Share

บทที่ 1350

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
ดวงตาเซี่ยอวิ๋นซียังคงยิ้มโค้ง "ที่ออกมาได้ครั้งนี้ ได้เห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างมากมายขนาดนี้ ข้ารู้สึกดีมาก ไม่ได้ลำบากอะไรเลย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้า"

จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้รู้สึกว่า เซี่ยอวิ๋นซีเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างดื้อรั้น

แต่พอมองดูแล้ว ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ทั้งหมด

หญิงสาวคนนี้บางทีอาจจะไม่ใช่แค่มีนิสัยดื้อรั้น แต่อาจมีส่วนที่เปิดกว้างและไม่ยึดติดอยู่ด้วย

"เช่นนั้นข้าก็วางใจ อีกเดี๋ยวก็ไปกินข้าวได้แล้ว ข้าขอไปดูก่อน"

จั๋วซือหรานจึงเดินตรงไปที่กองไฟ

จวงอี๋ไห่เรียนรู้จากหนึ่งจนเข้าใจอีกหลายอย่าง เรื่องย่างเนื้อ จั๋วซือหรานหลังจากชี้แนะเขาไปครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขาก็ทำได้คล่องแคล่วมากแล้ว

เพียงแต่ว่าดูเหมือนจะเหม่อลอยอยู่หน่อยๆ

จั๋วซือหรานพอจะรู้ว่าเขาใจลอยเพระาอะไร แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไร

ข้าวเย็นกินเนื้อย่างกันอีกแล้ว

เอาจริงๆ อร่อยมันก็อร่อยนั่นล่ะ แต่จั๋วซือหรานก็ยังเอียนขึ้นมาแล้ว

แม้ว่าจวงอี๋ไห่จะยังตุ๋นน้ำแกงขึ้นมาโดยเฉพาะอีกหม้อ

แต่จั๋วซือหรานก็กินเนื้อเยอะจนเอียนเลี่ยนไปหมดแล้ว

ดังนั้นหลังมื้ออาหาร จึงขดตัวกลับไปในรถม้า ตนเองลวงเอาผลไม้จากในมิติออกมาบางส่วน

ผลไม้ที่นางปลูกน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1353

    นี่แตกต่างไปจากที่จั๋วซือหรานคิดไว้ก่อนหน้านางจินตนาการไว้หลายแบบถึงสีหน้าของเฟิงเหยียน แต่ไม่มีสีหน้าแบบนี้จนทำให้ จั๋วซือหรานไม่รู้เลยว่าควรจะพูดอะไรดีความรู้สึกโล่งใจแต่เดิมนั่น ตอนนี้ตึงขึ้นมาอีกแล้วจั๋วซือหรานเวลาพูดหรือทำอะไรมักไม่ค่อยมานั่งนึกเสียใจ ตอนนี้ก็เช่นกัน...แม้จะไม่มีมีสีหน้าเสียใจภายหลัง แต่ในใจก็ยังคิดอยูว่าตนเองประมาทไปหรือเปล่า...เพียงแต่ว่า ความคิดนี้ยังไม่ทันได้ก่อตัวสมบูรณ์มือของนางที่เดิมทีคิดจะดึงกลับมา กลับถูกเขากุมนิ้วเอาไว้แน่นไม่ยอมให้นางดึงออกจากฝ่ามือเขาจั๋วซือหรานงงงัน เงยหน้าขึ้นมองเขาและสบกับสายตาที่ยิ่งหม่นหมองลงมากกว่าเดิมของเฟิงเหยียน"เสียวจิ่ว" เสียงของเขาดูตั้งใจมากกว่าปกติ แต่ก็เพราะใช้สรรพนามนี้ฟังแล้วจึงแฝงไปด้วยความรักความเอ็นดู"อืม" จั๋ววือหรานพยักหน้าเบาๆเสียงของชายหนุ่มยิ่งดูตั้งใจขึ้นกว่าเก่า "เรื่องนี้ เจ้าได้บอกคนอื่นไปอีกหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานมองเขา "ไม่มี"หลังจากนั้น ก็เห็นถึงความโล่งใจในสีหน้าชายหนุ่มอย่างชัดเจนสายตาหม่นหมองของเขาดูอ่อนโยนลงมาแทบจะในพริบตาจั๋วซือหรานขมวดคิ้ว จากนั้นก็คลายออกอย่างร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1352

    "อืม?" จั๋วซือหรานรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ชั่วขณะหนึ่งยังตั้งตัวไม่ทันว่าทำไมจู่ๆ เขาก็เอ่ยถึงเรื่องนี้"เพราะล้วนเป็นสัตว์วิเศษสัตว์เทพกันหมด ดังนั้นความรู้สึกต่อพลังวิญญาณจึงค่อนข้างเฉียบคม" เฟิงเหยียนตอบจั๋วซือหรานจึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา เขากำลังบอกว่าทำไมพวกเขาถึงรู้ว่าผลไม้นั่นกินแล้วดีต่อสุขภาพคำพูดนี้ น่าจะเพื่อทำให้นางสบายใจจั๋วซือหรานครุ่นคิด อันที่จริงกำลังคิดอยู่ว่า จะบอกเรื่องมิติน้ำพุวิเศษนี่กับเขาไปเลยดีไหมแต่ยังไม่ทันที่นางจะคิดได้ว่าควรจะเปิดประเด็นอย่างไรเฟิงเหยียนก็บีบนิ้วมือนางเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "ดังนั้น จึงไม่มีความคิดที่จะไปสืบค้นความลับอะไรของตัวเจ้า"ถ้าหากบอกว่า ก่อนหน้านี้นางยังลังเลอยู่บ้าง เช่นนั้นตอนที่ได้ยินคำนี้ นางก็ไม่เหลือความลังเลใดอีกแล้วนางคิดๆ แล้วจึงยื่นมือออกไปเบาๆเฟิงเหยียนสัมผัสได้ถึงมือเล็ก อ่อนนุถ่มขดเข้ามาอยุ่ในฝ่ามือตนเอง สายตาของเขาก็งงงันไปหน่อยๆและมือเล็กนี้ ไม่ใช่แค่ขดเงียบๆ อยู่ในฝ่ามือเขาเท่านั้นแต่ยังค่อยๆ กางนิ้วทั้งห้าออกช้าในฝ่ามือเขาจากนั้นจึงประสานคล้องกับนิ้วเขาองเขาเฟิงเหยียนก้มหน้าลงมองนิ้วที่คล้องเข้าม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1351

    ได้ยินประโยคนี้จากเส้นเสียงที่คุ้นเคยลอยแว่วเข้ามาในใจจั๋วซือหรานสั่นกึก"เอ่อ..."นางยื่นมือไปเลิกม่านรถม้า ก็เห็นปันอวิ๋นยืนอยู่ด้านนอกและยังมีสีหน้า...เศร้าหมองบนใบหน้าหล่อเหลาที่ปกติจะดูชั่วร้ายนั่นพูดได้ว่าขุ่นเคืองเอามากๆ เลยทีเดียว"อะแฮ่ม" จั๋วซือหรานกระแอมขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าควรพูดอะไรดีจะยังไงก็ยังรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง ถึงยังไงไเจ้าหุบเขาปันก็คอยดูแลนางมาตลอดนางกลับแค่ผลไม้สักลูกก็ให้เขาชิมไม่ได้นี่มันไม่ต่างอะไรกับ 'แค่ร้อยหยวนก็ยังไม่ให้' เลย"ข้าแค่...เอ่อ" จั๋วซือหรานติดอ่างขึ้นมาอย่างหาได้ยากและเพราะนางแทบจะไม่มีช่วงที่ดูติดอ่างตะกุกตะกักแบบนี้เลย ส่วนใหญ่แล้วนางมักจะพูดจาอย่างมีเหตุผลอยุ่ตลอดส่วนสภาพนางตอนนี้ ในสายตาของเฟิงเหยียนมันช่างดู...น่ารักเสียจริงเฟิงเหยียนกินผลไม้ต่อในรถม้าหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่มีเสียง ไหล่สั่นสะท้านและถูกจั๋วซือหรานกดบ่าเอาไว้ "อย่าหัวเราะนะ!" นางกดเสียงต่ำขึ้นมาคำหนึ่งจากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองปันอวิ๋นปันอวิ๋นเดิมทีก็ไม่ได้โกรธอะไร จงใจแหย่นาง และพอได้ยินนางพูดตะกุกตะกักก็รู้สึกขำดีหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "เจ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1350

    ดวงตาเซี่ยอวิ๋นซียังคงยิ้มโค้ง "ที่ออกมาได้ครั้งนี้ ได้เห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างมากมายขนาดนี้ ข้ารู้สึกดีมาก ไม่ได้ลำบากอะไรเลย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้า"จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้รู้สึกว่า เซี่ยอวิ๋นซีเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างดื้อรั้นแต่พอมองดูแล้ว ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ทั้งหมดหญิงสาวคนนี้บางทีอาจจะไม่ใช่แค่มีนิสัยดื้อรั้น แต่อาจมีส่วนที่เปิดกว้างและไม่ยึดติดอยู่ด้วย"เช่นนั้นข้าก็วางใจ อีกเดี๋ยวก็ไปกินข้าวได้แล้ว ข้าขอไปดูก่อน"จั๋วซือหรานจึงเดินตรงไปที่กองไฟจวงอี๋ไห่เรียนรู้จากหนึ่งจนเข้าใจอีกหลายอย่าง เรื่องย่างเนื้อ จั๋วซือหรานหลังจากชี้แนะเขาไปครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขาก็ทำได้คล่องแคล่วมากแล้วเพียงแต่ว่าดูเหมือนจะเหม่อลอยอยู่หน่อยๆจั๋วซือหรานพอจะรู้ว่าเขาใจลอยเพระาอะไร แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรข้าวเย็นกินเนื้อย่างกันอีกแล้วเอาจริงๆ อร่อยมันก็อร่อยนั่นล่ะ แต่จั๋วซือหรานก็ยังเอียนขึ้นมาแล้วแม้ว่าจวงอี๋ไห่จะยังตุ๋นน้ำแกงขึ้นมาโดยเฉพาะอีกหม้อแต่จั๋วซือหรานก็กินเนื้อเยอะจนเอียนเลี่ยนไปหมดแล้วดังนั้นหลังมื้ออาหาร จึงขดตัวกลับไปในรถม้า ตนเองลวงเอาผลไม้จากในมิติออกมาบางส่วนผลไม้ที่นางปลูกน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1349

    เหลียนเจินกลับเข้ามา ขอความเห็นจากจั๋วซือหราน "คุณหนู พวกเราตอนนี้จะเข้าไปเลยไหม?"จั๋วซือหรานคิดๆอันที่จริงเข้าไปในเมืองลั่วหม่าก่อนค่ำก็ดีเหมาะกว่า แล้วยังหาโรงเตี๊ยมไว้พักแรมได้ด้วย ดีกว่าต้องมาทนตากลมตากฝนอยู่ด้านนอกแต่ตอนนี้ตะวันลับค่อยๆ ลบฟ้าแล้ว สีท้องฟ้าก็ค่อยๆ หม่นลงพอหลังจากตะวันลับขา หากคิดจะเข้าเมืองลั่วหม่าก็ค่อนข้างยุกยากเลย วิธีการซับซ้อนยิ่งกว่าจั๋วซือหรานคิดๆ เองตามไปสอบถามเฟิงเหยียนคำหนึ่ง "พวกเขาเข้าไปตอนนี้ดีไหม?""แล้วแต่เจ้าเลย" เฟิงเหยียนไม่มีข้อโต้แย้งอะไรกับการตัดสินใจของนาง แค่หลังจากครุ่นคิดไปครู่หนึ่งก้บอกว่า "เพียงแต่เมืองหน้าด่านการทหารแบบนี้ หลังจากที่ทำการเปลี่ยนกะลาดตระเวน ก็จะยิ่งเข้มงวดขึ้นไปอีก"จั๋วซือหรานก็พิจารณาถึงจุดนี้ด้วย นางเบ้ปาก "ถ้ามาถึงไหวหน่อยก็คงจะดี ตอนนี้มาถึงแล้วแต่กลับเข้าไปไม่ได้ รู้สึกขาดทุนเลยแฮะ"เหลียนเจินที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "เป็นข้าน้อยที่นำทางช้าเอง"แน่นอนว่าจั๋วซือหรานไม่ได้คิดจะตำหนิลูกน้อง จึงโบกไม้โบกมือเอ่ยขึ้นว่า "ไม่ได้คิดจะโทษเจ้าหรอก ช่างเถอะ วันนี้พวกเราก็พักกันนอกเมืองลั่วหม่านี่ล่ะ"จั๋วซื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1348

    "แต่อย่าเอาแต่คิดจะเข้าเมืองอย่างเดียว ด้านนอกเมืองซื่อหนานประมาณห้าสิบลี้ มีเมืองอีกแห่งชื่อว่าลั่วหม่า พวกเราไปพักที่นั่นกันก่อน" จั๋วซือหรานกำชับขึ้นมาเหลียนเจินรับคำสั่ง "ขอรับ!"หลังจากนั้นก็ควบม้าไปออกไปนำทาง"เมืองลั่วหม่า?" แสงในรถม้าค่อนข้างมืดเฟิงเหยียนพิงเบาะรองหนาๆ อยู่ ท่าทางดูสบายๆ เกียจคร้านหน่อยๆ ไม่เหมือนบุคลิกปกติของเขาเลย ซ้ำยังดูไม่เหมือนคนที่รีบร้อนเดินทางด้วย"อืม" จั๋วซือหรานพยักหน้า "พวกเราเร่งเดินทางกันค่อนข้างเหนื่อยล้า ถ้าหากพุ่งเข้าเมืองซื่อหนานไปทั้งแบบนี้ดูเสี่ยงเกินไป สู้พักผ่อนในเมืองลั่วหม่าก่อนดีกว่า แล้วค่อยเข้าเมืองซื่อหนาน"เฟิงเหยียนแหงนหน้ามองนาง ต่อให้แสงจะค่อนข้างมืด แต่ก็ยังเห็นใบหน้างามของนางได้อย่างชัดเจน"เจ้ารู้ได้ยังไงว่าที่นี่มีเมืองลั่วหม่าอยู่?"จั๋วซือหรานฟังคำนี้ของเขา ก็เลิกคิ้วยิ้ม ยังจะรู้ได้ยังไงอีกล่ะ ก็ต้องเพราะอ่านหนังสืออ่านรายงานมาเยอะน่ะสิ..."ดูมาจากบันทึกท้องถิ่นน่ะ จะมาเสียเปรียบเพราะไม่มีความรู้ไม่ได้สิ"จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "จักรพรรดิเฒ่าแต่งตั้งพื้นที่ศักดินาให้ข้าห่างไกลเสียขนาดนี้ การกระทำนี้คงแฝงความระแ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status