Beranda / รักโบราณ / ยาจกยอดมารดา / ตอนที่6. บุตรสาวสกุลต้วน

Share

ตอนที่6. บุตรสาวสกุลต้วน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-06 16:55:45

หลังจากทุกคนร่วมกันกินอาหารเสร็จ อี้หรูขอที่จะนอนเฝ้าบุตรชาย เพราะถ้าเป็นเจ้าของร่าง ก็คงทำเช่นเดียวกับนางในตอนนี้ คงมีแค่แม่ของนางในอีกโลก ที่ไม่เคยเห็นนางในสายตา ฉะนั้นนางจะต้องทำให้ลูกๆ ในชีวิตใหม่ เป็นคนที่ไม่หยามเหยียดเพศสตรี

          “คุณหนูบ่าวยังไหวเจ้าค่ะ”

          แม่นมหวังนั้น ห่วงว่าผู้เป็นนายที่เพิ่งฟื้น จะล้มเจ็บลงอีก จึงเลือกที่จะเสนอตัวในการดูแลคุณชายใหญ่ต่อเอง

          “ข้าอยู่ด้วย แม่นมหวังจะได้พักผ่อนบ้าง อีกอย่างข้าอยากให้อี้หลางตื่นมา เห็นหน้าข้าที่เป็นแม่ก่อนผู้ใด เขาจะได้รู้ว่าความกล้าหาญของเขามิได้เสียเปล่า”

          “ไม่ต้องห่วงไปแม่นมหวัง ข้าได้ตรวจชีพจรของอี้หรูแล้ว นางไม่ล้มเจ็บลงอีกง่ายๆ อย่างแน่นอน ขอแค่นางไม่ทำสิ่งใดเกินกำลัง”

          ท่านหมอต้วนยืนยันอีกเสียง เมื่อเห็นในความตั้งใจของหญิงสาว และเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ ไหนเลยจะอยากห่างลูก เมื่อยามลูกเจ็บป่วยเช่นนี้

          “ขอบคุณท่านหมออีกครั้งนะเจ้าคะ ที่เมตตาเราทั้งห้าคน หากมิได้ท่านหมอกับฮูหยินช่วยเหลือ เราแม่ลูกคงไม่อาจมีชีวิตรอด โปรดรับการคำนับจากเราด้วยเจ้าค่ะ”

          หญิงสาวกำลังจะคุกเข่าลงกับพื้น ทว่าสองสามีภรรยา ได้รีบเข้าประคองเอาไว้เสียก่อน

          “ไม่ว่าในฐานะหมอ หรือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ข้ายินดีช่วยเหลือ หากมันมิได้เหนือบ่ากว่าแรง”

          “ท่านตา ท่านยาย ข้ากับพี่น้อง ท่านแม่และท่านยายหวัง อยู่กับท่านตา ท่านยายได้หรือไม่เจ้าคะ”

          “คุณหนูสาม! อี้หลิง!”

          แม่นมหวังและอี้หรู เรียกเด็กหญิงด้วยความตกใจ ที่อยู่ๆ เด็กที่ไม่ค่อยกล้าจะพูด วันนี้ไยอาจหาญ ร้องขอการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเช่นนี้ได้เล่า

          “ข้ายินดีทำงานรับใช้ ขอแค่เราไม่ต้องไปขอทานเจ้าค่ะ”

          เด็กน้อยใช่ไม่สนใจคำเรียกของมารดา แต่นางยอมรับว่าอยากทำงานหาเงิน เพื่อให้ครอบครัวมิต้องอดอยากอีก

          “ในเมื่อเจ้ากล้าขออย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ ท่านตาผู้นี้ย่อมไม่ปฏิเสธ”

          “ท่านหมอ บุตรสาวข้าทำตัวเสียมารยาท ข้าต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ อันที่จริงใช่ว่าข้าขอทานเพียงอย่างเดียว แต่น้อยนักที่คนจะจ้างเราทำงาน ในบางครั้งที่เราไร้คนจ้าง ข้าย่อมไม่อาจทนเห็นลูกๆ หิวได้ จึงต้องขอทานเพื่อประทังชีวิตเจ้าค่ะ”

          “เจ้ากับแม่นมหวัง นับเป็นสตรีแกร่งที่หาได้ยากยิ่ง และการที่เจ้าขอทานในบางช่วงเวลา ใช่ว่าเจ้าเป็นคนน่ารังเกียจ หากเทียบกับหัวขโมย ที่ลักทรัพย์ผู้อื่น”

          “ข้าสามารถทำงานช่วยท่านหมอ กับฮูหยินได้นะเจ้าคะ แลกกับอาหารวันละสองมื้อ สำหรับเด็กๆ และแม่นม ส่วนข้านั้นแค่มื้อเดียวก็เพียงพอแล้วเจ้าค่ะ”

          เมื่อบุตรสาวเปิดเส้นทางให้แล้ว หญิงสาวก็ถือโอกาสของานทำเสียเลย ขอให้อิ่มท้องก่อน อนาคตค่อยขยับขยาย นางในตอนนี้เสมือนคนต่างถิ่น จำต้องหาจุดยืนให้ได้ก่อน ค่อยคิดที่จะก้าวเดิน

          “ในเมื่ออี้หลิงเรียกข้ากับฮูหยินว่าตากับยาย เช่นนั้นเจ้าก็มาเป็นลูกสาวของเราสองคนดีหรือไม่”

          “แต่ข้าคือคนแปลกหน้า ไยท่านหมอกับฮูหยินจึงวางใจ จะรับข้าเข้าบ้านเล่าเจ้าคะ”

          “เจ้าเชื่อเรื่องโชคชะตาหรือไม่”

          “ย่อมต้องเชื่อเจ้าค่ะ”

          หญิงสาวตอบอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด จะมิให้นางเชื่อได้อย่างไร ก็ตัวนางนี่ไงคือหลักฐาน ว่าถ้าชะตาไม่สัมพันธ์ มีหรือนางจะมายืนอยู่ตรงนี้ ทั้งที่ตายไปแล้วแท้ๆ

          “เรามีโชคชะตา และวาสนาต่อกัน จึงได้มาพบกัน อีกอย่างข้าเคยอธิษฐานไว้ในตอนรักษาเจ้า ว่าหากเจ้ารอดพ้นความตาย ข้าจะรับเจ้าเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว”

          “จริงหรือเจ้าคะ”

          หญิงสาวแสร้งตกใจ แต่ความเป็นจริงแล้ว นางหาได้วางใจในสิ่งที่เกิดขึ้นไวจนเกินไป แต่นี่ก็นับเป็นเรื่องที่ดี ในยามยากใครสอนให้ผยองกันเล่า นางในร่างนี้คงตกทุกข์อีกยาวแน่ หากปฏิเสธมือที่หยิบยื่นมา คว้าไว้ก่อนไม่เสียหลาย ภายหน้าหากไม่ดีหรือเป็นภัยค่อยหลบเลี่ยงก็มิสาย

          “ข้าเป็นหมันมิอาจมีลูกได้ จนเราสองผัวเมียถูกตัดจากสกุลหลัก เราเองก็แก่ชรามากแล้ว หากตายไป กิจการนี้อาจตกกลับไปอยู่ในมือของสกุลเดิม ถ้าจะเป็นแบบนั้น สู้ข้ายกให้กับใครสักคน ที่มีวาสนาต่อกันไม่ดีกว่าหรือ สวรรค์นำพาเราไปพบเจ้า ดังนั้นหากข้าจะมอบมันแก่เจ้าสืบทอด ย่อมเป็นประโยชน์มากกว่าไม่ใช่หรือ”

          ต้วนฮูหยิน อธิบายอย่างใจเย็น ตลอดสิบห้าวันที่นางได้ใช้ชีวิตร่วมกับคู่แฝด มันทำให้นางรู้สึกมีชีวิตชีวาไม่น้อยเลย เมื่อผูกพันกันขนาดนี้แล้ว นางก็ไม่อยากที่จะเสียโอกาสได้อยู่ชิดใกล้เด็กๆ อีก

          “หากท่านหมอกับฮูหยินไม่รังเกียจ ที่ข้าเป็นหญิงหม้าย และเป็นยาจกยากไร้มาก่อน ข้าย่อมน้อมรับในไมตรีนี้เจ้าค่ะ”

          “ดีๆ แม่นมหวัง นำน้ำชามา วันนี้ข้าจะรับบุตรสาวเข้าบ้าน”

          แม่นมหวังไม่ได้ทัดทาน นางเห็นใจผู้เป็นนายและคุณชาย คุณหนูสาม ที่ต้องอยู่อย่างอดอยาก จึงรีบไปรินชามาให้แก่ผู้เป็นนาย เพื่อยกชาให้แก่ท่านหมอและภรรยา

          “ข้ารู้ว่ามันเร็วไป ที่จะให้เจ้าวางใจในไมตรีนี้ แต่เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง”

          ชายชราเอ่ยกับหญิงสาว เขารู้ดีว่าไยนางตอบตกลงโดยง่าย เพราะความลำบากของลูกๆ คนเป็นแม่จึงยอมเสี่ยง เขากับภรรยาตัดสินใจเรื่องนี้ ตั้งแต่พานางกลับมาแล้ว ส่วนความวางใจของนาง ให้เวลาเป็นสิ่งช่วยตัดสิน

          “ข้าน้อยหยางอี้หรู ขอยกชาถ้วยนี้แก่ท่านพ่อบุญธรรม ท่านแม่บุญธรรมเจ้าค่ะ”

          หญิงสาวคุกเข่าลงต่อหน้าสามีภรรยา โดยมีลูกๆ คอยประคองไม่ให้ล้ม ก่อนจะรับถ้วยชาจากแม่นมหวัง ยื่นให้แก่สองสามีภรรยาทีละคน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่233 ไม่เหลืออะไร

    “ถ้าข้าตอบรับข้อเสนอ ชีวิตของพวกเขา จะยังรอดอยู่หรือไม่”ใช้เวลาอยู่พอสมควร กว่าที่ชูหลี่จะเอ่ยออกมา พร้อมกับเงยหน้าสบตากับคนที่สังหารน้องชายของเขา คนก็ต่ายไปแล้ว จะให้เขาลากคนที่เหลืออยู่ตายตามไปได้อย่างไร“แน่นอน...แต่ข้าก็มีข้อแม้เช่นกัน”แม่ทัพหนุ่มตอบรับ พร้อมกับมีข้อแลกเปลี่ยนสำหรับคนที่เหลือ เขาต้อวรัดกุมในหลายๆ เรื่อง ส่วนคนพวกนี้จะทำลายขีดจำกัดนั้นหรือไม่ มิใช่เขาเป็นคนกำหนด แต่เป็นตัวของคนเหล่านี้เองทั้งสิ้น ที่จะตัดสินใจเองว่าจะทำอย่างไรกับชีวิต ที่เขามอบให้ในครั้งนี้“อะไร!”“หายไปจากแดนเหนือเสีย เพราะถ้าเรื่องที่ข้าให้เจ้าช่วยทำ ถูกแพร่งพรายออกไป เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าต้องทำเช่นไร”“ได้! ข้าจะให้พวกเขาไปจากที่นี่ ขอแค่ท่านรักษาสัญญา”“ข้าเป็นคนที่รักษาคำพูดเสมอ และมิใช่แค่ไปจากที่นี่ แต่ปากของพวกเจ้า ต้องปิดมันให้สนิท ทุกครั้งที่คิดจะหลุดปาก ถึงสิ่งใดก้ตามแต่ ให้คิดว่าลมหายใจของพวกเจ้าเข้าไว้ มันพร้อมที่จะหลุดลอยได้ในทันที ข้าไม่ใช่คนที่แค่เพียงข่มขู่ เพราะปกติแล้วข้าไม่ชอบการเสียเวลามาเจรจา มักลงมือทำในทันที”น้ำเสียงเย็นเยียบของแม่ทัพหนุ่ม เป็นอันเข้าใจดีสำหรับคนทั้งหก ว่า

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่232 ข้ามีน้ำใจ

    “ข้าไม่รู้นี่ขอรับ พี่ใหญ่! เราจะทำอย่างไรกันดี”ชูถงถามพี่ชายด้วยอาการแตกตื่น ความพยายามที่จะเป็นคนสุขุมของเขา มันถูกทำลายนับตั้งแต่รู้จากปากพี่ชาย ว่าแม่ทัพแดนตะวันออกนั้น มิต่างจากมัจจุราช ดูได้จากอาการวาดกลัวของพี่ชาย เขาก็ไม่คู่ควรที่จะต่อกรกับชายผู้นั้นแล้ว“จะให้ทำอะไรได้ จะเดินหน้าหรือถอยหลังล้วนตายทั้งสิ้น ก็คงต้องลุยให้สุดกำลังเท่านั้น”ไม่มีคำว่าขวัญกำลังใจให้แก่กันเลย ระหว่างสองพี่น้อง เพราะตอนนี้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังยิ่งนัก ตอนนี้อยู่บนเขาทั้งเป็นยามค่ำคืน ยากนักที่จะขอกำลังสนับสนุนได้ทัน“ไม่แน่นะขอรับ เจ้าคนฉินนั่น อาจได้ตัวขององค์หญิงแล้ว หากเขากล้าลงมือ นางจะต้องตาย เฮ้ย! เจ้าได้ยินไหม! ว่าคนของข้าได้ตัวนางแล้ว ถ้าเจ้าคิดจะ...อึก”ยังไม่ทันจบประโยคใดๆ ลำคอของชูถงกลับมีเลือดสดๆ ฉีดพุ่งออกมาราวห่าฝน ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลง กระตุกถี่ๆ แล้วแน่นิ่งไป ดวงตาเขายังคงเบิกกว้าง ด้วยสิ้นใจอย่างกะทันหัน เลือดสีแดงสดค่อยๆ แผ่กระจายออกรอบกาย เปลี่ยนหิมะขาวโพลนให้เป็นสีเลือดแดงฉาน“ไม่!! เจ้าโง่! ใครให้เจ้าทิ้งพี่ไปแบบนี้”ชูหลี่รีบคุกเข่าลงกับพื้นเย็นเยียบ ประคองร่างน้องชายมาสวมกอด

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่231 โง่เง้า

    “นี่ขอรับ เรายังมีอีกหลายไห เถ้าแก่มิต้องอดออมไปขอรับ ดื่มได้เต็มที่เลยขอรับ”ชายหนุ่มยกไหสุรารินให้แก่ชายสูงวัย ก่อนจะรินให้ตนเองและเหล่าสหาย รอยยิ้มที่ดูธรรมดาของชายหนุ่มทั้งห้า ไม่ได้เป็นที่ผิดสังเกตใดเลย สำหรับฉือจ้าวหนาน ที่เริ่มจะเรียกร้องให้รินสุราถี่ขึ้น“เนื้อกระต่ายป่า สักหน่อยไหมขอรับ”ชายหนุ่มอีกคนยื่นเนื้อกระต่าย ที่ย่างจนหอมกรุ่นมาให้แก่เจ้าของจุดพัก ฉือจ้าวหนานมีหรือจะปฏิเสธ เขารับขากระต่ายมากัดกิน สลับกับยกสุราหวานดื่มอย่างสำราญนานแค่ไหนแล้ว ที่เขาไม่ได้ดื่มแบบนี้ ชีวิตที่ต้องอยู่อย่างอดสู เพื่อสร้างผลงานให้เป็นที่เข้าตาผุ้มีอำนาจ เขาต้องอยู่เยี่ยงคนไร้ค่า ในสายตาของเหล่าลูกค้า ที่สัญจรผ่ามาพักแรมเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยาม ชายหนุ่มทั้งห้า เริ่มที่จะเอนกายลงนอนกับพื้นอันเย็นเยียบ ด้วยฤทธิ์สุรา มันทำให้พวกเขารู้สึกอบอุ่น จนไม่รู้สึกว่าพื้นใต้ร่างมันหนาวเย็น และตอนนี้พวกเขากำลังละเลยต่อหน้าที่ ปล่อยให้ความเมามายเข้าครอบงำทว่าฉือจ้าวหนาน กลับทำเพียงยกยิ้มอย่างมีความนัย เขายังคงดื่มสุราอีกหลายถ้วย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ไม่หลังงองุ้มเหมือนที่ผ่านมา ดวงตาฉายแววสาแก่ใ

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่230 ร่วมดื่ม

    จุดพัก ณ ลานหิน ฟ้ามืดลงนานแล้ว แขกที่มาพักต่างพากันแยกย้ายกันไปนอน คงมีเพียงบ่าวติดตาม ที่อยู่เฝ้ายามกันสี่ห้าคนเท่านั้น มีเพียงเสียงฟื้นแตกดังเปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เป็นระยะ ดังแทรกความเงียบให้พอได้ยิน ทุกอย่างบนลานที่มีกระโจมตั้ง ล้วนตกอยู่ในสายตาของสองแม่ลูก ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินกลับไปส่วนของห้องพักแขกใช้เวลาเพียงเล็กน้อย สองแม่ลูกก็เดินทางถึงที่หมาย ทั้งคู่หันสบตากัน แล้วยิ้มอย่างพอใจ พวกเขาไม่สนใจว่าเชียนจิ้งอี้จะหายไปไหน ขอแค่คนที่พักอยู่ในห้องทั้งหมด เป็นไปตามแผนการที่วางเอาไว้เท่านั้น ก็เพียงพอแล้ว เพื่อความแน่ใจ ฉือจ้าวหนานได้เดินไปเอาหู แนบกับประตูห้องแรกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปยังอีกห้องด้วยฝีเท้าที่เบากริบ เมื่อไร้เสียงใดๆ เล้ดลอดออกมา เขาได้หันมาส่งยิ้มกว้างให้แก่มารดา เพราะดุเหมือนว่าแผนลวงของพวกเขา สำเร็จไปด้วยดีเชียนจิ้งอี้ก็แค่เหยื่อล่อ นางจะอยู่หรือตายเขาไม่คิดสนใจ ขอแค่เบี่ยงเบนความสนใจของแขกที่มาพัก ให้ลดความมระแวดระวังในตัวเขา กับมารดาไปได้เท่านั้นเป็นพอ ด้วยนิสัยของนาง คงทำเรื่องให้วุ่นวายตามวิสัย ป่านนี้คงถูกสังหารไปแล้วส่วนแขกที่มาพัก คงมั่นใจ

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่229 สิ้นเปลืองน้ำลาย

    “เจ้าคิดว่าการข่มขู่ข้า มันจะได้ผลอย่างนั้นรึ! เจ้าคงลืมไปแล้วว่ามาแค่คนเดียว” อย่างไรเสีย...เขาก็คือหัวหน้าหน่วยลานตระเวน จะมาโง่เง้าให้คนแปลกหน้าลูบคมได้อย่างไร แม้ตำแหน่งของเขา จะได้มาเพราะอำนาจพี่ชาย แล้วมันอย่าไงรเล่า ยังไงเขาก็คือผู้นำ ที่จะไม่มีวันหลงกล ให้กับแผนการล่อลวง อันตื้นเขินนี้เป็นอันขาด รอให้พี่ชายเขามาถึง เจ้าคนโอหังนี้จะได้รู้ ว่าไม่ควรยุ่งกับเขา “อย่าได้เชื่อแค่ตาเห็น เพราะบางครั้ง...มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป” แม่ทัพหนุ่มเอ่ยออกมา ด้วยน้ำเสียงเนิบช้า เพราะไม่ว่าเขาจะรีบลงมือไปแค่ไหน เขาก็ต้องรอผู้มาสบทบของคนทั้งหกอยู่ดี สุ้สร้างความตื่นตระหนกให้อีกสักหน่อย เผื่อได้อะไรเพิ่มเติม จะได้ง่ายต่องานที่รออยู่เบื้องหน้า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร!”ชายผู้นั้นกวาดสายตาเลิ่กลัก มองไปรอบๆ ซึ่งมีเพียงความมืดและเงียบสงัดเท่านั้น ที่เป็นคำตอบในสายตาตอนนี้ แม้แต่เสียบงลมหายใจอื่นใด ยังไม่มีเล็ดลอดให้ได้ยิน “คิดว่าอย่างไรเล่า เห็นเจ้าเป็นคนชอบสังเกตมิใช่หรือ ไม่อย่างนั้นจะจดจำได้อย่างไร ว่าใครหน้าตาเหมือนไม่เหมือนกัน” แม่ทัพหนุ่ม

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่228 บีบคั้งอารมณ์

    “โกหก! หากเจ้าเป็นเพียงผู้ผ่านทาง ไยต้องมาอยู่ตรงนี้ จุดพักมีไยไม่เข้าพัก”ชายผู้นั้นเอ่ยออกมาเสียงกร้าว นี่มันมิใช่เวลาที่นักเดินทาง จะออกมาเดินเสียหน่อย ช่างโกหกได้ไม่เนียนเลยจริงๆ“มีข้อกำหนดด้วยหรือ ว่าการเดินทางต้องพักตามเวลา”แม่ทัพหนุ่มแค่กำลังข่มขวัยคู่ต่อสู้ ด้วยการสนทนาที่เย็นเยียบ แค่เสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติของชายผู้นั้น และท่าทางจับด้ามอาวุธเสียจรเส้นเลือดปูดโปนนั่นอีก บอกได้ชัดว่ากำลังตื่นกลัว“อย่ามาโยกโย้ เจ้าต้องการสิ่งใดก็ว่ามา”“ได้สิ! จริงๆ แล้ว ข้าแค่อยากมาถามหาคนเท่านั้น ได้ยินว่าพวกเจ้าเคยพบเห็นคนผู้นั้น”แม่ทัพหนุ่มแสยะยิ้มเหี้ยม เขารอแค่คำตอบว่าเคยเห็นหรือไม่เท่านั้น แม้จะรู้อยู่แล้วว่าคนพวกนี้ เคยจับตามองน้องสาวของเขา แค่ความคิดของพวกมัน ก็ถือว่าล่วงเกินยัยตัวแสบของเขาไปแล้ว ยากนักที่เขาจะอภัยให้“ใครกัน! ที่นี่เมืองหน้าด่าน ผู้คนเข้าออกมากมาย ข้าจะไปจดจำหมดได้อย่างไรกัน”ชายที่เป็นหัวหน้า ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มรนราน เพราะหากคนที่อีกฝ่ายหมายถึง หญิงสาวที่พวกเขาเพิ่งพูดถึงไป ย่อมหมายความว่าชายแปลกหน้า ต้องเป็นหนึ่งในสามแฝดอย่างแน่นอน และนั่นเขาต้องเดา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status