Share

บทที่ 167

Author: หว่านชิงอิ๋น
”หากหม่อมฉันต้องการฆ่าเขา หม่อมฉันมีวิธีการมากมายที่จะทำโดยไม่ให้ท่านรู้และให้เขาตายไปเงียบ ๆ”

“เหตุใดหม่อมฉันต้องส่วนนางรับใช้ข้างกายไปฆ่าคนปิดปากด้วย และยังทิ้งร่องรอยไว้มากขนาดนี้?”

ตอนนี้แววตาฟู่เฉินหวนเองก็ดำคล้ำ

เขาจ้องนางเขม็ง ดวงตาสั่นไหวด้วยความคลางแคลงใจ

ลั่วชิงยวนรู้ดีว่าเขาเองก็คิดเรื่องนี้ และอาจจะมีเวลาที่คิดว่านางนั้นโดนใส่ร้าย

แต่แววตาฟู่เฉินหวนก็กลับมาเย็นเยียบ เขาสั่งเสียงเย็นชาว่า “เอานางไปขังไว้”

หลังจากนั้นเขาก็เดินจากไป

ลั่วชิงยวนตกตะลึง

เขานั้นยอมสังหารคนบริสุทธิ์นับพันดีกว่าปล่อยคนผิดลอยนวล

เมื่อมีความแคลงใจบ่มเพาะในใจ ก็ยากที่จะมองคนผู้นั้นโดยไร้อคติอีกต่อไป

ลั่วชิงยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี

“ท่านอ๋องเพคะ พระชายาบริสุทธิ์ พระชายาไม่เคยส่งหม่อมฉันไปที่คุก และหม่อมฉันเองก็ไม่เคยเข้าไปที่นั่นด้วยซ้ำ ทรงพิจารณาด้วยเถิดเพคะ”

จือเฉาคุกเข่าขอร้อง นางถึงกับลุกเพื่อวิ่งตามฟู่เฉินหวนไป

แต่ว่าเขาไม่ได้หยุดเท้า

แม่นมเติ้งพยุงลั่วชิงยวนให้ลุกขึ้นอย่างไม่สบายใจ “พระชายา บ่าวควรทำเช่นไรดี?”

ตอนนั้นเององครักษ์เงาสองคนก็เข้ามา และพาตัวลั่วชิงยวนและจือเฉาไปขังไว้ในคุก

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 168

    ในห้องขังจือเฉาขยับร่างของนักทำนายชะตาไปด้านข้าง แล้วจัดเตียงง่าย ๆ “พระชายา มานั่งพักสักนิดเถิดเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนตรวจดูอาหารและเห็นว่าสิ่งที่สังหารนักทำนายชะตาเป็นเพียงพิษดาษดื่นธรรมดาเท่านั้นทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังจากนอกห้องพลันประตูห้องขังก็โดนเปิดออก แม่นมเติ้งเดินเข้ามาพร้อมอาหาร “พระชายา”เมื่อวางอาหารลงแล้วแม่นมเติ้งก็รีบมากระซิบที่ข้างหูนางว่า “พระชายา ข้าแอบไปตรวจดูแล้ว นางรับใช้หลายคนที่รูปร่างคล้ายจือเฉาต่างพิสูจน์ได้ว่าเมื่อคืนพวกนางไม่ได้ออกจากเรือนเจ้าค่ะ”“แต่มีนางรับใช้คนหนึ่งที่ท่าทางคล้ายกัน นางออกไปซื้อของตอนเย็นแล้วยังมิได้กลับเข้ามา”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็นิ่วหน้า “หาตัวนางรับใช้นั้นให้เจอ”แม่นมเติ้งพยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าจะหาทางหาตัวนาง ท่านอ๋องเองก็คงกำลังคิดว่าจะทำเช่นไรต่อไป หากว่านางรับใช้คนนั้น…”ลั่วชิงยวนนิ่วหน้าตอบว่า “หาคนให้ได้ก่อนเถอะ”“เจ้าค่ะ” แม่นมเติ้งรับคำและรีบจากไปห้องขังถูกใส่กุญแจจากด้านนอกอีกครั้งดูเหมือนว่าตอนนี้ด้านนอกจะไม่มีใครอยู่ แต่ลั่วชิงยวนรู้ดีว่ามีองครักษ์เงาสองคนคอยเฝ้าอยู่ไม่ห่างหลังจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 169

    จือเฉาร้อนใจจนนางก้าวออกมาอย่างฉุนเฉียวและผลักเฉียงเวยออกไป “เจ้าพูดไร้สาระอันใดกัน? อย่ามาแตะต้องพระชายานะ”“เราต่างก็เห็นกันอยู่กับตา องค์ชายห้าเอาสัมภาระมาด้วย หากว่านี้ไม่ใช่หนีตามกันแล้วคืออันใดเล่า?” เฉียงเวยพูดเสียงแหลมอย่างประชดประชัน“ข้าไม่คิดเลยว่า หน้าตาและเรือนร่างอย่างพระชายาจะสามารถล่อลวงบุรุษได้ ขนาดองค์ชายห้ายังยอมเสี่ยงทุ่มเทเพื่อหนีตามไปกับท่าน”การหนีตามกันนั้นเป็นเรื่องใหญ่ในราชวงศ์ และจะเป็นเรื่องน่าอับอายให้โดนติฉินนินทามากสำหรับองค์ชายหากว่าเรื่องนี้แพร่ออกไปส่วนพระชายานั้นต้องโดนฝังทั้งเป็น หรือไม่ก็โดนจับถ่วงแม่น้ำเมื่อเป็นเช่นนั้นแน่นอนว่าเฉียงเวยจึงไม่มีอะไรต้องกลัวลั่วเยวี่ยอิงยิ่งยินดีเมื่อได้ยินเช่นนั้น แบบนี้ลั่วชิงยวนยังจะเอาชีวิตรอดไปได้อีกหรือ?“อย่าพูดจาไร้สาระ…” ฟู่อวิ๋นโจวเริ่มร้อนใจและไอออกมาอีกครั้งก่อนที่จะทันพูดได้จบ“ไร้สาระหรือเพคะ? เรื่องที่หม่อมฉันพูดไร้สาระตรงไหน? นี่เป็นเพราะพระชายากระทำตัวไม่เหมาะสม ก่อนหน้านี้นางก็พยายามดิ้นรนจนได้สมรสกับท่านอ๋องจนสำเร็จ วิธีการของนางนั้นช่างชั่วร้ายนัก”“ตอนนี้หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่านางล่อลวงอง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 170

    ลั่วชิงยวนไม่ได้หลบดาบเย็นเยียบนั้นชี้มาที่นาง ข่มขู่ถึงแก่ชีวิตน้ำเสียงของเขาเย็นชาเหมือนดั่งวันที่ลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมาและพบว่าตนเป็นภรรยาของเขา น้ำเสียงที่ไร้ซึ่งอารมณ์และความอบอุ่นใด…“นั่นก็เพราะว่าโดนจับได้ก่อนหนีตามสำเร็จ”ริมฝีปากลั่วชิงยวนยกโค้งเป็นรอยยิ้มหยันตนเอง “เพราะว่าลั่วเยวี่ยอิงบังเอิญมาเห็นเข้าสินะ ดังนั้นหากว่าไม่โดนจับได้ก็คงจะหนีตามกันไปแล้วใช่หรือไม่เล่า? ช่างเถอะ ข้าไม่คิดว่าท่านอ๋องจะเชื่อข้าอยู่แล้ว”นางไม่คิดจะตามองค์ชายห้าไปจริง ๆ แต่ดูเหมือนว่าคำอธิบายนั้นจะยิ่งเหมือนคำแก้ตัวดังนั้นนางจึงหลับตาลงแล้วรอให้ดาบของฟู่เฉินหวนแทงเข้ามามือของนางกำแน่นอยู่ใต้แขนเสื้อเข็มทิศนั้นสั่นไหว เริ่มจากสั่นช้า ๆ ก่อนที่จะเร่งความเร็วขึ้นมีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามาเมื่อเห็นว่าลั่วชิงยวนเจตนาจะหลับตาลง แววตานิ่งไร้อารมณ์ของฟู่เฉินหวนก็มีประกายบางอย่างพาดผ่านชั่วแวบ ดาบนั้นก็ยังคงไม่ขยับ“ท่านอ๋อง…” เมื่อได้เห็นว่าฟู่เฉินหวนชักช้าไม่ลงมือ ลั่วเยวี่ยอิงก็อดไม่ได้ที่จะเตือนเขาแต่นางไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก เพราะห่วงว่าตนจะทิ้งภาพที่ไม่ดีในสายตาของท่านอ๋องจือเฉาคุ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 171

    แต่ในวันที่สองของการแต่งงานเข้ามาแทน นางก็แสร้งทำจะเป็นจะตายให้เขาดูตอนนี้ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ตื่นตระหนกไม่ใช่เพราะว่าลั่วชิงยวนนั้นหาที่ตาย แต่ว่านางได้ยินความร้อนรนในน้ำเสียงของท่านอ๋องเห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้ลั่วชิงยวนตายนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่าทีของท่านอ๋องที่มีต่อลั่วชิงยวนเห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไป เพียงแต่ท่านอ๋องนั้นไม่รู้ตัว หรือไม่ก็ไม่ยอมรับ“ท่านอ๋อง…” ลั่วเยวี่ยอิงพูดอย่างระแวดระวัง อยากจะเตือนท่านอ๋องว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระชายารนหาที่ตายแต่ตอนนั้นเปลือกตาของลั่วชิงยวนก็ปิดลง นางหมดสติไปแล้วฟู่เฉินหวนดูร้อนใจมากและอุ้มลั่วชิงยวนเดินออกไป “ไปตามท่านหมอกู้มา”จือเฉารีบวิ่งตามไปลั่วเยวี่ยอิงยืนค้างอยู่ตรงนั้น นางและเฉียงเวยมองพวกเขาเดินจากไป นางกัดฟันแน่นอย่างเกลียดชัง“เหตุใดกัน? ท่านอ๋องถึงไม่อยากให้นางตาย? เพราะเหตุใดกัน?”ลั่วเยวี่ยอิงคิดไม่ออกว่า เหตุใดทั้งท่านอ๋องและองค์ชายห้าถึงได้ปฏิบัติกับลั่วชิงยวนต่างออกไปทั้งที่นางน่าเกลียดราวกับสุกรเฉียงเวยอยากจะพูดบางอย่าง แต่เพราะขากรรไกรที่หลุดนั้นเจ็บปวดมากจนนางได้แต่ร้องไห้ นางจึงไม่ได้สนใจอะไรลั่วเยว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 172

    ”เจ้าตอบแทนผู้ช่วยชีวิตเช่นนี้หรือ?”สายตาลึกล้ำสงบนิ่งนั้นเหมือนจะมองทะลุทุกสิ่ง ทำให้เงาที่ลอยอยู่ในอากาศนั้นตัวแข็งทื่อ และมือที่เกาะกุมลำคอลั่วชิงยวนแน่นก็คลายลง“ท่านเห็นข้าหรือ?” น้ำเสียงแหบพร่าของนางเต็มไปด้วยความสับสนมุมปากลั่วชิงยวนยกขึ้นเล็กน้อย “ข้าช่วยเจ้าออกมาจากภาพวาด แน่นอนว่าข้ามองเห็นเจ้า”เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาสตรีชุดแดงก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง นางถามด้วยเสียงแหบพร่า “แล้วเหตุใดท่านต้องช่วยมันด้วย คนชั่วผู้นั้นทำร้ายข้าและลูก”ตอนนี้เองที่ลั่วชิงยวนเข้าใจว่า เหตุใดสตรีชุดแดงจึงอย่างฆ่านางและฟู่เฉินหวนเพราะว่าพวกเขาช่วยนักทำนายชะตามาไม่แปลกใจที่นักทำนายชะตามั่นใจมากว่าตนต้องตาย แม้ว่าจะไม่โดนผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังฆ่า เขาก็ต้องตายด้วยน้ำมือแม่ลูกคู่นี้นี่เป็นสิ่งที่กรรมชั่วสนองเขา ตอนนี้วิญญาณแม่ลูกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังและเจตนาสังหาร ดังนั้นจึงรับมือได้ไม่ง่าย“แต่เขาก็ตายอยู่ดี” ลั่วชิงยวนตอบหลังจากได้ยินเช่นนี้ สตรีชุดแดงยิ่งคลุ้มคลั่ง แววตาของนางแดงฉานและกรีดร้องว่า “มันตายแล้ว ข้าจะไปแก้แค้นกับผู้ใดกัน มันทรมานข้ามาห้าปี แล้วข้าจะไปทวงความแค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 173

    ยามนั้นสตรีชุดแดงรู้สึกได้ถึงพลังที่กดข่ม นางมิอาจสู้สตรีตรงหน้าได้ นางไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากร้องขอความเมตตาลั่วชิงยวนพูดเสียงเย็น “เจ้ามีความอาฆาตแค้นมากเกินไป ข้าจะช่วยสลายและช่วยให้เจ้าได้ไปเกิดใหม่”เมื่อได้ยินเช่นนั้นสตรีชุดแดงก็ตะลึง จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง “ข้าไม่ต้องการจะไปเกิดใหม่ ข้าไม่ต้องการ… ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”สตรีชุดแดงอ้อนวอน นางคุกเข่าขอร้องอย่างสิ้นหวัง“เพราะเหตุใดเล่า?” ลั่วชิงยวนแปลกใจสตรีชุดแดงคุกเข่าอยู่กับพื้น นางร้องไห้สะอึกสะอื้น “ข้าไม่เต็มใจรับ ข้าโดนหลอกให้จากบ้านมาแล้วลูกชายของข้าก็โดนคนชั่วสังหารพร้อมข้า”“แต่สามีของข้าโดนเจ้าคนชั่วนั่นหลอก เขาคิดมาตลอดว่า ข้านั้นเป็นคนหนีจากบ้านมาเองด้วยโทสะ เขานั้นทั้งรู้สึกผิด ทั้งเสียใจจนดื่มสุราเมามายทั้งวัน”“และนางหญิงผู้นั้นที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับข้า ก็หาทางเข้าสู่อ้อมกอดเขาแล้วหลอกลวงเขา เขารักใคร่นางนัก…”“ข้าไม่… ข้าไม่เต็มใจ”สตรีชุดแดงร้องไห้อย่างขมขื่นและเด็กที่อยู่ข้างกายนางก็เริ่มร้องไห้ พยายามที่จะกอดแม่ของเขาไว้ “ท่านแม่…”เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็รู้สึกสงสารและไม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 174

    ดึกสงัดในราตรีนั้น สายลมก็พัดเย็นเยียบ ลั่วชิงยวนมีแม่นมเติ้งประคองเดินออกมาสูดอากาศด้านนอกแต่ตอนนั้นที่เรือนหัวถิงมีลมกระโชกแรงลั่วเยวี่ยอิงที่นั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลืองกำลังทายาอย่างระมัดระวัง นางมองใบหน้าของตนในกระจกอย่างกังวลเมื่อไรที่แผลบนหน้าจะดีขึ้น?ทันใดนั้นลมก็โหมพัดหน้าต่างเปิดออก พาเอาฝุ่นและใบไม้มากมายเข้ามาในห้องลั่วเยวี่ยอิงตกใจและรีบยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยแขนเสื้อ แต่นางก็โดนละอองฝุ่นพัดใส่จนลืมตาไม่ขึ้น“เฉียงเวย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”เฉียงเวยรีบวิ่งเข้ามาปิดหน้าต่าง แต่มันก็โดนลมกระโชกพัดจนเปิดอีกรอบหลังจากที่ปิดไปแล้วครั้งแล้วครั้งเล่าลมแรงนั้นพัดใบไม้สั่นไหวเสียงดัง และกลิ่นก็แปลกพิกลครั้งสุดท้ายที่เฉียงเวยปิดประตู มันก็โดนลมแรงพัดจนเปิดออก เฉียงเวยโดนประตูกระแทกจนล้มใส่โต๊ะอย่างแรงและหมดสติไปตึง ตึง ตึงประตูหน้าต่างเปิดปิดไม่หยุด และเสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ลั่วเยวี่ยอิงนั้นหวาดกลัวมากจนนางทรุดตัวลงหลบกับพื้น ขนลุกชันทั่วร่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเจอเรื่องแบบนี้นางนั้นหวาดกลัวมาก คิดว่าหากนางหลบซ่อนตัวก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นเองนางก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 175

    แม่นมเติ้งตกใจมาก “พระชายาน่าทึ่งมาก นางทำให้คุณหนูรองลั่วพูดความจริงออกมาได้ ท่านอ๋องต้องทรงได้ยินแน่เจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนหรี่ตาเล็กน้อย นางยกยิ้มมุมปากมองไปทางตำหนักที่ยังมีแสงไฟอยู่ ก่อนพูดเบา ๆ “แน่นอนว่าต้องได้ยิน”“แต่คงบอกยากว่า เมื่อได้ยินแล้วทีท่าจะเป็นเช่นไร”แม่นมเติ้งพูดอย่างยินดี “หากท่านอ๋องทรงทราบว่า คุณหนูรองลั่วมิได้อ่อนหวานเหมือนฉากหน้า แต่ที่จริงนางโหดเหี้ยมชั่วร้ายนัก เขาต้องไม่ปฏิบัติกับนางเหมือนเดิมแน่เจ้าค่ะ”ที่จริงช่วงหลังมานี้ท่านอ๋องหลบหน้าคุณหนูรองลั่ว และท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป พอตอนนี้เมื่อความจริงเปิดเผยแล้ว ท่านอ๋องจะต้องไม่ยอมรับคุณหนูรองลั่วแน่จู่ ๆ ประตูตำหนักก็เปิดออก และฟู่เฉินหวนก็เดินหน้าโกรธขึ้งออกมาเมื่อเขาเห็นลั่วเยวี่ยอิงอยู่ไม่ไกลดูตื่นตระหนก นางไม่รู้ถึงการมาของเขาเลยแม้แต่น้อยเมื่อลั่วชิงยวนเห็นเช่นนั้น นางก็ยกมือปิดปากและบอกว่า “เจ้าคิดวิธีนี้เพื่อจัดการกับลั่วชิงยวนเช่นนั้นรึ? เจ้าร่วมมือกับลั่วชิงยวนทำร้ายข้างั้นรึ?”ตอนนั้นในสายตาของลั่วเยวี่ยอิง คำพูดเหล่านี้ล้วนออกมาจากปากของเมิ่งจินอวี่ลั่วเยวี่ยอิงรีบอธิบาย “ข้าเปล่านะ ข้า

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1424

    “ท่านอยู่ต่อ ส่วนคนอื่น ๆ ออกไปก่อนเถิด” ลั่วชิงยวนกล่าวกับชายชราจากนั้นคนอื่น ๆ ก็ทยอยออกไปชายชราลุกขึ้นเดินมายืนตรงหน้าลั่วชิงยวน “ท่านเจ้าเมืองมีสิ่งใดจะสั่งหรือขอรับ?”ลั่วชิงยวนถามว่า “บนเขาแห่งนี้มีคนมาแย่งชิงยาสมุนไพรไปจริงหรือ? ที่ส่งคนไปตามหา มีเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่?”“มีคนมาจริง ๆ ขอรับ พรรคพวกของพวกมันมีประมาณสิบคนได้ แต่พวกมันหนีไปเร็วมาก ตอนนั้นทุกคนมัวแต่สนใจด้านหน้า ไม่มีใครสังเกตว่ามีคนบุกเข้าไปในคลังโอสถ”“พวกเขาถึงได้หนีรอดไปได้ขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ยิ่งสงสัยว่าเป็นคนของสำนักเทียนฉยง และจงใจมาเป็นปฏิปักษ์กับนาง จึงได้ชิงบัวถวายไปก่อนมองดูชายชราตรงหน้าแล้ว ลั่วชิงยวนก็ยังมิเข้าใจเขาดีนักนางจึงถามว่า “บนหลังของท่านมีรอยประทับทาสหรือไม่?”เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า “มีขอรับ”ลั่วชิงยวนรู้ว่าคำพูดของนางย่อมทำให้เขาเคลือบแคลงใจว่านางมิใช่อวี๋ตันเฟิ่งแต่นางก็มิได้คิดจะแสร้งเป็นอวี๋ตันเฟิ่งเพื่อเข้าควบคุมเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้“ท่านควรรู้ว่าข้ามิใช่อวี๋ตันเฟิ่ง”ชายชราผู้นั้นอึ้งไป มิรู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ในเมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1423

    หวังเพียงว่าจะกักขังโหยวจิ้งเฉิงไว้บนเขาได้ เพราะหากเขาไปสิงอยู่ในร่างผู้อื่นแล้วหนีลงเขาไปได้ก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากเพียงแต่ในตอนนี้ นางไม่มีแรงพอที่จะไล่ตามแล้ว จึงไปหายาในคลังกับคนใบ้เมื่อไปถึง โฉวสือชีและอวี๋โหรวก็อยู่ที่นั่นอวี๋โหรวปรุงโอสถเสร็จแล้วโฉวสือชีกำลังค้นหาสมุนไพรอยู่ข้าง ๆ“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” โฉวสือชีถามด้วยความเป็นห่วงลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ข้ามิเป็นอะไร”โฉวสือชียื่นกล่องในมือออกมา แล้วพูดว่า “เจอโสมมังกรเพียงกิ่งเดียวเอง”ลั่วชิงยวนรับกล่องมา แล้วส่งให้คนใบ้ “รอจัดการเรื่องนี้เสร็จก่อน ข้าจะจัดยาให้เจ้าชุดหนึ่ง แม้จะมิสามารถรักษาอาการของเจ้าให้หายขาดได้ แต่ก็พอจะยืดชีวิตได้”คนใบ้พยักหน้า รับโสมมังกรมาด้วยสีหน้าซับซ้อนภายใต้หน้ากากโฉวสือชีกล่าวเสียงหนักแน่น “คลังโอสถนี่ใหญ่โตเกินไป ข้าหาบัวถวายมิเจอจริง ๆ”“และเมื่อดูแล้วในนี้ก็มีร่องรอยการถูกรื้อค้น ต่งอวิ๋นซิ่วคงมิได้หลอกพวกเรา บัวถวายคงถูกใครบางคนชิงไปแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้วแน่น “บังเอิญเกินไปแล้ว บัวถวายถูกชิงไปตอนที่เรามาถึงพอดี”“แถมยังถูกกวาดไปจนเกลี้ยง”“สมุนไพรอื่นก็มิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status