Share

บทที่ 442

Author: หว่านชิงอิ๋น
เล็บของหลีเถาจิกจนไม้ขาด ในใจนางตะลึงยิ่ง

รำเทพเหมันต์หรือ?

นางได้ยินว่า เหมือนจะเป็นการร่ายรำที่ลิ่นฝูเสวี่ยออกแบบเอง…

ผู้ที่เติบโตในหอนางโลมต้องใช้ความสามารถในการหากิน พวกนางน่าจะต่างรู้จักรำเทพเหมันต์ของลิ่นฝูเสวี่ย

แต่ลิ่นฝูเสวี่ยตายไวเกินไป รำเทพเหมันต์ยังมิทันสืบทอดให้ผู้ใดก็หายไปจากใต้หล้านี้เสียก่อนแล้ว

กระทั่งอาจารย์ของนาง ยังเรียนรู้ไปเพียงครึ่งหนึ่ง และถูกอาจารย์ของนางมองเป็นสิ่งล้ำค่า จนมิเคยนำมาแสดงต่อหน้าผู้อื่นมาก่อน

แต่แม่นางที่ชื่อฝูเสวี่ย กลับบอกว่าที่นางร่ายรำคือรำเทพเหมันต์!

เป็นไปได้อย่างไร!

ผู้คนด้านล่างซุบซิบกันขึ้นมา

“ข้าเคยได้ยินรำเทพเหมันต์มาก่อน รำเอกลักษณ์ของหอสมุทรมรกตในอดีต!”

“ได้ยินว่าลิ่นฝูเสวี่ยเป็นผู้ออกแบบท่ารำเอง! นามของแม่นางฝูเสวี่ยเหมือนลิ่นฝูเสวี่ยพอดี หรือว่านางเป็นศิษย์ลิ่นฝูเสวี่ย?”

พวกเขาพูดถึงคำว่าลิ่นฝูเสวี่ยอีกครั้ง

บัดนี้ลิ่นฝูเสวี่ยยิ้มออกมาอย่างพออกพอใจ

ใต้หล้านี้ยังมีคนจดจำนางได้

ลั่วชิงยวนเห็นสถานการณ์เช่นนี้จึงรีบจากไป เพราะนางกลัวจะถูกล้อม

แต่ทันทีที่นางไป คนด้านล่างก็ต่างตะโกนกันขึ้นมา “อีกเพลงหนึ่ง! อีกเพลงหนึ่ง!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 443

    แต่เมื่อตกเย็น แขกในหอกลับหายไปเกินครึ่งผู้ที่จะมาดูการร่ายรำในหอนางโลม ต่างมาเพราะความอยากรู้หากไร้สิ่งใหม่ให้พวกเขาดู ให้พวกเขาตะลึง เมื่อความอยากรู้นี้ผ่านไป พวกเขาก็มิอยู่ต่อแล้ว……ยามเช้าตรู่ ลั่วเยวี่ยอิงตื่นมาพบว่าตนอยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดี นางตกตะลึงยิ่ง จึงรีบเก็บของจะกลับตำหนักแต่วันนี้เมื่อมาถึงถนนหน้าตำหนัก ชาวบ้านกลับซุบซิบนินทานาง“ดูสิ นี่มันท่านนั้นในตำหนักอ๋องมิใช่หรือ ยังจะมาอย่างหน้าไม่อายอีก”“ใช่ ๆ เป็นสาวเป็นนาง กลับวิ่งไปบ้านผู้ชายทุกวัน มิรู้จักอับอาย”ป้าสองคนที่เดินผ่านนินทานางคำพูดพวกนางตกสู่หูของลั่วเยวี่ยอิงอย่างชัดเจน หน้าของนางแดงก่ำขึ้นมาทันทีนางรู้สึกอับอายยากจะทน“นางมีหน้ามาได้อย่างไรอีก?”“บุตรีอนุกลับรังแกถึงหัวบุตรีเอก น่าเกลียดเสียจริง”“อุตส่าห์มีรูปโฉมงดงาม แต่กลับไร้ยางอายเสียได้”คำพูดเหล่านี้ที่ตกถึงหูลั่วชิงยวน ราวกับมีดแหลมคมที่ทิ่มแทงลงในร่างของนางทีละเล่ม จนนางเลือดไหลท่วมร่างหน้าไม่อายมิรู้จักอับอายไร้ยางอายศัพท์เหล่านี้ เคยเอาไว้ด่าลั่วชิงยวนมิใช่หรือ?นางฟังมาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เป็นครั้งแรกที่ศัพท์เหล่าน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 444

    วันที่ออกจากหอเจาเซียง ลั่วชิงยวนไปที่คฤหาสน์หลังใหม่ ช่วยลิ่นฝูเสวี่ยจัดห้อง จัดวางของตามความชอบของนางลิ่นฝูเสวี่ยเองก็พูดเรื่องเกี่ยวกับแม่ของนางมากมาย“มารดาของท่าน มิเหมือนคุณหนูทั่วไป นางมิชอบอ่านตำรา มิชอบเขียนตำรา มิชอบศิลปะสี่แขนง ที่นางชอบที่สุดคือการดูข้าร่ายรำ”“ใต้หล้านี้มีผู้คนที่ชอบดูข้าร่ายรำมากมาย ในสถานที่อย่างหอนางโลม มีชายหนุ่มนับไม่ถ้วนอยากไถ่ตัวให้ข้า เพราะรู้สึกว่าข้าต้องร่ายรำในนั้นอย่างไร้ทางเลือก”“มีเพียงมารดาของท่าน นางดูออกว่าข้ารักการร่ายรำ ข้ามิสนว่าที่นั้นคือหอนางโลมหรือไม่ เพียงแค่ให้ข้าได้ร่ายรำอย่างผ่าเผย ข้าก็ยอมอยู่ที่นั่น และมิไปที่ใดทั้งนั้น”“ข้ามองนางเป็นมิตรรู้ใจ”“เพียงแต่ นางเป็นฮูหยินจวนอัครมหาเสนาบดี มิสะดวกที่จะมาเยี่ยมข้าในสถานที่อย่างหอนางโลม ดังนั้นพวกเราจึงได้แต่เจอกันนาน ๆ ครั้งโดยส่วนตัว หรือบางครั้งก็อาจเจอกันในงานเลี้ยง”“นางยอมเข้าร่วมงานเลี้ยงที่นางมิชอบ เพียงเพราะอยากเห็นข้าร่ายรำ”“ข้าเองก็ยอมไปร่ายรำในจวนคนที่ข้าเกลียดเพื่อนาง”เนื้อหาที่ลิ่นฝูเสวี่ยพูดกับนางนั้น มิเป็นประโยชน์ต่อลั่วชิงยวนนักแต่กลับทำนางซาบซึ้งเป็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 445

    นี่เป็นห้องสุดท้ายบนทางระเบียง! ผู้ใดจะมาที่นี่กัน!นางสวมชุดอย่างไว ใส่หน้ากากทันใดนั้น ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแรงบุรุษพุงย้วยผู้หนึ่งเดินเข้ามา เมื่อเห็นลั่วชิงยวน ตาของเขาลุกวาวเขาถูมือด้วยท่าทีหิวโซ “แม่นางฝูเสวี่ย รอนานเลยใช่หรือไม่”ลั่วชิงยวนถอยหลังก้าวหนึ่ง “เจ้าคือใครกัน?”“ข้าแซ่หลี่ เป็นบุรุษคนแรกของแม่นางฝูเสวี่ย ข้าจักทำเบา ๆ มิทำแม่นางฝูเสวี่ยต้องเจ็บแน่”บุรุษก้าวเดินเข้ามา และตะครุบใส่ลั่วชิงยวนอย่างแรงสายตาของลั่วชิงยวนเยือกเย็นลง นางเตะขาอย่างแรงจนเขากระเด็นลงกับพื้นบุรุษอุทานจากเจ็บปวดทีหนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้น ชี้หน้านางพร้อมกราดด่า “ข้าเสียเงินถึงหมื่นตำลึงเพื่อซื้อเจ้า! คืนนี้เจ้าจักต้องเป็นคนของข้า!”คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่นหลีเถาเป็นคนทำแน่ ๆ!“ไสหัวออกไป” ลั่วชิงยวนด่าอย่างเกรี้ยวกราด และผลักประตูออกแต่เมื่อเปิดประตูกลับมีบุรุษกลุ่มใหญ่ดักอยู่ และบังทางเดินไว้อย่างมิดชิดลั่วชิงยวนเห็นหลีเถา นางกำลังยิ้มอย่างได้ใจ“ข้าและหอเจาเซียงมิได้เขียนสัญญาใดไว้ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ควบคุมอิสระของข้า!” ลั่วชิงยวนเอ่ยพูดเสียงเย็น“ดูท่าแม่นางฝูเสวี่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 446

    ชั้นสองคนพาลกลุ่มหนึ่งล้อมขึ้นมา อยากจะกดลั่วชิงยวนไว้ลั่วชิงยวนมือไวตาไว ฝีมือปราดเปรียว นางหลบการโจมตีของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งโจมตีไปที่จุดอ่อนของอีกฝ่ายอย่างแรงนางสู้จนออกจากประตูไปได้แต่เบื้องหลัง กลับยังมีชายฉกรรย์โผล่ออกมาไม่หยุด คนพาลในหอเจาเซียงต่างเป็นผู้ฝึกฝนวรยุทธ ซึ่งแรงเยอะโขลั่วชิวยวนจึงทำได้เพียงใช้ความปราดเปรียวของตนหลบการโจมตีของอีกฝ่าย มิกล้ารับมือตรง ๆ นางบุกจนถึงด้านนอกลิ่นฝูเสวี่ยส่งกำลังใจให้นางอย่างลุ้นระทึก “เกือบไปแล้วท่านเซียนน้อย!”“ระวังด้านหลัง!”“เร็วเข้า ๆ ใกล้ออกไปได้แล้ว!”สีหน้าของลั่วชิงยวนมืดครึ้ม นางรับมืออย่างระมัดระวัง มุ่งสู้ไปทางด้านนอกคนมากเกินไป นางถูกล้อมไว้สองด้าน ลั่วชิงยวนจึงได้แต่เปลี่ยนเส้นทาง นางบุกเข้ามาในห้องหนึ่ง“กรี๊ด!” ในห้องคือซิ่งอวี่ นางตกใจจนโฉมงามถอดสีลั่วชิงยวนจึงจับข้อมือนางไว้ “แม่นางซิ่งอวี่ หนีไปพร้อมกับข้าเถิด!”ซิ่งอวี่ตะลึง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่นางยังมิทันเอ่ยตอบ คนพาลจากด้านนอกก็บุกเข้ามา ลั่วชิงยวนจึงได้แต่ลากนางหนีไปพร้อมกันนางดันหน้าต่างออก จับไหล่ซิ่งอวี่ไว้พร้อมยันขา ลอยตัวออ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 447

    ฟู่จิ่งหานได้ยินก็ตะลึงเป็นอย่างมาก “เจ้าไปทำอะไรกันเสด็จพี่สาม!”ลั่วชิงยวนพาซิ่งอวี่หนีออกจากหอเจาเซียง เบื้องหลังมีเสียงฝีเท้าส่งมา นางหันไปมองแวบหนึ่งอย่างลนลาน และแวบหนึ่งนี้กลับทำหัวใจของนางกระตุกฟู่เฉินหวนตามมาได้อย่างไรกัน!แย่แล้ว!หากนางถูกฟู่เฉินหวนดูออกคงจบเห่แน่!นางลากซิ่งอวี่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว เห็นว่าเบื้องหน้ามีรถม้านางจึงขึ้นรถม้าอย่างไว นางควบม้าอยู่ด้านหน้าและหนีไปผู้ใดจะรู้ฟู่เฉินหวนกลับลอยตัวขึ้นมาวิชาตัวเบา และนั่งอยู่ข้าง ๆ นางพร้อมเอ่ยพูดกับนาง “เข้าไปด้านใน”ในใจของลั่วชิงยวนกังวล ฟู่เฉินหวนคิดจะทำอะไรกันแน่ฟังเสียงฝีเท้าคนพาลที่วิ่งตามมาทางด้านหลัง ลั่วชิงยวนเลือกที่จะหลบเข้าไปในรถม้าภายในรถม้า ซิ่งอวี่ผวาเสียจนแทบจะร้องไห้ออกมา นางจับมือลั่วชิงยวนไว้แน่น “ท่านมิควรพาข้าหนี ข้าหนีออกมาแล้ว ข้าจักไปที่ใดได้อีก”“มิต้องห่วง ข้าจักจัดการให้เจ้าเอง”หน้าประตูใหญ่หอเจาเซียง ฟู่จิ่งหานมองฟู่เฉินหวนที่ควบม้าพาแม่นางฝูเสวี่ยหนี สีหน้าของเขาย่ำแย่ขึ้นมาทันที“เจ้านี่ จักช่วยสาวงามก็มิชวนข้า ยังบอกว่ามิสนใจอีก ข้าว่าสนใจจะตายชัก!”“เหอะ บุรุษนี้หนา!”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 448

    ลิ่นฝูเสวี่ยยังคงตกอยู่ในความตะลึง นางเอ่ยตอบ “นางรับใช้ข้าในอดีต ลี่เซียง”“นางยังมีชีวิตอยู่หรือ นางยังมิตายหรือ!”“วันนั้นนางอยู่ในขบวนรถม้าเดียวกับข้า เป็นไปได้อย่างไรที่นางจักมิตาย”ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนตะลึง “เจ้าหมายถึง นางไปกับเจ้าเมื่อวันที่เกิดเรื่องหรือ!”“ใช่“ลั่วชิงยวนเอ่ยขมวดคิ้ว “หรือว่าในขบวนมีผู้โชคดีรอดชีวิตมาได้?”“ข้ามิรู้ แต่ข้าคิดว่ามิง่ายเสียขนาดนั้น หลังเกิดเรื่องข้าติดอยู่ใต้หุบเขามาโดยตลอด ข้าหาอยู่นานกว่าจะกลับมาได้ แต่หอสมุทรมรกตในตอนนั้น กลับกลายเป็นคฤหาสน์เช่นนี้แล้ว”“ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ คือคหบดีหลี่”“พวกเขาต่างบอก คนในหอสมุทรมรกต มิเหลือสักคน”“แต่เหตุไฉนลี่เซียงยังมีชีวิตอยู่?”ลิ่นฝูเสวี่ยยิ่งคิดเรื่องนี้ยิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เรื่องมันต้องมิง่ายเช่นนี้แน่!ลั่วชิงยวนไตร่ตรอง จากนั้นกล่าว “ท่เจ้าจำลุงฟ่านที่ถนนเส้นนั้นได้หรือไม่ เขาก็เคยเป็นหนึ่งในผู้หลงใหลท่าน หลังเจ้าเกิดเรื่อง เขาเคยสืบข่าวมาก่อน บางทีเขาอาจรู้มากกว่า”“พวกเราไปถามเขากันเถอะ”ลิ่นฝูเสวี่ยเอ่ยตอบ “ได้”จากนั้นลั่วชิงยวนจึงออกเดินทางไปหาเขา และทิ้งซิ่งอวี่ไว้ในโรง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 449

    ในใจลั่วชิงยวนตะลึงทั้งหมดห้าสิบสองศพ มิขาดแม้แต่ศพเดียว… แต่ลี่เซียงยังมีชีวิตอยู่นี่!เช่นนี้ ดูท่าลี่เซียงจะตั้งใจปกปิดข่าว นางแกล้งตาย!หลายปีผ่านไป กลับเห็นผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง เช่นนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น คงมิง่ายอย่างที่คิดแล้ว!“คุณชายฉู่ เหตุใดจู่ ๆ ท่านจึงถามเรื่องเหล่านี้เล่า?” ลุงฟ่านรู้สึกแปลก ๆ “หรือว่าการตายของลิ่นฝูเสวี่ยเมื่อตอนนั้น…” ลุงฟ่านเองก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา ลั่วชิงยวนมิอยากเดือดร้อนถึงเขา จึงเอ่ย“ผู้ที่มาดูดวงกับข้า มีคนหนึ่งรู้จักลิ่นฝูเสวี่ย และพูดถึงนางรับใช้ของนางลี่เซียงพอดี”“ข้าเพียงแค่ถามไปเรื่อย”ลุงฟ่านพยักหน้า “เช่นนี้เอง…”“เวลาไม่เช้าแล้ว ข้าขอตัวก่อน” ลั่วชิงยวนพูดลาและจากไประหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม นางเอ่ยพูดเสียงต่ำ “เจ้าลี่เซียง ต้องมีปัญหาแน่”“ในเมื่อนางยังมิตาย แต่ทุกคนกลับบอกว่านางตายแล้ว หากไม่มีเลศนัย จักตั้งใจปกปิดหาปะไร”เสียงของลิ่นฝูเสวี่ยข่มความคับแค้นเอาไว้ “นางต้องมีปัญหาแน่!”“ท่านร่ายรำในหอเจาเซียงด้วยนามข้า หากนางรู้สึกว่าท่านเหมือนข้าจริง ย่อมต้องถามเจ้าว่าใช่ศิษย์ของข้าหรือไม่ แต่นางมิได้พูดกระไรทั้งนั้น หนำซ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 450

    “ซิ่งอวี่ เจ้ารู้จักท่านอาฉินมากเพียงใด? สตรีอย่างนาง เปิดหอนางโลมที่ใหญ่เช่นนี้ เบื้องหลังมีผู้อื่นเกี่ยวโยงอีกหรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยายามสืบข่าวด้วยทุกวิถีทางซิ่งอวี่คิดพักหนึ่งก็พลันส่ายหัวเอ่ย “ข้าเองก็รู้มิมาก รู้เพียงแค่ท่านอาฉินราวกับจะรำเทพเหมันต์เป็น แต่นางมิเคยแสดงต่อหน้าผู้อื่น เถาหลีเป็นคนพูดอวดโอ้ออกมา”“แต่ว่ากันว่าเบื้องหลังของหอเจาเซียงมีผู้เก่งกาจหนุนอยู่จริง ๆ”“แต่รายละเอียดข้ามิรู้หรอก”ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนพยักหน้าเสียงของลิ่นฝูเสวี่ยดังขึ้น “รำเทพเหมันต์ข้าเป็นคนสอนนางเอง แต่นางเรียนไปเพียงครึ่งเดียว”มิน่า เพราะนามฝูเสวี่ยและรำเทพเหมันต์ออกมาได้ทั้งเพลงในหอเจาเซียง จึงทำให้อาฉินเกิดอยากสังหารนาง“ดูท่ากลับไปที่หอเจาเซียงมิได้แล้ว หากอยากหาเงินต่อก็ต้องเปลี่ยนที่”ลั่วชิงยวนพูดไปและเอ่ยถามซิ่งอวี่ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าในเมืองหลวงยังมีหอนางโลมชื่อดังที่ใดอีกบ้าง”ซิ่งอวี่พูดอย่างลำบากใจ “หอนางโลมชื่อดังย่อมมี แต่เรื่องในวันนี้ ใช่ว่าจักมิเกิดขึ้นอีก”“แม้ข้ามิรู้จักท่านอาฉิน แต่ข้าก็เคยได้ยินมาก่อนว่านางฝีมือโหดเหี้ยม เกรงว่าต่อให้หาที่ใหม่ นางก็จักหาทาง

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1424

    “ท่านอยู่ต่อ ส่วนคนอื่น ๆ ออกไปก่อนเถิด” ลั่วชิงยวนกล่าวกับชายชราจากนั้นคนอื่น ๆ ก็ทยอยออกไปชายชราลุกขึ้นเดินมายืนตรงหน้าลั่วชิงยวน “ท่านเจ้าเมืองมีสิ่งใดจะสั่งหรือขอรับ?”ลั่วชิงยวนถามว่า “บนเขาแห่งนี้มีคนมาแย่งชิงยาสมุนไพรไปจริงหรือ? ที่ส่งคนไปตามหา มีเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่?”“มีคนมาจริง ๆ ขอรับ พรรคพวกของพวกมันมีประมาณสิบคนได้ แต่พวกมันหนีไปเร็วมาก ตอนนั้นทุกคนมัวแต่สนใจด้านหน้า ไม่มีใครสังเกตว่ามีคนบุกเข้าไปในคลังโอสถ”“พวกเขาถึงได้หนีรอดไปได้ขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ยิ่งสงสัยว่าเป็นคนของสำนักเทียนฉยง และจงใจมาเป็นปฏิปักษ์กับนาง จึงได้ชิงบัวถวายไปก่อนมองดูชายชราตรงหน้าแล้ว ลั่วชิงยวนก็ยังมิเข้าใจเขาดีนักนางจึงถามว่า “บนหลังของท่านมีรอยประทับทาสหรือไม่?”เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า “มีขอรับ”ลั่วชิงยวนรู้ว่าคำพูดของนางย่อมทำให้เขาเคลือบแคลงใจว่านางมิใช่อวี๋ตันเฟิ่งแต่นางก็มิได้คิดจะแสร้งเป็นอวี๋ตันเฟิ่งเพื่อเข้าควบคุมเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้“ท่านควรรู้ว่าข้ามิใช่อวี๋ตันเฟิ่ง”ชายชราผู้นั้นอึ้งไป มิรู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ในเมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1423

    หวังเพียงว่าจะกักขังโหยวจิ้งเฉิงไว้บนเขาได้ เพราะหากเขาไปสิงอยู่ในร่างผู้อื่นแล้วหนีลงเขาไปได้ก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากเพียงแต่ในตอนนี้ นางไม่มีแรงพอที่จะไล่ตามแล้ว จึงไปหายาในคลังกับคนใบ้เมื่อไปถึง โฉวสือชีและอวี๋โหรวก็อยู่ที่นั่นอวี๋โหรวปรุงโอสถเสร็จแล้วโฉวสือชีกำลังค้นหาสมุนไพรอยู่ข้าง ๆ“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” โฉวสือชีถามด้วยความเป็นห่วงลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ข้ามิเป็นอะไร”โฉวสือชียื่นกล่องในมือออกมา แล้วพูดว่า “เจอโสมมังกรเพียงกิ่งเดียวเอง”ลั่วชิงยวนรับกล่องมา แล้วส่งให้คนใบ้ “รอจัดการเรื่องนี้เสร็จก่อน ข้าจะจัดยาให้เจ้าชุดหนึ่ง แม้จะมิสามารถรักษาอาการของเจ้าให้หายขาดได้ แต่ก็พอจะยืดชีวิตได้”คนใบ้พยักหน้า รับโสมมังกรมาด้วยสีหน้าซับซ้อนภายใต้หน้ากากโฉวสือชีกล่าวเสียงหนักแน่น “คลังโอสถนี่ใหญ่โตเกินไป ข้าหาบัวถวายมิเจอจริง ๆ”“และเมื่อดูแล้วในนี้ก็มีร่องรอยการถูกรื้อค้น ต่งอวิ๋นซิ่วคงมิได้หลอกพวกเรา บัวถวายคงถูกใครบางคนชิงไปแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้วแน่น “บังเอิญเกินไปแล้ว บัวถวายถูกชิงไปตอนที่เรามาถึงพอดี”“แถมยังถูกกวาดไปจนเกลี้ยง”“สมุนไพรอื่นก็มิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status