เสิ่นชิงเยียนแต่งเข้าสกุลหานมานานร่วมเดือนแล้ว ตามธรรมเนียมนางจะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมหลังแต่งงาน แต่ทว่าเมื่อใดที่นางเอ่ยถึงเรื่องนี้กลับถูกหานสวี่เอ่ยต่อว่านางด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเสียทุกครั้ง
"...ท่านพี่เจ้าคะ"
เมื่อหลายวันก่อน หานสวี่กำลังนั่งทบทวนตำราที่จะนำไปสอนเหล่านักเรียนที่สำนักศึกษาหลวงกั๋วจื่อเจี้ยน หานสวี่เป็นคนรักในการอ่านตำราและบทกลอนเช่นเดียวกับเหล่าบัณฑิตทั่วๆ ไป หนังสือทุกเล่มย่อมเคยผ่านตาเขาทั้งหมด หากลองได้อ่านแม้เพียงครั้ง เขาก็จำมันได้เป็นอย่างดี แต่ไม่นานนักเสียงหวานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา ถึงแม้เสียงนั้นจะหวานหยาดเยิ้มชวนฟังเพียงใด แต่หานสวี่ก็เห็นเป็นเพียงเสียงหวานที่อาบไปด้วยยาพิษหาได้น่าฟังให้รื่นหูไม่ ซ้ำร้ายยิ่งได้ฟังยิ่งบาดหูเขาจนน่ารำคาญ
"อย่าเรียกข้าเช่นนั้นอีก เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกข้าเช่นนั้น" เสียงทุ้มต่ำตวาดลั่นด้วยความไม่พอใจ คำว่าท่านพี่คงจะมีแค่ไป่อ้ายเหม่ยคนเดียวเท่านั้น ที่เขายอมให้นางได้เรียกหาตามใจปรารถนาได้
"แต่ว่า...ข้าเป็นฮูหยินของท่าน หากไม่ให้ข้าเรียกท่านว่าท่านพี่ แล้วข้าจะเรียกท่านว่าอย่างไรเล่าเจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนเอ่ยถามขึ้นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ดวงตาที่ใสซื่อไร้พิษสงเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำตาช่างดูน่าสงสารและน่าเวทนายิ่งนัก เพียงแค่คำเรียกขานเพียงคำเดียวเท่านั้น นางก็ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกเขาเลยหรือ เหตุใดจึงได้ใจร้ายกับนางเช่นนี้เล่า เสิ่นชิงเยียนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกปวดร้าวไปทั้งกายใจ
"ฮูหยินหรือ หึ!! อย่ามาพูดให้ข้ารู้สึกขบขันเจ้าเสียดีกว่า สตรีที่กล้าใช้อำนาจพันธสัญญาเก่าดึกดำบรรพ์ที่ควรจะจบสิ้นไปพร้อมวิญญาณของท่านปู่ข้ามาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานด้วยน่ะหรือ ช่างหน้าไม่อายเกินสตรีใดในใต้หล้า!!!"
คนฉลาดย่อมไม่กระตุกหนวดเสือ นางรู้ดีว่าหากยังดึงดันถามเซ้าซี้ก็คงจะไม่มีผลดีอันใดเกิดขึ้น นอกเสียจากจะสร้างความรำคาญให้กับเขามากขึ้นไปอีกเท่านั้น
"ข้าอยากกลับไปเยี่ยมบ้าน ตามธรรมเนียม..."
"หุบปาก!! อย่ามาพูดเรื่องธรรมเนียมกับข้า เจ้าแต่งเข้ามาในจวนตระกูลหานโดยที่ข้าไม่ต้องการ เจ้ายังจะกล้าพูดเรื่องธรรมเนียมถึงสองครั้งสองครากับข้า เจ้านี่ช่างไม่ละอายเสียจริง หน้าด้านหน้าทน ข้าไม่ไป...ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับข้า หากเจ้าอยากไป ข้าก็ไม่ห้าม และจะดีมากหากเจ้าจะไปแล้วไม่กลับมาที่จวนของข้าอีก คราวหน้าอย่าเอาเรื่องไร้สาระเช่นนี้มาพูดกับข้าอีก ออกจากห้องหนังสือของข้าไปเสีย หากไม่จำเป็นอย่าได้เสนอหน้าเข้ามาอีก..."
หานสวี่ก้มหน้าลงอ่านหนังสือต่อโดยที่ไม่ได้สนใจภรรยาที่น่าชิงชังของตนเองอีก นางจะรู้สึกเช่นใดหาใช่เรื่องที่เขาจะต้องไปใส่ใจ เขาไม่จำเป็นต้องสงสารหรือใส่ใจสตรีไร้ยางอายเช่นนางจริงหรือไม่...
เสิ่นชิงเยียนนั่งเหม่อลอยอยู่ในโรงครัว นางกำลังเด็ดผักสำหรับทำสำรับมื้อเย็น โดยปกติแล้วเสิ่นชิงเยียนก็จะออกจากเรือนนอนมาช่วยสาวใช้ทำสิ่งต่าง ๆ ในจวน นางไม่ได้วางตัวสูงส่งเหมือนดังฮูหยินในจวนอื่นๆ นางเป็นเพียงบุตรสาวพ่อค้าธรรมดาก็เพียงเท่านั้น หากแต่ท่านพ่อของนางเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยมหาศาลนางจึงมีชีวิตที่สุขสบายกว่าผู้อื่นบ้าง
"เข้าครัวเองเลยหรือเยียนเอ๋อร์" เถาฮวาเดินเข้ามาในโรงครัว นางยืนมองลูกสะใภ้ที่นั่งใบหน้าเศร้าหมองก่อนจะทอดถอนใจ เถาฮวาสงสารเสิ่นชิงเยียนเป็นอย่างมาก ครั้นนางจะไปก้าวก่ายชีวิตครอบครัวของทั้งคู่มากก็คงไม่เหมาะเท่าใดนัก หากไม่หนักหนาจริง ๆ นางก็อยากให้ทั้งคู่ได้จัดการกันเอง เพียงแค่นางคอยบอกคอยสอนกลยุทธ์นิด ๆ หน่อย ๆ ก็เพียงเท่านั้น
"เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่อยากกินอันใดเป็นพิเศษหรือไม่เจ้าคะ เยียนเอ๋อร์จะจัดทำให้เจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นคำนับแม่สามี นางเดินเข้าไปประคองฮูหยินใหญ่เถาฮวามานั่งลงที่เก้าอี้ที่นางนั่งเมื่อสักครู่
"อืม...ถ้าเช่นนั้นเจ้าทำน้ำแกงไก่เถอะ สามีเจ้าก็ชอบนักล่ะ แม่ไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าทำอาหารเป็นด้วย ช่างดีจริงเชียว" เถาฮวาหยิบถ้วยผักที่นางทำค้างไว้มาช่วยเด็ดต่อ เหล่าบรรดาคนรับใช้ต่างก็ทำตัวไม่ถูกรู้สึกร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก เพราะเวลานี้ฮูหยินทั้งสองท่าน ได้เข้ามาแย่งงานพวกนางทำจนหมดสิ้นแล้ว
"ทำเป็นเจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์หัดเข้าครัวตั้งแต่เล็ก ๆ แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่บอกกับเยียนเอ๋อร์ว่า วันข้างหน้าเยียนเอ๋อร์จะต้องแต่งเข้าสกุลหาน เยียนเอ๋อร์จึงหัดเรียนรู้ทุกอย่างให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์จะไม่ทำให้สกุลหานต้องขายหน้าอย่างเด็ดขาดเจ้าค่ะ"
ย้อนนึกถึงวันวานสมัยนางยังเป็นดรุณีน้อยแรกแย้ม ครั้นได้ฟังบิดาแจ้งว่านางได้หมั้นหมายกับหานสวี่แล้ว นางก็ตั้งใจเล่าเรียนการเป็นภรรยาที่ดีมาตลอด อาหารการกิน งานฝีมือต่าง ๆ นางเองก็ไม่เป็นสองรองใคร ครั้นเถาฮวาได้ฟังก็ยิ่งเอ็นดูลูกสะใภ้คนนี้เป็นอย่างมาก สวรรค์มีตาส่งลูกสะใภ้คนนี้มาให้สกุลหาน หากเพียงท่านจะส่งสติปัญญาในการดูสตรีให้บุตรชายนางบ้างสักนิดก็คงจะดี
"เสิ่นฮูหยินสอนบุตรได้ดียิ่งนัก แม่ดีใจที่ได้เจ้ามาเป็นสะใภ้ เอาล่ะมาเถอะแม่จะช่วยทำเอง หากเจ้าอยากเอาใจสามีเจ้า แม่จะบอกเจ้าเองว่าสามีเจ้าชอบหรือไม่ชอบอันใดดีหรือไม่" เถาฮวายกมือขึ้นไปลูบศีรษะของสะใภ้อย่างเอ็นดูรักใคร่
"เจ้าค่ะ"
เสิ่นชิงเยียนยิ้มออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อย ๆ นางเองก็ดีกว่าสหายนางที่แต่งเข้าบ้านสามี แล้วแม่สามีชิงชัง ฮูหยินใหญ่ช่างดีต่อนางนัก
สำรับอาหารมื้อเย็นถูกจัดสรรอย่างประณีตด้วยฝีมือของสองฮูหยินในจวน เถาฮวาบอกหลายสิ่งหลายอย่างที่หานสวี่ชอบ หรือสิ่งใดที่เขาไม่ชอบ เสิ่นชิงเยียนจดทุกอย่างลงในสมุด นางหมายมั่นเอาไว้ อาหารการกินทุกมื้อของสามีนางจะเป็นคนจัดการเองทุกอย่าง เสิ่นชิงเยียนตัดสินใจแล้วว่า นางจะลองพยายามดูสักครั้ง ความจริงใจของนางอาจจะไปถึงสามีนางบ้างในสักวัน
ตอนพิเศษ 2 หานจุ้นเสิ่นชิงเยียนเดินหน้าบึ้งตึงไม่ยอมรอหานสวี่ ชายหนุ่มรีบเดินตามหลังนางไปติด ๆ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี ผิดกับร่างอรชรที่เดินอย่างไม่สนใจเขา"ฮูหยินเจ้าอยากกินบะหมี่เกี๊ยวใช่หรือไม่ ไปกันเถอะพี่ให้บ่าวไปจองโต๊ะรอไว้แล้ว" หานสวี่ยื่นมือไปจับข้อมือบางของเสิ่นชิงเยียนเอาไว้ ทว่านางก็บิดข้อมือออกอย่างไม่ยินยอม นางบิดออกเพียงน้อย หากไม่สังเกตก็คงจะไม่มีผู้ใดได้เห็น หานสวี่หาได้ยอมให้ฮูหยินของเขาทำเช่นนั้น มือหนาสอดกุมมือบางเอาไว้ พลางส่งยิ้มใบหน้าหล่อเหลาไปให้อย่างเอาใจ เสิ่นชิงเยียนเขินอายทว่ายังแสร้งทำหน้าบึ้งตึงอยู่อย่างนั้น"ปล่อยข้า ไม่ต้องมาจับ!!" นางพูดออกมาเสียงเบา "ปล่อยได้อย่างไร หากพี่ปล่อยเจ้าก็เดินหนีพี่ไปอีก ภรรยาไม่พอใจสามีเรื่องใดหรือ บอกสามีได้หรือไม่" หานสวี่เอ่ยเสียงเย้า ยิ่งทำให้ฮูหยินน้อยทั้งมีโทสะปนเขินอายไปกันใหญ่"ท่านพี่!!...เหตุใดท่านจึงเป็นคนหน้าไม่อายเช่นนี้ ข้าไม่อยากจะพูดกับท่านพี่แล้ว" เสิ่นชิงเยียนหันหน้าหนี เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้มองหน้ากันพลางก้มหน้ายิ้ม"เรื่องใดกัน พี่หน้าไม่อายตรงไหนหรือเยียนเอ๋อร์บอกแก่พี่สิ ไหนเจ้าเคยให้
ตอนพิเศษ 1 เทศกาลโคมไฟ"เยียนเอ๋อร์คืนนี้แม่จะพาเจ้าไปลอยโคมที่งานโคมไฟกันดีหรือไม่"เสิ่นชิงเยียนหันไปยิ้มให้แม่สามีก่อนจะพยักหน้าตกลง"เจ้าค่ะท่านแม่ เยียนเอ๋อร์อยากไปกินบะหมี่ร้านริมแม่น้ำเจ้าเดิมนั่นอีกเจ้าค่ะ"นางจำได้ดีร้านบะหมี่หยกร้านนั้นจะขายแค่ปีละครั้ง ในงานเทศกาลโคมไฟเท่านั้น ไม่รู้เช่นกันว่าเพราะเหตุใดร้านอร่อยเช่นนั้นถึงได้เปิดขายแค่ปีละครั้ง ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย"เฮ้อ...นึกถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้วข้าก็โมโหยิ่งนัก ดีนะที่แม่นางไป่ผู้นั้นไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับเจ้าอีก หากไม่เช่นนั้นแล้วข้านี่แหละที่จะจัดการนางเองคอยดูเถอะ" เถาฮวาทุบกำปั้นลงมาที่ฝ่ามือตนเองอย่างแค้นเคืองหลังจากที่หานสวี่กับเสิ่นชิงเยียนคืนดีกันแล้ว ไป่อ้ายเหม่ยก็ยังคงมาหาหานสวี่เพราะหมายอยากจะกลับมาคืนดีกับเขา ทว่าเถาฮวาจัดการอย่างเด็ดขาดหลังจากนั้น ไป่อ้ายเหม่ยก็ไม่เคยมาหาอีกเลยเสิ่นชิงเยียนนึกย้อนกลับไปวันที่ไป่อ้ายเหม่ยตั้งใจมาหาเรื่องนางที่จวน นางกำลังนั่งทำถุงหอมให้กับสามีอยู่ที่ศาลาริมสระบัว บ่าวรับใช้ในจวนปล่อยให้ไป่อ้ายเหม่ยเข้ามา และนางพยายามจะพูดจายุแยงให้เสิ่นชิงเยียนและหานสวี่ผิดใจกันท
ตอนที่ 35 เข้าหอ (จบ)หานสวี่ใช้นิ้วหนาแบะกลีบบุปผางามสองกลีบให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นเม็ดเกสรสีสวยด้านในที่รอให้เขาเชยชมหานสวี่ไม่รอช้าเขาแลบลิ้นเลียร่องหลืบสวาทของนางอย่างช้าๆ แล้วจึงเร่งจังหวะให้ถี่เร้ามากยิ่งขึ้น ก่อนจะครอบริมฝีปากกลืนกินเม็ดรักสีชมพูของนางพร้อมกับดูดดึงขบเม้มมันอย่างหื่นกระหาย เสิ่นชิงเยียนเสียวสะท้านเสียจนแทบทนไม่ไหว นางส่งเสียงหวานครวญครางด้วยความเสียวซ่านจนเกินจะทานทน"อ๊ะ...ทะ...ท่านพี่เจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนตัวกระตุกเกร็งขึ้นมา มือบางกำผ้าปูเตียงแน่น"หวานเหลือเกินเยียนเอ๋อร์" เสียงร้องครวญครางของฮูหยินตัวน้อยสร้างความปั่นป่วนให้ชายหนุ่มไม่น้อย หานสวี่กระดกลิ้นร้อนให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น เสิ่นชิงเยียนเสียวสะท้านเสียจนต้องยกเอวลอยหวือขึ้นมากลางอากาศไม่นานนักน้ำหวานจากดงดอกไม้ไหลเยิ้มออกมาอย่างไม่ขาดสาย หานสวี่แลบลิ้นดูดเลียน้ำหวานของนางจนสะอาดหมดจดโดยไม่นึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย เขาใช้นิ้วหนาสอดแทรกเข้าไปในรูสวยของนางทีละนิ้วเพื่อเบิกทางไม่ให้ร่างบางได้รับความเจ็บปวดจนเกินไป"ท่านพี่...อื้อ...เยียนเอ๋อร์ไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเสียงร้องของฮูหยินตัวน้อย พ
ตอนที่ 34 กลับจวนสกุลหานเสี่ยวเจียงกับเสี่ยวอวี้นั่งมองเจ้านายตนเองยิ้มพลางทำถุงหอมไปพลางอย่างมีความสุข ใบหน้าหวานเบิกบานไม่เหมือนแต่ก่อนที่มีแต่ความหมองเศร้าทว่าตอนนี้กลับไม่หลงเหลือความเศร้านั้นอีกเลย สาวใช้ทั้งสองชอบใบหน้าของเจ้านายตนเองเช่นนี้มากกว่าแต่ก่อนเสียอีก พวกนางไม่รู้ว่าฮูหยินน้อยไปคืนดีกับคุณชายใหญ่ตอนไหน ทว่าหลังจากที่คุณชายใหญ่ฟื้นขึ้นมาในรุ่งเช้า นางก็เห็นว่าฮูหยินน้อยใจอ่อนลงแล้ว หรืออาจจะเพราะว่าฮูหยินน้อยไปเฝ้าไข้คุณชายใหญ่ทั้งคืน ทั้งคู่อาจจะได้ปรับความเข้าใจกันในตอนนั้นก็ย่อมได้"เอ๋!!...ถุงหอมที่เจ้าทำมีสิ่งใดดีหรือ เจ้าถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับถุงหอมเช่นนั้น" เสิ่นจื่อเหนียงเดินเข้ามานั่งตรงหน้าบุตรสาวได้สักพักแล้ว ทว่าบุตรสาวนางก็ไม่เห็นเสียที คนเป็นมารดาจึงได้พูดแกมหยอกล้อออกมาเสิ่นชิงเยียนเงยหน้าขึ้นมองหน้ามารดาตนเองพลางยิ้มเขิน"ท่านแม่อย่าล้อเยียนเอ๋อร์เล่นสิเจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนขยับเข้าไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน"แกล้งที่ใดกัน แม่ก็แค่เห็นว่าเจ้ามีความสุขกับการทำถุงหอมเสียจริง คงจะทำให้คนสำคัญกระมัง"เสิ่นจื่อเหนียงยกมือลูบศีรษะมนของบุตรสาวอย่างเอ็นดู"ใช่แล
ตอนที่ 33มอบใบหย่าให้ข้าเถอะฮูหยินเถาฮวาและหานจี้กงรีบเดินทางมายังจวนสกุลเสิ่นเมื่อรู้ข่าวการล้มป่วยของบุตรชาย เสิ่นชิงเยียนก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เมื่อครั้งตอนที่นางไปอาศัยอยู่ในจวนสกุลหาน แม่สามีผู้นี้ดูแลนางเป็นอย่างดี หากนางเจ็บป่วยแม่สามีก็จะเป็นผู้ต้มยามาให้นางได้ดื่มด้วยตนเองทุกครั้งเมื่อนึกถึงตรงนี้น้ำตานางก็ไหลออกมา ทว่าหานสวี่มาจวนนางแค่เพียงหนึ่งเดือนนางกลับทำให้เขาล้มป่วยหนักถึงเพียงนี้ นางจะกล้าสู้หน้าแม่สามีได้อย่างไร"เยียนเอ๋อร์เจ้าอย่าร้องไปเลย ท่านพี่ของเจ้าหาได้เป็นอันใดไม่" เถาฮวาดึงมือลูกสะใภ้มากุมไว้ พลางลูบหัวอย่างปลอบใจ ท่ามกลางสายตาของทั้งสองตระกูลที่มองไปยังแม่สามีและลูกสะใภ้ที่รักใคร่กลมเกลียวกัน พลันในใจของเสิ่นจื่อเหนียงก็รู้สึกยินดียิ่งนัก นับว่าหายากที่แม่สามีจะเอ็นดูลูกสะใภ้เช่นนี้ ถือว่าเยียนเอ๋อร์ของนางวาสนาดีไม่น้อยเลยทีเดียว"ลูกก็อย่าได้ร้องไห้อีกเลยเยียนเอ๋อร์ เดี๋ยวแม่สามีเจ้าจะไม่สบายใจ" เสิ่นจื่อเหนียงดุบุตรสาวตนเองออกมาอย่างไม่จริงจังนัก "ข้าเสียใจเจ้าค่ะท่านแม่ เพราะข้าท่านพี่จึงได้ล้มป่วยเช่นนี้" เสิ่นชิงเยียนร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจทนต
ตอนที่ 32 สลบหานสวี่หันกลับไปมอง เมื่อเห็นหญิงคนรักเขาก็ยิ้มอ่อนโยนออกมา ความพยายามเขาสำเร็จแล้วใช่หรือไม่ เขาก้าวขาเดินเข้าไปหาเสิ่นชิงเยียนอย่างดีใจ มือหนายื่นออกไปหมายจะสัมผัสกับมือบางของนาง ทว่าไม่ง่ายอย่างนั้นเสิ่นชิงเยียนส่ายหน้าและเดินถอยหลังออกไปไม่ยินยอมให้หานสวี่สัมผัสมือของนางได้"เยียนเอ๋อร์..." เสียงแหบพร่าของหานสวี่เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา "อย่าถอยจากข้า..."เสียงเว้าวอนของหานสวี่ สร้างความปวดใจให้กับนางไม่ใช่น้อย ทว่าหัวใจนางไม่อาจจะทนรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไป"ข้าถาม...เหตุใดท่านต้องมาทนทรมานตนเองทำไมกัน ที่นี่ไม่มีอะไรที่ท่านต้องการอีกต่อไปแล้ว กลับไปได้แล้ว!!" เสิ่นชิงเยียนตวาดออกมาเสียงสั่นเครือ นางมองหน้าหานสวี่ด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา"เยียนเอ๋อร์ เจ้าจะอภัยให้ข้าไม่ได้หรือ ขอเพียงครั้งเดียวข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจอีก ที่ผ่านมาข้ารู้แล้วว่าข้าทำผิดต่อเจ้าอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ได้โปรดอภัยให้เถอะนะ อภัยให้กับความโง่เง่าของข้าเพียงครั้ง" หานสวี่อ้อนวอนเสียงเบา เขามองใบหน้าหวานที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาราวไข่มุกอย่างปวดใจ เขาทำให้นางร้องไห้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาย