공유

บทที่ 581

작가: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานในบ้างด้านก็เฉียบคมมาก แต่ในบางด้านกลับหัวช้าพอควร

ตอนนี้ความเศร้าสร้อยในเสียงของอ๋องเซี่ยน จั๋วซือหรานคิดว่าเขายังคงไม่สบายใจอยู่จนถึงตอนนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

จึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋องถ้ารู้สึกค่ายป้องกันอยู่ไกลเกินไปล่ะก็ ค่ายลาดตระเวนก็ยังได้นะ สถานการณ์ของค่ายทหารล้วนมั่นคงอยู่ในการควบคุมแล้ว แม่ทัพทั้งสองคนก็เป็นคนที่มีคุณธรรม เชื่อว่าท่านอ๋องไม่ว่าจะไปทางไหน ก็ล้วนจะได้รับการปกป้องที่ดีแน่นอน”

“ยิ่งไปกว่านั้นท่านอ๋องถ้าหากมีการเคลื่อนไหวอะไร ก็จะสะดวกขึ้นอีกหน่อย ถ้าอยู่แต่ในหน่วยสืบสวนพิเศษ มันก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก”

ซือคงเซี่ยนมองดวงตาสุกใสของจั๋วซือหราน ฟังแล้วรู้สึกว่าเธอวางแผนเอาไว้ดีมาก

จึงตอบมาว่า “ขอบคุณมากแม่นางจิ่ว”

“ท่านอ๋อง ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ หากหลังจากนี้ร่างกายยังมีจุดที่ไม่สบาย ก็ให้คนเข้ามาบอกข้าได้” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น

ซือคงเซี่ยนมองหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ นางไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อนาง

หลังจากซือคงเซี่ยนกลับห้องไป

ชิ่งหมิงนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาจ้องมาทางจั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานถูกสายตาบริสุทธิ์ของเขาจ้องจนรู้
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1371

    เย่เจิงรู้อยู่แล้ว ว่ากองพันพยัคฆ์ทมิฬของตนเองประจำการอยู่เมืองลั่วหม่า ก็เพื่อคอยคุ้มกันเส้นพรมแดนใต้ไว้ป้องกันเพื่อนบ้านเข้ามาโจมตี และคอยป้องกันความวิ่นวายในซื่อหนานด้วยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก เขาเข้าใจเรื่องนี้ดีแต่จากคำพูดของใต้เท้าโหวหญิงตรงหน้าคนนี้ถ้านางเอาเมืองซื่อหนานมาได้ แล้วเขาไม่ได้รับคุณความดีใดๆ จากการช่วยเหลือล่ะก็ตอนนั้นทหารประจำการเมืองซื่อหนาน ก็จะต้องจัดสรรมาจากกองทัพสยบแดนใต้แน่นอนและตอนนั้นกองทหารประจำการเมืองซื่อหนาน ก็จะกลายเป็นเส้นแนวหน้าของพรมแดนใต้!เมืองลั่วหม่าเนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ป้องกันง่ายยากจะโจมตี ดังนั้นจึงกลายเป็นเมืองหน้าด่านไปตราบใดที่เมืองซื่อหนานยังป้องกันเอาไว้ได้ ตำแหน่งของเมืองลั่วหม่าอันที่จริงก็จะไม่มีแรงกดดันมากนักว่ายังไงดีล่ะ...มันจะกลายเป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอาน่ะสิตรงหน้าของเจ้ามีทหารประจำการตรึงแนวหน้าไว้แล้ว แล้วเจ้าจะยังเรียกตัวเองว่าเมืองหน้าด่านได้อีกหรือ?"ใต้เท้า ท่าน...!" เย่เจิงไม่เข้าใจคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานที่ไหน ว่ามีการคุกคาม หยอกล่ออยู่จั๋วซือหรานยิ้มๆ มองเขา เหมือนไม่กลัวว่าเขาจะรู้สึกว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1370

    "ข้าไม่ได้มองเรื่องให้มันง่ายนะ ข้าก็แค่ค่อนข้างมีวิธีรับมือกับคนก็เท่านั้น"ดวงตาจั๋วซือหรานหรี่ลงเล็กน้อย หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ขอแค่ยังเป็นมนุษย์ ก็จะต้องมีจุดอ่อน และมีสิ่งที่อยากได้อยู่ เขาอยากได้อะไร ข้าก็ให้สิ่งนั้นกับเขา กระทั่งให้มากขึ้นไปอีก รวมถึงสิ่งที่เขาไม่กล้าที่จะคิด ก็ส่งให้กับเขาด้วย เขาต้องติดกับแน่นอน"เย่เจิงถนัดเรื่องเดินทัพจัดกระบวนทัพ เรื่องพวกจู่โจมฉับพลัน แต่ไม่ใช่เรื่องการวางแผนต่อสู้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมฟังถึงตรงนี้ เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจขึ้นมา "ท่านหมายถึงอะไรหรือ...?"จั๋วซือหราน "เจ้าเมืองเนี่ยคนนั้น สิ่งที่ต้องการไม่ใช่ซื่อหนานหรือ? ที่ทำมาทั้งหมดก็เพื่อไม่หวังให้ใครมาสั่นคลอนการควบคุมเมืองซื่อหนานของเขา"เย่เจิงพอได้ยิน ก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนี้และก็ได้ยินนางพูดต่อว่า "เช่นนั้น ข้าไม่เพียงแต่จะให้ซื่อหนานเขา แต่จะให้อำนาจที่ใหญ่กว่าในหลวนหนานกับเขาด้วย"ให้สิ่งที่เขาต้องการ แล้วค่อยให้สิ่งที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด...พอเป็นเช่นนี้ การจะรับความเชื่อใจจากอีกฝ่าย ก็ง่ายขึ้นเยอะแล้วพอถึงตอนนัน เขื่อนยาวนับพันลี้ก็ยังต้องพังทลายเพราะรังมด พังลงมาจากภายใน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1369

    ได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ใบหน้าเย่เจิงที่ดูเคร่งขรึมแน่วแน่มาตลอด กลับยิ้มบางๆ ออกมาไม่ใช่รอยยิ้มประชดประชัน แต่คล้ายกับได้ยินเรื่องอะไรที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่างไรอย่างนั้นเย่เจิงเอ่ยขึ้น "ข้าประจำการในเมืองลั่วหม่ามาห้าปี ถ้านับรวมกับเวลาที่อยู่ในกองทัพสยบแดนใต้ด้วย ก็แปดปีได้แล้ว"นับตั้งแต่อายุสิบแปดจนถึงยี่สิบหก แปดปีเต็มแปดปีนี้ ข้าล้วนประจำการอยู่ที่ชายแดนพรมแดนใต้ ร่วมรบกับกองทัพสยบแดนใต้ เคยทั้งแพ้และชนะมาแล้วเรื่องเกี่ยวกับ พรมแดนใต้ ก็เคยเห็นมามาก"ข้าเคยเห็นคนที่เคยสาบานว่าจะจัดการกับหลวนหนาน พวกเขามีทั้งที่ย้ายกลับเมืองหลวงไปแล้ว และมีที่เกษียณกลับบ้านเกิดด้วย" ตอนที่เย่เจิงพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดพูดไปจากนั้น เส้นเสียงของเขาก็เหมือนเย็นวาบลงมากะทันหัน "แต่คนที่สาบานว่าจะจัดการซื่อหนาน ถ้าไม่ตาย ก็คือหายสาบสูญ"จั๋วซือหรานฟังออกถึงความเย็นชาในเสียงเขา แต่ไม่ใช่ความเย็นชาเพื่อเตือนนางแต่กลับเป็นอีกแบบ...เหมือนรู้สกว่านางไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้แบบส่งเดชไม่จริงจังเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะข้ามไปได้ง่ายๆ เรื่องนี้ อาจจะมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียวดังนั้นจั๋วซือหรานจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1368

    จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ก็หัวเราะขึ้นอย่างจนใจ นางเคยได้ยินคำชมต่อหน้าตาของนางมาไม่น้อยแต่วิธีพูดเป็นเอกลักษณ์แบบนี้ของเย่เจิง ก็เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก"แม่ทัพเย่พูดแบบนี้ดูจะไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไรนะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ข้าเป็นแบบนี้ไม่เหมือนคนสร้างวีรกรรมใหญ่ได้ แล้วต้องแบบไหนถึงจะสร้างวีรกรรมใหญ่ได้กัน?"เย่เจิงอ้าปากพะงาบ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดเขาก็เห็นว่าหญิงสาวตรงหน้า มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เอ่ยขึ้นว่า "ถ้าเด็ดหัวท่านได้ในสามกระบวน แบบนี้ดูใกล้เคียงไหม?"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เย่เจิงก็ตกตะลึง ปฏิกิริยาแรกก็คอื...หญิงสาวคนนี้ช่างโอหังนัก!และวินาทีต่อมา ร่างของจั๋วซือหรานก็หายไปจากจุดเดิมที่อยู่และตอนที่นางปรากฏตัวอีกครั้ง ระยะห่างของทั้งสองคนก็หายไปอย่างรวดเร็วพลังที่น่าเกรงขาม แทบจะพุ่งกดดันมาถึงตรงหน้า!เย่เจิงยกมือขึ้นปัดป้องกับตอบโต้ตามสัญชาตญาณ แต่นางลงมือได้แพรวพราว ทุกกระบวนท่ารู้สึกเหมือนปิดทางหนีของกระบวนท่าก่อนหน้าไปจนหมดตอนถึงกระบวนที่สาม นิ้วของนางก็กดอยู่ที่คอของเย่เจิงแล้วถ้าหากตอนนี้นิ้วของนางเป็นคมดาบล่ะก็ คงจะเด็ดหัวเขาไปได้จริงๆเย่เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1367

    พอได้ยินเสียงนี้ จั๋วซือหรานก็รู้ว่าเจ้าของเสียงน่าจะเป็นแม่ทัพทหารประจำการเมืองลั่วหม่า...แม่ทัพเย่เจิงคนนั้นจั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม "แม่ทัพดูแลเมืองลั่วหม่าได้สงบจริงๆ ข้าก็เลยรู้สึกสบายๆ น่ะ""ถ้าหากสงบจริง ใต้เท้าคงไม่โดนโจรปล้นที่ด้านนอกนั่นหรอก" เสียงของเย่เจิงดังลอดออกมาจากด้านในฟังเนื้อหาแล้ว เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องที่จั๋วซือหรานถูกปล้นแล้วจั๋วซือหรานเดินเข้าไปในโถง และเห็นแม่ทัพเย่ที่นั่งอยู่แล้วเทียบกับฉีฮ่าวที่ดูกักขฬะแล้วยังสง่างามกว่าหน่อย แต่ก็ยังดูดุดันกว่าอิงเซ่าที่สง่างามทรงภูมินิดๆ"แม่ทัพเย่" จั๋วซือหรานยิ้มๆสายตาของเย่เจิง พิจารณาอยู่บนตัวหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ในสายตาก็มีการสำรวจตรวจสอบอย่างไม่มีปิดบังเขาปักหลักอยู่ในเมืองลั่วหม่ามาหลายปี ถือได้ว่าเป็นการประจำการอยู่แนวหน้าตลอดทั้งปีคนแบบเขาจะเป็นพวกกระดูกแข็งและรับมือยากถ้าจะให้เขามาประจบสอพลออะไรแบบนั้น คงจะทำไม่ได้แน่สำหรับเรื่องนี้ พวกขุนนางใต้เท้าที่มาจากเมืองหลวง ส่วนใหญ่ก็ไม่เต็มใจจะยอมรับเท่าไร กระทั่งรู้สึกขี้เกียจจะออกมาพบเสียด้วยซ้ำแต่สำหรับจั๋วซือหราน กลับโผล่หน้าออกมาด้วยต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1366

    และขี้เกียจจะกลับไปบนรถม้าแล้ว จึงขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังม้าตัวที่นำอยู่ เตรียมจะตรงไปยังจวนแม่ทัพเมืองลั่วหม่าตามที่ทหารชี้ทางไว้แต่ก่อนหน้าที่จะไป นางก็ยังไม่ลืมกำชับกับหัวหนาทหารว่า "คนพวกนี้ ถ้าออกมาจากในคุกก็จะมีใบรับรองความภักดีแล้ว พวกเขาคงจะไปช่วยพวกคนชั่วในเมืองซื่อหนานก่อเรื่องไม่ดีแน่ ดังนั้นห้ามปล่อยพวกเขาออกมาเด็ดขาด"ดวงตาของเหล่าโจรก็ถลึงโตขึ้นมา มองไปทางจั๋วซือหรานและหญิงสาวชุดแดงบนหลังม้านั้น ใบหน้าเล็กที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องประทิน งดงามหาใดเปรียบก็ยิ้มขึ้นมาจนเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวัน แต่ในแววตานั้นกลับไม่มีความอบอุ่นใดอยู่เลย ราวกับจะเย็นเยียบยิ่งกว่าน้ำแข็งเสียอีกสายตาที่ไม่มีความอบอุ่นใดของนางตกมาอยู่บนตัวพวกเขา จ้องมองมาเรียบๆ "พวกเจ้าคิดว่ากฏหมายใช้กับคนหมู่มากไม่ได้ พอปล้นชิงแล้วขอแค่ไปยังเมืองซื่อหนานได้ กฏหมายก็จะเอาผิดพวกเจ้าไม่ได้สินะ"นางจ้องพวกเขา "แต่ข้าเอาผิดพวกเจ้าได้ ทนรับเอาไว้ก็แล้วกัน"พูดคำนี้จบ จั๋วซือหรานก็คีบท้องม้า ติดตามทหารที่นำทาง ตรงไปยังจวนแม่ทัพทหารประจำการของเมืองลั่วหม่า เป็นส่วนหนึ่งของกองพันพยัคฆ์ทมิฬแห่งกองทัพสยบแดนใต้แม่ท

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status