เสิ่นจวนโกรธเพราะคำพูดของเซียวทงกับจ้าวเจินเจินจนตัวสั่น เห็น ๆ กันอยู่ว่าแผนการใส่ร้ายหลิงอวี๋เป็นการหารือและดำเนินการร่วมกันทุกคน!บัดนี้พอเรื่องมันเปิดเผยออกมาแล้ว พวกนางจะให้ตนเป็นแพะรับบาปไปเพียงผู้เดียว!แต่ก่อนหน้านี้พวกนางได้หารือกันด้วยวาจา ไหนเลยจะมีหลักฐานมายืนยันได้ว่าจ้าวเจินเจินกับจ้าวซิงสมคบคิดกัน!เมื่อเห็นว่าเสิ่นจวนพูดมิออก จ้าวเจินเจินก็โค้งคำนับท่านอ๋องเฉิง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจ“ท่านอ๋องเฉิง ความจริงปรากฏแล้วว่า เสิ่นจวนกับจ้าวซิงเห็นว่าเรื่องถูกเปิดโปงจึงใส่ร้ายพระชายาอ๋องอี้ ทั้งยังให้ร้ายหม่อมฉันเพคะ!”“คนเช่นนี้ควรถูกประหารเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้อื่นเพคะ!”เซียวทงก็ตะโกนเช่นกัน “ถูกต้อง! เสิ่นจวนกับจ้าวซิงร่วมมือกันใส่ร้ายพระชายาอ๋องอี้ เมื่อทำเรื่องผิดศีลธรรม นางก็ควรถูกประหารด้วย!”เซียวทงโกรธแค้นเรื่องที่เซียวหลินเทียนปกป้องหลิงอวี๋ในวันนี้ เสิ่นจวนเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซียวหลินเทียน เช่นนั้นจึงจะให้เสิ่นจวนตายไปด้วยเช่นกัน!ท่านอ๋องเฉิงเบื่อหน่ายกับเรื่องในวันนี้แล้ว เขาจ้องจ้าวซิงอย่างรังเกียจพลางพยักหน้า“จ้าวซิงใส่ร้ายพระชายาอ๋องอี้และย่ำ
พระสนมหรงกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ“จวนเอ๋อร์!”หลิงอวี๋ไม่คาดคิดว่าเสิ่นจวนที่สับสนมานานถึงเพียงนั้น จะได้สติหลังจากถูกเอาเปรียบมากถึงเพียงนี้แม้ว่าการใช้วิธีตายเพื่อแสดงเจตจำนงจะดูโง่ไปหน่อย แต่ก็ยังทำให้หลิงอวี๋มองนางสูงขึ้นนางหาได้สนใจไม่ที่ก่อนหน้านี้เสิ่นจวนช่วยเหลือพวกคนทำชั่วแต่นางมิสามารถเพิกเฉยต่อเสิ่นจวนที่ตั้งใจจะตายเพื่อแสดงเจตจำนงในบัดนี้ได้!“หลิงซวน เอาล่วมยาของข้ามา!”หลิงอวี๋รีบวิ่งเข้าไปช่วยเสิ่นจวน นางหยิบผ้าออกมาปิดบนหน้าผากของเสิ่นจวนไว้เพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกมาอีกทันใดนั้น หลิงอวี๋ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าบาดแผลของเสิ่นจวนไม่ได้ถึงแก่ชีวิตเมื่อนึกย้อนถึงการกระทำของนางรับใช้ของเสิ่นจวน มุมริมฝีปากของนางก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มชื่นชมไม่คาดคิดเลยว่าเสิ่นจวนที่ไร้สมองมาโดยตลอด ในที่สุดก็ฉลาดได้เสียที!นางใช้การกระทำเช่นนี้เพื่อหลอกจ้าวเจินเจินกับองค์หญิงหก!ผู้คนที่อยู่ในที่แห่งนี้ไม่เชื่อข้อกล่าวหาที่เสิ่นจวนกล่าวถึงองค์หญิงหกกับจ้าวเจินเจินมิใช่หรือ?การที่เสิ่นจวนตายเพื่อแสดงเจตจำนง ผู้ใดบ้างเล่าจะมิเห็นใจผู้อ่อนแอ!มีเลือดมากมายไหลอยู่บนพื้น ภาพที่
“ช้าไปเสียแล้ว!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะพลางเอ่ย “พี่สะใภ้สี่ของเจ้าให้โอกาสเจ้าหลายครั้งแล้ว แต่เจ้าหาได้กลับตัวไม่!”“เจ้าพูดอยู่เมื่อครู่มิใช่รึ? ขอเพียงหลิงอวี๋พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางได้ เจ้าก็จะยอมรับการลงโทษ!”“กฎเกณฑ์ถูกกำหนดไว้โดยองค์จักรพรรดิสูงสุด! แม้ว่าวันนี้เรื่องไปถึงเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้คิดว่าจะหนีการลงโทษพ้น!”เมื่อเซียวทงเห็นเซียวหลินเทียนแข็งกร้าวเช่นนี้ก็โกรธจนตาแดง หยุดอ้อนวอนแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย“เซียวหลินเทียน เสด็จพี่ตีหม่อมฉันเลย เสด็จพี่ให้ท่านปู่เฉิงตีหม่อมฉันเลย หม่อมฉันจะคอยดูว่าวันนี้ใครจะกล้าตีข้า!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะพลางมองไปที่ท่านอ๋องเฉิงเซียวทงอาจลืมไปแล้ว แต่เซียวหลินเทียนยังไม่ลืมว่าท่านอ๋องเฉิงเป็นคนที่เคยตีท่านพ่อมาแล้วด้วยซ้ำ!ตอนนั้นมีช่วงหนึ่งที่จักรพรรดิอู่อันหมกมุ่นอยู่กับการสะสมอักษรศิลป์กับภาพวาดโบราณ และใช้เงินคลังซื้ออักษรศิลป์กับภาพวาดโบราณเหล่านั้นไทเฮาพยายามโน้มน้าวจักรพรรดิอู่อันหลายครั้งแต่ก็หาได้ฟังไม่ สุดท้ายไทเฮาโกรธจนไปเชิญท่านอ๋องเฉิงมาท่านอ๋องเฉิงเอาพระราชโองการของจักรพรรดิสูงสุดที่ตั้งไว้ก่อนจะสิ้นพระช
หลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือเสิ่นจวน ไม่สนใจฟังคำพูดของจ้าวเจินเจิน และไม่อยากตอบด้วยเซียวหลินเทียนมองจ้าวเจินเจิน มุมปากก็ยกขึ้นอย่างดูถูกแม้ว่าเรื่องที่จ้าวเจินเจินใส่ร้ายหลิงอวี๋ในวันนี้จะมีช่องโหว่เยอะมาก แต่กลับถูกนางปกปิดมันไปจนหมดเขาก็ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่านางมีส่วนร่วมในการใส่ร้าย จึงไม่สามารถเอาเรื่องอะไรนางได้!แต่เขารู้ดีอยู่แก่ใจ มีหรือจะถูกจ้าวเจินเจินหลอกด้วยคำพูดเหล่านั้นได้!ไม่ช้าก็เร็วเขาจะช่วยหลิงอวี๋ชำระบัญชีในครั้งนี้ให้จงได้แน่!“พระชายาคังช่างเก่งเสียจริง...”เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างเย็นชา “เสิ่นจวนมีตาหามีแววไม่ นางมองคนมิออก เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเอง!”“แต่ก็มีสิ่งที่นางพูดถูก… สวรรค์มองเห็นการกระทำของมนุษย์ เทพเจ้าจะตัดสินถูกผิดเอง!”“พระชายาคังไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงอธิบายหรอก พวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นคนเยี่ยงไร!”พูดจบ เซียวหลินเทียนก็ไม่สนใจจ้าวเจินเจินอีก พลางตะโกนบอกลู่หนาน “ไปหารถม้าพาเสิ่นจวนกลับคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น!”จ้าวเจินเจินยังคิดจะช่วยอีกหน่อย แต่ถูกองค์ชายคังที่โกรธอยู่ลากตัวออกไปทุกคน
วันรุ่งขึ้น ตระกูลเสิ่นก็จัดงานศพให้เสิ่นจวนแต่แม้ว่าทุกคนที่อยู่ตรงนั้นจะได้รับคำเตือนจากท่านอ๋องเฉิงให้ระมัดระวังคำพูดและการกระทำแล้ว แต่เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับงานเลี้ยงชมบุปผาก็ยังคงแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วเรื่องที่แพร่ออกไปในตลาดมากที่สุดคือการเฆี่ยนตีองค์หญิงหก และข้อกล่าวหาของเสิ่นจวนที่มีต่อจ้าวเจินเจินกับองค์หญิงหกก่อนที่นางจะเสียชีวิตเมื่อประกอบกับงานศพของตระกูลเสิ่นแล้ว ข่าวลือเหล่านี้ก็ยิ่งแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้นชื่อเสียงของจ้าวเจินเจินตกต่ำลงทันที อีกทั้งนางก็ไม่สามารถอธิบายให้ผู้ใดฟังได้เลย นางโกรธมากจนอยากจะฆ่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเสีย แล้วก็พระชายาเย่ผู้นั้นด้วย!สองวันมานี้จ้าวเจินเจินคิดเกี่ยวกับแผนของตน นางไม่ยอมแพ้หรอก เห็น ๆ อยู่ว่าแผนของตนสมบูรณ์แบบถึงเพียงนั้น แล้วมันไปผิดพลาดที่ตรงไหนกัน?ประเด็นแรก หลิงอวี๋ควรจะอยู่ในห้องนั้น แต่เหตุใดมันถึงกลายเป็นเสิ่นจวน!นางนึกขึ้นได้ว่าหลิงอวี๋ปรากฏตัวพร้อมกับองค์ชายห้าเย่กับพระชายาของเขา อีกทั้งตั้งแต่ต้นจนจบ องค์ชายเย่กับพระชายาของเขาก็ช่วยพูดให้หลิงอวี๋ตลอดหรือว่าองค์ชายเย่เห็นภาพที่เสิ่นจวนกำ
“หลิงอวี๋ ก่อนหน้านี้ข้าผิดไปแล้ว ข้ามิควรฟังคำยุยงของพวกชิวเหวินซวงแล้วไปเข้าใจเจ้าผิดมากถึงเพียงนั้น!”“เจ้าพูดถูกตั้งแต่แรก ข้าถูกความโกรธแค้นบังสายตาไว้! ต่อไปข้าจะใช้ใจมองอย่างรอบคอบ และพยายามทำความรู้จักกับเจ้าใหม่อีกครั้ง!”“ข้า...”เซียวหลินเทียนพูดต่อไม่ได้แล้ว เมื่อคิดถึงเรื่องโง่ ๆ ที่ตนเคยทำก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกละอายมากตอนนั้นเขาตีหลิงอวี๋ทุกครั้งที่ต้องการ ดุด่านางทุกครั้งที่ต้องการ แล้วเขาก็จะถูกความอับอายย้อนกลับมาทุกครั้งเขาในตอนนั้นต่างอะไรกับพวกลั่วอวี้จูเล่า?โชคดีที่ตนเรียกสติมาได้ทันเวลา มิฉะนั้นคงจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่แล้วเขาก็ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!“ช่างเถิดเพคะ ไม่ต้องไปเอ่ยถึงเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว! ก่อนหน้านี้หม่อมฉันเองก็มีเรื่องที่ทำผิดไปเช่นกันหาใช่ความผิดของท่านทั้งหมดไม่!”หลิงอวี๋ยิ้มอย่างใจดี พลางเปลี่ยนหัวข้อ “ครั้งนี้องค์ชายเย่กับพระชายาช่วยหม่อมฉันไว้ พวกเราไปขอบคุณพวกเขาด้วยกันสักหน่อยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็พยักหน้าทันที “ได้สิ เจ้าเตรียมของกำนัลขอบคุณเถอะ แล้วเราไปขอบคุณพวกเขาด้วยกันวันหลัง!”หลิงอวี๋ยิ้ม แม้ว่าตอนนั้นนางจะแค่
พระชายาเว่ย!หลิงอวี๋เห็นรูปลักษณ์อันงดงามของสตรีผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าเขาอย่างชัดเจน ก็จำได้ว่าเคยเห็นนางมาก่อนชายาเอกขององค์ชายใหญ่ มารดาของท่านหญิงจ่างหนิง!“แม่นางซือเชี่ยวชาญเรื่องการทำคลอดกับรักษาโรคสตรีที่สุด แต่น้องสะใภ้สี่ไม่เคยทำคลอดเลย ท่านเชื่อใจให้ชีวิตของจูหลานอยู่ในมือของนางเช่นนั้นหรือ?”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ไม่เคยสังเกตพระชายาเว่ยมาก่อน หลังจากได้ยินคำพูดของนางจึงพิจารณานางอย่างระมัดระวังพระชายาเว่ยอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ รูปร่างหน้าตาของนางนับว่างดงาม แต่นางเทียบไม่ได้กับจ้าวเจินเจินความงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงแต่จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็นึกถึงสิ่งที่หลิงซวนเคยบอกตนเรื่องเกี่ยวกับพระชายาเว่ยได้พระชายาเว่ยมาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง ท่านปู่ของนางเป็นผู้มีพระคุณของจักรพรรดิ พี่ชายสองคนในตระกูลต่างก็ผ่านเข้าจอหงวน และได้เข้าเรียนที่สำนักฮั่นหลินว่ากันว่าพระชายาเว่ยถูกเลี้ยงดูในการดูแลของท่านยายตั้งแต่เด็ก ได้รับการสอนอย่างลึกซึ้งจากท่านยาย มีการศึกษาดี และมีบุคลิกที่สงบเมื่อพระชายาเว่ยพูดเช่นนี้ องค์ชายเย่ก็ค่อนข้างลังเลเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ของหลิงอวี๋ แต่
หลิงอวี๋แค่คิดถึงประโยชน์ของการมีลูกชาย แต่ก็ไม่ได้อิจฉาอะไร!นางรู้สึกว่าเซียวหลินเทียนเองก็ไม่ใช่คนประเภทที่พึ่งพาลูกเพื่อรับตำแหน่งเช่นกัน!เพียงแต่ นางกับเซียวหลินเทียนสามารถมองได้อย่างใจเย็น แล้วคนอื่น ๆ เล่า?หลิงอวี๋หันไปมองพระชายาเว่ยโดยไม่รู้ตัว...รถม้าของพระชายาเย่ถูกรถม้าของตำหนักองค์ชายเว่ยชนระหว่างทางไปถวายเครื่องหอม นางถึงได้ตกจากรถม้า!นี่เป็นอุบัติเหตุจริง ๆ หรือ?หากพระชายาเว่ยไม่อยากให้พระชายาเย่ให้กำเนิดลูกชายคนโตของราชวงศ์ แล้วได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิอู่อัน นางก็อาจจะทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้นี่!แต่พระชายาเว่ยก็ไม่ได้ดูคล้ายคนโง่แม้ว่าจะอยากจัดการกับพระชายาเย่ นางก็ไม่น่าจะใช้รถม้าของนางเองไปโจมตีรถม้าของตำหนักองค์ชายเย่สิ!ขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากข้างในอีกครั้ง แต่เสียงนั้นอ่อนแรงลงกว่าก่อนหน้านี้มาก!ไม่ดีแล้ว!จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา หากมีการสมรู้ร่วมคิดกันภายใน เช่นนั้นพระชายาเย่อาจจะสิ้นไปทั้งแม่ทั้งลูกได้!หลิงอวี๋อยู่เฉยไม่ได้แล้ว นางก้าวไปเอ่ยกับองค์ชายเย่ที่หน้าซีดด้วยความกังวล“องค์ชายห้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร