로그인“ท่านพ่อเงียบไปแล้วขอรับ” เมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงตอบรับจากบิดา เสี่ยวหลงจึงได้ก้มหัวลงให้มารดาจัดการกับเหาบนหัวเขาต่อ ถ้าการทนเจ็บตัวสักหน่อยให้ท่านแม่หวีมันออกให้ แลกกับการที่เขาจะได้ไม่ต้องทนคันไปทั้งหัวเขาก็ยอม
จือหลินพยักหน้า จากนั้นก็จัดการอาบน้ำกำจัดเหาให้บุตรชายอย่างเมามัน ทั้งขัดตัวและสระผม ดูเหมือนเสี่ยวหลงของนางจะชอบมากทีเดียว เอาแต่พูดว่าหอมๆ ไม่หยุด ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนนางใจร้ายกับบุตรชายที่น่ารักเช่นนี้ไปได้อย่างไรกันนะ ต่อไปนี้แม่จะทำให้เจ้ามีแต่เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มที่สดใสเอง
“ท่านแม่ขอรับ ผงสีขาวนี่คืออะไร หอมมากเลยขอรับ” ไม่เพียงแค่หอมเหมือนดอกไม้ แต่มันยังเย็นสบายตัวมากอีกด้วย
“สิ่งนี้เรียกว่าแป้งเย็นจ้ะ” เมื่ออาบน้ำทาแป้งให้เสี่ยวหลงเสร็จ ก็นำผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้พอหมาด แล้วจึงให้ใส่ชุดใหม่ที่นางนำมาด้วย จะว่าไปบุตรชายนางก็หล่อเหลาเหมือนกันนะเนี่ย โตขึ้นพนันได้เลยว่าหัวกระไดไม่มีวันแห้ง
“ท่านแม่ให้ชุดใหม่ข้าหรือขอรับ” เด็กน้อยกระโดดโลดเต้น ดีใจที่ได้รับชุดใหม่ เขาใส่ชุดเดิมมาหลายเดือนแล้ว เดิมทีมีสองชุดไว้ผลัดเปลี่ยนแต่เมื่อไม่นานมานี้เขาทำขาดในตอนที่เข้าป่าไปเก็บฟืน มันขาดเสียจนไม่สามารถนำมาปักชุนได้อีกจึงจำใจต้องทิ้งไป พอเหลือชุดเดียวเขาจึงต้องนำมันซักในตอนกลางคืน ส่วนตนเองก็คลุมผ้าห่มตอนนอนเพื่อแก้ขัดไปก่อน
“เสี่ยวหลงชอบหรือไม่”
“ชอบขอรับ” เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก ดีใจที่ตนเองได้ชุดใหม่ มันทั้งมีกลิ่นหอมใส่แล้วสบายตัว และที่สำคัญเป็นของชิ้นแรกที่มารดาให้เขาด้วย ชุดนี้จะต้องดูแลไว้เป็นอย่างดี
“เสี่ยวหลงอย่างมัวแต่ยืนยิ้ม รีบเก็บของตามแม่มาเร็ว ท่านพ่อยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย” ไม่รู้ว่าบุตรชายเป็นอะไร นางเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมขยับเอาแต่ยืนยิ้มอยู่เช่นนั้นอยู่นานสองนาน หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาให้กับความลุกลี้ลุกลนรีบเก็บของวิ่งตามมารดาเข้าบ้านไป
หลังจากที่เอาของเข้ามาเก็บภายในกระท่อมหลังน้อยเสร็จ ร่างบางจึงเข้าไปตักข้าวต้มหมูสับหนึ่งถ้วย พร้อมกับไข่ตุ๋น เพื่อจะได้ป้อนให้กับสามีที่นอนรอในห้อง แต่ก่อนจะเข้าไปจือหลินได้ยื่นผลส้มลูกใหญ่ให้กับเสี่ยวหลงสองลูก เอาไว้ให้เขากินเล่นระหว่างรอป้อนข้าวคนป่วย
จือหลินวางถาดถ้วยข้าวไว้ข้างเตียง ก่อนจะยกตัวเหมาเสี่ยวถงให้นั่งพิงหัวเตียง โดยมีเสี่ยวหลงบุตรชายแสนน่ารักและรู้หน้าที่ช่วยท่านแม่จับท่านพ่อนั่ง ด้านเหมาเสี่ยวถงไม่กล้าสะบัดตัวแรงเพราะกลัวว่าจะโดนบุตรชายเข้า เขาจึงได้แต่ทำตัวนิ่งให้จือหลินจัดการ
ชายหนุ่มเอาแต่จ้องมองไปที่บุตรชาย ที่กำลังแกะผลส้มกินอย่างละเมียดละไมค่อย ๆ ละเลียดชิมทีละนิด เพราะกลัวว่ามันจะหมดเร็วจนเกินไป
เสี่ยวหลงไปเอามาจากที่ใด ใครๆ ก็รู้ว่าผลส้มเป็นผลไม้ราคาแพง ซึ่งคนจนอย่างพวกเขาไม่มีทางที่จะได้กินมันอย่างแน่นอน ในตอนที่เขากำลังจะอ้าปากขึ้นถามเรื่องผลส้ม กลับมีข้าวต้มหมูสับหอมๆ ส่งเข้าปากเขาแทน มันทั้งนุ่มกลมกล่อม ข้าวเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่ใช่เพียงแค่น้ำต้มข้าวอย่างที่เขาได้กินเป็นประจำ
เพราะทนหิวมาหลายวันทำให้เขาไม่พูดไม่จา ยอมเสียหน้ากินอาหารที่ภรรยาป้อนให้จนหมดถ้วย จือ
หลินจัดการเช็ดปากแล้วส่งน้ำดื่มให้สามี แค่เห็นว่าเขายอมกินข้าวที่นางทำให้ก็รู้สึกดีมากแล้ว ในคราแรกคิดว่าเขาจะมีทิฐิไม่ยอมรับสิ่งใดจากนาง เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วหญิงสาวเห็นว่าเหมาเสี่ยวถงเอาแต่มองบุตรชายกินผลส้มไม่วางตา นางจึงคิดว่าเขาคงอยากจะกินด้วยเช่นกัน จึงได้รีบปอกเปลือกส้มดึงใยออกให้เสร็จสรรพ จากนั้นได้ยื่นมันจ่อไว้ที่ปากของชายหนุ่ม รอให้เขาอ้าปากรับมันไป
“ท่านไม่กินหรือเจ้าคะ ข้าเห็นนั่งมองลูกอยู่นานแล้ว” พอเขาเอาแต่เงียบไม่ยอมอ้าปากรับ นางจึงถามออกไปอย่างสงสัย สิ่งที่นางคิดไม่ใช่หรอกหรือ แล้วเขาต้องการอะไรกันล่ะ
“เจ้าไปเอาของพวกนี้มาจากที่ใด ทั้งผลส้ม ข้าว หมู และไข่ ของราคาแพงพวกนี้คงไม่ได้ไปขโมยของผู้ใดมาหรอกนะ” เหมาเสี่ยวถงหรี่ตามองภรรยาอย่างจับผิด ทั้งบ้านมีเงินอยู่ไม่ถึงสิบอีกแปะ ไม่พอซื้อผลส้มหนึ่งลูกด้วยซ้ำ แต่ที่เขาเห็นนางถือเข้ามามันมีมากกว่าห้าลูก อีกทั้งข้าวที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ชาวบ้านตาดำๆ ได้กินเพียงข้าวชั้นเลวเท่านั้น ไข่นั้นก็ด้วยไม่มีบ้านใดกินไข่วันหนึ่งหลายฟองกันหรอก มันสิ้นเปลืองมากเกินไป
“ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดแน่นอนเจ้าค่ะ เอาไว้ให้อะไรลงตัวมากกว่านี้ข้าจะบอกทุกอย่างกับท่านเอง ขอเวลาข้าสักนิดนะเจ้าคะ” เอาไว้ให้เขาใจเย็นลงมากกว่านี้ นางค่อยบอกเขาก็แล้วกัน
“สตรีร้ายกาจเช่นเจ้าจะทำเรื่องดี ๆ เป็นด้วยหรือ” พูดเพียงแค่นั้นเหมาเสี่ยวถงก็ได้ค่อย ๆ ไถลตัวลงนอน ถึงช่วงล่างเขาจะไม่มีความรู้สึกใช้งานไม่ได้ แต่ช่วงบนเขายังสามารถขยับได้อยู่เพียงแค่ว่าไม่มีแรงมากพอที่จะออกแรงทำอะไรได้มากกว่าการขยับตัวเล็กน้อยหลังจากที่นอนลงได้แล้วเหมาเสี่ยวถงก็แกล้งหลับไม่สนใจภรรยาอีก
“เสี่ยวหลง เจ้าอยู่เล่นเป็นเพื่อนท่านพ่อก่อนนะ แม่จะไปจัดการอะไรสักหน่อย” เมื่อเห็นว่าสามีไม่ต้องการสนทนากับนางอีก หญิงสาวจึงใช้โอกาสนี้คิดจะออกเดินสำรวจบ้านสักหน่อย ดูแล้วคงจะต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่
“ขอรับท่านแม่” ไม่ว่าท่านแม่ให้ทำอะไรเขาก็ทำได้หมด แค่ให้อยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อ งานสบายเช่นนี้เสี่ยวหลงทำได้อยู่แล้ว
“ดีมาก หากเสี่ยวหลงทำดีแม่จะมีรางวัลให้”
“จริงหรือขอรับ ท่านแม่ไม่ต้องห่วงลูกจะดูแลท่านพ่ออย่างดี” แค่คิดว่าจะได้รางวัลจากมารดาเจ้าเด็กน้อยก็ตาลุกวาวแล้ว ตื่นเต้นเหลือเกินท่านแม่จะให้อะไรเขาน้า
“ถึงแล้วล่ะ นี่บ้านข้าเอง” แม้จะเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่น“ท่านพ่อ ท่านแม่ข้ากลับมาแล้วขอรับ” เหมาเสี่ยวถงเรียกหาผู้ให้กำเนิดเสียงดัง พร้อมกันนั้นเขาก็ได้จับมือนุ่มนิ่มเดินตามตนเข้าบ้านไปอย่างลืมตัว“เสี่ยวถงมาแล้วหรือ การสอบเป็นเช่นไรบ้าง” เหมาอี้ร้องทักบุตรชายเพียงคนเดียวของตน เป็นเวลากว่าเดือนแล้วที่บุตรชายเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อไปสอบคัดเลือกชายหนุ่มส่ายหน้าช้า ๆ อย่างรู้สึกผิด ที่ไม่สามารถทำตามความฝันของบิดาได้“ไม่เป็นไรไม่ต้องเสียใจ อีกสี่ปีค่อยไปสอบก็ได้ แม่เจ้าทำกับข้าวเสร็จพอดี รีบมานั่งเร็วเข้า” ชายชรากวักมือเรียกบุตรชาย เห็นสีหน้าไม่สู้ดีเขาก็รู้สึกไม่สบายใจสอบจอหงวนใช่ว่าจะสอบได้โดยง่ายเสียเมื่อไหร่กัน“ขอโทษขอรับท่านพ่อ” ชายหนุ่มเดินคอตกเข้าบ้าน แต่ก็ไม่ลืมที่จะดึงมือหญิงสาวติดตามตนเข้าไปด้วยกันจือหลินเองเมื่อเข้ามาภายในบ้านหลังน้อย พร้อมกับมองสำรวจทุกซอกทุกมุม ภายในบ้านแทบไม่มีอะไรเลยสักชิ้น นอกจากโต๊ะไม้กลางเก่ากลางใหม่วางอยู่ตรงกลาง มีกระบุงสำหรับเก็บของป่าวางอยู่มุมหนึ่งของห้อง กระนั้นก็ยังคงความสะอาดสะอ้านเป็นอย่างดี“อ้าว เสี่ยวถงมาถึงแ
“ฮึบ... ตื่นได้แล้ววววว”“ตื่นแล้ว ๆ” เหมาเสี่ยวถงที่กำลังหลับฝันดีสะดุ้งโหยง เขาหันซ้ายแลขวาก็พบแต่ความมืดมิด หลังจากปรับสายตาให้เข้ากับความมืดได้ก็ต้องตกใจเป็นครั้งที่สอง เมื่อเห็นสตรีที่ตนใจเต้นแรงด้วยเอาแต่จดจ้องเขาไม่วางตา“ตื่นเสียทีนะเจ้าคะ ข้าปลุกท่านตั้งนาน” หลังจากปลุกบุรุษตรงหน้าให้ตื่นขึ้นมาได้ จือหลินจึงกลับไปเก็บเอาห่อผ้าขึ้นมาถือไว้ ก่อนจะเตรียมเดินทางต่อไปเพื่อจะได้ไปถึงหมู่บ้านข้างหน้า หากให้นางนอนกลางป่าก็คงไม่ไหว น่ากลัวเกินไป“ขออภัยแม่นาง รบกวนเจ้าแล้ว” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะปัดเศษดินเศษหญ้าออกจากชุด แต่ยังไม่ทันจะได้ถามอะไร สตรีผู้งดงามก็เดินทิ้งห่างเขาออกไปเสียแล้ว“เดี๋ยวก่อนสิแม่นาง นั่นเจ้าจะไปไหนค่ำมืดเช่นนี้เดินทางคนเดียวมันอันตรายนะ” เหมาเสี่ยวถงรีบร้อนวิ่งตามให้ทันคนตัวเล็ก นางก็ช่างเดินเร็วเอาแต่จ้ำอ้าวไม่เหลียวหลัง“ข้าจะรีบไปให้ถึงหมู่บ้านข้างหน้าเจ้าค่ะ” นางไม่แม้แต่จะหยุดรออีกฝ่าย ในใจตอนนี้ระหว่างรีบเดินให้ถึงหมู่บ้านข้างหน้า กับการยืนคุยกับบุรุษแปลกหน้าอันไหนจะอันตรายมากกว่ากัน“เจ้ารู้จักใครในหมู่บ้านหรือ” ถ้าได้รู้ว่าเป็นบุตรสาวบ้าน
ร่างเล็กผอมบางก้าวลงจากรถม้า นางยืนเหม่อมองอย่างไร้จุดหมายปลายทางอยู่พักใหญ่ เดิมทีตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านเกิดมารดา แต่มันผิดพลาดตรงส่วนไหนกัน หมู่บ้านที่ตั้งใจจะไปไม่ใช่ที่แห่งนี้นี่นา จือหลินได้แต่ยืนกอดห่อผ้าไว้แน่น ในตอนนี้นางเหลือเงินติดตัวมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นใช่แล้วนางหนีออกจากจวนเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เพียงเพราะโกรธเคืองบิดาที่เอาแต่หลงมัวเมาสตรี ละเลยคู่ชีวิตที่อยู่กินกันมานานนับสิบปีหลังจากมารดาสิ้นใจก็ยังบังคับให้ตนแต่งงานกับบุรุษที่ไม่ได้รัก ท่านพ่อทำเกินไปแล้วหรือไม่ความอัดอั้นตันใจมากมาย เป็นเหตุให้นางตัดสินใจหนีออกจากจวนเพียงเพราะไม่อาจทำใจอยู่ในจวนที่ไม่มีความอบอุ่น ความรักและความเข้าใจ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับบิดาเพียงคนเดียวเท่านั้นหลังจากรถม้าที่ว่าจ้างจากไป จือหลินตัดสินใจเดินเท้าไปเรื่อย ๆ ในสมองน้อย ๆ ของนางคิดอะไรไม่ออก ไม่มีที่ให้ไปไม่มีคนรู้จัก ครั้นจะออกไปหาโรงเตี๊ยมนอนสักคืน ก็กลัวเงินที่มีอยู่จะไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายในยามจำเป็นไม่น่ามีทิฐิเยอะเลย ถ้าหากรู้ว่าอย่างนี้นางจะหอบเอาสมบัติท่านพ่อมาด้วยสักหลาย ๆ ชิ้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องมาลำบากเช่นตอนนี้หญิงสาวก
หลังจากอาเหมาแยกตัวออกมาแล้ว เสี่ยวหลงจึงแนะนำผ้าแต่ละชนิดให้บุคคลสำคัญทั้งสองต่อ เสี่ยวเหมยที่ถูกพามานั่งเล่นศาลากลางสวน เด็กน้อยตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ไม่เคยเห็นสวนที่มีดอกไม้มากมายเช่นนี้มาก่อนเลย“หนึ่ง สอง สาม หนึ่ง สอง สาม”เสียงดังแว่วอยู่ไม่ไกลนักทำให้เสี่ยวเหมยรู้สึกสนใจ นางหันไปมองพี่ชายรองแต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่วุ่นวายกับของว่างที่นางกำนัลนำมาให้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สองขาเล็กป้อมจึงได้ลุกเดินเตาะแตะตามเสียงนั้นไป“ทำใยเย้อ” เสี่ยวเหมยยืนมองพี่ชายตรงหน้าแกว่งดาบไม้ไปมา ดูแล้วน่าสนุกนางก็อยากจะเล่นด้วย“เจ้าเป็นใคร เข้าวังข้ามาได้อย่างไร” อ๋องน้อยหยุดการฝึกดาบในทันที เด็กน้อยหน้าตาน่ารักผู้นี้เป็นใคร ไยถึงเข้ามาในวังของเขาได้“เหมยจ้า” พี่ชายเป็นอะไรกัน เหตุใดถึงได้ทำหน้ายุ่ง สงสัยคงจะไม่ชอบให้นางเข้ามาวุ่นวาย เช่นนั้นกลับไปหาพี่รองดีกว่าคิดได้ดังนั้นเสี่ยวเหมยจึงได้หันหลังวิ่งหลุน ๆ กลับไปที่เดิมอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะหันกลับมาสนใจพี่ชายแปลกหน้าอีกเลย“เดี๋ยวก่อนสิ รอข้าก่อน” อ๋องน้อยรู้สึกหลงใหลในดวงตากลมโตแวววาวลูกนั้น เขาถึงกับทิ้งดาบไม้ในมือวิ่งตามร่างเล็ก ๆ นั้นไปท
ความโกลาหลวุ่นวายในจวนได้เกิดขึ้น เมื่อคุณหนูเล็กได้หายตัวไปโดยที่ไม่มีผู้ใดเห็นจือหลินและเหมาเสี่ยวถงวุ่นวายตามหาบุตรสาวเป็นการใหญ่ ชายหนุ่มสั่งให้บ่าวไพร่ทั้งจวนค้นหาทุกซอกทุกมุมอย่างไรก็ไม่เจอ แม้แต่นายท่านซ่งและท่านหมอเหมินเองก็ร้อนใจไม่ต่างกันชายชราทั้งสองแม้จะแก่ลงไปมาก แต่เรี่ยวแรงก็ยังมีมากพอจะเดินหาหลานสาวสุดที่รักได้ทั่วทั้งจวน เด็กน้อยมีใบหน้าเหมือนภรรยาคนแรกของเขาราวกับโขกกันมา อีกทั้งนิสัยช่างอ้อนออเซาะ ยิ่งทำให้คนแก่ทั้งสองทั้งรักทั้งหลง และติดหลานสาวหนึบอย่างกับอะไรดีหลานสาวผู้นี้ช่างซุกซนนัก ห่างสายตาได้ไม่ทันไรก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว ซ่งจิ้งหลุนและหมอเหมินละสายตาจากเด็กน้อย หันกลับมาเดินหมากด้วยกันแค่แว็บเดียว หันกลับมาอีกทีหลานสาวที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ข้าง ๆ ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย“พ่อผิดเองดูแลเสี่ยวเหมยไม่ดี” นายท่านซ่งถึงกับน้ำตาซึม กล่าวโทษตนเองที่ไม่สามารถดูแลหลานสาวได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้นางไปอยู่ที่ใด ภาวนาอย่าให้ตกสระบัวหรือเป็นอันตรายอะไรเลย“เป็นข้าเองที่ไม่ใส่ใจ ปล่อยให้คุณหนูคลาดสายตา” ท่านหมอเหมินนั้นได้ร้องไห้นำหน้านายท่านซ่งไปก่อนแล้ว คุณหนูเป็นแ
“โอ๊ย” คนที่เอาแต่นอนขี้เกียจมาทั้งวัน กลับต้องมาสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกแปล๊บตรงหน้าท้องขึ้นมาเสียดื้อ ๆ“หลินหลินเป็นอะไร หรือว่ามีแมลงกัน” เหมาเสี่ยวถงนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างกายภรรยาต้องตกใจ ที่อยู่ ๆ ภรรยาก็เสียงหลง“ข้ารู้สึกเจ็บท้องเจ้าค่ะ” มันรู้สึกเจ็บเป็นพัก ๆ ราวกับมีอะไรอยู่ในท้องกำลังเคลื่อนที่“ใครอยู่ด้านนอกเรียกท่านหมอให้ข้าที” เหมาเสี่ยวถงหน้าขาวซีด สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือภรรยาเจ็บป่วย ในตอนเขาป่วยนอนติดเตียงยังทรมานแสนเข็ญ นางเป็นเพียงสตรีตัวเล็ก ๆ จะทนได้อย่างไร“ข้าว่าไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกเจ้าค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มจะเบาลงแล้ว” ในตอนที่สามีโดนตัว นางก็รู้สึกทุเลาลงมาก แต่เมื่อเขาห่างออกไปกลับรู้สึกเจ็บจุกขึ้นมาเสียอย่างนั้นรอไม่นานท่านหมอเหมินก็ได้มาถึง เจ้าตัวจะแก่ลงไปมากแต่วิชาทางการแพทย์ฝีมือไม่ตก อีกทั้งในตอนนี้ ท่านหมอเหมินได้รับลูกศิษย์ที่คอยเจริญรอยตามเจตนารมณ์เพิ่มมาหนึ่งคน“เป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ” ชายหนุ่มรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของภรรยา ก็ยิ่งทำให้เขาปวดใจมากยิ่งขึ้น“นายหญิงท่านมีอาการง่วงนอนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด”“เป็นมาได้ราว ๆ สี่เดือน







