ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณหนูเจ้าขา ตื่นหรือยังเจ้าคะ บ่าวเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ"เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นปลุกฮูหยินคนใหม่ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของตนเองให้ลืมตาตื่นขึ้นมา เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงด้วยดวงตาที่เหม่อลอยตั้งแต่ยามเช้าแล้ว นางหันไปมองที่หน้าประตูห้องก่อนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่าจนเปียกชุ่มแก้มสวยทั้งสองข้าง เมื่อคืนถึงแม้จะบอกว่านางเข้านอนแล้ว ทว่าก็ไม่สามารถข่มตาให้นอนหลับลงได้ นางหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่ทั้งคืน ในใจหวังอยากให้ผู้เป็นสามีกลับเข้ามาหานาง นางนั่งรอเขาจนถึงยามเช้าก็ไร้เงาร่างของบุรุษผู้นั้นบุรุษที่เย็นชากับนาง!
"อืม ข้าตื่นแล้ว เจ้าเข้ามาเถอะ" เสียงหวานเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบายามเฉิน (07.00 - 08.59 น.) เสี่ยวเจียงสาวใช้คนสนิทของเสิ่นชิงเยียนเข้ามาปรนนิบัติเจ้านายของตนเอง เสี่ยวเจียงเป็นสาวใช้ที่ตามเสิ่นชิงเยียนมาจากตระกูลเสิ่น นางดูแลรับใช้คุณหนูของนางมาตั้งแต่เด็กย่อมมีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น
เมื่อนางเดินมาถึงเตียงนอนที่เรียบร้อยเหมือนกับว่ายังไม่เคยมีผู้ใดใช้งาน เสี่ยวเจียงก็รับรู้ได้ทันทีว่า เมื่อคืนคุณหนูของนางไม่ได้ร่วมหลับนอนกับผู้เป็นสามีเลยแม้แต่น้อยดูจากที่คุณหนูของนางหน้าตาหมองเศร้า ไม่เหมือนกับเจ้าสาวที่ควรจะมีความสุขกับการแต่งงานที่เฝ้ารอเลยสักนิด
"คุณหนู...เกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ เหตุใดคุณชายใหญ่ถึงไม่อยู่ในห้องหอเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงถามออกมาอย่างร้อนใจ เหตุใดคุณหนูของนางจึงหน้าเศร้าหมองเช่นนี้ แล้วคุณชายหานสวี่เล่าเหตุใดจึงไม่อยู่ด้วยกัน ในหัวของเสี่ยวเจียงมีแต่คำว่าทำไมเต็มไปหมด
นางเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูแต่กลับไม่เห็นว่าคุณชายใหญ่ออกจากห้องหอไปเมื่อใด คงจะเป็นตอนที่นางเผลองีบหลับกระมัง
"ข้าออกเรือนแล้วเหตุใดยังเรียกคุณหนูอยู่เล่า เจ้าควรจะหัดเรียกข้าว่าฮูหยินให้ชินเสีย หากใครมาได้ยินเข้า เขาจะหาว่าตระกูลเสิ่นไม่ได้อบรมสั่งสอนบ่าวไพร่ให้ดี ถึงได้เบาปัญญาเช่นนี้"เสิ่นชิงเยียนตำหนิออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเจ็บปวด เสี่ยวเจียงก้มหน้าลงทันที ทว่าก็ไม่ได้โกรธเคืองเลยสักนิด
"บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ บ่าวจะจำเอาไว้ คะ...คุณ...เอ่อ...ฮูหยินรอบ่าวสักครู่นะเจ้าคะ เดี๋ยวบ่าวจะเตรียมน้ำให้ล้างหน้าล้างตา แล้วคุณชายใหญ่ออกไปแล้วหรือเจ้าคะ บ่าวไม่เห็น..."
"เสี่ยวเจียงข้าอยากอาบน้ำ เจ้าไปเตรียมน้ำเถอะ เดี๋ยวข้าจะต้องไปยกน้ำชาให้ท่านพ่อกับท่านแม่"เสิ่นชิงเยียนตัดบทไม่อยากจะสนทนาเรื่องนี้อีกต่อไป นางไม่มีอะไรจะพูด จะให้บอกได้อย่างไรเล่าว่าเจ้าบ่าวไม่ได้นอนร่วมหอกับนางทั้งคืน ส่งตัวเสร็จเขาก็หายไปเลย
"เจ้าค่ะ"
เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนเองไม่อยากพูดถึง นางจึงหลบออกมาเตรียมน้ำอุ่นให้ เสิ่นชิงเยียนใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย นางเดินออกไปที่เรือนใหญ่ ทันทีที่ก้าวเข้าไปนางก็พบกับสายตาเย็นชาของบุรุษรูปงามที่เป็นสามีของนาง เขายืนมองนางด้วยแววตาที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"ที่นี่หาใช่ตระกูลเสิ่นไม่ เจ้าควรจะรู้จักมารยาทที่พึงกระทำ ปล่อยให้บิดามารดาของข้ารอเช่นนี้สมควรแล้วหรือ หรือว่าที่บ้านเจ้าไม่ได้สั่งสอนมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ"
หานสวี่กล่าวเสียงเข้มออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาจะต้องรีบไปทำงานจะมัวมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระอยู่เช่นนี้ไม่ได้ หากไม่ติดว่าเป็นเพราะคำสั่งของบิดามารดา เขาไม่มีวันจะมายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่
หานสวี่เป็นอาจารย์สอนเหล่าบัณฑิตอยู่ที่สำนักศึกษาหลวงกั๋วจื่อเจี๋ยน ตระกูลหานทำงานรับราชการมาหลายชั่วอายุคน บิดาของเขาหานจี้กง ก็ดำรงตำแหน่งเสนาบดีเลขานุการอยู่ในวังหลวง ผู้คนนับหน้าถือตาไม่น้อย ด้วยเพราะคอยรับใช้ใกล้ชิดฝ่าบาท
เขารู้สึกหงุดหงิดที่ต้องมามัวเสียเวลารอหญิงสาวนางนี้ การเดินเหินก็ชักช้า ขัดใจเขายิ่งนักหานสวี่สะบัดหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์ เสิ่นชิงเยียนได้แต่ก้มหน้าลงด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย
"ข้าขออภัยเจ้าค่ะ คราวหน้าข้าจะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนพยายามบังคับเสียงของตนเองไม่ให้สั่นเครือ นี่แค่ย่างก้าวเข้ามาในจวนวันแรกนางก็ต้องพบเจอสายตาเย็นชาของผู้เป็นสามีเสียแล้ว และคงจะต้องเป็นเช่นนี้อยู่ทุกวันจนกว่าจะครบกำหนดที่เขาตั้งไว้อย่างนั้นหรือ แค่นึกถึงนางก็เจ็บปวดรวดร้าวที่หัวใจดวงน้อยจนแทบทนไม่ไหว
"เอาล่ะสวี่เอ๋อร์เจ้าก็อย่าไปดุน้องนักเลย น้องเพิ่งแต่งเข้าบ้านเราคงยังไม่คุ้นชิน มาเถอะเยียนเอ๋อร์ มายกน้ำชาให้ท่านพ่อกับแม่เถอะ"ฮูหยินเถาฮวามารดาของหานสวี่กล่าวอย่างปลอบโยน นางเดินไปกุมมือลูกสะใภ้ที่หน้าตาหมองเศร้าด้วยความสงสาร บุตรชายนางช่างตาบอดยิ่งนัก เสิ่นชิงเยียนทั้งเรียบร้อยและอ่อนหวาน เป็นสตรีที่ดีงามไม่ด้อยไปกว่าสตรีจวนอื่นๆเลยแม้แต่น้อย ครอบครัวนางถึงแม้จะเป็นพ่อค้า ทว่าก็เป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยมหาศาลขุนนางบางคนยังต้องเกรงใจบิดาของนางอยู่หลายส่วน เหตุใดบุตรชายนางถึงได้โง่เขลาเบาปัญญามองข้ามสตรีที่แสนดีอย่างเสิ่นชิงเยียนไปได้
บรรยากาศในการยกน้ำชาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความกดดัน เสิ่นชิงเยียนมือไม้สั่นไปหมด เมื่อเสร็จพิธีการ หานสวี่ก็หุนหันออกจากจวนไปโดยที่ไม่แม้แต่จะสนทนากับฮูหยินคนใหม่ผู้เป็นภรรยาของเขาแม้แต่คำเดียว นางมองตามร่างสามีที่หายไปบนรถม้าอย่างอาลัยอาวรณ์
"ฮูหยินเจ้าคะ เข้าข้างในเถอะเจ้าค่ะ" เสี่ยวเจียงเข้ามาประคองคุณหนูของตนด้วยความสงสาร
"เยียนเอ๋อร์มานี่สิลูก แม่มีเรื่องจะคุยกับเจ้า" เถาฮวาพาลูกสะใภ้ไปนั่งพูดคุยยังศาลาริมสระบัวภายในจวน
"ท่านแม่มีอะไรจะชี้แนะเยียนเอ๋อร์หรือเจ้าคะ"
"เยียนเอ๋อร์เจ้าแต่งเข้าสกุลหานแล้ว จะดีจะชั่วอย่างไรก็เป็นคนของสกุลหาน เจ้าเป็นฮูหยินของจวนนี้ เรื่องงานบ่าวไพร่เจ้าสามารถจัดการได้อย่างเต็มที่ เรื่องหานสวี่ก็เช่นกัน เขาเป็นสามีเจ้าแล้วเข้าใจหรือไม่ แม่ว่าเจ้าลองพยายามดูสักหน่อยเถิด หากมีอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรง เจ้าสามารถมาแจ้งแก่แม่ได้ทุกเมื่อเข้าใจหรือไม่เยียนเอ๋อร์" เถาฮวารู้ดีถึงแม้ว่าทั้งคู่แต่งงานกันโดยที่มิได้มีใจเสน่หาให้แก่กัน บุตรชายของนางผูกใจรักใคร่กับไป่อ้ายเหม่ย ทว่าแม่นางไป่ผู้นั้น เถาฮวาไม่ยินดีที่จะรับเข้ามาอยู่ร่วมตระกูลหาน ไม่ว่าจะฐานะใดก็ตาม สิ่งที่พอจะทำได้คือการสั่งสอนให้ลูกสะใภ้คนนี้ พยายามเอาใจบุตรชายของตน เผื่อว่าวันหนึ่งหานสวี่จะตาสว่างมองเห็นความจริงเสียที
"ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ ที่เอ็นดูเยียนเอ๋อร์ เยียนเอ๋อร์จะทำตามที่ท่านแม่สอนทุกอย่างให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ"
ตอนพิเศษ 2 หานจุ้นเสิ่นชิงเยียนเดินหน้าบึ้งตึงไม่ยอมรอหานสวี่ ชายหนุ่มรีบเดินตามหลังนางไปติด ๆ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี ผิดกับร่างอรชรที่เดินอย่างไม่สนใจเขา"ฮูหยินเจ้าอยากกินบะหมี่เกี๊ยวใช่หรือไม่ ไปกันเถอะพี่ให้บ่าวไปจองโต๊ะรอไว้แล้ว" หานสวี่ยื่นมือไปจับข้อมือบางของเสิ่นชิงเยียนเอาไว้ ทว่านางก็บิดข้อมือออกอย่างไม่ยินยอม นางบิดออกเพียงน้อย หากไม่สังเกตก็คงจะไม่มีผู้ใดได้เห็น หานสวี่หาได้ยอมให้ฮูหยินของเขาทำเช่นนั้น มือหนาสอดกุมมือบางเอาไว้ พลางส่งยิ้มใบหน้าหล่อเหลาไปให้อย่างเอาใจ เสิ่นชิงเยียนเขินอายทว่ายังแสร้งทำหน้าบึ้งตึงอยู่อย่างนั้น"ปล่อยข้า ไม่ต้องมาจับ!!" นางพูดออกมาเสียงเบา "ปล่อยได้อย่างไร หากพี่ปล่อยเจ้าก็เดินหนีพี่ไปอีก ภรรยาไม่พอใจสามีเรื่องใดหรือ บอกสามีได้หรือไม่" หานสวี่เอ่ยเสียงเย้า ยิ่งทำให้ฮูหยินน้อยทั้งมีโทสะปนเขินอายไปกันใหญ่"ท่านพี่!!...เหตุใดท่านจึงเป็นคนหน้าไม่อายเช่นนี้ ข้าไม่อยากจะพูดกับท่านพี่แล้ว" เสิ่นชิงเยียนหันหน้าหนี เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้มองหน้ากันพลางก้มหน้ายิ้ม"เรื่องใดกัน พี่หน้าไม่อายตรงไหนหรือเยียนเอ๋อร์บอกแก่พี่สิ ไหนเจ้าเคยให้
ตอนพิเศษ 1 เทศกาลโคมไฟ"เยียนเอ๋อร์คืนนี้แม่จะพาเจ้าไปลอยโคมที่งานโคมไฟกันดีหรือไม่"เสิ่นชิงเยียนหันไปยิ้มให้แม่สามีก่อนจะพยักหน้าตกลง"เจ้าค่ะท่านแม่ เยียนเอ๋อร์อยากไปกินบะหมี่ร้านริมแม่น้ำเจ้าเดิมนั่นอีกเจ้าค่ะ"นางจำได้ดีร้านบะหมี่หยกร้านนั้นจะขายแค่ปีละครั้ง ในงานเทศกาลโคมไฟเท่านั้น ไม่รู้เช่นกันว่าเพราะเหตุใดร้านอร่อยเช่นนั้นถึงได้เปิดขายแค่ปีละครั้ง ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย"เฮ้อ...นึกถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้วข้าก็โมโหยิ่งนัก ดีนะที่แม่นางไป่ผู้นั้นไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับเจ้าอีก หากไม่เช่นนั้นแล้วข้านี่แหละที่จะจัดการนางเองคอยดูเถอะ" เถาฮวาทุบกำปั้นลงมาที่ฝ่ามือตนเองอย่างแค้นเคืองหลังจากที่หานสวี่กับเสิ่นชิงเยียนคืนดีกันแล้ว ไป่อ้ายเหม่ยก็ยังคงมาหาหานสวี่เพราะหมายอยากจะกลับมาคืนดีกับเขา ทว่าเถาฮวาจัดการอย่างเด็ดขาดหลังจากนั้น ไป่อ้ายเหม่ยก็ไม่เคยมาหาอีกเลยเสิ่นชิงเยียนนึกย้อนกลับไปวันที่ไป่อ้ายเหม่ยตั้งใจมาหาเรื่องนางที่จวน นางกำลังนั่งทำถุงหอมให้กับสามีอยู่ที่ศาลาริมสระบัว บ่าวรับใช้ในจวนปล่อยให้ไป่อ้ายเหม่ยเข้ามา และนางพยายามจะพูดจายุแยงให้เสิ่นชิงเยียนและหานสวี่ผิดใจกันท
ตอนที่ 35 เข้าหอ (จบ)หานสวี่ใช้นิ้วหนาแบะกลีบบุปผางามสองกลีบให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นเม็ดเกสรสีสวยด้านในที่รอให้เขาเชยชมหานสวี่ไม่รอช้าเขาแลบลิ้นเลียร่องหลืบสวาทของนางอย่างช้าๆ แล้วจึงเร่งจังหวะให้ถี่เร้ามากยิ่งขึ้น ก่อนจะครอบริมฝีปากกลืนกินเม็ดรักสีชมพูของนางพร้อมกับดูดดึงขบเม้มมันอย่างหื่นกระหาย เสิ่นชิงเยียนเสียวสะท้านเสียจนแทบทนไม่ไหว นางส่งเสียงหวานครวญครางด้วยความเสียวซ่านจนเกินจะทานทน"อ๊ะ...ทะ...ท่านพี่เจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนตัวกระตุกเกร็งขึ้นมา มือบางกำผ้าปูเตียงแน่น"หวานเหลือเกินเยียนเอ๋อร์" เสียงร้องครวญครางของฮูหยินตัวน้อยสร้างความปั่นป่วนให้ชายหนุ่มไม่น้อย หานสวี่กระดกลิ้นร้อนให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น เสิ่นชิงเยียนเสียวสะท้านเสียจนต้องยกเอวลอยหวือขึ้นมากลางอากาศไม่นานนักน้ำหวานจากดงดอกไม้ไหลเยิ้มออกมาอย่างไม่ขาดสาย หานสวี่แลบลิ้นดูดเลียน้ำหวานของนางจนสะอาดหมดจดโดยไม่นึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย เขาใช้นิ้วหนาสอดแทรกเข้าไปในรูสวยของนางทีละนิ้วเพื่อเบิกทางไม่ให้ร่างบางได้รับความเจ็บปวดจนเกินไป"ท่านพี่...อื้อ...เยียนเอ๋อร์ไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเสียงร้องของฮูหยินตัวน้อย พ
ตอนที่ 34 กลับจวนสกุลหานเสี่ยวเจียงกับเสี่ยวอวี้นั่งมองเจ้านายตนเองยิ้มพลางทำถุงหอมไปพลางอย่างมีความสุข ใบหน้าหวานเบิกบานไม่เหมือนแต่ก่อนที่มีแต่ความหมองเศร้าทว่าตอนนี้กลับไม่หลงเหลือความเศร้านั้นอีกเลย สาวใช้ทั้งสองชอบใบหน้าของเจ้านายตนเองเช่นนี้มากกว่าแต่ก่อนเสียอีก พวกนางไม่รู้ว่าฮูหยินน้อยไปคืนดีกับคุณชายใหญ่ตอนไหน ทว่าหลังจากที่คุณชายใหญ่ฟื้นขึ้นมาในรุ่งเช้า นางก็เห็นว่าฮูหยินน้อยใจอ่อนลงแล้ว หรืออาจจะเพราะว่าฮูหยินน้อยไปเฝ้าไข้คุณชายใหญ่ทั้งคืน ทั้งคู่อาจจะได้ปรับความเข้าใจกันในตอนนั้นก็ย่อมได้"เอ๋!!...ถุงหอมที่เจ้าทำมีสิ่งใดดีหรือ เจ้าถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับถุงหอมเช่นนั้น" เสิ่นจื่อเหนียงเดินเข้ามานั่งตรงหน้าบุตรสาวได้สักพักแล้ว ทว่าบุตรสาวนางก็ไม่เห็นเสียที คนเป็นมารดาจึงได้พูดแกมหยอกล้อออกมาเสิ่นชิงเยียนเงยหน้าขึ้นมองหน้ามารดาตนเองพลางยิ้มเขิน"ท่านแม่อย่าล้อเยียนเอ๋อร์เล่นสิเจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนขยับเข้าไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน"แกล้งที่ใดกัน แม่ก็แค่เห็นว่าเจ้ามีความสุขกับการทำถุงหอมเสียจริง คงจะทำให้คนสำคัญกระมัง"เสิ่นจื่อเหนียงยกมือลูบศีรษะมนของบุตรสาวอย่างเอ็นดู"ใช่แล
ตอนที่ 33มอบใบหย่าให้ข้าเถอะฮูหยินเถาฮวาและหานจี้กงรีบเดินทางมายังจวนสกุลเสิ่นเมื่อรู้ข่าวการล้มป่วยของบุตรชาย เสิ่นชิงเยียนก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เมื่อครั้งตอนที่นางไปอาศัยอยู่ในจวนสกุลหาน แม่สามีผู้นี้ดูแลนางเป็นอย่างดี หากนางเจ็บป่วยแม่สามีก็จะเป็นผู้ต้มยามาให้นางได้ดื่มด้วยตนเองทุกครั้งเมื่อนึกถึงตรงนี้น้ำตานางก็ไหลออกมา ทว่าหานสวี่มาจวนนางแค่เพียงหนึ่งเดือนนางกลับทำให้เขาล้มป่วยหนักถึงเพียงนี้ นางจะกล้าสู้หน้าแม่สามีได้อย่างไร"เยียนเอ๋อร์เจ้าอย่าร้องไปเลย ท่านพี่ของเจ้าหาได้เป็นอันใดไม่" เถาฮวาดึงมือลูกสะใภ้มากุมไว้ พลางลูบหัวอย่างปลอบใจ ท่ามกลางสายตาของทั้งสองตระกูลที่มองไปยังแม่สามีและลูกสะใภ้ที่รักใคร่กลมเกลียวกัน พลันในใจของเสิ่นจื่อเหนียงก็รู้สึกยินดียิ่งนัก นับว่าหายากที่แม่สามีจะเอ็นดูลูกสะใภ้เช่นนี้ ถือว่าเยียนเอ๋อร์ของนางวาสนาดีไม่น้อยเลยทีเดียว"ลูกก็อย่าได้ร้องไห้อีกเลยเยียนเอ๋อร์ เดี๋ยวแม่สามีเจ้าจะไม่สบายใจ" เสิ่นจื่อเหนียงดุบุตรสาวตนเองออกมาอย่างไม่จริงจังนัก "ข้าเสียใจเจ้าค่ะท่านแม่ เพราะข้าท่านพี่จึงได้ล้มป่วยเช่นนี้" เสิ่นชิงเยียนร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจทนต
ตอนที่ 32 สลบหานสวี่หันกลับไปมอง เมื่อเห็นหญิงคนรักเขาก็ยิ้มอ่อนโยนออกมา ความพยายามเขาสำเร็จแล้วใช่หรือไม่ เขาก้าวขาเดินเข้าไปหาเสิ่นชิงเยียนอย่างดีใจ มือหนายื่นออกไปหมายจะสัมผัสกับมือบางของนาง ทว่าไม่ง่ายอย่างนั้นเสิ่นชิงเยียนส่ายหน้าและเดินถอยหลังออกไปไม่ยินยอมให้หานสวี่สัมผัสมือของนางได้"เยียนเอ๋อร์..." เสียงแหบพร่าของหานสวี่เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา "อย่าถอยจากข้า..."เสียงเว้าวอนของหานสวี่ สร้างความปวดใจให้กับนางไม่ใช่น้อย ทว่าหัวใจนางไม่อาจจะทนรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไป"ข้าถาม...เหตุใดท่านต้องมาทนทรมานตนเองทำไมกัน ที่นี่ไม่มีอะไรที่ท่านต้องการอีกต่อไปแล้ว กลับไปได้แล้ว!!" เสิ่นชิงเยียนตวาดออกมาเสียงสั่นเครือ นางมองหน้าหานสวี่ด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา"เยียนเอ๋อร์ เจ้าจะอภัยให้ข้าไม่ได้หรือ ขอเพียงครั้งเดียวข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจอีก ที่ผ่านมาข้ารู้แล้วว่าข้าทำผิดต่อเจ้าอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ได้โปรดอภัยให้เถอะนะ อภัยให้กับความโง่เง่าของข้าเพียงครั้ง" หานสวี่อ้อนวอนเสียงเบา เขามองใบหน้าหวานที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาราวไข่มุกอย่างปวดใจ เขาทำให้นางร้องไห้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาย