ปี คศ. 1983
เฮือก!
"มิติ?"
คำพูดของกู้เฉิงฮวนคำแรกเมื่อตื่นขึ้นมา ก็ยังเป็นคำถามที่ค้างคาใจเธออยู่ ทว่ายังไม่ทันได้คำตอบ พอลืมตาขึ้นมาเธอก็อยู่บนเตียงนอนในห้อง และดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงที่เธอโดนวางยาจนใกล้จะเสียชีวิตแล้ว
"ที่นี่มัน.."
แอดดดด
"ฮวนฮวน น้องเป็นยังไงบ้าง พี่ขอโทษที่ไม่ได้ดูแลน้องให้ดี พอพี่ได้ข่าวจากแม่บ้านหวังพี่ก็รีบกลับมาทันที พี่ผิดเอง"
กู้อี้หานในวัย 35 ปี รีบวิ่งเข้าไปดูภรรยาด้วยความร้อนรน 2 เดือนแล้วที่เขามีปัญญาหากับภรรยา ประจวบกับต้องไปทำงานต่างเมืองเพราะกำลังเริ่มการก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ แต่พอได้รู้ข่าวจากแม่บ้านหวัง คนเฒ่าคนแก่ของมารดาของกู้เฉิงฮวน เขาก็รีบกลับมาดูภรรยาทันที
"สะ..สามี ฉันขอโทษ ฮึก ขอโทษที่ไม่ฟังเหตุผลของพี่ ฮื้อออ ขอโทษที่ไม่เชื่อใจพี่ ฮึก ทั้งที่สามีภรรยาควรไว้ใจกันแท้ ๆ ฉันขอโทษ"
พรึบ
ร่างของกู้เฉิงฮวนถูกสามีดึงเข้ามากอดไว้ทั้งที่เธอกำลังร้องไห้จนเนื้อตัวสั่นเทิ้ม กู้อี้หานรอวันนี้มานาน วันที่ภรรยาของเขาจะกลับมาเป็นตัวเอง ไม่มีครั้งไหนที่เขารู้สึกหมดหวังกับกู้เฉิงฮวน
"น้องไม่ต้องขอโทษ ที่ผ่านมาน้องแค่ฟังคนอื่นมากเกินไป พี่ไม่เคยถอดใจจากครอบครัวของเราเลยรู้ไหม เริ่มต้นกันใหม่นะฮวนฮวน"
ทุกครั้งที่เธอหงุดหงิด ทุกครั้งที่เธอตามไปอาละวาด เขาได้แต่คิดว่า อย่างน้อยภรรยาก็ยังรักเขาอยู่ แต่ที่เป็นแบบนั้นอาจจะเป็นเพราะรับฟังแม่เลี้ยงกับน้องสาวต่างมารดามากเกินไป
"ฮึก ค่ะ เราจะเริ่มต้นกันใหม่ ฉันจะเป็นคนใหม่ เป็นแม่ที่ดีของเหมิงเหมิง เป็นภรรยาที่ดีของป๊ะป๋า"
กู้อี้หานพอได้ยินภรรยาเรียกตัวเองว่า 'ป๊ะป๋า' ใจของเขาเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เกิดอะไรขึ้น ทำไมภรรยาของเขาถึงได้รู้จักออดอ้อนแบบนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยทำแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
"ป๊ะ...ป๊ะป๋าเหรอ"
"ใช่ค่ะ ป๊ะป๋าของหนู เตรียมตัวให้ดีเลยนะคะ ต่อไปนี้พี่จะได้พบกับภรรยาคนใหม่"
"พี่คงเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ลูกของเราก็จะเป็นเด็กที่โชคดีที่สุดในโลกเช่นกัน"
"หนูจะทำให้เหมิงเหมิง ป๊ะป๋า แล้วก็คุณพ่อกลับมามีความสุขอีกครั้ง"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาได้"
ในระหว่างที่สองสามีภรรยากำลังพูดคุยกันอย่างหวานชื่น เสียงประตูห้องก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน
"ป้าพาคุณหนูมาส่งค่ะ"
แม่บ้านหวังอุ้มคุณหนูน้อยกู้หนิงเหมิงอายุเพียง 2 ขวบเข้ามาในห้อง แต่ด้วยความที่เด็กน้อยไม่ค่อยสนิทกับมารดา จึงมีท่าทีหวาดกลัวอยู่บ้าง
"เหมิงเหมิง มาหาแม่เร็วเข้า ขอแม่อุ้มหนูได้ไหมจ๊ะ"
"เสี่ยวหนิงเหมิง ลูกไม่ต้องกลัว แม่ไม่ดุลูกแล้ว งั้นมาให้พ่ออุ้มหนูดีไหมลูก"
"ถ้าหนูกลัวแม่ก็ให้ป๊ะป๋าอุ้มก่อน ไว้เชื่อใจแม่เมื่อไหร่ค่อยให้แม่อุ้มก็ได้เด็กดี"
หนูน้อยตาแป๋วจ้องมองมารดาไม่กะพริบตา กระนั้นสองมือน้อย ๆ ก็ยังยื่นไปหาบิดาให้โอบอุ้มตนเอาไว้
แม่บ้านหวังที่เห็นว่ากู้เฉิงฮวนที่นางเห็นมาแต่เล็กแต่น้อยเริ่มมีสติขึ้นบ้างแล้ว นางจึงเลือกที่จะบอกเล่าสิ่งที่เห็นให้ผู้เป็นเจ้านายทั้งสองฟัง ครั้นจะพึ่งนายท่านเวิน ท่านก็ไม่ได้สติขึ้นมาเลย
"คุณหนู คุณกู้ อย่าว่าป้าละลาบละล้วงเลยนะคะ เรื่องที่ป้าจะพูดต่อไปนี้ป้าเห็นมาด้วยตาของตัวเอง ข้าวกับยาที่คุณหนูกับนายท่านกินแต่ละมื้อ สองแม่ลูกนั่นวางยาพิษมานานแล้ว ป้าเคยบอกนายท่านแต่ท่านก็ไม่เชื่อ แต่ป้าว่าอาการของคุณหนูกับนายท่านเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนเลยนะคะ"
"..." "..."
"ได้โปรดเชื่อป้า อย่างน้อยก็ไปตรวจร่างกายสักหน่อยนะคะ ป้าเลี้ยงคุณหนูมาแต่อ้อนแต่ออก ไม่เคยมีสักครั้งที่ป้าจะประสงค์ร้ายกับคุณหนู ต่างจากสองแม่ลูกคู่นั้น ที่หวังแต่จะกอบโกยจากคุณหนูและนายท่าน หลายปีมานี่ก็เหลือเพียงบ้านหลังนี้และทรัพย์สินที่เป็นชื่อของคุณหนูเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่"
ไม่ผิดจากที่แม่บ้านหวังพูดเอาไว้เลยสักนิด หลังจากที่นางกับบิดาตายไป ทุกอย่างก็ตกเป็นของสองแม่ลูกนั่น เสี่ยวหนิงเหมิงยังโชคดีที่มีพ่อดูแลอีกหลายปี แต่หลังจากนั้น...
"ฉันเชื่อป้าจ้ะ ป้าพอจะรู้ไหมว่าสองคนแม่ลูกคู่นั้นไปซื้อยาพวกนี้มาจากที่ไหน"
แม่บ้านหวังน้ำตาไหลรินออกมาเป็นทาง ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่คุณหนูเปิดใจรับฟังคำพูดของนาง เท่านี้ก็ถือว่านางไม่ผิดต่อคำฝากฝังของคุณนายที่จากไปแล้ว
"ฮึก รู้เจ้าค่ะ ป้าเคยให้ลุงป๋อ คนสนิทของนายท่านแอบตามสองแม่ลูกคู่นั้นไป จนได้รู้ว่าทั้งคู่ไปซื้อยาที่ไหน แล้วยังได้รูปถ่ายตอนพวกเค้าซื้อขายกันมาด้วยนะคะ"
"สามีคะ ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้น้องได้ไหม อีกอย่าง น้องอยากพาทุกคนย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้"
กู้เฉิงฮวนหันกลับไปพูดกับสามีของเธอที่ประคองกอดเธออยู่ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ส่วนหนูน้อยกู้หนิงเหมิงตอนนี้ก็ยอมให้มารดาจับต้องตัวแล้ว
"ต้องได้อยู่แล้ว พี่จะจัดการเรื่องนี้ให้น้องเอง หมดเคราะห์หมดโศกสักทีนะคนดี"
ฟอดดด ฟอดดด
กู้อี้หานหอมแก้มภรรยาและลูกน้อยจนเกิดเสียงดังฟอดใหญ่อยู่หลายครั้ง แม่บ้านหวังที่เห็นแบบนั้นก็พลอยอิ่มเอมใจที่ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นในเร็ววัน
"ขอบคุณค่ะ ป้าหวังจ๊ะ ตอนนี้คนในบ้านส่วนใหญ่มีแต่คนของสองแม่ลูกนั่นใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะคุณหนู เราจะเอายังไงดีคะ ต่อให้สองแม่ลูกนั่นไม่อยู่บ้าน แค่หมารับใช้พวกนั้นก็คงไม่ยอมให้พวกเราพานายท่านออกไปตรวจร่างกายแน่นอนค่ะ"
"เดือนนี้เดือนอะไรคะป้า"
"เดือน 2 ปี 1983 ค่ะ คุณหนูถามทำไมเหรอคะ"
สีหน้าของกู้เฉิงฮวนเผยความวิตกกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด หากตอนนี้เป็นเดือน 2 แสดงว่าเหลือเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น เพราะบิดาของเธอเสียชีวิตวันที่ 1 เดือน 3 ปี 1983 ต้องเร่งมือแล้วล่ะกู้เฉิงฮวน
"ตอนนี้คุณพ่อไม่รับรู้อะไรแล้วใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ"
"ป้าหวังมีกล้องถ่ายรูปไหมคะ"
"มีค่ะ ป้าแอบซื้อเอาไว้ตอนที่ให้ลุงป๋อตามไปดูสองแม่ลูกคู่นั้นไปแอบซื้อยาพิษพวกนั้นค่ะ"
"ดีเลยค่ะ งั้นเย็นนี้ตอนนี้คนพวกนั้นกำลังผสมยาลงในอาหาร หนูอยากให้ป้าช่วยแอบถ่ายรูปไว้ให้ได้มากที่สุด ถ่ายไว้ได้หลายครั้งก็ยิ่งดีนะคะ แต่อย่าลืมปิดแสงด้วย ป้าทำเป็นใช่ไหม"
"ทำเป็นค่ะคุณหนู คนที่ร้านขายกล้องเคยสอนป้ามาแล้ว"
กู้เฉิงฮวนยกนิ้วโป้งให้แม่บ้านหวังทั้งสองข้างเพื่อเป็นการชื่นชม ยังดีที่ป้าหวังรู้จักเปิดรับเทคโนโลยีและใช้ประโยชน์จากมัน แบบนี้ต้องยกให้เป็นสุดยอดแม่บ้านเท่านั้น
"ยายยายเก่ง เหมิงเหมิงยกโป้งห้ายเยย"
(ยายาเก่ง เหมิงเหมิงยกโป้งให้เลย) หนูน้อยที่เห็นการกระทำของมารดาก็อดไม่ได้ที่จะทำตามอย่างยิ้มแย้มตามประสา
"เหมิงเหมิงของแม่ก็เก่ง ใช่ไหมจ๊ะ"
"อื้อ เหมิงเหมิงเก่ง" (^-^)
"ถ้าอย่างนั้นพี่จะออกไปหาเพื่อนที่เป็นนายทหารและนายตำรวจสักหน่อย อย่างน้อยถ้าจะเล่นงานคนพวกนี้เราคงต้องมีหลักฐานให้แน่นหนาและหาพยานมาด้วย พี่สัญญาว่าจะพาหนูกับลูก รวมไปถึงคุณพ่อ ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด"
เพียงแค่คิดว่าทุกวันภรรยากับพ่อตาจะต้องกินยาพิษเข้าไปตลอด มันก็ทำให้กู้อี้หานร้อนรุ่มจนนั่งไม่ติดแล้ว ครั้นจะพาออกไปตอนนี้เลยเขาก็สามารถทำได้ แต่การจะหาหลักฐานมาเอาโทษคนทำผิดจะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก
"ถ้าพวกนั้นเอาข้าวมาให้ น้องก็เททิ้ง หรือไม่ก็บอกว่าเบื่ออาหารรู้ไหม พี่จะรีบหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาน้องกับคุณพ่อให้ได้ เชื่อใจพี่นะฮวนฮวน"
"เรื่องหมอพี่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ยังมีสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์รอเราอยู่ ขอเพียงพี่รวบรวมหลักฐานได้มากพอ จากนั้นก็พาคนเข้ามาย้ายหนูกับคุณพ่อออกไปได้เลย"
"ตกลงครับ เหมิงเหมิงคนเก่ง หนูอยู่กับแม่จ๋าก่อนนะลูก เดี๋ยวพ่อออกไปจัดการธุระข้างนอกไม่นานจะรีบกลับมานานกอดหนูกับแม่นะคะ"
"เหมิงเหมิงบ๊ายบายป๊ะป๋าก่อนเร็วลูก บาย"
"บ๊ะบาย ป๊ะป๋า"
"บายค่ะลูกสาวป๋า แล้วป๋าจะรีบกลับมาหาหนูกับแม่นะคะ"
เสียงเล็ก ๆ ที่ยังพูดไม่ชัดกลับทำให้คนเป็นพ่อมีแรงฮึดสู้ กู้อี้หานรีบเดินออกจากห้องแล้วขึ้นรถตรงไปทำธุระที่ค่ายทหารทันที ระหว่างทางเขาก็ได้สั่งให้ผู้ช่วยจัดการเรื่องทำความสะอาดบ้านตระกูลกู้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพื่อรอต้อนรับทุกคน
กู้อี้หานเดินวนไปมาอยู่หน้าห้องคลอดด้วยความตื่นเต้น นายท่านเวินกับยัยหนูเหมิง รวมไปถึงป้าหวัง เฉินเทียนที่จอดรถเสร็จก็รีบตามมาสมทบที่หน้าห้องคลอดทันที"เป็นยังไงบ้างอี้หาน""ป๊ะป๋า น้องอยู่หนายหย๋อ"ร่างเล็กของหนูน้อยหนิงเหมิงถูกคนเป็นพ่ออุ้มขึ้นไว้แนบอก "ยังไงมีใครออกมาเลยครับคุณพ่อ คงต้องรออีกสักพัก คุณพ่อนั่งพักก่อนเถอะครับ""ไม่ต้องกังวลนะอี้หาน เฉิงฮวนต้องปลอดภัยแน่นอน""ผมก็หวังว่าอย่างนั้นครับคุณพ่อ"พ่อตากับลูกเขยนั่งคุยกันไปสักพัก ส่วนหนูน้อยเสี่ยวหนิงเหมิงก็นั่งเจื้อยแจ้วถามหาน้อยตัวน้อยอยู่ตลอดเวลา2 ชั่วโมงต่อมาแอดดดประตูห้องคลอดเปิดออกพร้อมแพทย์หญิงที่รับหน้าที่ทำคลอดเดินออกมา ทุกคนที่รออยู่ต่างก็รีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง"ลูกสาวผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ""ภรรยากับลูกของผมปลอดภัยทั้งคู่ใช่ไหมครับคุณหมอ""น้องออกมายึยังค้า" (น้องออกมารึยังคะ)"ปลอดภัยทั้งแม่และลูกค่ะ คุณพ่อได้ลูกชายนะคะ อีกสักครู่คนไข้จะถูกย้ายไปที่ห้องพักฟื้น ติดต่อเอาไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ"ใบหน้าคมคายของกู้อี้หานยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ในที่สุดเขาก็มีลูกชายอย่างที่ต้องการ"...""ติดต่อไว้เรี
การบริจาคสิ่งของให้ชาวบ้านผ่านไปด้วยดี วันต่อมากู้อี้หานและภรรยาก็เริ่มเตรียมสิ่งของช่วยเหลือ และส่งมอบให้กับพนักงานในห้างและพนักงานในบริษัทของตระกูลเวิน ก็ได้รับการช่วยเหลือด้วยเช่นกันอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้เด็กมากกว่า 30 ชีวิตที่ต้องไร้ที่พึ่งพิง ไร้บ้านให้กลับไปอยู่อาศัย บ้านปันสุขจึงอ้าแขนรับพวกเขาทั้งหมดให้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในครอบครัวใหญ่แห่งนี้เช่นเดียวกับผู้คนที่มีทุนทรัพย์ พอได้รู้ข่าวว่ามีการก่อตั้งบ้านปันสุข รวมไปถึงการบริจาคสิ่งของให้ชาวบ้าน พวกเขาจึงนำสิ่งของที่มีอยู่มาร่วมบริจาคด้วยอีกแรงหนึ่ง ทางด้านหน่วยงานรัฐก็เร่งเข้ามาพูดคุณเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็ก ๆ ที่ต้องสูญเสียครอบครัวสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือทั้งจากคนใจบุญและเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลายฝ่ายร่วมมือกันจึงทำให้เรื่องร้าย ๆ ผ่านไปได้ด้วยดี 7 เดือนต่อมาเดือนธันวาคมส่งท้ายปีเก่า เข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวแล้ว เสื้อผ้าคอลเลคชั่นหน้าหนาวที่เฉิงฮวนออกแบบไว้กว่า 10 ชุดมียอดสั่งซื้อถล่มทลาย ทำเอาโม่เยี่ยนซีกับฟ่านเหมยลี่ต้องขยายไลน์ผลิต เพื่อจะได้มีสินค้าส่งให้ลูก
รถสองคันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโกดังเก็บของของชางหยวน โดยมีพนักงานที่เฝ้าอยู่เปิดประตูให้รถที่เจ้านายขับมาผ่านเข้าไปด้านใน แล้วปิดประตูอย่างมิดชิดตามคำสั่ง"หนิงซิน รอพี่แป้บนึงครับ รถสูงมันลงลำบาก"ดับเครื่องยนต์ได้ชางหยวนก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งไปเปิดประตูให้หนิงซิน แล้วช่วยประคองเธอลงจนปลอดภัยดี"ขอบคุณค่ะคุณชางหยวน""เมื่อไหร่จะหายโกรธพี่ พี่ไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ"ชางหยวนไม่รู้ว่าเวลานี้เขาจะต้องทำยังไง ขอให้หนิงซินเปิดใจก็ว่ายากแล้ว แต่พอมีเรื่องที่สองแม่ลูกมาก่อเอาไว้ยิ่งทำให้ทุกอย่างยากเข้าไปอีก"ฉันทราบค่ะว่าคุณคงไม่ชอบผู้หญิงประเภทนั้น""ใช่ ใช่ครับพี่ไม่เคยชอบผู้หญิงคนนั้น แต่พี่ชอบเธอนะหนิงซิน""แต่ฉันไม่เหมาะสม ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังนะคะ ฉันขอไปหยิบของให้เฉิงฮวนก่อน"หนิงซินเอากล่องกระดาษที่มีแผ่นรองกันกระแทกออกมาให้เฉิงฮวน 25 กล่อง ตามคำขอของสหาย พร้อมด้วยกล่องพลาสติกใสขนาดพอเหมาะกับการบรรจุผลไม้ออกมาเตรียมไว้อีกจำนวนมาก"ขอบใจเธอมากนะหนิงซิน""ไม่เป็นไร จำไว้ว่าเก็บเท่าที่เก็บไหว ฉันทำให้มันมีปริมาณเพิ่มขึ้นได้เท่าที่เธอต้องการ รู้ใช่ไหม""รู้แล้ว แต่ฉันก็ไม่อย
"เฉิงฮวน น้องเป็นยังไงบ้าง รู้ไหมว่าเสื้อผ้าที่น้องออกแบบ 2 ชุดที่ถูกผลิตออกมา มีลูกค้าสั่งสินค้ามาแล้วกว่า 2 หมื่นชุดเลยนะ ราคาส่งออกจากโรงงานชุดละ 3 หยวน ค่าออกแบบของน้อง 5 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ตอนนี้น้องทำเงินได้ตั้ง 3,000 เลยนะ นี่จ้ะค่าออกแบบก้อนแรก"พอโม่เยี่ยนซีได้เห็นหน้าเฉิงฮวนก็รีบมอบรายได้ก้อนแรกให้กับเธอทันที เงิน 3,000 หยวนถือว่าเยอะมาในตอนนี้ หากเทียบกับพนักงานห้างคงต้องทำงานอยู่เกือบ 3 ปี กว่าจะหาเงินจำนวนนี้ได้"โห ได้ตั้ง 3,000 หยวนเลยเหรอคะ ฉันไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้ ขอบคุณมากนะคะพี่เยี่ยนซี พี่เหมยลี่"เฉิงฮวนรับซองเงินมาด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่ถือเป็นเงินก้อนแรกที่เธอสามารถหามาได้ด้วยตัวของเธอเอง"นั่นยังน้อยไปนะเฉิงฮวน น้องรู้ไหมว่าชุดครอบครัวที่น้องใส่ไปเซี่ยงไฮ้รอบที่แล้วมีคนโทรมาจองไว้มากขนาดไหน"กู้เฉิงฮวนเองก็ตื่นเต้นกับคำพูดของฟ่านเหมยลี่ไม่น้อย เดือนก่อนเธออยู่เซี่ยงไฮ้และออกไปพบปะผู้คนมากมาย ทำให้เธอได้ฐานลูกค้าและแจกนามบัตรออกไปไม่น้อย แต่หลังจากกลับมาก็มีเรื่องยุ่ง ๆ จึงยังไม่มีเวลาเข้าไปหาพี่สาวทั้งสองที่โรงงานเลยสักครั้ง"เยอะเลยเหรอคะพี่เหมยลี่""แ
1 ชั่วโมงต่อมากู้อี้หานกลับมาถึงบ้านตระกูลกู้เพื่อแจ้งข่าวให้ภรรยารู้ ว่าสถานการณ์ที่บ้านปันสุขตอนนี้เป็นยังไงบ้าง แต่ก็ต้องตกใจกับข้าวของมากมายที่กองอยู่"ฮวนฮวน ของพวกนี้คืออะไรกัน ทำไมเต็มไปหมดแบบนี้ล่ะ"กู้เฉิงฮวนมองตามต้นเสียงของสามีที่เพิ่งเดินพ้นบันไดขึ้นมา โชคดีที่เธอกับหนิงซินเอาของออกมามากพอในระดับหนึ่งแล้ว"กลับมาแล้วเหรอคะ ของพวกนี้หนิงซินอยากบริจาคให้กับชาวบ้านค่ะ หนูก็เลยจะช่วยแยกเป็นจำพวก พอจัดเป็นชุดแล้วค่อยนำไปบริจาคให้ทุกหลังคาเรือนในพื้นที่ที่เกิดการเสียหาย"อี้หานกับชางหยวนหันมองหน้ากันเพียงครู่เดียว ก่อนจะหันกลับมองที่ที่คนของตน ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าพวกเธอมีบางอย่างที่แตกต่างจากคนอื่น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะสามารถนำของออกมาได้มากมายขนาดนี้"หนิงซิน เฉิงฮวน พวกน้องต้องระวังตัวกันให้มาก ห้ามให้ใครรู้ว่าของพวกนี้มาจากไหน เข้าใจที่พี่ต้องการจะบอกใช่ไหม ถ้าพลาดทำให้คนอื่นเห็นผลที่ตามมาคงไม่ดีแน่ ๆ"ชางหยวนรีบย้ำเตือนกับทั้งสองสาวอีกครั้ง ที่จริงตอนที่นั่งรถกลับมาที่บ้านตระกูลกู้ เขาได้ปรึกษาเรื่องนี้กับสหายเอาไว้บ้างแล้ว ยังไงก็ต้องช่วยเหลือคนงานของตัวเองด้วย"น้องรู้แล้ว
2 วันต่อมานายท่านเวินให้ทุกคนจัดเตรียมอาหารลงไปในห้องใต้ดินที่เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี โชคดีที่บ้านปันสุขเองก็มีห้องหลุมหลบภัยเช่นกัน เมื่อวานที่ผ่านมา ทุกคนช่วยกันจัดเตรียมเสบียงอาหารและน้ำ พร้อมกับยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นต้องใช้เฉพาะหน้าลงไปไว้ทั้งหมดตัวท่านเลือกที่จะไปอยู่ที่บ้านปันสุขพร้อมกับคนงานชายและคนขับรถ เพื่อช่วยกันดูแลเด็ก ๆ มุมหนึ่งก็เพื่อให้พวกเขาอุ่นใจว่าไม่มีใครคิดทอดทิ้ง ผ่านมรสุมครั้งนี้ไปคาดว่าคงมีเรื่องที่ต้องจัดการกันอีกมากเปรี๊ยง วิว วิว หวี๊ดดด เปรี๊ยง ซ่า ซ่า ซ่าภายนอกอาคารในตอนนี้ถูกลมมรสุมถล่มจนมืดฟ้ามัวดิน โชคดีที่ทุกคนยังวิ่งลงมาหลบที่ห้องใต้ดินได้ทัน"ป๊ะป๋า เสียงไยหย๋อ เหมิงเหมิงกัว"หนูน้อยที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มแล้วนั่งอยู่บนตักของบิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตอนนี้ไฟดับไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามาในห้องชื้น ๆ นี้เลยแม้แต่น้อย มีเพียงแสงไปจากตะเกียงเท่านั้นที่ส่องสว่างให้ทุกคนผ่านพ้นคืนที่มืดมิดนี้ไปให้ได้"แค่เสียงลมครับลูก หนูไม่ต้องกลัวนะ ป๊ะป๋ากับแม่จ๋าอยู่ตรงนี้แล้ว ป๊ะป๋าจะกอดหนูไว้แน่น ๆ เลยดีไหม""อื้อ กอกแน่ง ๆ " (กอดแน่น ๆ)"ฮวนฮวน ถ้าหนูเ