Share

บทที่ 7

ภายในเรือนเล็กของหยุนจิง บรรยากาศเงียบสงบกว่าที่เคย เด็กหญิงนั่งอยู่บนเก้าอี้เตี้ยคู่ใจกับเบาะรองนั่งอันคุ้นเคย แผ่นหลังเล็ก ๆ พิงพนักพลางทอดสายตามองออกไปนอกบานหน้าต่าง เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ไกล ๆ ทำให้เธอเผลอคิดถึงอวิ๋นซิงขึ้นมา

“หายไปนานเหมือนกันนะ...หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

ก่อนที่เจ้าตัวจะถอนหายใจระบายความกลัดกลุ้ม ใจหนึ่งก็อยากให้เจ้าตัวจิ๋วรีบกลับมาเร็ว ๆ พร้อมข่าวดี แต่อีกใจก็กลัวว่าข่าวที่ได้อาจไม่เป็นอย่างที่หวัง

“หวังว่าเจ้าจะเจอหนังสือหย่าที่ถูกซ่อนไว้… ถ้าเจอจริง ๆ คงเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ข้าช่วยแม่ได้ง่ายขึ้น”

น้ำเสียงอ่อน ๆ พึมพำกับตัวเอง ดวงตาของหยุนจิงฉายแววกังวลเล็กน้อย เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะใช้หนังสือหย่าเป็นเครื่องมือหลักในการเรียกร้องความชอบธรรมให้แม่ แต่มันต้องผ่านการยืนยันด้วยหลักฐานที่แน่นหนา หาไม่ผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างหลี่เจี้ยนเฉิงคงไม่ปล่อยมารดาเธอออกไปง่าย ๆ แน่

เวลาผ่านไปราวสองเค่อ หยุนจิงก็ได้ยินเสียงปีกกระพือเบา ๆ ดังขึ้นแถวริมหน้าต่าง แม้ว่าเสียงของมันจะจนแทบไม่ได้ยินแต่เธอก็ยังรู้สึกได้จึงรีบหันไปดู

อวิ๋นซิง! หยุนจิงเบิกตากว้างอย่างดีใจเมื่อเห็นนกชิงเหนียวสีฟ้าอมเขียวตัวจิ๋วบินเข้ามาเกาะบนขอบหน้าต่าง เจ้าตัวจิ๋วกระพือปีกสองสามครั้งก่อนเงยหน้าขึ้นเหมือนมองเธอเชิงบอกให้เด็กหญิงเข้ามาใกล้ ๆ

เป็นเยี่ยงไรบ้าง สืบอะไรได้หรือไม่ เธอถามเสียงเบาอย่างร้อนรน

เจ้านี่เก่งแต่ถาม ทว่าไม่เก่งในความอดทนเลยนะ เยว่ ฮวา… ข้ายังไม่ทันได้พักหายใจเลยด้วยซ้ำ อวิ๋นซิงอดไม่ได้ที่จะตำหนิออกมาพร้อมกับท่าทางสะบัดปีกอย่างงอน ๆ ของเจ้าตัว

โอเค ข้าผิดเอง ข้าขอโทษเจ้าด้วยที่ใจร้อนเกินไป ถ้าอย่างนั้นขอเชิญเจ้าพักให้สบายเสียก่อน ว่าแต่เจ้าอยากจะกินเหอเถา[1]หรือไม่ข้าได้ให้เถาจูเตรียมมาให้แล้ว

อวิ๋นซิงหันกลับมากระพือปีกน้อย ๆ และเอียงคอมองอย่างข้องใจ

โอเค… คือสิ่งใด เยว่ฮวา เจ้าช่วยพูดภาษาคนให้ข้าฟังเข้าใจง่าย ๆ ไม่ได้หรือ

หยุนจิงพลันฉุกคิดว่าตนเองเผลอพูดคำศัพท์สมัยใหม่เข้าดังนั้นเธอจึงหลุดยิ้มแห้ง ๆ เล็กน้อย ก่อนจะอธิบายให้นกชิงเหนียวตัวจิ๋วฟัง

เอ่อ... มันเป็นคำอุทานในโลกเก่าของข้าเอง เจ้าไม่ต้องใส่ใจหรอก มันหมายความประมาณว่า ตกลง ข้ารับทราบแล้วอะไรทำนองนี้

อื้ม… โลกของเจ้านี่มีศัพท์แปลก ๆ เต็มไปหมดเลย

อวิ๋นซิงกระพือปีกเล็กน้อยพร้อมคล้ายทำท่าทางจะกลอกตามองบนอย่างชวนขำ

หยุนจิงตอบรับด้วยรอยยิ้ม ใช่… ก็มันเป็นภาษาที่ติดมาตั้งแต่ตอนที่ข้ายังอยู่ที่นั่น

เธอพูดจบก็หยิบถ้วยที่ใส่เมล็ดเหอเถาขึ้นมาวางใกล้ ๆ นกชิงเหนียวเพราะเจ้าตัวจิ๋วเคยบ่นว่าอร่อย

นี่ไง ลองกินดูอีกสิ อาจจะช่วยให้เจ้ารู้สึกผ่อนคลายบ้าง

อืม… คงต้องลองสักหน่อย จะได้หายเหนื่อยจากการสืบข่าว

อวิ๋นซิงจิกเมล็ดเหอเถาเบา ๆ ราวกับกำลังดื่มด่ำกับรสชาติในขณะที่เจ้าตัวจิ๋วกำลังเพลิดเพลิน พอหยุนจิงเห็นท่าทางของมันนางก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

เมื่อเจ้าอิ่มแล้วก็พักเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็ลำบากบินไปบินมาจนทั่วจวน

พักหน่อยก็ดีเหมือนกัน…แต่เจ้าเองก็อย่าซุกซนไปไหนล่ะ นกชิงเหนียวบ่นหงุงหงิงในลำคอก่อนจะกระพือปีกสองสามทีแล้วกระโดดไปเกาะขอบหน้าต่างที่แสงแดดอุ่นกำลังส่องลงมา

หยุนจิงจึงเดินกลับมาทิ้งก้นลงบนเบาะนั่งของตนตามเดิม นางทำทีเป็นทอดตามองไปข้างนอกเรือนที่เริ่มสงบเงียบ บ่าวรับใช้ส่วนใหญ่กำลังทำงานของตนเองอยู่ด้านนอก หรือไม่ก็อยู่เรือนอื่น

ข้าจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ หรอกน่า ข้าวางแผนไว้แล้วว่าจะเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ ก่อน เช่นหาวิธีเกลี้ยกล่อมคนรอบข้าง แม่ของข้าจะได้ไม่ลำบากจนเกินไป

ก็ดี… แต่จงจำไว้ว่าเจ้ามีร่างกายแค่วัยห้าขวบ สู้เรี่ยวแรงใครไม่ได้หรอกนะ อย่าเผลอใช้ทักษะในยุคเดิมแบบเกินตัวล่ะ อวิ๋นซิงย้ำเสียงเข้มก่อนจะหลับตาลงเหมือนเป็นการพักสายตา

หยุนจิงหลุดขำ ก่อนจะก้มมองมือตัวเองที่เล็กจ้อย

อืม… ข้าจะระวังตัวเอง ขอบใจเจ้ามากที่คอยเตือน

(เธอยังมีเรื่องอีกมากต้องจัดการ การตามหาหนังสือหย่า การวางแผนให้แม่พ้นจากเงื้อมมือพ่อเลว และการปกป้องครอบครัวฝั่งท่านตาที่อีกไม่นานอาจถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏ ทุกอย่างเริ่มต้นจากเธอ…ทั้งสิ้น) เด็กหญิงวัยห้าขวบที่มีจิตวิญญาณของตำรวจสาวจากโลกอนาคตคิด

ก่อนที่นางจะแหงนคอมองเพดานเรือนเล็กที่ตนอาศัยอยู่ นับจากนี้ไปสิ่งที่เรียกว่าชีวิตในนิยายของเธอจะเปลี่ยนไปอย่างไร เป็นเรื่องที่เธอเองก็อดตื่นเต้นไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรรับรองได้ว่าจุดจบจะต้องไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน

“ข้าจะทำให้ได้… ทั้งเพื่อแม่ของข้าและเพื่อร่างนี้ที่ให้โอกาสข้ามีชีวิตใหม่”

เมื่อนึกได้ดังนี้สายตาของเด็กหญิงก็กลับมาจดจ่อกับแผนในหัว เสียงลมเอื่อย ๆ พัดผ่านขอบหน้าต่างเกิดเป็นบรรยากาศสงบเหมาะแก่การใช้เวลาคิดวางกลยุทธ์ต่อไป

เมื่ออวิ๋นซิงหลับใหลไปแล้ว หยุนจิงก็เอนกายลงพิงพนักเก้าอี้เตี้ย ดวงตากลมโตเพ่งพิศมองไปยังกระดาษที่เธอเคยจดแผนการง่าย ๆ เอาไว้ บนกระดาษนั้นมีรอยขีดเขียนหยัก ๆ จากลายมือของเด็กห้าขวบ แต่หากพินิจดี ๆ จะเห็นร่องรอยความเป็นตำรวจในโลกเก่าของเธออยู่เป็นนัย

“เริ่มจาก… หาทางรู้ข้อมูลของพ่อเลว... มัดตัวให้แน่นหนา… ช่วยแม่ให้เป็นอิสระ…”

เธออ่านทวนข้อความสั้น ๆ ที่ตัวเองจดไว้ด้วยความมุ่งมั่นเต็มหัวใจพลางพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

“แต่จะทำยังไงให้พ่อเลวถูกเปิดโปง… ข้าคงต้องอาศัยทั้งคนในจวนและคนนอกจวนช่วยด้วยแล้วล่ะ ไม่ได้สิคนในย่อมเป็นไปไม่ได้แน่ สถานที่แห่งนี้เปรียบประดุจถ้ำเสือรังหมาป่าไม่มีใครไว้ใจได้” หยุนจิงพึมพำคิ้วขมวดเข้าหากันมุ่น ในอกพลันรู้สึกถึงความหนักอึ้ง

เยว่ฮวา... เจ้ากำลังคิดสิ่งใด

เสียงเล็ก ๆ ของอวิ๋นซิงดังขึ้นอย่างงัวเงีย

เจ้าตื่นแล้ว สายตาของหยุนจิงย้ายไปมองทางต้นเสียง

อืม ข้าคิดว่าข้าหลับมานานกว่าหนึ่งเค่อ ตอนนี้สบายตัวมากเลย แล้วข้าก็พร้อมแล้วที่จะเล่าในสิ่งที่ได้ยินมาให้เจ้าฟัง

หยุนจิงพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ดวงตาของเธอสบเข้ากับดวงตาเปล่งประกายของนกชิงเหนียวอย่างมีความหวัง

ข้าพร้อมฟังแล้วอวิ๋นซิง เจ้าได้ยินอะไรมาบ้าง รีบบอกข้าเถิด

อวิ๋นซิงขยับปีกน้อย ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ข้าไปถามเจ้านกที่เกาะอยู่บนระเบียงเรือนเหลียนฮวาของจงเสวี่ยเหม่ยมา มันบอกว่าช่วงค่ำวานนี้มันเห็นนางจัดข้าวของบางอย่างใส่ห่อผ้าหนา ๆ ก่อนจะสั่งคนสนิทชื่ออาอิ๋นให้เอาไปเก็บไว้ที่เรือนชนบทหลังเก่า และมันยังได้ยินมาอีกว่านางเคยแอบเอาของสำคัญบางอย่างไปซ่อนไว้ใต้เตียงมาครั้งหนึ่งแล้วด้วย

หยุนจิงเบิกตากว้างทันที เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกเพื่อควบคุมความตื่นเต้นที่กำลังพลุ่งพล่าน

(ของสำคัญ… ) เธอพึมพำในใจ แต่ก็อดถามออกมาตรง ๆ ไม่ได้

เจ้าคิดว่าของสำคัญที่ว่าอาจจะเป็นหนังสือหย่า

อืม ข้าฟังนกตัวนั้นพูด มันบอกจงเสวี่ยเหม่ยใช้คำว่าตำราบางอย่างที่มีตราประทับ... อีกทั้งนางยังกล่าวกำชับลูกน้องว่าห้ามให้ผู้ใดล่วงรู้ ข้าว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้ที่จะเป็นหนังสือหย่า จริง ๆ

หยุนจิงเม้มปากแน่น งั้นก็แปลว่าที่ข้าคาดไว้ไม่ผิด จงเสวี่ยเหม่ยอาจจะต้องการเก็บหนังสือหย่าจากหลี่เจี้ยนเฉิงไว้เป็นไม้ตาย เพื่อบีบให้เขายอมตามใจ... หรือเป็นเงื่อนไขบางอย่าง ข้าต้องเอามันออกมาให้แม่ดูให้ได้

อวิ๋นซิงกระพือปีกสองสามที แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อเล่า

เด็กหญิงหลุบตาลงต่ำราวกับใช้สมาธิทบทวนแผน ก่อนเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าแน่วแน่ อย่างแรกคือ ข้าต้องสืบดูว่าที่เรือนชนบทหลังเก่านั้นใครเป็นคนถือกุญแจและมีคนเฝ้าเวรหรือไม่ จากนั้นข้าค่อยวางแผนจะไปเอาหนังสือหย่าออกมา ถ้ามันใช่จริงก็ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะให้แม่ใช้ยื่นขอหย่าได้ง่ายขึ้น

เข้าใจแล้ว อวิ๋นซิงส่งเสียงร้องออกมาอย่างเห็นด้วยก่อนที่จะพูดต่อ แล้วเจ้าอย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่ามไปล่ะ หากถูกจับได้เจ้าจะยิ่งลำบากมากขึ้น

อืม ข้าเข้าใจแล้ว หยุนจิงพยักหน้ารับฟัง แต่ก่อนที่อวิ๋นซิงจะเงียบเสียงของตนลง จู่ ๆ นกตัวจิ๋วก็คิดถึงเรื่องหนึ่งออกก่อนจะพูดขึ้นอีกคำรบ

เยว่ฮวา เหตุใดเจ้าไม่หาคนช่วย

เจ้าคิดว่าจะมีคนยื่นมือมาช่วยข้าเรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ หยุนจิงย้อนถามด้วยสีหน้าสงสัย

ข้าเองก็ไม่มั่นใจนัก แต่เจ้านกกระจิบตัวนั้นบอกว่ามันเคยได้ยินคนของต้าชิงหลิง (สำนักฝ่ายตุลาการ) มาสืบเรื่องเกี่ยวความสัมพันธ์ของจงเสวี่ยเหม่ยกับพ่อของเจ้าด้วยนะ เจ้าไม่คิดว่าคนของต้าชิงหลิงจะเป็นพันธมิตรได้หรอกหรือ

ต้าชิงหลิง? หยุนจิงพึมพำพร้อมกับใช้ความคิดว่าในนิยายได้มีกล่าวถึงคนในสำนักต้าชิงหลิงหรือไม่ ก่อนที่ดวงตาคล้ายตากวางของนางจะเบิกกว้าง

“ซุนเหวิน”

[1] วอลนัท
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลาป่วน...ฉางอัน    บทที่ 253

    บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคฮั่นตะวันตกจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ (หลิวเช่อ) ครองราชย์ 141 - 87 ปีก่อนคริสตกาลเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก และเป็นหนึ่งในจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่และครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน (54 ปี)ความสำคัญ: รัชสมัยของพระองค์ถือเป็นยุคทองของราชวงศ์ฮั่น มีการขยาย

  • ย้อนเวลาป่วน...ฉางอัน    บทที่ 252

    การเดินทางบนเส้นทางสายไหมในครั้งนั้นของคณะหลิวหยุนจิงใช้เวลาหลายปีในการบุกเบิก สำรวจ และสร้างสัมพันธ์ทางการค้า มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานจากที่หลิวหยุนจิงเคยคาดไว้พวกเขาล้วนผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านอันตรายนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งจากธรรมชาติอันโหดร้าย โจรป่า และความขัดแย้งระหว่างชนเผ่า แต่ด้วยความรู้ ความสาม

  • ย้อนเวลาป่วน...ฉางอัน    บทที่ 251

    "เจ้ามีเรื่องใดในใจเช่นนั้นหรือ" ฮั่วหยุนถามพลางโอบนางเข้ามาในวงแขนอย่างแผ่วเบา"ท่านจำเรื่องที่ข้าเคยเกริ่นไว้เนิ่นนานมาแล้วถึงเรื่องขององค์รัชทายาทได้หรือไม่เจ้าคะ" คำกล่าวของคนในอ้อมแขนทำให้ฮั่วหยุนมองนางพลางพยักหน้ารับ"จำได้ ว่าแต่เจ้าเอ่ยเรื่องนี้มาเพราะเหตุใดหรือว่ามีข่าวจากทางเมืองหลวงว่าฝ่า

  • ย้อนเวลาป่วน...ฉางอัน    บทที่ 250

    ในระหว่างที่พวกเขาเคลื่อนขบวนลึกเข้าไปในดินแดนทางตะวันตกมากขึ้นเรื่อย ๆ ทิวทัศน์สองข้างทางเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นทะเลทรายแสนเวิ้งว้างและแนวเขาหินสีน้ำตาลแดงมากกว่าเดิมอากาศในตอนกลางวันเองก็ร้อนระอุขึ้นแต่ทว่าในตอนกลางคืนกลับหนาวเย็นจับขั้วหัวใจ พวกเขาต้องเดินทางผ่านเมืองน้อยใหญ่รวมถึงโอเอซิสขนาดเล็กและ

  • ย้อนเวลาป่วน...ฉางอัน    บทที่ 249

    ห้าปีผ่านไปไวราวสายลมพัด... ฤดูใบไม้ผลิอีกคราได้เวียนมาเยือน ทุ่งหญ้าชายแดนเริ่มผลิดอกออกใบขับไล่ความแห้งแล้งของฤดูหนาวให้จางหายไปขบวนเดินทางขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ประกอบด้วยทหารคุ้มกันหลายสิบนายและรถม้าขนสัมภาระกำลังเคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองนอกด่านของเมืองเตี้ยนหวงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเส้นทางเบื้อ

  • ย้อนเวลาป่วน...ฉางอัน    บทที่ 248

    แม้จะมีบางคำถามที่เขาลังเลไปบ้าง ถึงกระนั้นเขาก็ผ่านด่านสุดท้ายไปได้ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า"เอาละ ๆ ข้ายอมให้ผ่านก็ได้!" หลิวหานซินกับซูอันหัวเราะร่าเปิดประตูให้เจ้าบ่าวเข้าไปแต่โดยดี ซึ่งฮั่วหยุนไม่ได้เอะใจกับสองพี่น้องที่กำลังยักคิ้วให้แก่กันฮั่วหยุนถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางปา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status