Share

บทที่ 7

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วหรูซินตะโกนด้วยความโกรธ "จั๋วซือหราน เจ้า"

“พอแล้ว” ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้วและตะโกน

จั๋วหรูซินยังอยากฟ้องต่อ "ผู้อาวุโสใหญ่ นาง..."

จั๋วซือหรานกลับโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพ "ข้าจะไปรับการลงโทษที่ห้องโถงบรรพบุรุษเจ้าค่ะ"

ทิ้งจั๋วหรูซินอยู่นั่นผู้เดียว ปล่อยนางโกรธจนหน้าซีด

ระหว่างทางไปห้องโถงบรรพบุรุษ จั๋วซือหรานเจอฝูซูและฝูซาง

“หลิ่วเย่ล่ะ” จั๋วซือหรานถาม

ฝูซางตอบ “พวกเราหลบสายตาของผู้อื่น พานางเข้าเดินผ่านประตูหลังและเดินเข้าจวน มัดนางไปหาผู้อาวุโสใหญ่เพื่ออธิบายรายละเอียดต่าง ๆ จากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็สั่งให้ขังนางไว้ในห้องเก็บฟืนที่ลานด้านข้างจนกว่าเขาจะสอบปากคำ”

ฝูซูถาม "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูลิ่วกำจัดหลิ่วเย่หรือไม่เจ้าคะ มิเช่นนั้นข้าไปคอยคุ้มกันไว้ดีไหมเจ้าคะ"

จั๋วซือหรานยกริมฝีปากขึ้นและยิ้ม "หากนางฆ่าอีนังนั้นเสียจริง นั่นก็หมายความว่า หาเรื่องใส่ตัวแล้วน่ะสิ ในเมื่อผู้อาวุโสใหญ่สั่งขังหลิ่วเย่อยู่ในห้องเก็บฟืนที่ลานด้านข้าง แสดงว่าท่านต้องแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว"

หากจั๋วหรูซินจิตใจลุกลี้ลุกลน แล้วไปฆ่าหลิ่วเย่จริง ๆ เรื่องน่าจะสนุกน่าดูสินะ

ฝูซางกังวล"คุณหนูเจ้าคะ ตอนนี้คุณหนูรัยการลงโทษที่ต้องทำตามกฎเกณฑ์บ้านได้อย่างไรเจ้าคะ ไม่เช่นนั้น เราไปขอความเมตตาจากผู้อาวุโสใหญ่เสียดีกว่าไหมเจ้าคะ"

จั๋วซือหรานส่ายหัว "ยิ่งตอนนี้ข้าแย่มากเท่าไหร่ จั๋วหรูซินก็จะยิ่งแย่ลงมากเท่านั้นเมื่อความจริงได้ปรากฏขึ้น"

จั๋วซือหรานสั่ง"ฝูซาง เจ้าไปบอกแม่ข้าว่า ข้าเสร็จธุระเมื่อใด ข้าจะไปเยี่ยมท่าน ส่วนเรื่องกฎตระกูล เจ้าไม่ต้องบอกท่านหรอกนะ"

ฝูซางรับคำสั่ง "ข้ารับทราบเจ้าค่ะ"

ฝูซูถาม"คุณหนูเจ้าคะ แล้วข้าล่ะ"

จั๋วซือหรานกลอกตาแล้วพูดว่า "ฝูซู เจ้าต้องไปข้างนอก ช่วยข้าทำเรื่องหนึ่ง"

*

ในห้องโถงบรรพบุรุษ ถังหยวน ผู้รับใช้ของผู้อาวุโสใหญ่กำลังรออยู่แล้ว

“คุณหนูจิ่ว”

“รบกวนท่านลุงถังแล้ว” จั๋วซือหรานกล่าว

"ข้าขอโทษสำหรับการล่วงเกินตัวขอรับ" ถังหยวนมีนิสัยตรงไปตรงมา เขาไม่เคยจงใจทำลายผู้คน แต่เขาก็ไม่อ่อนให้ใคร

ตามกฎของตระกูลจั๋ว วิธีการลงโทษคือ นำแส้ที่มีหนามไปแช่ในสุราแรง หากใครมีสภาพร่างกายไม่ดีและถูกเฆมี่ยนไปหนึ่งที เขาจะอาเจียนเป็นเลือดทันที

"เพี้ยะ--"

จั๋วซือหรานเจ็บจนเกือบเป็นลม นางรู้สึมีรสหวานคาวพุ่งพล่านอยู่ในลำคอของนาง

นางเจ็บอย่างหนัก จนทรงตัวไม่อยู่ นางเซไปเซมา แต่นางยังคงกลั้นความเจ็บนั้นไว้โดยไม่ร้องสักคำ

ถังหยวนชื่นชมความอดทนของจั๋วซือหราน แต่แส้ในมือของเขายังคงหนักแน่น เขาแช่มันในสุราแรงอีกครั้งแล้วเหวี่ยงแส้ออกมาเป็นครั้งที่สอง

จั๋วซือหรานต้องถูกเฆี่ยนถึงเก้าครั้ง

นางยกมือเช็ดเลือดที่ไหลออกจากปากของนาง

หลังจากถูกเฆี่ยนไปอีกสองสามที ใกล้จะจบการลงโทษนั้น

ทันใดนั้น เสียงผู้หญิงอันโศกเศร้าโหยหวนดังจากประตู

“อย่านะ อย่าตีลูกสาวข้านะ”

จั๋วซือหรานตกใจ "...ท่านแม่"

เสียงฝีเท้ารีบเร่งร้อนรนซ้อนกับเสียงลมที่เกิดจากการเคลื่อนแส้ครั้งสุดท้าย

มารดาของนางพยายามแบกรับการลงโ?ษแทนนาง เพื่อแบรกรับการโจมตีจากแส้นี้

ทันใดนั้นดวงตาของจั๋วซือหรานที่ปิดอยู่เพียงครึ่งหนึ่งก็เปิดขึ้น ดวงตาคู่นั้นแสนเย็นชา

ทันใดนั้นร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงกลับเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว นางเอาตัวปกป้องร่างที่บอบบางของมารดาไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่น จากนั้นนางก็หันหลังกลับเพื่อเอาแผ่นหลังไปรับการโจมตีครั้งสุดท้าย

“เอือก ” จั๋วซือหรานกระอักเลือดใส่หน้ามารดาของตนเอง

“หรานหราน ลูกแม่” ผู้เป็นมารดาร้องตะโกนออกมา

เสื้อผ้าอันสีขาวของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยรอยแส้ที่เปื้อนเลือด ซึ่งทำให้คนสะเทือนใจอย่างมาก และกระตุ้นให้คนเกิดความน่าสงสารอย่างเต็มที่

ทว่านี่ก็ทำให้มารดาที่น่าสงสารผู้นี้หวาดกลัวเช่นกัน

ถังหยวนกล่าวว่า "คุณหนูจิ่ว ข้าขอโทษที่ล่วงเกินตัว วันหลังฝ่ากฎตระกูลอีกครั้ง แส้หนามของกฎตระกูลเป็นของที่พิเศษ แม้สติปัญญาของท่านจะดีแค่ไหนก็ตาม หากถูกเฆี่ยนตีเช่นนี้หลายครั้ง ร่างกายของท่านก็จะถูกทำลายได้ถึงแก่นแท้เช่นกัน”

“ขอบคุณท่านลุงถังที่ตักเตือนเจ้าค่ะ”

มารดาของจั๋วซือหรานพยุงนางเดินกลับอย่างระมัดระวัง น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาราวเขื่อนแตก

“ท่านแม่ หนูไม่เป็นไรเจ้าค่ะ หนูไม่เจ็บเลย”

“หนูโกหก รอยแผลเต็มตัวเช่นนี้แล้ว”

“ไม่เจ็บจริง ๆ ท่านแม่ไม่โกรธหนูหรอกนะ”

เนื่องจากนางถูกเสน่ห์หนอนพิษกู่คุมสนิต นางยืนกรานที่จะแต่งงานกับฉินตวนหยาง นางไม่ยอมฟังคำพูดของผู้เป็นมารดาแม้แต่คำเดียว

“พวกเขาบอกแม่ว่า ลูกไม่มีสติเพราะลูกถูกควบคุม พวกเขายังบอกอีกว่า หนูถูกยนอนพิษกู่ควบคุมสติ และหนูต้องเผชิญกับสิ่งเลวร้ายอย่างหนัก”

ผู้เป็นมารดาหลั่งน้ำตาและพูดว่า "คนอื่นอิจฉาข้าที่ให้กำเนิดลูกพร้อมพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา พวกเขายังอิจฉาด้วยว่า เพราะมีลูกที่เก่ง ข้าจึงมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างดี แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่า ข้าอยากให้ลูกมีความสามารถแบบธรรมดา ๆ มากกว่า พวกเราใช้ชีวิตแบบลำบากหน่อยก็ไม่เป็นไร อย่างน้อย ลูกก็จะได้ไม่ถูกคนอื่นอิจฉาและเล่นงาน ลูกจะต้องไม่ต้องทนทุกข์ทนมากเช่นนี้”

ใบหน้าของจั๋วซือหรานซีดขาว ทว่ากลับยิ้มออก "ท่านพ่อจากไปแล้ว หนูเป็นลูกสาวคนโต หนูต้องดูแลครอบครัวของเราให้ได้ หนูต้องให้ท่านแม่และเสี่ยวหวายใช้ชีวิตอย่างมีความสุข"

“จริงสิ เสี่ยวหวายล่ะ ยังโกรธหนูอยู่หรือเปล่า” จั๋วซือหรานถาม

ในชะตากรรมของเจ้าของเดิม น้องชาย จั๋วหวายมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่า นางยืนกรานที่จะแต่งงานกับฉินตวนหยางนั้น การตัดสินใจนั้นน่าแปลก น้องชายผู้นี้พยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้นางมีสติกลับมา และเขาไม่เคยยอมแพ้ด้วย

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกฉินตวนหยางเกลียดชัง และต่อมาก็เสียชีวิตระหว่างถูกเนรเทศ

“เขาจะโกรธลูกทำไม เขาแค่รู้สึกสงสารเจ้า” ผู้เป็นมารดาถอนหายใจเบา ๆ “พอได้ยินว่า ลูกจะถูกลงโทษที่บ้าน ก็รีบวิ่งออกไปหาคนมาช่วยทันที เดี๋ยวเขากลับมา หากเห็นหนูบาดเจ็บเช่นนี้ เขาต้องร้องไห้แน่นอน”

เมื่อกลับมาที่สวนจี๋หย่าย่วน จั๋วซือหรานเห็นไม่เพียงแต่ไม่มีคนทำความสะอาดสนามหญ้าเป็นเวลานานแล้ว

ชาในถ้วยยังมีกลิ่นฝาดจากก้านชาอีกด้วย

จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "ตอนที่หนูไม่อยู่ พวกเขาปฏิบัติต่อท่านแม่และน้องอย่างโหดร้ายเลยหรือ"

“ไม่เป็นไรน่ะ แม่และเสี่ยวหวายไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก ลูกรอก่อนนะ แม่จะไปหาคนไปเอายามาให้”

หลังจากที่มารดาของจั๋วซือหรานพูดจบ นางก็รีบเดินออกไป แต่เวลาผ่านไปครู่หนึ่งแล้ว จั๋วซือหรานเห็นท่านแม่ยังไม่กลับมาเสียที นางรู้สึกว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ นางจึงสวมเสื้อคลุมแล้วออกไปตามหาท่านแม่

“พวกเจ้าก็คิดเสียว่าทำบุญได้ไหมเจ้าคะ ลูกสาวของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส นางต้องการยามาก ข้าจ่ายเงินก็ได้…”

ผู้เป็นแม่ร้องขออย่างเจ็บช้ำ แต่คนรับใช้หลายคนที่ดูแลคลังของเรือนจั๋วกลับทำท่าเมินเฉย

ยิ่งไปกว่านั้น คนรับใช้บางคนหัวเราะแล้วพูดว่า "อ้าว จิ่วฮูหยิน ไม่ใช่ว่าพวกข้าไม่อยากให้ท่านหรอก แต่เป็นเพราะคุณหนูจิ่วเป็นคนบาปของครอบครัวและไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะใช้ยาในจวนอีกแล้ว ท่านจะพูดอย่างไรก็ไม่มีผลหรอก"

ผู้เป็นมารดาอดไม่ได้ที่ต้องเอื้อมมือคว้าแขนเสื้อของหนึ่งในนั้นไว้

“น่ารำคาญจริง ๆ ก็บอกไปแล้วว่า ให้ไม่ได้ คุณท่านลิ่วสั่งเป็นการส่วนตัว ทำไมท่านต้องทำให้พวกข้าลำบากใจด้วย” น้ำเสียงของคนรับใช้เต็มไปด้วยความน่ารำคาญ เขาสะบัดมือของผู้เป็นมารดาอย่างแรง

เมื่อเห็นว่าจิ่วฮูหยินกำลังจะล้มบนพื้น แต่มีร่างหนึ่งรีบปรากฏขึ้นข้างหลังนางอย่างกะทันหัน เจ้าของร่างนั้นแบกรับนางไว้

คนรับใช้ประหลาดใจ “จิ่ว คุณหนูจิ่ว”

เขาไม่แน่ใจอยู่เล็กน้อย เพราะร่างกายของนางเต็มไปด้วยกลิ่นเลือด ยิ่งไปกว่านั้น ความโหดเหี้ยมรอบตัวนั้นรุนแรงกว่ากลิ่นเลือด

คนรับใช้รีบแก้ตัวว่า “ข้า เพราะข้ากำลังมีธุระด่วน เลย...”

จั๋วซือหรานกลับไม่อยากฟัง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: "ข้าคิดว่า เจ้าไม่ต้องใช้มือนี้อีกต่อไปแล้วแหละ"

“อะไรนะ…” คนรับใช้จ้องตาให้โต เขายังไม่ทันเข้าใจนางหมายถึงอะไร

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เขากรีดร้อง “มือ มือของข้า!”

มือของเขาถูกบิดในรูปแบบที่มีมุมแปลกประหลาด และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คุณหนูจิ่วปรากฏตัวข้าง ๆ เขาเมื่อใด

เขาเหงื่อออกและตัวสั่นอย่างมาก

จั๋วซือหรานพูดอย่างเย็นชา "เก็บยาเหล่านั้นไว้ใช้เองเถิด"

จั๋วซือหรานกอดแม่ของนางและพาท่านแม่กลับไปยังสวนจี๋หย่าย่วน นางคิดในใจว่า หากแหวนเสวียนเหยียนข้ามเวลามาด้วยก็จะดีนะ ในนั้นมีของทั้งหมดของนาง และแน่นอนว่าต้องมียารักษาบาดแผลด้วย หากมีแหวนเสวียนเหยียน มารดาของนางต้องทนทุกข์ขนาดนี้หรือ

เมื่อลุกแม่สองคนกลับไปถึงสวนจี๋หย่าย่วน เห็นฝูซูที่ออกไปทำธุระกลับมาพอดี บัดนี้ นางกำลังยืนอยู่หน้าประตูห้อง

จั๋วซือหรานปลอบโยนมารดาของตนเองและพูดว่า "ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ฝูซูออกไปเพื่อตามคุณหมอมา"

“ลูกแม่... มีความคิดของตนเองอยู่เสมอ ลูกยังคาดเดาถึงการเฆี่ยนล่วงหน้า และยังตามคุณหมอมาด้วย”

มารดาเช็ดน้ำตา "หากมิใช่เป็นเพราะถูกเล่นงาน เมื่อก่อนลูกใมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมได้อย่างไร คุณหนูลิ่วทำเกินไปแล้วจริง ๆ นางยังต้องการแต่งงานกับท่านอ๋องเฟิงหรือ นางฝันไปเถิด การหมั้นหมายระหว่างลูกกับท่านอ๋องเฟิง ไม่เพียงแต่เพราะพวกเจ้ามีคุณสมบัติที่เหมาะสมกัน ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเพราะท่านพ่อของลูกเป็นผู้มีพระคุณต่อพวกเขา ดังนั้น หากไม่ใช่ลูกของแม่ที่ทำการหมั้นหมายกับท่านอ๋องเฟิง ก็ไม่มีทางที่จะเป็นคุณหนูลิ่วอย่างแน่แท้”

นี่เป็นครั้งแรกที่จั๋วซือหรานได้ยินเรื่องนี้

หลังจากปลอบใจมารดาของนางแล้ว จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปในห้อง เพราะนางยังคงคิดถึงสิ่งที่มารดของนางพูดในก่อนหน้านี้ นางจึงไม่สังเกตสีหน้าอันลังเลบนใบหน้าของฝูซูดวยซ้ำ

เมื่อนางเดินเข้าไปในห้อง นางตกตะลึง

"ทำไมถึงเป็นเจ้า"
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Yui Yui Yui
ในยุคโบราณแนะนำเป็นจากหนู เป็นข้าหรือเจ้า จะได้อ่านลื่นหน่อย ใช้คำว่าหนูอ่านยังไงก็สะดุดค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1457

    จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา แต่ไม่ใช่หัวเราะใส่เฟิงเหยียนหรือปันอวิ๋นถ้าให้พูดจริงๆ น่าจะเป็นเจ้าสภาผู้อาวุโสสมควรตายนั่นมากกว่าจั๋วซือหรานหัวเราะเสียงเย็นชา "พวกเขาพอได้ลิ้มลองของดีแล้ว ต้องไม่ยอมปล่อยวางพลังสัตว์เทพไปแน่นอน"พลังแห่งมังกรครามสามารถทำให้เกาะมังกรลอยบนท้องฟ้าได้ ทำให้ฐานที่มั่นพวกเขาดูราวกับเป็นปาฏิหาริย์แห่งทวยเทพได้อย่าว่าแต่สภาผู้อาวุโสพวกนี้เลยจั๋วซือหรานลองสมมติว่าถ้าตนเองเป็นแบบนั้น ก็คงรู้สึกอยากจะรู้ว่าพลังของสัตว์เทพอื่นๆ จะเป็นเช่นไร"ใช่เลย" ปันอวิ๋นถอนหายใจ "เพียงแต่ว่า พลังสัตว์เทพมันหาได้ง่ายๆ เสียที่ไหนกัน"ถังฉือที่อยู่ข้างๆ ก็พูดต่อมาว่า "พวกเราหามาตั้งหลายปี ไอ้ที่หาเจอจริงๆ ก็มีแค่หงส์แดงกับพยัคฆ์ขาวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นแค่พวกน้ำไร้รากด้วย"จั๋วซือหรานรู้สึกสนใจกับคำพูดนี้ของถังฉือ"น้ำไร้ราก..."ประหลาด จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายคำนี้ของถังฉือขึ้นทันทีพลังแห่งพยัคฆ์ขาวที่ถังฉือพูดถึงเป็นอย่างไร จั๋วซือหรานไม่รู้แต่ที่นางรู้คือบนตัวเฟิงเหยียน หรือก็คือพลังหงส์แดงที่สืบทอดมาของตระกูลเฟิงมันก็ดูเป็นน้ำไร้รากจริงๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1456

    เขาพยักหน้า "พวกเขาสะสมมานานหลายปี มีทรัพยากรที่ดีที่สุด มีเส้นสายที่ดีที่สุดกับสำนักต่างๆ"ถังฉือพูดต่อไปและเพราะมีทรัพยากรเช่นนี้ พวกเขาจึงมีสายข่าวที่เยอะถึงเยอะมากๆสัตว์เทพเอย สัตว์ชั่วร้ายเอย สิ่งที่คนปรารถนาแต่ไม่อาจเอื้อมถึง แค่คิดก็ยังไม่กล้าจะคิด ทว่าสำหรับพวกเขาแล้ว กลับเป็นสิ่งที่ได้มาง่ายดายและเพราะได้มาง่ายดาย จึงไม่ได้ดูมีคุณค่าขนาดนั้นดังนั้น จึงมีทะเลทรายทางเหนือขึ้นมาทะเลทรายทางเหนือก็เหมือนกับเป็นศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งของสภาผู้อาวุโส รวบรวมตัวตนอันตรายจำนวนมากไว้ เป็นตัวตนที่สภาผู้อาวุโสรู้สึกว่าเก็บไว้ก็ไม่ได้ประโยชน์ แต่จะทิ้งก็เสียดายถ้าบอกว่าให้ทิ้งไป พวกเขาก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ถ้าจะบอกว่ามีค่า...ก็เหมือนไม่ได้ไปถึงขนาดนั้นดังนั้นจึงให้พวกเขาอยู่กันที่ทะเลทรายทางเหนือ อยู่ในเมืองโม่ทั้งใช้งานต่อได้ และไม่ส่งผลกระทบกับชีวิตของสภาผู้อาวุโสด้วยจั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายในคำพูดนี้"ดังนั้นก็คือ...ที่พวกเขาเอาคนเหล่านี้มาทำงานในเมืองโม่ อันที่จริงก็เพื่อไม่ให้พวกเขาไปยังฐานที่มั่นสภาผู้อาวุโส แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของพวกเขาต่อไปได้"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1455

    ถังฉือชอบจั๋วซือหราน ไม่ใช่ความรู้สึกชอบแบบหนุ่มสาว แต่เป็นความชอบแบบบริสุทธิ์ใจดังนั้น ขอแค่จั๋วซือหรานอยากรู้ ถังฉือก็จะตอบสิ่งที่รู้ออกมาทั้งหมดดังนั้นจั๋วซือหรานจึงมีความเข้าใจต่อสภาผู้อาวุโส และทะเลทรายทางเหนือพอควรแล้วสภาผู้อาวุโส ตอนแรกสุดที่ก่อตั้ง ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี และไม่มีการกดขี่ข่มเหงตอนนั้น แผ่นดินใหญ่แตกแยกล่มสลายแคว้นเล็กต่างๆ สับสนวุ่นวายไม่พัก สู้กันไปสู้กันมาตอนนั้นลัทธิยังไม่เรียกเป็นลัทธิ แต่ยังเรียกเป็นแค่กลุ่มสำนัก และกลุ่มสำนักภูเขาหรือกลุ่มสำนักริมน้ำก็ผุดขึ้นมาไม่ขาดสายและก็มีการช่วงชิงระหว่างกันทั้งที่ลับที่แจ้งอยู่ไม่น้อยพูดแบบนี้ดีกว่า เป็นยุคสมัยที่ค่อนข้างวุ่นวายเลยทีเดียวระหว่างแคว้นรบราต่อสู้กัน วุ่นวายไม่หยุดหย่อนระหว่างสำนักเองก็ต่อสู้กัน มีคนตายไปไม่น้อยสถานการณ์เช่นนี้ยืดยาวต่อมาเป็นเวลานาน กินเวลาหลายสิบปีเลยทีเดียวต่อมาไม่รู้เนื่องจากโอกาสอะไร โดยรวมคือ มีสำนักอันดับแรกที่ก่อตั้งขึ้นจากการร่วมตัวเป็นพันธมิตรพลังของสำนักเช่นนี้แน่นอนว่าไม่ใช่ธรรมดา ดีกว่ากลุ่มสำนักแต่ก่อนมากมายดังนั้น เพื่อจะต่อสู้กับสำนักนี้ สำนักอื่นๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1454

    ตอนที่ฟ้ากำลังจะสาง จั๋วซือหรานก็เรียกให้เฟิงเหยียนเข้ามาอยู่บนรถม้ารถม้าของนางเดิมทีก็เตรียมไว้เพื่อเขาโดยเฉพาะ ไม่เช่นนั้น อันที่จริงพวกเขาจะขี่ม้าเร่งระยะทางกันเสียหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหาเลยหลักๆ คือยังกังวลอาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนในรถม้าท่ามกลางความมืด เฟิงเหยียนโอบกอดนางเบาๆจั๋วซือหรานพิงไปที่อกเขา "อีกเดี๋ยวท่านก็พักผ่อนให้ดีๆ""อืม" เฟิงเหยียนดูเชื่อฟังนางมากจั๋วซือหรานคิด เอ่ยถามเสียงต่ำว่า "พวกเขาขังคนพวกนี้ไว้ที่ทะเลทรายทางเหนือหรือ?"เฟิงเหยียนขานรับอืม "ถือว่าใช่นั่นล่ะ ตอนแรกสุดคนทั้งหมด จะคิดว่าตนเองได้ไปเข้าร่วมกับองค์กรที่ใหญ่โตมาก อยู่ไปจึงได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ว่าไปเข้าร่วม แต่ไปให้บริการต่างหาก..."จั๋วซือหรานรู้สึกว่า ใช้คำว่าให้บริการนี่ อาจจะเป็นคำที่เฟิงเหยียนใช้แบบอ้อมๆ หน่อยแล้วกระทั่งเรียกได้ว่าเป็นทาสเลยด้วยซ้ำจั๋วซือหรานพอได้ยินจากคำพูดเฟิงเหยียน ภาพของทะเลทรายทางเหนือ ก็ค่อยๆ มีเค้าโครงขึ้นมาบ้างแล้วคนเหล่านั้น ล้วนเป็นอัจฉริยะที่สภาผู้อาวุโสรวบรวมมาจากทั่วสารทิศอัจฉริยะเหล่านี้ ล้วนมาให้บริการแก่พวกเขาเหมือนอย่างซงซี สิ่งของที่ถูกหลอมออก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1453

    เฟิงเหยียนรู้ความหมายของถังฉือจั๋วซือหรานหัวเราะเอ่ยขึ้น "ตอนนี้ข้ายังต้องกลัวผิดใจพวกเขาอีกหรือ?"ถังฉือคิดๆ รู้สึกว่ามันก็จริงนางขโมยอาเหยียนมาแล้ว จากนั้นเกลี้ยกล่อมอวิ๋นให้เปลี่ยนข้าง จากนั้นก็ตัวเขาตอนนี้ยังจะไปขโมยตัวซงซีกับเยี่ยนเหวยอีกไม่ว่าจะมองจากจุดไหน ความสามารถของนางจะเปิดโปงหรือไม่ ก็เหมือนไม่ต่างกันถึงอย่างไรสภาผู้อาวุโสก็ต้องอยากให้นางตายอยู่แล้วแล้วถังฉือก็เห็นนางเป่าปากติดต่อกันหลายครั้ง เรียกสัตว์ประหลาดออกมาหลายตัวเป็นพาหนะให้พวกเขาทั้งห้าคนออกเดินทางกันแล้วพาหนะเหล่านั้นก็เชื่องกันมาก ไม่ใช่แค่เพราะวิชาควบคุมสัตว์กับพลังวิญญาณที่ควบคุมของจั๋วซือหรานเท่านั้นแต่เป็นเพราะ เฟิงเหยียนเองก็มีพลังหงส์แดงอยู่ในตัว ปันอวิ๋นมีพลังกู่วิญญาณในตัวนี่ตัวล้วนเป็นตัวตนสูงสุดในห่วงโซ่อาหารแล้ว และตัวตนเช่นนี้...พลังการคุกคามและแรงกดดันต่อสัตว์ประหลาดทั่วไป ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยส่วนถังฉือ จิตสังหารบนตัวเขา แม้ตอนที่ยังไม่ชักกระบี่ ก็เหมือนจะเก็บงำไว้อย่างดีจนสัมผัสไม่ได้ทว่าการรับรู้ของสัตว์ประหลาดนั้นเฉียบคมกว่ามนุษย์มาแต่ไหนแต่ไร สัมผัสได้อย่างแน่นอนสัต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1452

    รู้สึกประหลาดใจ และก็กลัวนิดๆ ด้วยเยว่จานเอ่ยถามเสียงขรึมขึ้นข้างๆ "ใต้เท้า ไม่ทราบว่าทดสอบอะไรหรือ?""พวกเจ้าเองก็เห็นแล้ว ทหารของเย่เจิงเข้ามารับช่วงดูแลซื่อหนานต่อ ส่วนในซื่อหนานเดิมทีก็เป็นพวกที่ไม่ค่อยมีระเบียบวินัยนัก ดังนั้นต่อให้พวกเจ้าจะมีความผิดติดตัว พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาตำหนิพวกเจ้าได้ข้าเอาเมืองแห่งนี้ให้พวกเจ้าดูแล ตอนที่ข้ากลับมา ถ้าพวกเจ้าบริหารซื่อหนานได้เป็นอย่างดี ก็จะถือว่าพวกเจ้าผ่านการทดสอบจั๋วซือหรานยิ้มๆ "เช่นนั้นหลังจากนี้ ตอนที่ข้าส่งเมืองอื่นให้พวกเจ้าดูแล ข้าก็จะวางใจได้ ถ้าหากมีใครกล้าสร้างปัญหาเพราะความผิดในอดีตพวกเจ้า ข้าจะช่วยจัดการให้"ทว่าพอพูดไป รอยยิ้มบนหน้านางก็ค่อยๆ หายไป "แต่ถ้าพวกเจ้าทำได้ไม่ดี เช่นนั้นก็อธิบายได้ว่าพวกเจ้าไม่มีคุณค่า ข้าจะไม่ลงโทษพวกเจ้า หลังจากนี้พวกเจ้าก็เป็นทาสรับใช้ในจวนนี้ต่อไปก็แล้วกัน"ดวงตาของเยว่จานเปล่งประกายขึ้นมาจะฟังคำพูดในนี้ไม่ออกได้อย่างไร พวกเขาถ้าทำได้ดี ในอนาคตก็สามารถไม่ต้องมีสถานะทาสติดตัวแล้ว กระทั่งความผิดก่อนหน้านี้ ใต้เท้าก็จะช่วยหาวิธีให้พวกเขา...เยว่จานคุกเข่าลงพื้น โขกศีรษะให้กับจั๋วซือหร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status