공유

ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์
ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์
작가: อิ่น เยว่

สายฝน

last update 최신 업데이트: 2024-11-25 15:21:54

วันที่ฝนโปรยปราย เสียงฝนกระทบกระจกบานใหญ่ในแมนชั่นกว้างใหญ่ของจางเหม่ยอิงก้องกังวานไปทั่วห้อง เธอเพียงแค่ต้องการที่จะพักผ่อนอย่างสบายใจในเย็นวันอันแสนเงียบสงบ จางเหม่ยอิงหันไปดูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เธอกำลังต้มอยู่ในหม้อที่เดือดปุดพลางคิดถึงวันเก่าๆ

ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงฝน จางเหม่ยอิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพบว่าเป็นอาจารย์หวังที่โทรมาหาเธอ จางเหม่ยอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย

“เหม่ยอิง อาจารย์มีเรื่องรบกวนเธอหน่อย” เสียงของอาจารย์หวังดูเหมือนจะเคร่งเครียดกว่าปกติ

"เกิดอะไรขึ้นคะอาจารย์"

“มีคดีฆาตกรรมที่ซับซ้อนเกิดขึ้นแถวชานมืองน่ะ พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์สักเท่าไหร่ แถมยังไม่พบเบาะแสที่สำคัญ ผมและพวกเขาเชื่อว่ามีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่จะไขคดีนี้ได้” อาจารย์หวังตอบด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความคาดหวัง “ได้โปรดมาช่วยที ผมไว้ใจเธอมากนะ เหม่ยอิง…”

จางเหม่ยอิงเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองไปนอกหน้าต่าง เห็นแสงไฟในเมืองที่เลือนรางภายอยู่ภายใต้สายฝน

เธอรู้ดีว่าความสามารถของตัวเองในการสืบสวนและสังเกตการณ์นั้นพิเศษและไม่เหมือนใคร แต่ก็ไม่แน่ใจว่าในตอนนี้เธอต้องการกลับไปเจอคดีที่ซับซ้อนและน่าสลดแบบนี้อีกหรือไม่ พูดตรงๆ ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเริ่มหมดไฟในการทำงาน เพียงแค่หิวและอยากจะนั่งกินบะหมี่ที่ต้มค้างไว้กลางทาง

“ได้ค่ะ หนูจะไปเดี๋ยวนี้” เหม่ยอิงตอบเสียงหนักแน่นหลังจากใช้เวลาตัดสินใจเพียงไม่กี่วินาที

“ขอบคุณมาก เหม่ยอิง ฉันรู้ว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง” อาจารย์หวังกล่าวด้วยเสียงโล่งใจ

หลังจากวางสาย เหม่ยอิงพ่นลมหายใจออกเบาๆ ก่อนจะดับเตาไฟฟ้าและหันไปหยิบเสื้อโค้ทกันฝนและไฟฉายพกพา เตรียมตัวออกไปเผชิญกับค่ำคืนอันเย็นเฉียบและเปียกชื้น

จางเหม่ยอิงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่มากด้วยความสามารถและประสบการณ์ ด้วยความละเอียดอ่อนและความรอบคอบ เธอสามารถสังเกตเห็นรายละเอียดที่คนอื่นมองข้ามได้ ซึ่งเป็นทักษะที่ช่วยให้เธอไขคดีที่ซับซ้อนที่สุดในหลายครั้ง

ไม่เพียงแค่ความชำนาญในเรื่องการวิเคราะห์หลักฐาน แต่ความเด็ดเดี่ยวและการตัดสินใจที่เฉียบขาดยังทำให้เธอกลายเป็นบุคคลที่เพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาต่างต้องพึ่งพาอยู่เสมอ

เสียงฝนกระหน่ำไม่หยุดหย่อนในค่ำคืนที่มืดมิด ขณะที่จางเหม่ยอิงกุมพวงมาลัยแน่น ขับรถไปตามถนนที่เปียกชุ่ม ท่ามกลางความเงียบเหงา

อีกความลับหนึ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ จางเหม่ยอิงในวัย 30 นั้นแอบเก็บงำความรู้สึกที่มีต่ออาจารย์หวังมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเพียงนักศึกษา ถึงแม้ว่าอาจารย์หวังนั้นจะอายุ 50 แล้ว แต่ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามราวกับดาราหนังของเขายังทำให้ผู้คนรอบตัวหลงใหลได้เสมอ

เขาเป็นแรงบันดาลใจในหลายๆ ด้านของชีวิตจางเหม่ยอิง แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกนี้กลับกลายเป็นรักที่ไม่สมหวัง ซึ่งไม่มีทางก้าวข้ามสถานะอาจารย์และศิษย์ได้จริง ๆ

“ทำไม... ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยนะ” เธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง แต่สายตายังคงมุ่งมั่น ไม่มีน้ำตาหยดใดไหลออกมา เพียงแต่ความเจ็บปวดนั้นยังคงสะท้อนอยู่ในแววตาของเธอ

ถึงแม้จะรู้ดีว่าความรักนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ จางเหม่ยอิงก็ยังคงเลือกที่จะเดินหน้าแอบรักอาจารย์หวังต่อไป ไม่ยอมปล่อยให้ความรักที่แสนขมขื่นนี้มาบั่นทอนความเข้มแข็งในตัวเธอแต่อย่างใด

ทันใดนั้น รถสะดุดที่จุดน้ำขังบนพื้นถนนที่ลื่นจากฝน เสียงยางเสียดสีกับถนนดังก้องอย่างน่าขนลุก รถเริ่มเสียการควบคุม จางเหม่ยอิงจับพวงมาลัยแน่น พยายามดึงรถให้กลับมาอยู่ในเส้นทาง แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป

"ไม่นะ!"

จางเหม่ยอิงร้องเสียงดังลั่นก่อนที่รถจะเหวี่ยงแรงอีกครั้ง ไปกระแทกกับขอบถนน ร่างของเธอถูกเหวี่ยงไปตามแรง รถพลิกคว่ำหลายตลบก่อนที่จะหยุดนิ่งบนถนนเปียก ภายในรถกลับกลายเป็นความเงียบงันที่มืดมิด เสียงฝนยังคงตกกระทบรถเป็นจังหวะอันเศร้าสร้อย

ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่ทุกสิ่งจะดับลง ภาพของอาจารย์หวังแวบเข้ามาในความคิดของเธอ ใบหน้าของเขายิ้มให้เธอราวกับอยู่ใกล้ๆ...

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ข้าอยากบอกรักเจ้า

    จางเหม่ยอิงหัวเราะเบาๆ “ท่านพี่ ข้าเพียงทำหน้าที่ของข้า ประชาชนเหล่านี้คือรากฐานของบ้านเมือง หากพวกเขาสุขสงบ บ้านเมืองของเราก็จะมั่นคงนะเจ้าคะ”หวังกู้หย่งยิ้ม พลางเอื้อมมือจับมือนาง “เจ้าเป็นดั่งเพชรน้ำงามในชีวิตข้า อิงเอ๋อร์ ข้าภูมิใจในตัวเจ้ามาก”ยามเช้าของฤดูใบไม้ผลิ ดอกเหมยแดงเบ่งบานสะพรั่งรอบลานพระราชวัง แสงแดดอ่อนสาดส่องลงมาทำให้หยดน้ำค้างที่เกาะตามกลีบดอกดูระยิบระยับ หวังกู้หย่งกำลังนั่งอยู่ที่ศาลาริมบ่อน้ำในสวนหลวง เขาแต่งกายเรียบง่าย แต่ท่าทางที่สุขุมและแววตาแน่วแน่ยังคงแสดงถึงความสง่างามขององค์ชายผู้มีบทบาทสำคัญในราชสำนักจางเหม่ยอิงเดินเข้ามาพร้อมกับถาดชาที่ถือไว้ในมือ นางสวมชุดสีฟ้าอ่อนปักลายดอกเหมยที่สะท้อนความเรียบง่ายแต่สง่างาม นางวางถาดชาไว้บนโต๊ะไม้ก่อนจะนั่งลงข้างเขา“ท่านพี่ เหตุใดจึงมานั่งตรงนี้แต่เช้าเจ้าคะ?” นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางยื่นถ้วยชาที่เพิ่งชงให้เขาหวังกู้หย่งรับถ้วยชามา ก่อนจะยิ้มบางๆ “ข้ามาผ่อนคลายความคิด เจ้าไม่ต้องห่วงไป ข้าเพียงอยากชมดอกไม้บาน” เขาหันมามองนาง สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “แต่เจ้าล่ะ มีธุระสิ่งใดหรือถึงมาหาข้าแต่เช้า?”“ข้า

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   เวลาผ่านไป

    ความทรงจำในวันนั้นยังคงชัดเจนในใจของอาจารย์หวัง แม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่ภาพของจางเหม่ยอิงในห้องเรียนวิทยาศาสตร์นิติวิทยาศาสตร์ยังคงตราตรึง รอยยิ้มของเธอที่มุมปากขณะตั้งใจฟัง หรือแววตาที่เป็นประกายทุกครั้งที่เธอเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คือภาพที่ไม่มีวันเลือนหายจากใจเขา...ในมโนภาพของเขา ภาพของหญิงสาวที่เคยเป็นลูกศิษย์คนโปรดและเป็นรักเดียวในหัวใจปรากฏขึ้น เธอยืนยิ้มอยู่ใต้ต้นซากุระในวันที่ดอกไม้เบ่งบานเต็มที่ ในชุดฮั่นฝูสีฟ้าอ่อนปักลายดอกเหมยของเธอพลิ้วไหวไปตามสายลม ใบหน้าของจางเหม่ยอิงเปล่งประกายด้วยรอยยิ้มที่งดงามจนทำให้หัวใจเขาสั่นไหว ข้างๆ เธอนั้นมีชายคนหนึ่งสวมชุดจีนยุคโบราณสีน้ำเงินเข้มยืนอยู่ คนๆ นั้นมีหน้าตาที่เหมือนเขามากจนอดคิดไม่ได้ว่าบางที่เราอาจจะได้เจอกันแล้วในชาติภพใดชาติภพหนึ่ง"เหม่ยอิง… หากชาติหน้าหรือมีสักชาติภพที่เรามีโอกาส ผมขอให้ได้รักและอยู่เคียงข้างเธอ…"เสียงเครื่องวัดหัวใจในห้องดังเป็นเสียงยาว ทันทีที่ดวงตาของอาจารย์หวังปิดลงอย่างสงบ ใบหน้าของเขาเปื้อนรอยยิ้มบางๆ ราวกับว่าเขาได้พบกับจางเหม่ยอิงในฝันสุดท้าย ความทรงจำและความปรารถนาอันแรงกล้าของเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของห้วงน

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   สำนึกผิด

    ไม่กี่วันต่อมา ผิงชิงเสียเองก็ขอเข้าพบจางเหม่ยอิงเป็นครั้งสุดท้าย นางดูเหนื่อยล้าและเศร้าหมองเป็นอย่างมาก น้ำเสียงที่เคยเปี่ยมไปด้วยความเย่อหยิ่งกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงที่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ“เหม่ยอิง... ข้า... ข้าขอโทษ” นางเริ่มพูด ดวงตาของนางหลุบต่ำ “สิ่งที่ข้าทำ มันไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะยอมให้อภัย”จางเหม่ยอิงมองนางด้วยความนิ่งสงบ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “ข้าให้อภัยเจ้า ผิงชิงเสีย... เพราะข้าเชื่อว่าในตัวเจ้ายังน่าจะมีความดีเหลืออยู่บ้าง อย่าง้นอยเจ้าก็หวังดีและไม่เคยคิดร้ายต่อองค์ชาย”ดวงตาของผิงชิงเสียเริ่มมีน้ำตา “ขอบคุณ... ขอบคุณมาก แต่ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะไปถือศีลที่อารามหลวง เพื่อไถ่บาปทั้งหมดที่ข้าได้ทำไว้” จากนั้นไม่นานผิงชิงเสียก็เดินทางไปยังอารามแห่งหนึ่งเพื่อไถ่บาปโดยไม่มีกำหนดกลับเมืองหลวงในห้องพักผู้ป่วยที่เงียบสงัด อาจารย์หวังเซินเจี๋ยในวัย 80 ปีนอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด ดวงตาของเขาปิดสนิท ร่างกายซูบผอม ผิวซีดเซียวจากโรคที่กัดกร่อนพละกำลังของเขามานานหลายปี ใบหน้าที่เคยดูสง่างามบัดนี้เต็มไปด้วยรอยลึกแห่งกาลเวลาท่ามกลางเสียงเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ปรับความเข้าใจ

    ในห้องนอนอันแสนสงบภายในตำหนักที่กว้างใหญ่ จางเหม่ยอิงกำลังบรรจงใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดเช็ดตัวให้กับคนรักของนางอย่างอ่อนโยน“หวังกู้หย่ง...ท่านพี่” นางเอ่ยเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและแผ่วเบาสักสักจางเหม่ยอิงได้ยินถึงเสียงฝีเท้าหนักแน่นที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ดวงตาคู่งามเหลือบมองไปยังประตูด้วยความสงสัยไม่นานนัก ประตูเปิดออก เผยให้เห็นร่างสูงของตวนเฟิงที่ยืนอยู่“กระหม่อมต้องขออภัยที่มารบกวน แต่กระหม่อมมีเรื่องสำคัญที่อยากเรียนให้พระชายาทราบพ่ะย่ะค่ะ” “พูดมาเถอะ ตวนเฟิง” “เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น กระหม่อมคิดว่าพระชายาควรทราบความจริง... เรื่องที่องค์ชายปกป้องแม่นางผิงชิงเสีย... แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ”ดวงตาของจางเหม่ยอิงเบิกกว้างเล็กน้อย แต่ยังคงนั่งนิ่งสงวนท่าที “หากไม่ใช่ แล้วเหตุใดเขาจึงต้องปกป้องนาง แทนที่จะเป็นข้า?”“องค์ชายไม่ได้ปกป้องผิงชิงเสีย แต่เพราะองค์ชายเองทรงทราบตั้งแต่ต้นว่าผิงชิงเสียไม่ได้เป็นคนร้ายตัวจริง”ตวนเฟิงพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง หมายอยากจะช่วยให้นายของตนได้ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน“คนที่อยู่เบื้องหลังการลอบว

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   แสงสุดท้าย

    แสงยามเช้าค่อยๆ สาดส่องผ่านหน้าต่างห้องพัก กระทบกับผิวซีดของหวังกู้หย่งที่นอนแน่นิ่งบนเตียง ร่างสูงใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยเปี่ยมไปด้วยพลังบัดนี้ดูอ่อนแอและเปราะบาง ผ้าพันแผลสีขาวที่ซึมไปด้วยเลือดสีดำประปรายบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือดที่เขาได้เผชิญเพื่อปกป้องจางเหม่ยอิงจางเหม่ยอิงนั่งเฝ้าไข้อยู่ข้างเตียงอย่างใกล้ชิดหลังจากที่ได้รู้ว่ามีดสั้นของหลิวกงหยวนเล่มนั้นอาบยาพิษ จ้องมองใบหน้าที่ไร้สีเลือดของหวังกู้หย่ง น้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นเอ่อล้นอีกครั้ง ราวกับหัวใจของนางถูกบีบรัดจนแทบแตกสลาย“เหตุใดท่านถึงโง่เขลาถึงเพียงนี้...ท่านรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วข้านั้นไม่ได้ต้องการสิ่งใด นอกจากให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อไป...”นางเอื้อมมือเรียวบางไปจับมือหนาที่บัดนี้ไร้เรี่ยวแรงของเขา หวังกู้หย่งไม่ตอบสนอง ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจหนักหน่วงของคนที่กำลังทุกข์ทรมาน เขานิ่งราวกับไม่มีชีวิต ดวงตาของเขาปิดสนิท ราวกับจมดิ่งอยู่ในห้วงนิทราที่ไม่มีจุดจบหงเอ๋อร์ที่มีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะนั้นทนไม่ไหวอีกต่อไป นางก้าวเข้ามาพร้อมจับไหล่ของจางเหม่ยอิงเบาๆ“พระชายาเพคะ...ท่านต้องพักผ่อนบ้าง ท่านอยู่ตรงนี้ทั้งคืนแล้ว เดี๋ย

  • ย้อนชะตาเพื่อรักนิรันดร์   ปกป้องนาง

    “ออกมาเดี๋ยวนี้ จางเหม่ยอิง! ข้ารู้ว่าเจ้าซ่อนอยู่แถวนี้!”เสียงของหลิวกงหยวนดังก้องกังวานไปทั่ว พร้อมกับมีดสั้นที่สะท้อนแสงจันทร์วูบวาบอยู่ในมือของเขา ไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนที่อ่อนแอมาตั้งแต่กำเนิดอย่างจางเหม่ยอิงจะวิ่งหนีเขาได้รวดเร็วขนาดนี้ทางด้านของจางเหม่ยอิงนั้นกำลังปรับลมหายใจให้เบาลงแม้ว่าร่างกายจะสั่นสะท้านไปด้วยความกังวล พลางคิดหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ในวินาทีนั้นเอง เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้น ร่างสูงสง่าร่างหนึ่งก้าวออกมาจากความมืดจางเหม่ยอิงหันขวับไปตามเสียง ใจของนางที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังเริ่มสั่นคลอน ดวงตาของนางเบิกกว้าง เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงที่นางรู้จักดี... เสียงที่เป็นทั้งความสิ้นหวังและแสงสว่างในเวลาเดียวกัน“หลิวกงหยวน! หยุดเดี๋ยวนี้!”หลิวกงหยวนชะงัก ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นองค์ชาย “องค์ชายสาม...”หวังกู้หย่งพุ่งตัวทะยานเข้าไปขวางหลิวกงหยวน ดวงตาของเขาวาวโรจน์ราวกับเปลวไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดทำร้ายพระชายาของข้า!”เขายกแขนขึ้นคว้าข้อมือของหลิวกงหยวนที่ถือมีดไว้แน่น แรงกดที่เพิ่มขึ้นจากมือของหวังกู้หย่งทำให้ห

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status