“อืม....คุณเจเดนขา เป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวที่นั่งทำงานอย่างตั้งใจอยู่ระหว่างหว่างขาของซีอีโอหนุ่ม เขานอนพิงหัวเตียงอย่างสบายใจมือหนึ่งถือแก้วไวน์ อีกมือกดศีรษะหญิงสาวให้ซุกซนอยู่บนเอ็นร้อนของเขาอย่างไม่คิดจะให้เงยหัวขึ้นมาจนกว่าเขาจะพอใจ ร่างแกร่งเริ่มตอบสนองความใคร่สาวผมแดง ช่างเร่าร้อนเกิดคำบรรยายขณะที่ร่างกายกำลังถูกปรนนิบัติจากหญิงสาวดาราดังระดับแนวหน้าที่เขาจ้างมานอนด้วย
ไม่ใช่นอนสิ...นอนด้วยอะไรกันแบบนี้จะเรียกนอนด้วยกันได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่เคยต้องใช้ร่างกายกับเธอเลยแม้แต่นิด นอกจากปากบางของเธอที่เขาโปรดปรานให้ครอบครองแท่งเอ็นร้อนของเขาและช่วยเขาให้ถึงสวรรค์ตามที่เขาต้องการก็เท่านั้น
เจเดนโปรดปราณการถูกปรนนิบัติจากปากของหญิงสาวให้แก่ร่างกายของเขาเป็นที่สุด ทว่ากลับรังเกียจการสอดใส่หรือมีเพศสัมพันธ์กับพวกเธอ ร่างกายที่ผ่านชายมานับสิบไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่ามีคุณค่า หญิงสาวที่ซื้อได้ด้วยเงินมีค่าเพียงแค่ต้องยอมก้มหัวให้กับเขาเวลาที่เขาต้องการเท่านั้น
“นี่นะเหรอ ที่เขาร่ำลือกันว่าลีลาเด็ดดวงยิ่งกว่าใครๆ หึ โสเภณีในเลานจ์ยังใช้ปากเก่งกว่าเธอเลย เสียอารมณ์ฉันจริงๆ ออกไป”
เจเดนพูดพลางผลักสาวสวยให้ออกห่าง ดึงชายเสื้อคลุมแล้วเดินลุกจากเตียงไปก่อนที่สาวเจ้าจะวิ่งเข้ามากอดรั้งเขาไว้ เพราะตัวเธอเองยังไม่ได้สมใจ จากขนาดแล้วความคับแน่นคงมีอยู่ไม่น้อย เธอได้ยินมาว่านักธุรกิจหนุ่มผู้ร่ำรวยคนนี้ไม่ยอมนอนกับใครด้วยซ้ำ เธอจึงรู้สึกอยากจะเป็นคนแรกที่พิชิตความยากลำบากนี้เป็นคนแรก เพื่อจะได้เป็นนายหญิงของซีอีโอ
“เดี๋ยวสิคะ”
“ออกไปได้แล้ว อย่าให้ผมต้องไล่” เขาเอ่ยไล่สาวสวยที่เข้ามายังไม่ถึงชั่วโมง
ชายหนุ่มเผลอนึกถึงหนุ่มโฮสต์ที่เขาจ่ายไปในราคาที่แพงลิบลิ่วกับการเพียงแค่อมเอ็นร้อนของเขาแค่ครั้งเดียว จ่ายไปถึง 5 แสน ดาราแนวหน้าที่เคยรับงาน เขายังเคยจ่ายไม่ถึงสามแสนด้วยซ้ำ ตอนนั้นไม่รู้ว่าผีห่าตนใดเข้าสิงหรือเป็นเพราะแค่ต้องการเอาชนะเท่านั้น ทำให้ตัดสินใจกดครั้งเดียวทำเงินหายออกจากบัญชีไปถึงครึ่งล้าน คิดแล้วก็อดเสียดายไม่ได้
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรกลับมาเพราะเห็นสีหน้าของมันที่กลัวจนตัวสั่น เจเดนรู้สึกสะใจมาก ยิ่งมันทำท่าทางรังเกียจเพศเดียวกันเขายิ่งพึงพอใจ และด้วยกลิ่นหอมหวานของเงิน แม้แต่ดารา นางแบบหรือผู้หญิงแนวหน้า พอถูกทาบทามด้วยตัวเลขที่สูงจนพอใจ ผู้หญิงหิวเงิน ยังไงก็ยังเป็นเช่นนั้น แค่เห็นตัวเลขเงินที่สูงลิ่วแม้แต่ศักดิ์ศรีก็ยอมวางลงได้ รับเงินแล้วมาสยบแทบหว่างขาของเขาทุกราย
“จัดการเรียบร้อยดีมั้ย”
“ครับนาย พรุ่งนี้มันจะถูกไล่ออก”
“ดี...จัดการเรื่องต่อไปเลย...”
“ครับ”
@ CC Bar
“อะไรนะ พี่ไม่ให้ผมกลับไปทำงานแล้ว ทะ ทำไมครับ”
วินที่ตั้งใจจะกลับมาทำงานจนถึงสิ้นเดือนอยู่แล้วต้องชะงักเพราะผู้จัดการแจ้งว่าทางผู้ใหญ่สั่งการให้เวย์ออกจากที่นี่ พี่สาวผู้จัดการพยายามช่วยพูดแล้วทว่ากลับไม่ได้ผลหากเวย์ไม่ยอมออกไปที่นี่จะถูกปิดถาวร
“คือ...ลูกค้าวีวีไอพีที่เค้าเรียกเวย์ไปวันนั้นน่ะ เค้าไม่พอใจที่จะเห็นเวย์ทำงานที่นี่ เขาเลยขู่ว่าจะถอนหุ้นออกทั้งหมด ถ้าพี่ยังให้เวย์ทำงานต่อพี่เลยต้องให้เวย์ออก เวย์เข้าใจพี่นะ...พี่ขอโทษ อีกอย่างก็ใกล้จะสิ้นเดือน เวย์ก็จะครบกำหนดลาออกตามที่บอกพี่ไว้ ” ฟังน้ำเสียงผู้จัดการสาวที่บอกออกมาท่าทีลำบากใจ เวย์เองก็เข้าใจไม่ได้เร้าหรือแต่อย่างใด
“ขอบคุณนะครับ”
ทำไมวินจะไม่เข้าใจ เขาเข้าใจดีเลยทีเดียวว่าคนๆนั้นเลวร้ายน่ากลัวแค่ไหน เขายังจำคืนแรกและคืนที่สองได้ดีทีเดียว ซ้ำคืนที่บอกที่เวย์เอ่ยถามเขาไปว่า
“ถ้าผมต้องตายบอกได้ไหมเพราะสาเหตุอะไร”
คำตอบที่วินได้กลับมาคือ
“เพราะมันสะใจกู ” จากนั้นเขาก็ลากวินออกจากรถแล้วเหวี่ยงลงพื้นและขับรถออกไปในทันที
หลังจากวินพูดคุยกับผู้จัดการร้านเรียบร้อยแล้ว เขาเดินทางกลับมาที่บ้านของตัวเองในทันที วินสังเกตว่าในขณะที่เขาขับรถกลับออกมามีรถขับตามเขาอยู่ เมื่อคิดดังนั้นแล้ว เขาจึงมุ่งหน้ากลับบ้านทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะเข้าไปเยี่ยมแม่และน้องชายที่โรงพยาบาล เขากำลังคิดอย่างหนักว่าจะกลับสู่ตัวตนของตัวเองเลยดีไหมแต่หากทำแบบนั้นตัวเวย์คงจะโดนเต็มๆแน่นอนซึ่งน้องของเขายังไม่หายดี
วินถึงบ้าน ตัดสินใจโทรไปบอกเวย์ว่าช่วงนี้เขาติดงานจะไม่ได้เข้าไปเยี่ยมและมีโปรเจคที่ต้องทำอาจจะไม่อยู่บ้านสักเดือน และแนะนำให้เวย์กับแม่พักฟื้นฟูร่างกายต่อจนครบเดือนเลย ค่าใช้จ่ายวินเคลียร์ให้แล้ว
ตืด…สายโทรศัพท์จากเวย์ติดต่อมายังพี่ชายฝาแฝดทันที
เวย์ : ( วิน มึงบอกกูมา เกิดอะไรขึ้น)
วิน : (กูว่าช่วงนี้มีคนตามมึงว่ะ)
เวย์ : (แล้วมันทำอะไรมึงไหม)
วินนิ่งไปสักพักจึงบอกเวย์ไป
วิน : (ไม่ เพราะกูบอกว่ากูไม่ใช่มึง มึงไปต่างประเทศแล้ว จะไม่กลับมาอีก)
เวย์ : (กูจะกลับบ้าน มึงพาแม่ไปอยู่ที่ต่างจังหวัดเถอะ)
วิน : (ไม่ๆมันบอกว่ามึงติดเงินมัน กูให้เงินมันไปแล้ว มึงนั่นแหละพาไป แม่กับมึงแข็งแรงแล้วค่อยว่ากัน)
เวย์ : (ไอ้วิน เงินอะไรว่ะ )
วิน : (กูไม่รู้แต่ให้ๆไปให้มันจบ กูได้งานพอดี กูต้องเริ่มงาน)
เวย์ : (ไม่มีอะไรจริงๆนะ )
วิน : (เออๆ ไม่ต้องกลับมาบ้าน เผื่อว่ามีอะไร กูไม่อยากให้พวกมันเจอแม่ )
เวย์ : (กูหายแล้ว มึงจะให้กูอยู่จนครบเดือนเลยเหรอ)
วิน : (เออน่า..เอาให้หายชัวร์ๆมึงฟังหมอแนะนำเข้าใจใช่ไหม)
เวย์ : (เอา กูดูแลแม่เอง)
วิน : (แค่นี้นะ)
หลังจากวางสายจากเวย์ วินก็อดพูดกับตัวเองไม่ได้
“ไอ้เวย์ มันไปทำอะไรให้คุณถึงได้ตามจองล้างจองผลาญมันนัก”
วินฉุกคิดในใจว่า หากเขากลับไปเป็นตัวเอง และเดินหน้าสมัครงาน เจเดนต้องรู้อย่างแน่นอน และเป้าหมายก็จะตรงไปที่เวย์และเวย์จะเป็นอันตรายได้ วินจึงคิดว่าถึงยังไงก็คงหนีเขาไม่พ้นสู้เผชิญหน้าแล้วถามความจริงเพื่อจบเรื่องให้ได้ วินจึงตัดสินใจค้นหาเอกสารการเรียนของเวย์ คนที่จบ ปวส.จะมีงานอะไรให้เลือกมากนัก วินหาข้อมูลจากชื่อของเขาที่ระบุในสลิปการโอนเงินมาแล้วลองค้นหาในอินเตอร์เนตจับใจความคร่าวๆที่ผู้คนกล่าวถึง
“เจเดน ชาร์ลลอส มาเฟียหนุ่มผู้มีชื่อเสียงทางด้านสีเทา คนในวงการรู้จักเขาดีว่าเขาคือหมาป่าผู้หิวโหย และนอกจากธุรกิจสีเทาเขามีธุรกิจรงแรงและห้างสรรพสินค้า รวมถึงการนำเข้าส่งออกสินค้าก้วย เบื้องหลังมาเฟียหนุ่มมีลูกน้องมากมายและการดีลงานลับกับผู้มีอิทธิพลเป็นผลทำให้ธุรกิจของเขาดำเนินไปอย่างราบเรียบ สิ่งที่เขาต้องการต้องได้เสมอ
วินตัดสินใจจะทำให้มันจบที่ตัวเอง หากเขาเป็นอะไรไปจะยังมีเวย์ที่ดูแลแม่ต่อไปและเวย์เองตอนนี้กำลังปรับปรุงตัวเอง น้องของเขาควรจะมีความสุข สงบ เวย์ก็เสียสละเพื่อแม่ไม่น้อยเช่นกัน ความรักแม่รักน้อง ทำให้วินตัดสินใจที่จะรับจบเอง
วินค้นหางานที่หน้าจอคอมแล้วกดหาดูงานในเครือบริษัทของเจเดนผ่านอินเตอร์เน็ต
“งานแบบไหนดีที่เขาอยู่ประจำ... ออ โรงแรมห้าดาว”
สายตาเหลือบไปเห็นชื่อ เจซี โฮเทล รับสมัครตำแหน่ง พนักงานเสิร์ฟในห้องอาหารยุโรป…ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ขอให้สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี เงินเดือนเริ่มต้น 18000+ไม่รวมเซอร์วิสชาร์จ
“ที่นี่สินะ สมัครงานไปเจอเลย จะได้ไม่ต้องอยู่อย่างระแวง ต้องจบให้ได้” วินกดส่งใบสมัครทางเวปไซต์โดยประวัติเป็นของเวย์
ผ่านไปในช่วงบ่ายก็มีอีเมลล์ตอบกลับมาที่วิน
“คุณได้รับการพิจารณาให้ทดลองงานเป็นเวลาสามเดือนก่อนจะมีการพิจารณาเลือกเข้าทำงานกับทางโรงแรมของเราค่ะ”
วินยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ประวัติของเวย์โดนเรียกเข้าทำงานทั้งๆที่คิดว่าที่นี่คงจะไม่ได้แน่ๆแล้วเพราะเป็นโรงแรมห้าดาว เขาจึงตัดสินใจไปลองดูเพราะเขาบอกจะหาคำตอบและทำงานเป็นพนักงานในนามของเวย์จริงๆ อย่างน้อยมันก็พอจะมีเงินเดือนในช่วงที่เขากำลังหาคำตอบและอีกอย่างวินยังจำพูดของเจเดนว่า......เวย์ยังตายไม่ได้
ดังนั้นก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นกับเวย์ วินต้องหาคำตอบให้ได้ว่าสาเหตุใดที่ทำให้
มาเฟียนามว่าเจเดนแค้นเคืองให้ได้
“พนักงานใหม่ ชื่อ เวคินทร์ สุรภัครชัย”
ท่ามกลางความสับสนของความรู้สึก ร่างทั้งสองกลับกอดก่ายกันบนเตียงกว้าง สายตาสอดประสานเต็มไปด้วยความต้องการในฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ริมฝีปากแดงระเรื่อถูกช่วงชิงละเลียดชิมความหวานจากเธออย่างอ่อนโยน การใกล้ชิดทำให้เวและแองจี้เผลอไผลไปกับบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นใจ ไม่นานร่างของทั้งคู่ก็เปลือยเปล่า เนินอกอวบอิ่มของหญิงสาวที่โตเต็มที่ในวัยยี่สิบปีพอดีเด่นหราชวนสัมผัส เวผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากบองของสาวสวยตรงหน้า ก่อนจะเคลื่อนต่ำครอบครองส่วนชูชันสีหวาน “อื้อ… พี่เว” “ขอโทษ ให้พี่หยุดตอนนี้ไหม” “มะ…ไม่ค่ะ” แองจี้พูดเสียงเบาอย่างขัดเขิน เธอไม่ต้องการให้อีกฝ่ายหยุดตอนนี้ เพราะเธอเองก็มีความต้องการเช่นเดียวกัน แม้ว่าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตาม เวค่อย ๆ ปรนเปรอร่างบางอย่างแผ่วเบา เขาก็รู้เหมือนกันว่านี่คือครั้งแรกของอีกฝ่าย เขาไม่อยากเผลอทำรุนแรงเกินไป แต่อารมณ์ของเขาก็ยากจะควบคุมได้เหมือนกัน การใกล้ชิดกันมากเกินไปทำให้เกิดเรื่องที่น่าหวาดหวั่น เขาไม่อยากให้มันเกิดอะไรแบบนี้แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นด้วยความเต็มใจ มือหนาลูบไล้ไปตาม
มือหนากระชับเสื้อโค้ทกันหนาวตัวใหญ่ ที่สวมคลุมเอาไว้เพื่อลดความเย็นของอากาศ การฮันนีมูนทั้งสองเลือกที่ฝรั่งเศสเพราะเจเดนมีบ้านอยู่ที่นี่อยู่แล้ว และอยากให้วินได้มาพบกับครอบครัวฝั่งพ่อของเขาด้วย และอีกอย่างวินก็ต้องการมาหาเด็กแฝดอลิซและเอลิค หลังจากที่จัดงานแต่งงานเสร็จแองจี้ก็พาเด็ก ๆ กลับฝรั่งเศสทันที ทำให้วินไม่ได้เล่นกับเด็ก ๆ เลยช่วงนั้น “หนาวมากไหมคะ” เจเดนเอ่ยถามคนรักอย่างเป็นห่วง “ไม่ครับ ผมชอบที่นี่จังเอาไว้เรามาเดินเล่นกันอีกได้ไหม” “ได้สิคะ” วินชอบวิวที่หอไอเฟลมาก นอกจากจะสวยแล้วยังมีสถานที่ให้นั่งเล่นและเดินเล่นรอบ ๆ ได้อีกด้วย แม้ว่าที่นี่คนค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีระเบียบต่างคนต่างมาเที่ยวไม่ยุ่งเกี่ยว นั่นแหละคือสิ่งที่วินชอบ… วันนี้พวกเขาไปเที่ยวมาหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังแวร์ซายส์ หรือพิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ วินชอบสถานที่แบบนี้ เพราะมันเงียบสงบและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของที่นี่ แต่มีที่หนึ่งที่เขาอยากไปเหมือนกันนั่นก็คือดิสนีย์แลนด์ คิดเอาไว้ว่าเดี๋ยวพวกเขาจะพาเอลิคและอลิซมาเที่ยววันหลัง “ถ้าชอบที่นี่งั้นเราอย
ขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมงานแต่งงานระหว่างนายเตวินทร์ สุรภัครชัย และ นายเจเดน ชาร์ลลอส วันอาทิตย์ ที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 9.09 นที่โรงแรมเจซี บรรยากาศโรแมนติกภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของเจเดนและวิน ก่อนหน้าทั้งคู่มีปากเสียงกันนิดหน่อยเรื่องของการจัดงาน วินต้องการจัดเล็ก ๆ ภายในครอบครัวและเพื่อนเท่านั้น ทว่าเจเดนกลับไม่เห็นด้วยทำให้มีการเถียงกันกว่าจะลงตัวก็เลยสรุปเอาไว้คนละครึ่งทาง แต่วินไม่คิดว่าครึ่งทางของเจเดนจะเกินครึ่งมามากถึงขนาดนี้ เขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้าอีกฝ่ายจัดเต็มจะมากขนาดไหน เจเดนปิดโรงแรมของเขาทั้งวันทั้งคืนและให้พนักงานทุกคนของโรงแรมได้เข้าร่วมงาน โดยงานแต่งงานปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออแกไนท์ทั้งหมด ดังนั้นแค่พนักงานของโรงแรมก็ปาไปกี่ร้อยคนแล้ว ห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรมถูกเปิดใช้งานและแล้ววันงานก็มาถึง เป็นงานแต่งงานที่เล็กแค่ในจินตนาการเท่านั้นจริงๆเพราะเจเดนเล่นใหญ่มากจนวินแทบอยากจะตะโกนใส่หน้า คุณพี่มันมากเกินไป วินในชุดไทยเจ้าบ่าวยืนต้อนรับแขกในงาน โดยที่เขาก็ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยเ
เสียงเพลงใน CC บาร์ บาร์โฮสต์ชื่อดังใจกลางเมือง คืนนี้เสียงดนตรีกึกก้องและพอขึ้นอินโทรเปิดตัวสองหนุ่มแฝดเวและวิน ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ ด้วยเพราะแขกในร้านเรียกร้องมา ต้องการให้เวกลับมาโชว์การเต้นและก่อนจะถึงคืนนี้เวส่งคลิปทักทายแฟนคลับโดยมีพี่ชายของเขาอยู่ในคลิปด้วย และจึงเป็นที่มาของกี่เรียกร้องให้เกิดการโชว์ตัว์ของสองแฝดวินและเว การจัดโชว์ของโฮสต์ตัวท๊อปหน้าเหมือนจึงเกิดขึ้นอีกทั้งยังมีเพื่อนสาวกระเป๋าหนักอย่างกวางและมิน ที่ชอบจิ้นวินและเจเดนอยู่เป็นประจำ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นคู่จริงแล้วก็ตาม แต่คนที่จะอารมณ์เสียมากที่สุดคงไม่พ้นเจเดน ที่ตอนนี้ได้แต่มองแฟนหนุ่มของเขาขึ้นไปเต้นคู่กับน้องชายฝาแฝดอยู่บนเวที การโชว์ของสองหนุ่มเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดให้กับแขกในร้านได้อย่างล้นหลาม และวินก็รู้ตัวด้วยว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เจเดนไม่พอใจมาก ๆ ซึ่งนั่นก็คือจุดประสงค์ เสียงกรี๊ดของเพื่อนสาวส่งเสียงเชียร์ให้กับวินและเว แต่ครั้งนี้คนที่เล่นใหญ่กลับเป็นวิน เพราะแทนที่เขาจะเต้นเฉย ๆ วินกลับทำสิ่งที่ไม่คาดคิด มือเรียวดึงชายเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้หลุดออกเล็กน้อย ก่อนจะปลดกระ
ร่างกายที่เปลือยเปล่านอนกอดกันตลอดทั้งคืน วินรู้สึกตัวตื่นก่อนเพราะอากาศที่ค่อนข้างเย็น แม้ว่าภายในห้องของพวกเขาจะมีเครื่องทำความร้อนก็ตาม แต่การนอนถอดเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่นก็เป็นอะไรที่ท้าทายจนเกินไปหน่อย วินไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนมันทำให้เราเหนื่อยกันขนาดนี้ วินพลิกตัวกลับมามองคนที่กอดเขาจากด้านหลัง ใบหน้าของเจเดนตอนที่หลับเป็นอะไรที่น่ามองที่สุดแล้ว เพราะไม่มีสายตาที่ยียวนหรือคำหวานเลี่ยน ๆ อีกทั้งยังสงบสุขไม่มีคนคอยกวนใจ แต่พอคิดอีกทีไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนเขาก็ชอบเจเดนทั้งหมดทุกเวลานั่นแหละ มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นเกลี่ยใบหน้าของเจเดนเบา ๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ไล่ตั้งแต่คิ้วเปลือกตาและปลายจมูก แต่เมื่อนิ้วของวินสัมผัสที่ริมฝีปากของเจเดน นิ้วของเขาก็ถูกอีกฝ่ายงับเข้าอย่างจัง “โอ๊ย !” วินร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะให้อีกเจเดนได้มากกว่า เจเดนรวบร่างของวินเข้ามากอดพร้อมกับฟัดแก้มของแฟนหนุ่มแรง ๆ อย่างนึกมันเขี้ยว “จะลักหลับพี่เหรอคะ” “เปล่าสักหน่อย แค่จะไล่แมลงวันเฉย ๆ ครับ” วินหลบสายตา เพราะถูกจับได้ว่าแอบแตะอั๋งอ
หลังจากขึ้นจากบ่อนำพุร้อน การแช่ตัวเป็นอะไรที่ค่อนข้างผ่อนคลายไม่น้อย เดินเที่ยวมาทั้งวันความเหนื่อยล้าสะสมก็หายเป็นปลิดทิ้ง วินสวมชุดยูกาตะที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้ เพราะด้วยเหตุนี้วินและเจเดนจึงเลือกโรงแรมนี้เป็นพิเศษ วินเองก็อยากให้เจเดนในชุดยูกาตะ ส่วนเจเดนก็อยากเห็นวินในชุดที่ถอดง่ายเหมือนกัน แม้เป็นครั้งแรกที่สวมแต่ก็โชคดีที่มันสวมง่ายกว่าที่คิด วินเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเช่นเดียวกับเจเดนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหมือนกัน กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกลิ่นเฉพาะของโรงแรมทำเอาสดชื่นไม่น้อย ตอนที่อาบน้ำวินยังคิดเลยว่าเขาจะถามพนักงานเหมือนกันว่าครีมอาบน้ำนี้มีขายหรือเปล่า “ว้าว สวมชุดนี้แล้วดูน่ารักจังเลยค่ะ” เจเดนเดินเข้ามาใกล้ รวบร่างของวินเข้ามากอด ก่อนจะหอมที่แก้มของคนรักฟอดใหญ่ “เลิกพูดคะขา สักทีได้ไหมครับ วินขนลุกไปหมดเวลาที่พี่เจพูดแบบนี้” “ไม่ได้ค่ะ เพราะพี่รักวินไง พี่ก็อยากพูดเพราะ ๆ กับวินด้วย มันเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งนะคะ” “พูดครับธรรมดาก็ได้นี่ครับ มันก็แสดงความรักเหมือนกัน” “ไม่เหมือนนะ แต่มีอย่างหนึ่งที่แสดง