Share

ผงหลินแดง 2

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-07-30 06:27:24

เวินอี๋นอนฟุบหน้าลงกับหมอนผ้าไหมเหลียนหยวนอย่างอ่อนแรงจากการออกแรงอาละวาด ดวงเนตรฮ่องเต้หม่นแสงลงด้วยสงสารเวทนา วางมือแตะลงที่หลังมือขาวเนียนของบุตรสาวพลางทอดสายตามองบาดแผล แม้หมอหลวงกล่าวว่าไม่หนักหนาสาหัส ทว่าทิ้งบาดแผลเอาไว้ที่หัวไหล่และบริเวณสะบักหลังอันงดงามเย้ายวนใจเอาไว้ไม่น้อยทีเดียว

“ลูกเอ๋ย เจ้าเจ็บมากหรือไม่”

เวินอี๋เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตากลมโตสองข้างวาววามด้วยหยาดน้ำตา ก่อนจะหยดร่วงบนหลังมือของฮ่องเต้อย่างพอดิบพอดี น้ำเสียงนั้นเครือสั่นอย่างน่าสงสาร “เสด็จพ่อ ลูกเจ็บ เจ็บเหลือเกินเพคะ”

ฮ่องเต้ลูบศีรษะเวินอี๋ก่อนเลื่อนลงมาลูบแก้มที่เปื้อนเปรอะด้วยหยาดน้ำตา “ไม่เป็นอันใดแล้ว เจ้ารีบพักผ่อนเสีย จะได้หายในเร็ววัน”

เวินอี๋เอนศีรษะแนบแก้มลงกับมืออุ่น ท่าทางออดอ้อนตามประสาบุตรสาว สายตาพลันเหลือบไปเห็นหานฉงหรงที่ยืนข้างๆ อวิ๋นรุ่นพร้อมหย่งเยี่ย ความขุ่นเคืองเจ็บแค้นพลันปะทุพลุ่งพล่านยากระงับดับ นางฉวยหมอนอิงเนื้อนุ่มข้างตัวปาใส่หานฉงหรง พร้อมผงกศีรษะที่มวยผมที่หลุดลุ่ยดั่งผีทวงแค้น และถลึงดวงตาแดงก่ำปานจะกลั่นเป็นเลือดใส่ “เพราะเจ้า! หานฉงหรง นางคนชั้นต่ำสารเลว! ข้ารู้ว่าเหตุการณ์ที่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เกาทัณฑ์ดอกเหมย 3

    หานฉงหรงกล่าวจบก็นิ่งรออีกฝ่ายอนุญาต แน่นอนว่าการไปเยี่ยมบิดานั้นเป็นเรื่องจริง ทว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของนางคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวล่ใกล้เคียงกับงานล่าสัตว์ที่อุทยานอู่ถงต่างหากในอีกหนึ่งเดือน ช่วงฮ่องเต้เสด็จประพาสอุทยานล่าสัตว์อู่ถง เมืองจี๋หลินจะเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตชาวเมืองไปจำนวนมาก แม้กระทั่งหานเซียงอวิ๋น บิดาของนางก็ไม่มีข้อยกเว้นถ้านางที่ตอนนี้รู้ถึงอาการและมีความรู้ทางด้านการแพทย์ที่ได้สั่งสมมาทีละเล็กทีละน้อยมาจนถึงบัดนี้ อาจจะพอหาทางช่วยเหลืออันใดได้บ้างเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือแม้กระทั่งหาต้นตอของโรคระบาดเจอก็เป็นได้“...”หานฉงหรงเห็นอีกฝ่ายนิ่งฟัง จึงรีบหว่านล้อม “ท่านอ๋อง ระยะทางระหว่างอุทยานล่าสัตว์อู่ถงกับจี๋หลินไม่ห่างกันมาก ใช้เวลาไม่เท่าใดนักก็ถึง” ว่าพลางชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว “หม่อมฉันสัญญาว่าจะรีบไปรีบกลับ ไม่เถลไถลเพคะ”แต่อีกฝ่ายกลับมองการกล่าววาจาอ้อมค้อมของสตรีตรงหน้าเป็นเรื่องพิลึกพิลั่น เขาขมวดคิ้วแล้วเอ่ย “ขอย่อมอนุญาตอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดให้มากความ”เด็กสาวมีสีหน้าแจ่มใสทันตาเห็น ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อได้ยินประโยคถัดมา “แต่ข้าจะไปด้วย”“เพค

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เกาทัณฑ์ดอกเหมย 2

    อวิ๋นรุ่นถอนใจ ก่อนเดินไปหยิบทุกใส่ทรายสองใบให้กับหลานชาย “เช่นนั้นก็ฝึกกำลังแขนก่อน เริ่มต้นที่ยกถุงทรายหนึ่งชั่ง [1] นี้ จากนั้นค่อยเพิ่มน้ำหนักทีละหนึ่งชั่งทุกสามวัน จนกระทั่งเจ้าถือถุงทรายได้ถึงข้างละสิบชั่งโดยที่มือไม่สั่น เมื่อนั้นอาจะสอนเจ้ายิงธนู”หานฉงหรงทำตาโต “สิบชั่ง! ต้องยกน้ำหนักมากปานนั้นเชียวหรือเพคะ”ชายหนุ่มตวัดสายตามอง “เจ้าไม่รู้อะไร คันธนูที่เบาที่สุดสำหรับเด็กและผู้หญิงนั้นน้ำหนักต่ำสุดอยู่ที่สิบชั่ง ถ้ากำลังแขนไม่มี อย่าว่าแต่จะน้าวสายธนูเลย แค่ถือคันธนูไม่เท่าใดก็โยนทิ้งแล้วกระมัง”หย่งเยี่ยบุ้ยปาก รู้ตัวดีว่าขนาดตัวและกำลังแขนของตนไม่อาจฝึกฝนตามน้ำหนักที่กำหนดได้ตามเวลาที่กำหนดอย่างแน่นอน หานฉงหรงเห็นดังนั้นจึงย่อกายลงเบื้องหน้าหย่งเยี่ย เอ่ยเสียงอ่อน “หย่งเยี่ย เจ้าอย่าเพิ่งเสียใจ อาวุธในโลกนี้มิใช่มีเพียงธนู เอาไว้ข้าจะลองหาอาวุธที่เหมาะสมให้เจ้าได้แสดงฝีมืออวดฝ่าบาทได้ดู”เด็กน้อยที่ทำหน้าเหมือนพรรณไม้เหี่ยวเฉาจนถึงเมื่อครู่มีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นมา “จริงหรือ ท่านหาอาวุธที่ประเสริฐกว่าธนูของเสด็จอาได้จริงหรือ”หญิงสาวช้อนตามองอวิ๋นรุ่นที่ขมวดคิ้วเมื่อเห็นทั้งส

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เกาทัณฑ์ดอกเหมย 1

    หลังจากเหตุการณ์ในงานเลี้ยงฉลองวันพระราชสมภพของฮ่องเต้ผ่านไปได้เกือบสองเดือน ในวันหนึ่งของปลายฤดูใบไม้ผลิ อวิ๋นก็ให้คนพ่อบ้านมาแจ้งกับหานฉงหรงที่กำลังสอนหนังสือหย่งเยี่ยและเสี่ยวมี่ว่า วันนี้ให้องค์ชายน้อยเลิกเรียนครึ่งวัน และให้ตามพ่อบ้านไปยังลานฝึก ซึ่งหย่งเยี่ยก็รีบปฏิบัติตามคำสั่งอย่างว่องไวจนนางอดถอนใจน้อยๆ มิได้ เพราะถ้าหย่งเยี่ยตั้งอกตั้งใจทำแบบฝึกหัดให้เร็วและถูกต้องเท่ากับที่ต้องยกเลิกการเรียนกะทันหันก็คงดีนางพอรู้จากพ่อบ้านว่าในมีลานฝึกสำหรับไว้เป่ยหนานหวังและลูกน้องฝึกปรือฝีมือในทุกเช้า แต่สำหรับหานฉงหรงที่ปกติไม่ค่อยชื่นชอบศิลปะการต่อสู้ สิ่งที่รับรู้ก็เป็นสถานที่หนึ่งในจวนอ๋อง ไม่เคยคิดเข้าไปดูและไม่คิดสนใจ ซึ่งเรื่องนั้นนับว่าเป็นโชคดี เพราะวันก่อนเสี่ยวมี่เดินร้องไห้จ้ามาบอกนางว่า วันนั้นมีนางกำนัลผู้หนึ่งถูกโบยเพราะนำผ้าเช็ดเหงื่อและน้ำไปรอพร้อมคอยท่าอวิ๋นรุ่นที่กำลังฝึกซ้อม จึงถูกขันทีคนสนิทของอ๋องหนุ่มตำหนิอย่างรุนแรง กล่าวหาว่าไม่รู้จักประมาณตน ขวัญกล้ามาประทินโฉมแสร้งยืนคอยรับใช้ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ จากนั้นจึงสั่งให้บ่าวรับใช้อุดปากลากนางไปโบยที่ลานหน้าเรือนบ่าว ซ

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   ผงหลินแดง 4

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสนใจจึงเอื้อนเอ่ย “หลังจากรู้ว่าการแสดงขององค์หญิงจะมีพลุไฟเป็นฉากหลัง และทางกองสังคีตขององค์หญิงกำลังกลัดกลุ้มว่าจะเพิ่มลูกเล่นอันใดให้การแสดงองค์หญิงตระการตามากขึ้นไปอีก หม่อมฉันจึงจงใจสาดผงสีแดงและน้ำเงินให้มันผสมเป็นสีม่วงกลางอากาศให้นางกำนัลเด็กที่มาช่วยงานดูเพื่อเรียกร้องความสนใจให้ทางกองสังคีตที่ดูแลการแสดงขององค์หญิงมาเห็น” นางหลุบตาลงต่ำ นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “โชคดีที่คนเหล่านั้นสนใจ จึงได้ลองไปหาซื้อเพื่อนำมาใช้บ้าง หม่อมฉันจึงอาศัยจังหวะนั้นผสมผงหลินกับผงหลินแดง [3] ลงไปในสีชาดที่คนพวกนั้นซื้อมา”“ผงหลินกับผงหลินแดงมีฤทธิ์ช่วยให้ติดไฟเหมือนกัน เมื่อผงชาดที่ผสมผงหลินถูกโปรยขึ้นไปในอากาศตกลงบนเสื้อผ้าของเวินอี๋ ก็ประหนึ่งราดน้ำมันลงบนตัวนาง จากนั้นอาศัยประกายไฟเพียงเล็กน้อยจากพลุไฟก็คลอกตัวนางได้อย่างรวดเร็ว” ชายหนุ่มเอ่ยพลางเคาะนิ้วลงกับตำราในมือพลางจ้องมองนางราวกับจะมองให้เห็นเนื้อในที่ถูกเปลือกนอกอันแสนเปราะบางห่อหุ้ม “หานฉงหรง ข้ามีเรื่องขอถามเจ้าเรื่องหนึ่ง เจ้าต้องตอบมาตามตรง นอกจากเรื่องของหย่งเยี่ยและเรื่องที่นางทำร้ายเจ้าแล้ว เวินอี๋ทำอันใดร้ายแรงกั

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   ผงหลินแดง 3

    เมื่อไม่เห็นว่าเวินอี๋จะชี้แจงอะไรอีก ฮ่องเต้จึงสรุปเอาเองว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บทำให้องค์หญิงเวินอี๋พาลพาโลใส่ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ได้แต่กำชับให้เด็กสาวพักผ่อนมากๆ และมีรับสั่งให้อวิ๋นรุ่นส่งหย่งเยี่ยกลับจวนอ๋องเป่ยหนาน จากนั้นจึงรีบรุดออกมาจากตำหนักปีก พร้อมมีรับสั่งให้กรมอาญาและศาลต้าหลี่ร่วมกันสืบสวนหาผู้กระทำผิดในเหตุการณ์นี้โดยเร็วที่สุดส่วนหานฉงหรงที่กลับมาจากงานเลี้ยงไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกอีก เหมือนเรื่องราวในตำหนักปีกนั้นมิเคยเกิดขึ้น หลังจากมอบขนมที่ได้มาจากงานเลี้ยงให้กับเสี่ยวมี่จนนางกำนัลน้อยยิ้มแก้มปริไม่หยุด ก็จัดการดูแลหย่งเยี่ยชำระกายเปลี่ยนอาภรณ์ ฟังเจ้าตัวเล็กเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในงานอย่างตื่นเต้นโดยมีนางปลอบโยนอยู่ กระทั่งกล่อมเด็กน้อยจนนอนหลับสนิทแล้ว จึงกลับมาที่ห้องพักของตนก่อนเห็นว่าอวิ๋นรุ่นนั่งรออยู่ โดยมีเสี่ยวมี่ทำหน้าที่จุดเทียนในห้องของนางอย่างทุกที จากนั้นจึงยืนเยื้องกับผู้เป็นเจ้านาย ท่าทีสงบสำรวมกว่าเคย ทว่าชายหนุ่มกลับโบกมือให้เด็กน้อยออกไปก่อนเพราะเรื่องที่จะคุยกับนางครานี้ไม่ควรมีผู้ใดล่วงรู้อีก...หญิงสาวคารวะด้วยสีหน้ามิเปลี่ยน “ท่านอ๋องมีสิ่ง

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   ผงหลินแดง 2

    เวินอี๋นอนฟุบหน้าลงกับหมอนผ้าไหมเหลียนหยวนอย่างอ่อนแรงจากการออกแรงอาละวาด ดวงเนตรฮ่องเต้หม่นแสงลงด้วยสงสารเวทนา วางมือแตะลงที่หลังมือขาวเนียนของบุตรสาวพลางทอดสายตามองบาดแผล แม้หมอหลวงกล่าวว่าไม่หนักหนาสาหัส ทว่าทิ้งบาดแผลเอาไว้ที่หัวไหล่และบริเวณสะบักหลังอันงดงามเย้ายวนใจเอาไว้ไม่น้อยทีเดียว“ลูกเอ๋ย เจ้าเจ็บมากหรือไม่”เวินอี๋เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตากลมโตสองข้างวาววามด้วยหยาดน้ำตา ก่อนจะหยดร่วงบนหลังมือของฮ่องเต้อย่างพอดิบพอดี น้ำเสียงนั้นเครือสั่นอย่างน่าสงสาร “เสด็จพ่อ ลูกเจ็บ เจ็บเหลือเกินเพคะ”ฮ่องเต้ลูบศีรษะเวินอี๋ก่อนเลื่อนลงมาลูบแก้มที่เปื้อนเปรอะด้วยหยาดน้ำตา “ไม่เป็นอันใดแล้ว เจ้ารีบพักผ่อนเสีย จะได้หายในเร็ววัน”เวินอี๋เอนศีรษะแนบแก้มลงกับมืออุ่น ท่าทางออดอ้อนตามประสาบุตรสาว สายตาพลันเหลือบไปเห็นหานฉงหรงที่ยืนข้างๆ อวิ๋นรุ่นพร้อมหย่งเยี่ย ความขุ่นเคืองเจ็บแค้นพลันปะทุพลุ่งพล่านยากระงับดับ นางฉวยหมอนอิงเนื้อนุ่มข้างตัวปาใส่หานฉงหรง พร้อมผงกศีรษะที่มวยผมที่หลุดลุ่ยดั่งผีทวงแค้น และถลึงดวงตาแดงก่ำปานจะกลั่นเป็นเลือดใส่ “เพราะเจ้า! หานฉงหรง นางคนชั้นต่ำสารเลว! ข้ารู้ว่าเหตุการณ์ที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status