LOGIN"สวัสดีค่าลูกค้ามากี่ท่านคะ ?"
เมื่อเดินมาถึงหน้าร้านชาบูชื่อดังพนักงานต้อนรับก็กระวีกระวาดเข้ามาต้อนรับทันที แต่แหมก็เห็นอยู่ว่าเธอมาคนเดียวยังจะถามอีก อายเป็นเหมือนกันนะ แต่ระหว่างนั้นก็แอบเห็นมีผู้ชายคนนึงยืนเก้ๆกังๆแถวหน้าร้านเหมือนกันเลย
"มาคนเดียวค่ะ" ละอองดาวตอบด้วยสีหน้าขัดเขิน
"ว้าเสียดายจัง ช่วงนี้ร้านของเรามีโปรโมชั่นสำหรับคู่รักถ้ามาคู่กันจะได้ในราคาหนึ่งแถมหนึ่งไปเลยนะคะ"
โห !หนึ่งแถมหนึ่งปกติราคาหัวละสี่ร้อยเก้าสิบเก้าตกแล้วก็จ่ายแค่คนละสองร้อยห้าสิบบาทเองนี่นา โคตรถูก ! แถมคุ้มมากเวอร์
"แหะๆพอดีว่า..." เธอกำลังจะกล่าวปฏิเสธไปเพราะเวลานี้ชวนใครมาก็คงจะยาก แต่อยู่ผู้ชายที่ยืนตรงนั้นก็เข้ามาสะกิดเรียก
"คะ.. ?"
"ไปกินด้วยกันไหมครับพอดีว่าผม...ก็มาคนเดียวเหมือนกัน"
"จริงหรอคะ ?อืม...งั้นก็ได้ค่ะ" หลังจากแสร้งทำสีหน้าลำบากใจเล่นตัวสักครู่เธอก็ตอบตกลงได้ลดราคาไปตั้งครึ่งนึงเก็บเงินไว้ไปซื้อหนังสือนิยายได้ตั้งเล่มนึงแหนะ
"เชิญครับ" เขาผายมือเชิญสุภาพสตรีผู้น่ารักอย่างเธอเดินเข้าไปก่อนแล้วหลังจากนั้นเราก็สั่งๆๆของที่อยากกินมาจนแทบจะเต็มโต๊ะ
ผู้ชายที่เธอนั่งร่วมโต๊ะด้วยเขาชื่อพี่แทนอายุมากกว่าเธอสามปี เป็นคนคุยเก่งเข้ากับคนง่ายเรากินกันไปคุยกันไปเรื่อยๆไม่นานของทุกอย่างบนโต๊ะก็หายเรียบจนไม่เหลือซาก แถมเธอยังเผลอเรอออกมาต่อหน้าเขาเสียอีก
'ให้ตายในตัวเธอมันไม่มีความเป็นกุลสตรีหลงเหลืออยู่บ้างเลยหรือไงกันนะ น่าขายหน้าชะมัด !'
แม้จะก่นด่าตัวเองในใจแต่เธอก็ยังส่งยิ้มแหยๆไปให้เขาแล้วขอโทษเบาๆอย่างขัดเขิน
พี่แทนไม่ว่าอะไรแถมยังส่งยิ้มเอ็นดูให้อีก หลังจากกินเสร็จเราก็เรียกเช็คบิลตอนแรกพี่แทนจะขออาสาจ่ายเองคนเดียว แต่เธอไม่ยอมในเมื่อมากินด้วยกันก็ต้องช่วยกันจ่ายสิ พอจ่ายเงินเสร็จพี่แทนเขาก็ขอเบอร์โทร
ตอนแรกก็ลังเลอยู่นะ แต่ท่าทางเขาก็ไม่ได้ดูน่ากลัวแถมนิสัยก็ใช้ได้ให้ไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจพิมพ์เบอร์ของตัวเองให้เขาไป ไม่นานพี่แทนก็กดโทรเข้ามาที่เครื่องเธอเป็นการแลกเบอร์กันและกันเรียบร้อย
"ไว้พี่จะโทรหานะครับ" หลังจากที่เธอบอกว่าขับรถมาเองเขาก็ไม่เซ้าซี้อะไรบอกว่าจะโทรหาแล้วก็แยกย้ายกันไป ส่วนเธอหลังจากที่ฟาดหมูสไลด์เอย เบคอนรมควันเอยไปจนเต็มท้องก็ชักหมดแรงที่จะเดินต่อเลยตัดสินใจที่กลับบ้าน แต่ขากลับก็เลยแวะไปซื้อขนมไปฝากผู้เป็นแม่ก่อน
เดินหิ้วขนมเค้กเจ้าดังสองกล่องใหญ่ไปเป็นของฝากคุณแม่ผู้น่ารักได้แล้วละอองดาวก็เดินกลับมาที่ลานจอดรถ ฮอนด้าแจ๊สสีขาวมุกคันโปรดที่พ่อถอยมาให้ในตอนเข้าเรียนปีหนึ่งจอดอยู่ในซองเหมือนเดิม เธอเดินกดรีโมทปลดล็อคแล้วไปเปิดประตูด้านหลังวางกล่องขนมทั้งสองกล่องใส่ไว้เรียบร้อยก็ปิดประตูแล้วเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะคนขับทันที
"อ๊ะ !ว๊ายยย !อะไรเนี่ย !" ละอองดาวดีดดิ้นสุดตัวมือไม้ไล่ทุบคนใต้ร่างที่เธอกำลังนั่งทับบนตักเขาเป็นพัลวัน
"เห้ย !หยุด !บอกให้หยุดไงมันเจ็บนะโว๊ย !" เสียงห้าวดุคำรามใส่เธอลั่นรถ ส่วนเธอก็เผลอชะงักมือหยุดตามคำสั่งเขาโดยไม่รู้ตัว
!เสียงนี้มัน...ฟังดูคุ้นๆจัง'
แต่พอเงยหน้าขึ้นมองสบตาเขาเธอถึงได้รู้ว่าทำไมเสียงฟังดูคุ้นๆ ให้ตายโลกนี้มันแคบจริงๆนะ ! ทำไมต้องเป็นเขาอีกแล้วที่ต้องเจอในสถานการณ์อันน่าอึดอัดแบบนี้
โชคร้ายที่วันนี้เธอใส่ชุดนักศึกษาสีขาวกับกระโปรงทรงเอที่ยาวมาแค่คืบ พอมานั่งซ้อนบนตักเขากระโปรงมันเลยเลิกขึ้นเลยขาอ่อนขึ้นมาจนเกือบเห็นชั้นใน
'โอ๊ย !ให้ตายนี่มันวันซวยอะไรของเธอกันนะ !'
ค่อนแคะตัวเองเสร็จแล้วละอองดาวก็ทำท่าจะดิ้นลงจากตักของเขา แล้วเธอก็เพิ่งจะรู้ตัวว่ามือหนาร้อนกรุ่นของเขากำลังทาบลงบนเอวบางตรงหน้าท้องเธออยู่ !
"คะ..คุณปละ..ปล่อยฉันนะ !"
"ปล่อยอะไรผมไม่ได้ทำอะไรคุณสักหน่อยมีแต่คุณที่ขึ้นมานั่งบนตักของผมเองอ่ะ" เขาตอบอย่างยียวน
"ปละ..ปล่อยมือคุณ !จากเอวของฉันเดี๋ยวนี้ !" เม้มปากแน่นแล้วกัดฟันกระซิบลอดไรฟันบอกเขาเสียงดุแล้วพูดต่ออีกประโยค
"แล้วนี่ก็รถฉันคุณขึ้นมาได้ยังไง"
"ไหนรถคุณ ?" เขาถามน้ำเสียงงงงๆแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือที่ลูบวนหน้าท้องเธอเล่นจนขนอ่อนเธอลุกเกรียว
"นี่ ! มัน ! รถ ! ฉัน !"
"จริงหรอ ?" เขาก้มลงกระซิบถามข้างใบหูขาว แต่ถ้าเธอไม่ได้คิดไปเองละอองดาวรู้สึกคล้ายๆว่าปลายจมูกโด่งได้รูปปัดป่ายตรงบริเวณต้นคอเธอไปด้วย
'โอยให้ตาย ! ตานี่เป็นบ้าอะไรของเค้ากันแน่แล้วมาลูบหน้าท้องเธอเล่นทำไมขนลุกวาบไปหมดแล้ว'
"คุณปล่อยฉันลง !"
"คิดถึงผมหรือไง ?ถึงได้แกล้งทำเป็นมาขี้นรถผิดคันแบบนี้"
ธีสิตกระซิบชิดใบหูขาวยั่วเย้าคนบนตักเล่นพลางเป่าลมร้อนใส่ในรูหูเล็กปลุกปั่นอารมณ์เธอให้พลุ่งพล่านขึ้น
"ใครคิดถึงคุณไม่ทราบหลงตัวเอง !"
"ถ้าไม่คิดถึงแล้วนั่งให้ผม 'ล้วง' ทำไมหรอครับ" เขาพึมพัมแนบริมฝีปากลงบนหลังคอหอมละมุน
พอฟังเขาพูดจบละอองดาวตาเหลือกโพลงยามสำเหนียกได้ว่าเธอกำลังนั่งให้เขาลูบไล้ฝ่ามือผ่านเข้าไปในเนื้อแท้แถวหน้าท้องนวลเนียนผ่านเม็ดกระดุมที่ถูกเขาปลดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทันรู้ตัวเหมือนกัน
"อร๊ายยย !ปะ..ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ไอ้คนบ้า !" ละอองดาวออกแรงดีดดิ้นจนร่างกายของคนทั้งสองเสียดสีแนบชิดกันจนแทบเป็นเนื้อเดียวกัน แผ่นหลังเนียนถูกแผงอกแกร่งบดขยี้เสียดสีจนร้อนเร่าไปทั้งร่าง
"หยะ..หยุดดิ้น ! เดี๋ยวนี้ !" ธีสิตพึมพัมเสียงแหบพร่ากรามหนาถูกขบเข้าหากันแน่น
"ไม่หยุด !ไอ้คนโรคจิตปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ !"
"หยุดดิ้นสักทีถ้าไม่อยากถูกจับกดบนรถคันนี้ !" ธีสิตคำรามเสียงดุดันลมหายใจร้อนผ่าวถูกพ่นออกมาแถวต้นคอจนเธอสยิวไปหมด
ตอนแรกเธอก็ทำท่าจะดิ้นต่อนั่นแหละ แต่แล้วก็ต้องนิ่งกริบไม่กระดุกกระดิกอยู่บนตักเขานั่นก็เพราะตรงก้นงอนๆของเธอมีบางอย่างกำลังดุนดันทิ่มแทงใจกลางร่างเธออยู่ ละอองดาวหน้าเห่อร้อนผ่าวไปหมด สองข้างแก้มขึ้นสีเลือดฝาดเต็มใบหน้า ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรที่กำลังดุนดันสะโพกเธออยู่
"อะ..ไอ้คนหื่น !" เธอพึมพัมด่าเขาเสียงอ่อยพลางนิ่งนิ่งๆให้เขาซบหน้าลงตรงต้นคอ
"แป๊บนึง...ขออยู่แบบนี้อีกแป๊บนึง..นะ" ธีสิตพึมพัมเสียงอ่อนขณะซบหน้าหอบหายใจแรงๆลงตรงซอกคอหอมละมุนตรงหน้าพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่ไม่รู้จักกาละเทศะดันมา 'ขึ้น' อะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ เพียงแค่ได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากกายบาง มือหนาค่อยๆติดรังดุมที่ตัวเองเป็นคนแกะออกช้าๆทีละเม็ดๆอย่างใจเย็น
"เอ่อ..." ผ่านไปราวห้านาทีแต่เป็นห้านาทีที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับละอองดาว เธอทั้งอึดอัดและขัดเขินร่างกายร้อนวูบวาบไปหมดเหมือนกับว่ามันอยากจะระเบิดตัวเองออกเป็นเสี่ยงๆไปเลย ลืมแม้กระทั่งจะหายใจ
"เดี๋ยวก็ขาดอากาศหายใจตายหรอก" เขาบ่นดุๆขณะยกตัวเธอลงไปยืนข้างล่างรถอย่างอ่อนโยนขัดจากสุ้มเสียงโดยสิ้นเชิง
"..." พอลงมาจากรถแล้วลองสังเกตุรอบๆรถดูดีๆละอองดาวก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่ารถคันนี้ไม่ใช่รถเธอจริงๆด้วย
'เอาอีกแล้วยัยเร ! คราวที่แล้วเข้าห้องเค้าคราวนี้ยังมาขึ้นรถเค้าอีกโง่เง่าอะไรอย่างนี้กันนะ !'
คิดในใจแล้วใช้ฝ่ามือตบหน้าผากตัวเองเบาๆ จริงอยู่ที่รถยี่ห้อเดียวกันสีเดียวกัน แต่ถ้ามองดีๆของเธอจะไม่มีสติ๊กเกอร์ติดเลย แต่ของเขามีสติ๊กเกอร์อันเล็กติดไว้คำว่ามือใหม่หัดขับตรงข้างๆด้วยสิ พอเดินไปดูตรงป้ายทะเบียนโอเคใช่เลยผิดคันจริงๆด้วย
ละอองดาวเดินหลบมายืนข้างๆรถขณะที่เขาก้าวเท้าตามลงมาหยุดยืนข้างๆ
"เป็นไง ?ใช่รถคุณหรือเปล่า"
"เอ่อ..ไม่ใช่ค่ะขะ..ขอโทษทีค่ะ" เธอก้มหน้าบอกแล้วเดินไปเปิดประตูด้านข้างหยิบเอากล่องขนมออกมาถือไว้ และเมื่อมองตรงไปข้างหน้าเธอก็พบว่ารถเธอถูกจอดถัดไปอีกสองช่วงคันนี่เอง
"นั่นใช่ไหมรถคุณ ?" เขาถามหลังมองตามสายตาเธอไป
"ค่ะ..ฉะ..ฉันขอตัวก่อนนะคะ"
ละอองดาวเดินจากไปในขณะที่หัวใจกำลังลุ้นว่าเขาจะเรียกรั้งเธอไว้หรือเปล่่า 'แล้วเธอจะคาดหวังอะไรจากเขากันล่ะเนี่ย'
ในที่สุดเธอก็เดินกลับมาถึงที่รถจนได้โดยที่เขาไม่ได้พูดท้วงอะไรสักคำ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรับรู้ได้ถึงสายตาคู่นึงที่มองตามเธออย่างไม่ละสายตา
. .ติ้ดๆๆๆ"ค่ะแม่"(ร่าเป็นอะไรลูกทำไมเสียงเนือยๆแบบนี้)"เปล่าค่ะแม่ร่าแค่...ฮ่ะ..ฮึ่กๆ"ไม่ไหว...อดไม่ได้ที่จะสะอื้นออกมาให้แม่ได้ยิน แค่ได้ฟังเสียงหวานๆที่สะท้อนความรักและห่วงใยมาให้หัวใจฉันก็สั่งให้ร้องไห้ออกมาเอง(ทะเลาะกับตาไทน์มาใช่ไหม ?)"เปล่าค่ะเราไม่ได้ทะเลาะกัน"(แล้วเป็นอะไรล่ะลูกมีอะไรหนูคุยกับแม่ได้ทุกเรื่องนะ)"คือ..."ตั้งแต่วันนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเดิมอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอาจจะดูเหมือนรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันเองก็เรียนจบแล้วแต่เฮียไทน์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขอฉันแต่งงานกันเหมือนเมื่อก่อนเลยฉันอึดอัดพาลคิดไปหมดเลยว่าเขาจะไม่อยากแต่งงานกับฉันแล้วหรือเปล่า บางทีฉันก็คิดนะว่าตัวเองเป็นไพโบล่าหรือเปล่าตอนที่เขามาขอแต่งงานฉันก็ไม่พร้อมไม่อยากแต่ง แต่พอเขาเฉยๆไม่มีทีท่าว่าอยากจะขอฉันกลับรู้สึกใจแป้ว แม้ทุกวันนี้เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแต่ระหว่างเราฉันรู้สึกเหมือนว่าเรามีเส้นใยบางๆบางอย่างมาคั่นกลางเอาไว้"แม่เคยเสียใจไหมที่เลือกพ่อมาเป็นคู่ชีวิตแต่พ่อก็ทำให้แม่ผิดหวัง"ฉันไม่เคยถามเรื่องพ่อกับแม่สักครั้งนั่นเพราะรู้อยู่แล้วว่าทุกครั้งที่พูดถึงพ่อแล้
"เฮียขอโทษอย่าเกลียดเฮียเลย...เฮียไม่อยากได้ยิน" เฮียไทน์ที่คล่อมทับบนตัวฉันกำลังก้มหน้าซบแนบกับต้นคอฉันแล้วพูดเสียงสั่นเครือ"ถ้าร่ามาไม่ทันป่านนี้เฮียคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว" ฉันอดคิดถึงภาพนั้นไม่ได้จริงๆยิ่งนึกยิ่งรู้สึกลมออกหูจนยั้งมือไว้ไม่ทัน"โอ๊ยร่าเฮียเจ็บๆๆๆ !"เฮียไทน์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกฉันยื่นมือไปบิดหูทั้งสองข้างเต็มแรง เขาพยายามดันมือฉันออกจนมือฉันหลุดออกจากหูเขาทั้งสองข้างจนได้แล้วเขาก็เริ่มเอาคืนฉันด้วยการงับลงบนเนินอกฉันเต็มแรง"โอ๊ยยย...อื้อ"เริ่มจากการกัดเต็มปากเต็มคำแล้วหลังจากนั้นเขาก็ปาดเลียบนผิวเนื้อเนินอกช้าๆ ขนอ่อนในกายลุกวาบสยิวซ่านไปทั้งร่างกาย มือไม้หยาบใหญ่ค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าฉันออกช้าๆจนเนื้อตัวส่วนบนเปลือยเปล่า"ดะ..เดี๋ยวสิเฮีย ! นี่เฮียหายเมาแล้วหรอ ?" ฉันดันใบหน้าเฮียไทน์ออกจากซอกคอตัวเองออกก่อนจะถามอย่างข้องใจ"เอาจริงๆนะเฮียเริ่มหายเมาตั้งแต่เห็นหนูฟ้อนเล็บใส่ผู้หญิงคนนั้นแล้ว""เมื่อกี้เฮียเกือบจะเอากับมันไปแล้วนะแล้วตอนนี้เฮียจะมาเอากับหนูอีกหรอ ?""ร่าเฮียไม่ได้ตั้งใจ ! เฮียสาบานให้ตายห่าเลยก็ได้เฮียคิดว่าเป็นหนูจริงๆทั้งเมาทั้งคิดถึงเฮียก็เ
"ฮ้าววว"เสียงฉันเองแหละที่รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยขัดเล็กน้อยพลางอ้าปากหาวอย่างง่วงทั้งเหนื่อยและล้าเมิื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปค่อนแจ้ง มองหาคนที่ต้นเหตุก็พบว่าเขาตื่นอยู่ก่อนแล้วแถมตอนนี้ยังนอนตะแคงเท้าแขนมองหน้าฉันอยู่อีกด้วย"ไง""เฮีย ! เล่นหนูหนักไปไหมเนี่ย" อดที่จะบ่นเขาไม่ได้คนบ้าอะไรอึดเหลือเกินจริงๆ"ช่วยไม่ได้มึงดื้อเอง !""หนูเปล่า"ปากเขาพูกแต่ดวงตาเขาจับจ้องอยู่ที่... หน้าอกของฉัน !"เฮีย ! หื่นแต่เช้าอีกแล้วนะ" ฉันลืมตัวไงว่าตัวเองยังโป๊อยู่ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรปกปิดเลยมีแค่ผ้าห่มคลุมตั้งแต่ช่วงเอวลงมาก่อนที่ฉันจะรีบคว้าชายผ้าห่มขึ้นมาคลุมช่วงอกเอาไว้ไว้ใจไม่ได้เกิดเขาอยากต่อเช้าขึ้นมามีหวังฉันคงฟ้าเหลืองตายแน่ๆ"ร่า..."อยู่ๆเฮียไทน์เรียกชื่อฉันเสียงอ่อนโยนเบาๆ"ขาา" ฉันครางรับเบาๆพลางช้อนสายตามองหน้าผู้ชายที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยแววตาอ่อนโยน"แต่งงานกันไหม ?""เฮีย..."จังหวะนี้ทุกคนคงคิดว่าฉันกำลังซาบซึ้งและดีใจที่ถูกขอแต่งงานแต่เปล่าเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขอฉันแต่งแต่ฉันยังไม่พร้อมจริงๆถ้านับครั้งนี้ด้วยนี่คงเป็นครั้งที่สามแล้ว"ว่าไงจะแต่งไ
"เดินดีๆอย่าซนได้ไหม" เสียงทุ้มที่ค่อนข้างฟังดูแหบพร่าเอ่ยปรามฉันเบาๆในขณะที่มือซนๆของฉันมันดันไปลวนลามที่ใต้กางเกงของเฮียไทน์"อื้อ...ใครซนนี่มันเป็นของหนูหนูจะจับมันตอนไหนก็ได้""แต่มึงจะจับมันตอนนี้ไม่ได้ นี่มันหน้าร้านมึงดูคนมองใหญ่แล้ว" เฮียไทน?กระซิบเสียงพร่าขณะจับมือซนๆของฉันเอาไว้แนบอกแกร่ง"อ้าวหรอแหะๆงั้นรอถึงที่รถก่อนก็ได้เนอะ"เดินซบอกเขาจนมาถึงที่รถฉันเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับแล้วผวาเข้าหาเฮียไทน์ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ"อื้อ"เสียงเฮียครางฮือในลำคอขณะที่ถูกฉันจู่โจมด้วยการโถมเข้าไปจูบที่ริมฝีปากเต็มแรง เวลาเมาฉันนิสัยเสียอยู่อย่างก็คืออารมณ์ขึ้นง่าย แต่ไม่ใช่ไปขึ้นกับใครก็ได้นะ ถ้าหน้าไม่เหมือนเฮียไทน์ก็ใช่ว่าฉันจะขึ้นได้"จ๊วบๆ" เสียงดึงดูดริมฝีปากของเราสองคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ โซนที่เราจอดรถค่อนข้างลึกพอสมควรทำให้ไม่ค่อยมีรถคนเข้ามาจอดสักเท่าไหร่จะมีแค่คันสองคันเท่านั้นเอง"ฮื้มมม...ถ้ามึงยังไม่หยุดกู 'เอา' มึงที่ลานจอดจริงๆนะ" เฮียไทน์เลื่อนริมฝีปากออกแล้วกระซิบชิดใบหูฉัน"แล้ว...ได้ไหมล่ะ" ฉันกระซิบตอบเบาๆขณะเลื่อนฝ่ามือลงไปที่เป้ากางเกงเพื่อรู
Sara_eiei >> [ตัวเองงง...วันนี้เค้าทำงานกลุ่มมาเหนื่อยมากๆเลยเค้าขอนอนก่อนนะ]ผัวอีซาร่า >> [อืม...เหนื่อยมากไหม]Sara_eiei >> เหนื่อยมากกกตาเค้าจะปิดอยู่แล้วเนี่ยผัวอีซาร่า >> อืม...แต่ตอนนี้กูอยู่ร้านเหล้าSara_eiei >> อ้าวหรองั้นตัวเองอย่าดื่มเยอะนะขับรถกลับดีๆด้วยนะเค้าเป็นห่วง งั้นเค้านอนก่อนน๊าาผัวอีซาร่า >> แต่กูนั่งอยู่โต๊ะข้างหลังมึงนะอีร่า !Sara_eiei >> ........."ซวยแล้วพวกมึงผัวกูจับได้แล้วว่ากูหนีเที่ยวอ่ะ"ฉันชื่อซาร่าหรืออีร่าที่คนในไลน์เรียกนี่แหละกำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่บรรดาเพื่อนๆที่เสือกชวนออกมาเที่ยวในคืนนี้ ก่อนจะทำใจดีสู้เสือกันหน้าไปยิ่มหวานสุดฤทธิ์ให้โต๊ะที่อยู่ติดกันทางด้านหลัง"ไฮ้...ที่รักคิดถึงเค้าไหม ?" แหะๆก็รู้แหละว่าแก้ตัวอะไรไม่ทันแล้วแต่ก็ปะเหลาะอีผัวตัวดีมันไว้ก่อนอ่ะเนอะ"มึงไม่ต้องมาตอแหลว่าคิดถึงกูหรอกหนอยทำเป็นเหนื่อยง่วงจะหลับแล้วที่ไหนได้หนีมาเที่ยวนี่เอง"'เอ๊อะ ! โดนไปอีกชุดสะอึกเลยกู'"กะ..ก็เค้าไม่ได้อยากมาหรอกนะอีฟ้าสิชวนเค้ามา" กูขอโทษนะเพื่อนขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนแล้วกัน พูดไปพลางส่งสายตาอ้อนวอนให้มันตามไปติดๆ"โยนให้กูตลอดเลยนะอ
สองเดือนต่อมา"นิชา..นิชาครับหนูหายไปไหนมาพี่ตามหาหนูเสียทั่วเลยแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คนดีพี่ขอโทษจริงๆที่ทำให้หนูเสียใจหนูจะให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหมพี่รักหนูจริงๆนะ"เสียงไตรคุณที่วันนี้บังเอิญมาเจอนิชาที่โรงพยาบาลเข้าพอดีเพราะมาเยี่ยมเพื่อนที่ภรรยาเพิ่งคลอดลูกเขารีบตรงเข้ามาหาเธอพลางสาธยายพร่ำพรรณาถึงความรักต่างๆนาๆที่มีต่อเธอ"ขอโทษนะคะพี่ไตรนิชากลับไปหาพี่ไม่ได้อีกแล้ว""ทำไมล่ะหรือว่านิชายังโกรธพี่อยู่""ไม่ใช่เพราะว่านิชายังโกรธอยู่หรอกค่ะแต่มันเป็นเพราะว่า...""นิชาเค้าแต่งงานมีสามีแล้วยังไงล่ะ ขอโทษนะครับคนนี้เมียผม"เสียงผู้กองตี๋ที่เดินมาจากทางด้านหลังของนิชาตอบแทนพลางเดินมาหยุดยืนข้างๆคนตัวเล็กแล้วรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบแน่นต่อหน้าไตรคุณ โดยที่นิชาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร"นี่..หมายความว่ายังไงครับนิชา" ไตรคุณที่ยังมีสีหน้าเหวออยู่ถามน้ำเสียงสั่นๆเกือบสามเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่เมินเฉยไม่ง้อไม่โทรตามเพราะคิดว่านิชาจะต้องมาง้อเพราะคงขาดผู้ชายอย่างเขาไม่ได้แน่ จนกระทั่งเดือนที่แล้วที่เขาทนรอเฉยๆไม่ไหวจึงพยายามไปตามหาเธอทุกที่แต่ก็ไม่พบ แต่อยู่มาเจอกันอีกทีก็พบว่านิชาแต่







