Share

บทที่ 11

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อนางได้ยินเช่นนี้ จือเฉาก็รู้สึกปลื้มปีติ นางพูดเสียงติดอ่างด้วยความตกใจ "พระ... พระชายา แต่บ่าวทำอะไรไม่เป็นเลยนะเจ้าคะ"

“เจ้ารู้วิธีส่งชาและส่งน้ำหรือไม่? วิธีหวีผมแบบง่าย ๆ ทำได้หรือไม่? ถ้าทำได้ ก็เพียงพอแล้ว” นางดึงจือเฉาขึ้นมาจากพื้น

จือเฉาสติยังกลับมาไม่สมบูรณ์นัก ลั่วชิงยวนวางชามและตะเกียบไว้ข้างหน้านาง "กับข้าวเยอะขนาดนี้ ข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก เจ้ามานั่งกินด้วยกันสิ"

จือเฉารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร นางหยิบชามข้าวขึ้นมาอย่างเชื่อฟัง และเริ่มกิน

เมื่อเห็นท่าทางมึนงงของนาง ลั่วชิงยวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความทรงจำบางอย่าง ครั้นเมื่อน้องสาวคนเล็กถูกท่านอาจารย์รับมานั้น นางก็มีลักษณะท่าทางเช่นนี้เช่นกัน

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดลง และฝนก็เริ่มตก

หลังจากที่จือเฉาจากไป ในที่สุดลั่วชิงยวนก็มีโอกาสที่หยิบเข็มทิศแห่งโชคชะตาออกมา นางสำรวจมันอย่างระมัดระวัง

ทันใดนั้นเข็มทิศก็หมุนอย่างรวดเร็ว นางตกใจเล็กน้อย จึงหยิบเข็มทิศแล้วเดินออกไปที่ประตู แต่กำลังจะเข้าไปในลาน จู่ ๆ ฝนก็ตกหนัก

นางเพิ่งสังเกตเห็นฮวงจุ้ยของตำหนักอ๋องแห่งนี้ ด้านหลังตำหนักมีทิวทัศน์เป็นภูเขา ซึ่งหาได้ยากในเมืองหลวง ด้านซ้ายสายน้ำไหล ซึ่งเรียกว่ามังกรฟ้า ด้านขวามีถนนราดยาวซึ่งเรียกว่าเสือขาว ด้านหน้ามีบ่อน้ำซึ่งเรียกว่าหงส์ไฟ และภูเขาด้านหลังนี้เรียกว่าเต่าดำ สมกับเป็นดินแดนอันล้ำค่า ตำหนักถูกสร้างที่จุดนี้ถือเป็นสิริมงคล

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะมีวิญญาณชั่วร้ายซ่อนอยู่ในตำหนัก นางถือเข็มทิศเดินไปรอบ ๆ ทางเดิน แต่ก็ไม่พบแหล่งที่มาของวิญญาณชั่วร้ายนี้ อาจเป็นผลกระทบมาจากพายุ ฝนฟ้าคะนอง คงต้องรอให้พายุสงบลงแล้วค่อยมาดู

ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่เต็มไปด้วยความร้อนอบอ้าว ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ค่อยสบาย

เมื่อตกกลางคืน ละอองสีดำลอยขึ้นเหนืออากาศทางประตูตำหนัก ลั่วชิงยวนคิ้วกระตุก และในวินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของนางรับใช้ในลานที่วิ่งเข้าไปในลานด้านในท่ามกลางสายฝน

หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฟู่เฉินหวน?

นางรีบหาร่มและเดินออกจากเรือน และบังเอิญเจอจือเฉาที่กำลังเดินผ่านสวนไป ร่างผอมบางนั้นดูเหมือนจะล้มลงกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำได้ทุกเมื่อ

"จือเฉา เกิดอะไรขึ้น?"

จื่อเฉาส่ายหัว "ไม่ทราบเจ้าค่ะ ท่านซูสั่งให้พวกบ่าวไปที่เรือนของท่านอ๋องเจ้าค่ะ"

ลั่วชิงยวนเดาว่าฝนตกหนักเช่นนี้ ต้องเป็นนางรับใช้คนนั้นที่ไม่ต้องการทำงาน จึงผลักจือเฉาออกมาอีกเช่นเคยเป็นแน่ นางรีบพูดกับจือเฉาทันที "เจ้ากลับไปเก็บกวาดที่ห้องของข้า และอย่าออกมาจนกว่าข้าจะกลับไป"

“เอ่อ...” จือเฉางุนงง

“เอ่ออะไร รีบไปสิ!”

"เจ้าค่ะ..." จือเฉาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลับไปที่ห้องของลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนเดินไปที่เรือนของฟู่เฉินหวนอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างทางมักถูกดึงดูดด้วยหินแกะสลัก และเครื่องประดับที่อยู่ข้างทางเสมอ รูปปั้นหินสิงโตมีท่าทางดุร้ายในดวงตา และรูปปั้นหินเทาเที่ยที่นั่งอยู่ในลำธาร กำลังกลืนน้ำด้วยความโกรธ ทำให้นางหวาดกลัวไปตลอดทางเดิน มีของตกแต่งแปลก ๆ เต็มไปหมด

เมื่อฟ้าร้อง เข็มทิศในแขนเสื้อนางก็สั่น ตำหนักมงคลหลังนี้ไม่เพียงกลายเป็นบ้านผีสิงเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยพิบัติอีกด้วย

เมื่อมาถึงลานของฟู่เฉินหวน มีนางรับใช้กลุ่มใหญ่มารวมตัวกันที่นี่ แต่ไม่ใช่ซูโหยวที่สั่งพวกนาง แต่เป็นลั่วเยวี่ยอิงที่สั่งพวกนางอย่างรีบร้อน

ใช้โอกาสเมื่อพวกนั้นอยู่อีกฝั่งของทางเดิน และทันไม่ได้สังเกตเห็นนาง นางรีบตรงเข้าไปในห้องของฟู่เฉินหวนในทันที

ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ฟู่เฉินหวนหน้าซีดและหมดสติอยู่บนเตียง เสื้อผ้าของเขาถูกปลดกระดุมออกราวกับว่าเขากำลังรอหมอมารักษาอาการบาดเจ็บของเขา นางก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดมัน และเห็นรอยดาบยาวบนหน้าอกของเขา บาดแผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วดาบนั้นอาบยาพิษ

ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เย็นชา เมื่อเห็นว่ามีบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ในช่องท้องของฟู่เฉินหวน!

นางกดนิ้วของนางไปข้างหน้า และสิ่งนั้นก็เคลื่อนตัวหนีไปในทันที ดวงตาที่เฉียบคมของนางบีบของสิ่งนั้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง มันใหญ่กว่าเล็บมือแค่นิดเดียว ทำให้บีบจับยาก นางบีบมันแน่น จนทำให้ผิวของฟู่เฉินหวนช้ำโดยไม่รู้ตัว

นางมองไปรอบ ๆ และเห็นกริชครึ่งหนึ่งยื่นออกมาจากใต้หมอน นางดึงกริชออกมาทันที นางกรีดใบมีดที่คมกริบผ่านผิวหนัง เมื่อสิ่งนั้นกระโจนออกมานางคว้าสิ่งที่เป็นสีดำที่บินออกมาไว้ในทันที นางโยนมันลงบนพื้นและบดขยี้อย่างแรง

กู่ฉงเกิดในเลือดและเติบโตในร่างกาย อาจกินเลือดกินเนื้อ และทำให้คนตายด้วยความเจ็บปวด หรืออาจกัดกร่อนประสาทของผู้คน และทำให้คนกลายเป็นหุ่นเชิด

นางบอกแล้วว่า ถ้าหากเขาออกไปข้างนอกจะต้องเกิดการนองเลือด แต่เขาก็ยังไม่เชื่อคำพูดของนาง!

เขายังโชคดีที่พบนาง ไม่เช่นนั้นหากช้ากว่านี้ กู่ฉงจะเติบโตในร่างกายของเขา และหากจะดึงมันออกมา จะต้องเจ็บปวดเหมือนเป็นตะคริวที่ผิวหนัง!

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ฟู่เฉินหวนตื่นขึ้นมาและเห็นว่านางถือกริชเปื้อนเลือด ดูเหมือนว่านางกำลังจะฆ่าเขา จึงตะโกนด้วยความโกรธ "ลั่วชิงยวน!"

เขาพยายามฝืนตัวยืนขึ้น ลั่วชิงยวนชำเลืองมองที่กริชแล้วรีบซ่อนไว้ข้างหลัง ก่อนจะกดเขากลับลงไปบนเตียง "อย่าพึ่งขยับ บาดแผลของท่านยังมีเลือดไหลอยู่!"

ฟู่เฉินหวนมีสายตาที่อาฆาต เขาคว้ามือของนาง แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ความแข็งแกร่งนั้นแข็งแกร่งมากจนสามารถบดขยี้ข้อมือของนางได้

“ใครส่งเจ้ามาที่นี่! วันนี้ที่ข้าถูกลอบสังหาร เป็นเจ้าใช่หรือไม่!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของลั่วชิงยวนก็แทบไม่อยากเชื่อ นางตะคอกกลับไปด้วยความโกรธ "ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือไง! นี่หม่อมฉันเพิ่งจะช่วยชีวิตท่านไป!"

นางเคยเตือนฟู่เฉินหวนว่าอย่าออกไป มิเช่นนั้นจะเกิดหายนะนองเลือด แต่เขายืนกรานที่จะออกไป และเมื่อถูกลอบสังหารจนเกือบเสียชีวิต กลับโยนความผิดมาที่นาง?

เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากนอกประตู ลั่วเยวี่ยอิงรีบเดินเข้ามาพร้อมกับซูโหยวและท่านหมอกู้

เมื่อเห็นฉากนี้ในห้อง ใบหน้าของซูโหยวก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบพุ่งเข้ามาปกป้องท่านอ๋อง เขายกร่างของลั่วชิงยวนออกไป และเตะท้องนางอย่างรุนแรง ทำให้นางตัวลอยออกไปจากประตู

ความเจ็บปวดรุนแรงถาโถมเข้าใส่นาง ร่างที่อ้วนท้วนของนางล้มลงกับพื้นอย่างแรง นางแทบจะไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดนั้นได้ และฝนที่ตกกระหน่ำก็กระทบร่างของนางราวกับก้อนหิน ทำให้นางเปียกโชกไปในทันที

นางมีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างหนัก ทำให้นางไม่สามารถลุกขึ้นมาจากพื้นได้เป็นเวลานาน และผลที่ตามมาของการชนกำแพงก็ปรากฏขึ้น

นางยืนขึ้นด้วยความยากลำบาก ยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากออก

"ใครก็ได้ ลั่วชิงยวนรอบสังหารท่านอ๋อง จงนำตัวไปประหาร!" ซูโหยวหยิบกริชเปื้อนเลือดที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา และออกคำสั่งทันที

ก่อนที่นางจะลุกขึ้นยืน ดาบยาวขององครักษ์นับสิบก็จ่ออยู่ที่คอของนาง และนางก็ถูกลากขึ้นมาจากพื้น

นางหลับตาเพื่อบรรเทาอาการวิงเวียน

เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก

นางเอ่ยเสียงเย็น "หากข้าต้องการสังหารท่านอ๋อง กริชนี้จะหายไปอย่างสมบูรณ์ เและอกของท่านอ๋องที่โดนแทงคงจะอาบไปด้วยเลือด ไม่ใช่แค่ใบมีดเท่านั้น!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูโหยวก็ตกใจเล็กน้อย มองไปที่กริชในมือพลางขมวดคิ้ว

"แล้วท่านทำอะไรกับกริช?" ซูโหยวคิดว่า พระชายาเป็นคนของท่านอ๋องห้า ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะใช้กริชทำสิ่งดี ๆ ให้กับท่านอ๋อง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1514

    การแพ้ให้กับสตรีนางหนึ่งช่างเป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่งฉีเฮ่ายอมสังหารผู้คนในที่นั้นทั้งหมดดีกว่าต้องคุกเข่าขออภัยต่อสตรีผู้นี้!ในวินาทีต่อมาผู้คุ้มกันที่ฉีเฮ่านำมาก็กรูกันเข้ามา แล้ววิ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวนในขณะนั้นเอง ผู้คุ้มกันตลาดมืดก็เคลื่อนไหวในทันทีบรรยากาศพลันตึงเครียดขึ้นในพริบตาทำให้ผู้คนจำนวนมากที่มุงดูอยู่ต่างถอยกรูดด้วยความหวาดกลัว ด้วยเกรงว่าจะโดนลูกหลงฉีเฮ่าจ้องลั่วชิงยวนเขม็ง แล้วพุ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวนในเวลานั้นเอง เงาร่างสีดำก็ร่อนลงมากลางอากาศ เข็มเงินหลายเล่มพุ่งตรงมาจิตสังหารพวยพุ่งฉีเฮ่าตอบสนองอย่างรวดเร็ว ถูกบังคับให้ถอยหลังไปหลายก้าวเข็มเงินพุ่งปักลงบนพื้นเสียงอันเปี่ยมด้วยอำนาจและทรงพลังดังมาจากฟากฟ้า “ข้าจะดูว่าใครกล้าแตะต้องน้องสาวของอวี๋หงผู้นี้!”เมื่อเสียงนั้นดังขึ้นก็ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมายนับมิถ้วนทุกคนพากันมองไปตามเสียง จึงเห็นเงาร่างในชุดคลุมสีดำอยู่บนชายคา ภายใต้หน้ากากผีนั้นเพียงพอที่จะสะกดข่มผู้คนที่อยู่ในที่นั้นได้ฉีเฮ่าขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็เกิดความคิดที่จะถอยหนีมิอยากเป็นศัตรูกับตลาดมืดแต่มินานเขาก็ถูกความโกรธในใจครอบงำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1513

    ทั้งสองปะทะกันหลายสิบกระบวนท่า ลั่วชิงยวนเอาแต่หลบหลีก แต่เพียงแค่หลบหลีกก็สามารถทำให้ฉีเฮ่าโกรธแทบตายได้จูลั่วที่ยืนมองอยู่ตลอดเวลารู้สึกกังวลสตรีผู้นี้มิได้อ่อนแอเลยท่านแม่ทัพใหญ่ประมาทแล้ว!ทันใดนั้นเอง เสียงฮือฮาด้วยความตื่นเต้นก็ดังขึ้นโดยรอบเพราะลั่วชิงยวนถูกบีบให้ถอยไปจนถึงขอบลานประลองแล้วอาจตกลงไปได้ทุกเมื่อสายตาของฉีเฮ่าเย็นชา ฉวยโอกาสจับบ่าของลั่วชิงยวน มุมปากแสยะยิ้มเย็น “จับเจ้าได้แล้ว!”“ดูสิว่าตอนนี้เจ้าจะหลบได้อย่างไรอีก!”หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็ลงมือหนักขึ้น ลั่วชิงยวนรับมือด้วยความตึงเครียด แต่ด้วยความแตกต่างของน้ำหนักตัว ฉีเฮ่าจึงจับแขนและขาของนางแล้วยกขึ้นฉีเฮ่ายกตัวลั่วชิงยวนขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง เตรียมจะโยนนางออกจากลานประลองทว่าในชั่วขณะนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ออกแรงอย่างแรง ใช้เท้าข้างหนึ่งเกี่ยวคอของฉีเฮ่าไว้จากนั้นก็หมุนตัวหลุดจากมือของฉีเฮ่า แล้วเกี่ยวคอฉีเฮ่าแล้วล้มลงกับพื้นลั่วชิงยวนร่วงลงสู่พื้นก่อนแล้วฟาดฝ่ามือลงไป แรงลมยกฝุ่นคละคลุ้งก่อนจะกระโจนตัวขึ้นในพริบตาแต่ขาทั้งสองข้างยังคงล็อกคอของฉีเฮ่าไว้แน่นกดฉีเฮ่าลงกับพื้นอย่างแรงจากนั้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1512

    รอยยิ้มหยอกเย้าปรากฏบนริมฝีปากของฉีเฮ่า แววตาจาบจ้วงราวกับมองเห็นสตรีตรงหน้าถูกโยนเข้าไปในหมู่ทหารแล้วในชั่วขณะเดียว แววตาหยาบโลนนั้นก็จุดประกายเพลิงโทสะในใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนกำหมัดแน่น“สู้กันบนลานประลองนี้ ผู้ใดถูกผลักตกจากลานประลองก่อน ผู้นั้นแพ้!”จากนั้นลั่วชิงยวนก็ออกคำสั่งให้คนที่อยู่ในที่นั้นถอยออกไปผู้คุ้มกันทั้งหมดพากันถอยไป ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันออกไปบนลานประลองจึงเหลือเพียงลั่วชิงยวนและฉีเฮ่าสองคนฉีเฮ่ามองสำรวจลั่วชิงยวนด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม “เจ้ากล้าหาญถึงเพียงนี้ ข้าชื่นชมอยู่บ้าง”“เพียงแต่น่าเสียดายที่มิฉลาดนัก”ร่างอันบอบบางเช่นนี้ เขาสามารถชกให้ปลิวได้ในหมัดเดียวเสียด้วยซ้ำนางเอาความกล้าหาญมาจากที่ใด จึงได้มาเดิมพันครั้งใหญ่กับเขาเช่นนี้?ในขณะนั้นเอง โฉวสือชีและฉีอวี้ก็ปรากฏตัวขึ้นในฝูงชนที่มามุงดูอยู่ แล้วมองเห็นร่างสองร่างบนลานประลองโฉวสือชีเหงื่อตกในใจกังวลว่าลั่วชิงยวนจะวู่วามเกินไปเมื่อฉีอวี้เห็นชายคนนั้นบนแท่นประลอง หัวใจก็เต้นผิดจังหวะฉีเฮ่ามาได้อย่างไร!ฉีอวี้ถอยหลังไปสองก้าวด้วยความกังวลโฉวสือชีสังเกตเห็นจึงหันกลับมามองนาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1511

    “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าได้ล่วงเกินท่านแม่ทัพใหญ่!”เมื่อได้ยินชื่อนั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้ว แล้วเลิกคิ้วถาม “ตำแหน่งนี้ใหญ่มากนักหรือ?”“สมควรให้ข้าให้เกียรติด้วยหรือ?”เมื่อสิ้นคำนั้น สีหน้าของคนหลายคนก็พลันเปลี่ยนไปในทันทีอวี๋หลินตวาดว่า “ไร้ความรู้! ทั่วทั้งแคว้นหลีมีเก้าหัวเมือง แม่ทัพใหญ่ค่ายทหารอวิ๋นโจวคือผู้ปกครองสูงสุดของอวิ๋นโจว!”“เจ้ายังมิรีบมอบกระบี่หมื่นทิศอีก! เพื่อขอให้ท่านแม่ทัพใหญ่ไว้ชีวิตอย่างไรเล่า!”ฉีเฮ่าเผยสีหน้ามิพอใจ ท่าทีสูงส่งราวกับกำลังรอให้ลั่วชิงยวนคุกเข่าขออภัยแล้วมอบกระบี่หมื่นทิศให้ผู้คนโดยรอบต่างอุทานด้วยความตกใจ“แม่ทัพใหญ่ค่ายอวิ๋นโจวหรือ? ถึงกับมาตลาดมืดเลยหรือนี่”“ได้ยินมาว่า ค่ายอวิ๋นโจวคือค่ายที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเก้าหัวเมือง มิใช่เพียงทหารที่แข็งแกร่ง แม่ทัพก็ยังแข็งแกร่งยิ่งนัก!”“หากตลาดมืดกล้าล่วงเกินพวกเขา เมืองป้านกุ่ยคงจะต้องถูกทำลายมิใช่หรือ?”ฉีเฮ่าฟังคำพูดเหล่านั้นแล้วยิ่งพึงพอใจตลาดมืดเล็ก ๆ นี้จะกล้าล่วงเกินค่ายอวิ๋นโจวได้อย่างไร?ทว่าลั่วชิงยวนกลับยังคงมีสีหน้าสงบ มิได้แสดงความหวาดกลัวแม้แต่น้อยนางกลับ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1510

    อวี๋หลินหวาดกลัวและตื่นตระหนก เขาตะโกนลั่น “อย่า ๆ! พูดจากันดี ๆ ก่อนเถิด!”ลั่วชิงยวนยกยิ้มเย็นชา “นี่มิใช่ว่าเจ้าเป็นคนเดิมพันเองหรอกรึ? เจ้ามิได้ต้องการให้ข้าเป็นอนุของเจ้าหรอกหรือไร?”“หามิได้ ๆ” อวี๋หลินกลืนน้ำลายอย่างตื่นตระหนก“สายไปแล้ว” ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง ในดวงตาฉายแววมุ่งสังหารยกมือขึ้นเงื้อกระบี่ฟันเข้าที่แขนของอวี๋หลินอย่างแรงเมื่อสัมผัสได้ถึงคมกระบี่อันแหลมคม อวี๋หลินก็กรีดร้องออกมาแต่ทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็ร่วงลงมาจากฟ้ากระบี่บินพุ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนรีบยกกระบี่ขึ้นปัดป้องร่างนั้นฉวยโอกาสกระโจนเข้ามาช่วยอวี๋หลินหนีไปได้ระยะห่างถูกขยายกว้างออกไปลั่วชิงยวนมองคนที่ช่วยอวี๋หลินไป เห็นอวี๋หลินกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณ จูลั่ว”เมื่อกล่าวจบ อวี๋หลินก็เช็ดเหงื่อ มือยังคงสั่นเทาเขาเกือบจะเสียแขนไปแล้วลั่วชิงยวนได้ยินชื่อนี้แล้วก็ประหลาดใจเล็กน้อยจูลั่ว หนึ่งในสิบปรมาจารย์กระบี่ผู้เก่งกาจ เขาอยู่อันดับที่สองถึงแม้จะรองจากฝูเหมิ่ง แต่ชื่อเสียงกลับมิได้โด่งดังเท่าฝูเหมิ่ง เพราะฝูเหมิ่งสามารถบรรลุถึงขั้นที่คนกับกระบี่หลอมรวมเป็นหนึ่งได้แต่จูลั่วทำมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1509

    เงินทองมากมายถึงเพียงนั้น ต่อให้พวกเขาต้องรวบรวมจากทั่วทั้งตลาดมืดก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วยามคราวนี้ลั่วชิงยวนจะแก้สถานการณ์อย่างไร!หนนี้หากนางก่อเรื่องใหญ่ ท่านอาของเขาต้องมิปล่อยนางไว้แน่ขอเพียงนางจากไป ว่าที่เจ้าเมืองแห่งเมืองป้านกุ่ยก็จะต้องเป็นเขา!บรรยากาศในลานประมูลเริ่มควบคุมมิได้มากขึ้นทันใดนั้นเอง เงาร่างที่สะท้อนอยู่บนม่านหน้าต่างก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วเดินมายังริมหน้าต่างมือเรียวยกม่านขึ้นจากนั้นเสียงใสก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเช่นนั้นเราเปลี่ยนสถานที่กันเถิด เพื่อให้เจ้าได้เห็นว่าข้าประมูลกระบี่หมื่นทิศมาได้ด้วยเงินหนึ่งล้านตำลึงได้อย่างไร”อวี๋หลินตกใจ พลางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกัดฟันกล่าว “ย่อมได้! ข้าจะดูว่าเจ้าจะใช้กลอุบายอันใดอีก!”ดังนั้นพวกเขาจึงมายังลานประลองด้านหลังลานประมูลค่ำคืนนี้ไม่มีใครใช้ลานประลอง ที่นี่กว้างขวาง เหมาะสำหรับวางเงินผู้คนในลานประมูลต่างพากันตามมาดูข่าวแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว ดึงดูดผู้คนให้มาชมมากขึ้นเรื่อย ๆอวี๋หลินรีบให้คนยกเงินสดมา แล้วหัวเราะเยาะเสียงเย็น “ข้ามิเชื่อว่าเจ้าจะนำเงินมากมายถึงเพียงนั้นมาได้”จากนั้นก็ให้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status