Share

บทที่ 2 พี่สาว

last update Last Updated: 2025-06-11 13:57:30

หญิงสาวทั้งสองสนทนากันได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก ไป๋เหยาหันไปมองก็พบว่าเป็นคุณพ่อคุณแม่ของเธอนั่นเอง เมื่อไป๋เหยาเลื่อนสายตาไปมองก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินตามคุณพ่อคุณแม่ของเธอเข้ามาพอดี

ไป๋เย่รั่ว!

จู่ ๆ หัวใจของไป๋เหยาก็บีบรัดขึ้นมา หญิงสาวลอบกำมือแน่นอย่างไม่อาจควบคุมได้

เมื่อสิบปีก่อน คุณพ่อคุณแม่ของเธอได้นำเด็กกำพร้าคนหนึ่งมาอุปการะเลี้ยงดู นั่นก็คือไป๋เย่รั่วพี่สาวบุญธรรมผู้นี้ซึ่งมีอายุมากกว่าเธอเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น ทุกคนในบ้านดีต่อเธอมาก ไป๋เหยาได้เรียนที่ไหน ได้ใช้ของราคาแพงเพียงใด ไป๋เย่รั่วก็ได้เหมือนเธอทั้งหมด ไป๋เหยาเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดไป๋เย่รั่วถึงทำเช่นนั้นกับเธอได้ลงคอ

"เสี่ยวเหยาลูกฟื้นเสียทีนะ"

คุณนายไป๋ที่เห็นว่าลูกสาวฟื้นขึ้นมาแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก ส่วนประธานไป๋คุณพ่อของไป๋เหยาก็มองลูกสาวด้วยความเอ็นดูเช่นเดียวกัน 

ไป๋เย่รั่วมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาที่ล้ำลึก เธอรู้ดีว่าตนเองคงสู้ลูกสาวที่เป็นสายเลือดแท้จริงไม่ได้ แต่เธอก็พยายามอย่างมากแล้ว

ก่อนหน้านี้เธอเกือบจะทำให้ไป๋เหยาถูกรถชนตายได้แล้วแท้ ๆ แต่มู่จินกลับเข้ามาช่วยไป๋เหยาได้เสียก่อน อีกทั้งรถคันนั้นก็ขับมาไม่เร็วเท่าใดนัก นับว่าเป็นโชคดีของไป๋เหยาแล้ว

ด้วยนิสัยของไป๋เหยาแน่นอนว่าย่อมไม่เอาผิดเธอ!

เพราะคิดเช่นนี้จึงทำให้ไป๋เย่รั่วไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร เธอรีบเดินเข้าไปหาไป๋เหยาก่อนจะจับมือของน้องสาวเอาไว้และทำท่าทีเสแสร้ง

"เสี่ยวเหยา เป็นพี่สาวที่ผิดเอง หากว่าพี่ไม่ชวนเธอไปเดินที่ห้างสรรพสินค้า เธอก็คงไม่ต้องถูกรถเฉี่ยวชน ครั้งหน้าพี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ หนูขอโทษด้วยนะคะ"

ประธานไป๋และคุณนายไป๋ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดเพียงยิ้มเล็กน้อย พวกเขาก็ไม่อยากลงโทษไป๋เย่รั่วเพราะไป๋เหยารักพี่สาวคนนี้มาก

ไป๋เหยามองไป๋เย่รั่วด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ทว่าเธอไม่ได้พูดอะไรออกมา ตอนนี้เธอเพิ่งจะได้ย้อนเวลากลับมาอยู่ในร่างของตนอีกครั้งควรต้องวางแผนให้ดีเสียก่อน หากรีบเปิดเผยตัวตนมากไป อาจจะทำให้ไป๋เย่รั่วจับสังเกตเอาได้

เมื่อเห็นว่าแววตาที่ไป๋เหยามองดูตนคล้ายจะผิดแปลกไป อีกทั้งยังไม่พูดไม่จาไป๋เย่รั่วก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่กลับไม่กล้าถามอะไรให้มากความ

มู่จินอยู่เป็นเพื่อนพูดคุยกับไป๋เหยาต่ออีกเล็กน้อย ก่อนจะขอตัวกลับ

เมื่อมู่จินกลับไปแล้ว ไป๋เหยาจึงเอนกายลงนอนบนเตียง เธอปวดไปทั้งตัวแล้วจริง ๆ อีกทั้งตอนนี้เธอต้องการพักผ่อนให้ตนเองหายดีโดยเร็วที่สุด จึงไม่ได้สนทนากับใครมากนัก คุณพ่อคุณแม่ของเธอเองก็ไม่ได้รบกวนเธอเช่นเดียวกัน

เวลาผ่านไปร่วมสามวัน ในที่สุดไป๋เหยาก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ อาการของเธอดีขึ้นมาก ต้องยอมรับเลยว่าร่างกายในวัยสาวนั้นช่างดีเหลือเกิน ในชาติก่อนตอนเธออายุเข้าวัยสามสิบก็เริ่มล้มป่วยเสียแล้ว

ไป๋เหยาได้ทำเรื่องหยุดเรียนกับทางมหาวิทยาลัยเอาไว้สองวันเพื่อพักฟื้นให้หายดีเสียก่อนแล้วจึงจะกลับไปเรียนตามเดิม ระหว่างนี้ไป๋เย่รั่วก็ยังคงไปเรียนตามปกติ

เธอและไป๋เย่รั่วเรียนที่เดียวกัน พี่สาวบุญธรรมมีอายุมากกว่าเธอเพียงหนึ่งปีเท่านั้น แต่ก่อนทั้งสองคนสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

ไป๋เหยาเหม่อมองไปที่นอกหน้าต่าง ตอนนี้เธอกำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้าน บ้านตระกูลไป๋ของเธออยู่ในเมืองหลิงชุน ซึ่งเป็นเมืองที่เจริญทั้งทางการค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกด้วย ชีวิตของไป๋เหยานับได้ว่ามีความสุขเป็นอย่างมาก

หญิงสาวยื่นมือไปหยิบแก้วนมข้าวสาลีขึ้นมาดื่ม เพราะช่วงนี้อากาศไม่หนาวมากเท่าใด ออกจะเย็นสบายเสียด้วยซ้ำเธอจึงไม่ได้สวมเสื้อผ้าหนามากนัก หญิงสาวถอนหายใจออกมา ในขณะที่กำลังใจลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

แม่บ้านหลี่รีบเข้ามารับโทรศัพท์ และบอกไป๋เหยาว่ามีคนต้องการสนทนากับเธอ หญิงสาวส่งยิ้มให้เล็กน้อย เธอเดินตรงไปรับโทรศัพท์ และได้ยินเสียงหวานใสของเพื่อนรักที่พูดคุยกับเธอ

"นี่เหยาเหยา ฉันกำลังจะเข้าไปหาเธอ ว่าจะเอาเนื้อหาบทเรียนก่อนหน้านี้ไปให้เธออ่านแล้วก็ซื้อขนมไปฝากเธอด้วย"

ไป๋เหยายิ้มพลางตอบ

"ได้สิ ฉันกำลังเบื่ออยู่พอดี ขอบใจเธอมากนะมู่จิน"

"เรื่องเล็กน้อย เดี๋ยวฉันเข้าไปหาเธอนะ"

"อืม"

ไป๋เหยารับคำ ก่อนจะวางสายไป

ที่บ้านตระกูลไป๋ของเธอไม่ได้นับว่าร่ำรวยมหาศาลที่สุดของเมือง แต่ก็มีสมบัติมากพอให้เธอใช้จ่ายอย่างสุขสบายไปได้ตลอดชีวิต คุณพ่อของเธอเปิดห้างสรรพสินค้าใกล้กับโรงแรมแห่งหนึ่ง ส่วนคุณแม่ก็มีกิจการร้านตัดเสื้อขนาดใหญ่ และภัตตาคารอีกสองแห่ง ซึ่งเป็นกิจการตกทอดมาจากต้นตระกูล ทุกอย่างคุณพ่อของเธอให้คุณแม่จัดการทั้งหมดเพราะท่านเกรงใจและให้เกียรติคุณแม่ และคุณแม่เองก็เป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่งมาก

แม้จะสุขสบายแต่เธอก็ยังหาเรื่องใส่ตัว ทั้งที่ควรจะได้พบเจอคนที่มีฐานะเท่าเทียมกัน แต่เธอกลับเลือกหลัวจิ้ง 

เดิมทีฐานะของคนรักไม่ได้สำคัญสำหรับไป๋เหยา มันไม่ได้เป็นตัวชี้วัดสิ่งใดเสมอไป

แต่ว่าเธอกลับเลือกผิด เอาชีวิตทั้งหมดไปฝากเอาไว้กับคนชั่วเช่นเขา

เมื่อคิดถึงเรื่องในชาติก่อนไป๋เหยาก็กำมือแน่น หญิงสาวพยายามปรับอารมณ์ให้สงบ ในยามนี้โมโหไปก็ไม่ช่วยอะไร ไม่สู้หาทางรับมือจะดีเสียกว่า

"คุณหนูไป๋เหยาครับ คุณหนูมู่จินมาถึงแล้วครับ"

รออยู่ไม่นาน พ่อบ้านสวีก็เข้ามาแจ้งไป๋เหยาว่ามู่จินมาถึงแล้ว ไป๋เหยาพยักหน้ารับคำและเดินออกไปหามู่จินทันที

เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าบ้านก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เพราะนอกจากมู่จินแล้ว คนที่เดินตามหลังเพื่อนรักของเธอมา คือคนที่เธอคุ้นเคยกับเขาในชาติก่อน

มู่เฉิน

เขาเป็นน้าเล็กของมู่จิน

เมื่อได้พบกับเขาอีกครั้ง ไป๋เหยาก็รู้สึกประหม่าเหลือเกิน

มู่เฉินในชาติก่อนทั้งเจ้าชู้และนิสัยไม่ดี เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า อีกทั้งยังเข้าไปพัวพันกับธุรกิจที่ไม่ขาวสะอาด แต่เพราะว่ามีคนใหญ่คนโตหนุนหลัง  จึงทำให้เขาสามารถหนีรอดคดีไปได้ทุกครั้ง หลังจากที่เธอป่วยก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วมู่เฉินมีจุดจบเช่นไร

แต่ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาคงไม่ตายง่าย ๆ หรอก

ไป๋เหยาเม้มริมฝีปากแน่น ถึงแม้มู่เฉินจะเป็นผู้ชายที่ไม่ได้ดีมาก แต่ทุกครั้งที่เจอกันเขาก็จะคอยเตือนเธอเรื่องหลัวจิ้งอยู่เสมอ

แม้ไม่รู้ว่าที่เขาทำไปเพราะชอบเธอจากใจจริงหรือเห็นเธอเป็นของเล่น แต่เธอก็นึกขอบคุณเขาในใจอยู่เสมอ

เป็นเธอที่เชื่อคนง่ายเกินไป

หญิงสาวมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพิจารณา เมื่อได้มาพบเจอกันอีกครั้งก็เหมือนว่าเขาจะดูแปลกตาไปไม่น้อย

วันนี้เขาแต่งตัวภูมิฐานชวนมองเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังสวมแว่นตาเลนส์ใสดูแล้วเหมือนคุณชายผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามู่เฉินเป็นคนที่หล่อเหลามากจริง ๆ

ในขณะที่เธอจ้องมองเขา ชายหนุ่มตรงหน้าก็พินิจมองเธอเช่นเดียวกัน 

เมื่อถูกสายตาคมสีนิลมองตอบกลับมาไป๋เหยาก็รีบหลบสายตาเขา และหันไปเอ่ยกับเพื่อนรัก

"ไม่รู้ว่ามู่จินจะชวนน้าเล็กมาด้วย รีบเข้ามาด้านในก่อนเถอะค่ะ"

ไป๋เหยากล่าวจบก็รีบจับมือมู่จินให้เดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน 

มู่เฉินยกมือขึ้นมาขยับแว่นตาของตนเองเบา ๆ เขามองตามไป๋เหยาไปด้วยแววตาที่วูบไหว

เหมือนว่าชาตินี้คุณหนูไป๋เหยาคนปากคอเราะรายคนนั้นจะดูแปลกไปไม่น้อย

ทุกครั้งไป๋เหยาจะมองเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจ เพราะชาติก่อนเขาเองก็เจ้าชู้มาก ควงหญิงสาวไม่ซ้ำหน้า แล้วยังเข้าไปพัวพันกับเรื่องสกปรก ไม่สนใจคำเตือนของคนในครอบครัว  ไม่แปลกที่เธอจะไม่ชอบหน้าเขา

และไปเลือกไอ้สารเลวนั่น!

มู่เฉินพยายามระงับโทสะของตน ชายหนุ่มรีบเดินตามสาวน้อยสองคนเข้าไปในบ้านตระกูลไป๋ทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   ตอนจบ

    ตอนนี้ทุกอย่างที่เมืองตงฉางราบรื่นดี ใช้เวลาร่วมเดือนงานก่อสร้างก็คืบหน้าไปมาก มู่เฉินที่เห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเป็นห่วงแล้ว จึงคิดจะเดินทางกลับเมืองหลิงชุน เขาเองก็ไม่ค่อยอยากอยู่ที่ตงฉางมากนัก ที่นี่เงียบเกินไปเขาที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมานานปีจึงไม่ค่อยคุ้นชินเท่าใดนักเขาพาไป๋เหยาและมู่จินขับรถกลับเมือง หลิงชุนด้วยกันในเช้าวันต่อมา มู่จินมองเพื่อนรักและน้าเล็กของตนพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย เรื่องระหว่างคนทั้งสองเธอรู้หมดแล้วและไม่ได้คัดค้านอะไร ออกจะดีใจมากด้วยซ้ำที่จะได้เพื่อนรักมาเป็นน้าสะใภ้ของตนเองคนทั้งสามกลับมาถึงเมืองหลิงชุนในช่วงเย็นของวันนั้น คุณนายไป๋ไม่ได้ซักถามอะไรลูกสาวบอกเพียงให้รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและมากินมื้อเย็นด้วยกัน ไป๋เหยาเม้มริมฝีปากยังไม่กล้าบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าช่วงที่อยู่เมืองตงฉาง เธอและมู่เฉินมีความสัมพันธ์กันหลายครั้งแล้ว แม้จะมั่นใจว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางทอดทิ้งเธอ แต่ไป๋เหยาก็ยังรู้สึกประหม่าเหลือเกินด้านมู่เฉินนั้นเมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลมู่เขาก็จัดการเก็บของตนเองเอาไว้ในห้องและไปอาบน้ำ หลังจากเปลี่ยนชุดและลงมาที่ด้านล่างก็พบว่าเป็นเวลามื้อเย็นแล้ว

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   บทที่ 23 ช่วยทำมากกว่าจะจูบได้ไหม

    ท้ายที่สุดมู่เฉินก็ตัดสินใจแจ้งเรื่องนี้กับสำนักงานตำรวจเมืองตงฉางและส่งตัวหลัวจิ้งให้ทางการทันที ตำรวจเข้าค้นที่เกิดเหตุและส่งหญิงสาวเหล่านั้นกลับบ้าน อีกทั้งยังเอาผิดพ่อแม่ของเธอที่ขายลูกสาวอย่างผิดกฎหมาย ถูกปรับหลายร้อยหยวน มู่เฉินที่ตามไปดูเหตุการณ์รู้สึกเวทนาพวกเขาไม่น้อย เพราะความยากจนทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจทำแบบนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจจ่ายค่าเสียหายแทนพวกเขาเป็นเงินหลายพันหยวน และหางานให้หญิงสาวเหล่านั้นทำ ตอนนี้ที่เมืองตงฉางมีโรงงานตระกูลมู่ที่สร้างเสร็จและกำลังเปิดรับคนเข้าไปทำงาน เขาจึงให้พวกเธอไปสมัครงานที่โรงงานของเขาจะได้มีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวส่วนหลัวจิ้งนั้นยังคงไม่ซัดทอดไปถึงใครทั้งนั้น เขาปิดปากเงียบและถูกจับกุมตัวเอาไว้ทางด้านเฉียนฟานที่เพิ่งเดินทางมาถึงและทราบเรื่องก็ลอบก่นด่าหลัวจิ้งเป็นร้อยครั้งที่ทำงานได้อย่างบัดซบที่สุด ซ้ำยังถูกตำรวจจับตัวได้อีก ครั้งนี้เขาทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากต้องล่าถอยและรีบกลับเมืองหลิงชุนไปก่อนเดิมทีเขาคิดว่านอกจากจะมารับตัวหญิงสาวพวกนั้นไปแล้วยังคิดจะมาดูมู่เฉินเสียหน่อยว่ามันทำอะไรไปบ้าง ที่สำคัญเด็กสาวคนนั้นก็ตามมันมาด้วย เขาเองพอจะรู้

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 22 สามีเก่าที่ไม่มีวันกลับใจได้

    ทางด้านไป๋เหยานั้นหลังจากที่ได้สติกลับมาแล้ว เธอรู้สึกว่าปวดไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณศีรษะนั้นเจ็บมากที่สุด เธอพยายามหยัดกายลุกขึ้น หญิงสาวมองไปรอบ ๆ บริเวณ พบว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้องเก่า ๆ ห้องหนึ่ง ไม่ไกลกันนักมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยหลายคนที่นั่งรวมตัวกันอยู่อีกมุมหนึ่ง พวกหล่อนมองไป๋เหยาอย่างหวาดหวั่น มีบางคนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดไป๋เหยาขมวดคิ้วมุ่น นี่มันเรื่องอะไรกันเธอพยายามคิดทบทวนถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เดิมทีเธอออกมาเก็บผ้าพันคอ แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีคนใช้ของแข็งฟาดเข้ามาที่ท้ายทอยจนสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่เสียแล้วหัวใจของไป๋เหยาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหนและใครกันที่เป็นคนจับตัวเธอมาไป๋เหยาพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เธอไม่ใช่คนในพื้นที่ อีกทั้งยังไม่ใช่คนที่นี่แล้วทำไมถึงถูกจับตัวมากันนะ เธอมองพลางคิดจะหาทางหนีทีไล่ จึงขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวเหล่านั้นแล้วสอบถาม"ขอถามหน่อยค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่กันเล่า"หญิงสาวเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะมีอายุยังไม่ถึงสิบแปดปี พวกเธอมองไป๋เหยาอย่างหวาดกลัว

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80   บทที่ 21 เมืองตงฉาง

    สองวันต่อมามู่เฉินและไป๋เหยาก็เดินทางไปเมืองตงฉางพร้อมกัน การเดินทางครั้งนี้มีมู่ จินร่วมเดินทางไปด้วย มู่เฉินกลัวว่าระหว่างที่เขาต้องไปทำงานไป๋เหยาจะเหงา จึงให้มู่จินมาอยู่เป็นเพื่อนกับเธอ อีกทั้งเขาต้องการให้คนบ้านตระกูลไป๋มั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดจะเอาเปรียบเธอคุณนายไป๋ยิ้มแล้วมองลูกสาวที่ออกไปพร้อมมู่เฉินและมู่จิน เดิมทีเธอยังค่อนข้างหนักใจที่ไป๋เหยาตกลงคบหากับมู่เฉินที่มีอายุห่างกันหลายปี แต่เมื่อเห็นว่าลูกสาวมีความสุขและมู่เฉินก็ดูแลไป๋เหยาเป็นอย่างดี เธอและสามีก็พอจะวางใจลงได้ไม่น้อยระยะทางจากเมืองหลิงชุนและตงฉางนับว่าต้องใช้เวลาเดินทางอยู่ไม่น้อย แต่มู่เฉินไม่ได้รีบร้อนเดินทางด้วยเครื่องบิน จึงถือโอกาสนี้นั่งรถส่วนตัวมาเพื่อจะได้ชมทิวทัศน์ข้างทางไปด้วย "นี่เหยาเหยา เธอลองกินขนมอบดูสิ ร้านนี้อร่อยมาก"มู่จินเอ่ยพร้อมกับยื่นห่อขนมมาให้เพื่อนรัก ไป๋เหยารับมากินชิ้นหนึ่งพบว่ารสชาติดีจริง ๆมู่เฉินหันไปมองหลานสาวของตนเอง และพูดขึ้นมา"จินจินตัวแสบ เธอกินเยอะจนแก้มบวมแล้ว อย่ามาชวนเสี่ยวเหยาของฉันกินเยอะเหมือนเธอสิ"มู่จินหันมาถลึงตาใส่น้าเล็กของตนพร้อมกับยื่นมือมาตีแขนมู่เฉินอย่า

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 20 จูบ

    อากาศยามเช้าวันนี้ค่อนข้างดี มู่เฉินตื่นนอนแต่เช้า หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินลงมารับมื้อเช้า เมื่อมาถึงห้องอาหารก็พบกับคุณพ่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ชายหนุ่มทิ้งกายลงนั่งฝั่งตรงหน้าผู้เป็นพ่อพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม"ข่าววันนี้ไม่ดีเหรอครับ ทำไมพ่อหน้าเครียดแบบนั้น"มู่เฉิงพับหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับลูกชาย"หลายวันมานี้คล้ายพันธบัตรที่พ่อซื้อไว้เหมือนจะราคาตกลงไปไม่น้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ราคายังขึ้นอยู่เลย อย่างนั้นคงต้องพักเอาไว้ก่อน ไม่ลงทุนเพิ่มแล้ว"มู่เฉินพยักหน้าช้า ๆ สมัยนี้คนชอบลงทุนซื้อพันธบัตรเก็บไว้ ช่วงไหนราคาขึ้นก็มีความสุขดีใจกันยกใหญ่ ช่วงไหนที่ราคาตกขาดทุนก็ถึงกับยิ้มไม่ออก เขาเองก็มีซื้อเอาไว้บ้างแต่ไม่ได้ลงทุนมากนัก"การลงทุนล้วนมีความเสี่ยงพ่อก็ระวังด้วยครับ ว่าแต่แม่กับพี่ล่ะ ออกไปแล้วเหรอครับ""อืม ออกไปที่โรงแรมแต่เช้าแล้ว แกรีบกินเถอะ พ่อมีเรื่องจะพูดกับแกหน่อย""ครับ"มู่เฉินพยักหน้าพร้อมกับรีบกินอาหารเช้าหลังจากที่เห็นว่าลูกชายกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่เฉิงก็เข้าเรื่องทันที"แกจะไปที

  • ย้อนเวลามาเป็นเด็กดีของคุณน้าในยุค 80    บทที่ 19 แม่บังเกิดเกล้า

    เมื่อหญิงวัยกลางคนผู้นั้นพูดว่ามู่เฉินคือลูกชายของเธอ ทุกคนในงานต่างแตกตื่นเป็นอย่างมาก แต่ไป๋เหยากลับมองด้วยแววตาที่เรียบเฉยชาติก่อนตอนที่เธอเริ่มจะล้มป่วยและยังไม่ได้นอนติดเตียงก็พอรู้ข่าวของมู่เฉินจากหน้าหนังสือพิมพ์อยู่แล้วแม่ที่แท้จริงของเขามีชื่อว่าจ้าวเหมย เธอทำงานอยู่ในบาร์เหล้าและมีความสัมพันธ์กับประธานมู่จนตั้งครรภ์ จากนั้นพวกเขาก็บีบบังคับเอาลูกของเธอมาเลี้ยง และขู่จะทำร้ายเธอ อีกทั้งยังบอกให้เธอรับเงินไปและอย่าเสนอหน้ากลับมาอีกเรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่และเป็นเรื่องฉาวโฉ่ที่ตระกูลมู่ไม่ต้องการให้คนนอกรับรู้ เพราะค่อนข้างส่งผลกระทบต่อหน้าตาของคนในตระกูลเป็นอย่างมากตอนแรกเธอรู้ว่าแม่ของเขาไม่ใช่คุณนายมู่ แต่ไม่เคยถามเขา เพราะอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่เมื่อได้เปิดใจคบหากัน มู่เฉินก็เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังทั้งหมด เธอรู้สึกสงสารเขามาก ทั้งที่มีแม่ แต่แม่กลับไม่เคยรักเขาซ้ำร้ายยังใช้เขาเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองอีกด้วยเธอมองจ้าวเหมยอีกครั้งและไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาประธานมู่และคุณนายมู่ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี มู่เฉิงพ่อของมู่เฉินถึงกับหันมามองคนใช้ในบ้านอย่างค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status