------------
@ห้องพัก
ห้องพักสุดหรูขนาดใหญ่โตมีทั้งห้องรับแขกห้องครัวขนาดเล็กห้องน้ำและอ่างจากุชซี่เตียงนอนขนาดคิงไซซ์ ห้องพักสุดหรูในโรงแรมชื่อดัง ทว่าไฟในห้องนี้กลับมืดสนิทมีเพียงแสงไฟสลัวจากไฟหลุมบนฝ้าขนาดเล็กส่องแสงก็เพียงเท่านั้น ความมืดบดบังความสวยงามและหรูหราของเฟอร์นิเจอร์จนหมดสิ้นทั้งหมดนี้เป็นความต้องการของผู้เช่าห้องนั่นเอง ในห้องกว้างแห่งนี้กลับไม่มีผู้คนเดินพลุกพล่านมีเพียงร่างชายหญิงซึ่งกำลังยืนกอดกันกลมอยู่ที่หน้าประตู เสียงจูบได้อรรถรสเสียงดัง
ฝ่ามือหนาประคองกรอบหน้าและหลังท้ายทอยหญิงสาวกักกันไม่ให้เธอหนีห่างจากเขาแม้แต่เสี้ยววินาที สีหน้าและอารมณ์ของทั้งคู่ดั่งถูกคำสาปให้ต้องถูกไฟราคะเผาหลอมละลายไปด้วยกัน
"คุณเคลเกอร์ เมล ไม่ไหวแล้วค่ะ เมลร้อนเมลต้องการ... ต้องการมากกว่านี้ "
น้ำเสียงสั่นไหวบวกกับสีหน้าหืดกระหาย เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาเว้าวอนอยากสัมผัสมากกว่านี้อยากปลดปล่อยมากกว่านี้โดยที่มือของเธอได้ทำการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตชุดยูนิฟอร์มออกเป็นที่เรียบร้อย บราเซียตัวจิ๋วโอบอุ้มเต้ากลมไว้ไม่มิด เนินเนื้ออวบขาวเห็นเส้นเลือดชัดเจน เอวคอดกิ่วเพียงแค่สองมือใหญ่จับไว้ กระโปรงทรงเอสีแดงแนบเนื้อค่อยๆ ถูกถลกขึ้นไว้เหนือแพทตี้สีหวานเธอบีบเคล้นเต้ากลมสลับกับเรียวนิ้วสวยขยี้ปรนเปรอที่เส้นโค้งคล้ายกลีบส้มโอ ที่แพทตี้สีหวานปรากฏเป็นคราบน้ำเชื่อมวงกว้างส่งสัญญาณให้ชายได้รู้ว่าเธอพร้อมเข้าสู่กิจกรรมแสนสยิวเต็มที
"เสียวหรอขอร้องฉันสิ"
แม้ตัวเองจะมีความต้องการไม่ต่างไปจากเธอแต่เขาก็ยังสร้างคำขอเพื่อกลั่นแกล้งหญิงสาวไม่รู้จักจบ
"คะ...คุณเคลเกอร์ ได้โปรด อึก! นะคะ"
เธอสะดุ้งตอบสนองเรียวนิ้วของตัวเองเป็นระยะ หวังให้ชายตรงน่าสงสารและตอบรับคำขอของเธอโดยเร็ว รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากแววตาชายร่างใหญ่จ้องมองเธอราวกับชิ้นเนื้อราคาแพงที่ต้องการลิ้มรสมันมากกว่าสิ่งอื่นใด
"เธอร่านแบบนี้ฉันจะทนไม่ไหวเอานะ"
เขาเตือนเธออีกครั้งพร้อมกับปลดเสื้อเชิ้ตและกางเกงของตนลงไปก่อนที่ข้อเท้า ฝ่ามือหนาช้อนหัวกระสุนที่มันกำลังฝ่ามือหนาช้อนหัวกระสุนที่มันกำลังผงาดตัวเผยโฉมดันอันเดอร์แวร์ สายตาเว้าวอนของหญิงสาวจ้องมองไปที่มันราวกับถูกต้องมนต์ เธอรอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอหลายต่อหลายรอบ เพียงไม่นานเจ้ากระสุนรามใหญ่ยาวถูกเผยโฉมอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วโดนเขี่ยทิ้งหมดซึ่งเยื่อใยร่างใหญ่ชายหนุ่มเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อกระชับไร้ที่ติ เดินตรงปรี่เข้ามาหาเธอก่อนฝ่ามือหนาจะบีบลำคอยาวระหง ใบหน้าคมคายยื่นเข้าใกล้สัมผัสได้ถึงลมหายใจรุ่มร้อนผสมกลิ่นแอลกอฮอล์บางเบา
"เรามาเริ่มความสนุกกันเถอะคาราเมล "
"อึก!!"ริมฝีปากของเขายื่นเข้าใกล้ประกบวางลงบนริมฝีปากฉันอย่างรวดเร็วโดยที่ฉันเองก็ตกใจไม่น้อยสัมผัสฝ่ามือของสองเราลูบไล้ไปทั่วเนื้อกายหยาบของอีกฝ่าย ลิ้นร้อนพัลวันไล่ต้อนฉันอย่างกับว่าฉันไปทำอะไรผิดมายังไงยังงั้น ในสมองฉันดังถูกใครเอาสีขาวมาสาดใส่ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรได้แต่ปล่อยให้อารมณ์มันนำพาร่างกายเราสองคนไปยังฝั่งฝันที่เราต้องการ ร่างของฉันถูกเขาต้อนจนมาถึงเตียงนอนขนาดใหญ่เราทั้งสองล้มลงทั้งที่ริมฝีปากยังจะจรดดูดดื่มกันไม่ห่าง
"จูบของเธอแล้วร้อนเป็นบ้าคงต้องการไอ้นั่นของฉันแล้วสินะ"
น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยทักท้วงหยั่งเชิงหญิงสาวทันทีที่ผละตัวออกห่าง นั่งตรงจับหัวเข่ามนแยกถางออกห่างกันกลีบส้มโอฟูขาวอมชมพูเปรอะไปด้วยคราบน้ำเชื่อมบ่งบอกถึงความพร้อม เรียวนิ้วเก่งกาจวางลงตรงกลางระหว่างรอยแยกก่อนจะกดมันลงสายตาดุดันยังคงจ้องมอง ใบหน้าเรียวสวยไม่วางคาราเมลขมวดคิ้วกัดริมฝีปากจนแทบห้อเลือด เธอเสียวสะท้านไปทั้งร่างทำไมชายตรงหน้าถึงได้เล่นตลกกับเธอไม่เลิก
"ไม่เอาดีกว่า"
"!!!!"
ว่าจบแล้วนิ้วแกร่งถูกยกออกกลับกลายเป็นว่าชายตรงกลางหว่างขานั้นชักกระสุนปืนลำใหญ่ยาวออกมาจอเตรียมส่งมันเข้ารังเพลิงแทน ไม่รอให้เธอเตรียมพร้อมเอวหนากระแทกสวนทางส่งเจ้ากระสุนพุ่งทะยานพาส่วนหัวเข้าสู่โลกกามารมณ์
"อั๊ก!!!"
"อย่าปิดปากสิเสียงไพเราะของเธอน่ะฉันอยากได้ยินมันตลอดระหว่างกระทำ... "
ฝ่ามือเล็กซึ่งยกขึ้นปิดปากถูกฝ่ามือใหญ่ยกมันขึ้นกดลงบนเตียงนุ่มสอดประสานหวังสร้างความอบอุ่นใจให้เธอ แต่มันกลับไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บที่กลีบส้มโอนั้นเบาบางลงแม้แต่น้อย ลูกกระพรวนถูกตีตบฟาดลงบนกลีบขึ้นเป็นสีแดงฉ่า เอวหนากระแทกรัวเร่งเร้าให้เธอร่านกายาน้ำหวานเปรอะกระสุนปืนย้อยลงตามรอยแยกกลีบส้มโอรวมตัวที่ผ้าปูเป็นวงกว้าง
"น้ำเยอะเชียวนะ คงจะยากมากๆ เลยละสิลองขึ้นขย่มไหมล่ะ"
ระบบสมองของคาราเมลยังไม่ทันจะประมวลผลคำพูด ร่างเธอถูกพลิกยกตัวขึ้นนั่งบนเอวฝ่ามือหนาประคองแก้มก้นใหญ่นุ่ม พยายามให้เธอเข้าจังหวะรักโดยเร็ว
"ว่าให้แต่เมล คุณเคลเกอร์เองก็คงจะอยากไม่น้อยเหมือนกันสินะคะ"
"ถ้าจับเธอเป็นก้อนแล้วกลืนลงท้องได้ ฉันทำมันเป็นนานแล้วล่ะ"
"อ๊าย!"
เอวหนาสวนจังหวะระรัวกระสุนปืนแทนการรอให้เธอปรนเปรอ ร่างบางสั่นสะเทือนกระเพื่อมตามแรงเอวเจ้ากลมสะท้านเด้งรับจังหวะ
"ไม่ไหว! ไม่ไหวอ่าา!!!"
"อ๊ายย!!!"
เสียงร้องโหยหวนก่อนถึงฝั่งฝันของชายหญิงดังลั่นห้องร่างบางขาสั่นกระตุกไปทั้งตัว เจ้าปลายกระสุนปืนถูกถอดถอนออกจากรังเพลิง ก่อนจะกลั่นความเสียวซ่านออกมาเป็นน้ำคาวลาวาสีขุ่น ฉีดพ่นไปทั่วหน้าท้องของตนเอง ก่อนร่างบางของหญิงสาวจะหมดแรงล้มพับนอนลงบนเตียงข้างกายชาย
"แฮ่ก ธ... เธอเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันรู้สึกดีได้ถึงเพียงนี้"
"ขะ... ขอบคุณสำหรับคำชม" เป็นครั้งแรกที่ฉันก็รู้สึกดีมากๆ เหมือนกัน
_______________
------------"ไม่คิดว่าหนูเรไรจะชอบที่นี่ถึงขนาดขอพักต่ออีกนิด" "ที่นี่สวยมากจริงๆ ค่ะป้าละเมียดทำเอาอยากมาอาศัยอยู่ที่นี่เลย ^^ " ไม่รู้เพราะแขกมีเพียงคนเดียวหรือว่าป้าแกเอ็นดูเรไรเป็นพิเศษ ถึงขนาดชวนมาทานข้าวที่บ้านด้วยทั้งเช้า กลางวัน เย็น เช่นเดียวกับวันนี้หลังจากเสร็จภารกิจพิชิตจักรวาลไปเวลาล่วงเลยมาจนถึงรุ่งสาง ทั้งสองนอนกอดกันกลมในห้องพัก ดีที่ป้าละเมียดโทรมาตามลูกชายไม่ใช่เดินพรวดพราดเข้ามา ไม่งั้นคงได้เห็นภาพอุจาดตาแต่เช้า "แล้วนั่นเป็นอะไรของลูกน่ะ เอาแต่นั่งก้มหน้าตลอด ไม่สบายหรือเปล่า" เห็นท่าทีลูกชายผิดแปลกไป ป้าละเมียดเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ทว่าร่างยักษ์กลับเขินอายอมยิ้มหน้าแดงไร้สาเหตุ "ไม่มีอะไรสักหน่อยแม่" "ไม่น่าใช่นะ ปกติลูกไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน อย่าบอกนะ..." ป้าสลับมองหน้าลูกชายและเรไรสาวเมืองกรุง ทั้งสองมีท่าทีที่เหมือนกันราวกับคัดลอกวาง แกรู้ได้ทันทีถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เพียงยกยิ้มเล็กน้อยและปล่อยผ่านหวังให้วัยรุ่นจัดการกันเอง "จริงสิ วันนี้พ่อให้ลูกไปดูสวนมะพร้าวให้น่ะ" "อ๋อ เดี๋ยวผมไป" "ไหนๆ ก็ไปแล้วพาเรไรไปเที่ยวด้วยสิ ปล่อยไว้ที่บ้านพักเดี๋ยวจะเบื
------------ลมทะเลหากในวันปกติของคินแล้วคงจะเย็นสบายและรู้สึกสงบ ต่างจากวันนี้เขารู้สึกร้อนเนื้อร้อนใจเปลญวนแม้จะแกว่งไปมาเพราะแรงลมทะเลกลับไม่คลายความรู้สึกกระวนกระวาย ท้ายที่สุดเขาเด้งตัวลุกขึ้นนั่งถอนหายใจเสียงดัง "เฮ้อ เป็นคนนิสัยเสียไปแล้วสิ ทั้งที่ควรจะลาเรไรก่อนเดินทางกลับ แต่เรากลับหนีออกมาโดยไม่ล่ำลาเลยสักคำ ทั้งที่ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วแท้ๆ" ยิ่งคิดถึงโอกาสที่เสียไปยิ่งรู้สึกเสียดายไม่หายหัวใจตอกย้ำโทษตัวเองรับร้อยนับพันครั้ง นั้นคือสาเหตุที่เขาไม่อาจสงบนิ่งได้อย่างทุกวัน เสียงคลื่นทะเลกระทบชายหาดคล้ายเป็นเสียงกล่อมชวนให้เขาผ่อนคลาย สมองที่ค่อยๆ พาเข้าสู่โหมดพักผ่อนกลับทำงานฉับพลันอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงหวานติดตราตรึงใจของใครบางคน "พี่คิน" "!!!!!" หันไปตามเสียงเรียกปรากฏร่างหญิงสาวตัวเล็กยืนอมยิ้มแก้มแดงให้กันอยู่ก่อนแล้ว เธอเกลี่ยผมทัดหูสายตาเขินอายจ้องมองมา ราวกับฟ้ารับรู้ถึงการก่นด่าตัวเองในใจของเขานับครั้งไม่ถ้วนและสวรรค์จึงส่งเธอมาอีกครั้ง คราวนี้ร่างยักษ์รีบวิ่งเข้าไปโอบกอดเรไรด้วยความดีอกดีใจ "เรไร! พี่คิดว่าจะไม่ได้เจอเรไรอีกแล้ว" "จะกลับได้ไงล่ะคะ มีคน
------------"ขอโทษนะ แต่พี่ไม่สามารถทำอะไรผู้หญิงที่พึ่งผ่านสถานการณ์เลวร้ายแบบนั้นได้จริงๆ" คำสารภาพของคนพี่ทำเอาหญิงสาวถึงกับแน่นิ่ง แววตาสั่นไหวราวกับจะร้องไห้รอมร่อ "กะ โกรธพี่หรือเปล่า!" "ไม่ เปล่าเลย" หลังมือเล็กยกปาดหยดน้ำตา ยันตัวลุกขึ้นนั่งยิ้มบางให้คนพี่ "ขอบคุณพี่ต่างหาก ขอบคุณที่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยนะคะ ^^ " "เล็กน้อยที่ไหนกัน!!!" สีหน้าคนพี่ดูจะโกรธเคืองแทนหญิงสาวไม่น้อย เขากัดฟันแน่นในใจอยากจะเสยปลายคางไอ้เศษสวะเสียตอนนี้ "ถึงแบบนั้นก็ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ" ทำไงดีเหมือนฉันจะตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เข้าอย่างจังแล้วสิ ---"เรไร!" "แนน!!" หญิงสาววิ่งปรี่เข้ากอดเพื่อนสนิทราวกับว่าจากกันมานานหลายวันทั้งที่เวลาพึ่งจะผ่านไปได้ไม่กี่ชั่วโมง โดยมีลูกชายผู้ใหญ่บ้านตามอารักขาไม่ห่าง แต่ด้วยเสื้อคลุมแจ็คเก็ตทำทุกสายตาจับจ้องราวกับว่าคินเป็นคนร้าย เรไรพอจะอ่านความหมายของสายตาแกจึงรีบอธิบายขยายความ "เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนเข้าใจนะ!" "แล้วเรไรหายไปไหนกับ คุณคินสองคนล่ะ"เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยถึงสิ่งที่สงสัยครู่ใหญ่ออกมา สายตายังคงมองคินเป็นคนร้ายไม่วาง "พี่คินไปช่วยเราไ
-----------"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!" คินไม่สนใจชายใจทรามสักนิด รีบคว้ามือหญิงสาวขึ้นทันที ก่อนจะรีบถอดเสื้อคลุมแจ็คเก็ตของตัวเองสวมให้ร่างเปลือยท่อนบน รีบเลื่อนหน้าหันไปทางอื่น "ผะ ผมไม่เห็นเพราะงั้นไม่ต้องอายนะครับ" "ขอบคุณนะคะที่มาช่วย" สีหน้าหญิงสาวดูตกใจไม่น้อย ไม่อาจกล้าสบตากับร่างใหญ่ได้ ชายตัวยักษ์อุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิงทำเอาเรไรถึงกับแน่นิ่งในอ้อมแขนแกร่ง"ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะพาคุณไปที่ที่หนึ่งหวังว่ามันจะทำให้คุณสบายใจไม่มากก็น้อย" "ค ค่ะ" ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด กลับกันกลับรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา ทั้งสองผ่านป่าทึบนกมาราวห้านาทีในที่สุดก็เดินมาโผล่ยังโขดหินขนาดใหญ่ซึ่งมีต้นไม้ ต้นใหญ่แผ่กิ่งใบให้ความร่มเย็นใต้ต้นไม้นั้นมีแคร่ไม้ตั้งอยู่เพียงตัวเดียว ร่างหญิงสาวขวัญผวาถูกวางลงบนแคร่อย่างเบามือ ก่อนร่างยักษ์จะนั่งลงข้างกัน "ที่นี่เป็นที่ที่ผมมักจะมานั่งเล่นเป็นประจำ เรียกได้ว่าเป็นฐานทัพลับๆ ก็ได้" "สวยมากเลยค่ะ"เบื้องหน้านั้นคือมหาสมุทรกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ลมทะเลพัดปะทะเข้าหน้า เสียงใบไม้กระทบกันเป็นดั่งดนตรีบำบัดจิตใจ ร่างเล็กหลับตาลงเล็ก
-----------"ในเมื่อเสร็จแล้ว งั้นทุกคนแยกย้ายกันไปพักดีไหม" "ค่ะ" ป้าละเมียดและชาวบ้านพากันเดินออกจากแหล่งการเรียนรู้ประจำหมู่บ้าน เพราะเวลาบ่ายแก่เหมาะแก่การเล่นน้ำ เหล่าหญิงสาวจึงพากันเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำ ลงไปเล่นน้ำทะเลบ้างก็ทำกิจกรรมบนชายหาด หนึ่งในคนที่นั่งดูเพื่อนสาวบนหาดนั่นก็คือเรไร เธอชอบที่จะนั่งมองเพื่อนๆ มากกว่าลงไปทำกิจกรรม "ไม่เปลี่ยนชุดว่ายน้ำหรอ" เสียงของเจดังขึ้นจากทางด้านข้าง เมื่อหันไปตามเสียงพบว่าในมือเขาถือขวดเบียร์ที่ถูกดื่มจนพร่องไปเกือบครึ่ง แววตาฉ่ำเยิ้มบ่งบอกว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นแผ่กระจายไปทั่วร่างกายแล้ว "มะ ไม่หรอกเรายังไม่อยากเล่นน้ำน่ะ" "งั้นหรอ ไปเที่ยวกับเจไหม" "เที่ยวไหน เราไม่ไป!" ไม่เพียงแค่คำพูดแต่ยังรวบข้อมือเล็กพาตัวดาวคณะลากไปทั้งแบบนั้น กระทั่งมาหยุดที่โต๊ะข้างบ้านพักของเหล่าผู้ชาย ซึ่งบนโต๊ะนั้นมีขวดเบียร์และของกินเล่นวางเต็มไปหมด "ไอ้เจไปเอาเรไรมาจริงวะ" "ก็บอกแล้วว่ากูจะไปพาหวานใจมา" เจพูดด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจพร้อมทั้งดึงร่างบางลงมานั่งบนตักตัวเอง ราวกับว่าเธอนั้นเป็นคนรัก ทว่าสีหน้าเรไรกลับไม่สู้ดี เธอไม่อยากมีปัญญากับนักมวยมีฝี
----------"ฮ่าฮ่า"สองสาวเกลือกกลิ้งเล่นบนเตียงสักพักใหญ่ ก่อนจะสงบลงเพราะเริ่มเหนื่อย ไฟในห้องถูกปิดลงบรรยากาศในห้องกลับเข้าสู่โหมดปกติ ทว่าถึงกระนั้นเรไรก็ไม่อาจจะสลัดภาพของคินตอนที่เข้าไปช่วยเธอไม่ได้ หัวใจดวงเล็กในอกด้านซ้ายเริ่มสั่นไหวรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอไม่อาจควบคุมยกมือขึ้นกุมมันไว้ ใบหน้าเริ่มร้อนราวกับจะเป็นไข้ท้ายที่สุดเธอยกผ้าห่มขึ้นคลุมใบหน้า "โอ้ย! หยุดคิดสักทีเรไร" แปลกที่ฉันไม่ได้มองเขาที่ใบหน้าหรือร่างกาย แต่ใจฉันมันเอาแต่คิดถึงเรื่องที่เขาเข้ามาช่วยฉันมากกว่า จังหวะที่ยกมือของเจออก รวมถึงตอนที่สายตาเย็นชานั้นมองลงมาร่างกายก็ร้อนรุ่มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว อยากทำความรู้จักกับคุณคินมากกว่านี้จัง มากกว่านี้อีกหน่อยก็คงดี... "มื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มปลาหมึกจ้า""ปลาหมึกนี่ดูสดมากเลยเนอะ""นั่นสิ"เหล่านักศึกษาจบใหม่พากันกรูรุมล้อมรอบหม้อข้าวต้มด้วยสายตาเป็นประกายราวกับไม่เคยเห็นข้าวต้มมาก่อน ทำเอาป้าละเมียดเมียพ่อผู้ใหญ่ยิ้มแก้มปริด้วยความเอ็นดูสาวเมืองกรุง"ใช่จ้ะ เป็นปลาหมึกที่ชาวบ้านออกเรือไปจับมาเมื่อคืนนี่เอง""โห! สดสุดๆ ไปเลย""งั้นขอทานแล้วนะคะ""เชิญเลยจ้ะ"