เซียวทงหัวเราะอย่างมีความสุข แล้วก็ได้ยินเสียงดังปังแล้วประตูก็ถูกเตะเปิดออกเซียวหลินเทียนเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดเซียวทงตกตะลึง รอยยิ้มบนใบหน้าชะงักไปทันที“เจ้าดีใจมากหรือที่พี่สะใภ้ของเจ้าถูกวางยาพิษ?”เซียวหลินเทียนจ้องมองเซียวทงอย่างดุร้ายพลางตะคอกเสียงแข็ง “เซียวทง โบยห้าไม้ที่เจ้าได้รับจากเสด็จปู่เฉิงครั้งที่แล้ว ดูเหมือนจะมิได้ทำให้เจ้าหลาบจำใช่หรือไม่!”“เจ้ายังกล้าวางยาพี่สะใภ้ของเจ้าอีกหรือ?”เซียวทงตะโกนด้วยความโกรธ “เสด็จพี่ อย่ามาใส่ร้ายหม่อมฉันนะ! หลิงอวี๋ถูกวางยาพิษมันมิเกี่ยวอันใดกับหม่อมฉัน เหตุใดเสด็จพี่ถึงบอกว่าหม่อมฉันเป็นคนวางยาพิษนางเล่า?”เซียวหลินเทียนตะคอก “เซียวทง ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง หากเจ้ามอบยาแก้พิษมาให้ ข้าจะผ่อนปรนโทษให้เจ้า! มิเช่นนั้นหากข้าเจอด้วยตัวเอง ข้าจะทำให้เจ้าต้องตายทั้งเป็น!”เซียวทงตะโกนด้วยความโกรธ “เซียวหลินเทียน เสด็จพี่กำลังใส่ร้ายหม่อมฉัน! หม่อมฉันทำร้ายฉินซาน แต่เสด็จพี่ก็ทุบตีหม่อมฉันแล้ว ด่าก็ด่าหม่อมฉันาแล้ว เสด็จพี่ยังมิยอมหยุดอีกหรือ?”“เสด็จพี่จะต้องประหารหม่อมฉันด้วยหรือ? เหตุใดเสด็จพี่ถึงใจร้ายเยี่ยงนี
เซียวหลินเทียนจ้องมองเซียวทงด้วยความรังเกียจ พลางตะโกนบอกหลู่ชิ่ง “ค้นต่อไป!”แต่คราวนี้ หลู่ชิ่งกับพวกองครักษ์ตรวจค้นทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่ก็มิพบร่องรอยของยาแก้พิษเลยเซียวหลินเทียนรู้สึกกลุ้มมากจนอยากจะบีบคอเซียวทงให้ตาย แต่หากหายาแก้พิษมิได้ แล้วหลิงอวี๋จะทำเยี่ยงไรเล่า?เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเอ่ย “เซียวทง ขอเพียงเจ้ามอบยาแก้พิษมาให้ ข้าก็ผ่อนปรนให้เจ้าได้!”เซียวทงส่งเสียงเย็นชา มิโกรธแล้ว จากนั้นก็ยิ้มทันที“ต้องการยาแก้พิษ เช่นนั้นก็ได้สิ! เสด็จพี่ก้มหัวให้หม่อมฉันสามครั้ง… ไม่สิ ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ตบหม่อมฉันสามครั้ง ที่เจ่าจวงอีกหนึ่งครั้ง บวกของเสด็จพี่ด้วย…”“ทั้งหมดห้าครั้ง… เซียวหลินเทียน หากเสด็จพี่ก้มหัวให้หม่อมฉันห้าครั้ง หม่อมฉันจะให้ยาแก้พิษเสด็จพี่!”“มิฉะนั้น เสด็จพี่ก็ดูหลิงอวี๋ตายไปเถิด!”เซียวทงคิดว่าตนทำให้พวกของเซียวหลินเทียนทั้งหมดเกลียดตนไปแล้ว นางไม่มีทางที่จะคืนดีกับเซียวหลินเทียนได้แล้ว!และในฐานะองค์หญิง แม้ว่านางจะทำผิดไป ก็ต้องให้เสด็จพ่อตัดสินลงโทษ เซียวหลินเทียนไม่มีทางกล้าฆ่าตนหรอก!เช่นนั้นเหตุใดตนจะมิใช้โอกาสนี้เพื่อล้างแค้นที่ตนได้รับการดูถู
น้ำตาแห่งความคับข้องใจและความกลัวของเซียวทงไหลออกมาทันที พลางเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า“หม่อม… หม่อมฉันไม่มียาแก้พิษจริง ๆ! สิ่งที่หม่อมฉันพูดไปเมื่อครู่เป็นความโกรธ… ยาพิษ… หม่อมฉันมิได้เป็นคนวางยาจริง ๆ!”เซียวหลินเทียนสีหน้ามืดมนลง เซียวทงก็กรีดร้องด้วยความกลัว “เสด็จพี่… หม่อมฉันสาบานได้เลยว่าหม่อมฉันมิได้วางยาพิษนางจริง ๆ!”“หม่อมฉันสาบานในฐานะขององค์หญิง หากหม่อมฉันเป็นคนที่วางยาพิษ ก็ขอให้หม่อมฉันถูกวางยาพิษและถูกฟันถูกแทงจนตายเหมือนหลิงอวี๋…”“ท่านพี่ เชื่อหม่อมฉันเถิด… หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ ว่ายาพิษมาจากที่ใด... ฉินซานยึดยาพิษทั้งหมดที่หม่อมฉันนำมาไปแล้ว! หม่อมฉันพูดความจริงนะ!”ท่านจินต้ามองอยู่ข้าง ๆ ความตื่นตระหนกบนใบหน้าของเซียวทงดูเยี่ยงไรก็มิได้เป็นการเสแสร้งนางกลัวถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็น่าจะพูดความจริง!หรือว่ามีคนใส่ร้ายเซียวทง?ท่านจินต้าคิดพลางเอ่ยกับเซียวหลินเทียน “ท่านอ๋อง ปล่อยพระหัตถ์ก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมคิดว่าสิ่งที่องค์หญิงหกตรัสน่าจะเป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนมิเชื่อเซียวทง แต่เมื่อท่านจินต้าพูดเช่นนี้ เขาก็ปล่อยมือออกเซียวทงอยู่ในมือขอ
และที่หมอเฝิงซ่อนยาพิษที่เหลืออยู่ไว้ในห่อสัมภาระของเซียวทง ก็เพราะคิดว่าหากเรื่องแดงขึ้นมาก็จะได้มีแพะรับบาป!เซียวทงมีประวัติทำผิดมาก่อน หากหลิงอวี๋ถูกวางยาพิษ ทุกคนรวมถึงตนก็จะสงสัยเซียวทง...เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ฮองเฮาเว่ยกับองค์ชายเว่ยคิดว่าตนจะยอมรังแกได้ง่าย ๆ จริง ๆ หรือ?กล้ามาโจมตีตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า!หากครั้งนี้เขามิให้องค์ชายเว่ยชดใช้ เขาเซียวหลินเทียนก็อย่าได้เป็นท่านอ๋องอีกต่อไปเลย!“เสด็จพี่ ไปค้นที่พักของหมอเฝิงดู จะต้องพบหลักฐานแน่นอน!”เซียวทงจับตรงคอที่ยังรู้สึกมิดีอยู่ แม้ว่าตนจะเกลียดเซียวหลินเทียน แต่ก็เกลียดหมอเฝิงกับฮองเฮาเว่ยด้วยเช่นกันพวกเขาคิดว่าตนเป็นอะไร?ลูกที่ถูกทอดทิ้งจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบหรือ?นาง เซียวทง จะต้องแก้แค้นในความผิดที่นางได้รับ“ไปค้นที่พักของหมอเฝิง!” เซียวหลินเทียนโบกมือหลู่ชิ่งจึงพาคนไปที่นั่นก่อนเซียวหลินเทียนมองเซียวทง พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “เจ้าอยู่ในเรือนดี ๆ ไปก่อน! เจ้ามิได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนจนกว่าข้อกล่าวหาจะแน่ชัด!”พูดจบ เซียวหลินเทียนก็เดินออกไปเหลือองครักษ์ไว้สองคนคอยเฝ้าประตูเซียวทงรู้ว่าเซียวหลินเท
เซียวหลินเทียนลืมไปแล้วว่าครั้งล่าสุดที่รู้สึกกลัวคือเมื่อใด!เขามิเคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับกองทัพนับหมื่นนับพันของศัตรู!แม้ว่าขาของตนจะพิการเขาก็มิเคยกลัว!แต่ในเวลานี้ เขารู้สึกกลัวจริง ๆ!เหมือนว่าเขาย้อนกลับไปในสมัยที่มารดาของเขาเสียชีวิต เขาคุกเข่าอยู่เพียงลำพังต่อหน้าดวงวิญญาณของมารดาเพื่อเฝ้าดูแลตอนนั้นเป็นฤดูหนาว มันหนาวมาก ข้างนอกมีลมหนาวพัดมาเรื่อย ๆ ธงกับใบไม้ปลิวไสวไปหมด เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในใต้หล้านี้โดดเดี่ยวและไร้ซึ่งความช่วยเหลือ!เวลานี้ เขามองหลิงอวี๋แม้ว่าข้างนอกจะมีสหายน้องพี่มากมาย แต่เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่าเหลือเพียงตนอยู่คนเดียวในใต้หล้า!เขาโตขึ้น และมีความสามารถแล้ว!ไม่มีทางรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่มีความช่วยเหลืออีก!แต่ความรู้สึกจิตใจว่างเปล่านี้มาจากที่ใดกัน?หลิงอวี๋กลายเป็นคนสำคัญสำหรับตนถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?เซียวหลินเทียนมิกล้าคิดลึกซึ้ง แล้วทำเพียงจ้องมองหลิงอวี๋อย่างว่างเปล่าค่ำคืนได้กลืนกินเขาเข้าไปทีละน้อย ตะเกียงน้ำมันริบหรี่และดับลง ทำให้ทั้งห้องมืดมิดไปหมดเช่นเดียวกับเวลานี้ที่สภาพจิตใจของเซียวหลินเทียนมอ
เมื่อถึงเวลาเที่ยง อาการของหลิงอวี๋ก็แย่ลง ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยน้ำค้างแข็งแล้วมีรอยน้ำค้างแข็งบนคิ้วของนางเซียวหลินเทียนกับหลิงเสี่ยงต่างก็ตกใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องความขัดแย้งของกันและกัน แล้วเฝ้าอยู่ข้างเตียงของหลิงอวี๋ด้วยกัน“เหตุใดพวกของเสี่ยวหาวจึงยังมิพบยาแก้พิษอีก!”หลิงเสี่ยงรู้สึกถึงความเจ็บปวดของหลิงอวี๋ พลางเดินไปรอบห้องอย่างกังวลใจ“ข้าได้ส่งคนออกไปตามหาอีกกลุ่มแล้ว น่าจะยังทัน!”เซียวหลินเทียนกังวลมากจนแทบบ้า เขามองดูท่าทางไร้ชีวิตของหลิงอวี๋ไม่ได้จึงเดินออกไปข้างนอก“ท่านอ๋อง จู่ ๆ บ่าวก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้...”หลิงซวนวิ่งไปพร้อมกับขวดยาเล็ก ๆ “เมื่อครู่บ่าวกำลังค้นล่วมยาของคุณหนูอยู่ เพื่อจะหายาที่สามารถแก้พิษได้ แล้วบ่าวก็เห็นสิ่งนี้เข้า...”“นี่คือยาที่คุณหนูเตรียมไว้เพื่อแก้พิษท่านผู้เฒ่ากวนครั้งที่แล้ว บ่าวสงสัยว่าจะให้ยานี้กับคุณหนูก่อนได้หรือไม่ บางทีมันอาจจะบรรเทาอาการของพิษได้!”“มันจะได้ผลหรือ?”เซียวหลินเทียนมิกล้าลองอะไรง่าย ๆ ใครจะรู้ว่ากินมันไปแล้วจะเร่งการพัฒนาพิษของหลิงอวี๋หรือไม่!“น่าจะได้ผลเพคะ! ตอนนั้นคุณหนูบอกว
หลังจากป้อนยาเหล่านี้ไประยะหนึ่งแล้ว เซียวหลินเทียน หลิงเสี่ยง หลิงหว่านและคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบเตียงต่างก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของหลิงอวี๋น้ำค้างแข็งที่อยู่บนใบหน้าของนางกลายเป็นหยดน้ำแล้วหยดลงมายังมิทันที่หลิงซวนจะไปหาผ้ามาเช็ดหน้าให้หลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนก็ก้าวไปเช็ดน้ำออกจากใบหน้าของนางด้วยแขนเสื้อของเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงเอ่ยเสียงทุ้ม“อย่าเพิ่งประกาศออกไปว่าช่วยหลิงอวี๋ได้แล้ว! ข้าจะดูว่าหมอเฝิงจะนำยาแก้พิษกลับมาได้หรือไม่!”เมื่อเห็นว่าอาการของหลิงอวี๋ดีขึ้นแล้ว หลิงเสี่ยงก็รู้สึกโล่งใจไปบ้าง เขายิ้มเยาะพลางเอ่ย “กล้าทำร้ายน้องสาวของข้า ข้าจะไม่มีวันปล่อยหมอเฝิงผู้นี้เด็ดขาด!”หลิงเสี่ยงกลอกตาพลางเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ “เซียวหลินเทียน ท่านหายาพิษที่เหลืออีกครึ่งห่อเจอแล้วมิใช่หรือ? ขอกระหม่อมเถิด!”“คนเลวทรามเช่นนี้ก็ควรปฏิบัติจะต่อเขาแบบเดียวกับที่เขาทำ ให้เขาได้ลิ้มรสยาพิษของตนดูเสียบ้าง!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ยาอยู่กับท่านจินต้า ประเดี๋ยวข้าจะให้เขาเอามาให้เจ้า!”“ท่านอ๋อง ท่านพี่เสี่ยวเสี่ยง พวกท่านออกไปก่อนเถิด! พวกเราจะผลัดผ้าให้ท่านพี่หลิงหลิง!”เม
“ท่านอ๋อง กระหม่อมพยายามขุดรากของจินซาหลานนี้ก็เลยบาดเจ็บที่ขาพ่ะย่ะค่ะ!”หมอเฝิงชี้ไปที่ขาของตนราวกับจะแย่งเอาความดีความชอบเซียวหลินเทียนเห็นรอยเลือดบนขากางเกงของเขาก็ยิ้มบาง ๆ “หมอเฝิงทำงานหนักแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะเอามันไปช่วยพระชายา!”เซียวหลินเทียนเอาเหง้าส่งให้หลู่ชิ่งและขยิบตาให้ด้วยหลู่ชิ่งเข้าใจทันที เขามิกล้าใช้เหง้าจากหมอเฝิงเจอ ใช้เฉพาะเหง้าที่จ้าวซวนนำมาเท่านั้นหลิงเสี่ยงมองหมอเฝิงพลางยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเดินจากไปหลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์สองคนก็นำน้ำกับอาหารมาให้พวกจ้าวซวนกับหมอเฝิงแยกกันก่อนหน้านี้หมอเฝิงจงใจทำให้ขาของตนบาดเจ็บ เพราะอยากจะถ่วงเวลาให้กลับมาช้าหน่อย เพื่อที่หลิงอวี๋จะได้รอยาแก้พิษมิไหวไหนเลยจะคิดว่าเกิ่งเสี่ยวหาวจะเร่งให้กลับมา แล้วก็แบกเขาวิ่งเข้ามาด้วยตนเองโดยมิคำนึงถึงอาการบาดเจ็บของเขาเลยเขาเหนื่อยล้าจากการค้นหายามาทั้งวัน ทั้งกระหายน้ำทั้งหิว เมื่อเห็นเหยือกน้ำก็ดื่มเกือบทั้งหมดในอึกเดียวเซียวทงกำลังกังวลว่าหลิงอวี๋ตายแล้วหรือไม่ องครักษ์สองคนก็เข้ามาบอกนางว่าท่านอ๋องอี้เชิญให้ไปหาเซียวทงเดินตามองครักษ์ไปที่เรือนของหลิงอวี๋ด้วยควา
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร