“นักแสดงนำหญิงยอดนิยมประจำปีxxได้แก่ คุณหลินซูหนี่ว์ค่ะ”
สิ้นเสียงพิธีกรสาวเสียงปรบมือก็ดังกึกก้องไปทั้งโดมจัดงาน แฟนคลับบางส่วนที่ได้เข้ามาร่วมงานต่างส่งเสียงเชียร์ซุปตาร์สาวที่ตนรัก ร่างระหงในชุดราตรีเปิดไหล่อวดลำคอขาวผ่องไปจนถึงเนินอกเดินเยื้องย่างตรงไปบนเวทีด้วยหัวใจที่เต้นราวกับกลองรัว เธอไม่ได้ตื่นเต้นที่ได้รับรางวัลในค่ำคืนนี้ หากแต่คนบนเวทีที่จ้องมองมาที่เธออย่างสำรวจนั่นมากกว่าที่ทำให้เธอรู้สึกประหม่า
ซุปตาร์สาวเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ของคู่หมั้นหนุ่ม สถานะที่ไม่มีใครรับรู้ ถ้าเขาไม่คิดจะเปิดเผยเรื่องนี้ เธอก็จะไม่เปิดเผยเช่นกัน หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงอยากที่จะแสดงตัวว่าเป็นคู่หมั้นของเขาใจจะขาด แต่ตอนนี้เธอนั้นสวย และมีคนมาชอบมากมาย เรื่องอะไรเธอต้องงอนง้อคนที่ไม่เห็นค่าของเธอ
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณ... หลิน”
ชายหนุ่มส่งรางวัลให้กับเธอ มือบางยื่นออกไปรับมาพร้อมกับรอยยิ้มแบบไม่ได้เต็มใจที่จะมอบให้เขาเลยสักนิด ความโกรธและความรู้สึกขุ่นมัวที่เธอมีต่อเขานั้นยังไม่ลบเลือนออกไปจากจิตใจตลอดระยะเวลาสิบปี เธอใช้สิ่งนี้ผลักดันและเปลี่ยนแปลงตนเอง
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวตอบก่อนที่จะหันไปคำนับคนที่ปรบมือให้เธออยู่ด้านล่างเวที ซุปตาร์สาวแจกยิ้มไปทั่วจนซือลู่ชิงรู้สึกหมั่นไส้ และเขากำลังคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เธอนั้นเลิกดื้อและทำเป็นเฉยชากับเขาสักที
“เอาล่ะค่ะ ขออนุญาตให้ช่างภาพได้เก็บภาพหน่อยนะคะ คุณชายลู่ชิง น้องซูหนี่ว์” พิธีกรสาวเอ่ยขึ้น
ซูหนี่ว์รู้สึกลำบากใจที่ต้องใกล้ชิดกับคู่หมั้นวัยเด็ก ก็หัวใจเธอมันไม่รักดี ถึงภายนอกจะรู้สึกแกร่งแค่ไหนแต่ภายในใจนั้นเธออยากจะกอดเขาใจจะขาด มือเรียวของคนตัวสูงอ้อมไปจับเอวบางให้เข้ามาใกล้กับเขาจนซุปตาร์สาวสะดุ้ง และหันไปมองใบหน้าของเขา ซือลู่ชิงเอาแต่ทำเฉยจนเธอรู้สึกเคืองเขาขึ้นมาทันทีที่มาทำตัวรุ่มร่ามต่อหน้าสื่อ กล้องทุกตัวรีบจับภาพความใกล้ชิดของคุณชายซือลู่ซิงที่ไม่เคยใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหนถึงขั้นสัมผัสร่างกายมาก่อน ถือว่าซุปตาร์สาวซูหนี่ว์นั้นเป็นคนแรก แต่ก็คงจะไม่แปลกเพราะมารดาของทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันเรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ดี จะมีแต่สองบอดี้การ์ดที่มองมาอย่างรู้ทัน
“กลับบ้านกับพี่ ถ้าไม่อยากให้คนทั้งเมืองรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”
คำพูดที่ดังอยู่ข้างหูราวกับกระซิบทำให้ซุปตาร์สาวรู้สึกขนลุก เธอหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของคนข้างกายเพียงแว็บหนึ่งก่อนที่จะสะบัดใบหน้างามหันกลับไปมองกล้อง ริมฝีปากรูปกระจับฝืนยิ้มออกมา
และแล้วช่วงเวลาอึดอัดก็ผ่านไปเมื่อถึงเวลาที่เธอต้องกล่าวขอบคุณบุคคลที่ทำให้เธอได้รับรางวัลในวันนี้ และแน่นอนว่าต้องมีเขาเป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ทำให้เธอเลือกเดินในเส้นทางที่เธอก็ไม่คิดว่าจะเดิน ซุปตาร์สาวกล่าวขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนเธอโดยเฉพาะบิดาและมารดา ผู้จัดการส่วนตัว ผู้จัดละคร ผู้กำกับ เพื่อนนักแสดง ทีมงาน ไปจนถึงบรรดาแฟนคลับ และทันทีที่ซุปตาร์สาวเอ่ยจบเสียงปรบมือจากทุกคนภายในโดมจัดงานก็ดังกระหึ่ม ร่างระหงลงจากเวทีแล้วก้าวลงไปด้านล่าง เธอแวะคุยกับผู้ใหญ่และพี่ๆ นักแสดงจนใกล้จะเดินมาถึงผู้จัดการส่วนตัวแต่ก็ต้องชะงักเท้าเล็กซะก่อน
“น้องซูหนี่ว์ พี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ”
เสียงแหลมเล็กเอ่ยขึ้นขณะที่ซุปตาร์สาวกำลังจะเดินผ่าน ใบหน้าสวยหันมองไปตามเสียงก็พบว่าเป็นนางเอกรุ่นพี่ที่เป็นผู้เข้าชิงรางวัลนี้กับเธอ ริมฝีปากอิ่มรูปกระจับจึงฉีกยิ้มให้ตามมารยาท ก็รุ่นพี่คนนี้เธอจำได้ดีว่าเป็นรุ่นพี่คนที่ให้ช็อกโกแลตกับซือลู่ชิงตอนที่เธออายุสิบสองขวบ และเป็นเธอคนนี้ที่ทำให้เธอเก็บอารมณ์ไม่อยู่จนไประเบิดใส่หน้าของคู่หมั้นของเธอ
“ขอบคุณนะคะพี่หรูหรู”
ซูหนี่ว์ตอบไปตามมารยาท เรื่องในอดีตเธอนั้นไม่เคยลืม ถึงแม้ว่าคู่หมั้นของเธอจะไม่สนใจผู้หญิงตรงหน้าแต่เธอคนนี้ก็ยังพยายามจะทอดสะพานให้ซือลู่ชิงอยู่ดี เธอรู้ข่าวนี้มาจากซือลู่เหลียน น้องสาวฝาแฝดของคู่หมั้นของเธอนั่นเอง
สองสาวส่งยิ้มจอมปลอมให้กันสักครู่ ก่อนที่ซูหนี่ว์จะขอตัวและเดินไปหาผู้จัดการส่วนตัว เยว่เหมยส่งยิ้มให้กับน้องซุปตาร์สาวที่เธอดูแลมานานทันที
“ดีใจด้วยนะน้องซูหนี่ว์ หนูนี่เดินตามรอยคุณแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ เลยค่ะ”
เยว่เหมยเอ่ยชมซูหนี่ว์ขึ้นมาทันที เมื่อก่อนเธอเป็นแฟนละครของมารดาซุปตาร์สาว พอมาตอนนี้ได้ดูแลทายาทของซุปตาร์ในดวงใจยิ่งทำให้เธอรู้สึกปลื้มใจขึ้นไปอีก
“ขอบคุณค่ะพี่เยว่เหมย แต่บอกว่าเดินตามรอยคุณแม่นี่ผิดนะคะ เพราะอันที่จริงซูหนี่ว์มีแรงผลักดัน หึๆ” ซุปตาร์สาวบอกก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมา ดวงตากลมพรางมองไปที่ซือลู่ชิงที่กำลังยืนคุยกับพวกผู้ใหญ่อยู่
“กลับกันเลยดีกว่านะคะ” ซูหนี่ว์รีบบอกผู้จัดการสาวทันทีที่เห็นว่าคนที่เพิ่งจะออกคำสั่งกับเธอบนเวทีนั้นกำลังคุยกับคนอื่นอยู่
“จ้ะ พรุ่งนี้เรามีงานต่อด้วย ไปค่ะ พี่ๆคะ ขอตัวพาน้องซูหนี่ว์กลับไปพักก่อนนะคะ”
ผู้จัดการสาววัยสามสิบเอ่ยขึ้นกับนักแสดงและผู้จัดการคนอื่น ซุปตาร์สาวส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนจะก้มหน้าคำนับเพียงเล็กน้อย แล้วเดินออกจากงานไปพร้อมกับผู้จัดการส่วนตัว
เสียงเด็กพูดคุยกันเสียงดังจอแจ พี่ใหญ่อย่างซือเฟยหนี่ว์และพี่รองอย่างซือเฟยหลงคอยดูแลน้องๆ ไม่ห่าง วันนี้ครอบครัวตระกูลซือประกอบด้วย คุณปู่ควบตำแหน่งคุณตาอย่างซือมู่อัน คุณย่าควบตำแหน่งคุณยายอย่างซือถิงถิง ซือลู่ชิง ครอบครัวของทายาทคนโตซือลู่ชิงที่มีกันห้าคนพ่อแม่และลูกๆ ทั้งสาม ซือลู่จื้อและคู่หมั้นหมาดๆ อย่างฟางหรง ตระกูลสวีประกอบไปด้วย สวีอวี้เฉิน สวีลู่เหลียน และลูกๆ ทั้งสาม ตระกูลหลินที่มีเพียงสองตายายอย่างหลินเจียอีและหลินซือซือ“ไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าครอบครัวเราจะมีกันมาจนถึงวันนี้”คุณย่าซือถิงถิงเอ่ยขึ้นขณะที่สายตาก็ทอดมองไปยังกลุ่มของลูกสาวและลูกสะใภ้ที่กำลังช่วยกันจัดโต๊ะอาหารอยู่ตรงสวน ก่อนที่จะละสายตาจากสาวๆ แล้วทอดสายตาไปมองอีกฝั่งที่มีสองหนุ่มคุณพ่อลูกอ่อนซือลู่ชิงและสวีอวี้เฉินกำลังดูแลลูกๆ ที่อายุเพียงไม่กี่เดือน ซือลู่จื้อก็กำลังวิ่งตามหลานๆ ทั้งสาม ซือเฟยหนี่ว์ ซือเฟยหลง และสวีลี่ถัง“ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะยังเป็นเพื่อนกันจนถึงวันที่ลูกๆ มีหลานๆ ให้เชยชมกันแล้วคิกๆ” หลินซือซือเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ“นั่นน่ะสิ จะว่าไปพวกเราก็แก่มากขึ้นแล้วนะเนี่ย โดยเ
เวลาที่ผ่านไปทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ทว่าความรักความอบอุ่นจากคนในครอบครัวไม่เคยเปลี่ยนไปไหน ซือซูหนี่ว์ได้ให้กำเนิดบุตรสาวที่บิดาตั้งชื่อให้ว่า เฟยหรู แซ่ซือ ทารกเพศหญิงตัวขาวอวบ ผมดกดำ ดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อยจนคนเป็นพี่ชายวัยหกขวบหวงน้องสาวราวกับไข่ในหิน ใครจะเข้าใกล้นอกจากบิดา มารดา และพี่สาวแล้ว ทุกคนต้องล้างมือก่อนทุกครั้ง“นี่อาล้างมือแล้วนะ” ซือลู่จื้อบอกกับหลานชายที่ทำตัวราวกับบอดี้การ์ดให้กับน้องสาววัยสามเดือน“อาลู่จื้อผ่านฮะ” เด็กชายวัยหกขวบบอกกับคุณอาหนุ่ม“อาก็ล้างแล้วจ้ะ” ฟางหรงชูมือให้กับหลานชายตัวน้อยได้เช็กดู“อาฟางหรงคนสวยผ่านฮะ” คำตอบของหลานชายทำเอาคุณอาสุดหล่อมองบน สองมาตรฐานคงไม่พ้นหลานชายของเขาคนนี้ ทีเขานี่โดนตรวจละเอียด แต่กับสาวๆ อย่างเช่นแฟนสาวของเขากลับผ่านได้โดยไม่ต้องตรวจดูให้มากหลังจากได้รับอนุญาตจากบอดี้การ์ดตัวน้อย ซือลู่จื้อกับฟางหรงจึงพากันเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่น เวลานี้ทายาทคนเล็กของคฤหาสน์แห่งนี้กำลังนอนอยู่บนเปลเด็กอ่อนและกำลังตื่นนอนพอดี ซือซูหนี่ว์ที่กำลังลุกขึ้นไปอุ้มบุตรสาวคนเล็กขึ้นมาจากเปลถึงกับหันไปมองเมื่อบุตรสาววิ
“ซูหนี่ว์ เธอร้องไห้ทำไมหืม....เธอไม่ดีใจหรอ”เขาเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีทั้งน้ำตา“ฮึก.... พี่รู้ไหมว่าน้องกลัวและกังวลใจมากขนาดไหน ฮึก..... ทำไมไม่บอกน้องก่อนว่าพี่ไปแก้หมันมา” เสียงหวานเอ่ยออกมาปนสะอื้น“โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะคะ... พี่ขอโทษ”ซือลู่ชิงกอดปลอบภรรยาที่กำลังร้องไห้ออกมาสะอึกสะอื้นเพราะอารมณ์น้อยใจ เสียใจ และอาจจะเป็นเพราะอารมณ์แปรปรวนจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง“ฮึก... น้องก็คิดอยู่ว่าน้องจะท้องได้ยังไง พี่ลู่ชิงรู้ไหมว่าน้องกลัวขนาดไหน กลัวว่าพี่จะคิดว่าน้องไปมีอะไรกับคนอื่นจนท้อง...”“พี่ไม่คิดแบบนั้นหรอกนะที่รัก อย่าคิดมากเลย พี่รู้ว่าเธอซื่อสัตย์ มีเพียงแค่พี่ และรักพี่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กจนโต เงียบนะครับ พี่ขอโทษนะ ต่อไปนี้เธอต้องดูแลตัวเองให้ดี อีกเรื่อง พี่ว่าเธอลาวงการไปดีกว่าไหมจะได้มีเวลาให้ลูกๆ ลืมไปแล้วหรือไงว่าสามีเธอรวย เงินมีให้ใช้ทั้งชาติก็ใช้ไม่หมด” ซือลู่ชิงบอกเสียงนุ่ม ก่อนที่จะบอกภรรยาถึงเรื่องที่เขาคิดมาได้สักพักแล้ว“ค่ะ น้องจะออกจากวงการ อยากมีเวลาอยู่กับเด็กๆ ให้มากกว่าเมื่อก่อน”ซือซูหนี่ว์บอกผู้เป็นสามี เธ
สามเดือนต่อมา“แอว๊ะ!!! อ้วก.........อึก....”เสียงอาเจียนดังมาจากในห้องน้ำยามเช้าตรู่ ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นจากที่นอนและเดินตามเข้ามาดูภรรยาด้วยความเป็นห่วง“น้องเป็นอะไรซูหนี่ว์ ทำไมช่วงนี้ตื่นเช้ามาอาเจียนบ่อยๆ”ซือลู่ชิงส่งมือหนาไปลูบหลังก่อนที่จะเอ่ยถามภรรยาด้วยความแปลกใจ“ไม่รู้ค่ะ เอ่อ.... คือว่า”เธอไม่กล้าบอกเขาว่าประจำเดือนไม่มาจะสองเดือนแล้ว ถ้าบอกว่าท้องมันก็คงแปลกเพราะสามีของเธอทำหมันไปแล้ว“คืออะไรหืม...”เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาอย่างใจเย็น ร่างบางพยุงตัวลุกขึ้นจากโถชักโครกแล้วเดินไปเปิดน้ำบ้วนปากของตน“น้องสงสัยว่าตัวเองกำลัง..เอ่อ...”หญิงสาวกล้าๆ กลัวๆ ที่จะบอกสามี แต่เธอไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นนอกจากสามีของตนเอง และครั้งล่าสุดก็ดูเหมือนก่อนที่ประจำเดือนของเธอจะหายไป“เอ่อ...เอ่อ....อะไร พูดมาเถอะ”น้ำเสียงราบเรียบที่เอ่ยถามออกมามันต่างจากในใจของเขายิ่งนัก หัวใจของเขาสั่นไหวและแอบคาดหวังอยู่ไม่น้อย“น้องอาจจะเครียดมากเกินไปน่ะค่ะ”ซือซูหนี่ว์ไม่กล้าคิดว่าตนเองท้องจึงบอกเขาไปเช่นนั้น ซือลู่ชิงทำหน้าผิดหวังแต่ทว่าเขากลับไม่ยอมแพ้“วันนี้พี่ว่าง เราไปหาหมอกันดีกว่า ไปส่งเด็
“กำลังคิดอะไรอยู่ หืม.....”เสียงทุ้มของซือลู่ชิงดังขึ้นจากทางด้านหลัง วงแขนแข็งแรงสอดเข้ามาช่วงเอวบางของเธอ สองมือประสานกันอยู่ช่วงหน้าท้องของเธอ คางของชายหนุ่มก็วางลงบนไหล่ของเธอ หญิงสาวสะดุ้งจนหายใจติดขัดแต่เมื่อรู้ว่าเป็นใครจึงหายใจเข้าออกเป็นจังหวะปรกติ“อุ้ย!! พี่ลู่ชิง น้องตกใจหมด” มือบางตีลงไปบนมือใหญ่ที่ประสานกันอยู่ที่หน้าท้องของเธอ“พี่ก็ไม่ได้มาเงียบๆ นะ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมา“น้องกำลังนึกถึงเรื่องในอดีตอยู่ค่ะ”ใบหน้างามหันไปทางใบหน้าสามีที่ยังคงวางคางอยู่บนไหล่ของเธอ จนจมูกโด่งรั้นเฉียดแก้มเนียนของชายหนุ่ม เขาผละอ้อมแขนก่อนที่จะเปลี่ยนไปยืนข้างเธอแทน“อดีต... เรื่องอะไรหรือ” ซือลู่ชิงทำหน้างงก่อนที่จะจูงมือภรรยาสาวให้เดินตามเขาไปตามแนวชายหาด“ก็... เรื่องที่น้องอยากเป็นเจ้าสาวของพี่ยังไงล่ะคะ”ซือซูหนี่ว์ตอบออกมาอย่างเขินอาย ใบหน้าสวยก้มลงมองเท้าตนเองที่เหยียบย่ำทรายอยู่“แล้ว...”ซือลู่ชิงหยุดการก้าวเดินก่อนที่จะจ้องใบหน้างามของคนตัวเล็กตรงหน้า“ก็..... น้องไม่คิดยังไงล่ะคะ ว่าเราสองคนจะมาจนถึงวันนี้ วันที่มีลูกๆ ที่น่ารัก และวันที่เราสองคนรักกันได้ขนาดนี้”มือหนาถูกส่งมา
“คุณอาลู่จื้อฮะ พอจะรู้ไหมว่าปะป๊ากับหม่ามี๊รักกันได้ยังไง”เด็กชายวัยห้าขวบเอ่ยถามผู้เป็นน้าชายขณะที่อยู่ในสระว่ายน้ำของบ้านพักแบบพูลวิลล่า วันนี้ซือลู่ชิงพาภรรยาลูกๆ และคู่รักคู่ใหม่มาพักผ่อนที่ทะเลของเมืองเอ็ม“หนูก็อยากรู้ค่ะ คุณอาฟางหรงพอจะรู้ไหมคะ” เด็กหญิงวัยห้าขวบเอ่ยถามแฟนสาวของคุณอาหนุ่มบ้างซือลู่จื้อตามจีบฟางหรงอยู่ถึงสามปีจนหญิงสาวใจอ่อนยอมคบหาด้วย แต่ก็เพราะมีใจให้ชายหนุ่มรุ่นน้องที่ลงทุนไปทำงานอยู่ที่เมืองเดียวกับเธอเพียงเพราะอยากอยู่ใกล้เธอ การได้ทำงานร่วมกันทำให้เธอมองเห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของชายหนุ่ม เขาชนะใจครอบครัวของเธอ รวมไปถึงหัวใจของเธอที่ไม่เคยมอบให้ใครด้วย หญิงสาวส่ายหน้าให้กับหลานๆ ทั้งสอง“อยากรู้กันจริงๆ หรอ เรื่องมันยาว” ซือลู่จื้อตอบก่อนที่จะมองหน้าหลานทั้งสอง“อยากรู้ฮะ/ค่ะ”สองเสียงประสานกัน ซือลู่จื้อหันไปมองหน้าแฟนสาว เธอทำเพียงส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้กับเขาเท่านั้น เพราะเรื่องราววัยเด็กของทั้งสองตระกูลเธอไม่ได้รู้รายละเอียดเท่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ อันที่จริงตอนนั้นซือลู่จื้อก็ยังเป็นเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่รู้ความมากนัก แต่เพราะซือลู่เหลียนพี่สาวค