Share

บทที่ 126  

Author: ฉินอันอัน
ชีหยวนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วตะโกนถามเสียงดังว่า “หานเยว่เอ๋อ เจ้าก็เป็นพระชายาเช่นนี้หรือ?! กลางวันแสกๆ บนแผ่นดินอันสุขสงบใต้ฝ่าพระบาทของโอรสสวรรค์ เจ้ากลับให้ท้ายข้ารับใช้ก่ออาชญากรรม เกือบเหยียบย่ำเด็กน้อยและชนชาวบ้านจนตาย เจ้า คู่ควรจะเป็นพระชายาของฉีอ๋องหรือ?! ”

เด็กยังคงร้องไห้เสียงดัง เด็กน้อยที่ยังสูงไม่ถึงต้นขาของผู้ใหญ่ แหงนหน้าร้องไห้จนสุดเสียง ทำให้ผู้ที่พบเห็นปวดใจนัก

เหล่าชาวบ้านตะลึงไปครู่หนึ่งก็เดือดดาลขึ้นมา

มีคนอดพูดเสียงดังไม่ได้ว่า “นั่นสิ! พระชายาแล้วอย่างไร ถนนจูเชวี่ยไม่ใช่ที่จะมาควบม้าเร็วแบบนี้ได้! เหยียบแผงขายผักของข้าจะเละหมดแล้วเนี่ย!”

ก็ราวกับน้ำหยดหนึ่งที่ตกลงสู่กระทะน้ำมันที่ต้มจนร้อน กระทะใบนั้นก็เกิดฟองปะทุปึงปังขึ้นมาทันที

ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงสนับสนุนต่างๆ นานา ขึ้นมา

“พระชายาแล้วอย่างไร? พระชายายิ่งใหญ่นักหรือ? พวกเราเป็นราษฎรนะ!”

“ผู้มีอำนาจเสวยสุข คนจนได้แต่ทุกข์ยาก ยังไม่ทันเป็นพระชายาด้วยซ้ำ ก็ลำพองจนลืมตน ให้ท้ายบริวารก่ออาชญากรรมเช่นนี้บนท้องถนน”

ซุ่นจื่อหันศีรษะไปมองชีหยวนอย่างสั่นสะท้าน ในใจทั้งตื่นตระหนกทั้งกังวล

ปากของคุณใ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
สมน้ำหน้าอย่างแรง พระชายาคางคกขึ้นวอ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 127  

    บรรดาชาวบ้านที่อยู่บนท้องถนน ต่างพากันรุมล้อมรถม้าของจวนฉีอ๋องไว้ แรกเริ่มยังเป็นเพียงการด่าทอ ทว่าต่อมา ก็ไม่รู้เป็นผู้ใดเป็นผู้นำเริ่มขว้างปาสิ่งของ ผลก็คือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยของประเภทใบผักที่เน่าเสียและก้อนหิน หานเยว่เอ๋อโมโหจนใบหน้าบิดเบี้ยวแล้ว บังอาจนัก! ช่างบังอาจเหลือเกิน! ชีหยวนเป็นเช่นนั้น พวกชาวบ้านโง่เขลาที่ถูกยุแยงก็เป็นเช่นนี้! เป็นพวกชาวบ้านที่โง่งมกลุ่มหนึ่งจริงๆ! นางตำหนิคนขับรถม้าและองครักษ์อย่างรุนแรง “พวกเจ้าตายแล้วหรืออย่างไร?! มีคนล่วงเกินขบวนรถของพระชายา สังหารสาวใช้ของข้า นี่เป็นความผิดสถานใดกัน ต้องให้ข้าสั่งสอนพวกเจ้าด้วยหรือ?!” พระชายาของชินอ๋อง เป็นตำแหน่งที่เหนือกว่าสตรีบรรดาศักดิ์ขั้นสูงสุด ต่อให้เหล่าขุนนางพบเห็น ขุนนางบุ๋นยังต้องลงจากเกี้ยว ขุนนางบู๊ยังต้องลงจากม้า แล้วนับประสาอะไรกับหญิงสาวไร้ศักดิ์ไร้ตำแหน่งที่ยังมิได้ออกเรือน? คนขับรถม้าลังเลไปชั่วขณะ ทว่าองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างกับดึงดาบดังเคร้งออกมาทันที เหวอ! ถึงอย่างไรก็แสดงอาวุธออกมาแล้ว เหล่าราษฎรจึงพากันถอยหลังด้วยความหวาดกลัว ในชั่วขณะหนึ่ง ถือว่าสถานการณ์ได้ถูกสะกดไว้แล้ว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 128  

    พลเมืองดี… หานเยว่เอ๋อด่า ‘มารดาเจ้าเถอะ’ อยู่ในใจ และในยามนี้เอง ชีหยวนก็ชี้ไปที่ตนเอง แล้วยิ้มออกมาบางๆ “หรือข้า มิใช่พลเมืองดีที่พบเห็นความอยุติธรรมหรือ?” บิดาของเด็กน้อยที่ได้รีบความช่วยเหลือรีบพูดเสียงดังทันทีว่า “ใช่! ย่อมใช่อย่างแน่นอน! หากมิใช่เพราะคนของคุณหนูช่วยเหลือคนด้วยคุณธรรม ลูกชายของข้าคงตายไปแล้ว! คุณหนูโปรดวางใจ ต่อให้เรื่องไปถึงศาล พวกเราก็จะเป็นพยานให้คุณหนูแน่ขอรับ!” ผู้ที่สูงส่งอยู่เบื้องบน ไม่มีทางรู้ถึงความทุกข์ยากของผู้ที่อยู่เบื้องล่าง ดังนั้น หานเยว่เอ๋อจึงไม่เห็นชีวิตของชนชั้นล่างเป็นชีวิต แต่หานเยว่เอ๋อไม่รู้ว่า น้ำสามารถหนุนเรือได้ ก็สามารถคว่ำเรือได้เช่นกัน ชนชั้นล่าง จึงจะเป็นคนส่วนใหญ่ของโลกใบนี้ ชีหยวนยิ้มให้กับหานเยว่เอ๋อจากระยะไกล หานเยว่เอ๋อรู้สึกเพียงว่า รอยยิ้มนั้นราวอาบด้วยยาพิษ ทำให้นางบังเกิดเหน็บหนาวไปทั่วร่าง เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?! และในเวลานี้เอง คนจากศาลซุ่นเทียนก็ได้มาถึงแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ของศาล ที่รับผิดชอบการตรวจตราเห็นว่ามีคนตาย สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที และรอจนได้เห็นรถม้าของจวนฉีอ๋อง เบื้องหน้าก็ยิ่งมืดมิดลงไ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 129  

    ยามนี้ สำหรับพวกไป๋จื่อแล้ว คำพูดของชีหยวนไม่ต่างอันใดกับราชโองการ เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ ไป๋จื่อก็ช่วยซุ่นจื่อประคองเหลียนเฉียวออกไปหาหมอโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ประตูห้องถูกเปิดออก ปาเป่าก็ยิ้มแย้มต้อนรับชีหยวนเข้าไป “ไอ้หยา คุณหนูใหญ่ชีขอรับ เมื่อครู่ท่านช่างองอาจเหลือเกิน!” ดวงตาของเขาเปล่งประกายสว่างไสว ขาดอีกเพียงนิดก็แทบจะสลักคำว่า “ยอมรับนับถือ” ไว้บนหน้าผากแล้ว ชีหยวนพยักหน้า เมื่อสาวเท้าเข้าไป ก็เห็นเซียวอวิ๋นถิงกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะในเวลานี้ เมื่อเห็นนาง เซียวอวิ๋นถิงก็เดาะลิ้นทีหนึ่ง “เหตุใดทุกครั้งที่พบเจ้า เจ้าล้วนกำลังฆ่าคนอยู่เล่า?” ปาเป่าอดเหลือบตามองท่านอ๋องของตนคราหนึ่งไม่ได้ ในใจรู้สึกร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย ดูท่านอ๋องทรงพูดเข้าสิ กล่าวกับแม่นางน้อยเขาเช่นนี้ได้อย่างไร? ชีหยวนกลับมิได้ใส่ใจ นางเดินไปนั่งลงตรงข้ามเซียวอวิ๋นถิง ถามอย่างสบายๆ ว่า “อย่างนั้นหรือ? ข้าจำได้ว่าห่างจากครั้งก่อนสักพักแล้วนี่นา” สักพักแล้ว…เจ็ดแปดวัน? เซียวอวิ๋นถิงเอนหลังลงบนพนักเก้าอี้ มองสำรวจชีหยวนขึ้นลงหนหนึ่ง “หลังจากวันนี้ เกรงว่าชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่แห่งสกุลชีเจ้า คงจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 130  

    หากเขามองไม่ผิด สายตาของสตรีนางนี้เผยความเยาะหยันออกมาอย่างเต็มเปี่ยม นี่ตั้งข้อสงสัยต่อความสามารถของเขาขึ้นมาแล้วใช่หรือไม่? ช่าง…นัก เขาแค่นเสียงเย็นอย่างไม่สบอารมณ์ทีหนึ่ง “เรื่องนี้ก็ไม่รบกวนให้เจ้าต้องเป็นห่วง คนหนีไปไม่รอดหรอก” “เช่นนั้น ข้ายังต้องมีสิ่งใดให้กังวลเล่า?” ชีหยวนเลิกคิ้ว พอดีกับที่ประตูถูกเคาะดัง ปาเป่าเห็นว่าระหว่างพวกเขาคลับคล้ายจะมีกลิ่นควัน ขณะกำลังไม่รู้จะทำอย่างไรดี เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจึงรีบไปเปิดประตูทันที ผลคือ เป็นพวกซุ่นจื่อกลับมาแล้ว สายตาของชีหยวนตกลงบนมือของเหลียนเฉียว นางถามเสียงหนักว่า “เป็นอย่างไรบ้าง หมอว่าอย่างไร?” สีหน้าของเหลียนเฉียวแดงเล็กน้อย นางก้มศีรษะตอบว่า “คุณหนูวางใจเถิดเจ้าค่ะ ท่านหมอบอกแล้วว่า ไม่ทำลายถูกเส้นเอ็นและกระดูก ขอแค่รักษาตัวสักช่วงหนึ่งก็หายดีแล้วเจ้าค่ะ” เห็นได้ชัดว่า นางโกหกไม่เก่งอย่างยิ่ง ชีหยวนเงียบงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวเสียงต่ำว่า “อยู่ต่อหน้าข้าไม่จำเป็นต้องปิดบัง วันหลังยามติดตามอยู่ข้างกายข้า ข้าก็จะไม่มีทางให้พวกเจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม!” ผู้ที่ติดตามนาง มิใช่มีไว้เพื่อถูกรังแกหรอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 131  

    ม่านประตูถูกเปิดออก นางเดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปด้านใน ยังไม่ทันทำอะไร ก็เห็นนางหวังลุกพรวดขึ้นจากตั่ง แม้กระทั่งรองเท้าก็ยังไม่ได้สวม พุ่งตรงเข้ามาพร้อมง้างมือขึ้นและตบหน้านางไปอย่างจังหนึ่งฉาด “เจ้าลูกเวร!” ฝ่ามือนี้ทั้งรวดเร็วและรุนแรง ถึงขนาดที่ไป๋จื่อยังไม่ทันโผเข้าไปบังชีหยวนไว้ ชีหยวนก็ถูกตบหน้าไปหนึ่งฉาดแล้ว ใบหน้าด้านขวาของชีหยวนบวมขึ้นมา รอยฝ่ามือปรากฏให้เห็นชัดเจนบนใบหน้าของนาง ทุกคนต่างสะดุ้งด้วยความตกใจ นางหวังหยัดกายขึ้นมาหมายจะตบอีกฉาด กลับถูกเกาเจียและหลิวเจียรั้ง ๆ ลาก ๆ ขัดขวางไว้เสียก่อน “ฮูหยินท่านได้โปรดระงับโทสะเจ้าค่ะ!” เกาเจียนึกประหวั่นพรั่นพรึงในใจ ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด นางรู้สึกได้ว่าชีหยวนมิใช่คนที่จะสามารถลงไม้ลงมือตบตีได้ตามใจ ชีอวิ๋นถิงที่ตบหน้าทำร้ายชีหยวนไปเมื่อครั้งก่อนถูกลงโทษซ้ำ จนตอนนี้ยังลุกจากเตียงไม่ได้ แต่นางหวังหรือจะยับยั้งโทสะได้อีก? นางชี้นิ้วใส่ชีหยวน ตัวสั่นเทิ้ม “เคราะห์กรรมอะไรของข้า เหตุใดถึงได้ให้กำเนิดเดรัจฉานสารเลวอย่างเจ้าออกมา?! ต้องทำลายพวกข้าทั้งตระกูลให้ย่อยยับให้ได้ก่อนใช่ไหมเจ้าถึงจะยอมหยุด?!” ไป๋จื่อกอดชีหยวนไว้สงส

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 132  

    เดิมก็ไร้ซึ่งความผูกพันแม่ลูกอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งเหมือนหมอกควันจางหายมลายไปหมด นางขึงตาจ้องชีหยวนอย่างอำมหิต คล้ายกับกำลังจ้องมองศัตรูคู่อาฆาตอย่างไรอย่างนั้น ชีหยวนหันศีรษะเดินจากไปทันที นางหวังยังคงตะโกนโวยวายสั่งให้คนจับตัวชีหยวนไว้และพาไปขอขมาที่จวนอ๋องฉี เกาเจียยกมือขึ้นกุมหน้ายิ้มเจื่อนพลางถอนหายใจออกมา “ฮูหยิน ท่านโหวผู้เฒ่าและท่านโหวกำลังออกไปสืบความจริง แต่ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงอดทนข่มโทสะไว้ไม่ได้ถึงเพียงนี้เจ้าคะ?” ขณะที่กำลังพูด หลิวจงรีบวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว “ฮูหยิน ฮูหยิน! เกิดเรื่องแล้วขอรับ พระชายาอ๋องฉี…” เห็นไหมล่ะ นางหวังแค่นเสียงหัวเราะเย็นเยียบออกมาอย่างเคียดแค้น “ไม่ต้องมาพบข้า! ไปหานางเด็กชั่วช้าสารเลวที่เอาแต่แส่หาเรื่องนั่นเถิด! หากพระชายาอ๋องฉีต้องการสังหารนางก็จัดการให้นางสิ้นใจตายไปเสีย เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับข้า!” หลิวจงผงะไป เอ่ยอย่างอดไม่ไหว “ไม่ใช่ขอรับฮูหยิน คือว่า พระชายาอ๋องฉีสิ้นพระชนม์แล้วขอรับ!” ว่าอย่างไรนะ?! ทั้งห้องเงียบสนิท เงียบจนแม้แต่เข็มหล่นในห้องยังได้ยินเสียง เกาเจียยกมือปิดหน้าเสียงโครมครามดังขึ้นในใจ เครียดจนหัวใ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 133  

    และทันทีที่ชีหยวนเอ่ยประโยคดังกล่าวนี้จบ ทั้งห้องก็จมดิ่งสู่ความเงียบงันราวกับอยู่ในห้วงความตาย ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นต่างเงียบลงพร้อมกันอย่างน่าประหลาด จริงด้วย องครักษ์ของจวนอ๋องฉีที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี พวกเขามีคนจำนวนมากเพียงนั้น จะอารักขาชีวิตพระชายาอ๋องของตนเองไม่ได้เชียวหรือ? นอกเสียจากว่า นอกเสียจากว่าพวกเขามิได้จะไปอารักขาหานเยว่เอ๋อตั้งแต่แรกแล้ว ก็เหมือนเมื่อคราวนั้นที่ชีหยวนเอ่ยคำพูดยั่วยุปลุกปั่นอารมณ์ของชาวบ้านขึ้นมา เดิมที่นางไม่มีโอกาสจะได้เอ่ยคำนั้นออกมาเสียด้วยซ้ำ แต่เหตุใดพวกองครักษ์เหล่านั้นกลับปล่อยให้ชีหยวนพูดจนจบประโยคได้? ริมฝีปากของชีเจิ้นขยับเล็กน้อย มองชีหยวนด้วยสีหน้าซับซ้อน “เช่นนั้นแล้วเจ้า…เจ้ารู้อยู่แล้วหรือว่าอ๋องฉีมีเจตนาจะสังหารหานเยว่เอ๋อตั้งแต่แรก เหตุใด เหตุใดเจ้ายังช่วยอ๋องฉีให้ทำสำเร็จ?” ก็เมื่อวันก่อน ชีหยวนพูดกับพวกเขาว่า ต้องปลิดชีพอ๋องฉีทิ้งเสียถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ ชีหยวนยกจอกชาขึ้นมาจิบหนึ่งคำ เอ่ยอย่างนิ่งเฉยไม่แยแส “นางดูหมิ่นสาวใช้ของข้า บดขยี้นิ้วของสาวใช้ข้าจนเกือบแตก ฉะนั้นก็ฆ่านางทิ้งก่อน แค่ยืมแรงผู้อื่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 134  

    กลับกัน เป็นอ๋องฉีเสียอีกที่ได้รับความรักความเอ็นดูทั้งหมดจากฮ่องเต้หย่งชางมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย คงเพราะเรื่องตื่นเต้นที่ได้รับนับแต่ชีหยวนกลับมา มีมากเกินไปแล้วจริง ๆ บัดนี้ แม้ชีหยวนจะรู้ชัดถึงกระทั่งเหตุผลที่เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยรุ่งเรืองเป็นใหญ่ขึ้นได้ ทว่าชีเจิ้นกลับรู้สึกเหมือนจะด้านชาไปเสียแล้ว เขาลูบหน้าอกตนเอง ถามด้วยเสียงแห้งผาก “เจ้ารู้ทั้งรู้ แต่ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอีกหรือ!” ท่านโหวผู้เฒ่ามิได้เอ่ยวาจาใด แต่ภายในใจก็มีความคิดเช่นนี้ ถูกต้องแล้ว เหตุผลนี้ถูกต้องแล้ว ในเมื่อทุกคนต่างรู้ดีว่าอ๋องฉีคือพระโอรสที่ฮ่องเต้หย่งชางทรงโปรดปรานเอ็นดูที่สุด และเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็เป็นพระสนมที่ฮ่องเต้ทรงรักใคร่โปรดปรานที่สุด แล้วเหตุใดยังกล้าพูดจาโอหัง ว่าจะสังหารอ๋องฉีอีก?! ที่หานเยว่เอ๋อถูกสังหาร และถูกฆ่าตายได้อย่างง่ายดาย จะว่าไปแล้วก็เป็นเพราะอ๋องฉีไม่ต้องการพระชายาที่ไร้ซึ่งเกียรติยศอย่างนางผู้นี้ ตัวอ๋องฉีเองนับว่าเป็นขุนเขาสูงใหญ่แข็งแกร่งอยู่แล้ว! ชีหยวนผุดยิ้มและหัวเราะออกมา บางทีอาจเป็นเพราะรอยยิ้มของนางชวนให้อึดอัดได้จริง ๆ ชีเจิ้นรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก “

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 510

    พระที่ถูกจี้ด้วยธูปร้องเสียงหลงกลางป่าเขาที่เงียบสงัด เสียงกรีดร้องของพระรูปนั้นดังสนั่นแทบทะลุทะลวงเมฆบนฟ้าพระรูปอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอเห็นชีหยวนก็พากันทำหน้าเหมือนเห็นผีนี่ผีหรือ หญิงสาวผู้นี้ ไฉนถึงออกมาได้อย่างปลอดภัย?!ไม่น่าเชื่อว่าฉือซานจะไม่ลงมือกับหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้?!แต่พวกเขาไม่มีเวลาคิดหาคำตอบอีกต่อไปแล้ว เพราะชีหยวนได้ชักกระบี่อ่อนจากเอวออกมาใช้วรยุทธ์ของนางเพื่อฆ่าสวะพวกนี้ถือเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนโดยแท้ เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป พระสิบกว่ารูปก็ตายหมดจิ้งคงถึงกับอึ้งงันเขาขดตัวเป็นก้อน ยื่นมือออกมาบังอย่างขลาดกลัว “อย่านะ อย่า อย่าสังหารข้า อย่าสังหารข้าเลย!”ชีหยวนเก็บกระบี่อ่อนไป เอ่ยถามเสียงขรึม “ลุกขึ้นเองไหวหรือไม่?”จิ้งคงถึงเพิ่งรู้ว่าชีหยวนไม่มีเจตนาจะฆ่าเขา เขาฝืนรับคำ แล้วค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นจากพื้น แล้วมองไปที่ชีหยวนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ลังเลชีหยวนเอ่ยถามเขาตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม “รู้หรือไม่ว่าหญิงสาวพวกนั้นถูกขังอยู่ที่ใด?”จิ้งคงน้ำตาคลอทันที ที่แท้นางมาที่นี่เพื่อช่วยพวกหญิงสาวพวกนั้นเขารีบพยักหน้า “รู้ ทุกค

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 509

    ด้านนอก บรรดาพระกำลังรุมสั่งสอนจิ้งคงผู้ที่ขัดขวางไม่ให้ชีหยวนเข้าวัดเมื่อครู่จิ้งคงกลิ้งอยู่กับพื้น สองมือกอดศีรษะ ปกป้องจุดสำคัญของร่างกาย พร้อมเรียกศิษย์พี่ไม่ขาดปาก พยายามคลานขึ้นมาคุกเข่าขอร้องแต่เขาเพิ่งจะลุกขึ้นได้ พระอีกรูปก็เตะเขาล้มลงไปอีก แล้วพูดเสียงเย็นชา “ข้าก็ว่าอยู่ พักนี้เหตุใดหญิงสาวแรกรุ่นถึงมาที่วัดน้อยลง ที่แท้ในวัดเราก็มีคนทรยศ!”จิ้งคงถูกซ้อมจนใบหน้าเขี้ยวช้ำบวมปูด ปากกับจมูกมีเลือดไหล แต่กลับไม่กล้าเช็ด ตาโปนจนแทบลืมไม่ขึ้น เริ่มโขกศีรษะกับพื้นไม่หยุด “เป็นความผิดของศิษย์น้องเอง ศิษย์น้องไม่กล้าอีกแล้ว ขอศิษย์พี่ไว้ชีวิตข้าด้วย ขอให้ศิษย์พี่ไว้ชีวิตข้าด้วย!”“ไว้ชีวิตเจ้าหรือ?!” พระที่เป็นหัวโจกอีกคนคว้ากำธูปจากกระถางธูปใกล้มือ แล้วพลิกกลับด้าน จี้ลงบนหัวของจิ้งคงอย่างกะทันหันจิ้งคงพลันกรีดร้องโหยหวน พลางร้องไห้กลิ้งไปมาบนพื้นพระพวกนั้นกลับพากันหัวเราะเสียงดังพระที่ใช้ธูปจี้หัวจิ้งคงเอ่ยเสียงดูแคลน “พวกเราก็รู้กันดี พระอาจารย์ชอบเก็บหญิงสาวที่ดีที่สุด หน้าตาสวยที่สุดไว้ให้ ‘บรรพบุรุษเบื้องบน’ เสวยสุข คนที่มาวันนี้น่ะ งามไม่เป็นสองรองใคร เห็นแวบเดียวก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 508

    เขาก้าวเท้าไปด้วยรอยยิ้ม “อมิตา...”ยังไม่ทันกล่าวคำสวดจบ ชีหยวนก็เหยียบต้นไม้ส่งตัวเองลอยขึ้นไป แล้วฟาดเท้าเข้าใส่อกของฉือซานอย่างจัง ฉือซานกระเด็นลงไปกองกับพื้น กระอักเลือดออกมาเต็มปากจากนั้นก็ไม่หยุดการเคลื่อนแม้แต่น้อย นางพุ่งเข้าหาฉือซาน มีดสั้นในแขนเสื้อก็เผยออกมา จ่อเข้าที่อกของเขาฉือซานถึงกับมึนงงไปกับการเคลื่อนไหวนี้ไหนบอกว่าเป็นหญิงสาวที่ไร้หนทาง ไร้ที่พึ่ง ถูกบีบบังคับให้มาขอบุตรไงเล่า?นี่มันคืออะไรกันแน่?!ชีหยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา สายตานั้นไม่เหมือนกับมองคน แต่เหมือนมองดูหินก้อนหนึ่ง หรือไม่ก็ต้นไม้ต้นหนึ่ง เหมือนมองสิ่งที่ไร้ชีวิตนางไม่พูดพร่ำเพรื่อ ถามขึ้นตรง ๆ “หญิงสาวที่พวกเจ้าลักพาตัวมาจากเรือนพักนอกเมืองเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเจ้าพาไปซ่อนไว้ที่ใด?”ฉือซานเบิกตากว้างในทันที ริมฝีปากสั่นระริกปลายมีดของชีหยวนแทงอกของเขาลึกหนึ่งชุ่นโดยไม่รั้งรอ เลือดไหลพรวดออกจากแผลทันทีจากนั้นนางก็ถาม “ผู่อู๋ย่งเป็นลุงแท้ ๆ ของเจ้าใช่หรือไม่? เห็นได้ยากจริง ๆ หลานของไอ้หมาขันที เขาบอกเจ้าว่าให้เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ไปพักหนึ่ง รออีกไม่นานจะให้เจ้าไปเป็นขุนนางที่สำนักพระพุทธศาส

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 507

    ชีหยวนควบม้าเร็วออกจากเมือง โดยไม่พาคนติดตามไปแม้แต่คนเดียว ลมพัดแรงจนเสื้อคลุมสีแดงสดของนางปลิวสะบัด แต่นางกลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย แม้หมวกคลุมศีรษะจะเปิดออก นางก็ไม่คิดจะดึงกลับมาสวมอีกนางรู้ดีบนโลกนี้ไม่มีแม่ทัพไร้พ่ายตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เว้นแต่จ้าวจื่อหลงผู้เป็นดั่งปาฏิหาริย์ ผู้อื่นแม้เป็นแม่ทัพที่เก่งกล้าสักเพียงใด ก็ล้วนเคยลิ้มรสความพ่ายแพ้แต่สำหรับนาง ไม่มีทาง!โดยเฉพาะคนที่ฆ่านาง ทั้งยังทำให้คนที่นางพามาด้วยต้องเติบโตขึ้นโดยไม่มีแม่ ก็ยิ่งสมควรตาย!ตั้งแต่เล็กจนโต สิ่งที่นางไม่เคยเข้าใจก็คือเหตุใดหลี่ซิ่วเหนียงถึงไม่เหมือนแม่คนอื่นสิ่งที่นางอิจฉามากที่สุดก็คือเด็กคนอื่น ๆบัดนี้มีเด็กอีกคนหนึ่งที่ต้องกลายเป็นกำพร้าเพราะนาง ชีหยวนรู้สึกว่าตัวเองช่างบาปหนานักแน่นอนว่าความผิดของนางมีอยู่จริง แต่มันก็ยังมีบางคนที่สมควรจะลงนรกสิบแปดขุม!นางควบม้าเร็วเร่งรุดมาถึงวัดว่านอันที่ชานเมืองหลวง เอียงศีรษะเล็กน้อย จ้องคำว่าวัดว่านอันสามคำนั้นอย่างเย็นชา บนใบหน้าฉายแววเย็นเยียบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนออกจากเมืองหลวงมาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาค่ำแล้วยามดึกดื่นเช่นนี้ หญิงสาววัยแรกแย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 506

    ก็ต้องมี ‘คืนของขวัญ’ กลับไปบ้างกระมัง?ชีเจิ้นก็พลันเข้าใจ เพียงแค่เป้าหมายไม่ใช่ผู่อู๋ย่ง แต่ก็ยังเป็นการไปสังหารคนอยู่ดีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับว่า “เช่นนั้นก็ ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ”ชีหยวนก็เดินตรงดิ่งออกจากประตูไปชีเจิ้นจึงหันกลับมามองท่านโหวผู้เฒ่าชีกับฮูหยินผู้เฒ่าชี “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้านึกขึ้นได้แล้ว วันปีใหม่วันนั้น แม่หนูหยวนบอกว่านอกจากจะแวะไปที่เรือนนอกเมืองแล้ว ยังมีธุระที่ต้องทำ มันเป็นธุระอะไรกันแน่?”ทั้งยังเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้ผู่อู๋ย่งอีกด้วย?ท่านโหวผู้เฒ่าชีถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร โดนขังมาหลายวันแล้วเจ้ายังไม่เหนื่อยหรือไง? ทำตัวดี ๆ รีบไปอาบน้ำแล้วนอนพักเสีย ตอนเย็นค่อยไปกินข้าวที่เรือนใหญ่!”ชีเจิ้นอยากรู้จนใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีหยวนกำลังทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู่อู๋ย่ง และยังจะบอกว่าเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้อีกฝ่ายอีกต่างหากแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง “ท่านพ่อ! ผู้บัญชาการไล่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?!”ไล่เฉิงหลงช่วยพวกเขาไว้มาก ที่ไม่โดนลงโทษก็เพราะอีกฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยแล้วไอ้หมาขันทีอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 505

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เห็นทั้งสองคนกลับมาดูครบสามสิบสอง ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกลงโทษ ก็รู้ทันทีว่าเป็นไล่เฉิงหลงที่ช่วยไว้นางหลุบตาลงแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่เพราะข้าหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะข้า เป็นข้าที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พวกท่านต้องลำบากก็เพราะข้า”ความรู้สึกของท่านโหวผู้เฒ่าชีซับซ้อนอย่างยิ่งชีเจิ้นก็เช่นกันชีหยวนก็ถือว่าเข้าใจฐานะของตนเองดีนัก และไม่ทำตัวเกรงใจเกินจำเป็น พูดสิ่งที่ควรพูด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครตอบรับได้หรือไม่แต่ว่านางพูดตรงได้ ทว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับตรง ๆ เช่นนั้น ท่านโหวผู้เฒ่าชีจึงกล่าวว่า “พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งนี้ของเขา ทำมาก็หลายปี อยู่กึ่งกลาง หากทำงานของฝ่าบาทได้สำเร็จ เช่นนั้นสักวันก็ต้องเกิดเหตุเช่นนี้”ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ต้องสืบหากันไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น ฮ่องเต้หย่งชางก็ย่อมต้องเริ่มสงสัยในความสามารถของชีเจิ้น และหมดความอดทนต่อเขาฉะนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เคราะห์นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่มีชีหยวนอยู่ จึงสามารถคลี่คลายเรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ท่านโหวผู้เฒ่าก็โล่งอก เมื่อเห็นเหล่าลูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status