Home / รักโบราณ / มิลืมเลือนรัก / คงไม่ต้องให้ท่านแม่เป็นกังวล

Share

คงไม่ต้องให้ท่านแม่เป็นกังวล

last update Last Updated: 2025-12-02 01:54:11

หลายปีผ่านไป

          สองมือใหญ่ปิดตาทั้งสองข้างของสตรีรูปโฉมงดงามที่ตนรักใคร่เสียยิ่งกว่าอะไร เขาพานางมายังสถานที่แห่งหนึ่งด้วยใจเต้นระทึก

          “เจ้าชอบหรือไม่” เขาถามขึ้นทันควัน หลังจากปล่อยนางให้เป็นอิสระแล้ว

          “เจ้าค่ะ ว่าแต่ที่นี่คือที่ไหนหรือ”

          “ที่นี่คือเรือนหอของเรา ข้าตั้งใจสร้างเรือนหลังนี้ขึ้นมาเพื่อเจ้า”

          “ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะ ว่าจะแต่งงานกับข้า อย่างที่ท่านรู้ข้าหาใช่สตรีสูงศักดิ์ ข้าเป็นเพียงลูกสาวพ่อค้าเท่านั้น” เหม่ยเหรินถามเขา

          “เหม่ยเหริน เจ้ากับข้ารู้จักกันมานาน เจ้าย่อมรู้จักข้าดี”

          “ข้ารู้เจ้าค่ะ เพียงแต่...”

          “หากเจ้ากลัวว่าครอบครัวข้าจะไม่ยอมรับ เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวลไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ข้าจะไม่มีวันปล่อยมือเจ้า” หวังหย่งเอ่ยคำมั่นด้วยน้ำเสียงจริงจังชัดเจน

          ครั้นกลับมาถึงจวนหญิงสาวเดินไปยิ้มไปจนทำให้คนในจวนอดรู้สึกสงสัยไม่ได้

          “มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นงั้นรึ เจ้าถึงได้เดินยิ้มหน้าบานเช่นนี้” เป็นเสี่ยวอวี้ถามขึ้น ยามเห็นลูกสาวบุญธรรมของตนเองเกือบเดินผ่านหน้าไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายืนอยู่ตรงนี้

          “ท่านพ่อ หากข้าออกเรือนในเร็ววันนี้ท่านว่าเร็วไปรึไม่”

          “ที่เจ้าพูดหมายความเช่นไร เจ้าเพิ่งผ่านวัยปักปิ่นได้ไม่ถึงครึ่งปีเหตุใดถึงได้คิดพูดเรื่องออกเรือนเร็วเช่นนี้”

          “อย่างที่ท่านพ่อรู้ ข้ากับคุณชายหวังหย่งชอบพอกัน เขาบอกข้าว่าจะแต่งงานกับข้าน่ะเจ้าค่ะ”

          “หวังหย่งผู้นั้นน่ะรึ พ่อว่าเจ้าอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเสียดีกว่า อีกไม่นานเข้าจะเข้ารับตำแหน่งขุนนางขั้นสี่เห็นทีคงมีเรื่องให้สะสางจำนวนมาก อีกอย่างแล้วมารดาเจ้าที่อยู่เมืองหลวงทราบเรื่องรึยัง”

          “ยังเจ้าค่ะ”

          “เช่นนั้นเขียนจดหมายบอกกล่าวนางไว้ด้วย บิดาของเจ้าก็เช่นกันอย่าลืมบอกใต้เท้าอี้ด้วยล่ะ”

          “ช่างเขาสิเจ้าคะ ข้ามีท่านเป็นพ่อคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ส่วนเขาผู้นั้นที่เชื่อเรื่องโชคชะตาอะไรนั่นจนยอมไล่ข้าออกจากจวนข้าไม่เคยคิดว่าเขาเป็นบิดา”

          “เหม่ยเหริน เรื่องนี้ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วมิใช่หรือ ใต้เท้าอี้ไม่ได้อยากทำเช่นนี้เสียหน่อย แต่เพราะฮูหยินผู้เฒ่าอี้ป่วยหนักถึงได้จำใจ”

          “แม้ท่านจะพูดแก้ตัวให้เขาแต่ความจริงหาได้มีอันใดเปลี่ยน หากท่านพ่อใส่ใจข้าจริงคงให้คนรับข้ากลับเข้าตระกูลอี้นานแล้ว ข้าคงไม่ต้องอยู่กับท่านจนอายุปูนนี้หรอกเจ้าค่ะ นับตั้งแต่มาอยู่กับท่านข้าไม่ใช่อี้เหม่ยเหรินอีกต่อไป ข้าคือเสี่ยวเหม่ยเหริน ลูกสาวพ่อค้าตระกูลเสี่ยว”

          “พูดไปพูดมา คงเป็นข้าอีกตามเคยที่เถียงคำเจ้าไม่ได้ ช่างเถิดไม่ว่าเจ้าจะเป็นคนตระกูลอี้หรือตระกูลเสี่ยว เจ้าก็ยังเป็นลูกสาวสุดที่รักของข้าเช่นเดิม” ครั้นฟังจนจบ นางก็เข้าสวมกอดบิดาเพื่ออดอ้อนเอาใจ

          ทางด้านของหวังหย่งถูกเรียกตัวกลับเมืองหลวงกะทันหันโดยไม่ทันได้บอกกล่าวสตรีที่ตนรัก

          “ฮูหยิน คุณชายกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้กล่าวรายงาน

          “เจ้าไปเชิญคุณชายมาหาข้าที่นี่”

          “บ่าวจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

          ไม่นานนักชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฮูหยินหวังผู้เป็นมารดา

          “ท่านแม่ เรียกข้ามามีเรื่องอะไรหรือขอรับ”

          “หากแม่ไม่เรียกเจ้ามา เห็นทีเจ้าคงลืมไปแล้วกระมังว่ายังมีหญิงแก่เช่นข้าอยู่ที่จวนนี้” นางอดกล่าวประชดประชันไม่ได้ เหตุเพราะลูกชายคนเล็กไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นหลังจากไปอยู่ที่เมืองลั่วหยางเมื่อสี่ปีก่อน และเมื่อไม่นานมานี้ยังมีข่าวลือดังเข้าหูนางว่าบุตรชายไปหลงรักสตรีนางหนึ่งซึ่งเป็นเพียงบุตรสาวพ่อค้ายิ่งทำให้รู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก คราวนี้สบโอกาสที่หวังหย่งกลับมาเมืองหลวงนางถึงได้คิดวางแผนจับลูกชายแต่งกับสตรีที่ตนเป็นผู้เลือก โดยมิได้ถามความยินยอมจากบุตรชาย

          “ท่านแม่พูดอย่างกับว่าเคยสนใจข้าอย่างนั้นแหละขอรับ ปกติท่านสนใจแต่พี่ใหญ่”

          “หวังหย่ง เหตุใดลูกถึงพูดเช่นนี้ แม่ย่อมสนใจเจ้าอยู่แล้วเพียงแต่ตอนนั้นพี่ใหญ่ของเจ้ายังไม่ประสีประสาในเรื่องต่าง ๆ แม่จึงต้องคอยชี้แนะ ทำให้ไม่มีเวลาเอาใจใส่เจ้า ทว่าบัดนี้มิใช่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว อายุเจ้าถึงวัยออกเรือนแล้วจะให้แม่ปล่อยปละละเลยได้เช่นไร”

          “เรื่องแต่งงานของลูกคงไม่ต้องให้ท่านแม่เป็นกังวล ลูกมีคนที่ต้องการแต่งงานด้วยแล้วขอรับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มิลืมเลือนรัก   ตอนจบ

    “หากไม่ได้เป็นดังที่ข้าคิด แล้วเหตุใดเจ้าถึงได้เอามือมาลูบปากข้ากัน” เขายกยิ้มไปพลางถามไปพลาง จนคนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเขินอายอยู่ไม่น้อย “ข้าแค่อยากรู้ว่าริมฝีปากของบุรุษจะอ่อนนุ่มหรือหยาบกร้านถึงได้เผลอไผลทำเรื่องเช่นนั้นไป” “งั้นหรือ” เขาแสร้งเห็นด้วย จากนั้นค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาเรื่อย ๆ จนลมหายใจเป่ารดหน้านางเข้า “ท่านจะทำอะไรหรือเจ้าคะ” ว่าพลางดันหน้าอกชายหนุ่มให้ออกห่าง แต่ทว่ากายแกร่งไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว “เจ้าอยากรู้นักไม่ใช่หรือว่าริมฝีปากข้าจะอ่อนนุ่มหรือไม่ แทนที่จะใช้มือ มิสู้ใช้ปากไม่ดีกว่าหรือ” เอ่ยจบก็ทาบทับริมฝีปากลงไปแผ่วเบา ก่อนขบเม้มเข้าที่ริมฝีปากล่างของนางเพื่อหยอกล้อ “อื้อ” ซ่งอันเว่ยพร่ำจูบนางจนพอใจถึงได้ปล่อยริมฝีปากของนางให้เป็นอิสระ ขณะที่มืออีกข้างปลดเปลื้องอาภรณ์จนร่างของหญิงสาวเปลือยเปล่าไร้ซึ่งสิ่งใด ไม่นานนักร่างกายของเขาก็เปลือยเปล่าไม่ต่างจากนาง... อี้ชางสือมองภาพเบื้องหน้าทั้งรอยยิ้ม ยามเห็นภาพคู่สามีภรรยารักใคร่กลมเกลียว “ท่านพี่ ท่านฝึกซ้อมมาหลายชั่วยามแ

  • มิลืมเลือนรัก   ออกเรือน

    ทางด้านของฮูหยินผู้เฒ่าที่อาการป่วยทรุดลงเรื่อย ๆ จนไม่อาจลุกจากเตียงได้แต่นอนเป็นผักเท่านั้น “อาการของท่านแม่ เป็นเช่นไรบ้าง” เขาถามสาวใช้ข้างกายมารดา “อาการของฮูหยินผู้เฒ่าแย่ลงเรื่อย ๆ เลยเจ้าค่ะ” “ไปตามท่านหมอมาเร็วเข้า” “ตามไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกเจ้าค่ะ ท่านหมอเพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง ทั้งยังบอกว่าอาการของฮูหยินผู้เฒ่าไร้หนทางรักษาแล้ว” อนุเมิ่งบอกสามี “จะ...เจ้า นางคนเนรคุณ” เสียงแหบแห้งหมดเรี่ยวแรงพูดขึ้น “พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลท่านเอง” นอกจากนางจะไม่โกรธแล้ว นางยังส่งยิ้มให้หญิงชราด้วยซ้ำไป ฝั่งของฟู่ซิวแวะมาเยี่ยมมารดาสามีบ้างบางครั้ง เพราะอนุเมิ่งขอเป็นคนดูแลเอง “ฮูหยิน ตั้งแต่อนุเมิ่งไปดูแลฮูหยินผู้เฒ่าอาการของนางก็แย่ลงเรื่อย ๆ เลยนะเจ้าคะ หรือว่านางจะ...” “เจ้าอย่าได้เสียงดังไป เพราะถ้าหากนางไม่ได้ทำเช่นนั้นจริงคนที่เดือดร้อนคงกลายเป็นพวกเราแทน” นางบอกเสียงเบา ทั้งที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าเมิ่งไป่ซูวางยาพิษฮูหยินผู้เฒ่า แต่นางไม่คิดเปิดโปงเรื่องนี้ เพราะเห็นสมควรว่าสตรีว

  • มิลืมเลือนรัก   เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง

    ชายหนุ่มถอดรองเท้าของนางออกหนึ่งข้าง ซึ่งเป็นข้างที่นางได้รับบาดเจ็บ แล้วฉีกชายเสื้อของตัวเองมาพันข้อเท้านางไว้ ก่อนอุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดด้วยความหวงแหน จากนั้นเดินกลับกระโจมไป แม่ทัพซ่งวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ด้วยความทนุถนอม ก่อนออกไปสั่งให้คนสนิทเรียกท่านหมอมาดูอาการ ทว่าไม่ทันจะได้ทำเช่นนั้นเขาถูกมือของหญิงสาวชุดรั้งแขนไว้เสียก่อน “จะไปไหนหรือเจ้าคะ” “ข้าจะให้คนไปตามท่านหมอมารักษาเจ้า” “ข้าไม่ต้องการหมอ” “ถ้าไม่ต้องการหมอ แล้วเจ้าต้องการอะไร” “ข้าต้องการท่าน” นางบอกทั้งใบหน้าแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด “…” “ทำไมไม่ตอบข้าล่ะเจ้าคะ” “ปล่อยก่อน” “ท่านอยากรู้ใช่รึไม่ว่าคนที่ข้ารักคือใคร เช่นนั้นข้าจะบอก” “ไม่ต้อง ข้าไม่อยากรู้” เขาปฏิเสธทันควัน เพราะยังไม่พร้อมรับฟัง “ซ่งอันเว่ย ท่านฟังข้าพูดให้ดี ๆ ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียว” “ข้าไม่....” “คนที่ข้ารักคือท่าน ไม่ใช่ใครอื่น” นางแทรกขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นสวมกอดจากด้านหลัง “ที่เจ้าพูด...จริงหรือ ไม่ใช่เ

  • มิลืมเลือนรัก   เรียกความสนใจ

    “น้องพี่ ใครเป็นคนทำให้เจ้าอารมณ์เสียหรือถึงได้ทำสีหน้าบึ้งตึงเช่นนี้” “เปล่าเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้เป็นอะไร” “เจ้าปิดบังพี่ไม่ได้หรอก เมื่อครู่ข้าเห็นรถม้าของตระกูลซ่งมาส่งเจ้า ดูทีว่าต้นเหตุคงเป็นซ่งอันเว่ย พี่จะไปจัดการเขาให้เอง” “พี่ชางสือ ท่านจะทำอะไรเขางั้นหรือ” “ข้าจะเตะเขาสักสิบครั้ง ต่อยสักหมัดสองหมัด ให้คนผู้นั้นรู้เสียบ้างว่าอย่าริอาจมารังแกน้องสาวของข้า” “ท่านพี่ จะทำเช่นนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ อีกไม่นานข้ากับท่านแม่ทัพต้องแต่งงานแล้ว หากใบหน้าเขาบอบช้ำ ข้าคงทนเห็นไม่ได้” “เจ้านี่ช่างเป็นห่วงเขาเสียเหลือเกิน ไหนเจ้าบอกพี่ว่าไม่ได้คิดอันใดกับเขาเล่า” “ขะ...ข้าแค่เป็นห่วงเท่านั้น อีกอย่างท่านแม่ทัพไม่ได้รักข้าเช่นกัน” “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้รักเจ้า” “อะ...เอ่อ” “ข้าจะบอกความจริงให้เจ้าฟัง เจ้าคิดว่าคนเย็นชาอย่างซ่งอันเว่ยจะเสียเวลาไปรับสตรีที่ไม่รู้จักกลับเมืองหลวงด้วยตัวเองงั้นหรือ ทั้งยังคอยคุ้มกันจนถึงจวนอีก” “เรื่องนั้นท่านแม่ทัพบอกข้าว่า เป็นเพราะท่านไหว้ว

  • มิลืมเลือนรัก   ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง

    “สรุปว่าท่านจะให้ข้าอยู่เรือนรับรองหรือ” “ใครบอกเจ้ากัน เรือนใหญ่ออกจะกว้างขวาง อีกอย่างพวกเราเป็นสามีภรรยากันอยู่เรือนหลังเดียวกันก็สะดวกสบายดี หรือเจ้าไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกับข้างั้นหรือ” “มีผู้ใดบ้างที่ทำเช่นนี้ ปกติแม้เป็นคู่สามีภรรยากัน แต่ยังต้องแยกเรือนกันอยู่เลยนะเจ้าคะ” นางถาม เพราะตามปกติแล้วสามีจะอยู่เรือนใหญ่เพียงคนเดียว “ข้าไม่สนใจเรื่องพวกนั้นสักนิด” “แต่ถ้าท่านมีอนุคงไม่สะดวก หากอยู่เรือนหลังเดียวกัน” “ข้าไม่เคยคิดอยากมีอนุ ข้าจะมีเจ้าเป็นฮูหยินเพียงผู้เดียวเท่านั้น” เขาบอกเสียงจริงจัง จนนางเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาเป็นคนชัดเจนตลอดมา ไม่เคยมีสักครั้งที่ทำให้นางต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง “เช่นนั้นห้องนอนของข้า” “ที่เรือนนี้ไม่มีห้องนอนของเจ้า มีแต่ห้องนอนของเรา” ท้ายประโยคเขาเอื้อนเอ่ยเบา ๆ ราวกับสายลมอ่อน ๆ พัดผ่านยอดหญ้า ไหนจะท่าทีเก้เก้อดูก็รู้ว่าคนพูดรู้สึกเช่นไร “วันนี้เจ้าพอมีเวลาว่างให้ข้าทั้งวันรึไม่” “ถามทำไมหรือเจ้าคะ” “เย็นนี้ในเมืองจัดง

  • มิลืมเลือนรัก   เห็นกันหมดทุกคน

    หลังจากส่งบุตรสาวอีกคนแต่งออกไปถึงเมืองเป่ยโจว ก็ถึงคราวของอี้เหม่ยเหรินหมั้นหมายกับแม่ทัพหนุ่ม ผู้ซึ่งเป็นที่หมายปองของสตรีทั้งเมืองหลวง นอกจากเขาจะรูปโฉมงดงามราวเทพเซียนแล้ว ยังมากด้วยความสามารถและอนาคตไกล จนพวกขุนนางในราชสำนักต่างยกลูกสาวของตัวเองใส่พานมาถวายอยู่ไม่ขาด ทว่าเขากลับไม่สนใจสักนิด ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือนาง หญิงสาวธรรมดาที่เขาเคยพบเจอเมื่อสี่ปีก่อน นางเป็นบุตรสาวพ่อค้าชื่อดังของเมืองลั่วหยาง เวลาเห็นนางยิ้มทีไรทำให้หัวใจหยาบกระด้างของชายหนุ่มอ่อนระทวยลงราวกับถูกไฟลน ยามนึกถึงคราแรกที่พานพบพลันทำให้ใจสั่นไหวรัวเร็ว “คุณหนู รอบ่าวด้วยเจ้าค่ะ” “เล่อจิน เจ้ารีบตามข้ามาเร็วเข้า” หญิงสาววัยแรกแย้มกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ก่อนหันมาบอกสาวใช้คนสนิท “โอ๊ย” สุดท้ายนางสะดุดล้มเข้าจนได้ “แงง” เสียงเด็กชายร้องไห้เสียงดัง เพราะหมั่นโถวที่ตนถืออยู่ตกพื้น “เด็กน้อย ข้าไม่ได้ตั้งใจ” ว่าพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาด้วยความรู้สึกผิดเต็มอก “หมั่นโถวลูกนี้ ข้าลำบากลำบนกว่าจะทำงานหาเงินซื้อได้” เด็กน้อยเอ่ยทั้งน้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status