บทที่ 3
"เจ้ารู้มัยว่าเสียมารยาท กับท่านอ๋องสามแค่ไหน?" ฮูหยินใหญ่ นั่งมองหลิวอี้เฟย ด้วยสายตาเคียดแค้น ร่างน้อยที่คุกเข่าอยู่หน้าห้องรับรองแขก "อี้เฟย ไม่ทราบค่ะแม่ใหญ่ อี้เฟยไม่ได้ตั้งใจ" พูดไปร้องไห้ไป ไม่ได้ตั้งใจจริงๆโวย คนมันขำ กลั้นแทบแย่ หลุดขำออกมานิดเดียวทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ "อี้เฟย ยินดีรับโทษจากแม่ใหญ่" พยามบีบน้ำตาทำหน้าตาให้หน้าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะตีก็รีบตีได้มัย ปวดหัวเข่าจะแย่แล้ว "เจ้าพูดเองน่ะ ได้ แม่นม โบย5ไม้ "สิ้นเสียงฮูหยิน แม่นม คนสนิท เดินไม่หยิบไม้ทันที น่าแปลก ทั้งๆที่นางเป็นคนเลี้ยงหลิวอี้เฟย มาตั้งแต่เกิด แต่ทำไมนางจึงไม่มีความรักและเมตตาต่อหลิวอี้เฟยเลย "เอาให้หนักๆเลยน่ะ แม่นม บังอาจหักหน้าท่านพ่อ เจ้ารู้มัยท่านพ่อกำลังวิ่งเต้นให้ข้าได้แต่งงานกับองค์หญิงสิบสี่ เจ้าทำเสียงานใหญ่" หลิวอี้ฝาน ที่นั่งจิบน้ำชาอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าไร้อารม อะไรกันบ้านนี่ คุณหนูใหญ่ได้เป็นพระสนมชั้นเฟย คุณหนูรองแต่งเป็นพระชายาองค์ชายใหญ่ บังคับข้าแต่งกับองค์ชายสาม วางแผนให้ลูกชายคนเดียวแต่งองค์หญิงสิบสี่ นี้มันจะรวบหัวรวบหางทั้งราชวงศ์เลยหรอ ตาแก่นี้แผนสูงจริงๆ "เอาล่ะๆ ไม่ต้องโบย อี้เฟย เจ้ากลับเรือนไปได้แล้ว"หลิวอี้สง เอ๋ยออกมากหลังจากแม่นมถือไม้เรียวเข้ามา " "ทำไมล่ะค่ะท่านพี่ ก็เห็นอยู่ว่านางหักหน้าท่าน" "เอาล่ะ ให้คุกเข่าแค่นี้ก็พอแล้ว ถ้าโบยตีไปแล้วเกิดมีแผล จะทำยังไง อีก1อาทิตก็จะถึงงานแต่งแล้ว" "แต่เมื่อกี้ท่านอ๋องสามบอกไม่แต่ง" "ตราบใดที่ยังไม่มีราชองค์การถอนหมั้น งานแต่งก็ยังจัดเหมือนเดิม" หึ ทำไมไม่แต่งเองล่ะตาแก่ อี้เฟยได้แต่พูดในใจ อยากตะโกนออกไป แต่ทำไม่ได้ เพราะตอนนี้นางรับบทสาวน้อยถูกแม่เลี้ยงรังแกอยู่ "ไม่ว่ายังไง อี้เฟยก็ต้องแต่งงานกับอ๋องสาม ข้าลงเงินลงแรงไปเยอะ จะให้เสียงานไม่ได้ " อี้สงพูดจบก็เดินออกจากเรือนรับรองไป "หึ วันนี้เจ้าโชดดีไป ข้าไม่ตีเจ้าก็ได้ แต่วันนี้ไม่ต้องกินข้าว" ฮูหยินใหญ่พูดจบก็กระทบเท้าเดินปึงปังออกจาเรือนรับรองไป พร้อมอี้ฝาน ระหว่างทางเดินกลับเรือนท้ายจวน งดข้าวหรอ ยัยแก่แร้งทึ้ง แค่อดข้าววันเดียวข้าทนได้อยู่แล้ว โถ่เอ้ยแค่นี้เอง แปลกจริง ทำมัยยัยคุณหนูสี่ขี้โรคนี้ถึงถูกคนในบ้านรังแกขนาดนี้ ความทรงจำของร่างนี้ก็ไม่มีอะไรเลย เท่าที่รู้จากซิงซิง อย่าเรียกว่ารู้เลย เรียกว่าหลอกถามมาจะดีกว่า คุณหนูสี่ อ่อนแอ ขี้โรค อ่อนโยน แต่ถูกพวกพี่สาวรังแกตลอด มีแผลเป็นจางๆที่หลังจากจากโบย 3ปี ก่อน คุณหนูสามหลิวอี้ฟาง ก่อนแต่งออกไปก็แวะเวียนมารังแกนางเป็นระยะๆ แต่คุณหนูใหญ่หลิวเหม่ยฮัวนี้นางไม่เคยเจอ เดินมาถึงเรือนก็เจอซิงซิง เดินวนไปมาอยู่หน้าเรือนนอน พอซิงซิงเห็นนางเท่านั้น รีบวิ่งมาจับไม้จับมือ สำรวจร่างกาย "เป็นไงบางค่ะคุณหนู พ่อบ้านหวังบอกว่าเห็นคุณหนุนั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนรับรอง" หลิวอี้เฟย ยักใหล่แล้วก็เดินเข้าเรือนไป ศาลาริมสระบัว ณ จวน อ๋องหยางชงอวี้ ที่เทพบุตรรูปร่างเหมือนเซียนมาจุติ กำลังยืนเอามือไพล่หลังชมความงามของ ดอกบัวหลากสีสัน "พี่สาม ท่านไปจวนราชครูมาหรือวันนี้" เสียงขององค์ชายสิบ หยางซื่อเล่อทำลายความสงบลงทันที "เจ้านี้หูไวตาไว ข่าวรวดเร็วจริงๆนะ" หยางชงอวี้หันมายิ้มให้น้องชาย "ตกลงท่านจะแต่งหรอ ทั้งๆที่รู้ว่า ราชครูหลิวอี้สงวางแผนอะไรอยู่" "หากเปิ่นหวางไม่อยากแต่ง ใครก็บังคับเปิ่งหวางไม่ได้" หยางชงอวี้ยกน้ำชาขึ้นจิบ "แล้วทำไมพี่สามไม่เข้าเฝ้า เสด็จพ่อขอยกเลิกงานแต่งล่ะ มายืนชมดอกบัวใจเย็นอยู่แบบนี้?" หยางซื่อเล่อโวยวายใส่พี่ชาย ที่มัวทอดน่องใจเย็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่แบบนี้ มีแต่เค้าหรือไงกันที่ร้อนรนกับเรื่องงานแต่งของพี่ชายจะแย่อยู่แล้ว "ตอนเปิ่นหวางบอก ไม่แต่ง นางหัวเราะเยาะเปิ่นหวาง"หยางชงอวี้ นึกถึงหน้าสาวน้อยยืนก้มหน้าที่พยามกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง เมื่อกลางวัน จากข่าวที่สืบมา นางเรียบร้อยเป็นกุลสตรี เก่งในทุกๆด้าน แต่ไม่ออกจากจวนมา5ปีแล้ว เพราะอะไร แล้วทำไมนางถึงทำให้เขาสนใจนางขนาดนี้ "หากพี่สามแต่งคุณหนูสี่แห่งจวนราชครูเข้ามา ท่านราชครูจะต้องกล่อมให้พี่สามเป็นพวกเพื่อแผนการของพวกมันแน่นอน" "แล้วยังไง เก็บศัตรูไว้ใกล้ตัว ดีกว่าให้ศัตรูอยู่ในที่มืด" หยางชงอวี้พูดจบก็เดินออกจากศาลาไป "พี่สาม ที่ท่านพูดมาคือท่านจะแต่งยังงั้นหรอ" หยางซื่อเล่อตะโกนตามหลังพี่ชาย หลังจากอาบน้ำเสร็จเปลี่ยนชุดนอนบางสีขาว หลิวอี้เฟยก็เดินไปนั่งรับลมอยู่ข้างหน้าต่าง มีเสียงดัง โครกคราก ออกมาจากท้องน้อย นางเอามือลูบท้อง แล้วบ่นกับตัวเองไปพลาง "แค่อดข้าวเย็น อย่าร้องได้มั้ยเจ้าท้องบ้า" แค่ข้าวเย็นที่ไหนกันเมื่อตอนกลางวันก็โดนให้คุกเข่า จนไม่ได้กินข้าวเที่ยง ไหนตอนเย็นจะโดนสั่งงดอีก เท่ากับวันนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ในเมื่อไม่มีอะไรทำก็นอนดีกว่า ในตอนที่กำลังเดินไปที่เตียงนอน "คุณหนูหลับหรือยังเจ้าค่ะ" เสียงใครอื่นไม่ได้ซิงซิงนั้นเอง "ยังเข้ามาสิ" "ซิงซิงแอบหยิบหมั่นโถว มาได้1ลูก คุณหนูรองท้องซักหน่อยมั้ยเจ้าค่ะ" พลางยืนออกไปให้เจ้านายสาว หลิวอี้เฟย เอื้อมมือไปหยิบมา "ขอบใจเจ้ามากนะ เฮ้อมีแต่เจ้านี้ล่ะที่ดีกับข้า ข้าจะทำยังไงดี หนีก็ลำบาก แต่งกับอ๋องสามก็ไม่พ้นหนีเสือปะจรเข้" "แต่งออกไปใช่ว่า เสียหายน่ะเจ้าค่ะ ได้เป็นถึงพระชายาเอกของท่านอ๋อง คงจะสุขสบายกว่าอยู่ที่นี้" ซิงซิงพูดออกไปเนื่องด้วย คุณหนูของเธออยู่ที่นี้ลำบากไม่น้อย ต่างจากคุณท่านอื่นๆในบ้าน "ข้าไม่อยากแต่งงาน ข้าอยากออกไปท่องโลกกว้าง อายุแค่18 ปี จะให้แต่งงาน อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนได้ยังไง ข้าอยากใช้ชีวิตของตัวเอง อยากมีคนรักที่รักข้าคนเดียวร่วมทุกข์ร่วมสุขไปตลอดชีวิต" ซิงซิงได้แต่ส่ายหัว ใช่ว่าจะแปลกใจกับคำพูดแปลกประหลาดของเจ้านาย เพราะได้ยินมาจนเบื่อแล้ว "งั้นคุณหนูพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ " หลิวอี้เฟย พยักหน้าตอบสาวใช้ แล้วเดินไปโต๊ะที่กระจก หยิบหมั่นโถวที้ซิงซิงขโมยมาให้ ยัดเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พยายามมองหน้าสาวน้อยในกระจก ตอนตื่นมาครั้งแรก ร่างนี้อายุ13 ก็ว่าน่ารักน่าชังอยู่ไม่น้อย เวลาผ่านมา5ปี ร่างนี้อายุ18ปี สวยจนล่มแค้วนได้เลยที่เดียว เครื่องหน้าจิ้มลิ้ม ปากเล็ก จมูกหน่อย ตากลมโตสองชั้น เวลายิ้มเป็นรู้พระจันทร์เสี้ยวน่าหลงไหล ผิวก็ขาวราวหิมะ ทรวงทรงองเอว ไร้ทีติ อืมๆๆ นางพนักหน้าให้กับตัวเองในกระจก "สวยขนาดนี้แต่งกับอ๋องสามที่มีอนุตั้งมากมาย เสียดายแย่เลย" หลิวอี้เฟย ชมตัวเองไปพลางเคี้ยวหมั่วโถวไป "เรียนท่านอ๋อง จวนราชครูวางเวรยามแน่นหนากว่าเดิม มาก เนื่องจากหลายวันคุณหนูสี่หลิวอี้เฟย พยายามลอบหนีออกจากจวน ขอรับ" มู่หลง รายงานข่าวที่ท่านอ๋องให้ไปสืบ นางพยายามหนีหรอ หนีงานแต่งกับข้างั้นหรอ ข้าผู้นี้นะหรือ "ฮ่าๆๆๆๆๆ" หยางชงอวี้ หลุดขำออกมาก ทำเอามู่หลง องครักษ์ที่ติดตามท่านอ๋องมาหลายสิบปีถึงกับตาโต จวนราชครู เวรยามเพิ่มเป็นสามเท่าหลังจาก คุณหนูสี่ พยายามหลบหนีออกจากจวน ยิ่งมีคำสั่งห้ามทำร้ายร่างกายหรือลงโทษนาง นางยิ่งหนีบ่อยแล้วถี่ขึ้น ปลอมตัวเป็นสาวใช้บ้าง เอายาถ่ายผสมขนมให้ยามหน้าประตูกินบ้าง คลานออกช่องสุนัขในกลางดึก บีนกำแพงออกไปบ้าง เหล่าทหารยามต่างเหงื่อตกต้องเฝ้ายามด้วยความระแวง ด้วยกลัวเพราะนางมีแผนแปลกๆมาตลอดยากจะรับมือยิ่งนัก "เฮ้อ...ข้าคิดแผนไม่ออกแล้วซิงซิง" หลิวอี้เฟย นั่งเอามือเท้าโต๊ะ ทำสีหน้าระอา พลางถอนหายใจติดกัน ซิงซิงไม่โต้ตอบอันใด พลางรินน้ำชาแล้วยื่นให้ ผ่านไป1 ชั่วยามในห้องมีแต่ความเงียบ กับสีหน้าครุ่นคิดของหลิวอี้เฟย "ซิงซิง เจ้าอยู่นี้เอง ข้าตามหาเจ้าแทบแย่" หลิวอี้ฝาง เปิดประตูเข้ามาโดนไม่ได้เคาะก่อนด้วยซ้ำ เจ้าคนไม่มีมารยาท "ท่านพ่อข้าเรียกหาเจ้านะ ไปเดี๋ยวนี้เลย" หลิวอี้ฝางหันไปพูดกับซิงซิง โดยที่ไม่สนใจเจ้าของห้อง ซิงซิงย่อกายทำความเคารพแล้วเดินออกจากห้องไป ในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง หลิวอี้เฟยจิบชาไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจการมีอยู่ของอีกฝ่าย "เจ้าจะไม่ถามข้าหน่อยหรอว่าเรียกซิงซิงไปทำไม" เมื่ออีกฝ่ายเงียบเค้าจึงเป็นฝ่ายเริ่มคุยก่อน "อ้าว....ท่านพี่รอง ท่านยังอยู่อีกหรอ อี้เฟยนึกว่าพี่รองออกไปพร้อมซิงซิงแล้วเจ้าค่ะ" หลิวอี้ฝางตากระตุก เขายืนอยู่ตรงนี้ทั้งคนนางจะไม่เห็นได้ยังไง จะมากไปแล้วนะ หลิวอี้ฝางสูดลมหายใจเข้าลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วได้พูดออกไป " ข้าแค่จะบอกเจ้าว่า มะรืนจะมีงานแต่งระหว่างท่างอ๋องสามกับเจ้า เจ้าอย่าคิดหลบหนีอีก หากเจ้าหลบหนีหรือตุกติกท่านพ่อมีคำสั่งให้ฆ่าซิงซิงทันที" พูดจบก็หัวเราะเสียงดัง เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้หลิวอี้เฟยนั่งหน้าซีดไร้สีอยู่ภายใน ตาแก่ราชครูนั้นกล้าเอาชีวิตซิงซิง มาขู่ข้าเลยหรือนี้ ปกติไม่ว่าที่ผ่านมาไม่ว่าหลิวอี้เฟย จะหลบหนีซักกี่ครั้ง คนที่ทำโทษนางมีแค่ฮูหยินใหญ่กับแม่นมเท่านั้นพิเศษ4องค์หญิงเลี่ยงลี่กำลังปั้นหิมะเล่นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เจินเป่ากลิ้งเล่นเอาตัวถูกับหิมะไปมา แม้เจินเป่าจะตัวเกือบเท่าเสือแต่อ่อนโยนกับเลี่ยงลี่ยิ่งกว่าลูกแมว"องค์ชายฮุ่ยจื่อ น่ารักมั้ยซิงซิง" จางเลี่ยงอดถามไม่ได้เพราะยังไม่มีใครได้เห็นองค์ชายเลยตั้งแต่คลอด นี้ก็สองวันแล้ว"น่ารักมากกกกกก ปากกับตาเหมือนพระชายาไม่มีผิด"ซิงซิงรีบตอบ แอบภูมิใจที่ตนได้เห็นและอุ้มองค์ชายน้อย"ถ้าเจ้าไม่รีบแต่งกับข้าระวังจะมีลูกไม่ทันใช้นะ" จางเลี่ยงยืนกอดอกมองซิงซิง"ข้ายังไม่ได้แต่งกับท่านเลย มาพูดถึงเรื่องมีลูกท่านนี้""ก็แต่งสิ"จางเลี่ยงพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยซิงซิงหน้าแดง มือเผลอออกแรงใส่หิมะเยอะไปตุ๊กตาเลยแตก"พี่ซิงซิง" องค์หญิงน้อยแบะปากจะร้องไห้"ซิงซิงไม่ได้ตั้งใจเพคะ เดี๋ยวปั้นให้ใหม่นะเพคะ องค์หญิงอยากได้รูปอะไร ไม่ร้องน้าโอ้ๆ""เลี่ยงลี่ อยากได้ตุ๊กตาพ่อแม่ลูก " องค์หญิงน้อยนั่งสะอื้น"ข้าช่วย" จางเลี่ยงเดินมาช่วยซิงซิงปั้นตุ๊กตาหิมะหิมะตกหนักมาหลายวันแล้ว แต่จวนอ๋องมีแต่ความอบอุ่น เรือยเหมยฮัว มีขนาดใหญ่มาก ที่เรือนมีห้องนอนหลายห้องนอน ห้องหนังสือ ห้องทานอาหาร ท่านอ๋องต่อเติมออกไปเรื่
พิเศษ3หิมะกำลังตกหนัก อากาศหนาวมาก แต่ท่านอ๋องสามกำลังร้อนรุ่มกลุ้มใจ หมอตำแยถูกตามตัวมายังจวนท่านอ๋องสามอย่างเร่งด่วน พระชายา เจ็บท้องกำลังจะคลอด บ่าวไพร่ต่างพากันวุ่นวาย เนื่องจากท่านอ๋องถูกพระชายาไล่ออกมากจากห้องคลอดทำให้ท่านอ๋องนั้นฟาดงวงฟาดงาไปทั่ว ในห้องนั้นจึงมีแค่ พระชายา หมอตำแยและซิงซิงเท่านั้น"อี้เฟย เป็นอย่างไรบ้าง" หลังจากเดินวนอยู่หน้าห้องมาซักระยะ ตั้งแต่หมอมาถึงภายในนั้นเงียบเชียบข้าใจคอไม่ดีเลย ทำไมเงียบแบบนี้ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ อ๋องชงอวี้ก็ได้แต่เดินวนเวียนไปมาตอน ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปดูแต่ถากหากเข้าไปนางบอกจะไม่พูดด้วยตลอดชีวิต จะเข้าไปก็ไม่ได้ รออยู่ข้างนอกก็ร้อนใจจะตาย "จิงซิ่ง เจ้าเข้าไปดูสิ" "หลิ่งถิง น้ำร้อนล่ะพร้อมมั้ย"มู่หลงองครักษ์คู่ใจได้แต่ส่ายหัว ไม่ใช่ลูกคนแรกเสียหน่อย ท่านอ๋องทรงวิตกกังวลเกินไปเฮ้อ! จางหลงถอนหายใจออกมาเบาๆ เบามากๆ เนื่องจากมองท่านอ๋องเดินไปเดินมาแล้วเกิดอาการเวียนหัว "ใครให้เจ้าถอนหายใจเสียงดัง เปิ่นหวางกำลังใช้สมาธิ" อ๋องชงอวี้หันมาทำตาเขียวใส่จางหลงเวรกรรม หายใจ ยังผิดเลยเวลานี้เวลาผ่านไป 2ชั่วยาม ในที่สุดก็มีความเคลื่อนไหวจ
พิเศษ2"คุยอะไรกันอยู่" อ๋องชงอวี้ เดินเข้ามาในเรือน อุ้มเลี่ยงลี่มานั่งบนตักหันไปหอมแก้มพระชายา แล้วก็ก้มลงหอมแก้มองค์หญิงน้อย ปากน้อยๆยังเคี้ยวขนมแก้มตุ้ยอยู่"อี้เฟย ว่าจะให้จิงซิ่ง หลิ่งถิง มาประจำที่เรือนเพคะ ""ดีๆ เจ้าท้องแก่มากแล้ว ซิงซิงดูแลเลี่ยงลี่คงไม่มีเวลามาดูแลเจ้าเท่าไร พรุ่งนี้พี่จะขอฮ่องเต้ลา จนกว่าเจ้าจะคลอดดีมั้ย"พระชายาอ้าปากค้าง ตอนข้าคลอดเลี่ยงลี่ก็ลาหยุด 1ปีเต็มๆ แถมต่อเติมเรือนทำห้องนอนให้เลี่ยงลี่อยู่ในเรือนเดียวกันกลับมาจากในวังก็คลุกอยู่กับเลี่ยงลี่ พาเข้านอนเองทุกคืน นี้จะลาหยุดก่อนข้าคลอดล่วงหน้าอีกหรือ โอ้ยพ่ออออ"ไว้อี้เฟยคลอดค่อยลาดีมั้ยเพคะ""ไม่ เพราะพี่ลาเสด็จพ่อมาเรียบร้อยแล้ว" น้ำเสียงเจือขบขัน พลางฟัดแก้มน้อยๆที่เคี้ยวขนมอยู่จ้าๆ ตามใจท่านเลยบ่ายคล้อย ท่านอ๋องวาดรูปอยู่ที่ศาลาริมสระบัวมีพระชายาเอนหลังอยู่ข้างๆ ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีส่วนองค์หญิงเลี่ยงลี่ วิ่งเล่นอยู่ไม่ไกล"เจ้าแก่แล้วกะมัง เล่นกับองค์หญิงแค่นี้หอบเชียว"จางเลี่ยงยืนพิงต้นไม้ ดูซิงซิงเล่นวิ่งไล่จับกับองค์หญิง"ปีนี้ข้าเพิ่งอายุ20ปี ข้าจะแก่ได้ยังไง ท่านนี้" อ้าปากมาก็ชวนตี คนบ้า
พิเศษ1โอ้ยยยยย ตายๆ ข้าจะเป็นลม สงสัยจะข้าแก่เกินไปแล้วสำหรับเรื่องนี้"องค์หญิงเพคะ ซิงซิงไม่ไหวแล้วเพคะ ได้โปรดหยุดก่อน แฮ่กๆ" ซิงซิงวิ่งตามเด็กน้อยคนหนึ่งเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว"พี่ซิงซิง ตามมาๆ ไวๆ บี๋เสื้อน้อยจะบินหนีแล้ว" องค์หญิงหยางเลี่ยงลี่ เด็กน้อยวัย3ขวบ ผิวสีขาวราวกับน้ำนม ปากแดงแก้มแดง กำลังวิ่งตามจับผีเสื้อในสวนนิสัยขององค์หญิงนั้นตรงตามชื่อแทบจะทุกอย่างความงดงามที่สว่างไสว วันที่ลืมตาดูโลก ฮ่องเต้ทรงพระทานยศองค์หญิงและพระนามให้ หลานคนแรกของฮ่องเต้คงไม่ต้องบอกว่าทรงเอ็นดูแค่ไหน"ซิงซิงไม่ไหวแล้วเพคะ" ทรุดลงไปนั่งกับพื้น"ไม่ไหวก็ไม่หาคนอื่นมาช่วยล่ะ พระชายาบอกเจ้าหลายครั้งแล้วนิ" จางเลี่ยงยืนทอดเงาบังร่างของซิงซิงเอาไว้"ไม่ ข้าจะดูแลองค์หญิงคนเดียวเท่านั้น" หันค้อนขวับใส่เมื่อรู้ว่าเงานั้นเป็นของใคร "ท่านล่ะไม่เฝ้าพระชายาเหรอ ระวังท่านอ๋องทำโทษเอาจะหาว่าข้าไม่เตือน""เจ้าห่วงตัวเองเถอะ ข้าเปลี่ยนเวรกับจางหลงแล้ว ส่วนเจ้านะจะเป็นลมอยู่แล้ว" เดินไปอุ้มองค์หญิงน้อยชูแขนขึ้นจนสุด จนองค์หญิงน้อยจับผี้เสื้อได้"คิกๆ พี่จางเลี่ยงเก่งที่สุดเลย""องค์หญิง พระชายาตามหาอยู่นะขอรั
บทที่ 29ในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง ลมเย็นๆ พัดลอดผ่านใบไม้ต้นหญ้าให้ความรู้สึกสดชื่น ต้นไม้ต่างแข่งกันออกดอกอวดสีสันสวยสดงดงามหน้าประตูเมืองหลวง ผู้คนมากมายสองข้างทาง มายืนส่งขบวนขององค์หญิงเจียวเหมย องค์หญิงจะเสด็จไปยังแคว้นต้าชิง เพื่อแต่งงานกับฮ่องเต้ต้าชิง เชื่อมสัมพันธ์ของสองแคว้น"รักษาตัวด้วยนะเจียวเหมย" อี้เฟยจับมือเจียวเหมย น้ำตาคลอเบ้า แม้ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายโลหิต แต่นางเปรียบเสมือนน้องสาวตัวน้อยๆ ของนาง ต้องแต่งงานตามที่พ่อแม่จัดหาให้ เหมือนหญิงสาวทุกคนในยุคนี้"พี่สะใภ้ ข้าจะคิดถึงท่าน" องค์หญิงเจียวเหมยสวมกอดอี้เฟยไว้ ในราชวงศ์มีการแก่งแย่งชิงดีกันมากมาย มีเพียงแค่นางที่จริงใจกับข้า ดีกับข้าเสมอต้นเสมอปลาย นางเหมือนพี่สาวที่ข้าไม่เคยมี"เอาล่ะ ร่ำลากันพอแล้ว เดี๋ยวจะช้ากว่ากำหนดการ"ซื่อเล่อ พูดขึ้นขัดสองสาวที่กอดกันกลมอยู่ หากปล่อยให้ร่ำลากันต่อไปวันนี้คงไม่ได้เดินทางเป็นแน่"พี่สะใภ้ไม่ต้องห่วง ข้าจะส่งเจียวเหมยให้ถึงที่ รับรองปลอดภัยหายห่วง ท่านเชื่อมือข้าได้"ซื่อเล่อพูดหยอกเย้า ตามประสานิสัย"ฝากเจียวเหมยด้วยนะ" หลังจากส่งองค์หญิงเจียวเหมยขึ้นรถม้าไป เมื่อขบวนเคลื่
บทที่ 28"ไม่นึกเลย ฮ่องเต้จะประทานยาพิษให้พระสนมหลิว ได้ยินว่ายาพิษนั้นเป็นพิษน้ำทิพย์" บ่าวไพร่ในตระกูลหลิว กำลังนั่งนินทาเจ้านายอยู่ในโรงครัว"เฮ้อ นายท่านกับนายน้อยก็ถูกประหาร ไม่ทันไรคุณหนูใหญ่ก็มาถูกประทานยาพิษ นี้หาก.."ปัง!!!! เสียงประตูโรงครัวเปิดออก "พวกเจ้าไม่มีงานทำกันหรือไง ถึงได้มานั่งนินทาเจ้านาย หรือต้องถูกโบยถึงจะหลาบจำ" เสียงแม่นม คนสนิทของฮูหยินใจจริงอยากสั่งโบยพวกปากหอยปากปูพวกนี้ให้หมด แต่ตอนนี้ต้องอาศัยพวกเขา หลังจากนายท่านถูกประหาร บ่าวไพร่ลาออกเกือบหมด ใครจะอยากอยู่รับใช้พวกกบฏ ตอนนี้เหลือแค่ข้าเก่าเต่าเลี้ยงกับพวกที่ไม่มีที่จะไปเท่านั้นกระมัง"ท่านแม่ เราจะทำอย่างไรต่อไปดี" หลิวอี้ฟางนั่งกอดฮูหยินเอาไว้ หลังจาก พี่ใหญ่ถูกจับขังคุกหลวง ฮ่องเต้รับสั่งห้ามใครเยี่ยมเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนคำสั่งต้องรับโทษสถานเดียวกับพระสนม คือประหารชีวิต"ฮ่องเต้ช่างลำเอียง ถ้าพูดให้ถูกพี่ใหญ่เป็นถึงพระสนมของฮ่องเต้เคยเป็นคนโปรด แล้วทำไมถึงได้ไปเข้าข้างนังอี้เฟย"" จุ๊ๆ อี้ฟาง อย่าพูดเสียงดังไปหากใครได้ยินเข้ามีกี่หัวก็คงไม่พอ แม่ไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้อีก แม่เหลือแค่เจ้าแล้ว ฮือๆ" ข้