“โว้ย!!” ชายหนุ่มระบายอารมณ์ด้วยการแหกปากตะโกน คนที่นอนอยู่บนเตียงกลับนอนเฉย เมื่อหล่อนจมดิ่งในห้วงนิทราที่ลึกสุดๆ เพราะความอ่อนเพลีย
โต๊ะทำงานตั้งอยู่มุมห้อง...เขาเดินสวบๆ ตรงไปทิ้งตัวนั่ง กดเปิดแลบท็อปส่วนตัว เพื่อติดต่อใครบางคน...
E-Mail…ถูกกดส่ง หลังจากชายหนุ่มรัวนิ้วกับแป้นพิมพ์ถี่ยิบ เขาถามไปหลายคำถาม เพราะรู้สึกถึงความหวาดหวั่นนั่น ถึงจะมีแต่ความเงียบตอบกลับไป แต่เทียมก็ไม่เคยละความพยายาม ตลอด12 ปีมานี่ ท่านเพียรติดต่อบุตรชายสม่ำเสมอ มาหาทุกครั้งหากว่างงาน แต่ธรรวาไม่เคยว่างให้ท่านพบ ดังนั้นการติดต่อกับบุตรจึงเหลือแค่หนทางเดียว ไม่ได้พบหน้าค่าตา แค่ตัวอังษรก็ยังดี...เทียมจึงติดต่อบุตรชายอาทิตย์ละครั้ง...แต่นี่เงียบหายไปถึง3 เดือน มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับท่านแน่!!
ธรรวานั่งกอดอกรอ...
ดวงตาเขาจับจ้องหน้าจอ...แบบไม่ยอมกะพริบตา...
ติ้ง!!
จดหมายอิเลคโทรนิค1ฉบับถูกส่งกลับมา...
ธรรวารีบกดเปิดเพื่ออ่านถ้อยความที่คนอีกฝั่งส่งมาถึงเขา แบบใจจรด ใจจ่อ...
สวัสดีไอ้เพื่อนยาก...
เป็นคำเกริ่นที่ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม... เขาไล่อ่านตัวอักษรที่คนเป็นเพื่อนส่งมาบอก
ชานนท์ หัตถกิจ...เพื่อสนิทที่ธรรวายังคงติดต่อมาตลอด12ปี เพื่อนคนเดียวที่ตามข่าวคราวที่เขาอยากรู้ให้ โดยไม่ให้บิดารู้
พ่อคุณ...ป่วย...และนอนอยู่กับเตียงมาเกือบ3 เดือน โทษทีนะเพื่อน ความจริงผมควรบอกคุณก่อนหน้านี้ แต่บังเอิญช่วงนี้กำลังยุ่ง...เท่าที่รู้ ไม่ได้ร้ายแรง แค่โรคคนแก่...แต่ไอ้ที่น่าสงสัยก็คือ...คุณดารัณ เมียของพ่อคุณนั้น ผมไม่ได้คิดระแวงไปเองแน่... ดูเหมือนหล่อนพยายามแทรกแซง พยายามอย่างที่สุดที่จะยึด อำนาจของพ่อคุณ แต่มันไม่ง่ายอย่างที่หล่อนต้องการหรอก... คุณก็รู้ พ่อของคุณน่ะ เขี้ยวไม่ใช่เล่น...หล่อนเลยยังทำได้อย่างใจไม่ได้ แต่คงอีกไม่นานนะธรร...หากคุณยังนิ่งเฉย ไม่สนใจส่วนที่เป็นของคุณ แม่นั่น!! คงฉกฉวยเอาไปจนได้...ส่วนที่คุณถามมา...เหมือนเดิม...หากหมามันยังคงกิน...ขี้!! ดารัณก็คงไม่หยุดเสพสมกับชายอื่น แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของพ่อคุณ...
รีบกลับมาเถอะว่ะ...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป...
ส่วนเด็กคนนั้น...ผมแนบไฟล์มา...อย่าอึ้งล่ะ หล่อนสวยเชียวแหละ
ดูดีกว่า...แม่เลี้ยงคุณเยอะ แต่ดูจะเป็นคนละแบบ หล่อนเก็บตัว แทบจะไม่สุงสิงกับใครเลย...โดยเฉพาะผู้ชาย...
คิดถึงว่ะ...ไม่มีคุณ ผมไม่มีใครพาผมเที่ยว ไม่มีเพื่อนดื่มด้วย...
ชานนท์...
ธรรวาอมยิ้ม เขากดปิดแล็บท็อป และตัดสินใจครั้งสำคัญ เขาจะยอมกลับบ้าน หรือจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ดี
“ทูนหัว...มานี่เถอะค่ะ” ซูซี่งัวเงี่ยตื่นขึ้นมา หล่อนโบกมือเรียกธรรวา พร้อมกับส่งสายตายั่ว
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขามองนาฬิกา แล้วจึงส่ายศีรษะ
“หมดเวลาของคุณแล้วคนสวย...ถึงเวลาที่ผมต้องไปทำงานแล้วล่ะ”
ชายหนุ่มเปรย เดินเลยไปยังห้องแต่งตัว เมื่อถึงเวลาที่เขาจะต้องไปทำงาน มันอาจจะเช้าไปสักหน่อย แต่เขาไม่มีวันเดินขึ้นไปนอนซุกตัวบนเตียง กับผู้หญิงที่ไม่สนิทใจด้วย...อย่างซูซี่แน่...
อากาศยามเช้าตรู่ ความเย็นในอากาศยังคงเหลืออยู่ แต่อีกสักเดี๋ยวเถอะ รอให้แสงพระอาทิตย์สาดแสงลงมา อุณหภูมิ...ก็คงระอุร้อนเหมือนทุกวัน...
ชายหนุ่มแหงนมองฟ้า เขาขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อสายตาดันมองเห็นก้อนเมฆที่ลอยฟูฟ่องอยู่บนฟ้า เป็นเค้าหน้าของผู้หญิงคนนั้น ไฟล์แนบที่ชานนท์ส่งมาให้ ใบหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง...ผู้หญิงที่เขาเคยประทุษร้ายหล่อน ตอนที่โมโหจัด...เป็นความทรงจำเดียวที่ธรรวารู้สึกติดค้าง...จากเด็กหญิงรูปร่างผอมบาง ใบหน้ามีแต่ดวงตาเท่านั้นที่เป็นจุดเด่น นอกนั่นก็มีแต่ความซีด เซียวเก้งก้าง เท่าที่จำได้...ไม่น่าเชื่อ...สิบสองปีผ่านมา...หล่อนดูสวยขึ้น ใบหน้าหวานซึ้งจนเขาจดจำไว้ในใจ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น
มุมปากสีเข้มมีรอยยิ้ม หลังมุดเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัยรถยนต์ยี่ห้อหรู...เงินเดือนของเขามากโข มากพอที่จะอำนวยความสะดวกให้ตนเอง...แบบคนโสดที่ไม่มีภาระอะไรเลย...เขาเป็นเพลย์บอยเต็มตัว สนุกสนานไปกับเกมกามา...เริงรักกับผู้หญิงไม่เลือกหน้า ขอแค่หล่อนเสนอมา...ธรรวาก็พร้อมที่จะสนอง
แต่ไม่คิดว่า...ผู้หญิงผิวขาว นัยน์ตาหวานซึ้งคนนี้ จะทำให้ลมหายใจเขาสะดุดได้ เพียงแค่เห็นหล่อนในรูปภาพ...รายละเอียดเกี่ยวกับ ดลยา...เขาจำได้ขึ้นใจ เรือนผมสีดำยาวสยายเต็มแผ่นหลัง มันคงนุ่มและหอม...หากได้สัมผัสด้วยตนเองลำคอเรียวระหง น่าซุกซบ เนินอกอิ่มได้รูป น่าขยำขยี้...ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แค่เพียงมโน...ร่างกายของเขาก็เกิดปฏิกิริยาเสียแล้ว...และที่น่าตกใจ มันรุนแรงจนแทบควบคุมไม่ไหว...รุนแรงเสียจนเขาเองยังไม่อยากเชื่อ ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะปลุกความต้องการของตนเองได้มากมายถึงเพียงนี้...
ชายหนุ่มถอนใจแรงๆ เขาขยับตัวอย่างอึดอัด ก้มมองเป้ากางเกงขำๆ เมื่อความแข็งขึงกึ่งกลางร่างกายแข็งขัน ดันเป้ากางเกงจนพอง ทั้งที่เขาเพิ่งโรมรันพันตูกับสาวทรงสะบึมมาไม่ต่ำกว่า3ยก แต่เพียงแค่มโน ดลยาในสมอง ไอ้ที่นอนสงบเพราะถูกสูบพิษไปเกือบหมด ก็ดันทะลึ่งผงาดง้ำขึ้นมาเสียอย่างนั้นเอง
“บ้าชิป!! ยัยเด็กผอมเป็นไม้เสียบผีคนนั้น...จะสวยอะไรเบอร์นั้นวะ”
เสียงบ่นพึมพำ เมื่ออยู่คนเดียว ธรรวาชั่งใจถึงผลได้ผลเสีย เขาระงับความต้องการของตนเองได้ เมื่อเจ้าตัวมั่นใจ เขาควบคุมตนเองได้ดี ดลยาไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์ หล่อนก็แค่เชื้อพันธุ์ของผู้หญิงกากีคนหนึ่ง และสันดานร่านคงไม่ต่างกัน สักวัน เขาจะสั่งสอนหล่อนให้รู้จักผู้ชายอย่างเขาดีขึ้น!! เป็นบทเรียนที่หล่อนต้องจำจนตาย...
แต่...เวลานี้ ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะกลับไปเหยียบแผ่นดินบ้านเกิด...ยังไม่ถึงเวลา ทวงคืนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นศักดิ์ศรี หรือสมบัติพ่อ...
“โว้ย!!” ชายหนุ่มระบายอารมณ์ด้วยการแหกปากตะโกน คนที่นอนอยู่บนเตียงกลับนอนเฉย เมื่อหล่อนจมดิ่งในห้วงนิทราที่ลึกสุดๆ เพราะความอ่อนเพลียโต๊ะทำงานตั้งอยู่มุมห้อง...เขาเดินสวบๆ ตรงไปทิ้งตัวนั่ง กดเปิดแลบท็อปส่วนตัว เพื่อติดต่อใครบางคน...E-Mail…ถูกกดส่ง หลังจากชายหนุ่มรัวนิ้วกับแป้นพิมพ์ถี่ยิบ เขาถามไปหลายคำถาม เพราะรู้สึกถึงความหวาดหวั่นนั่น ถึงจะมีแต่ความเงียบตอบกลับไป แต่เทียมก็ไม่เคยละความพยายาม ตลอด12 ปีมานี่ ท่านเพียรติดต่อบุตรชายสม่ำเสมอ มาหาทุกครั้งหากว่างงาน แต่ธรรวาไม่เคยว่างให้ท่านพบ ดังนั้นการติดต่อกับบุตรจึงเหลือแค่หนทางเดียว ไม่ได้พบหน้าค่าตา แค่ตัวอังษรก็ยังดี...เทียมจึงติดต่อบุตรชายอาทิตย์ละครั้ง...แต่นี่เงียบหายไปถึง3 เดือน มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับท่านแน่!!ธรรวานั่งกอดอกรอ...ดวงตาเขาจับจ้องหน้าจอ...แบบไม่ยอมกะพริบตา...ติ้ง!!จดหมายอิเลคโทรนิค1ฉบับถูกส่งกลับมา...ธรรวารีบกดเปิดเพื่ออ่านถ้อยความที่คนอีกฝั่งส่งมาถึงเขา แบบใจจรด ใจจ่อ...สวัสดีไอ้เพื่อนยาก...เป็นคำเกริ่นที
บทที่3.ความทรงจำร้ายๆกลางดึกสงัดดลยานอนกระสับกระส่าย หน้าผากโหนกนูนมีเกล็ดเหงื่อผุดออกมาจนชุ่ม ใบหน้าเล็กๆ ส่ายไปมา เรียวคิ้วโก่งขมวดเข้า ขมวดออก เหมือนกับว่าในห้วงฝันยามราตรีคืนนี้ ดลยากำลังเผชิญหน้ากับความเลวร้าย...สายหมอกแผ่ขยายเต็มพื้นทางเดิน หญิงสาววัยแรกรุ่นขมวดคิ้ว มองซ้าย มองขวาเลิ่กลั่ก!! มีเสียงหัวเราะแหบๆ ดังแผ่วๆ เธอห่อตัวยกมือกอดตนเองแน่น เมื่อจู่อุณหภูมิก็ลดลงจนน่าตระหนก...มันเย็นเฉียบชวนให้ขนลุกชัน ดลยาพยายามมองฝ่าความสลัว เธอก้าวเท้าให้เร็วขึ้น แต่กลับเหมือนย่ำอยู่ที่เดิม...เมื่อสิ่งที่ตนเองเห็นในสายตา มีแค่ความว่างเปล่ากับความมืดมิด...“เกิดอะไรขึ้น ดลมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เธอกระซิบเสียงแห้ง พยายามเพ่งมองไปข้างหน้า เพื่อหาสถานที่ปลอดภัยแต่...ในสายตาเท่าที่มองเห็น ด้านหน้าของเธอ มีแต่ความเวิ้งว้าง ว่างเปล่า ความมืดโรยตัวโอบรอบทุกพื้นที่“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก!! ” เสียงใครบางคนลอยลมมาเข้าหูเธอ ดลยาเหลียวซ้าย แลขวา เธอพยายามมองหาคนพูด อย่างน้อยเธอก็ยังมีเพื่อนร่วมทาง แม้เสียงนั้น จะไม่ใคร่หวั
“ดลไปก่อนนะป้า” เด็กหญิงยิ้มแหยๆ ให้กันยา...ดันตะกร้าผักออกห่าง รีบวิ่งตามดารัณไปอย่างรีบเร่ง“คราวนี้ถ้าคุณเทียมจับได้อีก ทั้งแกทั้งฉันไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่!!” ดารัณหันมากระซิบเสียงเคร่ง ปลายนิ้วจิ้มลงไปกลางหน้าผากดลยาแรงๆเด็กหญิงยิ้มแหยๆ เธอไม่รู้หรอกว่าดารัณกำลังทำอะไร หลังประตูปิด หน้าที่ของเธอคือการระวังคน หากมีใครก็ตามเฉียดเข้ามาใกล้ๆ เธอต้องรีบส่งเสียงบอก...“ไปตามคำแปงมาให้ฉันที...เร็วๆ ด้วย ฉันจะไปรอที่เดิม”ริมฝีปากสีสดแสยะยิ้มเหี้ยม สั่งความดลยา ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในรังรักของตนเองดลยาวิ่งฉิว เธอรีบไปตามหาคนงานหุ่นกำยำ เขายิ้มเผล่เมื่อฟังคำที่ดลยาพูดจบ คำแปงรีบทิ้งงานที่กำลังทำมาแบบรีบร้อน เด็กหญิงวิ่งตามหนุ่มคนงานจนตัวปลิว... เธอยืนหอบแฮกๆ อยู่ไกลๆ ก่อนจะทรุดนั่งบนพื้นหญ้า คอยกวาดตามองไปรอบๆ ครั้งนี้ดลยาจะไม่พลาดอีก เธอไม่อยากถูกส่งไปอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่นั่นแออัดและมีแต่เด็กน่ากลัว ดลยาสัญญา เธอจะทำทุกทางให้คุณน้าดารัณพอใจ...เพื่อจะได้ยังอยู่ที่นี่...ไม่ต้องไปซุกตัวแบบหวาดกลัวอยู่ในสถานที่เช่นนั้นภายในห้องรกๆ มีอุปกรณ์สารพัดอย่างระเกะระกะเต็มพื้นที่...ดารัณนอน
บทที่2.ลาก่อนเมืองไทยดลยาก้มหน้าจนปลายคางชิดอก เธอพยายามสะกดการมองอยู่ที่ปลายเท้า เมื่อถูกกะเกณฑ์จากคุณน้าวัยสาวให้มายืนตั้งแถว...รอส่งบุตรชายเจ้าของบ้าน เป็นเพราะเทียมเปลี่ยนวันเวลา... เขาเลื่อนวันที่ ธรรวาต้องเดินทางไปต่างประเทศให้เร็วขึ้น ป้องกันเรื่องร้ายๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในวันข้างหน้า“สักวันแกจะเข้าใจในสิ่งที่พ่อทำ”เทียมกล่าวเสียงเรียบนี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด...เท่าที่พ่อคนหนึ่งคิดออก“...” ธรรวาไม่ได้ตอบบิดาสักคำ เขายืนก้มหน้านิ่ง มุมปากมีรอยยิ้มเหยียดๆ“คุณธรรได้ไปเมืองนอก ไม่ดีใจเหรอคะ รัณอยากไปยังไม่ได้ไปเลยค่ะ”แม่เลี้ยงสาวสดจีบปากพูด หล่อนยิ้มเยือนเพื่อกลบเกลื่อนความผิดหวัง เกือบจะได้ลิ้มรสความกำยำของลูกเลี้ยงหนุ่มละอ่อนอยู่แท้ๆ แต่ก็ดันมีมารมาขัดความสุขเสียก่อน แถมไอ้มารตัวนั้น ยังส่งลูกเลี้ยงของเธอไปเสียไกลตาเด็กหนุ่มตวัดสายตามอง เขายิ้มเย็น ดวงตาลุกเรือง และดวงตาคู่นั้นเลยไปยังด้านหลังดารัณด้วย ธรรวาหรี่ตาลง เขาเห็นดลยายืนแอบอยู่ด้านหลังคนงาน เด็กหนุ่มแสยะยิ้ม... “คนอย่างเธอ...เหมาะที่จะลงไปอยู่ในนรกมากกว่า...”ธรรวากล่าวเสียงแผ่ว เขาเงยหน้ายิ้มให้บิดา แต่มันเย็นช
ดารัณผลักร่างใหญ่เหม็นหืนของคำแปงออกไปจากร่างกาย หล่อนผุดลุกขึ้นยืน เดินนวยนาดไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวเก่าๆ โดยไม่คิดอายสายตาวาวๆ ของคนงานร่างใหญ่ เมื่อร่างกายเปล่าเปลือยเย้ยฟ้าท้าลม“ไปได้แล้ว...ดูดีๆ ล่ะ อย่าให้ใครเห็น”หญิงสาวโบกมือไล่ เมื่อเสร็จสม คนงานผู้นี้ก็ไร้ประโยชน์“คุณนาย...นานๆ จะมีโอกาส ครั้งเดียวพอเหรอครับ”คำแปงท้วง เขาคว้ากางเกงผ้าฝ้ายมาสวมลวกๆ จ้องมองนายสาวด้วยสายตาวาววับ!!ปากสีสดเหยียดยิ้ม หล่อนปรายตามองหนุ่มคนงานด้วยสายตาดูถูก หากไม่เพราะผัวแก่ทำให้ตนเองอดอยาก ดารัณไม่มีวันลดตัวมาเกลือกกลั้วกับคนงานชั้นต่ำแน่ๆ ในเมืองกรุงเธอสามารถหลบสายตาสามีออกไปเริงร่านอกบ้านได้ แต่บ้านนอกไกลปืนเที่ยงเช่นนี้ ได้คนงานหุ่นกำยำแก้ขัด ก็ดีอารมณ์ค้าง...เพราะเทียมไม่เคยส่งเธอถึง สวรรค์ชั้นฟ้าสักที“ไปเถอะน่า!!”หล่อนตวาดซ้ำ คำแปงจึงยอมตัดใจ เขาเดินออกไปนอกห้อง ปิดประตูที่แทรกผ่านออกไปเร็วๆ เดินย่องผ่านเงามืด เร้นกายหายไปกับสายลม โดยไม่มีใครรู้เรื่องชั่วช้าที่เขาเพิ่งกระทำลงไปเด็กหนุ่มทรุดนั่ง เขาคู้เข่าขึ้นสอดมือกอดเข่าไว้แน่นๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลซึม เพราะรู้สึกรังเกียจตัวเอง ความกำหนั
บทที่1.จุดกำเนิดรอยแค้น!!ท่ามกลางความเงียบยามดึกสงัด มีเพียงเสียงขยับปีกของแมลงปีกแข็งที่ดังอื้ออึงอยู่ในอากาศ...นอกนั้นแทบจะไม่มีเสียงอะไรเลย!! แต่...ในคฤหาสน์หลังใหญ่หลังหนึ่งที่ตั้งเด่นเหนือเนินเขาเตี้ยๆ เป็นบ้านหลังใหญ่ของเศรษฐีผู้หนึ่ง มันถูกปลูกสร้างไว้ใช้อยู่อาศัยมาเนิ่นนาน เพื่ออยู่อาศัยกันในครอบครัว ‘บดินทร์เดช’ กลางดึกสงัด...ที่สมาชิกทุกคนในบ้านนอนหลับสนิทอยู่ในห้องนอนของตัวเองใต้ผ้าห่มผืนหนา แต่ที่ถนนดินหลังบ้านถนนที่โรยด้วยหินกรวดเม็ดเล็กๆ ...กลับมีเงาตะคุ่มๆ ของบุรุษร่างกะทัดรัดผู้หนึ่งเดินย่องมาเงียบๆ เขาเงี่ยหูฟังเสียงครางกระเส่าของใครบางคนที่ลอยตามลมมา เสียงนั้นเหมือน ‘เขา’ กำลังจะขาดใจตาย... มันดังแว่วมาเข้าหูของเขา จนไม่สามารถข่มความอยากรู้เก็บไว้ในใจได้...ธรรวา บดินทร์เดชก้าวลงจากเตียงนอน เขาเดินตามเสียงแผ่วหวิวนั้นมา พยายามเงี่ยหูฟัง เอียงคอค้นหาทิศทางของเสียงนั่น เมื่อเกิดลางสังหรณ์แปลกๆวันหยุดยาวสอบปลายภาคเสร็จ เด็กชายรุ่นกระทง...อายุ18 ปี มีเวลาพักผ่อนยาวๆ หลังสอบเสร็จเกือบเดือน หนุ่มน้อยค่อนข้างมั่นใจ การสอบไล่ครั้งนี้ เขาผ่านเกณฑ์แน่ๆ และเทียม บิดาของเขาวางแ