ม่านอวี้อันจะไม่ผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูกชายเธอเด็ดขาด เมื่อตั้งมั่นจะเช่นนั้น ภายในห้องครัวจึงมีงานล้นมือ!
ทว่าเมื่อลงมือเข้าครัวกันจริงจัง เซียงเจียวกลับเป็นเด็กที่มีแต่ความน่ารัก เขาพูดเก่ง ขี้อ้อน และสิ่งที่ทำให้ม่านอวี้อันผิดคาดคือ เขาค่อนข้างขี้เกียจ นิสัยแบบนี้หากไม่คอยสอนหรือควบคุมให้ดี โตไปเขาต้องเป็นหนุ่มหล่อที่แผลงฤทธิ์ให้คนเอือมระอาแน่ ๆ ส่วนผิงกั่วของเธอ ไม่ว่าจะบอกให้ปอกกล้วย ร่อนแป้ง หรือนั่งรอนิ่ง ๆ เขาก็ไม่ส่งเสียงบ่น และยังทำงานของตนได้ดีอย่างที่ผู้ใหญ่แบบเยว่จือเทียบไม่ติด
“คนเก่งของแม่”
เธอชมผิงกั่ว และเขาก็ยิ้มเขินอายตอบ ลูกชายคนโตช่างเป็นสุภาพบุรุษแสนน่ารัก พอได้ยินแม่ชมพี่ชาย เซียงเจียวจึงหน้าง้ำหน้างอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ส่งเสียงประท้วง
“เอ ผิงเกอรู้ไหม เวลาเข้าครัวถ้าทำหบ้าบูดบึ้ง วันนั้นจะกินข้าวไม่อร่อย และยังท้องเสียด้วย” ม่านอวี้อันเอ่ย แน่นอนว่าผิงกั่วเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย เขาเลยพยายามยิ้มกว้าง แต่ภาพที่เห็นดูเหมือนอยากร้องไห้มากกว่า
“ผะ ผิงยิ้มเป็น” ผิงกั่วเอ่ย ท่าทางเขาประหม่ามิน้อย
“ใช่ลูกรัก แม่เห็นแล้ว” ม่านอวี้อันหัวเราะ เยว่จือที่ใช้ไข่ไก่ต้มประคบรอยช้ำที่แก้มพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนคนที่หน้าตาบอกบุญไม่รับอยู่ก่อนหน้านี้ก็ยิงฟันให้ม่านอวี้อัน ก่อนทำเสียงหึ ๆ ๆ เลียนแบบตัวร้ายในทีวี ซึ่งเป็นนักมวยปล้ำที่เขาชอบมาก
เซียงเจียวร้ายได้ใครนะ ม่านอวี้อันพยายามนึก ก่อนจะโทษไปถึงคนเป็นบิดาของเด็กชาย แจ็คสัน หยวน บุรุษผู้นี้ช่างดูลึกลับ และแน่นอนว่าตอนนี้ในหัวสมองเธอไม่มีภาพของเขาหลงเหลืออยู่ ดูเหมือนเจ้าของร่างจะไม่ใช่แค่ชิงชัง ทว่าคงจะเจ็บปวดกับผู้ชายอย่างเขามาก
“ตายไปซะได้ก็ดี!” ม่านอวี้อันหลุดคำพูดนั้นออกมา ทำให้ทุกคนหยุดมองเธออย่างสงสัย หญิงสาวเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
“เจียวเกอ ไม่อยากกินอาหารอร่อยฝีมือแม่เหรอ อันนี้เขาเรียกว่าไข่ข้นลาวาแสนนุ่ม แม่ผัดด้วยเนย ใส่เกลือนิดหน่อย มีพริกไทยขาวและต้นหอมซอยโรย แล้วยังมีมันฝรั่งบดที่กินแล้วเจียวเกอต้องชอบแน่ ๆ และแม่ยังแบ่งมันฝรั่งส่วนหนึ่งไปเฟรนช์ฟรายส์ทอดกินแบบร้อน ๆ เลย ลูกรู้ไหมว่าเวลาจิ้มกินกับซอสมะเขือเทศ มันจะเด็ดสะระตี่จนต้องเลียนิ้วมือ”
เซียงเจียวฟังแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิม เขาชอบที่แม่เล่า และอยากจะกินมันไว ๆ “น้องจะช่วยแม่ทำครัว”
ในที่สุดลูกชายคนเล็กก็ยอมร่วมมือ พร้อมสลัดความขี้เกียจทิ้งไป
เมื่อทำไข่ข้นและมันฝรั่งบดเสร็จ ก็เกิดเสียงดังล้งเล้งที่ด้านหน้าบ้านในส่วนที่ทำเป็นร้านอาหาร
“ใครมาตะโกนหน้าบ้านเสี่ยวจือ”
เยว่จือซึ่งคุ้นเคยเสียงนั้นดีหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ก่อนเอ่ยว่า
“เดี๋ยวหนูไปดูค่ะ มาดาม”
แต่ม่านอวี้อันไม่ปล่อยให้เด็กสาวไปคนเดียว เธอปิดเตาแก๊ส เช็กเตาอบซึ่งตอนนั้นเค้กกล้วยหอมเสร็จเรียบร้อยพอดี จึงยกออกจากเตานำมาพักบนตะแกรงสแตนเลสข้างนอก
เค้กกล้วยหอมนอกจากหน้าตาดีแล้ว กลิ่นยังลอยฟุ้งอบอวลชวนให้น้ำลายไหล เรียกได้ว่า ทั้งสองแฝด และเยว่จือ ต่างทำตาโต อยากกินจนเธอต้องทำเสียงดุ
“มันยังร้อนอยู่ อีกอย่างนี่คือของดีที่เราจะใช้ล่อเหยื่อ เรียกอาหารอื่น ๆ มาที่บ้านหลังนี้!”
จากนั้นม่านอวี้อันก็สั่งให้ผิงกั่วพาเซียงเจียวไปรอที่ห้องนั่งเล่นซึ่งติดกับห้องนอนพวกเขา พร้อมกำชับว่าหากเธอไม่เรียก เด็ก ๆ ทั้งสองคนห้ามออกมาจากที่นั่นเด็ดขาด
ประตูเหล็กเลื่อนเปิดออกทำให้เกิดเสียงดังน่ารำคาญพอ ๆ กับเสียงโวยวายจากด้านนอก ภาพแรกที่ม่านอวี้อันเห็นคือ สตรีวัยกลางคน อายุคงราว ๆ ห้าสิบกว่าปี
ยามนั้นเยว่จือเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก เธอพยายามออกมายืนอยู่ข้างหน้าม่านอวี้อัน แต่ก็มีอาการกล้า ๆ กลัว ๆ จนน่าสงสาร
“ป้าลี่ มีเรื่องอะไรหรือจ๊ะ” เมื่อเยว่จือคลำหาเสียงตัวเองพบก็ถามไถ่อีกฝ่าย
“หน็อย นังเด็กเหลือขอ ยังกล้าเรียกฉันว่าป้าอีกเหรอ แล้วคุณนายอันของแกก็เหมือนกัน มุดหัวอยู่ในบ้านสี่ห้าวัน แหม แกล้งทำเป็นสำออย อยากให้ลูกชายฉันวิ่งเต้นตามหมอให้สินะ มารยาชั้นต่ำอย่างกับละครรักดอกไม้โรยที่ฉายช่วงกลางวัน พวกเธอทั้งนายทั้งบ่าวมีดีตรงไหนหา ถึงกล้าคิดอยากให้คนอื่นเขาดูแล”
ลี่ฮุ่ยสาดคำพูดร้ายกาจราวกับปากของเธอมีของเน่าและหนอนตัวเป้ง ๆ อยู่ในนั้นจนม่านอวี้อันเกือบเหลืออด เธอกำหมัดแน่น พยายามข่มใจที่เดือดเอาไว้ อย่างไรเธอก็ต้องฉลาดให้มาก ด้วยจำเป็นต้องรู้ว่าที่ผ่านมาเยว่จือกับนายของเธอรับมือกับคนที่มาหาเรื่องอย่างไร
“พูดอะไรเกรงใจกันบ้างนะป้าลี่ อีกอย่างเป็นเพราะเฮียข่ายเขามีจิตใจดี ชอบแบ่งปันหนูกับคุณผู้หญิง เอ่อ มาดามอันต่างหาก”
ขณะเดียวกันลี่ฮุ่ยก็นึกว่าตนเองหูฝาด นอกจากเยว่จือจะกล้าต่อปากต่อคำกับตนราวกับมีใครหนุนหลัง เด็กสาวยังเรียกม่านอวี้อันว่า ‘มาดาม’ ผับผ่า นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“นี่คงป่วยหนักทั้งนายและขี้ข้าสินะ ถึงพูดจาพิลึกหูอย่างนี้” ลี่ฮุ่ยยังไม่หยุดล้งเล้งเสียงดัง ก่อนกวาดตามองหน้าของเยว่จือ
“แล้วนั่น หน้าแกไปโดนอะไรมาฮึ” ลี่ฮุ่ยจ้องใบหน้าแดงช้ำที่ตอนนี้เริ่มเขียวขึ้นของเยว่จือ ซึ่งอันที่จริง ช่วงที่ทำงานในครัว ม่านอวี้อันก็ให้เด็กสาวประคบไข่ต้มแล้ว
“หูหนวกรึ ป้าถามว่าหน้าแกไปโดนใครตบมา!”
ม่านอวี้อันทนฟังคนพูดจาไม่เข้าหูนานเกินไปแล้ว เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเรียบ ๆ ว่า
“เอ่อ... ป้าลี่ ฉันไม่ค่อยสบาย ตอนนี้ลูกรอกินข้าวอยู่ หากไม่มีธุระอะไร ฉันขอตัวก่อน”
“ต๊าย คุณนายอัน เปิดปากพูดเป็นแล้วรึ ป้านึกว่าที่ผ่านมาเธอกลัวทองจะร่วงจากปากเสียอีก เห็นกันมาสามสี่ปี นี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่ส่งเสียงตอบโต้ป้าเกินห้าคำ!”
ลี่ฮุ่ยเล่นใหญ่เล่นโต เธอคงไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือผู้หญิงเลือดร้อนและพร้อมบวกแบบจัดหนัก
“แล้วป้าลี่ล่ะ ยืนตะโกนป่าว ๆ อย่างนี้ ทำเหมือนฉันกับเย่วจือไปสร้างความเดือดร้อนให้”
“โอ๊ย เดือดร้อนสิ นี่ถ้าลูกชายป้าอยู่บ้าน คงวิ่งเต้นหาหมอมารักษาเธอแล้ว และไหนจะของกินของใช้อีก คอยแอบเอามาให้กันยามกลางค่ำกลางคืน เธอน่ะหัดเจียมตัวเสียบ้าง ลูกก็มีแล้ว หากไม่อายคนอื่นก็เห็นแก่ผมหงอกบนหัวฉันสักหน่อยเถอะ วัน ๆ คิดแต่จะให้ท่าทอดสะพานให้ลูกชายฉันอยู่ตลอด เห็นแล้วขัดหูขัดตาจริง ๆ”
ในที่สุดม่านอวี้อันก็รับรู้ความในใจของลี่ฮุ่ย อีกฝ่ายคงเป็นนางสิงห์หวงลูกชาย และ ‘อาข่าย’ หรือเจิ้งข่ายคงมีใจให้เจ้าของร่างนี้ไม่น้อย
“เรื่องหัวใจห้ามกันไม่ได้นะป้าลี่ ใครจะรักจะชอบกัน หรือแม้แต่เกลียดชัง ก็คงต้องปล่อยกันไป แล้วถ้ามีเรื่องอยากระบายแค่นี้ ฉันไม่ว่างรับฟัง!” ม่านอวี้อันเอ่ยจบ ก็ดึงแขนเยว่จือที่ยังยืนเซ่ออยู่ตรงนั้นให้เข้าบ้าน แต่เป็นลี่ฮุ่ยที่เอ่ยขัดเสียก่อน
“ฮึ ป้าจะบอกอะไรให้ ตอนนี้อาข่าย เขาไม่อยู่ร้านหรอก แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็กลัวผิงเกอกับเจียวเกอจะถูกเธอตบตี หรือไม่คงเอาไปขายให้แก๊งมังกรซิ่ง จึงขอร้องให้ฉันมาสอดส่องอยู่บ่อย ๆ”
Back to 1986 สิ่งที่ลี่ฮุ่ยเอ่ยขึ้นมานั้นสร้างความประหลาดใจแก่ม่านอวี้อัน ซึ่งหลังจากนั้น สตรีวัยกลางคนก็ได้ถือวิสาสะก้าวพรวด ๆ เข้าไปในบ้าน! “ป้ารู้หรอกนะ คุณนายมือบางตีนบางอย่างเธอจะทำอะไรเป็น พอถูกจับได้ว่าคิดขายลูกให้แก๊งมังกรซิ่งก็ทำสำออย ล้มหมอนนอนเสื่อ” ม่านอวี้อันไม่ตอบ เธออยากรู้หลายสิ่ง ซึ่งหากจะให้ดีก็ควรมาจากปากของลี่ฮุ่ยคนนี้ “ระวังคำพูดบ้างป้าลี่ กล่าวหาแบบนี้มันเกินไปหน่อย” เยว่จือทนไม่ไหวเลยต่อว่าลี่ฮุ่ย ม่านอวี้อันยกมือห้ามเยว่จือ เด็กสาวเลยเก็บปากเงียบ “เฮ้อ คุณนายอัน อย่าหาว่าสอนเลยนะ เธอน่ะ เปิดร้านอาหารไม่รุ่งหรอก ทางที่ดีหัดรับจ้างซักผ้า หรือไม่ก็ยอมเหนื่อยหน่อย รับงานร้อยดอกไม้หรือพับถุงกระดาษขายคงพอมีเงินซื้อข้าวสาร ซื้อไข่อยู่บ้าง อย่าได้รักสบายไปหน่อยเลย สงสารนังหนูเยว่จือบ้าง อีกสักหน่อยมันคงต้องออกเรือน ไม่อยู่ให้เธอกดหัวใช้งาน” เยว่จือส่ายหน้าเร็วหวือ เธอไม่เคยคิดเช่นนั้น ม่านอวี้อันไม่เคยใจร้ายต่อเธอ อีกทั้งก่อนหน้านี้ บิดาและมารดาอีกฝ่ายก็เป็นคนรับเธอมาอุปการะ เพื่อให้เธอไม่ต้องถูกขายในซ่อง!
ตำรับลับเทพปรุงรส “เหยื่อที่ว่า คือป้าลี่ใช่ไหมคะ” เยว่จือเริ่มเข้าใจหลายสิ่งแล้ว ม่านอวี้อันอมยิ้ม “ใช่ คนแบบนี้แหละ สมควรเป็นเหยื่อของฉัน ป้าลี่คือโทรโข่งชั้นดี และจะส่งเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน ไม่ช้าฉันก็จะมีชื่อเสียง” ม่านอวี้อันตอบเยว่จือ แน่นอนว่าฝีมือเชฟเหรียญทองที่มีรายการอาหารเป็นของตัวเองถึงสองรายการ เหตุใดจะเนรมิตเค้กกล้วยหอมที่ตราตรึงใจผู้คนมิได้ ซึ่งนอกจากอาชีพเชฟ ม่านอวี้อันในโลกก่อนที่เธอจะจากมามีทรัพย์สินรวมแล้วเกินพันล้านเหรียญดอลลาร์ ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะกลุ่มลูกค้าที่สนับสนุนเธอเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จนมีทั้งคนรักมาก และคนที่จ้องโจมตีเธออยู่ตลอด โดยเฉพาะคู่แข่งทางการค้า แต่สุดท้ายคนที่น่ากลัวที่สุดกลับเป็นผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอมาหลายปี! หญิงสาวสลัดเรื่องที่ผ่านมาทิ้ง อย่างไรเธอก็อยู่ในร่างคนอื่น ฉะนั้นต้องสู้ด้วยสิ่งที่มีตอนนี้ เธอคือ ม่านอวี้อัน คุณแม่ลูกแฝดแสนน่ารัก แน่นอนเธอทำอาหารได้ และยังทำได้ดีเสียด้วย นั่นคือสิ่งที่เธอมาได้เรียนรู้จากยายกับแม่เลี้ยง ทว่าโลกที่หลุดเข้ามานี้ ถึงจะคล้ายโลกของเธอมากจนแยกไม่ออก แต่สิ่งส
กู๋กุ่ย (คุณลุงผี) ภายในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ มีชั้นหนังสือสูง ๆ อยู่มุมหนึ่ง กลางห้องเป็นโต๊ะพับลายตัวอักษรและตัวเลข พร้อมสมุดวาดรูป ดินสอสี และของเล่นอีกหลายอย่างที่ถูกเด็กทั้งสองคนรื้อออกมาเล่น และไม่ทันได้เก็บ นานแล้วที่แม่บอกให้รออยู่ที่นี่ ซึ่งผิงกั่วได้แต่ยืนแข็งเป็นหุ่นยนต์ขวางอยู่หน้าประตู เพราะน้องชายกำลังจะก่อเรื่อง เซียงเจียวหน้าหงิกหน้างอเมื่อเห็นพี่ชายเฝ้าประตูอยู่อย่างนั้น “น้องเป็นผีดูดเลือด จะกัดแล้วนะ แฮร่ ๆ ถอยไปเฮียผิง” ผิงกั่วยืนนิ่ง คำสั่งแม่บอกไว้ชัดเจนว่าไม่ให้ใครออกจากห้องนี้ หากแม่ไม่มาเรียก เขาเชื่ออย่างนั้น และจะทำตามโดยไม่บิดพลิ้ว ด้วยก่อนหน้านี้ยังจำได้ว่าเวลาแม่โมโหทำให้เขากลัว อีกอย่างตอนที่แม่โมโหมาก ๆ แล้วสลบไปนั้น ใจเขาแทบจะแหลกสลาย เขาเสียใจ เป็นทุกข์ ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก! “เฮียผิง ถอย!” เซียงเจียวว่าเสียงสูง ๆ ซึ่งอีกไม่นานหากยังถูกขัดใจอยู่แบบนี้เขาจะร้องให้ลั่นบ้านเลย “นั่ง” ผิงกั่วออกคำสั่ง “ไม่... น้องจะออกไปข้างนอก เฮียผิงเห็นเค้กนั่นไหม มัมมี้ทำสวย มันน่ากิน หอมด้วย เราไปกินก
จับผิดนางจิ้งจอก เมื่อขนมหมดลง พร้อมความหอมหวานที่ติดอยู่ในปาก เซียงเจียวก็ทั้งเลียมือและดูดนิ้ว จากนั้นประตูห้องนั่งเล่นก็มีเสียงหมุนลูกบิด! ผิงกั่วใจหล่นหายเขายืนนิ่งค้างราวกับสมองหยุดสั่งงานไปเสียดื้อ ๆ “อ๊ะ... เฮียผิง!” เสียงเล็กแหลมของน้องชายแผดดังเรียกสติ จากนั้นผิงกั่วจึงไม่รอช้า เขารู้ว่าแม่ไม่อยากให้ลุงผีมาที่บ้านอีก ผู้ชายตัวโตคนนี้เคยทำให้แม่ยุ่งยากใจทั้งยังเสียน้ำตาหลายหน แล้ววันนี้เขาได้ทำเรื่องน่าละอาย เผลอกินของจากอีกฝ่าย ไม่ได้การละ เขาจะทำให้แม่เสียใจไม่ได้ แม่คือโลกทั้งใบของผิงกั่ว เขาจะไม่ทำให้แม่เสียใจ! ร่างของคนเจ้าเนื้อพุ่งไปยังประตูเพื่อขวางไม่ให้คนเปิดเข้ามาได้ “ไม่!” เด็กชายร้องอยู่สองสามหน และนั่นทำให้คนที่อยู่ด้านนอกแปลกใจ “เด็ก ๆ เกิดอะไรขึ้น!” ม่านอวี้อันใจเสียและร้อนรน เธอพยายามหมุนลูกบิด แต่เหมือนจะมีปัญหา “ผิงเกอ เจียวเกอ!” หญิงสาวเรียกลูกชายและปล้ำลูกบิดประตูเฮงซวยอยู่เกือบอึดใจใหญ่ ๆ กระทั่งมันเปิดออกได้ ซึ่งเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ผิงกั่วโผเข้าไปกอดม่านอวี้อัน ส่วนน้องชายก็แสร้งร
แมวตัวผู้ หลบอยู่ในบ้านลูกกวาด เยว่จือกำลังดูแลสองแฝดในครัวที่กำลังมีความสุขมากกับอาหารง่าย ๆ ที่ม่านอวี้อันทำให้ พอเด็กสาวเห็นม่านอวี้อันถือของกินเข้ามา เธอจึงกุลีกุจอไปช่วยถือ ขณะนั้นเด็กชายทั้งสองต่างมองตาโต พวกเขาคิดว่าวันนี้คงเป็นปีใหม่หรือวันเด็ก แม่ถึงได้รับของแจกเข้าบ้านเยอะแยะไปหมด “มัมมี้ ให้น้องช่วยไหม” เซียงเจียวยิ้ม ดวงตากลมโตของเขาเป็นประกาย “ไม่เป็นไรเจียวเกอ กินข้าวให้เรียบร้อย เวลาเคี้ยวอาหารต้องไม่พูดนะจ๊ะ เดี๋ยวติดคอ” เซียงเจียวพยักหน้ารับคำม่านอวี้อัน ส่วนผิงกั่วหันมามองเธอ สายตาเขาดูมีพิรุธอยู่สักหน่อย “เอ ผิงเกอ ไม่ชอบไข่ข้นกับมันฝรั่งบดเหรอลูก กินหมี่ผัดกับไก่ย่างไหม ป้าลี่เอามาฝาก” เธอบอกลูกคนโตแล้ววางจานอาหารที่ลี่ฮุ่ยเอามาให้ลงบนโต๊ะ เด็กชายไม่ตอบแต่หันไปมองไก่ย่าง พอเห็นน้องชายหยิบขาไก่ขึ้นกัด เขาจึงเลือกชิ้นที่ชอบแล้วนั่งกินเงียบ ๆ ผิงกั่วของเธอช่างเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย “มาดามเรียกอาหารเข้าบ้านได้จริงด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เยว่จือถาม เด็กสาวตื่นเต้นไม่แพ้ฝาแฝด ม่านอวี้อันไม่ใช่เทพเซียนหรือน
สองวันต่อมาอันที่จริงม่านอวี้อันนอนหลับไม่สนิทในตอนกลางคืน ทั้งที่ห้องนอนนี้โล่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนลูกชายทั้งสองคนก็นอนที่ห้องของพวกเขา เยว่จืออยู่ห้องส่วนตัวติดครัว และถึงแม้เธอจะได้นอนห้องใหญ่ที่อยู่ปีกทางซ้ายของบ้านซึ่งมีห้องน้ำในตัว แต่สาเหตุของการนอนไม่หลับ นั่นเป็นเพราะกังวลใจ ยิ่งถามถึงเรื่อง ‘กู๋กุ่ย’ กับเยว่จือ ม่านอวี้อันก็พลอยใจคอไม่อยู่กับเนื้อตัว อีกทั้งท่าทางแปลก ๆ ของผิงกั่วก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเยว่จือ มีผู้ชายซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้ ผู้ชายที่ลูก ๆ ของเธอเรียกเขาว่า ‘กู๋กุ่ย’ หรือ ‘ลุงผี’ เขาเป็นแมวที่ไม่ได้คิดมาขโมยกินข้าวของในบ้าน แต่มีแผนร้ายอื่นแอบแฝง และม่านอวี้อันต้องสืบค้นต้นสายปลายเหตุให้ได้ “เธอพูดเหมือนลุงผีนั่นคุ้นเคยบ้านหลังนี้ดี” เยว่จือมองม่านอวี้อันอย่างไม่เชื่อหูตนเองว่าคุณผู้หญิงจะถามเช่นนี้ “มาดามลืมทุกอย่างจริง ๆ เหรอคะ ทั้งที่เป็นคนป้อนยา ลากเขาเข้าบ้าน แถมเอ่อ... อาบน้ำ โกนหนวดเครา และตัดผมให้เขาด้วย” “อย่าซี้ซั้วพูด ฉะ ฉันจะไปทำเรื่องพรรค์นั้นได้ยังไง” “แหม มาดามทำไปแล้ว แถมยังเป็นคนซ่อนกู
“เอ๋ นะ นายคือลุงผี!?” ในที่สุดม่านอวี้อันก็หลุดชื่อคนตัวโตออกไป ซึ่งผู้ชายคนนี้ส่งกระแสคุกคามกลับมาถึงเธอ เขาไม่ได้ดูสุภาพอย่างอีธาน แฟนหนุ่มผู้แสนดีที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ร้าย ๆ ของหญิงสาวอยู่หลายปี และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องน่ากลัวจนพรากลมหายใจของ ลิซ่า จาง ให้หลุดลอยกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ม่านอวี้อันสูดลมหายใจลึก เธอย่อมรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่มีอีธาน คนแสนดีสองหน้า ผู้ชายที่กล้าหักหลังเธออย่างเจ็บแสบ! ส่วนผู้ชายที่ยืนมาดเท่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนที่ไม่ควรอยู่ใกล้หรือไว้ใจ กระแสคุกคามอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่ทำให้ม่านอวี้อันคล้ายถูกหมัดใหญ่ ๆ น็อกกลางอากาศ “อาอัน เธอสวยขึ้นจนผิดหูผิดตารู้ไหม” ชายหนุ่มพูดตามความจริง ความเจ้าเนื้อของเธอหายไป ยามนี้เขาแปลกใจกับท่าทางที่ดูไม่ปกติสักเท่าไรของม่านอวี้อัน ประหนึ่งเธอกระโดดออกมาจากตัวละครร้าย ๆ ในทีวีที่ชอบส่งเสียงสูง ๆ วางสีหน้าหงิกงอบ่อยครั้ง ทว่าดูมีสีสันชวนให้ค้นหา ทั้งเธอยังดูมีชีวิตชีวาคล้ายสมองกำลังคิดสิ่งต่าง ๆ ไม่หยุด มันจึงทำให้เขารู้ว่าเธอเองก็อยากมีชีวิ
คุกกี้ไอศกรีม ม่านอวี้อันให้การต้อนรับกลุ่มแม่บ้านของลี่ฮุ่ยตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง จากนั้นจึงให้ทุกคนพักกลับไปกินข้าวที่บ้านและดูแลสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ของพวกหล่อน และเป็นเช่นนี้มาเกือบสองวันแล้ว นับแต่ทุกคนอดทนแช่เค้กกล้วยหอมของเธอในตู้เย็นเพื่อกินในเช้าวันรุ่งขึ้น ผลที่ได้รับก็นับว่าเป็นไปตามที่ม่านอวี้อันวางแผน ซึ่งมันเหนือความคาดหมายมิน้อย เพราะเธอให้เยว่จือนำขนมอีกอย่างไปให้สมาคมแม่บ้านไพ่นกกระจอกกินด้วย มันคือ ‘ไอศกรีมคุกกี้’ เป็นของแปลกใหม่ ทั้งยังมีส่วนผสมง่าย ๆ จากแป้งเค้ก น้ำตาลไอซิ่ง เนย ผงต่าง ๆ แล้วก็ช็อกโกแลตสับหยาบ ๆ ซึ่งสูตรนี้เธอไม่ได้ใส่ไข่ไก่ลงไป แต่ถึงจะมีส่วนผสมแบบพื้นฐาน รสชาติก็กำลังดี ไม่หวานจัด ทั้งเข้มข้น กินเล่นได้ หรือจะกินรองท้องในมื้อเช้ายิ่งเหมาะ แถมหน้าตาเหมือนไอศกรีมก้อนที่ตักขายใส่ในขนมปังที่กำลังได้รับความนิยมช่วงนี้ เมื่อเอ่ยถึงขนมคุกกี้ไอศกรีมดังกล่าวแล้วก็ต้องยกความดีให้กับแจ็คสัน เพราะในถุงกระดาษใบใหญ่นั้น เขาใส่ผงกาแฟบด ผงโกโก้ ช็อกโกแลตแท่ง ทั้งยังมีบรั่นดีที่เหมาะสำหรับทำอาหาร รวมถึงแยมสตรอว์เบอร์รี พลอยให้เธอแปลกใ
ม่านอวี้อันยืนอยู่เบื้องหน้าทุกคน เธองามสง่าราวกับนางพญาที่พร้อมออกรบ เป็นกุนซือหญิงผู้คอยออกคำสั่งให้แม่ทัพ จัดการฆ่าศึกอย่างโหดเหี้ยม “ร้านเล็ก ๆ ของเรายินดีรับใช้ พี่ถัง และอาอิง รวมถึงเป็นเกียรติยิ่งนัก ที่พี่น้องในแก๊งมังกรซิ่งมาเยี่ยมเยียน” น้ำเสียงเจ้าของร้านกังวาน ไม่แข็งกร้าว หากแต่น่าฟัง กระนั้นก็เปี่ยมด้วยความถือตัวและจองหองอยู่ในที เมื่อก่อนม่านอวี้อันไม่เคยเป็นเช่นนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนเกิดข้อสงสัยในใจ “คุณนายอัน พูดเสียอย่างนี้ลูกน้องอั๊วตกใจหมด พวกเราล้วนเป็นคนกันเองแท้ ๆ” ม่านอวี้อันยิ้มหวานหยด แต่ไม่ใช่รอยยิ้มยั่วยวน และไม่รู้เหตุใดทุกคนที่อยู่ที่นั่งโต๊ะซึ่งต่อยาวกันไปนั้นถึงเสียวสันหลังวาบ ๆ ร้านอาหารนี้กลายเป็นบ้านผีสิงตั้งแต่เมื่อไร “ขวัญอ่อนกันจริงเชียว เป็นหนุ่มฉกรรจ์แท้ ๆ ระหว่างที่กินอาหารไป วันนี้เป็นโอกาสดี ด้วยมีการถ่ายทอดชกมวยสากล ฉันกำลังเชียร์อยู่หลายคน อย่างไรขอเปิดทีวีเครื่องเล็ก ๆ ไปด้วยนะพี่ถัง หวังว่าจะไม่สร้างความรำคาญ...” “แล้วแต่คุณนายเถอะ...” ไห่ถังตัดความเรื่องมากของหญิงสาวทิ้ง และอย
ยกที่หนึ่ง แก๊งมังกรซิ่งดูแลเมืองเก่ามาหลายปี ก่อนหน้านั้นมีเหตุนองเลือดอยู่บ่อย ๆ กระทั่งผลักดันกลุ่มชาวต่างชาติย้ายไปฝั่งเมืองใหม่ได้สำเร็จจึงสงบขึ้น กระนั้นก็มีกลุ่มอิทธิพลมากมายที่พยายามเข้ามายึดถนนเนี่ยอิน หากสุดท้ายไห่ถังรวบรวมพรรคพวกได้เยอะที่สุดจึงได้ดูแลที่นี่ โดยมีเจ้าพ่อเหวินเฉียงเป็นประมุขของแก๊งมังกรซิ่ง ซึ่งฝ่ายนั้นสืบทอดอำนาจมาจากบิดาเขาอีกที เมื่อไห่ถังมาถึงหน้าร้านอาหารของม่านอวี้อัน เขาก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก เกิดอะไรขึ้นกับร้านเก่าแก่แห่งนี้ เมื่อก่อนเจ้าของคือชายชาวต่างชาติ อีกฝ่ายขายให้กับม่านอวี้อันในราคาแสนถูกเพื่อตอบแทนความดีของเธอที่ดูแลภรรยาเขาก่อนสิ้นใจ ยามนี้กลับมีธงเล็ก ๆ และภาพนักกีฬาที่ส่งไปแข่งขันชิงเหรียญต่าง ๆ ในกีฬาระดับชาติติดหน้าร้าน ม่านอวี้อัน วางแผนสิ่งใดอยู่ โดยเฉพาะการเขียนป้ายเชียร์ ‘ไทสัน’ นักมวยที่ต้องบอกว่า เวลานี้ไร้ชื่อเสียง “นังคุณนายคงเพี้ยนจนหาเรื่องเล่นตลกสินะ” ไห่ถังว่า ก่อนกวาดตามองพื้นที่ของร้าน เขาพอใจมาก มีลานกว้างด้านหน้า และยังมีทางเข้าหลายทาง อีกทั้งตั้งอยู่ตรงกลางถนนเนี่ยอิน รถผ่านไปมาอยู่ตลอด
“ป้าลี่... มั่นใจอย่างไรว่านังจิ้งจอกอวี้อันไม่ได้วางแผนหลอกใช้เรา” ลี่ฮุ่ยหรือจะยอมให้เด็กรุ่นลูกมาถอนหงอกตัวเอง ไม่มีทางเสียละ การที่หล่อนคบค้ากับโรสเพราะเถ้าแก่โจวเป็นคนกว้างขวาง ส่วนเด็กน้อยคนนี้ หล่อนแค่ใส่หน้ากากพูดจาดีด้วย อย่างน้อยที่สุดโรสก็ไม่คิดอยากได้ผลประโยชน์ใด ๆ จากหล่อน ให้ดีหน่อยก็แค่แข่งขันอวดร่ำอวดรวยและความสามารถของตนเท่านั้น “โถ หลอกใช้อะไรกัน แบบนี้เขาเรียกยื่นหมูยื่นแมว ป้าก็เห็นว่าคุณนายอันเปิดบ้านให้เราดูเธอทำขนม แล้วนั่น ไอ้บราวนี่ก็น่าสนใจ ป้าเคยกินนะ ถึงจะนานแล้ว เป็นขนมพวกคนหัวทอง ตาสีอ่อน มันไม่ใช่เค้กนุ่มฟู เรียกว่าคุกกี้บาร์คงได้ เนื้อแน่นหนึบ มีความฉ่ำ รสก็เข้มข้น และบราวนี่ยังติดหนึ่งในสิบขนมฮิตตลอดกาลอยู่เสมอ ว่าแต่น้องโรสเถอะ เรียนโรงเรียนนานาชาติแท้ ๆ ทำไมยังเรียกชื่อขนมผิดอีก!” ตอนนั้นเองที่โรสอยากจะกรี๊ด เธอเสียหน้า แต่ยังอดทนไว้ได้ ก่อนจะชะเง้อคอมองอาหารที่ลี่ฮุ่ยเตรียมนำขึ้นโต๊ะเย็นนี้ “ฉันไม่ชอบกินของหวานและพวกอาหารขยะ ทำไมฉันต้องเหลือบแลบราวนี่ด้วย ส่วนป้าล่ะ... เย็นนี้จะทำอาหารพื้น ๆ อะไรมาให้ขายหน้าคนอื่น!”
เตรียมอาหารเลี้ยงวันเกิด ม่านอวี้อันปล่อยให้ลี่ฮุ่ยและสมาคมแม่บ้านทั้งหมดทำอาหารของพวกหล่อนไป ส่วนหญิงสาวเตรียมอุปกรณ์พร้อมเช็กเตาอบเพื่อดูอุณหภูมิให้คงที่ สิ่งที่เธอจะลงมือต่อจากนี้คือบราวนี่และไอศกรีมรสกะทิ กลุ่มแม่บ้านดูจะสนใจอยู่หรอก แต่พวกเธอคิดว่ามันไม่ได้ทำยากเย็นอะไร เนื่องจากถนนเนี่ยอินมีรถเข็นขายไอศกรีมอยู่สองเจ้า และโรงทำไอศกรีมก็อยู่ในซอยนี้ รสชาติพื้น ๆ หอม หวาน มัน ไม่มีสิ่งใดพิเศษ แต่สิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นโรสหรือลี่ฮุ่ยคอยชะเง้อคอยืดคอยาวมองหญิงสาวคือ การทำบราวนี่ แต่รอดูอยู่นาน ม่านอวี้อันก็ไม่ลงมือเสียที! ลี่ฮุ่ยจึงได้แต่ทำท่าทีฮึดฮัด ส่วนโรสพ่นลมหายใจร้อน ๆ อยู่หลายหนและเริ่มคิดว่านังจิ้งจอกม่านอวี้อันกำลังวางแผนร้ายหลอกใช้พวกตนอยู่หรือไม่ เพราะเค้กกล้วยหอมก็ยังแกะสูตรอีกฝ่ายไม่สำเร็จ แถมตอนนี้ยังต้องมาแข่งกันทำอาหารเลี้ยงงานวันเกิดให้เจ้าอิง น้องสาวไห่ถังอีก ในเวลานั้นเซียงเจียวกับผิงกั่วเรียนเขียนตัวอักษรมาเกือบชั่วโมงแล้ว พวกเขาเลยได้รับอนุญาตให้เข้ามาดูในครัว แต่ทำได้เพียงแค่ดูเท่านั้น เพราะม่านอวี้อันยังไม่อยากให้เด็ก ๆ ช่วยงานในวันนี้ เนื่อ
คุกกี้ไอศกรีม ม่านอวี้อันให้การต้อนรับกลุ่มแม่บ้านของลี่ฮุ่ยตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง จากนั้นจึงให้ทุกคนพักกลับไปกินข้าวที่บ้านและดูแลสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ของพวกหล่อน และเป็นเช่นนี้มาเกือบสองวันแล้ว นับแต่ทุกคนอดทนแช่เค้กกล้วยหอมของเธอในตู้เย็นเพื่อกินในเช้าวันรุ่งขึ้น ผลที่ได้รับก็นับว่าเป็นไปตามที่ม่านอวี้อันวางแผน ซึ่งมันเหนือความคาดหมายมิน้อย เพราะเธอให้เยว่จือนำขนมอีกอย่างไปให้สมาคมแม่บ้านไพ่นกกระจอกกินด้วย มันคือ ‘ไอศกรีมคุกกี้’ เป็นของแปลกใหม่ ทั้งยังมีส่วนผสมง่าย ๆ จากแป้งเค้ก น้ำตาลไอซิ่ง เนย ผงต่าง ๆ แล้วก็ช็อกโกแลตสับหยาบ ๆ ซึ่งสูตรนี้เธอไม่ได้ใส่ไข่ไก่ลงไป แต่ถึงจะมีส่วนผสมแบบพื้นฐาน รสชาติก็กำลังดี ไม่หวานจัด ทั้งเข้มข้น กินเล่นได้ หรือจะกินรองท้องในมื้อเช้ายิ่งเหมาะ แถมหน้าตาเหมือนไอศกรีมก้อนที่ตักขายใส่ในขนมปังที่กำลังได้รับความนิยมช่วงนี้ เมื่อเอ่ยถึงขนมคุกกี้ไอศกรีมดังกล่าวแล้วก็ต้องยกความดีให้กับแจ็คสัน เพราะในถุงกระดาษใบใหญ่นั้น เขาใส่ผงกาแฟบด ผงโกโก้ ช็อกโกแลตแท่ง ทั้งยังมีบรั่นดีที่เหมาะสำหรับทำอาหาร รวมถึงแยมสตรอว์เบอร์รี พลอยให้เธอแปลกใ
“เอ๋ นะ นายคือลุงผี!?” ในที่สุดม่านอวี้อันก็หลุดชื่อคนตัวโตออกไป ซึ่งผู้ชายคนนี้ส่งกระแสคุกคามกลับมาถึงเธอ เขาไม่ได้ดูสุภาพอย่างอีธาน แฟนหนุ่มผู้แสนดีที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ร้าย ๆ ของหญิงสาวอยู่หลายปี และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องน่ากลัวจนพรากลมหายใจของ ลิซ่า จาง ให้หลุดลอยกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ม่านอวี้อันสูดลมหายใจลึก เธอย่อมรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่มีอีธาน คนแสนดีสองหน้า ผู้ชายที่กล้าหักหลังเธออย่างเจ็บแสบ! ส่วนผู้ชายที่ยืนมาดเท่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนที่ไม่ควรอยู่ใกล้หรือไว้ใจ กระแสคุกคามอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่ทำให้ม่านอวี้อันคล้ายถูกหมัดใหญ่ ๆ น็อกกลางอากาศ “อาอัน เธอสวยขึ้นจนผิดหูผิดตารู้ไหม” ชายหนุ่มพูดตามความจริง ความเจ้าเนื้อของเธอหายไป ยามนี้เขาแปลกใจกับท่าทางที่ดูไม่ปกติสักเท่าไรของม่านอวี้อัน ประหนึ่งเธอกระโดดออกมาจากตัวละครร้าย ๆ ในทีวีที่ชอบส่งเสียงสูง ๆ วางสีหน้าหงิกงอบ่อยครั้ง ทว่าดูมีสีสันชวนให้ค้นหา ทั้งเธอยังดูมีชีวิตชีวาคล้ายสมองกำลังคิดสิ่งต่าง ๆ ไม่หยุด มันจึงทำให้เขารู้ว่าเธอเองก็อยากมีชีวิ
สองวันต่อมาอันที่จริงม่านอวี้อันนอนหลับไม่สนิทในตอนกลางคืน ทั้งที่ห้องนอนนี้โล่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนลูกชายทั้งสองคนก็นอนที่ห้องของพวกเขา เยว่จืออยู่ห้องส่วนตัวติดครัว และถึงแม้เธอจะได้นอนห้องใหญ่ที่อยู่ปีกทางซ้ายของบ้านซึ่งมีห้องน้ำในตัว แต่สาเหตุของการนอนไม่หลับ นั่นเป็นเพราะกังวลใจ ยิ่งถามถึงเรื่อง ‘กู๋กุ่ย’ กับเยว่จือ ม่านอวี้อันก็พลอยใจคอไม่อยู่กับเนื้อตัว อีกทั้งท่าทางแปลก ๆ ของผิงกั่วก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเยว่จือ มีผู้ชายซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้ ผู้ชายที่ลูก ๆ ของเธอเรียกเขาว่า ‘กู๋กุ่ย’ หรือ ‘ลุงผี’ เขาเป็นแมวที่ไม่ได้คิดมาขโมยกินข้าวของในบ้าน แต่มีแผนร้ายอื่นแอบแฝง และม่านอวี้อันต้องสืบค้นต้นสายปลายเหตุให้ได้ “เธอพูดเหมือนลุงผีนั่นคุ้นเคยบ้านหลังนี้ดี” เยว่จือมองม่านอวี้อันอย่างไม่เชื่อหูตนเองว่าคุณผู้หญิงจะถามเช่นนี้ “มาดามลืมทุกอย่างจริง ๆ เหรอคะ ทั้งที่เป็นคนป้อนยา ลากเขาเข้าบ้าน แถมเอ่อ... อาบน้ำ โกนหนวดเครา และตัดผมให้เขาด้วย” “อย่าซี้ซั้วพูด ฉะ ฉันจะไปทำเรื่องพรรค์นั้นได้ยังไง” “แหม มาดามทำไปแล้ว แถมยังเป็นคนซ่อนกู
แมวตัวผู้ หลบอยู่ในบ้านลูกกวาด เยว่จือกำลังดูแลสองแฝดในครัวที่กำลังมีความสุขมากกับอาหารง่าย ๆ ที่ม่านอวี้อันทำให้ พอเด็กสาวเห็นม่านอวี้อันถือของกินเข้ามา เธอจึงกุลีกุจอไปช่วยถือ ขณะนั้นเด็กชายทั้งสองต่างมองตาโต พวกเขาคิดว่าวันนี้คงเป็นปีใหม่หรือวันเด็ก แม่ถึงได้รับของแจกเข้าบ้านเยอะแยะไปหมด “มัมมี้ ให้น้องช่วยไหม” เซียงเจียวยิ้ม ดวงตากลมโตของเขาเป็นประกาย “ไม่เป็นไรเจียวเกอ กินข้าวให้เรียบร้อย เวลาเคี้ยวอาหารต้องไม่พูดนะจ๊ะ เดี๋ยวติดคอ” เซียงเจียวพยักหน้ารับคำม่านอวี้อัน ส่วนผิงกั่วหันมามองเธอ สายตาเขาดูมีพิรุธอยู่สักหน่อย “เอ ผิงเกอ ไม่ชอบไข่ข้นกับมันฝรั่งบดเหรอลูก กินหมี่ผัดกับไก่ย่างไหม ป้าลี่เอามาฝาก” เธอบอกลูกคนโตแล้ววางจานอาหารที่ลี่ฮุ่ยเอามาให้ลงบนโต๊ะ เด็กชายไม่ตอบแต่หันไปมองไก่ย่าง พอเห็นน้องชายหยิบขาไก่ขึ้นกัด เขาจึงเลือกชิ้นที่ชอบแล้วนั่งกินเงียบ ๆ ผิงกั่วของเธอช่างเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย “มาดามเรียกอาหารเข้าบ้านได้จริงด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เยว่จือถาม เด็กสาวตื่นเต้นไม่แพ้ฝาแฝด ม่านอวี้อันไม่ใช่เทพเซียนหรือน
จับผิดนางจิ้งจอก เมื่อขนมหมดลง พร้อมความหอมหวานที่ติดอยู่ในปาก เซียงเจียวก็ทั้งเลียมือและดูดนิ้ว จากนั้นประตูห้องนั่งเล่นก็มีเสียงหมุนลูกบิด! ผิงกั่วใจหล่นหายเขายืนนิ่งค้างราวกับสมองหยุดสั่งงานไปเสียดื้อ ๆ “อ๊ะ... เฮียผิง!” เสียงเล็กแหลมของน้องชายแผดดังเรียกสติ จากนั้นผิงกั่วจึงไม่รอช้า เขารู้ว่าแม่ไม่อยากให้ลุงผีมาที่บ้านอีก ผู้ชายตัวโตคนนี้เคยทำให้แม่ยุ่งยากใจทั้งยังเสียน้ำตาหลายหน แล้ววันนี้เขาได้ทำเรื่องน่าละอาย เผลอกินของจากอีกฝ่าย ไม่ได้การละ เขาจะทำให้แม่เสียใจไม่ได้ แม่คือโลกทั้งใบของผิงกั่ว เขาจะไม่ทำให้แม่เสียใจ! ร่างของคนเจ้าเนื้อพุ่งไปยังประตูเพื่อขวางไม่ให้คนเปิดเข้ามาได้ “ไม่!” เด็กชายร้องอยู่สองสามหน และนั่นทำให้คนที่อยู่ด้านนอกแปลกใจ “เด็ก ๆ เกิดอะไรขึ้น!” ม่านอวี้อันใจเสียและร้อนรน เธอพยายามหมุนลูกบิด แต่เหมือนจะมีปัญหา “ผิงเกอ เจียวเกอ!” หญิงสาวเรียกลูกชายและปล้ำลูกบิดประตูเฮงซวยอยู่เกือบอึดใจใหญ่ ๆ กระทั่งมันเปิดออกได้ ซึ่งเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ผิงกั่วโผเข้าไปกอดม่านอวี้อัน ส่วนน้องชายก็แสร้งร