ในช่วงบ่ายวันนั้น เจียงชูหานก็กลับมาหลังจากโทรศัพท์หลายต่อหลายครั้งในห้องอ่านหนังสือ เหวินหนิงก็ออกมาในที่สุด เธอสวมชุดอยู่บ้านและดูอ่อนโยนมากเธอสวมเดรสน่ารักและอุ้มหมูจิ๋วไว้ในอ้อมแขน หมูตัวน้อยนั้นถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเขาตรงเข้าไปหาเธอดึงหมูออกจากอ้อมแขนแล้วโยนมันลงบนโซฟา เหวินหนิงมองดูเขาด้วยสีหน้าโกรธเคืองที่ไม่อาจระงับได้!มู่อินถูกลักพาตัว แล้วนี่เขามาวุ่นวายทำบ้าอะไรกับเธอเนี่ย? "นายทำอะไรของนายเนี่ย?""ฉันมีเรื่องจะถามเธอ""ถามอะไรก็ถามมาสิ เจียงเจียงไม่ได้ผิดอะไรด้วยจะไปขว้างมันทำไม?"เจียงชูหานไม่สามารถระงับความโกรธของตัวเองได้อีกต่อไป เขามาที่นี้ด้วยความกังวลมากแต่ผู้หญิงคนนี้กลับจะมาชวนทะเลาะเพราะเรื่องหมูที่เธอเลี้ยงเนี่ยนะ!?เธอเก่งเหลือเกินกับการทำให้เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เขานั่งลงและค่อยๆ โยนหมูน้อยไปไกลๆเหวินหนิงมองด้วยความตะลึงและจับหมูน้อยขึ้นมาอย่างเงียบๆ ก่อนจะค่อยๆ อุ้มมันไว้ในอ้อมแขนเพื่อปลอบใจ "เจียงเจียงหนูน้อย พวกเราไม่คุยกับคนบ้าเนอะ"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพราะนิสัยแบบนี้ไงเธอเลยทำให้คนที่โกรธอยู่แล้วโกรธมากขึ้นไปอีก"วันนี้เธอเจอมู่อินมา เธ
"ฉันขอหย่ากับเจียงชูหานตั้งแต่เมื่อวานนี้! ถ้าบริษัทตระกูลเจียงจะล้มละลายในอนาคนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักนิด"เมื่อเผชิญกับการดุด่าผ่านโทรศัพท์ เหวินหนิงตอบโต้กลับขณะที่เล่นกับหมูเลี้ยงของเธอเฉินหรานที่ต่อว่าต่อขานเธอในปลายสายก็ชะงักงันหลังจากได้ยินสิ่งที่เธอพูดก่อนจะขึ้นเสียงแหลม "เธอว่าอะไรนะ?""ฉันจะหย่ากับเขา"บรรยากาศนิ่งเงียบเห็นได้ชัดว่าแม่สามีอันสูงส่งที่อยู่ปลายสายไม่ได้ตอบสนองต่อท่าทีของเหวินหนิงที่เปลี่ยนไป เธอเพียงพูดสองสามคำบอกให้ไปหาที่บ้านเก่ายามเช้าตอนนี้ยังกล้าจะพูดแบบนี้อีกเหรอ?เหวินหนิงตัดสัมพันธ์กับตระกูลเจียงโดยสิ้นเชิงแล้วตอนนี้ ตอนเช้ากับเจียงชูซีและตอนนี้กับแม่สามีของเธอเฉินหรานเธอโล่งใจสุดๆเป็นเวลาสามปีแล้วที่เธออยู่อย่างไร้ตัวตนในครอบครัวนี้ แม้กระทั่งตอนที่เธอท้อง พวกเขาก็วางแผนแย่งชิงมันไปจากเธอคำพูดที่กล่าวว่าแม่นั้นจะมีค่ามากขึ้นเมื่อมีลูกไม่มีอยู่ในตระกูลนี้ความรู้สึกของพวกเขาช่างเฉยเมยอย่างน่าเจ็บใจ"อะไรที่ทำให้เธอขอหย่ากัน? เหวินหนิง เธอก็ไม่ได้ดูเหมือนต้องการจะหย่า..."ปลายสายหมดท่าทางสง่างามโดยสิ้นเชิงและเริ่มก่นด่าเธอต่อ แต่เหวิน
ขณะที่เหวินหนิงออกมาจากสถานีตำรวจรถของเจียงชูหานและซูไป๋จอดอยู่ข้างกัน ทั้งคู่ยืนอยู่นอกรถด้วยใบหน้าที่เย็นชา เมื่อเจียงชูหานเห็นเหวินหนิง เขาก็ปรี่ไปหาเธอด้วยสายตาที่ฉายความละอายใจเหวินหนิงไม่ได้หันไปมองเขา เธอเดินผ่านเขาไปยังรถของซูไป๋ทว่ามีแรงมาดึงข้อมือของเธอไว้ "ฉันจะพาเธอกลับบ้าน" เจียงชูหานกล่าว"บ้านเหรอ?"เหวินหนิงยิ้มอย่างกับว่ามันน่าขันเสียกว่าอะไรดี"ที่นั่นไม่ใช่บ้านของฉันอีกต่อไป" เธอดึงมือของเขาออกและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบหัวใจมันตายไปจากวิกฤติแล้ว!แต่พูดไปตอนนี้ก็คงไม่มีใครเข้าใจเพราะว่าเจียงชูหานยืนอยู่บนสถานะที่เหนือกว่ามาตลอด ช่วงเวลานี้ในชีวิตที่แล้วเธอจึงสับสนตื่นตระหนก เมื่อถูกพามาที่สถานีตำรวจ เธอก็ไม่ได้ออกมาเลยจนกระทั่งสามวันต่อมาและนั่นเป็นเพราะซูไป๋มาประกันตัวเธอออกไป"เหวินหนิง!" ชายคนนั้นร้องเสียงหลงเหวินหนิงหันหน้าไปหาเขาเธอจ้องมองไปยังเบ้าตาลึกของเขา จมูกโด่งและรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบ ทุกส่วนบนร่างกายของเขาช่างน่าหลงใหลผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจเลยแม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้ว ผู้หญิงอื่นก็ยังอยากได้เขาโดยไม่สนใจถึงศีลธรรมขนาดเ
เหวินหนิงกลับไปยังคฤหาสน์หงเย่ เมื่อเธอเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ ป้าจางเปิดประตูมา แววตาฉายแววความไม่สบายใจ "คุณหญิงมาที่นี่ค่ะ"เหวินหนิงเลิกคิ้ว!เมื่อนึกถึงท่าทีที่เธอทำกับเฉินหรานเมื่อเช้าวานนี้ เธอก็กลัวว่าเฉินหรานอาจเข้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อฆ่าเธอเธอม้วนจัดผมที่ยุ่งเหยิงก่อนจะเข้าไปเห็นเฉินหรานนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ท่าทางราวกับราชินีในชีวิตที่แล้ว ทุกครั้งที่เหวินหนิงเห็นเฉินหรานเป็นแบบนี้ เธอจะรีบเอาน้ำและชาไปเสิร์ฟให้ราวกับสาวใช้ก็ไม่ปานตอนนั้นเธอตั้งใจที่จะทำให้ครอบครัวของเจียงชูหานพอใจทว่ายิ่งเธอดูสุภาพนอบน้อมเท่าไหร่ คนพวกนี้กลับเหยียดหยามเธอมากขึ้นเท่านั้นเธอเปลี่ยนรองเท้าแล้วโยนกระเป๋าลงบนโซฟาอย่างเรียบง่าย"ป้าจาง""ค่ะ คุณผู้หญิง" ป้าจางรีบเดินเข้ามาหาเฉินหรานอย่างเคารพขณะนี้ผู้ที่ยังถือว่าเป็นแม่สามีมองไปยังเหวินหนิงด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามและไม่อาจซ่อนความเกลียดชังได้เลยเสียงดังจากเฉินหรานกระทบเข้าหูให้เธอได้ยินทันที "รีบฆ่าเชื้อเดี๋ยวนี้เลยนะ เดี๋ยวมันจะนำพาโชคร้ายที่ติดออกมาจากสถานีตำรวจ พวกเราตระกูลเจียงไม่รู้หรอกว่าจะมีหายนะอะไรเกิดขึ
บนชั้นสอง!เหวินหนิงที่ถูกเจียงชูหานลากขึ้นมาบนนี้ก็ชะงักทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินหรานพูด ร่างเล็กก็อดสั่นไหวไม่ได้และแผ่รัศมีเย็นชาอันน่าสะพรึงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกอาการเช่นนี้มันยากเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ว่าสาวน้อยอย่างเธอจะแสดงท่าทีที่น่ากลัวขนาดนี้ได้"พวกเรา……"ผลั่ก! ก่อนที่เจียงชูหานจะได้พูดจบ คำพูดก็ชะงักจากการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของเหวินหนิง เธอปัดมือเขาออกและผลักเขาเข้ากับผนังอย่างจังเสียงกระแทกกับผนังแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอเคลื่อนไหวเร็วแค่ไหนก่อนที่เจียงชูหานจะทันได้ตอบสนองกับท่าทีดังกล่าว เหวินหนิงหันกลับมามองด้วยสายตาเย็นยะเยือก "เหวินหนิง!"เหวินหนิงทำตัวราวกับไม่ได้ยินเสียงชายผู้นั้น เธอรีบพุ่งไปปรากฎตัวที่มุมบันไดและลงไปชั้นล่างตามก้าวเล็กๆเธอตรงเข้ามาหาเฉินหราน เฉินหรานนั้นสูงกว่าเธอนั่นทำให้ทุกครั้งที่พวกเขายืนด้วยกัน เหวินหนิงรู้สึกถึงการถูกกดขี่ข่มเหงตลอดเวลา ทว่าตอนนี้ใบหน้าและร่างเล็กๆ ของเธอกับสายตาอันดุดันนั้นก็สามารถทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวได้ความเกลียดชังในแววตาของเธอราวกับไฟโหมกระหน่ำที่สามารถแผดเผาผู้คนให้เป็นเถ้าถ่านได้เฉินหรานแต่เ
เหวินหนิงที่อยู่ชั้นบน ได้ยินสิ่งที่เจียงชูหานพูดตะโกนใส่เฉินหราน เธอทั้งรู้สึกเศร้าและน่าขัน!ในตอนที่เฉินหรานและคนอื่นๆ ในบ้านเหยียดหยามเธอและขัดขวางไม่ให้เธอมีลูกกับเขา แม้ว่าเธอจะรู้เรื่องนี้แต่เธอก็ไม่เคยพูดอะไรให้เจียงชูหานฟังตอนนั้นเลยคิดย้อนกลับไปในเวลานั้น มันเป็นความคิดโง่เง่าของเธอเองที่คิดว่าเธอไม่ดีพอและนั่นทำให้ครอบครัวเจียงไม่ชอบเธอ เธอเคยคิดหากเธอทำได้ดีพอ พวกเขาก็จะยอมรับเธอไปเองนับตั้งแต่พ่อแม่และยายของเธอจากไปทีละคน เธอก็ไม่เคยพบกับความอบอุ่นในครอบครัวอีกเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอตั้งใจที่จะปกป้องบ้านของเจียงชูหานเอาไว้เธอคิดทั้งใจว่าพวกเขาคงจะยอมรับเธอ ทว่าสุดท้ายแล้วเธอก็คิดผิดเธอหลับตาลงสงบสติอารมณ์ความโศกเศร้าเผยชัดเจนบนใบหน้าเล็กจนไม่อาจปกปิดเมื่อเจียงชูหานเดินขึ้นมา เขาเห็นบรรยากาศอันเย็นชาออกมาจากเหวินหนิงที่นอนอยู่บนโซฟาหรูราวกับอยู่ในวัง เขาก้าวไปหาเธอและนั่งยองๆ ต่อหน้าเธอเขาจับมือเธอพูด "หนิงหนิง"เหวินหนิงต้องการจะดึงมือออกโดยไม่รู้ตัวทว่าชายคนนั้นจับมือแน่นขึ้น "ทำไมเธอไม่บอกฉันมาก่อน""เหอะ!" เหวินหนิงหัวเราะเยาะจะไปมีประโยชน์อะไ
หัวหน้าแม่บ้านมองไปที่เหวินหนิงอย่างเป็นกังวล ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงที่ทุกคนต่างก็ค้นหา และมันก็เต็มไปด้วยข้อวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเหวินหนิงรวมถึงตระกูลเจียงทั้งหมดด้วยเหตุผลนั้นทุกคนในที่นี่จึงระแวดระวังมากขึ้นแต่พวกเขาไม่ทันคาดคิดว่าความรุนแรงออนไลน์นั้นจะบ้าบิ่นขนาดที่ส่งอะไรแบบนี้มาที่นี่ เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจปล่อยข้อมูลส่วนตัวของเหวินหนิง"คุณนายเล็ก เราจะทำอย่างไรดี?" หัวหน้าแม่บ้านและสาวใช้ต่างเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าเหวินหนิงยังนิ่งเงียบเหวินหนิงวางชามเล็กบนมือเธอลง หยิบผ้าเช็ดปากเพื่อเช็ดคราบอาหารจากมุมปากอย่างสง่างามการเคลื่อนไหวของเธอผสมผสานกับรูปร่างของเธออย่างลงตัวแสดงให้เห็นความสง่างามและสวยงามที่สมบูรณ์แบบไม่น่าเชื่อว่าในเวลานี้เธอจะยังคงสงบนิ่ง ดูสง่างามและรู้ว่าต้องทำอะไรเหมือนเดิมทว่าท่าทางเยือกเย็นดังกล่าวนั้นกลับทำให้คนอื่นรู้สึกเย็นยะเยือก"ก็แจ้งตำรวจสิ""แจ้งตำรวจเหรอคะ?""หรือมีทางอื่นหรือไง?"แววตาของเหวินหนิงคมกริบ น้ำเสียงของเธอไร้ซึ่งความอ่อนโยนหัวหน้าแม่บ้านถามด้วยความสงสัย "แต่คนที่ทำเรื่องพวกนี้คือพว
ฝนตกเสียงดังเปาะแปะระดับน้ำในลำห้วยเล็กข้างวิลล่าเพิ่มขึ้น เหวินหนิงนั่งในห้องเปียโน เสียงเปียโนประสานไปกับเสียงน้ำไหลอย่างรืนหูท่าทางที่เธอนั่งหลังเปียโนรวมกับผมซาตินยาวของเธอนั้นขับให้เธอสวยงามยิ่งขึ้น เจียงชูหานยืนนอกประตูจ้องมองไปยังเธอเสียงเปียโนหยุดชะงักงัน!เหวินหนิงเห็นเขาจึงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?""สิบนาทีที่แล้ว" เขาก้าวเข้ามาโดยยังไม่ได้เปลี่ยนรองเท้าและสวมชุดเดิมตั้งแต่หลายวันก่อน!เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ข้างๆ มู่อินมาตลอดหลายวันดวงตาคมลึกดูอ่อนแรงเล็กน้อยขณะนี้แม้เขาจะเข้ามายืนขนาบเหวินหนิง ดวงตาของเหวินหนิงก็ไม่หวั่นไหวและถามอย่างใจเย็น "นายเห็นของที่อยู่ในห้องโถงข้างล่างไหม?""ทำไมไม่ให้ใครมาจัดการล่ะ""ไม่อยากรู้เหรอว่าใครส่งพวกมันมา?" เหวินหนิงไม่ได้ตอบคำถามของเจียงชูหานแต่กลับโต้ด้วยคำถามแทน!ความเย็นยะเยือกฉายวาบในดวงตาของชายผู้นั้นเขาไม่เคยรู้ว่าจะมีคนทำอะไรแบบนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเมื่อเขาไม่อยู่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องบนอินเทอร์เน็ตกล้าดียังไงที่ส่งของมาคุกคามถึงที่นี่โดยตรง!เหวินหนิงช่างขี้ขลาดตอนที่เรื่องมันเริ่ม