนำ แม่จันทร์ให้บุตรชายคุณหญิงทราบไปพลางแต่สภาพของเคนตอนนี้ ไม่รับรู้ว่าใครเป็นใคร สายตาของเคนจึงปรายมองมาไม่เต็มตาด้วยซ้ำ
"อึม... ไม่ไหวละ เอายามาปวดหัวจะแย่ละ ฉันจำใครไม่ได้หรอกตอนนี้ แจ่มอย่าบอกคุณแม่ละว่าฉันดื่มมา แล้วมีสภาพอย่างที่เห็น ฉันขึ้นไปนอนต่อละ"
แม่จันทร์ซึ่งยืนอยู่ข้างๆแจ่ม ยิ้มให้คุณเคนตอนแนะนำตัว แต่คุณเคนของเธอไม่สนใจอะไรเลย จนแจ่มบ่นเป็นหมีกินผึ้ง เมื่อคุณเคนของเธอหายขึ้นชั้นสองไปเพื่อนอนต่อ
"ถ้าเป็นสาวๆคงตาโตใช่ไหมคะคุณเคน นี่เป็นแม่จันทร์หรอกถึงไม่สนใจอะไรเลย"
แม่จันทร์เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็เริ่มเข้าใจว่าทำไมคุณหญิงแม่ของเขาถึงจ้างเธอมาดูแลส่วนตัวให้ลูกชาย
"ดิฉันเข้าใจแล้วคะว่าทำไม คุณหญิงถึงจ้างดิฉันมาช่วยดูอีกแรง สังเกตุจากกลิ่นเหล้าเมื่อกี้ ก็แรงไม่เบาเชียว"
แม่จันทร์กล่าวอย่างใจเย็น เมื่อพูดถึงลูกชายคุณหญิงบัวพากับแจ่มที่ยังยืนอยู่เป็นเพื่อนไม่ไปไหน
"เป็นไงละแม่จันทร์ คิดว่าไหวไหมคะ แต่ยังไงก็คิดว่าสงสารเธอ ถูกตามใจมาตั้งแต่เล็ก ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนะ"
"ไหวนะคะ เลี้ยงลูกสาวมาก็ไม่แพ้กัน คนนั้นก็ดื้อใช่เล่น "
แม่จันทร์ปิดปากหัวเราจะเบาๆ แล้วเดินเข้าไปในครัวกับแจ่มเพื่อไปทำข้าวต้มให้คุณเคนของเธอทาน
เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง กลิ่นข้าวต้มโชยไปถึงชั้นสองของบ้าน เคนยันกายลุกจากเตียง ทำจมูกฟุตฟิต เมื่อได้กลิ่นข้าวต้มร้อนๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
"ว่าไงแจ่ม"
"ไม่ใช่แจ่มคะ จันทร์เอง"
"เปิดเข้ามาสิ แต่ฉันโป๊อยู่นะเข้ามาเถอะ"
แม่จันทร์แง้มประตูเข้าไปอย่างช้าๆภายในมือถือข้าวต้มร้อนๆในมือหอมฉุยน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง แม่จันทร์ไม่กล้ามองไปที่เตียง ได้แต่ปรายตามองเพียงเท้าของเคนเท่านั้น
"วางตรงนั้นแหละ เดี๋ยวฉันกิน แล้วก็ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวหัวใจเธอจะวายเสียก่อน"
"ค่ะ...รีบทานนะคะเดี๋ยวจะเย็นเสียก่อนไม่อร่อยคะคุณ"
"รู้แล้วน่าอย่ามาเป็นแม่ของฉันอีกคนจำไว้"
แม่จันทร์ทราบในน้ำเสียงนั้นจึงรีบถอยออกมา เมื่อเจ้าของห้องเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันใด
"ไปแล้วคะ"
เสียงปิดประตูเบาๆเมื่อแม่จันทร์เดินออกไป ไม่เหมือนเสียงแจ่มเดิน แม่จันทร์เดินจนเคนแทบไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลย ถ้าเป็นแจ่มคงดังไปสามบ้านแปดบ้านก็ว่าได้
"โอ้ย...กี่โมงกี่ยามแล้วนี่ ทำไมปวดหัวขนาดนี้นะ"เคนยกมือกุมขมับ
"กินข้าวต้มซะหน่อยน่าจะดีขึ้น ว่าแล้วก็เอาซะหน่อย"
เป็นเพราะกลิ่นข้าวต้มที่ยั่วยวนใจเคนนั่นเอง จึงทำให้เขาต้องยันกายลุกจากเตียงในสภาพของคนดื่มแล้วแฮ้งค์จนทำอะไรไม่ได้อยู่แบบนั้น เคนเอื้อมมือพร้อมขยับตัวไปยังโต๊ะเล็กๆข้างเตียง ในสภาพที่ไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แล้วตักข้าวต้มกุ้งเข้าปากคำแรก
ซู้ด...
"อืม...อร่อยนี่ ถ้าเป็นฝีมือแจ่มคงไม่ได้เท่านี้ หรือไม่ฉันอาจจะโยนทิ้งไปเลยก็ได้นะ'
ระหว่างกินข้าวต้มเคนก็คิดวิจารณ์คนใช้ชื่อแจ่มที่อยู่ด้วยกันมานานแต่ฝีมือทำอาหารกลับสู้ป้าจันทร์ไม่ได้เลย
เช้าวันต่อมา...
หลังจากที่เคนไปปาร์ตี้แล้วเมาไม่ได้สติกลับมา แต่ได้ข้าวต้มแม่จันทร์เข้าไปเขาถึงกับตาสว่างเลยทีเดียว หลังจากวันนั้นเคนก็ไม่ได้ออกไปไหนเป็นเพราะเหนื่อยและรู้สึกร่างกายย่ำแย่
"อ้าว...วันนี้ลูกชายตัวดีของเราอยู่บ้านนี่สิ ถึงว่าท้องฟ้ามันมืดครึ้มชอบกล"
เสียงคุณหญิงบัวพา ตะโกนไล่หลังลูกชายเมื่อเห็นเขาเดินเล่นอยู่ในสวน
"คุณแม่ครับอย่าแซวผมนักเลย ยังไงบ้านก็คือที่สุดท้ายที่ผมจะกลับมาตายรังนะครับ ฮึ..ฮึ"
เสียงหัวเราะในลำคอของเคน ทำให้คุณหญิงยิ้มออกมาได้เช่นกัน
"เคนลูก วันนี้จะเข้าบริษัทไหม เห็นให้ศักดิ์ชัยดูแลแทนมาหลายวันแล้วนี่ลูก เข้าไปดูหน่อยก็ดีนะระวังเรื่องบัญชีไว้บ้าง อยา่ไว้ใจใครให้มากนัก แล้วเรื่องแม่บ้านคนใหม่ที่แม่ให้มาดูแลแกเป็นไงบ้าง"
คุณหญิงบัวพาถามความเห็นลูกชาย
"แหม...คุณแม่ก็หาให้ผมซะแก่เลยนะครับ ทำไมกลัวเคนจะจับคนใช้เป็นเมียหรอ ไม่หรอกครับ เคนไม่ใฝ่ต่ำขนาดนั้นหรอก รู้ดีน่าว่าจะเลือกใครทำเมียออกหน้าออกตาครับ"
"อย่าเลยแกนะเห็นใครสวยเป็นไม่ได้ อย่างแม่แพมอะไรนั่น แม่ก็ไม่เอาหรอกนะ อย่าเอามาทำเมียออกหน้าออกตาเด็ดขาด ไม่ไหว ไม่ไหว"
คุณหญิงบัวพาส่ายหน้าไปมา เคนมองแล้วก็อดขำไม่ได้ที่แม่ของเขาไม่ชอบแพมเอาซะเลย
ในความคิดของเขาคงไม่เอาแพมทำเมียออกหน้าออกตาเช่นกัน แต่เอาไว้มีเซ็กซ์ยามแก้เหงาพอได้ แต่ทำเมียคงไม่ได้เพราะแพมทำงานไ่ม่เป็นเอาซะเลย เจียวไข่ยังไหม้ ได้แพมเป็นเมียคงอดตาย นางเก่งแต่เรื่องบนเตียงอย่างเดียว
ที่คอนโดของแพม...
อยู่ๆแพมก็จามไม่รู้สาเหตุติดๆกันสามครั้ง
"ใครนินทาวะ ยิ่งเบื้่อๆอยู่เคนก็ไม่มาหาหลายวันแล้ว โทรก็ไม่โทร มันน่านักถ้าไม่ติดว่ารวยคงสลัดทิ้งไปนานละ ฮึ'
แพมคิดไปพลางก็รู้สึกเซ็งขึ้นมาซะงั้น เธอก็รู้สึกเบื่อเคนเหมือนกันที่คิดจะมาก็มาจะไปก็ไป ไม่สม่ำเสม
อเอาซะเลย ปล่อยให้เธอวิ่งตามจนเริ่มเหนื่อย
"ไปร้านเหล้าดีกว่า ยังไงเคนก็คงยังไม่มาหรอก เฮ้อ...เบื่อโว้ย"
"พี่จุ๋มเป็นอะไรคะ ไม่พูดไม่จาหน้าตาไม่สบายเลย"อ้อมถามจุ๋มที่นั่งข้างๆ ด้วยความเป็นห่วง เป็นใย อย่างน้อยยามที่เธอไม่สบายใจโดนรัศมีและดวงดาวกลั่นแกล้งก็มีพี่จุ๋มนี่แหละที่คอยช่วยให้กำลังใจเสมอมา"คือพี่ทะเลาะกับคนที่บ้านมาจ้ะ ไม่สบายใจนิดหน่อย ขอบใจนะอ้อมที่เป็นห่วงพี่""ไม่เป็นไรนะพี่จุ๋ม เอางี้นะคะวันนี้อ้อมพาพี่ไปเปิดหูเปิดตาดีกว่าไหม ร้านนี้เขาว่าดีกัน นักร้องก็หล่อใช้ได้ร้องเพลงก็เพราะ"อ้อมพูดปลอบประโลมจุ๋มให้เธอคลายกังวล "อ้อมพูดเหมือนท่องราตรีจนช่ำชองแล้วอย่างนั้นแหละ แต่พี่ว่าก็ดีเหมือนกันนะ ช่วงนี้เบื่อๆเจอแต่อะไรก็ไม่รู้ บริษัทก็มีแต่มลพิษทางสายตาทางอารมณ์ ไปปลดปล่อยบ้างก็ดีนะ นี่ก็ใกล้เลิกงานแล้ว เตรียมตัวกันเถอะ แต่อ้อมไม่ต้องอะไรมากแค่นี้ก็สวยระเบิดเถิดเทิงแล้ว ให้คนอิจฉาเล่นๆ "จุ๋มไม่วายที่จะเอ่ยถึงฝ่ายตรงข้ามให้หายอารมณ์เสีย อย่างน้อยมันก็ช่วยได้ ไม่มากก็น้อย"ค่ะ...ไปกัน เอารถใครไปดีคะ วันนี้อาจจะมีการมึนเมากันเกิดขึ้น หรือเราจะนั่งแท็กซี่ไปกันดี"ทั้งสองปรึกษากันก่อนไป อ้อมไม่ลืมที่จะโทรบอกแม่ให้กลับก่อนโดยไม่ต้องรอเธอ เพราะวันนี้จะออกไปเปิดหูเปิดตากับจุ๋ม แม่ของอ้
ดวงดาวขับรถมาจอดที่หน้าบริษัทของเคน เธอไม่รอช้ารีบขึ้นไปหาเคนทันที คุณศักดิ์ชัยที่อยู่ด้านหน้าเห็นดวงดาวก็แปลกใจ ปกติแล้วนายของเขาจะพาแต่แพมมา หรือไม่แพมก็มาหาเอง แต่ดวงดาวเขาไม่เคยเห็นเพิ่งจะเห็นก็วันนี้แหละ"ขอโทษครับมาหาใคร นัดไว้หรือเปล่า"ศักดิ์ชัยถามตามธรรมเนียมเหมือนทุกครั้งที่เคยถามกับทุกคนที่ผ่านเข้ามาหาเคน"มาหาคุณเคนค่ะ คุณเคนอยู่ไหม แล้วก็ไม่ได้นัดด้วยค่ะ ฉันเป็นเอ่อ...ช่างเถอะแล้วอยู่ไหมคุณเคนอะ"ดวงดาวทำหน้ายียวนกวนประสาทศักดิ์ชัยนิดนึง เธออยากจะบอกเหลือเกินว่าเธอเป็นเมียเขา แต่ก็ยังไม่กล้า ดวงดาวรอดูสถานการณ์ก่อน นับว่าเธอก็ยังฉลาดอยู่มาก"คุณเคนมีแขกครับ คุณรอก่อนได้ไหม "ศักดิ์ชัยกำลังผายมือให้ดวงดาวนั่งแต่ไม่ทันเสียแล้ว เธอผลุบหายเข้าไปในห้องทำงานของเคน ทั้งที่ศักดิ์ชัยไม่ทันพูดอะไร"มาแนวเดียวกันเลย เหมือนคุณแพมเลย ปวดหัวแท้เน้อ"ศักดิ์ชัยกุมขมับ เขาไม่สามารถช่วยเหลือนายของเขาได้แล้วตอนนี้ เพราะดวงดาวกำลังจะเข้าไปเจอแพมที่นั่งรออยู่ก่อนหน้านี้"ผมช่วยอะไรนายไม่ได้ละนะ นายเคลียร์เองเถอะเฮ้อ! "ภายในห้องทำงานของเคน...ดวงดาวเข้ามาเจอแพมที่นั่งอยู่ตรงโซฟาหน้าโต๊ะทำงานข
มันก็คงจะจริงอย่างที่มารดาเธอพูด อ้อมอาจจะได้รับผลที่ตามมาคุ้มค่าก็ว่าเดิมก็เป็นได้"ก็อาจจะจริงค่ะแม่ อ้อมเชื่อแม่ก็ได้ เข้าบ้านกันเถอะค่ะถึงแล้ว อ้อมรู้สึกหิวแล้วด้วย"สองแม่ลูกก็เดินกอดประคองกันเข้าบ้านด้วยความเหนื่อยล้าจากงานมาทั้งวันเช้าวันต่อมา...เคนก็ออกไปทำงานเหมือนเช่นเคย ช่วงนี้มีงานให้ต้องสะสางหนัก เขาจึงทำตัวเถลไถลไม่ได้มากนัก เพราะบิดาของเขาเตือนนักเตือนหนาให้ดูแลสมบัติของครอบครัวให้ดี ในขณะที่บิดาของเขาได้เกษียนแล้วแยกไปอยู่บ้านอีกหลังกับภรรยาอีกคน ทิ้งให้แม่ของเขาต้องออกงานสังคมเพียงลำพังจากวันนั้นที่เคนรับปากว่าจะไปหาแพม แต่เขาก็ผิดนัดทำงานจนลืมเวลานัดกับแพมไปเสียสนิท แถมซ้ำเขาก็ลืมที่จะโทรไปขอโทษเธอเสียสนิท จนทำให้แพมร้อนรนมิอาจอยู่นิ่งเฉยได้อีก เพราะเคนห่างเหินจากเธอมาก เธอจึงมาหาเคนที่ทำงานเพื่อที่จะเจอเขาเหมือนเช่นทุกครั้ง"คุณศักดิ์ เคนละอยู่ไหม แพมมาหาเคน"แพมเอ่ยกับคุณศักดิ์เหมือนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเธอก็เข้าออกที่นี่มานานหลายครั้ง แพมในชุดเซ็กซี่เหมือนเช่นเคย กระโปรงสั้นเหนือเข่า รองเท้าส้นสูงปรี๊ด เวลาเดินเกรงจะล้ม แต่เธอก็รอดมาได้ทุกครั้ง"อยู่ครับ
หลังเลิกงานอ้อมแวะไปรับแม่ของเธอเช่นเคย วันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าทุกวันจนป้าจันทร์มารดาของเธอสังเกตุได้ไม่ยากนัก เพราะถ้าอ้อมไม่เหลืออดเหลือทนจริงๆจะไม่แสดงออกให้เห็น ยกเว้นป้าจันทร์จะสังเกตดูจากสีหน้าและแววตาของลูกสาวของตัวเอง"เป็นไงลูกวันนี้ ขับรถมาก็ไม่พูดไม่จา ปกติแล้วจะมีแรงมาเล่าเรื่องโน่นเรื่องนี้ให้แม่ฟังบ่อยๆ"ภายในบ้านหลังเล็กๆที่อ้อมเติบโตมา เธอไม่เคยรู้สึกว่ามันเล็กเลย มันยิ่งใหญ่มากไปด้วยความรักสำหรับอ้อมเสมอ ตั้งแต่บิดาของเธอเสีย ความเป็นอยู่ในครอบครัวของเธอกลับลำบากมากขึ้น จนทำให้แม่ของเธอไม่อาจอยู่นิ่งได้ แต่ก็ไม่เชิงว่าจะลำบากมากนัก เพราะบ้านที่ป้าจันทร์ที่แม่ของเธอไปทำงาน ให้เงินเดือนไม่ต่ำมากและไม่ดูแย่จนเกินไป"แม่คะ อ้อมไม่รู้ว่าสมควรจะเล่าให้แม่ฟังดีไหม มันอาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับอ้อมมันน่าเบื่อมากค่ะ"แม่ของอ้อมยกมือมาลูบหัวลูกสาวพร้อมโอบไหล่ให้กำลังใจ ว่าเธอจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้อ้อมได้เสมอ"ฟังนะลูก อ้อมสามารถเล่าความรู้สึกนั้นให้แม่ฟังได้เสมอ แม่รับฟังลูกได้ทุกเรื่องนะอ้อม"อ้อมเริ่มมีน้ำตาเอ่อล้นเต็มสองตาก่อนเล่าเรื่องงานให้แม่ฟังและไหนจะเรื่อ
"แล้วคุณอยากเป็นผู้หญิงของผมไหมละ ผมยินดีนะ"สายตากรุ้มกริ่มของเคน ทำให้อาการยะเยือกร้อนยะเยือกหนาวของอ้อมหนักขึ้น เธอทั้งโมโหทั้งเขิน จนไม่รู้จะเก็บแขนไว้ตรงส่วนไหนของร่างกายดี"ฮึ...แม้แต่ขาอ่อนของฉันนายก็ไม่ได้เห็นหรอก "อ้อมคิดในใจ เสียงในหัวของอ้อมยำ้เตือนเสมอว่าอย่ายุ่งกับผู้ชายคนนี้เธอคิดอยู่เสมอว่าเขาเจ้าชู้ ดูจากที่เขาเกี้ยวพาราสีดวงดาววันนั้น ป่านฉะนี้ดวงดาวก็คงตกเป็นของเขาไปแล้ว แล้วไหนจะจากกลิ่นน้ำหอม การแต่งตัวอีก ผู้หญิงที่ไหนเห็นจะไม่ชอบบ้าง"คุณ...คุณ อ้าวยืนนิ่งเป็นหุ่นเลย ไม่คิดจะตอบผมหน่อยหรือ ว่าอยากเป็นผู้หญิงของผมไหม""ไม่ค่ะ""คิดสักนิดก่อนก็ได้ครับ แหมรีบพูดเชียว "อ้อมยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานของเขา ชายหนุ่มอย่างเคนไม่วายที่จะลองหว่านเสน่ห์ใส่อ้อม ทดสอบว่าอ้อมจะหวั่นไหวหรือไม่ เขาแกล้งเอื้อมมีือไปหยิบปากกาด้านหลังอ้อม จนใบหน้าหล่อเหลาคมกริบของเขาแทบชนกับใบหน้าอ้อมอีกนิดเดียวเท่านั้น"จะบ้าหรือยังไง ไอ้ผู้ชายบ้าดูสิแกล้งเราอีกจนได้ ใกล้ชิดซะขนาดนี้ จูบไปเลยดีกว่าไหม กลิ่นก็หอมเกินชายแบบนี้รู้ไหมแม่ใจสั่นโว้ย"เสียงในหัวอ้อมดังขึ้นอีกครั้ง แต่เหมือนเขาจะอ่านใจเธอออก
"เธอไปไหนมาโก้...เจ๊รอเธอตั้งนานร้องเพลงเสร็จก็หายไปเลยนะ"โก้อึกอักไม่รู้จะตอบเจ๊ว่าอย่างไรดีเขาพยายามหาเหตุผลที่คิดว่าเจ๊จะไม่โกรธได้มากที่สุด"โอ๋...ที่รัก โก้แค่นั่งดื่มต่อกับเพื่อน มันติดลมไปหน่อยนะ ตอนนี้โก้ก็มาแล้วไงอย่าหงุดหงิดนะคะ ที่รัก"โก้เข้าไปกอดเจ๊ของเขาด้วยความรัก เพราะถึงอย่างไรเสีย เจ๊ของเขาก็มีบุญคุณล้นหลาม ทำให้เขาเป็นเขามาจนถึงทุกวันนี้"อย่าให้เจ๊รู้นะว่าโก้กำลังนอกใจเจ๊ เจ๊เอาตายเลยนะ ไม่เชื่อคอยดู"สายตาของเจ๊ที่แข็งกร้าว มันทำให้โก้ขนลุกขนพองขึ้นมาทีเดียว แค่เขากลับบ้านผิดเวลาแค่นิดเดียว เจ๊ยังหงุดหงิดได้ถึงปานนี้"ไม่แน่นอนที่รัก โก้ไม่ทำแบบนั้นหรอก โก้สัญญาจะรักที่รักคนเดียวตลอดไปครับ"สีหน้าของเจ๊เริ่มผ่อนคลายขึ้นเมื่อโก้เอ่ยคำหวานเอาใจ ยังไงเสียเจ๊ก็แพ้ลูกอ้อนของโก้ทุกทีสินะ"พวกแกออกไปก่อน ฉันจะอยู่กับโก้สองคน"เจ๊หันไปสั่งลูกน้องที่ยืนคุมสถาณการ์ณอยู่ ให้ออกไปนอกห้อง เธอต้องการอยู่เพียงลำพังกับโก้เพื่อพูดคุยเรื่องส่วนตัว"ครับนายหญิง...ปะพวกเราออกไปก่อน"คุณนายสายสน มีกิจการส่วนตัวมากมาย แกเคยมีสามีแต่จ้างเลิกไปแล้ว เพราะผัวแกก็เจ้าชู้เอาไม่เลือกเหมือนกั